Talks > ร้านกาแฟ

มนต์เพลง METAL 2

(1/3) > >>

GAMMARAY:
เพราะโลกมีสงคราม เราจึงมี
SABATON




วงพาวเวอร์จากสวีเดน   นักร้องนำเสียงใหญ่อ้วนหนา 
มีจังหวะเพลงโดยรวมเร็วปานกลาง ไม่ค่อยควบตะบึงมากนัก แต่ทำจังหวะได้น่าโยกหัวไหล่ตาม
ตัวเพลงมีเมโลดีค่อนข้างติดหู ทั้งท่อนฮุคและท่อนหลัก  ริฟท์ฟังง่าย ไม่ค่อยเน้นโซโล 
โดยรวมฟังแล้วชวนโยกหนักๆ



เนื้อหาทุกอัลบั้มพูดเรื่องสงคราม  เน้นหนักไปที่เหตุการณ์สงครามโลกที่เกิดขึ้นในส่วนต่างๆทั่วโลกของแต่ล่ะประเทศคู่สงคราม
เชิดชูวีรกรรมของวีรบุรุษสงครามของประเทศต่างๆ
เหตุการณ์ครั้งสำคัญๆในการรบ เหตุการณ์สำคัญในแต่ล่ะสมรภูมิ
เรื่องราวที่เป็นประเด็นที่มีผลต่อการพลิกผันต่อผลการรบ


เท่าที่ฟังจากอัลบั้มที่หามาได้  กับตามลองฟังในยูทูปในส่วนที่หาซื้อแผ่นแท้ไม่ได้
ยอมรับว่าทุกอัลบั้มดีงามพระรามแปดเหมือนกันหมด








ชุดที่แฟนเพลงและนักวิจารณ์ทั่วโลกดียอมรับว่าเป็นที่สุดของพวกมันก็คือชุด CALORUS REX  ออกในปี2012  ซึ่งตอนนี้กลายเป็นแรร์ไอเทมไปแล้ว 
ตัวผมเองสั่งซื้อแผ่นอิมพอร์ตไปยังไม่มีขายเลย   เพราะโซลด์เอาท์ขายหมดสต๊อคไปนานแล้ว แถมยังไม่มีทำซ้ำรีเซล์ด้วย






วงนี้ทำให้เกิดข้อถกเถียงโต้แย้งทางประวัติศาสตร์สงครามและปรัชญาการรบมากมายจากแฟนเพลงทั่วโลก
เวลาเล่นคอนเสิร์ต จะมีธงชาติของแฟนเพลงชาติต่างๆตามประเทศที่วงไปเล่นโบกสะบัด ดูน่าเกรงขามและฮึกเหิม
แอบฝันเอาใว้ว่าถ้าวันไหนมันเป็นเมนสตรีมมาเล่นที่ไทยมั่ง จะได้เอาธงชาติไทยไปโบก อิอิอิ



เส้นทางของพวกมันเริ่มกันเป็นเรื่องเป้นราวตั้งแต่ปี 2001  ในอัลบั้มแรกชื่อ  Fist for Fight
ชุดแรกนี้ดนตรีเป็นยูโรพาวเวอร์มาตรฐาน มันส์  แต่เนื้อหายังไม่ได้ใช้คอนเซปสงครามโลก 


เมื่ออัลบั้มต่อมา Primo Victoria  ทั้งอัลบั้มเป็นคอนเซปเกี่ยวกับสงครามโลกทั้งหมด ทุกเพลง
ด้วยตัวเพลงที่แสนจะมันส์ และเนื้อหาของสงครามโลกนั้นทุกประเทศทั่วโลกล้วนแต่มีประวัติศาสตร์และความทรงจำร่วมกัน
ดังนั้นชุดนี้จึงได้รับการต้อนรับอย่างดีมาก   และแฟนเพลงยังยกย่องในเนื้อหาอีกด้วย
และนับแต่นั้นมา SABATON จึงกลายร่างมาเป็นรถถังสงครามนับแต่นั้น
ทุกอัลบั้มพูดถึงสงคราม เหตุการณ์ที่ประวัติศาสตร์มีกล่าวใว้ 
 เหตุการณ์ของวีรบุรุษ  เหตุการณ์ของทรราช  เหตุการณ์ของรถถัง  เหตุการณ์ของเรือรบ




แต่หลังจากอัลบั้มชื่อ HERO เกิดการปฎิวัตรในวง ไม่รู้ทะเลาะอะไรกัน
มือกีตาร์ มือกลอง มิอคีย์บอร์ด ทุกมือในวงพากันลาออกหมดแยกมาตั้งวงใหม่
ทิ้งนักร้องนำให้ยืนทำหัวโมฮ๊อกตัวอ้วนโด่เด่อยู่คนเดียว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ





แถมพวกที่ลาออกมาจนยกวงแล้วก็ไม่หนำใจ ยังเสือกไปตั้งวงใหม่ที่เล่นเนื้อหาและแนวเพลงแบบเดียวกันเสียอีก
นั่นคือวงcivil war ที่เน้นเนื้อหายุคสงครามกลางเมืองประเทศอเมริกาเป็นหลัก





นักร้องนำวงร่างแยกนี้ให้อิเมจเหมือนไมเคิล แจ๊คสันคืนชีพ
ดูแล้วน่ากลัวผีหลอกมาก ผมมีในครอบครองสามแผ่น

และเหมือนว่านักร้องนำผีไมเคิล แจ๊คสันจะร่วมงานในอัลบั้มนี้เป็นชุดสุดท้ายแล้วก็เปลี่ยนตัว
วงอวตารนี้ก็ดีงามทั้งสามชุด ควรค่าแก่การสนับสนุนเช่นกัน < เปลืองตังอีกล่ะสิ >





จะอย่างไรก็ตาม SABATON ถึงจะเหลือคนเดียวโด่เด่
แต่พี่หมีโจคิมก็ไม่ใช่นักร้องธรรมดาๆอย่างเดียวซะเมื่อไหร่
พี่แกเป็นตัวหลักในการแต่งเพลงอยู่แล้ว ก็ได้ฟอร์มทีมขึ้นมาใหม่



และในที่สุดก้ได้ออกอัลบั้มใหม่ขึ้นในปี   2016  ชื่ออัลบั้ม The Last Stand
หลังจากที่ได้ฟังหมดทั้งอัลบั้มนี้แล้ว ส่วนตัวค่อนข้างผิดหวังนิดๆ ที่แทบจะทุกอย่างเปลี่ยนไป
และเปลี่ยนไปในทางที่น่าเป็นห่วงเอาเสียด้วย  ทั้งจังหวะ ทั้งเมโลดี   ฟังแล้วรู้สึกปร่าแปร่งพอสมควร
พอไปไล่ดูตามคำวิจารณ์ทั่วไปก็พบว่าค่อนข้างมีความเห็นไปในทางเดียวกัน  คือแฟนๆไม่ค่อยชอบอัลบั้มชุดนี้เท่าไหร่นัก
เรียกว่าอัลบั้มนี้ได้คะแนนและความชอบจากแฟนๆต่ำกว่าทุกชุดที่เคยมีมาของพวกมัน
จะเรียกว่าพวกมันเพิ่งจะแพ้สงครามก็คงครั้งนี้ก็พอจะพูดได้อยู่
หลังจากออกชุดนี้พวกมันก็ออกทัวร์ ออกซิงเกิ้ลอะไรไปตามเรื่องตามราวตลอดปี
คล้ายการlong march  แห่งกองทัพแดงของประธานเหมา



หลังจากบ่มตัวในฐานทัพลับสามปีเต็ม
โดยในระหว่างนั้นพวกมันก็ยิงจรวดซิงเกิ้ลบ้าง
ออกไปแจมครอสเจนกับวงอื่นบ้างออกมาเป็นระยะ
< มันทำอัลบั้มcover ของโคตรวงไวกิ้งเมทัล amon amart  แถมทำออกมามันส์ด้วยอ่ะ >
พอให้รู้ว่าพวกมันยังมีฤทธิ์อยู่นะว้อย อย่าลืมกัน





และในที่สุด จากการสะสมสรรพาวุธเต็มกำลัง รถถัง เครื่องบิน เรือรบ เรือดำน้ำ จรวดนิวเคลียร์
พวกมันพร้อมเปิดแนวรบเข้าสู่สมรภูมิประจันบานอีกครั้งแล้ว






อัลบั้มใหม่ ชื่อ The great war  กำลังจะออกโจมตีทุกสนามรบของชาวหูเหล็กในเดือนนี้แล้ว
19/jul/  2019 คือวันเปิดฉาก  ประกาศสงคราม album release
Title track นำร่องคือ Bismarck  ตำนานแห่งเรือพิฆาตยักษ์แห่งเยอรมัน

มากระโจนเข้าสู่แนวรบแห่งความมันส์ด้วยกันเถิดทหาร





หมายเหตุ :  ข้อมุลเหล่านี้ผมรวบรวมสะสมประสบการณ์ในการเสพมาจากหลายที่
                 ทั้ง quiet storm , music express , metal pit ,Fanzineต่างๆ ..
                  รวมทั้งสื่ออินเตอร์เนตทั่วไป  และความเห็นส่วนตัวจากประสบการการฟังเพลงของตัวเอง 
                   ผมนำมายำรวมเข้าด้วยกัน ที่ทำขึ้นก็เพื่อระบายความมันส์ส่วนตัวครับ 
                  หากมีข้อมูลใดผิดพลาด  หรือ สำนวนไม่เหมาะสมอย่างไร
                  ขอน้อมรับความผิดทุกประการด้วยตัวผมคนเดียวครับ 
                  ยินดีรับความคิดเห็นเพื่อนๆพี่ๆทุกคนครับ  [smile03] [smile03]


                 
                  ทุกวงการมีคำว่าพี่น้องเสมอ
                  Metal brother Hood , Longlive Metal
 

                สนับสนุนศิลปินด้วยการซื้อแผ่นแท้และไปดูคอนเสิร์ตกันนะจ๊ะนะจ๊ะ  [perv02]

GAMMARAY:
ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในวงการเมทัล





อังเดร มาโตส  ANDRÉ MATOS 
อดีตฟร๊อนต์แมนของโคตรวงบราซิลเลียนพาวเวอร์  ANGRA และอีกหลายๆวง

ฟรอนต์แมนเจ้าของเสียงร้องอันทรงพลังจากหลายวงของเขาที่ผ่านมาในวิถีเมทัลเฮด
ได้เสียชิวิตลงแล้วเมื่อวันที่ 8 June 2019  ด้วยอายุเพียง 48 ปี
จากการยืนยันเป็นทางการ ด้วยสาเหตุของโรคหัวใจกำเริบ (ที่มา – bravewords.com)


เรื่องนี้สำหรับวงการเมทัลแล้วนับว่าได้เสียบุคลากรอันทรงคุณค่าคนหนึ่งไปอย่างน่าตกใจและแสนเสียดายที่สุด
เพราะสำหรับ มาโตสแล้ว ไม่มีใครกังขาถึงความสามารถในพลังเสียงของเขาเลยแม้แต่นิด
โทนเสียงในเพอร์ฟอร์มานส์ที่แผดทะยานขึ้นสูงได้อย่างไม่มีเพดานจำกัด 
การไวเบรโตเสียงที่ขยี้ได้ทุกตัวโน๊ตที่เรียงหน้าเข้าหาด้วยความเร็วปานอิงวี่มาขยี้สายใส่ 
เนื้อเสียงที่ทรงพลังมีความหนาแน่นแต่แอบโรแมนติคเล็กๆ

สิ่งเหล่านี้มาโตสมีครบถ้วนเกินคำว่าสมบูรณ์แบบสำหรับฟร๊อนต์แมนวงเมทัลของวงการ
แต่ถ้าเราทราบเพิ่มขึ้นอีกนิดว่า นอกจากเสียงอันเป็นดั่งพระเจ้าประทานให้แล้ว
มาโตส ยังแต่งเพลงได้ยอดเยี่ยมไร้เทียมทานอีกด้วย 
และด้วยวัยเพียง48ปีของเขา เขายังจะไปได้อีกใกลบนเส้นทางแห่งเมทัล





มาโตสเป็นคนเซาเแปาโล บราซิล เริ่มเล่นเปียนโนเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกตั้งแต่อายุสิบขวบ
และ ในช่วงปี 1985  เขาเริ่มต้นชิวิตนักดนตรีครั้งแรกอย่างเป็นทางการกับวงเมทัลของบราซิล ชื่อ Viper อยู่ช่วงหนึ่ง
ตอนนั้นเขาอายุเพียง14 ปีเท่านั้น  ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก แค่14 ปี
เมื่อแนวทางดนตรีในวง Viper เปลี่ยนไปเขาจึงออกจากวงไป
ในระยะเวลานั้น มาโตสมีความสนใจในดนตรีคลาสสิค และมันเขาก็ลงลึกศึกษาไปกับมัน


 ในช่วงต่อมาหลังจากการกลับเข้าสู่การศึกษาวิชาดนตรีจนจบแล้ว
เขาเริ่มฟอร์มวงใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
ในปี 1991 วงชื่อ Angraได้ถูกฟอร์มขึ้น
ใครจะรู้ ว่านี่แหละ คือสิ่งที่เขาและเพื่อนสมาชิกจะพามันผงาดสู่โลกเมทัลในเวลาใม่ช้า 


และแล้วในที่สุด ปี1993   ANGRA ก็ได้ฤกษ์ออกสตูดิโออัลบั้มชุดแรก คือชุด Angels Cry



Carry On  คือไทเทิลแทร๊คเปิดตัวของ Angra
ครั้งแรกที่อัลบั้มนี้ออกมาในปี 1993  เหล่านักวิจารณ์ถึงกับอึ้งกิมกี่ไปเลย
เมื่อพวกเขาเจอกับท่อนอินโทรเข้าสู่อัลบั้ม "Unfinished Allegro" ที่บรรเลงโดยวงออร์เครสตร้า
และตามด้วยท่อนขึ้นต้นของ  Carry On ที่มันเปิดด้วยท่อนริฟท์กระชากและตามด้วยริฟท์ควบด้วยลีลาโลดโผนโจนทะยาน
เหล่านักวิจารณ์ก็คิดว่าคงกำลังจะเจอกับวงพาวเวอร์ลูกหลานไอ้ฟักทองเฮลโลวีนที่มาจากบราซิลอีกวงเข้าแล้ว


แต่พวกเขาคิดผิด  เพราะหลังจากฟังไปเต็มๆเพลง
พวกนักวิจารณ์พวกนั้นไม่สามารถจะจัดหมู่ Carry On  ให้เข้าพวกสายไหนแบบเต็มๆได้เลย
ในนั้นมีสารพัด ทั้งเครื่องเพอร์คัชชั่นที่เคาะแบบบราซิลเลี่ยนชัดเจน 
หรือแม้กระทั่งใส่เครื่องเป่าอย่างแตรที่ก็ไม่ได้เป่าเข้าเสกลเพลงเลย แต่มันฉีกออกไปแบบแซมบ้าชัดเจน
นี่มันเป็นการผสานกันที่แปลกประหลาดแต่ลงตัวอย่างที่สุด มันคือความใหม่สดสุดๆแล้วในยุคนั้น < ถึงจะยุคนี้ก็เถอะ >


และไม่ใช่แค่ไทเทิลแทรคเท่านั้นที่ดีงาม
ทุกๆเพลงในอัลบั้มนี้ ขอบอกเลยว่ามันจะพาคนฟังไปเพลินๆจนหมดอัลบั้มโดยไม่รู้สึกตัว
< ผมนี่ฟังจนเทปยืด กว่าจะมาถึงยุค CD ตอนนั้นอัลบั้มนี้ออกกับค่าย โซล่ามิวสิคในบ้านเรา  >

และด้วยอัลบั้มแจ้งเกิดนี้เอง ที่พา ANGRA  พุ่งทะยานขึ้นชาร์ต ในยุโรปและญี่ปุ่น อย่างไร้ข้อกังขาใดๆ




,มาโตสอยู่กับ ANGRA  3สตูดิโอ อัลบั้ม คือ Angels Cry (1993) ,Holy Land (1996) และ Fireworks (1998)
ซึ่งในแต่ล่ะย่างก้าวของวงนั้นเหมือนกับเขาโดดขึ้นบันไดสุงขึ้นไปเรื่อยๆ 
เพราะในอีกสองอัลบั้มต่อมา ทั้งความซับซ้อนและจินตนาการในบทเพลงของวงดุจะเพิ่มพูนขึ้นไปอีกมาก
และพวกเขาไม่ตกอยู่ไต้เงาของใครอีกต่อไปแล้ว
< สองชุดที่ตามมา ออกไปทางสัดส่วนโปรเกรสสีพมากขึ้น  >



หลังจากนั้น ในปี 2001 เมื่อความเห็นในวงของเขา<รวมถึงมือเบส และมือกลอง>
ไม่ตรงกับสองเพื่อนมือกีตาร์คู่คือ  Rafael Bittencourt and Kiko Loureiro
มาโตสและ Luis Mariutti (มือbass) and Ricardo Confessori (drums) จึงแยกออกมาทำวง  Shaman
และนั่นก็ไม่ทำให้แฟนเพลงที่ตามพวกเขามาต้องผิดหวัง 
วงใหม่นี้ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่พวกเขาทำเอาใว้กับAngraเลย
Shaman  ยังแจ่มแจ๋วแบบเดิมอย่างที่พวกเขาเคยทำฝากฝีมือเอาใว้
 โดยครั้งนี้ เขามาพร้อมกับพาร์ตดนตรีที่ซับซ้อนมากขึ้น
และสัดส่วนความเป็นโปรเกรสสีพและความเป็นเวิร์ลมิวสิคอย่างเข้มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด




อย่างไรก็ตามในปี 2006 มาโตส และ  Mariutti มีความเห้นไใม่ตรงกับ  Confessori  มือกลอง
จึงได้แยกออกมาทำโซโลอัลบั้มใหม่ของตัวเองในชื่อง่ายๆ ANDRÉ MATOS


หลังจากนั้นดูเหมือนว่า ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งมาโตสได้อีกแล้ว

เขาพาวงโซโลของตัวเองเข้าร่วมออกทัวร์คอนเสิร์ตแทบจะรอบโลกกับเพื่อนพ้องในวงการ เช่น  Scorpion หรือ Edguy ๆ ร่วม50ทัวร์




Avantasia วงโอเปร่าเมทัลซึ่งเป็นไซด์โปรเจ๊คขนาดยักษ์ของโทเบียส ซามเมต แห่งEdguy
 ได้เชิญมาโตสเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญด้วย โดยมาโตสได้วนเวียนอยู่กับไซด์โปรเจคนี้เรื่อยมาจนแม้กระทั่งช่วงก่อนเสียชิวิต





ปี 2010 มาโตสยังได้เคยเข้าร่วมกับซุปเปอร์กรุ๊ปรวมดาวยูโรเมทัล ชื่อSymfonia ซึ่งเป็นวงรวมดาวอย่างแท้จริง
Timo Tolkki มือกีตาร์แห่งstratovarius ,
 Uli Kusch ยอดมือกลองแห่ง Helloween ,
Jari Kainulainen มือเบส stratovarius
 และ Mikko Härkin มือคีย์บอร์ดแห่ง Sonata Arctica และ Kenziner 
มาโตสและพวกเขาเหล่านี้ ออกอัลบั้มกันและออกทัวร์ร่วมกัน  จนกระทั่ง Timo Tolkki มือกีตาร์ ประกาศยุติบทบาทในอาชีพตัวเองลง





ปี  2012, มีการประกาศการ Reunion วง Viperและ Shamanขึ้นอีกครั้ง
 มาโตสไปได้สวยงามในวงการอีกครั้งและอีกหลายๆครั้ง พวกเขาออกคอนเสิร์ตร่วมกับ Helloween และ Iron Maiden
มาโตสและวงตระเวณทัวร์ไปทั่ว


แต่แล้วในวันที่  8 June 2019.  ได้มีรายงานข่าวอย่างเป้นทางการแถลงว่า
เขาได้เสียชิวิตเสียแล้วจาก อาการโรคหัวใจกำเริบ  < A heart attack >

นักร้องผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งแห่งวงการเมทัล เสียชิวิตลงด้วยวัยเพียง 48 ปี ซึ่งนับว่าเป้นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างที่สุด
หากมองถึงวัยของเขาผลงานที่เขาได้สร้างขึ้นมาตลอดการเป้นนักดนตรี
เขาควรจะมีเวลาสำหรับสร้างสรรค์ผลงานศิลปะให้ได้นานกว่านี้
โลกอาจได้พบเจอสิ่งใหม่ๆอะไรในวันข้างหน้าจากความสามารถของเขาก็ได้


แต่ความตายไม่เคยเลือก เพศ วัย ฐานะ ความดีเลว หรือแม้แต่อายุ อันเป็นสัจธรรมโลก

 
ฉะนั้นแล้วถึงแม้เขาจะไม่อยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไปแล้วก็ตาม
แต่สิ่งสุดอัศจรรย์ที่มาโตสได้สร้างสรรค์เอาใว้เป็นประจักษ์พยานให้แก่โลกนี้
ด้วยน้ำเสียงและบทเพลงอันทรงพลังของเขาจะเป็นมรดกให้คนรุ่นหลังได้จดจำต่อไป





หมายเหตุ :  ข้อมุลเหล่านี้ผมรวบรวมสะสมประสบการณ์ในการเสพมาจากหลายที่
                 ทั้ง quiet storm , music express , metal pit ,Fanzineต่างๆ ..
                  รวมทั้งสื่ออินเตอร์เนตทั่วไป  และความเห็นส่วนตัวจากประสบการการฟังเพลงของตัวเอง 
                   ผมนำมายำรวมเข้าด้วยกัน ที่ทำขึ้นก็เพื่อระบายความมันส์ส่วนตัวครับ 
                  หากมีข้อมูลใดผิดพลาด  หรือ สำนวนไม่เหมาะสมอย่างไร
                  ขอน้อมรับความผิดทุกประการด้วยตัวผมคนเดียวครับ 
                  ยินดีรับความคิดเห็นเพื่อนๆพี่ๆทุกคนครับ  [smile03] [smile03]


                 
                  ทุกวงการมีคำว่าพี่น้องเสมอ
                  Metal brother Hood , Longlive Metal
 

                สนับสนุนศิลปินด้วยการซื้อแผ่นแท้และไปดูคอนเสิร์ตกันนะจ๊ะนะจ๊ะ  [perv02]

GAMMARAY:
up หน่อยกันกะทู้ตายครับ  [perv03]

GAMMARAY:
Grave digger  วงคุณน้าจอมโหด


มันไม่ใช่มีแต่วงการเพลงป๊อบ เพลงโซล เพลงคันทรี่ หรืออื่นๆเท่านั้นหรอกที่เหล่าศิลปินผู้สุงอายุแล้วจะยังสามารถออกคอนเสิร์ตได้
แต่ในแวดวง เอ๊กสตรีมมิวสิค หรือเรียกง่ายๆว่า วงการหูเหล็กก็มีเมทัลเลียนรุ่นลายครามที่ยังแอ๊คทีฟอยู่เช่นกัน
และไม่ใช่มีน้อยๆซะด้วย พวกเฮียๆลุงๆพวกนี้ยังออกโลดแล่นแจกความมันส์อย่างน่าซูฮกอยู่  [gurock01]

อย่างเช่นไอ้ปิศาจเหล็กไหลแห่งเกาะอังกฤษ  IRON MAIDEN
พวกนี้อายุของตะละคนก็ฟาดเข้าไปหกสิบอัพกันแล้ว แต่ลุงๆแกก็ยังเฮ้วกันแอยู่แบบสุขุมๆ  [mad02]

U.DO.  ลุง อูโด เดิร์คชไนเดอร์ อดีตนักร้องนำ ACCEPT นี่ก็67ปีแล้ว   [mock01]
แกยังใช้เสียงผีตายซากของแกขับกล่อมแฟนเพลงได้อยู่ แถมออกอัลบั้มใหม่ได้เรือยๆซะด้วยสิ 

JUDAS PRIEST  เมทัลก๊อดเจ้าของพลังเสียงทลายตึกคิงคองปีนอย่าง ร๊อบ ฮาล์ฟอร์ดนั่น ก็60ขวบ
แต่ถ้ายังแก่ไม่มากพอ ปู๋เกลน ทิปตันมือกีตาร์เทพนั่นล่อเข้าไป 71 หงำแท้แต่ยังร๊อค  [lol01]

OZZY  เดชหมูผีอย่างป๋าอ๊อซซี่ของหลานๆ นั่นก็ 70 แล้วเช่นกัน



วันนี้มาดูอีกวงหนังเหนียวสักวงหนึ่งกันดีกว่า 




Grave digger 





เริ่มตั้งวงมาตั้งแต่ต้นยุค 80'  ตกมาถึงวันนี้ อายุวง ก็ใกล้จะ40ปีเข้าไปอยู่รอมมะร่อแล้ว
แต่ไอ้แก่พวกนี้ก็ยังไม่ยอมพักวงเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมกันเสียที  [smile02]



 ภาคดนตรีโดยรวมพวกมันเป็นเยอรมันพาวเวอร์ไม่เน้นเมโลดี้
จังหวะมีตั้งแต่ เร็วจัดแบบที่เรียกว่า gallop beat หรือพากษ์ไทยว่าม้าควบ ตึ่กตึ่กๆๆๆๆๆๆ
จังหวะปานกลาง เน้นย้ำพยางค์โน๊ตหนักท่อนปลายแบบชวนโยกให้คอเคล็ดก็มี

หรือกระทั่งบางเพลงยังทำจังหวะช้าแบบบัลลาดก็มี
แต่บัลลาดของมันอย่านึกว่าจะหวานเหมือน holidayของ scorpionหรือพวกซอฟต์ร๊อคแฮร์แบนด์อื่นๆเค้านะ

บัลลาดของพวกมันให้ความรู้สึกเหมือนรถบดถนนแบบนั้นแหละ
หนัก ทึบ มืด ครืดคราดๆ ก็ไม่รู้มันจะทำมาทำไมเหมือนกัน  [hungry01]


เครื่องดนตรีโดยรวมๆ คือวงสี่ชิ้น บางอัลบั้มอาจมีห้าชิ้น

หลักๆแล้ว เครื่องดนตรีคือกีตาร์ บางชุดก็กีตาร์คู่   เบส   คีย์บอร์ด  กลอง





สมาชิกไลน์อัพล่าสุด <ข้อมูลจาก wiki >

Chris Boltendahl – vocals (1980–present); bass (1980–1982, 1985)
Jens Becker – bass (1998–present)
Axel Ritt – guitars (2009–present)
Marcus Kniep – keyboards (2014–present); drums (2018–present)


สมาชิกในตำแหน่งพวกนี้ ล้วนหมุนเวียนกันเข้าออกไม่แน่นอน
บางคนอาจอยู่สองสามชุด บางคนอาจมาแค่ชุดเดียว
ยิ่งตำแหน่งคีย์บอร์ดด้วยแล้ว ยิ่งเหมือนมาจากโลกอื่น
เพราะมันให้เครดิตในปกว่า ผู้เล่นชื่อ the reaper
 แถมให้ใส่ชุดคลุมแบบยมทูตด้วยซ้ำ
เรียกว่าไม่ต้องรู้หรอกว่าใครเล่น  ฟังๆไปเหอะ  [lol01] [lol01]




ห้องเครื่องหลักจริงๆของวงตั้งแต่แรกคลอด จึงคือน้าคนนี้   
คริส โบทันดาห์ล  นักร้องนำ ผู้เป็นแบนด์ลีดเดอร์ 
เขาคือผู้ควบคุมวง ผู้แต่งเพลงหลัก ผู้คิดธีมอัลบั้ม ทิศทางของวง

เพราะฉะนั้น Grave diggerก็คือคริส โบทันดาห์ล



เสียงร้องของแบนด์ลีดเดอร์   คริส โบทันดาห์ล
เขาใช้เสียงสำรอกแบบติดสากๆ แต่ไม่หยาบถึงพวกแบล็ค หรือเดธ
เมื่อต้องใช้เสียงสำรอกแบบบีบลำคอนี่เอง จึงไม่มีคีย์เสียงร้องที่โหนแหลมสูงมากนัก
จะมุ่งไปในทางกดต่ำมากกว่า  เพราะฉะนั้นใครที่ฟังพาวเวอร์ในสายโหนอาจต้องปรับหูกันนิดนึง [perv03]




เนื่องด้วยวงนี้  ชอบทำงานที่มีธีมอัลบั้มเกี่ยวข้องกับ สงครามโบราณ  ประวัติศาสตร์ ตำนานปรัมปรา  และเรื่องราวของชาวเมทัล
ในแต่ล่ะชุดที่หมายมั่นปั้นมือ พวกมันจะโผล่มาในคอนเซปที่มีธีมตามแต่ล่ะอัลบั้มกำหนดมา



อายุวงนี้โคตะระยาวนาน ซึ่งอาจยาวนานพอๆกันหรือมากกว่าไอ้ปิศาจเหล็กกล้าจากเกาะอังกฤษIRON MAIDENเสียด้วยซ้ำ
สตูดิโออัลบั้มของพวกมันจึงมียาวววววย้าวววววยาววมากมายเหลือเกิน
เกือบ20สตูดิโออัลบั้ม และ 20 ep จาก37ปีของวงการของพวกมันซึ่งมันมากมายมหาศาล ยิ่งกว่าวงคาราบาวเสียอีก

ดังนั้นจะขอยกตัวอย่างอัลบั้มที่คิดว่าคุ้มค่าพอจะสละเวลาฟังสักเล็กน้อย

Tune of war  1996




Knight of the cross  1998




EXTCALIBUR 1999




The last supper  2005




ลองไปหาฟังเอาเถิด แจ่มจิตนักแล


ส่วนใครที่อยากรู้จักพวกมันรวมๆก่อนจะไปเจาะตามอัลบั้มโดยไม่อยากเสียเงินซื้อแผ่นมากๆ
ก็ขอแนะนำให้ลองหาอัลบั้มรวมฮิตของพวกมันมาลองฟังดูก่อนก็ได้จ้ะ [perv03] [perv03]
 และเนื่องด้วยอายุวงที่ยาวนานของพวกน้าๆนีเอง
The best Hit   ขงน้าเลยมีสองยุคคือชุดรวมยุค 80'  อันนั้นก็จะออก old school metal หน่อย
ส่วนอีกชุดรวมของมันก็จะเป็นในยุคใหม่แล้ว ซาวด์ก็จะทันสมัยขึ้นมาแบบเมทัลยุคนี้แหละ

เห็นหน้าปกแบบนี้ก็รู้แล้วว่ายุคไหน [lol01] [lol01]



อันนี้ใหม่ขึ้นมาอีกหน่อย [smile04]






หมายเหตุ :  ข้อมุลเหล่านี้ผมรวบรวมสะสมประสบการณ์ในการเสพมาจากหลายที่
                 ทั้ง quiet storm , music express , metal pit ,Fanzineต่างๆ ..
                  รวมทั้งสื่ออินเตอร์เนตทั่วไป  และความเห็นส่วนตัวจากประสบการการฟังเพลงของตัวเอง 
                   ผมนำมายำรวมเข้าด้วยกัน ที่ทำขึ้นก็เพื่อระบายความมันส์ส่วนตัวครับ 
                  หากมีข้อมูลใดผิดพลาด  หรือ สำนวนไม่เหมาะสมอย่างไร
                  ขอน้อมรับความผิดทุกประการด้วยตัวผมคนเดียวครับ 
                  ยินดีรับความคิดเห็นเพื่อนๆพี่ๆทุกคนครับ  [smile03] [smile03]


                 
                  ทุกวงการมีคำว่าพี่น้องเสมอ
                  Metal brother Hood , Longlive Metal
 

                สนับสนุนศิลปินด้วยการซื้อแผ่นแท้และไปดูคอนเสิร์ตกันนะจ๊ะนะจ๊ะ  [perv02]






บัง:
เมทัลนี้ผมชอบเมโลดี้นะ แต่จะไม่ชอบเนื้อเพลงพวกเกี่ยวกับสงคราม ซาตาน นรก สวรรค์ ตำนานนั่นนี่ เพราะรู้สึกมันเพี้ยนๆเลอะเทอะไปหน่อย [awkward01]

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version