------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คิดว่าเพื่อนๆพี่ๆ หลายคนที่ใช้อาร์ทีเมียในการอนุบาลลูกปลากัด คงจะมีปัญหาเรื่องการแยกเปลือกไข่เหมือนผม เลยเอาวิธีขจัดเปลือกไข่อาร์ทีเมียมาฝาก เป็นวิธีที่ใช้กันอยู่ในฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้งครับ
การฟอกเปลือกไข่อาร์ทีเมีย( Decapsulation of Cysts)
โดยทั่วไปหลังจากการทำเพาะฟักไข่อาร์ทีเมียที่คุณภาพต่ำ มักจะมีความสกปรกและเชื้อ ปนเปื้อนทำให้การเพาะฟัก และการแยกเปลือกไข่ต่ำหรือไม่สามารถที่จะแยกเปลือกไข่หรือไข่ฝ่อออกจากอาร์ทีเมียวัยอ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งด้านสัตว์น้ำกินเปลือกไข่อาร์ทีเมียเข้าไป ก็ไม่สามารถย่อยได้ อาจก่อให้เกิดปัญหาระบบทางเดินอาหารอุดตัน นอกจากนั้นที่เปลือกไข่ส่วนใหญ่จะพบแบคทีเรียหรือ สิ่งสกปรกต่างๆ ติดอยู่ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในระบบการอนุบาลสัตว์น้ำนั้นๆ อยู่เสมอ จึงจำเป็นต้องปรับ คุณภาพไข่อาร์ทีเมียให้ดีขึ้น นอกจากนี้แล้วยังสามารถฟอกเอาส่วนเปลือกของไข่ ชั้นนอกที่เป็นสีน้ำตาล (chrion) ออกโดยไม่กระทบกระเทือนถึงตัวอ่อนที่อยู่ภายใน โดยใช้สารเคมี พวกไฮโปรคลอไรด์ (hypochlorite ; OCl)
1. การเตรียมสารสำหรับฟอกเปลือกไข่
โดยทั่วไปแล้วสารสำหรับฟอกเปลือกไข่จะเป็นสารประกอบพวก ไฮโปรคลอไรด์ (hypochlorite ; OCl) ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแคลเซียมไฮโปรคลอไรด์ (calcium hypochlorite ; Ca(OCl)2) หรือโซเดียมไฮโปรคลอไรด์ (sodium hypochlorite ; NaOCl) โปรตัสเซียมไฮโปรคลอไรด์ ( potassium hypochlorite ; KOCl) โดยปริมาณของสารเคมีที่ใช้ขึ้นอยู่กับปริมาณของความเข้มข้นของสารไฮโปรคลอไรด์ (active product) ในสารประกอบนั้นๆ โดยใช้ประมาณ 0.5 กรัมของ active product (Ca(OCl)2) หรือ NaOCl หรือ KOCl ในสารละลายที่เป็นด่าง (pH อย่างน้อย 11) สำหรับฟอกไข่อาร์ทีเมีย 1 กรัม
2. ขั้นตอนการฟอกเปลือกไข่ (Decapsulation)
- นำไข่อาร์ทีเมียแห้งแช่ลงในน้ำจืดหรือและน้ำทะเลนานประมาณ 1-2 ชั่วโมง ไข่จะดูดซับน้ำจนอิ่มตัว (hydrate cysts)
- ก่อนใช้สารประกอบพวกไฮโปรคลอไรด์ (hypochlorite) ฟอกเปลือกไข่ อาร์ทีเมีย ควรปรับ pH ของน้ำที่ใช้ฟอกไข่ให้มีค่าอย่างน้อย 11 เนื่องจากพวก hypochlorite จะทำปฏิกิริยาได้ดีในสภาวะที่เป็นด่าง ส่วนประกอบพวกด่างที่นิยมใช้กัน เช่น โซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodiumhydroxide ; NaOH) 0.15 กรัมต่อไข่อาร์ทีเมีย 1 กรัม หรือปูนขาว (Ca(OH)2) 0.4 กรัมต่อไข่อาร์ทีเมีย 1 กรัม
- นำไข่อิ่มตัวด้วยน้ำมาใส่ภาชนะที่บรรจุสารละลายสำหรับฟอกเปลือกไข่ (decapsulation solution) กวนหรือคนให้อากาศตลอดเวลานานประมาณ 5-15 นาที
- ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 40 องศาเซลเซียส เนื่องจากในระหว่างที่ฟอกเปลือกไข่จะมีความร้อนเกิดขึ้น หากอุณหภูมิสูงเกินไปจะเกิดปฏิกิริยารุนแรง จึงต้องมีการควบคุมอุณหภูมิโดยการใส่น้ำเย็นหรือน้ำแข็ง
- สังเกตดูสีของไข่อาร์ทีเมียซึ่งจะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีส้ม เมื่อการฟอกเอาเปลือกไข่ (chorion) ออกหมดแล้ว จากนั้นจะนำไข่ที่ฟอกแล้วมาล้างในน้ำจืด หรือน้ำทะเลจนกระทั่งน้ำที่ใช้ล้างใสสะอาด
- ลดความเป็นพิษของสารประกอบพวกไฮโปรคลอไรด์ที่อาจจะเหลืออยู่ โดยการนำไข่อาร์ทีเมียที่ฟอกเปลือกออกล้างสะอาดแล้วนำไปใส่ลงใน 0.1 เปอร์เซ็นต์ โซเดียมไธโอซัลเฟต (0.1 เปอร์เซ็นต์ sodiumthiosulfate Na2S2O22H2O) ประมาณ 15 นาที
- นำไปล้างในน้ำจืดหรือและน้ำทะเลจนกระทั่งหมดกลิ่นคลอรีน
3. การใช้ประโยชน์และการเก็บรักษาไข่อาร์ทีเมียที่ฟอกเปลือกออกแล้ว
ไข่อาร์ทีเมียที่ฟอกเปลือกและล้างน้ำจนกระทั่งสะอาดแล้ว สามารถที่จะทยอยนำไปทำการเพาะฟัก หรือนำไปเป็นอาหารของสัตว์น้ำโดยตรงต่อไป ส่วนที่เหลือก็นำไปเก็บรักษาในน้ำเกลือเข้มข้น (ความเค็มมากกว่า 240 ppt.) ภายใต้อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง ความรู้เกี่ยวกับอาร์ทีเมีย โดย อนันต์ ตันสุตะพานิช
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งฉะเชิงเทรา
บางท่านอ่านแล้วอาจจะงงๆ เอาล่ะ มาดูวิธีประยุกต์ใช้ให้ง่ายกับชาวบ้านอย่างเราๆกันเถอะ
การฟอกไข่อาร์ทีเมีย (ฉบับปรับปรุง)
1. การเตรียมสารสำหรับฟอกเปลือกไข่
-เอาล่ะ พี่ๆน้องๆที่ไม่ได้เรียนเคมีมาอาจจะงงๆ ไอ้สารไฮโปรคลอไรด์ มันคืออะไร และหาซื้อได้ที่ไหน จริงๆมันมีจำหน่ายเป็นถังเลยครับ ตามร้านขายเคมีภัณฑ์ แต่เราจะเอาไปทำอะไรล่ะ เยอะขนาดนั้น ถ้าเป็นฟาร์มกุ้งก็ว่าไปอย่าง เราสามารถหาได้ง่ายๆ และใกล้ตัวจนคิดไม่ถึง มันคือไฮเตอร์ครับ ถูกแล้วครับ มันคือน้ำยาซักผ้าขาวนั่นแหละ สามารถขอได้จากแม่บ้านของเรานี่เอง ไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติม ไม่ต้องปรับค่าอะไรด้วย ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
2. ขั้นตอนการฟอกเปลือกไข่
-ลงมือทำกันได้แล้วครับ เวลาเราจะฟอกเปลือกอาร์ทีเมีย ให้คำนึงอย่างแรกเลยก็คือ ปริมาณการใช้ครับ เพราะถ้าฟอกมาแล้วจะเก็บได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เท่านั้น เกินจากนั้นจะไม่ค่อยดีแล้ว สารอาหารจากอาร์ทีเมียก็จะค่อยๆลดลงครับ
-นำไข่อาร์มีเมียไปแช่น้ำประมาณ 1 ชั่วโมงครับ เพื่อให้เปลือกไข่นิ่มขึ้น จะได้ง่ายต่อการฟอกไข่ครับ อันที่จริงการแช่น้ำไข่อาร์ทีเมียก่อนนำไปเพาะฟัก เป็นเทคนิคอย่างง่ายในการทำให้การฟักตัวของอาร์ทีเมียง่ายและเร็วขึ้นนะครับ
-หลังจากนั้นก็ฟอกเลย โดยนำน้ำ 1 ลิตร ผสมไฮเตอร์ 2-3 ฝา นำไข่อาร์ทีเมียที่ต้องการฟอกใส่ลงไป (น้ำ 1 ลิตร จะฟอกไข่ได้ประมาณ 50 กรัม) เป่าอ๊อกซิเจนลงไป เพื่อให้ไข่สัมผัสกับสารละลายได้ทั่วถึง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยให้ดูจากสีของไข่อาร์ทีเมีย จะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีส้ม ถ้าเป็นสีส้มแล้วก็ใช้ได้แล้วล่ะ
-ล้างน้ำให้สะอาด โดยล้างให้หมดกลิ่นของไฮเตอร์
-ขจัดสารตกค้างให้หมด โดยใช้ของใกล้ตัวอีก เพราะโซเดียมไธโอซัลเฟต มันหายากครับ หาซื้อตามร้านขายของชำไม่ได้ ในเมื่อไฮเตอร์มันเป็นด่าง เราก็จะใช้น้ำส้มสายชูครับ เป็นการใช้กรดสะเทินด่าง (ก็ปรับให้เป็นกลางนั่นแหละ) น้ำส้มสายชูถ้าขี้เกียจไปซื้อก็ขอแม่บ้านอีกตามเคยนั่นแหละครับ วิธีใช้ก็ แช่ไข่อาร์ทีเมียลงไปเลยครับ แล้วจากนั้นก็คนไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที
-ล้างน้ำให้สะอาดครับ เป็นอันเสร็จพิธี
3. การนำไปใช้และการเก็บรักษา
-ไข่อาร์ทีเมียที่ฟอกแล้วสามารถนำไปใช้ได้ทันทีครับ โดยระยะเวลาในการเพาะฟักจะสั้นลง เช่นจาก 24 ชม.จะเหลือเพียง 16 ชม.หรือจาก 36 ชม.เหลือ 24 ชม. ครับขึ้นอยู่กับเกรดของไข่อาร์ทีเมียด้วยครับ
-ส่วนการเก็บนั้นก็ให้เก็บในน้ำเกลือครับ เอาแบบที่ว่า ผสมเกลือเข้าไปคนแล้วไม่ละลาย(สารละลายอิ่มตัว)น่ะครับ เอาให้เค็มสุดๆเลย แล้วก็เก็บไว้ในตู้เย็น ช่องธรรมดานะครับ อย่าแช่ช่องฟรีส (ประมาณ 4 องศาเซลเซียส) จะเพาะเมื่อไหร่ก็เอาออกมาใช้ได้เลยครับ
4. ข้อควรระวัง
-เพิ่มข้อนี้มาให้ครับ เพราะเดี๋ยวจะเห็นแต่ด้านดี ขอเตือนไว้หน่อยดีกว่าครับ
-ไฮเตอร์เป็นสารเคมีอันตรายครับ เวลาทำต้องใช้ผ้าปิดจมูกหน่อยนะครับ และให้ใช้อย่างระมัดระวังด้วย
-ไม่ใช่แต่คนนะครับ ปลาก็อันตราย ไฮเตอร์ก็เหมือนคลอรีนเป็นพิษต่อปลา ดังนั้นให้ล้างไข่ให้สะอาดและต้องแน่ใจว่าไฮเตอร์หมดแล้วจริงๆ (แช่ในน้ำส้มสายชูให้นานหน่อยก็ได้ และต้องคนให้ทั่วด้วย แต่คิดว่า 5 นาที น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้านานกว่านั้นมันเมื่อยครับ
-สุดท้าย ทำบ่อยระวังแม่บ้านเขม่นนะครับ เพราะเล่นเอาอุปกรณ์มาจากครัวบ้าง จากที่ใช้ซักผ้าบ้าง แนะนำลงทุนหน่อยก็ดีนะครับ เพราะเคยโดนบ่นมาแล้ว .... ฮะ ฮะ .... ขอให้มีความสุขในการเพาะปลาครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Reff : "http://www.bettanetwork.com/forum/archiver/?tid-5481.html"
การฟอกเปลือกไข่อาร์ทีเมีย( Decapsulation of Cysts)
โดยทั่วไปหลังจากการทำเพาะฟักไข่อาร์ทีเมียที่คุณภาพต่ำ มักจะมีความสกปรกและเชื้อ ปนเปื้อนทำให้การเพาะฟัก และการแยกเปลือกไข่ต่ำหรือไม่สามารถที่จะแยกเปลือกไข่หรือไข่ฝ่อออกจากอาร์ทีเมียวัยอ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งด้านสัตว์น้ำกินเปลือกไข่อาร์ทีเมียเข้าไป ก็ไม่สามารถย่อยได้ อาจก่อให้เกิดปัญหาระบบทางเดินอาหารอุดตัน นอกจากนั้นที่เปลือกไข่ส่วนใหญ่จะพบแบคทีเรียหรือ สิ่งสกปรกต่างๆ ติดอยู่ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในระบบการอนุบาลสัตว์น้ำนั้นๆ อยู่เสมอ จึงจำเป็นต้องปรับ คุณภาพไข่อาร์ทีเมียให้ดีขึ้น นอกจากนี้แล้วยังสามารถฟอกเอาส่วนเปลือกของไข่ ชั้นนอกที่เป็นสีน้ำตาล (chrion) ออกโดยไม่กระทบกระเทือนถึงตัวอ่อนที่อยู่ภายใน โดยใช้สารเคมี พวกไฮโปรคลอไรด์ (hypochlorite ; OCl)
1. การเตรียมสารสำหรับฟอกเปลือกไข่
โดยทั่วไปแล้วสารสำหรับฟอกเปลือกไข่จะเป็นสารประกอบพวก ไฮโปรคลอไรด์ (hypochlorite ; OCl) ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแคลเซียมไฮโปรคลอไรด์ (calcium hypochlorite ; Ca(OCl)2) หรือโซเดียมไฮโปรคลอไรด์ (sodium hypochlorite ; NaOCl) โปรตัสเซียมไฮโปรคลอไรด์ ( potassium hypochlorite ; KOCl) โดยปริมาณของสารเคมีที่ใช้ขึ้นอยู่กับปริมาณของความเข้มข้นของสารไฮโปรคลอไรด์ (active product) ในสารประกอบนั้นๆ โดยใช้ประมาณ 0.5 กรัมของ active product (Ca(OCl)2) หรือ NaOCl หรือ KOCl ในสารละลายที่เป็นด่าง (pH อย่างน้อย 11) สำหรับฟอกไข่อาร์ทีเมีย 1 กรัม
2. ขั้นตอนการฟอกเปลือกไข่ (Decapsulation)
- นำไข่อาร์ทีเมียแห้งแช่ลงในน้ำจืดหรือและน้ำทะเลนานประมาณ 1-2 ชั่วโมง ไข่จะดูดซับน้ำจนอิ่มตัว (hydrate cysts)
- ก่อนใช้สารประกอบพวกไฮโปรคลอไรด์ (hypochlorite) ฟอกเปลือกไข่ อาร์ทีเมีย ควรปรับ pH ของน้ำที่ใช้ฟอกไข่ให้มีค่าอย่างน้อย 11 เนื่องจากพวก hypochlorite จะทำปฏิกิริยาได้ดีในสภาวะที่เป็นด่าง ส่วนประกอบพวกด่างที่นิยมใช้กัน เช่น โซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodiumhydroxide ; NaOH) 0.15 กรัมต่อไข่อาร์ทีเมีย 1 กรัม หรือปูนขาว (Ca(OH)2) 0.4 กรัมต่อไข่อาร์ทีเมีย 1 กรัม
- นำไข่อิ่มตัวด้วยน้ำมาใส่ภาชนะที่บรรจุสารละลายสำหรับฟอกเปลือกไข่ (decapsulation solution) กวนหรือคนให้อากาศตลอดเวลานานประมาณ 5-15 นาที
- ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 40 องศาเซลเซียส เนื่องจากในระหว่างที่ฟอกเปลือกไข่จะมีความร้อนเกิดขึ้น หากอุณหภูมิสูงเกินไปจะเกิดปฏิกิริยารุนแรง จึงต้องมีการควบคุมอุณหภูมิโดยการใส่น้ำเย็นหรือน้ำแข็ง
- สังเกตดูสีของไข่อาร์ทีเมียซึ่งจะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีส้ม เมื่อการฟอกเอาเปลือกไข่ (chorion) ออกหมดแล้ว จากนั้นจะนำไข่ที่ฟอกแล้วมาล้างในน้ำจืด หรือน้ำทะเลจนกระทั่งน้ำที่ใช้ล้างใสสะอาด
- ลดความเป็นพิษของสารประกอบพวกไฮโปรคลอไรด์ที่อาจจะเหลืออยู่ โดยการนำไข่อาร์ทีเมียที่ฟอกเปลือกออกล้างสะอาดแล้วนำไปใส่ลงใน 0.1 เปอร์เซ็นต์ โซเดียมไธโอซัลเฟต (0.1 เปอร์เซ็นต์ sodiumthiosulfate Na2S2O22H2O) ประมาณ 15 นาที
- นำไปล้างในน้ำจืดหรือและน้ำทะเลจนกระทั่งหมดกลิ่นคลอรีน
3. การใช้ประโยชน์และการเก็บรักษาไข่อาร์ทีเมียที่ฟอกเปลือกออกแล้ว
ไข่อาร์ทีเมียที่ฟอกเปลือกและล้างน้ำจนกระทั่งสะอาดแล้ว สามารถที่จะทยอยนำไปทำการเพาะฟัก หรือนำไปเป็นอาหารของสัตว์น้ำโดยตรงต่อไป ส่วนที่เหลือก็นำไปเก็บรักษาในน้ำเกลือเข้มข้น (ความเค็มมากกว่า 240 ppt.) ภายใต้อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง ความรู้เกี่ยวกับอาร์ทีเมีย โดย อนันต์ ตันสุตะพานิช
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งฉะเชิงเทรา
บางท่านอ่านแล้วอาจจะงงๆ เอาล่ะ มาดูวิธีประยุกต์ใช้ให้ง่ายกับชาวบ้านอย่างเราๆกันเถอะ
การฟอกไข่อาร์ทีเมีย (ฉบับปรับปรุง)
1. การเตรียมสารสำหรับฟอกเปลือกไข่
-เอาล่ะ พี่ๆน้องๆที่ไม่ได้เรียนเคมีมาอาจจะงงๆ ไอ้สารไฮโปรคลอไรด์ มันคืออะไร และหาซื้อได้ที่ไหน จริงๆมันมีจำหน่ายเป็นถังเลยครับ ตามร้านขายเคมีภัณฑ์ แต่เราจะเอาไปทำอะไรล่ะ เยอะขนาดนั้น ถ้าเป็นฟาร์มกุ้งก็ว่าไปอย่าง เราสามารถหาได้ง่ายๆ และใกล้ตัวจนคิดไม่ถึง มันคือไฮเตอร์ครับ ถูกแล้วครับ มันคือน้ำยาซักผ้าขาวนั่นแหละ สามารถขอได้จากแม่บ้านของเรานี่เอง ไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติม ไม่ต้องปรับค่าอะไรด้วย ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
2. ขั้นตอนการฟอกเปลือกไข่
-ลงมือทำกันได้แล้วครับ เวลาเราจะฟอกเปลือกอาร์ทีเมีย ให้คำนึงอย่างแรกเลยก็คือ ปริมาณการใช้ครับ เพราะถ้าฟอกมาแล้วจะเก็บได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เท่านั้น เกินจากนั้นจะไม่ค่อยดีแล้ว สารอาหารจากอาร์ทีเมียก็จะค่อยๆลดลงครับ
-นำไข่อาร์มีเมียไปแช่น้ำประมาณ 1 ชั่วโมงครับ เพื่อให้เปลือกไข่นิ่มขึ้น จะได้ง่ายต่อการฟอกไข่ครับ อันที่จริงการแช่น้ำไข่อาร์ทีเมียก่อนนำไปเพาะฟัก เป็นเทคนิคอย่างง่ายในการทำให้การฟักตัวของอาร์ทีเมียง่ายและเร็วขึ้นนะครับ
-หลังจากนั้นก็ฟอกเลย โดยนำน้ำ 1 ลิตร ผสมไฮเตอร์ 2-3 ฝา นำไข่อาร์ทีเมียที่ต้องการฟอกใส่ลงไป (น้ำ 1 ลิตร จะฟอกไข่ได้ประมาณ 50 กรัม) เป่าอ๊อกซิเจนลงไป เพื่อให้ไข่สัมผัสกับสารละลายได้ทั่วถึง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยให้ดูจากสีของไข่อาร์ทีเมีย จะเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีส้ม ถ้าเป็นสีส้มแล้วก็ใช้ได้แล้วล่ะ
-ล้างน้ำให้สะอาด โดยล้างให้หมดกลิ่นของไฮเตอร์
-ขจัดสารตกค้างให้หมด โดยใช้ของใกล้ตัวอีก เพราะโซเดียมไธโอซัลเฟต มันหายากครับ หาซื้อตามร้านขายของชำไม่ได้ ในเมื่อไฮเตอร์มันเป็นด่าง เราก็จะใช้น้ำส้มสายชูครับ เป็นการใช้กรดสะเทินด่าง (ก็ปรับให้เป็นกลางนั่นแหละ) น้ำส้มสายชูถ้าขี้เกียจไปซื้อก็ขอแม่บ้านอีกตามเคยนั่นแหละครับ วิธีใช้ก็ แช่ไข่อาร์ทีเมียลงไปเลยครับ แล้วจากนั้นก็คนไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที
-ล้างน้ำให้สะอาดครับ เป็นอันเสร็จพิธี
3. การนำไปใช้และการเก็บรักษา
-ไข่อาร์ทีเมียที่ฟอกแล้วสามารถนำไปใช้ได้ทันทีครับ โดยระยะเวลาในการเพาะฟักจะสั้นลง เช่นจาก 24 ชม.จะเหลือเพียง 16 ชม.หรือจาก 36 ชม.เหลือ 24 ชม. ครับขึ้นอยู่กับเกรดของไข่อาร์ทีเมียด้วยครับ
-ส่วนการเก็บนั้นก็ให้เก็บในน้ำเกลือครับ เอาแบบที่ว่า ผสมเกลือเข้าไปคนแล้วไม่ละลาย(สารละลายอิ่มตัว)น่ะครับ เอาให้เค็มสุดๆเลย แล้วก็เก็บไว้ในตู้เย็น ช่องธรรมดานะครับ อย่าแช่ช่องฟรีส (ประมาณ 4 องศาเซลเซียส) จะเพาะเมื่อไหร่ก็เอาออกมาใช้ได้เลยครับ
4. ข้อควรระวัง
-เพิ่มข้อนี้มาให้ครับ เพราะเดี๋ยวจะเห็นแต่ด้านดี ขอเตือนไว้หน่อยดีกว่าครับ
-ไฮเตอร์เป็นสารเคมีอันตรายครับ เวลาทำต้องใช้ผ้าปิดจมูกหน่อยนะครับ และให้ใช้อย่างระมัดระวังด้วย
-ไม่ใช่แต่คนนะครับ ปลาก็อันตราย ไฮเตอร์ก็เหมือนคลอรีนเป็นพิษต่อปลา ดังนั้นให้ล้างไข่ให้สะอาดและต้องแน่ใจว่าไฮเตอร์หมดแล้วจริงๆ (แช่ในน้ำส้มสายชูให้นานหน่อยก็ได้ และต้องคนให้ทั่วด้วย แต่คิดว่า 5 นาที น่าจะเพียงพอแล้ว ถ้านานกว่านั้นมันเมื่อยครับ
-สุดท้าย ทำบ่อยระวังแม่บ้านเขม่นนะครับ เพราะเล่นเอาอุปกรณ์มาจากครัวบ้าง จากที่ใช้ซักผ้าบ้าง แนะนำลงทุนหน่อยก็ดีนะครับ เพราะเคยโดนบ่นมาแล้ว .... ฮะ ฮะ .... ขอให้มีความสุขในการเพาะปลาครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Reff : "http://www.bettanetwork.com/forum/archiver/?tid-5481.html"