Aqua.c1ub.net
*
  Sat 20/Apr/2024
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มาว่ากันด้วยเรื่อง ประสบการณ์ " ท่อมาโคร " คนยากกันครับ  (อ่าน 5644 ครั้ง)
Machete ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 07/10/13, [17:50:30] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เครดิตจากหลายๆเวบที่หาอ่านมานะครับ ( ระบุไม่หมดขออภัยครับ ) และประสบการณ์ตรงที่ทดลองใช้ครับ ถ้าซ้ำหรือมีท่านใดเคยบอกเล่าแล้ว ขออภัยด้วยครับ

พูดถึง การถ่ายภาพของพวกเราๆในเวบนี้ คงหนีไม่พ้นการถ่ายภาพของ ปลา , กุ้ง , ต้นไม้ , หรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในตู้สุดรักของเรา ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่มีความสุขกับเรื่องเล็กๆพวกนี้ และก็เป็นคนหนึ่งที่ “ งบน้อย “ เงินที่ได้จากการทำงานพนักงานบริษัททั่วไป ก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆ เก็บหอมรอมริบทีละน้อย ก็ถอยกล้อง DSLR มือสองมาได้ 1 ตัว แถมยังเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดอีกด้วย ขออนุญาตเปิดเผยตรงนี้นะครับ ว่าเป็น CANON 1100 D

พอได้เจ้าสิ่งนี้มา ก็เริ่มถ่ายๆๆๆ แต่มันไม่ได้ดังใจซักทีครับ เนื่องจาก “ เลนส์ “ ที่ติดมามันไม่สะใจ   เอาล่ะสิ !!! ทำยังไงล่ะทีนี้ !!! ( เข้าเรื่องละครับ ) หาๆๆแล้วครับ ไปจ๊ะเอ๋มาละ  ประหยัดที่สุดที่เจอละครับ “ ท่อมาโคร “ สำหรับคนยาก น่าจะของจีนนะครับ สนนราคาที่ 250 บาท ได้มาหน้าตาแบบนี้ครับ



ทีนี้ ก็ได้เอามาทดสอบก่อนเลยครับ กับเลนส์ 18-55 มันก็พอไหว ปรับซูมปรับโฟกัสอะไรๆ ก็พอได้ แต่ เอาอีกแล้วครับ ความกว้างของรูรับแสง หรือ F มันไม่พอที่จะทำให้ปรับ สปีดชัตเตอร์ได้สูงๆพอที่จะถ่ายสิ่งมีชีวิตน้อยๆที่ไม่อยู่นิ่งได้ ก้เลยไปหาเลนส์ที่มี F ต่ำๆและราคาที่เอื้อมถึงครับ ตัดสินใจซื้อ เลนส์ 50mm มาครับ ราคาถูก และได้ค่ารูรับแสงมาที่ ต่ำสุด 1.8 เอามาประกบเลยครับ จึงขอแยกแยะตามประสบการณ์ที่ทดลองใช้มาเป็นข้อๆนะจ๊ะ

1.   การต่อ จากรูปจะเห็นว่ามันมี อยู่ 3 ท่อนนะครับ แต่จิรงๆแล้วมันจะมีอยู่ 5 ชิ้นด้วยกัน


1.1    เป็นท่อนที่ใช้ต่อกับตัวกล้องนะครับ ซึ่งจะมีจุดมาร์คเหมือนกับที่อยู่ตรงตัวเลนส์ ( ก่อนหมายเลข 1 )

1.2    หมายเลข 1 เป็นท่อนที่สั้นที่สุด จะทำให้ระยะมาโครได้น้อยที่สุด ซึ่งก็คือจะทำให้ตัววัตถุหรือแบบเล็กกว่าหมายเลข 2 , 3 ตามลำดับนะครับ

1.3    อันที่มีสีเงิน ไว้ใช้ต่อกับเลนส์ของเราโดยตรงเลยครับ แล้วก็ ลุย !!!



มาดูกันครับ เริ่มจากต่อเฉพาะ  หมายเลข 1 ( ท่อน 1.1 + ท่อน 1 + ท่อนต่อกับเลนส์ ) ตามภาพนะครับ



เลนส์ 18-55  สปีด 1/160 , F 5.7 , WB auto , ISO 3200 , ไฟ T5 24x2 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



ต่อมาครับ ต่อเฉพาะ  หมายเลข 1+ 2 ( ท่อน 1.1 + ท่อน 1 + ท่อน 2 + ท่อนต่อกับเลนส์ ) ตามภาพนะครับ



เลนส์ 18-55  สปีด 1/30 , F 4.0 , WB sunny , ISO 800 , ไฟ T5 24x2 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



สุดท้ายของเลนส์ 18-55 ครับ ต่อทั้งหมดเข้าด้วยกันตามภาพครับ  เราก็จะได้ปลายักษ์กันแล้วครับ



เลนส์ 18-55  สปีด 1/200 , F 4.0 , WB auto , ISO 1600 , ไฟ T5 24x2 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ




เลนส์ 18-55  สปีด 1/200 , F 4.0 , WB auto , ISO 1600 , ไฟ T5 24x2 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



มาดูหอยยักษ์กันบ้างครับ เลนส์ 18-55  สปีด 1/100 , F 5.6 , WB auto , ISO 3200 , ไฟ T5 24x2 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



วัตถุอยู่นิ่งๆ ถ่ายง่ายกว่าครับ อย่าง เทอร์โมมิเตอร์อันนี้ เลนส์ 18-55  สปีด 1/100 , F 5.0 , WB auto , ISO 3200 , ไฟ T5 24x2 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



อันนี้ถูกนำมาปรับแสงและคอนทราสต์แล้วครับ เลนส์ 18-55  สปีด 1/30 , F 4.0 , WB auto , ISO 800 , ไฟ T5 24x2 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



เอาล่ะครับ ทีนี้ มาดูเจ้าเลนส์ 50 ตัวโปรดของผมกันบ้างนะครับ เลนส์ 50 นี้ ระยะซูมจะต้องถอยเข้าออกเอาเองนะครับ หมุนไม่ได้ และส่วนนี้ ผมไม่ได้รีวิวแยกเป็นท่อนๆเหมือนเลนส์ 18-55 เพราะใช้เลนส์นี้แล้ว ผมติดใจในระยะเฉพาะท่อนที่ 1 ท่อนเดียว เพราะเมื่อ F น้อยลง สามารถปรับสปีดได้สูงขึ้นมาก โดยไม่ต้องดัน ISO เพิ่ม ทำให้มีสัญญานรบกวนภาพลดลงและเลนส์ให้ความคมชัดและสีสดใสได้มากกว่า ถ้าอยากได้ตัวใหญ่ๆ ผมก็ครอปตัดเอา ทำให้ถ่ายภาพ น้องกุ้งน้องปลา ได้ง่ายขึ้นมากครับ
 
ตัวอย่างแรกเลยครับ  เลนส์ 50 สปีด 1/50 , F 1.8 , WB fluorescent , ISO 800 , ไฟ T5 24x6 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ ( ถ่ายที่ร้านไม้น้ำ@เมล็ดกาแฟ )



เลนส์ 50 สปีด 1/40 , F 1.8 , WB fluorescent , ISO 800 , ไฟ T5 24x6 นะครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ ( ถ่ายที่ร้านไม้น้ำ@เมล็ดกาแฟ )



ต่อจากนี้เป็นภาพที่ผมนำมาปรับแสงและคอนทราสต์นะครับ

เลนส์ 50 สปีด 1/500 , F 1.8 , WB auto , ISO 1600 , ไฟหลอดตะเกียบ 14 วัตต์ 2 หลอดครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



เลนส์ 50 สปีด 1/100 , F 1.8 , WB auto , ISO 800 , ไฟ T5 24 x 4 ครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



เลนส์ 50 สปีด 1/60 , F 1.8 , WB auto , ISO 800 , ไฟหลอดตะเกียบ 14 วัตต์ 2 หลอดครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



ภาพล่าสุดครับ เลนส์ 50 สปีด 1/100 , F 1.8 , WB auto , ISO 800 , ไฟ PL 36 วัตต์ 2 หลอดครับ ระยะและแสงจะประมาณนี้  ขึ้นอยู่กับระยะซูมด้วยนะครับ



บทสรุป : แบบครอบคลุมนะครับ

-   โดยส่วนตัวแล้วแนะนำให้ใช้กับ เลนส์ที่มีค่า F ปรับได้ต่ำๆ

-   ปรับตั้งค่ากล้องที่โหมด M ปรับ F ให้ต่ำสุด อย่าปรับ ISO มากจนเกินไปเดี๋ยจะมีสัญญานรบกวนภาพมากเกินไปทำให้ไม่คมชัด แล้วปิดกล้องประกอบท่อ ค่อยๆปรับสปีดชัตเตอร์เอาครับ

-   ใส่หลายท่อนตัวแบบใหญ่ ใส่น้อยท่อนตัวเล็กลง แต่ผมว่าใส่น้อยท่อนถ่ายง่ายมากขึ้น

-   จะสังเกตได้ว่า ภาพจะไม่คมชัดทุกจุด พยายามส่องหาจุดที่ชัดที่สุดที่เราต้องการ ถ้าเป็นปลาผมจะพยายามให้ชัดตรงลูกตา ถ้าเป็นกุ้ง ผมพยายามให้ชัดทั้งตาและหนวด ( แต่ยากจัง )

-   จากข้อข้างบน ไม่มีออโต้โฟกัส ใช้มือหมุนเอานะครับสำหรับการปรับโฟกัส ใจเย็นและรอจังหวะครับ บางภาพผมใช้เวลาถ่ายสองสามชั่วโมง แต่ได้มาภาพเดียว

-   การใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ ต้องอดทนและใจเย็นๆนะครับ ทั้งหมดนี้ผมอ่านเอาจากหลายๆเวบ ขอขอบคุณที่ให้ความรู้และหลักการ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่ได้ทดลองด้วยตัวเองทำความเข้าใจกับมัน เหมือนที่เราได้เลี้ยง กุ้ง , ปลา , ไม้น้ำ , ปะการัง , ฯลฯ อ่านมามากแค่ไหน ถามคนโน้นคนนี้ ถามหลายคนบอกหลายอย่าง นั่นเพราะแต่ละคนได้ทดลองมาคนละแบบ คนละปัจจัย เราก็ต้องมีแบบของเราครับ

-   ถ้ามีเงินเยอะ ซื้อเลนส์มาโครจะสะดวกกว่ามากครับ แต่ผมไม่มี


- ยังไงภาพก็ไม่สวยเท่าเลนส์มาโครราคาเป็นหมื่นแน่นอนครับ อย่าเอาไปเปรียบกัน แต่แค่นี้ผมก็สุขกับมันแล้ว

- ภาพมาจากกล้อง canon 1100D ได้เท่านี้ครับ ถ้าเป็นกล้องรุ่นที่สมีสเปคสูงกว่านี้ เช่น 600D , 60D , ฯลฯ คุณภาพของภาพที่ได้น่าจะสูงกว่านี้อีกมากครับ

สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่านครับ ตัวผมยังต้องฝึกฝนอีกมาก ได้แค่นำประสบการณ์ที่เคยใช้ ความรู้ที่เคยอ่านมาแบ่งปัน บางท่านอาจจะทราบแล้ว บางท่านอาจจะยังไม่ทราบ ท่านใดทราบแล้วและมีส่วนใดเพิ่มเติม ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ

ปล.ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการถ่ายถาพครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07/10/13, [19:58:55] โดย Machete »
Aurora ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1 เมื่อ: 07/10/13, [20:02:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชอบๆ อธิบายเข้าใจง่ายดีครับ [เจ๋ง]

ขอแชร์ภาพจากท่อตัวนี้ด้วยคนครับ
Fix 50 mm + ท่อที่ต่อกับกล้อง + ท่อที่ต่อกับเลนส์  ( ท่อ 1 2 3 ไม่ได้ใช้)
No tripod + No flash  ใช้ไฟฉายเอา T.T

 s 1/40 , F 10 , WB auto , ISO 1600



 s 1/60 , F 10 , WB auto , ISO 800



 s 1/60 , F 10 , WB auto , ISO 800
ภาพนี้ครอปนิดหน่อย



มือใหม่หัดถ่ายมาโคร เร่ง ISO มากไป น๊อยซ์บานเบอะเลยทีเดียวครับ  asspain
ยังไงรบกวนชี้แนะด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
NiCoTiN ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #2 เมื่อ: 08/10/13, [09:24:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เยี่ยมครับ คิดจะลองหามาใช้หลายทีละ แต่ยังไม่มีโอกาสซักที

ส่วนถ้าจะซื้อ Len marco มาลองใช้ นอกค่าย มือสอง ผมว่ามันก็โอเค (สำหรับผมนะ)
ถ้าไม่ชอบ จะได้ไม่เจ็บตัวเยอะ ส่วนตัวใช้ Tamron

ส่วนถ้ามีทุนก็ของค่ายยาววววว (ไม่เคยลองเหมือนกันบ่มีตัง)

อันนี้เป็น F20 S1/50 ISO 400




อันนี้เป็น F5.6 S1/40 ISO 400
corydoras ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #3 เมื่อ: 08/10/13, [15:05:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมจะซื้อท่อยังไม่ซื้อเลยครับ เอาแหวนกลับแทน ถูกกว่า 55555 แต่ถ่ายยากซะหลือเกินนนน [on_007]


อ้อ แล้วสมัยนี้มีท่อต่อแบบมีขั้วไฟฟ้าแล้วนะครับ แต่จะเร็วในการโฟกัสไหมอันนี้ไม่รู้ครับ รู้แต่นะจะช่วย auto focus ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08/10/13, [15:06:59] โดย corydoras »
ณ~ใชเหมี่ยง ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #4 เมื่อ: 09/10/13, [09:12:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สวยๆทั้งนั้นเลยอะ  [เจ๋ง]
Machete ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5 เมื่อ: 09/10/13, [13:10:23] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชอบๆ อธิบายเข้าใจง่ายดีครับ [เจ๋ง]

ขอแชร์ภาพจากท่อตัวนี้ด้วยคนครับ
Fix 50 mm + ท่อที่ต่อกับกล้อง + ท่อที่ต่อกับเลนส์  ( ท่อ 1 2 3 ไม่ได้ใช้)
No tripod + No flash  ใช้ไฟฉายเอา T.T

 s 1/40 , F 10 , WB auto , ISO 1600



 s 1/60 , F 10 , WB auto , ISO 800



 s 1/60 , F 10 , WB auto , ISO 800
ภาพนี้ครอปนิดหน่อย



มือใหม่หัดถ่ายมาโคร เร่ง ISO มากไป น๊อยซ์บานเบอะเลยทีเดียวครับ  asspain
ยังไงรบกวนชี้แนะด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

ถ่ายชัดกว่าผมอีกครับ  hur04 ผมก็พึ่งหัดถ่ายได้ไม่นาน ข้าน้อยคงไม่มีอะไรชี้แนะ แบ่งปันกันเอานะครับ มาโครแบบของเราๆเน้นถ่ายในตู้ เสียเปรียบตรงที่ใช้แฟลชติดกล้องไม่ได้นี่แหล่ะครับ ไม่เหมือนที่เค้าถ่ายแมลงกัน

เยี่ยมครับ คิดจะลองหามาใช้หลายทีละ แต่ยังไม่มีโอกาสซักที

ส่วนถ้าจะซื้อ Len marco มาลองใช้ นอกค่าย มือสอง ผมว่ามันก็โอเค (สำหรับผมนะ)
ถ้าไม่ชอบ จะได้ไม่เจ็บตัวเยอะ ส่วนตัวใช้ Tamron

ส่วนถ้ามีทุนก็ของค่ายยาววววว (ไม่เคยลองเหมือนกันบ่มีตัง)

อันนี้เป็น F20 S1/50 ISO 400




อันนี้เป็น F5.6 S1/40 ISO 400

อันนี้ถ่ายจากเลนส์ มาโครเลยใช่มั๊ยครับ สวยมากกก คุณภาพคนละเรื่องจริงๆ

ผมจะซื้อท่อยังไม่ซื้อเลยครับ เอาแหวนกลับแทน ถูกกว่า 55555 แต่ถ่ายยากซะหลือเกินนนน [on_007]


อ้อ แล้วสมัยนี้มีท่อต่อแบบมีขั้วไฟฟ้าแล้วนะครับ แต่จะเร็วในการโฟกัสไหมอันนี้ไม่รู้ครับ รู้แต่นะจะช่วย auto focus ได้


อันนี้ถ่ายจากแหวนกลับเลนส์ใช่มั๊ยครับ ผมไม่มีความรู้เรื่องแหวนเลย ส่วนท่อแบบ ออโต้โฟกัส ราคายังอยู่ที่ 2-3000 บาท คุณภาพสำหรับผมถือว่าแจ๋วเลยครับ แต่ยังติดที่ งบประมาณเหมือนเดิม  [on_007]

Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #6 เมื่อ: 15/10/13, [09:53:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เคยใช้เหมือนกัน แต่ใช้อยู่ทีเดียวโยนทิ้ง เนื่องจากมันถ่ายยากเกิ๊น
มาโครเนี่ยผมถ่ายทีใช้ F8 ขึ้นไปถึงจะชัดได้ใจ เนื่องจากเดฟมันบางมากๆ
ใช้รูรับแสงกว้างๆไม่เวิร์คหรอกครับ
หาเลนส์มาโครมือหมุนมาใช้ดีกว่าคับ ไม่กี่พัน แล้วจะสนุกสนานมากกว่านี้หลายเท่า คอนเฟิร์ม  [เจ๋ง]

ไปดูมาโครมือหมุนตัวละ 4000 บาทได้ที่นี่เลย
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=72076.0






ปล.ถ้าจะใช้ท่อร่วมด้วยเพื่อเพิ่มกำลังขยาย แนะนำท่อที่มีกระเดื่องเตะรูรับแสงให้เปิดกว้างสุดขณะยังไม่ถ่าย
หมายความว่าเราสามารถปรับรูรับแสงแคบๆได้ โดยที่ตอนส่องภาพก็ไม่มืด
เช่น ท่อ M2 ของ nikon หรือ ท่อของ Kenko ที่มีขั้นไฟฟ้าด้วย ใช้กับเลนส์ปกติได้เต็มรูปแบบ  [เจ๋ง]

Machete ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #7 เมื่อ: 15/10/13, [10:40:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เคยใช้เหมือนกัน แต่ใช้อยู่ทีเดียวโยนทิ้ง เนื่องจากมันถ่ายยากเกิ๊น
มาโครเนี่ยผมถ่ายทีใช้ F8 ขึ้นไปถึงจะชัดได้ใจ เนื่องจากเดฟมันบางมากๆ
ใช้รูรับแสงกว้างๆไม่เวิร์คหรอกครับ
หาเลนส์มาโครมือหมุนมาใช้ดีกว่าคับ ไม่กี่พัน แล้วจะสนุกสนานมากกว่านี้หลายเท่า คอนเฟิร์ม  [เจ๋ง]

ไปดูมาโครมือหมุนตัวละ 4000 บาทได้ที่นี่เลย
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=72076.0






ปล.ถ้าจะใช้ท่อร่วมด้วยเพื่อเพิ่มกำลังขยาย แนะนำท่อที่มีกระเดื่องเตะรูรับแสงให้เปิดกว้างสุดขณะยังไม่ถ่าย
หมายความว่าเราสามารถปรับรูรับแสงแคบๆได้ โดยที่ตอนส่องภาพก็ไม่มืด
เช่น ท่อ M2 ของ nikon หรือ ท่อของ Kenko ที่มีขั้นไฟฟ้าด้วย ใช้กับเลนส์ปกติได้เต็มรูปแบบ  [เจ๋ง]



ในที่สุดก็มีคนรู้จริงมาตอบ ขอบคุณมากครับ ถ่ายยากจริงๆครับท่อนี้ ผมเลยต้องใช้ F ต่ำๆ Speed สูงๆ อ่ะครับ ไม่งั้นถ่ายปลาไม่อยู่กับที่ไม่ทันเลย  n032 เดี๋ยวผมไปลองตามคำแนะนำก่อน แล้วจะมาส่งการบ้านครับ ส่วนเลนส์มาโคร ยังไม่อนุมัติครับ  [on_024]
RetroAqua79 ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #8 เมื่อ: 22/10/13, [12:12:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เสริมหน่อยครับ ^^

ความใส่ของกระจกตู้ มีผลกับความชัดของภาพนะครับ ก่อนถ่ายให้เช็ดตู้ให้สะอาดๆก่อน เป็นไปได้ หาฮูดยาง Rubber Hood มาใส่หน้าเลนส์ เพื่อป้องกับแสงสะท้อนจากที่อื่นครับ (เอามือป้องๆแสงเอาก็ได้ครับ)

บางคนที่ใช้ตู้กระจกโค้งๆ อาจจะทำให้ภาพดู Distortion หรืออาจจะไม่ชัด เท่าตู้กระจบธรรมดานะครับ  [on_018]

เลนส์มือหมุน + Adapter แปลง + Macro Tube จะทำให้คุณได้ภาพใกล้ขึ้นอีกครับ
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: