วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 [12:36:58]

ระยะห่างระหว่างไฟและผิวน้ำ

ระยะห่างระหว่างไฟและผิวน้ำควรเป็นเท่าไหร่ครับ ผมเห็นบางคนก็แขวนหลอดไฟห่างจากผิวน้ำมาก บางคนก็เอาไว้ชิดผิวน้ำ มันแตกต่างกันยังไงหรือครับ
ขอความกรุณาปิด Ad-Blocker เวลาเปิดเว็บนี้ด้วยครับ
เว็บไซต์ของเรามีรายได้เพียงทางเดียวคือรายได้จากการโฆษณา และหนึ่งในช่องทางโฆษณาของเราคือ Google adsense หากคุณใช้ โปรแกรมหรือตัวเสริมที่บล็อกโฆษณาประเภท Ad-Blocker กับเว็บของเรา ก็จะทำให้ทางเว็บขาดรายได้ส่วนนี้ไป โฆษณาที่ทางเว็บเลือกก็เป็นแบบที่ไม่รบกวนผู้ใช้งานมากนักอยู่แล้ว ไม่ชอบก็เลื่อนผ่านๆไปได้ครับ ดังนั้นขอความกรุณาใส่ c1ub.net ไว้ใน whitelist ของโปรแกรมหรือปิดการทำงานของโปรแกรมบล็อกโฆษณาด้วยครับ (หากคุณเห็นข้อความนี้โดยที่ไม่ได้ใช้โปรแกรม Ad-Blocker ใดๆ รบกวนจิ้ม --> ส่ง PM บอกแอดมิน ทีครับ)
ระยะห่างระหว่างไฟและผิวน้ำควรเป็นเท่าไหร่ครับ ผมเห็นบางคนก็แขวนหลอดไฟห่างจากผิวน้ำมาก บางคนก็เอาไว้ชิดผิวน้ำ มันแตกต่างกันยังไงหรือครับ

เท่าที่ผมคิดตามทษฎีของความเข้มแสงนะครับ   [smile01]
แสงจะมีความเข้มมากที่สุดตรงจุดกำเนิดแสงคือตรงหลอดน่ะครับ
แล้วจากนั้นแสงก็จะผ่านอากาศและผิวน้ำตามลำดับ
ซึ่งความเข้มก็จะลดลงตามความหนาแน่นของสิ่งที่มันผ่าน
เรียกว่าค่า lighting transmission หรือค่าหักเหแสง
ถ้าสิ่งที่ผ่านมีความทึบมากแสงก็จะค่อยๆสูญเสียไปเรื่อยๆครับ
ดังนั้นการที่เขาวางห่างจากผิวน้ำน้อยก็คงเพราะต้องการให้ความเข้มแสงลงลึกไปถึงตู้ให้มากที่สุดครับ [smile03]

ส่วนอันที่เขาแขวนใว้ห่างผิวน้ำก็คงเพราะความเข้มแสงจากโคมเขาคงเพียงพอต่อตู้เขาแล้วล่ะมังครับ [confuse01]
และอาจต้องการความนวลของแสงที่ทั่วตู้


ส่วนความต่างของการวางทั้งสองแบบ ก็คือ รัศมีของการเปล่งแสงครับ
วางชิดน้ำความเข้มแสงจะเข้มแต่ไม่กระจายทั่วตู้
วางแขวนห่าง แสงไม่เข้มเท่า แต่แสงกระจายทั่ว

กับอีกอันนึงคือมีแสงย่อมมีความร้อน
เพราะฉะนั้นการวางชิดผิวน้ำ อุณหภูมิผิวน้ำจะสูงกว่าวางห่างๆอยู่เล็กน้อยครับ

ส่วนแหล่งกำเนิดแสงที่ต่างชนิดกันลักษณะแสงที่ออกจะต่างกันนิดหน่อยครับ
คือถ้าแสงจากหลอดled แสงจะออกมาเป็นทรงกรวย มีองศาประมาณ 20-30 องศาจากแต่ละหลอด
ส่วนแสงที่ได้จากหลอดฟลู หรือ ฮาโลเจน แสงจะออกมาค่อนข้างเป็นทรง sphereหรือทรงปีกผีเสื้อครับ

ซึ่งถ้าจะวัดความเข้มแสงจริงๆ ต้องใช้เครื่องมือวัดแสงครับ ก็ยุ่งยากนิดหน่อย
เพราะค่ามันจะละเอียดและวิธีการวัดมันจะยุ่งยากนิดหน่อยน่ะครับ  [smile04]
ก็คงใช้ดูจากวัตต์ของหลอดเป็นตัวช่วยพิจารณาเอาน่ะครับ


สำหรับตู้ผม มีสองโคม wrgb 30", a-sereies 30"
 ตู้ 16"  ผมวางห่างผิวน้ำ 2" ครับ [smile04]
แสงก็สว่างสุดตรงกลางตู้ครับ ผมก็เอาใม้แดงหรือไม้ที่ต้องการแสงมากไปวางตรงนั้นล่ะครับ  [smile01]




ทั้งหมดนี้คือแนวความคิดผมคนเดียวนะครับ
ขอท่านอื่นมาช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ใขให้ด้วยนะครับ  [smile03]



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07/06/2562 [19:57:49] โดย GAMMARAY »
ขอบคุณครับ ของผมใช้ led rgb แบบไม่มีดิมเมอร์ วางค่อนข้างชิดผิวน้ำ สังเกตุได้ว่าพวกปลาคาร์ดินัลมันไม่ค่อยว่ายออกมาน่ะครับ มันจะคอยหลบอยู่ใต้ร่มไม้ ไม่รู้เป็นเพราะไฟแรงไปหรือเปล่า
ขอบคุณครับ ของผมใช้ led rgb แบบไม่มีดิมเมอร์ วางค่อนข้างชิดผิวน้ำ สังเกตุได้ว่าพวกปลาคาร์ดินัลมันไม่ค่อยว่ายออกมาน่ะครับ มันจะคอยหลบอยู่ใต้ร่มไม้ ไม่รู้เป็นเพราะไฟแรงไปหรือเปล่า

ปลาหลบเข้าร่มน่าจะเป็นเรื่องปกตินะครับ
เพราะปลาคาร์ดินัล แหล่งกำเนิดมันก็อยู่ในป่าและมีร่มเงาด้วยครับ
ตามบทความข้างล่างนี้
https://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=81729.0;wap2

ของผมเองก็เหมือนกัน ตั้งแต่เปลี่ยนไฟแรงขึ้นสังเกตพวกลองฟินกับซิวเพขรน้อยก็ไปหลบอยู่มุมตู้เหมือนกันครับ  [smile01]

อีกประการหนึ่งที่ปลาหลบอาจเกี่ยวกับแกระแสน้ำจากกรองที่แรงด้วยครับ
ปลาบางชนิดก็ชอบน้ำเอื่อยๆ [smile04]
คงต้องคอยสังเกตดูน่ะครับ  [smile01]
ขอบคุณครับ ของผมใช้ led rgb แบบไม่มีดิมเมอร์ วางค่อนข้างชิดผิวน้ำ สังเกตุได้ว่าพวกปลาคาร์ดินัลมันไม่ค่อยว่ายออกมาน่ะครับ มันจะคอยหลบอยู่ใต้ร่มไม้ ไม่รู้เป็นเพราะไฟแรงไปหรือเปล่า

ปกติครับ ลองเอาไฟอันนั้นมาแขวนไว้บนหัวเราสิครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมปลามันหลบ [lol01] ยกเว้นปลาบางชนิดที่ในธรรมชาติชอบอยู่ในที่เปิดโล่งอยู่แล้วอย่างพวกเรนโบว์อะไรทำนองนั้นที่จะว่ายผิวน้ำใกล้หลอดไฟหน่อย นกนั้นจะค่อนข้างหลบไฟเป็นปกติ

ระยะห่างที่แขวนก็จะมีผลเรื่องฟอร์มต้นไม้เป็นหลักครับ วางใกล้ๆก็ได้แสงมากกว่า แขวนสูงๆก็ได้แสงน้อยหน่อย ง่ายๆไม่มีอะไร

หรืออาจจะเป็นเรื่องความเกะกะ แบบผมแขวนสูงเพราะขี้เกียจต้องคอยมาระวังจะเอาด้ามไม้ขัดตะไคร่ไปกระแทกโคมหรือเอามือไปทิ่มตอนตัดต้นไม้ แต่บางคนที่ทำอะไรระวังหน่อยเขาก็จะไม่ซีเรียสกับตรงนี้และวางต่ำๆได้

บางตู้ก็แขวนสูงหน่อยเพราะน้ำกระเด็นใส่ก็มีครับ