บทความนี้เขียนขึ้นจากการอ่าน บทความหลายๆชิ้นในเน็ต ที่เป็นภาษาอังกฤษ (ความจริงอยากอ่านของญี่ปุ่นมากกว่าแต่โชคร้ายผมอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก) ผมเก็บเล็กผสมน้อยแล้วก็เลือกเอาที่คิดว่า อธิบายแล้วเข้าใจได้ มาเรียบเรียงใหม่ รวมกับความทรงจำจากแผ่นพับสวนหินตามวัดญี่ปุ่นบ้าง จำๆเขามาบ้าง แล้วใส่ความคิดเห็นตัวเองไว้ด้วย
ตามหลัก แบ่งหินในการจัดออกเป็น 4 ประเภท คือ
1 Oyaishi 2 Fukuishi 3 Soeishi 4 Suteishi
(สีประเภท ไม่ได้แปลว่าใช้หินสี่ก้อนนะครับ)
เริ่มที่หินหลักที่มีขนาดใหญ่สุด เรียกว่า Oyaishi เป็นหินขนาดใหญ่สุด ของตู้ หรือ เราเลือกแล้วว่า สวยสุด เด่นสุดในชุด ถ้า มันเล็กกว่าก้อนอื่นแต่เราชอบมากกว่า ก็ให้เอาก้อนใหญ่กว่าออกจากชุดไป แล้วหาก้อนเล็กมาเข้าชุดแทนมักวางไว้ในตำปหน่งที่เด่น แต่ไม่กลางเป๊ะ อาจจะเยื้อง ซ้ายขวาขึ้นอยู่กับ เซ็นต์ของผู้จัดแต่ละคน รวมถึงความเอียง มุมองศาต่างๆ ที่หลากหลายแปรเปลี่ยนไปตามลักษณะของหินด้วย
ต่อมาเป็น Fukuishi. หินรอง หรือ ตำแหน่งสนับสนุน มักจะใช้ประกอบ ด้านข้าง หรือ ประจันหน้า ซ้าย ขวาก็แล้วแต่เช่นกัน สร้างความสัมพันธ์ หรือ แรงดึงดูดผลักดันซึ่งกันและกันกับหินหลัก
ตามด้วย Soeishi. หินสนับสนุน หรือ เสริม หินหลักอีกเช่นกัน แต่ขนาดเล็กลงมาอีก และวางในตำแหน่งที่เสริมให้หินหลัก สง่างามขึ้น ซึ่งจะมี มากกว่าหนึ่งก้อนก็ได้ อันนี้จะทำให้จำนวนผันแปรไปตามขนาดของหินและขนาดตู้แล้วแต่ชุดที่จัด
ต่อมา Suteishi, เป็นหินที่จัดวางเพื่อให้หินทุกก้อนมองแล้ว อยู่ร่วมกันได้ เป็นชุดเดียวกัน ผสานให้หินทั้งหมดดูเข้ากันเป็นอันหนึ่งอันเดียว และในบางครั้ง มันเองจะต้องเสียสละตนออกไปอยู่ห่างจากกลุ่ม เพื่อสร้างอาณาเขต และมักถูกต้นไม้บดบังไปบ้าง หรืออยู่ในมุมอับบ้าง จึงมักเรียกถูกเรียกว่า sacrificial stone.หินเสียสละ
สูตร ที่นิยมเพราะไม่ยุ่งยากและเหมาะกับตู้ขนาดเล็ก คือ
Sanzon Iwagumi ซันซอนอิวากูมิ (ซันแปลว่าสาม) ใช้หินสามก้อน น้อยแต่ให้ความรู้สึกได้ เรียบง่าย สวยงาม สงบ ก็มีแค่ หินหลัก หินรอง หินสนับสนุน จบ
สำหรับผม คิดว่า อิวากูมิ เป็นการจัดสวนหินที่ เน้นใช้หินเป็นองค์ประกอบหลัก ที่ทำให้เกิดความสงบนิ่ง สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ความงามของชุดหินที่จัดวางอย่างเหมาะเจาะลงตัว เป็นตัวแทนของธรรมชาติ ที่มีพลัง
จะแตกต่างจากการจัดชุดหินให้เป็น ภูมิทัศน์ หรือ Landscape ที่เลียนแบบธรรมชาติ อย่าง จัดชุดหินให้เป็นเทือกเขา หน้าผา ช่องเขา มีป่าไม้ แบบเสมือนจริง ซึ่งเป็นอีก Style หนึ่งที่นิยมกัน ถึงจะใช้หินเป็ฯหลักในการจัดและเป็นจุดเด่นของตู้เหมืvoกันก็ตามแต่ ให้ผลต่างกันโดยสิ้นเชิง อิวากูมิ ไม่ให้ความรู้สึกอลังการ ตื่นตา ตื่นใจ หรือสร้างมิติลลวงตา เหมือนอย่าง แลนสเคปแน่ๆ แต่อิวากูมิ ให้เราเรียนรู้ชื่นชมธรรมชาติอย่างที่มันเป็น จะนึกถึงภูเขาก็เพราะเห็นก้อนหินและตำแหน่งที่วางทำให้ระลึกถึงภูเขา ด้วยพลังงานและความรู้สึก ไม่ใช่การจัดภาพสร้างมิติให้เกิดเป็นภูเขา ขึ้นให้เราได้ชื่นชมตรงหน้า
ฝรั่งหลายคนที่มีเวปสอนจัดอิวากูมิ มีหินวางเป็๋นตัวอย่าง เสร็จแล้วก็ยังไปเอารูปตู้ของอามาโนที่จัด แนว Nature และ Landscape มาเป็นตัวอย่างแล้วก็บอกว่าเป็น อิวากูมิ อาจจะเพราะเห็นว่าใช้ก้อนหิน และ เป็นคนญี่ปุ่นจัดมั้ง อะไรมีหินและเป็นญี่ปุ่น ก็คงเป็นอิวากูมิ หมดนั่นแหล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ อามาโนจัด อิวากูมิสวยๆหลายตู้ก็ไม่เอามาประกอบนะ
ขอย้ำว่านี่เป็นความเห็นผมส่วนหนึ่ง คงไม่อาจยึดเป็นวิชาการถูกผิด เอาไปใช้ยืนยันโต้เถียงอะไรได้ ไม้น้ำกับไม้บก บางทีมันก็ถ่ายเทสลับกันงอกเงยเติบโตไปมา เพียงแต่ โรทาร่าขึ้นบกมันก็ยังเป็นโรทาร่า มันไม่อาจจะกลายเป็นใบเตยได้ มอสบางชนิดอยู่บนบกสวยงาม เอามากดน้ำก็เน่าตาย หรือไม่ก็กลายร่างเป็นเส้นๆยืดยาวไม่สวยงามเหมือนตอนอยู่ข้างบนก็เท่านั้นเอง
มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองรักและไม่เบียดเบียนคนอื่น นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดจริงมั้ยครับ
