Aqua.c1ub.net
*
  Sun 15/Jun/2025
หน้า: 1 2 3 4   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เทคนิคการผสมคาร์บอนยีส จากมุมมองนักเทคโนโลยีชีวถาพ  (อ่าน 42570 ครั้ง)
ziplord ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #30 เมื่อ: 02/03/10, [13:55:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [เขิลลลล] อ่อดูไปแล้วผมคงรุกคุณ coffman มากไปหน่อยต้องขอโทษที  [เขิลลลล]
 [เขิลลลล] ไสต์ของผมตอบแบบดุเดือดไปหน่อยต้องขออภัย(จริงๆมันแบบนี้เกือบทุกกระทู้ครับไม่ใช่แค่กระทู้นี้กระทู้เดียว) ผมอารมณ์ร้อนไปหน่อย นะครับคุณ coffman  [เขิลลลล]
 [เขิลลลล] ไว้การทดลองจบลงคงได้คำตอบเองครับ   [เขิลลลล]
 [เขิลลลล] ความเข้าใจไม่ตรงกัน เลยมีกระทบกระทั่งเป็นเรื่องธรรมดาครับ  [เขิลลลล]
 [เขิลลลล]อ่อ ออกมาบอกคุณ coffman อย่าพึ่งท้อ ต้องพัตนาต่อไป  [เขิลลลล] (จริงๆก็มีแค่ผมคนเดียวนะที่ตามสักไซร์นึกว่าจะเป็นแรงจุดพลังสะอีก)
 n032 ส่วนผมไม่ได้มีเจตจนาร้ายใดๆ เพราะอยากให้ออกมาดีๆเลยมีท้วงติงครับ  n032
 emb01ส่วนเรื่องสูตรต่างๆมันมีหลายสูตรมาก ก็อันนี้เป็นล่าสุดย่อมมีคำถามมากมายเป็นธรรมดาและมีคนเห็นด้วยไม่เห็นด้วยนะครับ อ่อลองดูในกระทู้สูตรอื่นดูสิครับว่า ทุกสูตรจะมีคนถามเยอะแยะมากมาย ตามตอบเป็นระยะ สูตรนี้พิ่งเริ่มออกมาให้เห็นเอง ฉะนั้น coffman อย่าพึ่งท้อ การทำงานย่อมมีอุปสรรค์มีบททดสอบครับ
  [เขิลลลล](ผมดันเป็นอุปสรรคด่านแรกไปสะงั้นฮิฮิ) [เขิลลลล]
 hide2 ส่วนใครว่าผมก็ขอไม่ตอบโต้ เพราะผมสักคำถาม coffman และตอบโต้เพื่อให้มันแน่ใจครับว่่ามันใช้ได้จริงๆและดีกว่าสูตรเก่าๆ จุดประสงค์คือเท่านี้ครับ ส่วนจะเลยเถิดไปบ้างอันนี้ต้องขออภัยคุณ coffman ครับ hide2
 n032 ใครไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมไม่ได้มีเจตตนาร้ายใดๆเลยจริงๆ  n032
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #31 เมื่อ: 02/03/10, [14:08:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

[เขิลลลล] อ่อดูไปแล้วผมคงรุกคุณ coffman มากไปหน่อยต้องขอโทษที  [เขิลลลล]
 [เขิลลลล] ไสต์ของผมตอบแบบดุเดือดไปหน่อยต้องขออภัย(จริงๆมันแบบนี้เกือบทุกกระทู้ครับไม่ใช่แค่กระทู้นี้กระทู้เดียว) ผมอารมณ์ร้อนไปหน่อย นะครับคุณ coffman  [เขิลลลล]
 [เขิลลลล] ไว้การทดลองจบลงคงได้คำตอบเองครับ   [เขิลลลล]
 [เขิลลลล] ความเข้าใจไม่ตรงกัน เลยมีกระทบกระทั่งเป็นเรื่องธรรมดาครับ  [เขิลลลล]
 [เขิลลลล]อ่อ ออกมาบอกคุณ coffman อย่าพึ่งท้อ ต้องพัตนาต่อไป  [เขิลลลล] (จริงๆก็มีแค่ผมคนเดียวนะที่ตามสักไซร์นึกว่าจะเป็นแรงจุดพลังสะอีก)
 n032 ส่วนผมไม่ได้มีเจตจนาร้ายใดๆ เพราะอยากให้ออกมาดีๆเลยมีท้วงติงครับ  n032
 emb01ส่วนเรื่องสูตรต่างๆมันมีหลายสูตรมาก ก็อันนี้เป็นล่าสุดย่อมมีคำถามมากมายเป็นธรรมดาและมีคนเห็นด้วยไม่เห็นด้วยนะครับ อ่อลองดูในกระทู้สูตรอื่นดูสิครับว่า ทุกสูตรจะมีคนถามเยอะแยะมากมาย ตามตอบเป็นระยะ สูตรนี้พิ่งเริ่มออกมาให้เห็นเอง ฉะนั้น coffman อย่าพึ่งท้อ การทำงานย่อมมีอุปสรรค์มีบททดสอบครับ

  [เขิลลลล](ผมดันเป็นอุปสรรคด่านแรกไปสะงั้นฮิฮิ) [เขิลลลล]
 hide2 ส่วนใครว่าผมก็ขอไม่ตอบโต้ เพราะผมสักคำถาม coffman และตอบโต้เพื่อให้มันแน่ใจครับว่่ามันใช้ได้จริงๆและดีกว่าสูตรเก่าๆ จุดประสงค์คือเท่านี้ครับ ส่วนจะเลยเถิดไปบ้างอันนี้ต้องขออภัยคุณ coffman ครับ hide2
 n032 ใครไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมไม่ได้มีเจตตนาร้ายใดๆเลยจริงๆ  n032

เพราะผมไล่ดูสูตรตามเวปแล้วมันไม่หนีกันมากหรอกครับของผมจะต่างก็ปริมาณน้ำตาล การต้ม และการใส่ยีสต์ที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ก็อิงมาจากวิชาการประกอบ สื่อให้เข้าใจกันจริงๆอย่าให้เป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับผมไม่ได้โกรธอะไรเลย ตอบไปตามกระทู้แค่นั้นเอง สู้ต่อไป คนรักไม่น้ำผมเชื่อว่าเป็นคนดี ใจเย็นกันทุกคน ขอบคุณทุกกำลังใจครับ ที่ทำให้มีกำลังใจสู้ต่อเพื่อการพัฒนาพรรณไม้น้ำของผู้รักชอบเหมือนกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/03/10, [14:28:40] โดย coffman »
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #32 เมื่อ: 02/03/10, [14:19:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คุณ ziplord ระมัดระวังการใช้ภาษาด้วยครับ ถ้าไม่เห็นที่ตอบอันสุดท้ายนี่กะลังจะกดแบนไปแล้วนะเนี่ย

ที่คุณ coffman เอามาบอกนี่ จริงๆหลักการพื้นฐานมันแทบไม่ได้ต่างกับแบบที่ทำกันอยู่เลย
แต่มีรายละเอียดที่มากขึ้น และหลักการที่สมบูรณ์ขึ้น
คนที่อ่านแล้วสงสัยว่าแบบไหนมันถูก แบบไหนมันดีกว่า แสดงว่าอ่านตกๆหล่นๆหรือเข้าใจผิดไปน่ะครับ
ผมสรุปให้ละกัน

1. การลวกขวด และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการต้มน้ำตาล เป็นวิธีการที่ถูกต้องในการหมักยีสต์แล้วล่ะครับ ซึ่งจะทำให้ได้ก๊าซที่บริสุทธิ์ขึ้น จากการที่ลดจำนวนหรือกำจัดเชื้ออื่นออกไป ทำแล้วเก็บแช่เย็นไว้ทีละสองสามขวดก็ได้นะครับ

2. ที่ว่าไม่ควรใส่นม หรือนมถั่วเหลือง จริงๆตามบทความดั้งเดิมของฝรั่งเขาก็ใส่เพื่อเป็นอาหารเสริมให้ยีสต์สร้างผนังเซลล์+อื่นๆนั่นแหละครับ และของเดิมเขาใช้โปรตีนผง ที่เอาไว้เสริมสุขภาพ ไอ้คนที่เพี้ยนมาใส่นมถั่วเหลืองน่ะผมเอง เพราะเห็นเค้าว่าใช้แป้งถั่วเหลืองก็ได้ แต่ผมหาซื้อไม่ได้ไง ซึ่งมันก็ไม่ค่อยมีผล ใส่ไม่ใส่ไม่ต่างกันมากมายอะไร

3. ส่วนเรื่องใส่ยีสต์มากแล้วหมดเร็ว ก็ถ้าใช้แรงดันกดการขยายของยีสต์ไว้ มันก็คงยังงั้นแหละครับ โตไม่ออก เป็นการพัฒนาที่เยี่ยมมากครับ เพราะจะได้ใส่ยีสต์ได้เยอะๆตั้งแต่ทีแรก ไม่ต้องกลัวปัญหายีสต์ไม่ดีแล้วไม่ค่อยออก

4. ไม่ว่าจะสูตรไหน ควรขยายยีสต์ก่อนใช้ครับ หลักการเหมือนการใช้พวก EM เอาใส่น้ำอุ่น น้ำตาลเล็กน้อย คนๆ รอให้ขึ้นฟอง ไม่งั้นยีสต์มันตายหมด (หรือเป็นอะไรซักอย่าง คือ... มันหมักไม่ค่อยออกน่ะ คงตายแหละมั้ง)

ถามคุณ coffman เพิ่มครับ
ผงฟูที่ว่านี่ ผงฟูแบบดับเบิ้ลแอ็คชั่น ที่ผสมยีสต์กับอะไรสักอย่าง ผมลืม หรือว่าโซเดียมไบคาร์บอเนตเฉยๆครับ?
แล้วเคยลองน้ำตาลอื่นไหมครับ เช่นน้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลอ้อยอื่นๆ มันจะมีประโยชน์มากกว่าไหมครับ?
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #33 เมื่อ: 02/03/10, [14:22:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คุณ ziplord ระมัดระวังการใช้ภาษาด้วยครับ ถ้าไม่เห็นที่ตอบอันสุดท้ายนี่กะลังจะกดแบนไปแล้วนะเนี่ย

ที่คุณ coffman เอามาบอกนี่ จริงๆหลักการพื้นฐานมันแทบไม่ได้ต่างกับแบบที่ทำกันอยู่เลย
แต่มีรายละเอียดที่มากขึ้น และหลักการที่สมบูรณ์ขึ้น
คนที่อ่านแล้วสงสัยว่าแบบไหนมันถูก แบบไหนมันดีกว่า แสดงว่าอ่านตกๆหล่นๆหรือเข้าใจผิดไปน่ะครับ
ผมสรุปให้ละกัน

1. การลวกขวด และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการต้มน้ำตาล เป็นวิธีการที่ถูกต้องในการหมักยีสต์แล้วล่ะครับ ซึ่งจะทำให้ได้ก๊าซที่บริสุทธิ์ขึ้น จากการที่ลดจำนวนหรือกำจัดเชื้ออื่นออกไป ทำแล้วเก็บแช่เย็นไว้ทีละสองสามขวดก็ได้นะครับ

2. ที่ว่าไม่ควรใส่นม หรือนมถั่วเหลือง จริงๆตามบทความดั้งเดิมของฝรั่งเขาก็ใส่เพื่อเป็นอาหารเสริมให้ยีสต์สร้างผนังเซลล์+อื่นๆนั่นแหละครับ และของเดิมเขาใช้โปรตีนผง ที่เอาไว้เสริมสุขภาพ ไอ้คนที่เพี้ยนมาใส่นมถั่วเหลืองน่ะผมเอง เพราะเห็นเค้าว่าใช้แป้งถั่วเหลืองก็ได้ แต่ผมหาซื้อไม่ได้ไง ซึ่งมันก็ไม่ค่อยมีผล ใส่ไม่ใส่ไม่ต่างกันมากมายอะไร

3. ส่วนเรื่องใส่ยีสต์มากแล้วหมดเร็ว ก็ถ้าใช้แรงดันกดการขยายของยีสต์ไว้ มันก็คงยังงั้นแหละครับ โตไม่ออก เป็นการพัฒนาที่เยี่ยมมากครับ เพราะจะได้ใส่ยีสต์ได้เยอะๆตั้งแต่ทีแรก ไม่ต้องกลัวปัญหายีสต์ไม่ดีแล้วไม่ค่อยออก

4. ไม่ว่าจะสูตรไหน ควรขยายยีสต์ก่อนใช้ครับ หลักการเหมือนการใช้พวก EM เอาใส่น้ำอุ่น น้ำตาลเล็กน้อย คนๆ รอให้ขึ้นฟอง ไม่งั้นยีสต์มันตายหมด (หรือเป็นอะไรซักอย่าง คือ... มันหมักไม่ค่อยออกน่ะ คงตายแหละมั้ง)

ปล. ใส่ยีสต์เยอะแล้วใช้กะดิฟ แรงดันมันสูง ดูขวดที่ฝาแข็งแรงๆ ระวังพุ่งขึ้นเพดาน
ยีสต์ควรใส่กล่องสูญญากาศ หรือมัดถุงให้แน่น มันเสียง่าย

ถามคุณ coffman เพิ่มครับ
ผงฟูที่ว่านี่ ผงฟูแบบดับเบิ้ลแอ็คชั่น ที่ผสมยีสต์กับอะไรสักอย่าง ผมลืม หรือว่าโซเดียมไบคาร์บอเนตเฉยๆครับ?
แล้วเคยลองน้ำตาลอื่นไหมครับ เช่นน้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลอ้อยอื่นๆ มันจะมีประโยชน์มากกว่าไหมครับ?
Atom ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #34 เมื่อ: 02/03/10, [14:36:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

งั้นแปลว่าใส่ยีสมากแรกๆไม่เป็นไร เดี๋ยวมันจะถูกจำกัดจำนวนด้วยสภาพแรงดันเหรอครับ งั้น 1.5 ลิตร ผมละลายยีสในน้ำอุ่นและน้ำตาล สัก 2 ช้อนชาเลยได้ใช่ไหมครับ
แล้วหลังจากน้ำตาลหมดแล้วเติมน้ำตาลมันช่วยได้ไหมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/03/10, [14:43:25] โดย Atom »
ziplord ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #35 เมื่อ: 02/03/10, [14:53:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ออกมา รับทราบและยินยอมทุกกรณีครับ ขอบคุณคุณ บัง ที่บอกครับ
ต่อไปผมจะใช้ภาษาที่สุภาพๆครับ ต้องขออภัยทุกๆท่านด้วยครับ
Kasama ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #36 เมื่อ: 02/03/10, [15:11:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

งั้นแปลว่าใส่ยีสมากแรกๆไม่เป็นไร เดี๋ยวมันจะถูกจำกัดจำนวนด้วยสภาพแรงดันเหรอครับ งั้น 1.5 ลิตร ผมละลายยีสในน้ำอุ่นและน้ำตาล สัก 2 ช้อนชาเลยได้ใช่ไหมครับ
แล้วหลังจากน้ำตาลหมดแล้วเติมน้ำตาลมันช่วยได้ไหมครับ
ทำใหม่เหอะ อย่าไปเติมน้ำตาลเล๊ยย เสียดาย สภาพมันร่องแร่ง ยีสต์อ่อนแรง ใกล้ตาย เติมไป มันก็ม่องอยู่ดี

ผมใช้วิธีพ่วงหลายๆขวดเอา คั่นด้วยกันน้ำย้อน แล้วก็ไปรวมเป็นสายเดียว เปลี่ยนเรื่อยๆ แรงดันไม่ตก ออกกระฉูดดดดดด
ImThai ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #37 เมื่อ: 02/03/10, [15:31:48] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จริงๆอีกสายที่หมักสุราได้ คือ พวก อุตสาหรรมเกษตร นะครับ  ไม่ใช่เภสัชนะครับ  เพื่อนผมจบไป ไปเป็นคนชิมเบียร์ของสิงห์ซะงั้น
ขอนอกเรื่องนิดนึง อุตสาหกรรมเกษตร หมักสุราได้หรอ?? คือหมักสุรานี่ ความหมายของผมคือ การปรุงกลิ่น สีและอื่นๆรวมถึงแอลกอฮอล์ด้วยน่ะ แต่ที่ผมเข้าใจคือ อุตสาหกรรมเกษตร ที่เค้าไปชิมเพราะว่า เบียร์ ทำจากข้าว การหมักข้าวบาเล่ต์(ไม่แน่ใจพิมถูกมั๊ย)หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมเลยคิดว่า อุตสาหกรรมเกษตร น่าจะช่วยคิดวัตถุดิบการปรุงมากกว่า ไม่ใช่คนปรุงเอง
ปล.ผมเสนอความเห็นเฉยๆ แต่ผมเคยเห็นว่าการปรุงพวกนี้ หรือการคิดค้นสุราและเบียร์พวกนี้ ต้องทำในห้องแล็บ แต่อยากทำบ้างจังคนชิม เมาทุกวัน  shock1
แต่ดีใจครับมีเยอะๆยิ่งดี สุราและเบียร์ไทยจะได้ รสชาติพัฒนามากขึ้นกว่านี้ ผมจะได้เลือกกินได้เยอะๆ  ้hahaha
Atom ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #38 เมื่อ: 02/03/10, [16:25:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ทำใหม่เหอะ อย่าไปเติมน้ำตาลเล๊ยย เสียดาย สภาพมันร่องแร่ง ยีสต์อ่อนแรง ใกล้ตาย เติมไป มันก็ม่องอยู่ดี

ผมใช้วิธีพ่วงหลายๆขวดเอา คั่นด้วยกันน้ำย้อน แล้วก็ไปรวมเป็นสายเดียว เปลี่ยนเรื่อยๆ แรงดันไม่ตก ออกกระฉูดดดดดด

แจ๋วเลยครับ  idea1 พว่งหลายๆอันนี่ใช้ข้อต่อ และวาวพลาสติกธรรมดารึเปล่าครับ เวลาถอดก็ปิดวาดตัวที่ถอดใช่ไหมครับ
Atom ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #39 เมื่อ: 02/03/10, [16:27:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอนอกเรื่องนิดนึง อุตสาหกรรมเกษตร หมักสุราได้หรอ?? คือหมักสุรานี่ ความหมายของผมคือ การปรุงกลิ่น สีและอื่นๆรวมถึงแอลกอฮอล์ด้วยน่ะ แต่ที่ผมเข้าใจคือ อุตสาหกรรมเกษตร ที่เค้าไปชิมเพราะว่า เบียร์ ทำจากข้าว การหมักข้าวบาเล่ต์(ไม่แน่ใจพิมถูกมั๊ย)หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมเลยคิดว่า อุตสาหกรรมเกษตร น่าจะช่วยคิดวัตถุดิบการปรุงมากกว่า ไม่ใช่คนปรุงเอง
ปล.ผมเสนอความเห็นเฉยๆ แต่ผมเคยเห็นว่าการปรุงพวกนี้ หรือการคิดค้นสุราและเบียร์พวกนี้ ต้องทำในห้องแล็บ แต่อยากทำบ้างจังคนชิม เมาทุกวัน  shock1
แต่ดีใจครับมีเยอะๆยิ่งดี สุราและเบียร์ไทยจะได้ รสชาติพัฒนามากขึ้นกว่านี้ ผมจะได้เลือกกินได้เยอะๆ  ้hahaha

อันนี้เหมือนเพื่อนผมมันจะมีวิชาเรียนเฉพาะเลยครับ กลับมาหมักเบียฝาขวดพุ่งเบียร์ทะลักเต็มบ้านเลยครับ  ้hahaha
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #40 เมื่อ: 02/03/10, [17:30:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอบ บ บังครับ ข้อมูลจาก wiki และความเห็นส่วนตัวครับ
ผงฟู ผงฟูทำขนมปัง (Baking powder) เป็นสารเคมีแห้งช่วยทำให้ขึ้นฟู ใช้ในการอบจนและดับกลิ่น มีหลายรูปแบบ โดยทั่วไปมีฤทธิ์เป็นด่าง เรียกว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต (เบกกิ้งโซดา)
มีลักษณะเป็นผงสีขาว มี 2 ชนิดคือ( เบกกิ้งพาวเด้อ (ผงฟู) กับ เบกกิ้งโซดา ที่เราใช้ใส่ขนมน่ะ มันคนละอย่างกันนะ)
   1. ผงฟู (Baking Powder) ประกอบด้วย โซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) และสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น ครีมทาร์ทาร์ (cream of tartar, เป็นผลึกผงสีขาวทำมาจากกรดในลูกองุ่น) , โซเดียม แอซิด ไพโรฟอสเฟต (sodium acid pyrophosphate, กรดเกลือของกรด) และส่วนที่เป็นแป้งข้าวโพดเพื่อป้องกันไม่ให้สารทั้งสองสัมผัสกันโดยตรง เมื่อผงฟูโดนน้ำจะทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมี เกิดเป็น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ขนมฟู ซึ่งเป็นแบบกำลังหนึ่ง ส่วนแบบกำลังสองจะมีกรด 2 ตัว และจะมีก๊าซเกิดขึ้น 2 ช่วง ในช่วงการผสมและการอบ

(ผงฟูแบ่งออกไปอีกมี 2 ชนิด คือผงฟูกำลัง 1 กับผงฟูกำลัง 2) ชนิดของผงฟู (Baking Powder)
   1.1 ผงฟูกำลังหนึ่ง (Single Acting หรือ Fast Action) ผงฟูจะผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาทันทีอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผสมกันและระหว่างที่รอเข้าอบ ดังนั้นต้องทำการผสมและอบอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่อบทันที ขนมจะขึ้นฟูไม่ดีเท่าที่ควร
   1.2 ผงฟูกำลังสอง (Double Action) เป็นผงฟูที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สองขั้นคือ ในขั้นตอนการผสมส่วนหนึ่งและในขณะอบอีกส่วนหนึ่ง ปัจจุบันนิยมใช้ผงฟูชนิดนี้เพราะไม่ต้องเร่งรีบในการทำ ในการผสม และในการอบ

   2. เบคกิ้งโซดา (Baking soda) มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) จะสลายตัวเมื่อได้รับความร้อน มีผลเสียคือจะมีสารตกค้างซึ่งถ้าใช้เกินจะทำให้เกิดรสเฝื่อน เพื่อทำให้สารตกค้างหมดไปสามารถปรับได้โดยการเติมกรดอาหารลงไป เช่นนมเปรี้ยว

สรุปที่เราจะใช้ต้องชื่อ จะชื่อ ผงฟู เบคกิ้งพาวเดอร์(Baking Powder)เท่านั้น ไม่ใช่เบคกิ้งโซดา จะดับเบิ้ล ไม่ดับเบิ้ล  ว่ากันต่อ
ดูความแตกต่างที่นี่http://users.rcn.com/sue.interport/food/bakgsoda.html
เราใช้เบคกิ้งโซดา (Baking soda) ในการหมักยีสต์ไม่ได้เพราะจะไม่ให้Co2 เพราะเราไม่ได้เติมกรดนะครับ
เราต้องเลือก และบอกคนขายว่า ขอผงฟูแบบเบคกิ้งพาวเดอร์(Baking Powder) ผงฟูกำลังหนึ่ง (Single Acting หรือ Fast Action)ซึ่งราคาถูกกว่ากำลังสอง
เราต่างก็ต้องการแค่ โซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) กับกรด ส่วนจุดประสงค์ที่ให้แตกตัวสองครั้งนั้นไม่จำเป็นสำหรับการหมักคาร์บอนยีสต์ที่ใช้ในการเลี้ยงพรรณไม้น้ำเพราะเราเลี้ยงที่อุณหภูมิไม่สูง จึงไม่เกิดการแตกตัวครั้งที่สองเมื่อเราเติมผงฟูแบบดับเบิ้ลแอคชั่น คุณสมบัติดับเบิ้ลแอคชั่นจึงไม่จำเป็นเลย
การเลือกใช้ก็คงต้องเลือกเป็นดูราคาให้เหมาะสมด้วยนะครับ

น้ำตาลปีป น้ำตาลอ้อย จริงๆแล้วสารอาหารยีสต์มากกว่า ทรายแดงแน่นอนครับ แต่การผลิตสกปรกมากยีสต์น่าจะโตไม่ทันแบคทีเรียเพราะเราไม่ได้ฆ่าเชื้อ 100% ก่อนเพียงแค่ต้มเดือดยังเสี่ยงเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/03/10, [17:41:38] โดย coffman »
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #41 เมื่อ: 02/03/10, [17:39:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

งั้นแปลว่าใส่ยีสมากแรกๆไม่เป็นไร เดี๋ยวมันจะถูกจำกัดจำนวนด้วยสภาพแรงดันเหรอครับ งั้น 1.5 ลิตร ผมละลายยีสในน้ำอุ่นและน้ำตาล สัก 2 ช้อนชาเลยได้ใช่ไหมครับ
แล้วหลังจากน้ำตาลหมดแล้วเติมน้ำตาลมันช่วยได้ไหมครับ
ใส่ได้แต่เปลืองครับ หลังน้ำตาลหมดเติมน้ำตาลช่วยได้ครับแต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขว่าปริมาณที่เติมต้องมากพอที่จะไปเจือจางน้ำหมักให้พิษของแอลกอฮอล์ลดลงจนถึงระดบแตกหน่อได้อีกครั้ง ซึ่งตามหลักการได้แต่ต้องรู้ปริมาณแอลกอฮอล์และน้ำตาลที่เหลือในระบบก่อน การเลี้ยงไม้น้ำ การเติมน้ำตาลครั้งที่สองจึงมีคนที่สำเร็จ พอๆกับคนล้มเหลว เพราะไม่รู้ปัจจัยที่แท้จริงครับ แต่ผลที่แน่นอนที่สุดคือได้ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์สั้นลงแน่ๆ ผมจึงไม่แนะนำวิธีนี้ครับ เตรียมใหม่น่าจะดีกว่า
LittlePom ออฟไลน์
General Moderator
« ตอบ #42 เมื่อ: 02/03/10, [17:39:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อ่า  3713 ครับ  [ปิ๊งๆๆ]
โอ้ววววววส์
อ.ก.มาตอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ขอขอบคุณที่มาเผยแพร่ความรู้นะครับ  emb01
ปล.อายุ 35 แล้วดิพี่  ้hahaha ้hahaha ้hahaha
Atom ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #43 เมื่อ: 02/03/10, [17:46:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ละเอียดครบถ้วน เยี่ยมครับ เตรียมเขียนบทความและคนช่วยเรียบเรียงขึ้นหิ้งได้เลยครับนี่ [เจ๋ง]
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #44 เมื่อ: 02/03/10, [19:12:00] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โอ้ววววววส์
อ.ก.มาตอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ขอขอบคุณที่มาเผยแพร่ความรู้นะครับ  emb01
ปล.อายุ 35 แล้วดิพี่  ้hahaha ้hahaha ้hahaha
-35 เตะปีปดังอยู่น้า (ปีปเปล่า) sho01 die1 shock1
▂ ▃ ▅ ▆ ▇ ★ขุuเดช ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #45 เมื่อ: 02/03/10, [19:25:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [ปิ๊งๆๆ]จะติดตามต่อๆไปนะครับ
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #46 เมื่อ: 02/03/10, [19:40:52] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เออ ลืม แล้วไอ้แรงดันอะไรที่ว่า เราจะรู้ได้ยังไงครับว่ามันพอดี หรือกะๆเอา?
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #47 เมื่อ: 02/03/10, [19:48:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เออ ลืม แล้วไอ้แรงดันอะไรที่ว่า เราจะรู้ได้ยังไงครับว่ามันพอดี หรือกะๆเอา?
ควบคุมปริมาณน้ำตาลที่ 25% โดยน้ำหนักต่อปริมาตรครับ    น้ำตาล 250 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตรครับ
Aurora ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #48 เมื่อ: 02/03/10, [20:39:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ควบคุมปริมาณน้ำตาลที่ 25% โดยน้ำหนักต่อปริมาตรครับ    น้ำตาล 250 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตรครับ
ถ้าในกรณีของผมใช้ขวด 3 ลิตร  งั้นก็ต้องใช้ น้ำตาล 750 กรัม
เลยอยากทราบว่ามันจะอยู่ได้นานแค่ไหนอ่ะครับ  (ถ้าใช้สูตรของพี่ coffman)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/03/10, [20:48:04] โดย Aurora »
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #49 เมื่อ: 02/03/10, [21:18:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าในกรณีของผมใช้ขวด 3 ลิตร  งั้นก็ต้องใช้ น้ำตาล 750 กรัม
เลยอยากทราบว่ามันจะอยู่ได้นานแค่ไหนอ่ะครับ  (ถ้าใช้สูตรของพี่ coffman)
กำลังติดตามผลอยู่ครับ วันนี้เข้าไปวันที่  7 ยังพุ่งอยู่ 2 ฟองต่อวินาทีคงที่ครับ ผมแค่ยกหัว reactor ให้สูงอยู่ในตู้ตอนกลางคืนไม่มีการถอดสายออกนะครับ<<<<<<<<<<<<<สำคัญมากๆๆๆ>>>>>>>>>>>>>
เพื่อป้องกันสภาวะในขวดหมักมีออกซิเจน หากระบบหมักยีสต์มีออกซิเจนจะเป็นเหตุให้ยีสต์เปลี่ยนน้ำตาลเป็นการสร้างเซลล์(เราไม่ต้องการคาร์บอนจากน้ำตาลทรายไปเปลี่ยนเป็นเซลล์ยีสต์)ซึ่งจะไม่ได้คาร์บอนไดออกไซด์มากพอเลี้ยงไม้น้ำ เราต้องการการหมักที่ไร้อากาศ(ไร้ออกซิเจน)จะได้แอลกอฮอล์และ Co2 ที่เราต้องการ ผมจึงไม่แนะนำให้เอาหัวดิฟออกกลางคืนนะครับ ยกไว้ใกล้ๆผิวน้ำก็ได้แต่อย่าลอยพ้นน้ำ

ผมคิดถึงขนาดถ้าระบบหมักหยุดลงจากเหตุผลต่างๆ ยีสต์ตาย น้ำตาลหมด  tank ที่เลี้ยงยีสต์นี้จะสะสม Co2 ให้มีระยะยิงยาวได้เลยนะครับ คาร์บอนไดออกไซด์สะสมในน้ำหมักได้คล้ายน้ำอัดลมครับ แต่ต้องมีสภาวะแรงดันกดที่เวลานานๆ เพราะมันช่างตรงกับการเลี้ยงไม้น้ำที่ต้องการฟองไม่มากต่อวินาทีเสียจริง การทดลองหน้าผมจะใส่ pressure gauge(มิเตอร์วัดแรงดัน)ด้วยตลอดการทดลองครับ
เหมือน CO2 tank ที่เราไปเติมมันก็มาจากของเหลวครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/03/10, [21:24:58] โดย coffman »
Atom ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #50 เมื่อ: 02/03/10, [21:21:09] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เอ...แล้วประโยคนี้ "พบว่าน้ำตาล 20% กับ 26% จะยืดการหมักได้นานขึ้น 33%" มันแปลว่า ผมใส 20 ดีกว่าใช่ไหมครับ
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #51 เมื่อ: 02/03/10, [21:29:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เอ...แล้วประโยคนี้ "พบว่าน้ำตาล 20% กับ 26% จะยืดการหมักได้นานขึ้น 33%" มันแปลว่า ผมใส 20 ดีกว่าใช่ไหมครับ
ไม่ใช่ครับ
ใส่น้ำตาล26% ยืดเวลานานกว่าน้ำตาล 20% ไปอีก 33% ของวันที่ใช้ในการหมัก(นานขึ้น)ครับ
ผมออกแบบการทดลองใส่ 25%-26% ครับ แต่ต้องแลกกับการที่ยีสต์เสียชีวิตมากขึ้นในตอนแรกที่เติมหัวเชื้อเข้าไปจึงออกไปให้เติมยีสต์มากขึ้นกว่าสูตรทั่วไป
 

กำลังรวมทุกคำตอบไปไว้ที่คำตอบที่  6 ครับขอเวลาแปป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/03/10, [21:42:22] โดย coffman »
田彬 ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #52 เมื่อ: 03/03/10, [04:20:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมคิดถึงขนาดถ้าระบบหมักหยุดลงจากเหตุผลต่างๆ ยีสต์ตาย น้ำตาลหมด  tank ที่เลี้ยงยีสต์นี้จะสะสม Co2 ให้มีระยะยิงยาวได้เลยนะครับ คาร์บอนไดออกไซด์สะสมในน้ำหมักได้คล้ายน้ำอัดลมครับ แต่ต้องมีสภาวะแรงดันกดที่เวลานานๆ เพราะมันช่างตรงกับการเลี้ยงไม้น้ำที่ต้องการฟองไม่มากต่อวินาทีเสียจริง การทดลองหน้าผมจะใส่ pressure gauge(มิเตอร์วัดแรงดัน)ด้วยตลอดการทดลองครับ
เหมือน CO2 tank ที่เราไปเติมมันก็มาจากของเหลวครับ

ฟังดูดีครับ  [เจ๋ง]
Atom ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #53 เมื่อ: 03/03/10, [09:00:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เ่อ่อ...พอดีผมไม่มีเครื่องชั่งครับเลยอยากทราบว่า 1 ช้อนโต๊ะนี่กี่กรัมอ่ะครับ
ImThai ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #54 เมื่อ: 03/03/10, [09:42:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เ่อ่อ...พอดีผมไม่มีเครื่องชั่งครับเลยอยากทราบว่า 1 ช้อนโต๊ะนี่กี่กรัมอ่ะครับ
ใช้ถ้วยตวง ที่เค้าใช้ตวงส่วนผสมทำเบเกอร์รี่ แทนน่าจะได้นะครับ ซื้อได้ตามห้างทั่วไป เป็นแบบพลาสติกจะถูกหน่อย ไม่กี่สิบบาท
Kasama ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #55 เมื่อ: 03/03/10, [10:03:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แจ๋วเลยครับ  idea1 พว่งหลายๆอันนี่ใช้ข้อต่อ และวาวพลาสติกธรรมดารึเปล่าครับ เวลาถอดก็ปิดวาดตัวที่ถอดใช่ไหมครับ
ก็ใช้แค่ กันย้อน กับข้อต่อสายอ๊อคสามทาง

ขวด1 -----------> กันย้อน ---> ข้อต่อสามทาง ----------------------------> ข้อต่อสามทาง----------> นับฟอง ---------> ดิฟ
ขวด2 -----------> กันย้อน ------------^                                                        ^                                    
                                                                                                             ^
ขวด3 -----------> กันย้อน ---> ข้อต่อสามทาง -------------------------------------^
ขวด4 -----------> กันย้อน ------------^

เวลาถอดก็ถอดสายก่อนกันย้อน แรงดันมันก็ไม่ไหลย้อนออกมา ขวดไหนดูท่าจะหมด ก็เปลี่ยนเอาขวดใหม่ใส่เข้าไป พอแรงดันมันถึง มันก็ดันออกผ่านกันย้อนออกไปเอง

ปล. ปริมาณขวดให้เหมาะกับปริมาณตู้ด้วยนะ เดี๋ยวมันจะพุ่งเยอะจนปลาตาย :p
Atom ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #56 เมื่อ: 03/03/10, [10:08:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ก็ใช้แค่ กันย้อน กับข้อต่อสายอ๊อคสามทาง

ขวด1 -----------> กันย้อน ---> ข้อต่อสามทาง ----------------------------> ข้อต่อสามทาง----------> นับฟอง ---------> ดิฟ
ขวด2 -----------> กันย้อน ------------^                                                        ^                                    
                                                                                                             ^
ขวด3 -----------> กันย้อน ---> ข้อต่อสามทาง -------------------------------------^
ขวด4 -----------> กันย้อน ------------^

เวลาถอดก็ถอดสายก่อนกันย้อน แรงดันมันก็ไม่ไหลย้อนออกมา ขวดไหนดูท่าจะหมด ก็เปลี่ยนเอาขวดใหม่ใส่เข้าไป พอแรงดันมันถึง มันก็ดันออกผ่านกันย้อนออกไปเอง

ปล. ปริมาณขวดให้เหมาะกับปริมาณตู้ด้วยนะ เดี๋ยวมันจะพุ่งเยอะจนปลาตาย :p


ตู้พี่กี่นิ้วเนี่ย  sho01 4 ขวดเต็มๆ
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #57 เมื่อ: 03/03/10, [10:09:45] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

บ้านมีตาชั่งครับ ขายกาแฟ อาหาร อิอิ
บอกให้หมดเลยนะครับ ถ่ายรูปมายืนยันด้วย
ตอบ 1 ช้อนโต๊ะเท่ากับน้ำตาลทรายแดง  8 กรัม ตวงจริงๆ เอาถ้วยตวงดีกว่า
มาตราส่วนทั่วๆ ไป

1 ช้อนโต๊ะ = 3 ช้อนชา
1 ถ้วยตวง = 18 ช้อนโต๊ะ
1ไพน์ = 2ถ้วยตวง
1 ควอร์ต = 4 ถ้วยตวง
1 แกลอน = 4 ควอร์ต
1 ออนซ์ของเหลว = 2 ช้อนโต๊ะ
1 ถ้วยตวง = 8 ออนซ์
1 ปอนด์ = 16 ออนซ์
1 ออนซ์ = 28.3 กรัม
1 ปอนด์ = 454 กรัม
1 กิโลกรัม = 1,000 กรัม
1 กิโลกรัม = 2.2 ปอนด์

มาตราส่วนสำหรับส่วนผสมต่าง
1 ถ้วยตวง น้ำตาลทรายแดง = 150 กรัม ไม่อัดไม่เคาะเทลงเฉยๆ เต็มแล้วเอานิ้วปาดเสมอขอบถ้วย

 นิ้วผมเองนิ้วสวยป่ะ
1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย = 185 กรัม
1 ช้อนโต๊ะ ยีสต์ = 7 กรัม
1 ช้อนโต๊ะ ผงฟู = 8 กรัม
1 ช้อนโต๊ะ เกลือ = 10 กรัม
1 ถ้วยตวง น้ำเปล่า = 225 กรัม
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03/03/10, [10:12:45] โดย coffman »
ImThai ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #58 เมื่อ: 03/03/10, [10:12:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

บ้านมีตาชั่งครับ ขายกาแฟ อาหาร อิอิ
บอกให้หมดเลยนะครับ ถ่ายรูปมายืนยันด้วย
ตอบ 1 ช้อนโต๊ะเท่ากับน้ำตาลทรายแดง  8 กรัม ตวงจริงๆ เอาถ้วยตวงดีกว่า
มาตราส่วนทั่วๆ ไป

1 ช้อนโต๊ะ = 3 ช้อนชา
1 ถ้วยตวง = 18 ช้อนโต๊ะ
1ไพน์ = 2ถ้วยตวง
1 ควอร์ต = 4 ถ้วยตวง
1 แกลอน = 4 ควอร์ต
1 ออนซ์ของเหลว = 2 ช้อนโต๊ะ
1 ถ้วยตวง = 8 ออนซ์
1 ปอนด์ = 16 ออนซ์
1 ออนซ์ = 28.3 กรัม
1 ปอนด์ = 454 กรัม
1 กิโลกรัม = 1,000 กรัม
1 กิโลกรัม = 2.2 ปอนด์

มาตราส่วนสำหรับส่วนผสมต่าง
1 ถ้วยตวง น้ำตาลทรายแดง = 150 กรัม ไม่อัดไม่เคาะเทลงเฉยๆ เต็มแล้วเอานิ้วปาดเสมอขอบถ้วย

 
1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย = 185 กรัม
1 ช้อนโต๊ะ ยีสต์ = 7 กรัม
1 ช้อนโต๊ะ ผงฟู = 8 กรัม
1 ช้อนโต๊ะ เกลือ = 10 กรัม
1 ถ้วยตวง น้ำเปล่า = 225 กรัม
อันนี้ต้องปริ้นเก็บไว้  [เจ๋ง]
DominoFx ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #59 เมื่อ: 03/03/10, [11:04:54] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สรุปแล้ว ไอ้ที่ผมใช้ เบกกิ้งโซดา มันไม่ได้ CO2 หรอกเหรอครับ? [งง]   shock1
เคยอ่านเจอ บางคนใช้ เบกกิ้งโซดา กับ น้ำส้มสายชู ก็ได้ CO2  036

(ผมเรียนสายอาชีพ เลยไม่ได้เรียน เคมีครับ) surrender

สรุป ควรใช้ผงฟูเหรอครับ  [เขิลลลล]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03/03/10, [11:14:46] โดย DominoFx »
หน้า: 1 2 3 4   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: