หลายคนเวลาเลี้ยงไม้นํ้า ก็ต้องเติมนํ้าเเละรันกรองใช่มั้ยครับ ?
เเต่จริงๆเเล้วมีอีกวิธีนึง ที่เรียกว่า Dry Start Method (DSM)
(ข้อมูลวิธีนี้ในเว็บตปท.มีเยอะมาก หาอ่านได้ในกูเกิ้ลครับ)
ผมจะมาคุยเรื่องDry Start Method (DSM)ในเเบบฉบับของผมดีกว่า
คืองี้ครับตู้ไม้นํ้ามีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงมากมาย
ซึ่งเเต่ละชิ้นก็ราคาไม่ใช่น้อยๆ ถ้าคนเริ่มเล่นใหม่
อาจจะไม่สะดวกที่จะซื้ออุปกรณ์เหล่านี้พร้อมๆกันทั้งหมด
เเต่...!! ถ้าใช้วิธีDry Start Method (DSM)เเล้วหล่ะก็
เพียงเเค่มีอุปกรณ์ดังนี้ครับ
-ตู้+ขาตู้
-รองพื้น+ดินปลูกไม้นํ้า
-ต้นไม้
-เเร็บใสห่ออาหาร
-กระบอกฉีดผ้า หรือถังอัดเเรงดัน
-ไฟ
ไม่ต้องใช้
-กรองนอก
-ถังCO2เเละอุปกรณ์สำหรับชุดco2
ซึ่งประหยัดไปเยอะเหมือนกันครับ เเละในระหว่างเราเลี้ยง
เเบบDry Start Method (DSM)ก็ค่อยไปหาซื้อกรองเเละco2
มาเตรียมไว้ใช้ก็ยังไม่สายเกินไปครับ
จริงๆเเล้ววิธีนี้ผมทราบเเละได้รับคำเเนะนำ
จากพี่ที่เคารพท่านนึงคือ พี่ตูน เจ้าของร้านAqu@mindนั่นเองครับ
(ไปดูมอสในตู้หน้าร้านเเกได้ มันคือผลจากการเลี้ยงบก เรียกได้ว่าโหดขิงครับ)
วิธีก็คือทำเหมือนการจะตั้งตู้ปกติเเต่จะต่างกันนิดนึงคือ
หลังจากเราลงดินpowderทับบนสุดเเล้ว เเละสเปรย์นํ้า
ปักต้นไม้ ...เเทนที่จะเติมนํ้า รันกรอง
เราเเค่เอาเเร็บห่ออาหารคุมตู้ครับ
เเละก็เอาโคมไปมาติดตั้ง เเละใช้timerคุม
เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ ไม่มีอะไรมาก
เเต่สิ่งที่ต้องระวังจากประสบการณ์ที่ผมทำเเบบนี้มา3ตู้ คือ
-ความชื้น สำคัญมาก ถ้าเเห้ง ต้นไม้ตายเเน่ๆ โดยเฉพาะมอส
ซึ่งต้องสเปรย์นํ้าบ่อยๆ เเทบจะทุกครั้งที่เดินผ่านตู้ได้ยิ่งดีครับ
ส่วนเรื่องความร้อน จริงๆไม่ค่อยมีผล มากนัก
จากที่ลองๆมา ไม่ว่าจะเป็น T5HO / PL /LED
ก็เลี้ยงได้เหมือนกัน (ส่วนMH เสี่ยตูนบอกว่าใช้ได้ครับ เพราะตู้หน้าร้านเเกก็อบด้วยMH)
สำหรับใครที่กลัวว่าจะเเห้ง อาจจะใช้เครื่องทำหมอก(เครื่องทำควัน) ไม่รู้เค้าเรียกกันว่าอะไร
เเต่มันจะทำให้เป็นละอองนํ้าในอากาศ ครับ ก็หาซื้อได้ในสวนฯ
มีหลายราคา เเต่ส่วนมากจะขายตัวเล็กๆ ที่ใช้จุ่มในอ่าง
ราคาก็2ร้อยโดยประมาณครับ
*ข้อเสียของตัวนี้คือ มันร้อน ร้อนมาก เเละถ้าใส่เเก้วที่เติมนํ้าเต็ม
เเละเอาเเก้วไปวางในตู้ มันจะทำให้นํ้าหมดเเก้ว ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
ซึ่งถ้าจะใช้ตัวนี้ อาจจะต้องเติมนํ้าในตู้ให้สูงสัก1นิ้ว เเละเอาตัวนี้จุ่มไปครับ
ส่วนเรื่องต้นไม้ อย่างไม้พื้น ให้ปักตามปกติ
เเต่ถ้าเป็นมอส จะเเปะบนหิน/ขอนไว้เฉยๆ หรือจะสับๆ เเล้วทาบนหินก็ได้ครับ
ติดเหมือนกัน *trick! > พี่ตูนให้เหตุผลว่าการสับๆเเละทา หรือการเเปะมอสลงบนหิน
จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า การใช้มอสที่พันตะเเกรงหรือพันหินภูเขาไฟ เเล้วเอามาวางทีหลังครับ
ซึ่งผมเห็นด้วยครับ ปล.มอสมันเเห้งไวน้าาา ต้องสเปรย์นํ้าใส่มันเยอะๆครับ 555
มาลองชมกันดูครับ
หน้าตาเครื่องทำควัน/หมอก หรือจะเรียกอะไรก็ได้ครับ 555
*จริงๆเเล้วถ้ามีเวลาสเปรย์นํ้า ผมว่าเจ้าตัวนี้ไม่จำเป็นนะครับ
ใช้เเค่ถังสเปรย์เเบบนี้ก็เพียงพอละครับ
หน้าตาก็จะเป็นเเบบนี้ครับ
เเละตู้อีกใบผมก็ใช้วิธีนี้เช่นกันครับ
ใครทำตู้ใหม่ ก่อนจะเติมนํ้า รันกรอง ก็ลองวิธีนี้ดูครับ สนุกดี ไม่ต้องเปลี่ยนนํ้าด้วย
เเต่..สเปรย์นํ้าไปเยอะๆ ก็ต้องดูดนํ้าในตู้ออกด้วยนะครับ 5555
เเละข้อดีอีกอย่างที่สำคัญคือ ไม่มีตะไคร่ครับ
(อาจจะมีบนหินหรือขอน เเต่น้อยมากๆ มากๆ ครับ เมื่อเทียบกับวิธีปกติที่เติมนํ้าเลย)
อ่อระยะเวลาการอบเเบบนี้
ประมาณ2weeksมอสก็ติดหินละครับ ส่วนไม้พื้นจะเเน่น จะเต็มมั้ย ขึ้นกับว่าปักเเน่นเเค่ไหน
เเต่ถ้าจะให้ไม้พื้นเต็มจริงๆ น่าจะประมาณเดือนนึงครับ
เเละข้อดีข้อสุดท้ายคือ เวลาต้นไม้เราลงรากเเล้ว เเละมอสติดหินเเล้ว
พอเติมนํ้า เเทบจะไม่มีต้นไม้ต้นไหน หลุดลอยขึ้นมาเลยครับ
^^
ลองดูครับ วันนี้มาเเชร์เเค่นี้นะครับ
เเนะนำให้มือใหม่ เตรียมเลี้ยงจริง ก็ลองวิธีนี้
ระหว่างอบ ก็หัดทำยีสต์ หรือเตรียมงบสำหรับco2+กรองครับ
|