ผลกระทบของแอมโมเนียต่อ อัตราการรอด เเละ การเจริญเติบโตของกุ้ง

[CopteR]

ผลกระทบของแอมโมเนียต่อ อัตราการรอด เเละ การเจริญเติบโตของกุ้ง

ในน้ำที่มีแอมโมเนียเป็นปริมาณมากจะส่งผลให้เห็นว่ากุ้งค่อยๆตายลงเนื่องจากมันจะค่อยๆไปทำลายอวัยวะต่างๆภายในตัวกุ้งอย่างช้าๆ ซึ่งจะสังเกตได้ภายใน 2-7วัน โดยที่สามารถสังเหตุพฤติกรรมได้ก็คือกุ้งจะมีการตอบสนองที่ลดลง เชื่องช้า ชอบแอบเเละไม่ค่อยกินอาหาร หรือ หนวดของกุ้งเริ่มขาดนั้นแหละคือสัญญาณเตือนที่ ผู้เลี้ยงควรรู้ว่าต้องทำอะไรซักอย่างเเล้วกับตู้ไม่งั้นกุ้งละลาย(ตาย)ไปอย่างช้าๆ เเละยิ่งในลูกกุ้งเนื่องจากอวัยวะภายในของเค้ายังมีขนาดเล็กมากๆเมื่อโดนทำลายลูกกุ้งจึงตายง่ายกว่า เปรียบเทียบเหมือนกับว่าเด็กโดนมีดบาด กับ ผู้ใหญ่โดนมีดบาด แผลที่แสนใหญ่ของเด็ก อาจจะเล็กแค่นิดเดียวเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่
ซึ่งนั้นแหละครับ ตู้ที่กำจัดแอมโมเนียได้ไม่หมดหลักๆเลยเนื่องจากไม่มีแบคทีเรียที่ใช้ในการกำจัด แบคทีเรียนกลุ่มนี้มีชื่อว่า nitrifying bacteria เช่น Nitrosomonas , Nitrobacter คือกลุ่มที่เปลี่ยนจาก แอมโมเนีย , ไนไตรต์ เป็น ไนเตรต โดยที่ระบบของเราจะต้องมีปริมาณอ๊อกซิเจนในน้ำที่เพียงพอนะครับ ส่วนการเปลี่ยนจาก ไนเตรตเป็น ไนโตรเจนนั้นต้องใช้แบคทีเรียกลุ่ม denitrifying bacteria เเละทั้งนี้ทั้งนั้น pH เเละ อุณหภูมิก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับปริมาณ คือยิ่งpH เเละ อุณหภูมิสูง พิษจากแอมโมเนียจะยิ่งส่งผลมาก เดียวผมจะเขียนคำบรรยาย ตามรูปต่างๆนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ :)

Nitrosomonas
หน้าที่หลักๆของตตัวนี้ มีหน้าที่ในการเปลี่ยนจาก แอมโมเนีย(NH3) เป็น ไนเตรต(NO3)


Nitrobacter
หน้าที่หลักๆของตตัวนี้ มีหน้าที่ในการเปลี่ยนจาก ไนไตรต์(NO2) เป็น ไนเตรต(NO3)


จากกราฟนี้จะแสดงให้เห็นว่าที่ pH เท่ากัน ตัวอุณหภูมิ มีผลอย่างมาก กับปริมาณแอมโมเนีย


ยิ่ง pH สูงเท่าไหร่ จะเห็นว่าปริมาณแอมโมเนียที่อยู่ในระบบก็ยิ่งมีมากเท่านั้น เเละ ยิ่งเป็นกุ้งสุลาเวสีที่ต้องการ pH ที่สูง เป็นด่างจึงต้องให้ความสำคัญกับระบบจัดการแบคทีเรียเป็นอย่างมาก เพราะ ปริมาณแอมโมเนียที่อยู่ในน้ำเยอะกว่า ตู้ในตระกูลเรดบีเป็นอย่างมาก ซึ่ง เรดบีเลี้ยงในน้ำที่เป็นกรด


อ้างอิงจากงานวิจัยเเละหนังสือต่างๆ

[winkorawit]

ของจริงครับจาร

[dukedick]

 ขอบคุณมากครับ