ซึ่งปลาเหล่านี้มีพฤติกรรมที่เรียกว่าการรวมกันเป็นฝูง และ มีการจัดอันดับ (hierarchy อ่านว่า ไฮเออราชี) มีตัวจ่าฝูง ดังเช่น ปลาปอม (discus อ่านว่า ดิสคัส) หรือปลาฟรอนซ่า ส่วนมากจ่าฝูงมักเป็นตัวผู้ ซึ่งตัวจ่าฝูงจะมีบทบาทมากที่สุด สีสวยที่สุด ท่าทางมาดดี เป็นนักเลง ประจำตู้ หากมีอาหารมาก็จะกินก่อน โดยไม่ค่อยแบ่งตัวอื่นหรืออาจจะไล่ตัวอื่นไปจากบริเวณที่มีอาหาร (อาจจะยอมในกรณีที่เป็นตัวเมีย ที่ต้องการจับคู่เท่านั้น)

คราวนี้เมื่อเลี้ยงปลาหมอในตู้ ก็จะพบเหตุแบบนี้ค่อนข้างบ่อย แล้วปลาลูกฝูงบางตัวก็อาจจะผอมหรือตายไป วิธีแก้ง่ายๆ มี 2 วิธี
1. คือการเลี้ยงไปเยอะๆเลย ก็จะมีการสับสน การแย่งตำแหน่ง การจับฝูงที่สับสนเกิดขึ้นทุกวัน ดังนั้นจ่าฝูงที่แท้จริงจะไม่มีเท่าไหร่ ก็ลดปัญหาไปได้ นอกจากมีปลาที่ตัวใหญ่มากๆ และก้าวร้าว ก็อาจจะแก้ไม่ได้
2. หากเลี้ยงปลาน้อยเช่นในตู้ไม้น้ำ แล้วปลาที่ลงไปใหม่โดนข่มก็แก้ได้โดยการจัดลำดับใหม่ คือการเอาปลาชุดเก่าออก เอาปลาใหม่ลงไป ให้มันสถาปนาตัวสักสองสามวัน แล้วค่อยๆ ลงปลาอื่นๆตามไป ก็น่าจะช่วยได้ แต่ก็เช่นเดิมหากมีตัวใหญ่มากๆ ก็ เกิดการแย่งตำแหน่งได้อีก ดังนั้นวิธีนี้ทำได้เฉพาะ ขนาดปลาพอๆกัน
ดังนั้นหากเลี้ยงปลาหมอแล้วก็ต้องสังเกตหารกินอาหารและพฤติกรรมด้วย
พฤติกรรมทางเพศ (หุหุ)
ปลาหมอมีการสืบพันธุ์โดยมากเป็นการวางไข่บนพื้นที่เรียบหรือในถ้ำ โดยช่วงแรกตอนตัวเมียวางไข่ ไข่จะมีผิวบางเพื่อให้ตัวผู้ฉีดน้ำเชื้อให้ไข่ปฏิสนธิเป็นตัวได้ ดังนั้นย่อมมีบางส่วนของไข่ที่ไม่ได้น้ำเชื้อซึ่งจะเสียไป คราวนี้พฤติกรรมทางเพศของปลาหมอก็จะมีแบบจับคู่สามีภรรยา (monogamous) หรือแบบฮาเร็ม (polygamous)
1. แบบจับคู่ (monogamous อ่านว่า โมโนกามัส) มักพบในปลาขนาดใหญ่เช่นปลาปอมหรือเทวดา ปลาหมอแคระก็พบบ้าง จะเห็นปลาจับคู่กันว่ายคลอเคลียกันไปมาตลอด
2. แบบฮาเร็ม (polygamous อ่านว่า พอลิกามัส) อันนี้คือตัวผู้ 1 กับตัวเมียอีกลายๆตัว เช่นปลาหมอแคระคาคาทอยเดส (apistogramma cacatuoides) หากมีบริเวณที่เพียงพอ ตัวผู้จะครองอนาเขต และจับหมู่กะตัวเมียหลายๆตัว โดยแต่ละตัวเมียก็จะวางไข่และเลี้ยงลูกโดยอาจมีการกระทบกันบ้าง แต่ไม่มีการกินลูกของกันและกัน
คราวนี้มาดูปลาหมอแคระ ซึ่งจากประสพการณ์ (เลี้ยงได้ลูกก็เท่านี้ ไม่เคยได้ปอมหรือเทวดา 555) ตัวแม่จะเป็นตัวที่เฝ้าไข่และเลี้ยงลูก ซึ่งในขณะนี้ตัวเมียจะมีสีเหลืองมากๆ มีนิสัย ดุร้าย หากพื้นที่หรือที่หลบไม่เพียงพอ อาจทำร้ายตัวผู้จนถึงตาย แต่บางคู่ก็จะพบว่าปลาทั้งสองช่วยกันเลี้ยงโดยตัวผู้คุมอนาเขตรอบนอก และตัวเมียเลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิด
การให้แม่ปลาเลี้ยงลูกเอง
การให้ตัวเมียเลี้ยงลูกนี้มีความเชื่อกันว่าจะส่งผลให้ลูกปลาเรียนรู้พฤติกรรมในการเลี้ยงลูกเป็นไม่กินไข่และแข็งแรง ซึ่งแตกต่างจากการนำไข่มาเป่า เช่นในกรณีของปลาหมอบางชนิดหากนำไข่มาเป่าหรืองัดลูกออกจากปาก ปลาจะเลี้ยงลูกไม่เป็นกินไข่ การให้แม่ปลาเลี้ยงลูกทำได้ไม่ยากเลย คือการจัดที่เลี้ยงให้เหมาะสมในกรณีปลาหมอแคระก็ให้รกๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ อย่าไปรบกวนเขา รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนแม่ปลาพร้อม สังเกตหากวันใดสาวเจ้าเหลืองและก้าวร้าวก็แสดงว่าน่าจะวางไข่ สังเกตบริเวณที่ตัวเมียเฝ้านั่นคือที่ที่วางไข่ แล้วก็รอให้แม่ปลานำลูกออกมาว่าย คอยดูตัวผู้ว่าโดนทำร้ายขนาดไหน หากหางขาดเข้าใกล้ตัวเมียไม่ได้ ให้นำออกทันที แล้วก็คอยให้อาหารลูกปลาและรอดูภาพสวยๆที่แม่ปลานำลูกปลามาหากิน
รูปคาคาทอยเดสกับลูกๆ

ที่เขียนมาก็แค่จะบอกว่าเพิ่งได้ลูก Apistogramma diamante หรือ Apistogramma eremnopyge คร้าบบบ เอามาให้คนได้ไข่แต่ไม่ได้ลูก อิจฉา fire1
ตัวผู้ไปขโมยรูป คุณเกี๊ยวมา ตอนนี้ของที่บ้านเอาไปลงตู้ใหญ่ เพราะแม่ปลาดุมาก

คุณแม่

ที่วงคือลูกๆ มีประมาณ 20 ตัว ตัวใสๆ ต่างจากคาคาทอยเดสมากมาย (รูปไม่ชัดเพราะกล้องมือถิอ)

แม่อีกรูป

สรุปได้ลูกไดอาแมนเต้ครับ ตู้แค่ 14 นิ้ว pH 6 ดิน Africana มีกระถาง กับใบหูกวางเยอะมาก อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส
[เขิลลลล]
รอคนมาอิจฉา