ผมอ่านบทความนี้มาจากเวบ http://www.cau-aqua.net เป็นบท
ความที่ดีมากมีภาพประกอบครบถ้วน แต่มันเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งผมก็ว่างๆอยากหาอะไรทำ เลยนั่งแปลมาไว้ให้อ่านกันเล่นๆ ขอบคุณผู้เขียนคือ Harry Kwong
มา ณ ที่นี้
ตามไปดูภาคภาษาอังกฤษที่นี่
http://www.cau-aqua.net/index.php?option=com_content&task=view&id=16&Itemid=40
ศิลปะแห่งการจัดตู้ไม้น้ำ
โดย Harry Kwong
แปลโดย Porsch
"ถ้าหากการจัดดอกไม้เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง การจัดตู้ไม้น้ำก็ควรได้รับการพิจารณาให้เป็นศิลปะแขนงหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน"
เลย์เอาท์และศิลปะ
ถ้าจะเรียกอะไรสักอย่างหนึ่งว่าศิลปะ สิ่งนั้นก็ควรจะเป็นสิ่งที่มีความเฉพาะตัว เข้าถึงได้ด้วยใจ และที่สำคัญที่สุด สิ่งๆนั้นยังควรที่จะสามารถทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงความคิดที่เจ้าของผลงานต้องการบอกได้ด้วย ช่วงเวลาต่าง ชาติพันธุ์ต่างกัน วัฒนธรรมต่างกัน บุคลิกภาพต่างกันล้วนแต่ทำให้ระดับวิธีด้านเทคนิคและการแสดงออกต่างกันไปด้วย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาสร้างกฎตายตัวว่าสิ่งใดสวย สิ่งใดงาม เพราะคนแต่ละคนก็สามารถดื่มด่ำกับความงามของของแต่ละอย่างได้แตกต่างกันไป ถ้าคนส่วนมากเห็นว่าสิ่งใดสวย ความเห็นว่างามก็ตามมา แต่คุณค่าของสิ่งนั้นก็ยังมีเท่าเดิม เพราะเมื่อเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนไปพร้อมๆกับสิ่งที่เขาเคยเห็นว่าสวย หรือไม่สวย จิตรกรแวนโกะห์เป็นตัวอย่างที่ดีมาก เพราะผลงานของเขาเพิ่งได้รับการยกย่องว่าสูงค่า ก็เมื่อเขาตายจากไป
เลย์เอาท์และสุนทรียศาสตร์
การออกแบบเลย์เอาท์ตู้ไม้น้ำนั้น นับว่ายากกว่าการจัดดอกไม้ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านสุนทรียภาพและการออกแบบคงใช้เวลาไม่นานนักในการสร้างเลย์เอาท์สักอัน สัดส่วนของขนาด กฎ "golden ratio" ระยะชัดของมุมมอง การใช้สี ระยะทางต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีคุณสมบัติที่ว่า ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะสามารถสร้างตู้ไม้น้ำงามๆขึ้นมาได้ เพราะตอนเริ่มต้น ตู้นั้นอาจดูสวยงาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาอาจไม่รู้ว่าจะต้องดูแลมันต่อไปอย่างไรก็ได้ ต้นไม้อาจโตระเกะระกะ สิ่งต่างๆอาจไม่เป็นไปตามที่คิด ทำให้ต้องมานั่งเปลี่ยนเลย์เอาท์อยู่ตลอดเวลา เพราะนั้น ความงามและสุขภาพต้องมีอยู่และดำเนินควบคู่กันไปด้วย แต่กระนั้นคนทีขาดพรสรรค์เหล่านั้น ก็มีบ่อยครั้งที่เป็นฝ่ายได้เปรียบด้วยการเรียนรู้และแม้กระทั่งลอกเลียนงานของคนอื่น เพราะสามารถหาประโยชน์ได้จาก หนังสือ อินเตอร์เนท หรืออะไรก็ตามที่ช่วยให้เรา เรียนรู้งานของผู้อื่นได้ เหมือนบทกวีที่ถึงแต่งไม่ได้ แต่ก็จำมาท่องได้ แต่ว่าตู้ไม้น้ำนี้เป็นศิลปะที่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตนี้มีบุคลิกภาพ สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแม้กระทั่งหดหายไปตามเวลาทำให้ตู้ไม้น้ำมีแง่มุมที่ท้าทายในการนำเสนอและรักษามันไว้
การเตรียมเลย์เอาท์
ก่อนที่จะออกแบบเลย์เอาท์สักอัน เราต้องมีแผนการ ค้นหาข้อมูลให้มากพอ ทำความเข้าใจกับความต้องการของต้นไม้แต่ละอย่างที่จะใช้ในเลย์เอาท์นั้นอย่างเพียงพอ พยายามอย่าใช้ต้นไม้ที่เลี้ยงยากมากเกินไป บางคนอาจต้องแทบพลิกแผ่นดินเพื่อหาขอนไม้หรือหินที่เหมาะสมกับเลย์เอาท์ เพราะว่ามันยังไม่ใช่ก็ไม่ควรนำมาใช้ เลย์เอาท์ที่ดีควรมีจุดเด่น ไม่ว่าจะเป็นขอนไม้ หิน หรือต้นไม้แดง อย่างนี้แล้วตู้ก็จะน่ามอง เพราะจุดเด่นมีความสำคัญกับตู้ดั่งเช่นวิญญาณของมันเลยทีเดียว
การสร้างสไตล์ส่วนตัว
ทางที่เร็วที่สุดในการสร้างสไตล์ก็คือการศึกษาจากศิลปินที่มีชื่อเสียง และเป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นด้วย บางทีการลอกแบบอาจดูไม่น่าอภิรมย์สำหรับบางคน แต่มันก็เป็นวิธีที่ศิลปินใหญ่บางคนเริ่มต้นเหมือนกัน เพราะไม่มีตู้ไม้น้ำสองตู้ไหนในโลกนี้ที่จะเหมือนกันได้ราวเคาะออกมา ดังนั้นผู้ที่ยังไม่มีสไตล์ของตัวเอง ก็ไม่ผิดที่จะศึกษางานของคนอื่น แล้วค่อยเข้าใจว่าตนเองชอบอะไรแบบไหนในภายหลัง สไตล์เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาและเกี่ยวเกี่ยวผลผลิต สไตล์ไม่ได้หมายความว่าต้องไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ปัจจัยพื้นฐานของเลย์เอาท์ตู้ไม้น้ำ
ความหมายของเลย์เอาท์ตู้ไม้น้ำก็คือ จินตนาการอันไร้ขอบเขตซึ่งล่องลอยอยู่ในพื้นที่อันจำกัด ด้วยการศึกษาคำบอกใบ้จากธรรมชาติรวมกับการออกแบบของเจ้าของผลงานเพื่อสร้างสรรค์ออกมาว่าควรจะมีอะไรอย่ในตู้แก้วใบนี้บ้าง ขนาดตู้ต่างกันไปก็หมายถึงความท้าทายที่ไม่เหมือนกัน ต้องใช้ความอดทน อดกลั้น และความเอาใจใส่ เพื่อที่จะแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น สิ่งต่างๆเหล่านี้เองทำให้ผู้คนหลงใหลตู้ไม้น้ำ บ่อยครั้งไปทีเราตั้งตู้ขึ้นมาเพียงเพื่อที่จะพบกับปัญหาต่างๆ เรื่องตะไคร่ ไม้ปรับตัวไม่ได้ ไม่โตอย่างที่ตั้งใจ เน่าละลายไป สีจืด โตเกินขนาด ฯลฯ จนบางคนล้มเลิก ยอมแพ้ไปไม่ถึงสิ่งที่ตั้งใจไว้ สิ่งเหล่านี้มีผลมาจากการขาดความรู้ในเรื่องต้นไม้ ทางที่จะเอาชนะปัญหาต่างๆได้ก็คือการมีความสุขกับมัน เพราะเลย์เอาท์ที่ประสบความสำเร็จต้องไม่ใช่สวยแค่ตอนเริ่มต้น แต่ต้องเติบโตผ่านบททดสอบจากกาลเวลาไปให้ได้ ต้นไม้น้ำต้องเลี้ยงไม่ใช่แค่ปลูก เลย์เอาท์ใดที่ต้องการรักษาไว้นานๆจึงต้องใส่ใจกับหลายๆเรื่อง ต้นไม้ต่างชนิดก็เติบโตต่างกัน เลย์เอาท์ที่เหมือนเดิมอยู่ไม่เปลี่ยนเลยก็อาจดูน่าเบื่อหน่าย ต้นไม้จะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ในสภาพ อุณหภูมิ แสง ขนาดตู้ ปุ๋ย และการดูแลรักษาที่ไม่เหมือนเดิม นี่จึงเป็นอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ตู้ไม้น้ำมีเสน่ห์ ในตู้ไม้น้ำ ต้นไม้เป็นพระเอก ปลาเป็นเพียงตัวประกอบ กระทั่งมีบางคนพูดว่า “ปลาตายได้ แต่ต้นไม้ห้าม” ที่จริงควรเดิมด้วยว่า “แบคทีเรียก็ต้องรอด” นี่เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งในหมู่นักเล่นไม้น้ำ การดูแลรักษาตู้ไม้น้ำนั้นเป็นเรื่องที่ว่าไปแล้วใช้เวลานานที่สุดในบรรดางานศิลปะทั้งมวล เพราะบ่อยครั้งที่เลย์เอาท์และต้นไม้จะค่อยๆเปลี่ยนไป จนไม่เหมือนกับตอนแรกเริ่มเลย แต่ถ้าคุณสามารถควบคุมให้เลย์เอาท์เมื่อเริ่มต้นกับตอนสุดท้ายต่างกันน้อยที่สุดได้ เส้นทางสู่การเป็นศิลปินนักจัดตู้ไม้น้ำตัวจริงก็อีกไม่ใกล้แล้ว
คำแนะนำสั้นๆให้มือใหม่
ทำไมผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นจึงไม่สามารถที่จะเลี้ยงตู้ไม้น้ำไว้ให้รอดได้นานๆ สาเหตุหลักเลยก็คือยังไม่เข้าใจรู้จักต้นไม้ที่เลี้ยงอย่างถ่องแท้ ซื้อต้นไม้มาเพราะอารมณ์ชั่วแล่น พอลงมือปลูกค่อยรู้ว่าต้นไม้นั้นๆไม่รอดในตู้ของเรา บางคนก็ไม่ซื้อมาอีก ก็ตายอีกจนเลิกเลี้ยงไป มือใหม่นั้นจะมีปัญหาว่าไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เหมือนกับมีใครให้กระดาษเปล่ามาวาดรูป ไม่มีหัวข้อ ไม่มีความปรารถนา ในทางตรงกันข้าม จินตนาการจะโลดแล่นถ้ามีหนังสือสักเล่มเป็นที่อ้างอิง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมือใหม่จำเป็นต้องดูงานของคนอื่น หรือไปดูการสาธิตสดๆเลยถ้ามีโอกาส บางคนเปลี่ยนเลย์เอาท์ในเวลาไม่กี่อาทิตย์ บางคนไม่ตัดแต่งต้นไม้หรือเปลี่ยนน้ำเลย โดยอ้างว่าไม่มีเวลาเพราะต้องทำงาน บางคนเจอตะไคร่บุกอย่างหนัก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพยายามที่คุณจะใช้ทั้งสิ้น ตู้ไม้น้ำสวยๆไม่ใช่แต่สวยตอนเริ่มต้น ความเข้าใจในความต้องของต้นไม้ การดูแลตัดแต่ง การให้เวลา ความอดทนใจเย็น ล้วนเป็นปัจจัยหลักสู่ตู้ไม้น้ำในฝัน หากใครคิดว่าคงทำไม่ได้ ก็ควรเลิกซะตอนนี้ หรือไม่ควรลองเลยด้วยซ้ำ เปิดใจกับคำติชมของผู้อื่น อย่าโกรธเมื่อมีคนติ เพราะเป็นการติเพื่อก่อ และเราสามารถเรียนรู้ไม่ไม่สิ้นสุดจากการรับฟัง เพื่อนำมาปรับใช้กับเลย์เอาท์ต่อๆไป “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าลงมือทำ” จงลงมือปฏิบัติและล้มเหลว เพื่อลิ้มรสความหอมหวานของความสำเร็จ
ความที่ดีมากมีภาพประกอบครบถ้วน แต่มันเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งผมก็ว่างๆอยากหาอะไรทำ เลยนั่งแปลมาไว้ให้อ่านกันเล่นๆ ขอบคุณผู้เขียนคือ Harry Kwong
มา ณ ที่นี้
ตามไปดูภาคภาษาอังกฤษที่นี่
http://www.cau-aqua.net/index.php?option=com_content&task=view&id=16&Itemid=40
ศิลปะแห่งการจัดตู้ไม้น้ำ
โดย Harry Kwong
แปลโดย Porsch
"ถ้าหากการจัดดอกไม้เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง การจัดตู้ไม้น้ำก็ควรได้รับการพิจารณาให้เป็นศิลปะแขนงหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน"
เลย์เอาท์และศิลปะ
ถ้าจะเรียกอะไรสักอย่างหนึ่งว่าศิลปะ สิ่งนั้นก็ควรจะเป็นสิ่งที่มีความเฉพาะตัว เข้าถึงได้ด้วยใจ และที่สำคัญที่สุด สิ่งๆนั้นยังควรที่จะสามารถทำให้ผู้ชมรับรู้ถึงความคิดที่เจ้าของผลงานต้องการบอกได้ด้วย ช่วงเวลาต่าง ชาติพันธุ์ต่างกัน วัฒนธรรมต่างกัน บุคลิกภาพต่างกันล้วนแต่ทำให้ระดับวิธีด้านเทคนิคและการแสดงออกต่างกันไปด้วย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาสร้างกฎตายตัวว่าสิ่งใดสวย สิ่งใดงาม เพราะคนแต่ละคนก็สามารถดื่มด่ำกับความงามของของแต่ละอย่างได้แตกต่างกันไป ถ้าคนส่วนมากเห็นว่าสิ่งใดสวย ความเห็นว่างามก็ตามมา แต่คุณค่าของสิ่งนั้นก็ยังมีเท่าเดิม เพราะเมื่อเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนไปพร้อมๆกับสิ่งที่เขาเคยเห็นว่าสวย หรือไม่สวย จิตรกรแวนโกะห์เป็นตัวอย่างที่ดีมาก เพราะผลงานของเขาเพิ่งได้รับการยกย่องว่าสูงค่า ก็เมื่อเขาตายจากไป
เลย์เอาท์และสุนทรียศาสตร์
การออกแบบเลย์เอาท์ตู้ไม้น้ำนั้น นับว่ายากกว่าการจัดดอกไม้ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านสุนทรียภาพและการออกแบบคงใช้เวลาไม่นานนักในการสร้างเลย์เอาท์สักอัน สัดส่วนของขนาด กฎ "golden ratio" ระยะชัดของมุมมอง การใช้สี ระยะทางต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีคุณสมบัติที่ว่า ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะสามารถสร้างตู้ไม้น้ำงามๆขึ้นมาได้ เพราะตอนเริ่มต้น ตู้นั้นอาจดูสวยงาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาอาจไม่รู้ว่าจะต้องดูแลมันต่อไปอย่างไรก็ได้ ต้นไม้อาจโตระเกะระกะ สิ่งต่างๆอาจไม่เป็นไปตามที่คิด ทำให้ต้องมานั่งเปลี่ยนเลย์เอาท์อยู่ตลอดเวลา เพราะนั้น ความงามและสุขภาพต้องมีอยู่และดำเนินควบคู่กันไปด้วย แต่กระนั้นคนทีขาดพรสรรค์เหล่านั้น ก็มีบ่อยครั้งที่เป็นฝ่ายได้เปรียบด้วยการเรียนรู้และแม้กระทั่งลอกเลียนงานของคนอื่น เพราะสามารถหาประโยชน์ได้จาก หนังสือ อินเตอร์เนท หรืออะไรก็ตามที่ช่วยให้เรา เรียนรู้งานของผู้อื่นได้ เหมือนบทกวีที่ถึงแต่งไม่ได้ แต่ก็จำมาท่องได้ แต่ว่าตู้ไม้น้ำนี้เป็นศิลปะที่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตนี้มีบุคลิกภาพ สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแม้กระทั่งหดหายไปตามเวลาทำให้ตู้ไม้น้ำมีแง่มุมที่ท้าทายในการนำเสนอและรักษามันไว้
การเตรียมเลย์เอาท์
ก่อนที่จะออกแบบเลย์เอาท์สักอัน เราต้องมีแผนการ ค้นหาข้อมูลให้มากพอ ทำความเข้าใจกับความต้องการของต้นไม้แต่ละอย่างที่จะใช้ในเลย์เอาท์นั้นอย่างเพียงพอ พยายามอย่าใช้ต้นไม้ที่เลี้ยงยากมากเกินไป บางคนอาจต้องแทบพลิกแผ่นดินเพื่อหาขอนไม้หรือหินที่เหมาะสมกับเลย์เอาท์ เพราะว่ามันยังไม่ใช่ก็ไม่ควรนำมาใช้ เลย์เอาท์ที่ดีควรมีจุดเด่น ไม่ว่าจะเป็นขอนไม้ หิน หรือต้นไม้แดง อย่างนี้แล้วตู้ก็จะน่ามอง เพราะจุดเด่นมีความสำคัญกับตู้ดั่งเช่นวิญญาณของมันเลยทีเดียว
การสร้างสไตล์ส่วนตัว
ทางที่เร็วที่สุดในการสร้างสไตล์ก็คือการศึกษาจากศิลปินที่มีชื่อเสียง และเป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นด้วย บางทีการลอกแบบอาจดูไม่น่าอภิรมย์สำหรับบางคน แต่มันก็เป็นวิธีที่ศิลปินใหญ่บางคนเริ่มต้นเหมือนกัน เพราะไม่มีตู้ไม้น้ำสองตู้ไหนในโลกนี้ที่จะเหมือนกันได้ราวเคาะออกมา ดังนั้นผู้ที่ยังไม่มีสไตล์ของตัวเอง ก็ไม่ผิดที่จะศึกษางานของคนอื่น แล้วค่อยเข้าใจว่าตนเองชอบอะไรแบบไหนในภายหลัง สไตล์เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาและเกี่ยวเกี่ยวผลผลิต สไตล์ไม่ได้หมายความว่าต้องไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ปัจจัยพื้นฐานของเลย์เอาท์ตู้ไม้น้ำ
ความหมายของเลย์เอาท์ตู้ไม้น้ำก็คือ จินตนาการอันไร้ขอบเขตซึ่งล่องลอยอยู่ในพื้นที่อันจำกัด ด้วยการศึกษาคำบอกใบ้จากธรรมชาติรวมกับการออกแบบของเจ้าของผลงานเพื่อสร้างสรรค์ออกมาว่าควรจะมีอะไรอย่ในตู้แก้วใบนี้บ้าง ขนาดตู้ต่างกันไปก็หมายถึงความท้าทายที่ไม่เหมือนกัน ต้องใช้ความอดทน อดกลั้น และความเอาใจใส่ เพื่อที่จะแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น สิ่งต่างๆเหล่านี้เองทำให้ผู้คนหลงใหลตู้ไม้น้ำ บ่อยครั้งไปทีเราตั้งตู้ขึ้นมาเพียงเพื่อที่จะพบกับปัญหาต่างๆ เรื่องตะไคร่ ไม้ปรับตัวไม่ได้ ไม่โตอย่างที่ตั้งใจ เน่าละลายไป สีจืด โตเกินขนาด ฯลฯ จนบางคนล้มเลิก ยอมแพ้ไปไม่ถึงสิ่งที่ตั้งใจไว้ สิ่งเหล่านี้มีผลมาจากการขาดความรู้ในเรื่องต้นไม้ ทางที่จะเอาชนะปัญหาต่างๆได้ก็คือการมีความสุขกับมัน เพราะเลย์เอาท์ที่ประสบความสำเร็จต้องไม่ใช่สวยแค่ตอนเริ่มต้น แต่ต้องเติบโตผ่านบททดสอบจากกาลเวลาไปให้ได้ ต้นไม้น้ำต้องเลี้ยงไม่ใช่แค่ปลูก เลย์เอาท์ใดที่ต้องการรักษาไว้นานๆจึงต้องใส่ใจกับหลายๆเรื่อง ต้นไม้ต่างชนิดก็เติบโตต่างกัน เลย์เอาท์ที่เหมือนเดิมอยู่ไม่เปลี่ยนเลยก็อาจดูน่าเบื่อหน่าย ต้นไม้จะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ในสภาพ อุณหภูมิ แสง ขนาดตู้ ปุ๋ย และการดูแลรักษาที่ไม่เหมือนเดิม นี่จึงเป็นอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ตู้ไม้น้ำมีเสน่ห์ ในตู้ไม้น้ำ ต้นไม้เป็นพระเอก ปลาเป็นเพียงตัวประกอบ กระทั่งมีบางคนพูดว่า “ปลาตายได้ แต่ต้นไม้ห้าม” ที่จริงควรเดิมด้วยว่า “แบคทีเรียก็ต้องรอด” นี่เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งในหมู่นักเล่นไม้น้ำ การดูแลรักษาตู้ไม้น้ำนั้นเป็นเรื่องที่ว่าไปแล้วใช้เวลานานที่สุดในบรรดางานศิลปะทั้งมวล เพราะบ่อยครั้งที่เลย์เอาท์และต้นไม้จะค่อยๆเปลี่ยนไป จนไม่เหมือนกับตอนแรกเริ่มเลย แต่ถ้าคุณสามารถควบคุมให้เลย์เอาท์เมื่อเริ่มต้นกับตอนสุดท้ายต่างกันน้อยที่สุดได้ เส้นทางสู่การเป็นศิลปินนักจัดตู้ไม้น้ำตัวจริงก็อีกไม่ใกล้แล้ว
คำแนะนำสั้นๆให้มือใหม่
ทำไมผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นจึงไม่สามารถที่จะเลี้ยงตู้ไม้น้ำไว้ให้รอดได้นานๆ สาเหตุหลักเลยก็คือยังไม่เข้าใจรู้จักต้นไม้ที่เลี้ยงอย่างถ่องแท้ ซื้อต้นไม้มาเพราะอารมณ์ชั่วแล่น พอลงมือปลูกค่อยรู้ว่าต้นไม้นั้นๆไม่รอดในตู้ของเรา บางคนก็ไม่ซื้อมาอีก ก็ตายอีกจนเลิกเลี้ยงไป มือใหม่นั้นจะมีปัญหาว่าไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เหมือนกับมีใครให้กระดาษเปล่ามาวาดรูป ไม่มีหัวข้อ ไม่มีความปรารถนา ในทางตรงกันข้าม จินตนาการจะโลดแล่นถ้ามีหนังสือสักเล่มเป็นที่อ้างอิง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมือใหม่จำเป็นต้องดูงานของคนอื่น หรือไปดูการสาธิตสดๆเลยถ้ามีโอกาส บางคนเปลี่ยนเลย์เอาท์ในเวลาไม่กี่อาทิตย์ บางคนไม่ตัดแต่งต้นไม้หรือเปลี่ยนน้ำเลย โดยอ้างว่าไม่มีเวลาเพราะต้องทำงาน บางคนเจอตะไคร่บุกอย่างหนัก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพยายามที่คุณจะใช้ทั้งสิ้น ตู้ไม้น้ำสวยๆไม่ใช่แต่สวยตอนเริ่มต้น ความเข้าใจในความต้องของต้นไม้ การดูแลตัดแต่ง การให้เวลา ความอดทนใจเย็น ล้วนเป็นปัจจัยหลักสู่ตู้ไม้น้ำในฝัน หากใครคิดว่าคงทำไม่ได้ ก็ควรเลิกซะตอนนี้ หรือไม่ควรลองเลยด้วยซ้ำ เปิดใจกับคำติชมของผู้อื่น อย่าโกรธเมื่อมีคนติ เพราะเป็นการติเพื่อก่อ และเราสามารถเรียนรู้ไม่ไม่สิ้นสุดจากการรับฟัง เพื่อนำมาปรับใช้กับเลย์เอาท์ต่อๆไป “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าลงมือทำ” จงลงมือปฏิบัติและล้มเหลว เพื่อลิ้มรสความหอมหวานของความสำเร็จ