Aqua.c1ub.net
*
  Wed 29/May/2024
หน้า: 1 ... 5 6 7 8 9 ... 20   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องที่37 การเลี้ยงกุ้งสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงซึ่งอาจจะทำให้กุ้งตาย P.19  (อ่าน 215172 ครั้ง)
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #180 เมื่อ: 23/05/12, [21:42:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

การเลี้ยงรวมกันการเจริญเติบโตของกุ้งเครฟิชจะโตเร็วกว่าเลี้ยงตัวเดียวค่ะ

เพราะการเลี้ยงรวมจะแย่งกันอยู่แย่งกันกิน เหมือนเด็กวัด ทำให้กุ้งแข็งแรง กินเก่ง กินไม่ทันอด  ้hahaha ้hahaha
แต่ต้องดูแลคัดแยกการลอกคราบของแต่ละตัวในตู้นะค่ะ แต่ถ้าแยกลอกคราบไม่ทันก็.... cryingrun


 [on_055]
pol_amt-07 ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #181 เมื่อ: 25/05/12, [23:19:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณข้อมูลดีดีครับ ทำให้ผมระวังมากขึ้น กลัวกุ้งตาย
pachman ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #182 เมื่อ: 26/05/12, [10:31:58] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณมากครับกำลังศึกษาดู  เผื่อตอนปิดเทอมจะงอกตู้เลี้ยงมั่ง [on_026] [on_026] [on_026]
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #183 เมื่อ: 26/05/12, [21:12:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เดสสายเลือดแท้ เดสครึ่งเพิล เดสเสี้ยวเพิล แตกต่างกันอย่างไร 031 P.7

เดสสายเลือดแท้ คือ เดสลูกนอกที่นำมาเลี้ยงในประเทศไทย สีน้ำเงินข้อก้ามแดง  สีน้ำตาลข้อก้ามแดง สีเทาก้ามดำ
                                   สีเขียวขี้ม้าก้ามน้ำเงิน และอีกหลายๆสี
                                   เดสสายเลือดแท้ผสมเดสสายเลือดแท้แท้ ลูกที่ออกมาเรียกว่า.....เดสสายเลือดแท้ลูกใน

เดสครึ่งเพิร์ล   คือ เดสสายเลือดแท้สีน้ำเงินข้อก้ามแดงผสมกับบลูเพิร์ล ลูกที่ออกมาจะสีน้ำเงินหรือฟ้าข้อก้ามขาว
                                ข้อก้ามแดงเรียกว่า เดสครึ่งเพิร์ล

เดสเสี้ยวเพิร์ล  คือ เดสครึ่งเพิร์ลข้อก้ามขาว ผสม เดสครึ่งเพิร์ลข้อก้ามขาว ลูกออกมาเีรียกว่า.....เดสเสี้ยวเพิร์ล

ปัจจุบันในบ้านเราจะมีแต่..เดสเลี้ยวเพิร์ล...เป็นส่วนใหญ่  เพราะไม่ได้นำเข้าเดสแท้ลูกนอกมา2ปีแล้วค่ะ
ส่วนใหญ่ผู้เพาะก็นำเดสน้ำเงินเสี้ยวเพิร์ล เดสฟ้าเสี้ยวเพิร์ล..ที่พ่อพันธุ์แม่พันธุ์..สวยๆมาผสมกัน  
ลูกๆที่ออกมาก็จะเรียกว่า เดสเสี้ยวเพิร์ล

นอกจากจะมีผู้เพาะที่มีพ่อแม่พันธุ์บลูเพิร์ลมาผสมกับเดสที่มีอยู่ในปัจจุบันคือ..เดสเสี้ยวเพิร์ล  ก็จะมีสายเลือดบลูเพิร์ลมากขึ้น
ถ้ามีการผสมกันขึ้นก็จะเรียกชือว่า  บลูเพิร์ลเดสเสี้ยวเพิร์ล หรือ เดสเสี้ยวเพิร์ลบลูเพิร์ล  

แต่ทั้งหมดนี้ ถ้าเดสจะผสมกับบลูเพิร์ล ครึ่งเพิร์ล เสี้ยวเพิร์ล ร่วมเรียกว่า เดสทรัคเตอร์ค่ะ

 hawaii

ส่วนใหญ่การผสมระหว่างเดสทรัคเตอร์กับบูลเพิร์ล  จะใช้พ่อพันธุ์บลูเพิร์ลและแม่พันธุ์เดสน้ำเงิน
เพราะเดสสามารถเพาะพันธุ์ได้ที่20-30องศา  พ่อพันธุ์บลูเพิร์ลสามารถเลี้ยงน้ำได้ที่20-25องศา
ดังนั้นถ้านำพ่อบลูเพิร์ลมาผสมกับเดสได้สบายมาก   ที่สำคัญพ่อพันธุ์บลูเพิร์ลต้องไซส์4.5นิ้วจึงจะสมบูรณ์ค่ะ
ถ้าผสมกันแล้ว  ลูกๆที่ออกมาจะเรียกว่าเดสครึ่งเพิร์ล และลูกต่อลูกมาผสมพันธุ์กันอีกที...เรียกว่า เดสเสี้ยวเพิร์ล

ทำไมไม่เอาพ่อเดสมาผสมกับแม่บลูเพิร์ลล่ะ  
เพราะแม่บลูเพิร์ลจะผสมพันธุ์ที่น้ำประมาณ16-18องศา
พ่อเดสก็จะจำศีลก่อนค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17/01/13, [19:13:30] โดย ณัฐ Yabby House »
pachman ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #184 เมื่อ: 27/05/12, [08:53:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมสนใจกุ้งไบท์ออเรนกับบูลล็อบเตอร์  มันแตกต่างกันยังไงบ้างครับ  แล้วตัวไหนอึดเลี้ยงง่ายกว่ากัน
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #185 เมื่อ: 27/05/12, [10:08:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมสนใจกุ้งไบท์ออเรนกับบูลล็อบเตอร์  มันแตกต่างกันยังไงบ้างครับ  แล้วตัวไหนอึดเลี้ยงง่ายกว่ากัน
กุ้งไบท์ออเรน สาย P ก้ามหนาม  ไซส์ใหญ่ประมาณ 3.5-4นิ้ว
บลูล็อบเตอร์  สาย C ก้ามยาวเรียวเล็ก ไม่ป่อง ไซส์ใหญ่ประมาณ 10-12นิ้ว

การเลี้ยงอุณหภูมิ น้ำธรรมดา 26-30องศา ทั้งสองสายพันธุ์

กุ้งไบท์ออเรนและบลูล็อบเตอร์ เลี้ยงง่ายเพาะง่ายทั้งสองสายพันธุ์

บลูล็อบเตอร์ เลี้ยงอึดกว่าค่ะ 

 [on_055] 
pachman ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #186 เมื่อ: 27/05/12, [10:22:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าเลี้ยงตัวเดียวตู้ 20 นิ้วได้มั้ยครับ

ส่วนแบคทีเรียไม่ใส่มันจะเกิดอะไรมั้ยครับ
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #187 เมื่อ: 27/05/12, [10:59:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าเลี้ยงตัวเดียวตู้ 20 นิ้วได้มั้ยครับ

ส่วนแบคทีเรียไม่ใส่มันจะเกิดอะไรมั้ยครับ
เลี้ยงตัวเดียวตู้ 20 นิ้วได้ค่ะ  เปิดอ๊อคซิเจนด้วยนะค่ะหรือใช้กรองฟองน้ำ

ส่วนแบคทีเรียไม่ใส่มันจะเกิดอะไรมั้ยครับ
ก็ต้องรอแบคทีเรียเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 30วัน
แต่ถ้าใส่แบคทีเรียน้ำ สภาพน้ำดี กุ้งก็มีสุขภาพดีค่ะ
แบคทีเรียจะช่วยย่อยของเสียในน้ำด้วยนะค่ะ

 [on_055]

ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #188 เมื่อ: 28/05/12, [08:19:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เดสสีน้ำเงินข้อก้ามแดงลูกนอก(เดสสายเลือดแท้)ผสมกับบลูเพิร์ล  [ถูกต้องนะค้า] P.7

บลูเพิร์ลเลี้ยงน้ำ23-25องศา เป็นกุ้งที่มีราคาแพงมากและต้องเลี้ยงน้ำเย็น สีถึงจะสวย  ยิ่งเย็นมากก็เดินมาก
2ปีที่ผ่านมาก มีเดสแท้ลูกนอกนำเข้ามาจำหน่าย ราคาไม่ค่อยแพงมาก  เลี้ยงน้ำ22-25องศาก็ได้ 26-30ก็ได้
ผู้เพาะเลี้ยงเพาะขายเมื่อ2ปีที่แล้ว ก็นำบลูเพิร์ลและเดสสีน้ำเงินข้อก้ามแดงมาผสมกัน เพื่อต้องการสีแบบเดียวกับบลูเพิร์ล
คือสีฟ้า-น้ำเงิน  และเลี้ยงน้ำธรรมดาได้ ราคาก็ไม่ต้องสูงมาก  ลูกผสมที่ออกมาผู้เพาะเลี้ยงเพาะขายในตอนนั้น
ตั้งชื่อว่า เดสครึ่งเพิร์ล และต่อมาผู้เพาะเลี้ยงเพาะขายก็เอาลูกเดสครึ่งเพิร์ลมาผสมลูกเดสครึ่งเพิร์ล ลูกที่ออกมา
เรียกชื่อว่า เดสเสี้ยวเพิร์ล  2ปีที่ผ่านมาผู้เพาะเลี้ยงเพาะขายก็นำเดสฟ้าหรือเดสน้ำเงินเสี้ยวเพิร์ลมาเพาะกับเดสฟ้า
หรือเดสน้ำเงินเสี้ยวเพิร์ล  เด็กที่ออกมาก็เป็นเดสเสี้ยวเพิร์ลจนถึงปัจจุบัน

ปีนี้ส่วนใหญ่ยังไม่มีเดสแท้ลูกนอกนำเข้ามาจำหน่าย
และปัจจุบันยังไม่มีบลูเิพิร์ลลูกนอกนำเข้ามาจำหน่ายเหมือนกัน
ส่วนบลูเพิร์ลของณัฐ 2 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้นำบลูเพิร์ลลูกในที่เลี้ยงอยู่นำมาผสมกับเดส
ปัจจุบันส่วนใหญ่ก็คงไม่มี...เดสครึ่งเพิร์ล  มีแต่เดสเลี้ยวเพิร์ล

ปัจจุบัน ณัฐนำบลูเพิร์ลลูกในส่วนนึ่งนำมาผสมกับเดสฟ้าเสี้ยวเพิร์ล และเดสน้ำเงินเสี้ยวเพิร์ล
ถ้าผสมได้และตั้งท้องประมาณ30วัน ลูกๆที่ออกมา จะได้สายเลือดบลูเพิร์ลมากขึ้น สีก็จะฟ้าหรือน้ำเงินมากขึ้น
ชื่อที่เรียกน่าจะเป็น บลูเพิร์ลเดสเสี้่ยวเพิร์ล หรือ เดสเสี้ยวเพิร์ลบลูเพิร์ล และถ้าเอาลูกผสมกันต่อไปก็จะ
เรียกว่าเดสเสี้ยวเพิร์ลต่อไป แต่สีก็จะสวยขึ้น  แต่จะเรียกชื่ออะไรก็แล้วแต่ เรียกรวมกันว่าเดสทรัคเตอร์

เดสฟ้า เดสน้ำเงิน  เดสฟ้าเสี้ยวเพิร์ล เดสน้ำเงินเสี้ยวเพิร์ล เป็นชื่อเดียวกันทั้งหมดเรียกว่า เดสเสี้ยวเพิร์ล
ถ้าเลี้ยงด้วยสาหร่ายหางกระรอกซึ่งเป็นสารเร่งสีแดง สีของตัวกุ้งหลังจากลอกคราบแล้ว ส่วนใหญ่จะเปลี่ยน....สีน้ำตาล

[on_042]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10/09/12, [10:16:15] โดย ณัฐ Yabby House »
marcus ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #189 เมื่อ: 28/05/12, [23:34:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ความรู้ทั้งนั้น ขอบคุณมากครับพี่nat  [เจ๋ง] [on_055]
tuigoices ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #190 เมื่อ: 30/05/12, [09:45:00] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอถามหน่อยนะครับ
ถ้าเราปูพื้นด้วยปะการังเบอร์ 0 + กับหินดำ จะดีไหมครับหรือว่า ใส่แคลเซียมน้ำแทนครับ กำลังจะจัดตู้ครับขอบคุณครับ
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #191 เมื่อ: 30/05/12, [19:55:15] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ใช้หินดำปูพื้น  แล้วเติมแคลเซียมน้ำจะง่ายกว่าค่ะ เพราะพื้นตู้สีดำ จะทำให้กุ้งสีสันสดใสขึ้นอีกด้วยปูบาง ๆ ค่ะ จะได้ทำความสะอาดได้ง่ายด้วย   [on_055]
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #192 เมื่อ: 10/06/12, [09:47:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

การส่งกุ้งของณัฐ Yabby House   [เดะแว๊น]  P.7
การจัดส่งยิ่งเร็วก็ยิ่งดีและถ้ามีการแพ๊คห่อกุ้งได้ดี กุ้งก็จะปลอดภัย


การจัดกุ้งใส่ถุงเรามีการจัดส่งหลายวิธี และวิธีที่ณัฐใช้และปลอดภัยสำหรับกุ้งมากที่สุด
คือเมื่อนำกุ้งในถุงแล้วก็เอากระดาษที่ชุ่มน้ำมาห่อถุงกุ้งแล้วนำถุงกุ้งมาใส่ถุงหูหิ้วพลาสติก
เพื่อไม่ไห้น้ำจากกระดาษออกมา และนำกระดาษที่ชุ่มน้ำมาใส่ไว้ในกล่องโฟมแล้วนำถุงกุ้ง
ไปใส่ในกล่องโฟมยัดกระดาษให้แน่น เมื่อส่งกุ้งไปหลายวันกล่องโฟมอาจจะร้อนแต่ภายในยังเย็นอยู่

1.การจัดทดสอบการจัดส่งแบบพัสดุไปรษณีย์ไปทั่วประเทศ
เช่น ส่งไปเชียงใหม่  กาญจนบรี  ขอนแก่น  อุบลราชธานี  จันทบุรี  หาดใหญ่ ภูเก็ต  กรุงเทพเขตต่างๆ
ส่งแบบธรรมดาถึุงกี่วัน  ส่งแบบEMSถึงกี่วัน  เมื่อรู้จังหวัดต่างๆก็จะคำนวนวันที่จัดส่งได้

ทดลองจัดส่งพัสดุ  จะจัดกล่องโฟมทุกครั้ง จะมีลูกกุ้งใส่ไปด้วยถุงละ5ตัว เมื่อพัสดุไปถึงผู้รับ
จะให้ผู้รับโทรแจ้งถึงวันไหน ถึงกี่โมง  กระดาษหนังสือพิมพ์ที่ห่อถุงกุ้งยังมีน้ำอยู่ไหม ถุงรั่วไหม  และกุ้งตายไหม
ผู้ที่รับพัสดุก็จะบอกว่า การจัดส่งแบบนี้ปลอดภัย
 
การจัดส่งแบบธรรมดาบางครั้งก็ถึงก่อนแบบEMS ราคาก็ถูกกว่าแต่ไม่ทราบวัน เวลาที่ไป..ถึงที่ไหนแล้ว
การจัดส่งแบบEMS จะดีกว่าเพราะลูกค้าสามารถรู้ว่ากล่องพัสดุตอนนี้ถึงไหนแล้ว

การจัดส่งแบบมีกล่องโฟมเมื่อไปชั่งน้ำหนักคิดเงินส่วนใหญ่จะไม่ถึงกิโลกรัม สามารถยัดกระดาษชุ่มน้ำห่อถุงกุ้งได้
กล่องโฟมก็เอากระดาษชุ่มน้ำหมาดๆวางใต้กล่อง จะช่วยทำให้กล่องโฟมมีความชื้นตลอดเวลา และลองชั่งน้ำหนักอย่าให้เกิน1กิโลกรัม ถ้าเกินก็เสียตังการจัดส่งมากขึ้น

จากการจัดส่งเป็นประจำ ระยะทางประมาณ   50-100กิโลเมตร ส่งวันนี้พัสดุจะถึงพรุ่งนี้
     ทางEMS               ระยะทางประมาณ 100-300กิโลเมตร จะไม่เกิน2วัน
                                ระยะทางประมาณ 300-600กิโลเมตร จะไม่เกิน3วัน
                                ระยะทางประมาณ 600กิโลเมตรขึ้นไปจะไม่เกิน4วัน

2.จัดส่งทางรถตู้  กรุงเทพ-ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด   ประมาณ3-4ชั่วโมง
                     กรุงเทพ-นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบ ประมาณ3-4ชั่วโมง
ส่งรถตู้ก็ถึงเร็วแต่ลูกค้าต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นค่ะ  ยิ่งเร็วกุ้งยิ่งปลอดภัย

3.รถทัวร์ บขส.แอร์ รถส่งสินค้า ส่งวันนี้ถึงพรุ่งนี้  ลูกค้าต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นค่ะ  ยิ่งเร็วกุ้งยิ่งปลอดภัย

ทุกครั้งที่จัดส่งต้องใช้กล่องโฟม กุ้งก็จะปลอดภัยด้วยค่ะ  และถ้าลูกค้าบอกว่าไม่เอากล่องโฟมก็จะไม่ขายกุ้งให้ค่ะ
เพราะมันอันตรายมากถ้าจัดส่งแบบไม่มีกล่องโฟมกุ้งตาย เราก็แย่ด้วยเพราะลูกค้าจะว่าเราจัดส่งกุ้งไม่ดี ก็จะไปโพสประจานได้
และถ้าลูกค้าบอกว่าที่อื่นเค้าจัดส่งแบบไม่มีกล่องโฟมกุ้งยังรอดเลย ณัฐจะบอกว่าถ้าไม่เอากล่องโฟมก็ไม่ขายกุ้งค่ะ

และทุกครั้งที่จัดส่งทางไปรษณีย์ต้องดูว่ามีวันหยุดนักขัตฤกษ์ไหม ถ้ามีแจ้งลูกค้านัดส่งหลังวันหยุดนักขัตฤกษ์
เพราะไปรษณีย์หยุด พัสดุกุ้งก็จะไปค้างอยู่ที่ไปรษณีย์หลายวัน

การจัดส่งทุกแบบของณัฐ  95%ปลอดภัยแน่นอน แต่ก็ไม่แน่อีก5%อาจจะพลาดก็ได้

การรับประกันของณัฐ ก่อนการจัดส่งกุ้งทุกครั้งจะถ่ายรูปแบบคลิปVDOไว้ทุกครั้งที่จัดส่ง
ถ้าส่งไปแล้วกุ้งตาย โทรแจ้งทันที ไม่ต้องเอากุ้งออกจากถุง ถ่ายรูปส่งมาให้ดู
ณัฐจะจัดส่งตัวใหม่ไปให้ใหม่  หรือส่งเป็นเงินเท่ากับราคากุ้งที่สั่งซื้อไป   


จากการที่จัดส่งไปถ้าลูกค้าสั่งลูกกุ้ง10ตัว จะจัดส่งไป11หรือ12ตัว เพื่อกันไว้เลย เพราะลูกกุ้งมีสิทธิ์ตายได้จากการจัดส่ง
แต่ถ้าลูกกุ้งไม่ตาย..ก็เป็นการแถมให้ลูกค้าไป ลูกค้าก็ดีใจได้กุ้งเพิ่มขึ้น 

การจัดส่งของณัฐ ก็เป็นตัวอย่างสำหรับหลายๆท่านก็ได้นะค่ะ 
ลองไปทำดูกันค่ะ ไม่เข้าใจขั้นตอนไหน โทรถามกันนะค่ะ 

[on_055]

the tength ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #193 เมื่อ: 11/06/12, [12:41:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อยากทราบ เรื่องสาเหตุการตายของกุ้งครับ
เดส ของผม ขนาด 3.5" ตัวผู้ จากปกติแข็งแรง กินเก่ง เลี้ยงมาเกือบ6เดือน จาก1.5"
อยู่ก็ ม้วนหาง ไม่ค่อยกินอาหาร โดยที่ไม่ได้เปลี่ยน้ำ และ เพิ่งลอกคราบไปได้ 5วัน
สภาพโดยรวม สมบูรณ์พร้อม ไม่มีสนิม และไม่มีจุดขาว/ดำ ที่หาง
อยู่ในตู้ที่เลี้ยงรวมกับตัวอื่น แยกช่องไว้ อุณหภูมิน้ำ 29-32องศา
มีใส่แบคทีเรียน้ำ ให้ทุก7-10 วัน หลังการเปลี่ยนถ่ายน้ำ30-40%
ไม่มีสารเคมี/ฉีดยาฆ่าแมลงแต่อย่างใด
อาหารที่ให้ เป็น กุ้งฝอยต้ม ผสม สไปซี+แคลเซียม+วิตามิน+กริลออย+เพรียงทราย+โอเมกาวิต+ไคโตซาน(เฉพาะไคโตซานสัปดาห์ละ1หยด)
หลังจาก ม้วนหางได้2วัน ก็มีอาการ ตัวแข็ง และไม่ขยับ
เมื่อตอนที่เริ่มเห็นอาการ ตัวแข็ง ผมได้ทำการเบื้องต้นคือ ให้อยู่ในช่องที่มี หัวทราย เปิดออก แรงสุด
ก็สังเกตุว่า มีการ ขยับขา/หนวดบ้างเล็กน้อย ประมาณ 3-4ชม
จากนั้น ถึงเช้าวันถัดมาก็จากไป ในสภาพเดิม

อยากทราบถึงสาเหตุการตาย เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำของปัญหาเดิมครับ
และวิธีการแก้ไข รักษาเบื้องต้น เพื่อให้มีชีวิตรอด กรณีที่เกิดกับกุ้งตัวอื่นๆ
ขอบคุณครับ
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #194 เมื่อ: 11/06/12, [14:01:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อยากทราบ เรื่องสาเหตุการตายของกุ้งครับ
เดส ของผม ขนาด 3.5" ตัวผู้ จากปกติแข็งแรง กินเก่ง เลี้ยงมาเกือบ6เดือน จาก1.5"
อยู่ก็ ม้วนหาง ไม่ค่อยกินอาหาร โดยที่ไม่ได้เปลี่ยน้ำ และ เพิ่งลอกคราบไปได้ 5วัน
สภาพโดยรวม สมบูรณ์พร้อม ไม่มีสนิม และไม่มีจุดขาว/ดำ ที่หาง
อยู่ในตู้ที่เลี้ยงรวมกับตัวอื่น แยกช่องไว้ อุณหภูมิน้ำ 29-32องศา
มีใส่แบคทีเรียน้ำ ให้ทุก7-10 วัน หลังการเปลี่ยนถ่ายน้ำ30-40%
ไม่มีสารเคมี/ฉีดยาฆ่าแมลงแต่อย่างใด
อาหารที่ให้ เป็น กุ้งฝอยต้ม ผสม สไปซี+แคลเซียม+วิตามิน+กริลออย+เพรียงทราย+โอเมกาวิต+ไคโตซาน(เฉพาะไคโตซานสัปดาห์ละ1หยด)
หลังจาก ม้วนหางได้2วัน ก็มีอาการ ตัวแข็ง และไม่ขยับ
เมื่อตอนที่เริ่มเห็นอาการ ตัวแข็ง ผมได้ทำการเบื้องต้นคือ ให้อยู่ในช่องที่มี หัวทราย เปิดออก แรงสุด
ก็สังเกตุว่า มีการ ขยับขา/หนวดบ้างเล็กน้อย ประมาณ 3-4ชม
จากนั้น ถึงเช้าวันถัดมาก็จากไป ในสภาพเดิม

อยากทราบถึงสาเหตุการตาย เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำของปัญหาเดิมครับ
และวิธีการแก้ไข รักษาเบื้องต้น เพื่อให้มีชีวิตรอด กรณีที่เกิดกับกุ้งตัวอื่นๆ
ขอบคุณครับ

เดสอุณหภูมิเลี้ยงสีสันสวยงามหลังเป็นมันเงา 22-25องศา
เดสอุณหภูมิเลี้ยง 26-29องศา เป็นการเลี้ยงแบบปกติ
เดสอุณหภูมิเลี้ยง 29-35องศา เลี้ยงได้ค่ะ แต่กุ้งจะไม่แข็งแรง ลอกคราบพอไซส์ใหญ่ขึ้น ก็จะอยู่ได้ไม่นานค่ะ

กุ้งเพิ่งลอกคราบไปได้ 5วัน อยู่ในตู้ที่เลี้ยงรวมกับตัวอื่น แยกช่องไว้ อุณหภูมิน้ำ 29-32องศา
อุณหภูมิในการเลี้ยงสูงไปค่ะ การลอกคราบกุ้งจะอ่อนแอ และน้ำอุณหภูมิสูงเป็นอันตรายค่ะ

 [on_055]


 
the tength ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #195 เมื่อ: 11/06/12, [23:06:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับ
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #196 เมื่อ: 20/06/12, [02:31:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องที่16 เริ่มต้นเลี้ยงเครฟิชอย่างง่ายๆ  [on_018] P.7

การเลี้ยงเครฟิช เริ่มต้นเลี้ยงไซส์1.5นิ้ว สัก1-2ตัวก่อน จะเป็นผู้เมียหรือผู้-ผู้ ก็ได้ ค่อยๆเลี้ยงไป หาข้อมูลไปก่อน
จนกว่าจะลอกคราบ และผ่านไป7-10วัน ก็เปลี่ยนถ่ายน้ำสัก20% เลี้ยงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ2.5-3นิ้ว

ถ้าเลี้ยงแล้วสนุก ค่อยซื้อเพิ่ม เพิ่มตู้ต่อไป  เริ่มต้นเลี้ยงมากๆ ส่วนใหญ่ดูแลไม่ทัน  
เลี้ยงกุ้งให้สนุก ค่อยๆเลี้ยง ค่อยๆดูแล  หาข้อมูล โพสท์คุยกับเพื่อนที่เลี้ยงกุ้ง หรือถามผู้เพาะเลี้ยง  
เลี้ยงกุ้งให้สนุก ต้องถ่ายรูปกุ้งท่าต่างๆ กุ้งลอกคราบ กุ้งตัวใหญ่ขึ้น มาโพสให้ชมกัน  รับรองคุณจะเลี้ยงกุ้งสนุกค่ะ

ถ้าเลี้ยงกุ้งไซส์กลาง 1.5-2.5นิ้ว ได้แล้ว ลองเลี้ยงไซส์เล็กเพิ่ม สัก5-10ตัว ก่อน ดูการลอกคราบ ดูการเจริญเติบโต
ถ้าคุณค่อยๆเลี้ยงไปเรื่อยๆ บันทึกการเจริญเติบโต บันทึกการลอกคราบ คุณจะเช็คได้ว่า กุ้งตัวนี้จะลอกคราบเมื่อไรได้เลย
แล้วคุณก็จะเพิ่มตู้ไปเรื่อยๆ คุณอาจจะเป็นผู้นึ่งที่เลี้ยงเก่งมากแล้วก็มาถ่ายทอดข้อมูลให้ผู้เลี้ยงกุ้งเครฟิชน้องใหม่ต่อไป

ถ้ามีข้อมูลการเลี้ยงมากๆ กุ้งเครฟิชก็จะมีการพัฒนา เครฟิชตัวใหญ่ๆก็จะมีมาให้ชมกัน

ถ้ามีข้อมูลการเลี้ยงมากๆ กลุ่มเพาะพันธุ์กุ้งจับมือกัน จัดงานกิจกรรมให้ข้อมูลกุ้งเครฟิชจุดใดจุดนึ่ง นำเครฟิชมาโชว์กัน
นำเครฟิชมาประกวดกัน ทำแหล่งการค้าเฉพาะจุดอาจจะเ็ป็นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์มานัดพบกัน นำกุ้งมาโชว์มาขาย
มาให้ข้อมูลกัน  สิ่งเหล่านี้ถ้าได้เกิดขึ้นรับรองว่า คนเลี้ยงกุ้งเครฟิชจะสนุกมากค่ะ

 [on_055]





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/06/12, [02:37:55] โดย ณัฐ Yabby House »
Sixtyfive ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #197 เมื่อ: 20/06/12, [14:06:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องที่16 เริ่มต้นเลี้ยงเครฟิชอย่างง่ายๆ  [on_018] P.7

การเลี้ยงเครฟิช เริ่มต้นเลี้ยงไซส์1.5นิ้ว สัก1-2ตัวก่อน จะเป็นผู้เมียหรือผู้-ผู้ ก็ได้ ค่อยๆเลี้ยงไป หาข้อมูลไปก่อน
จนกว่าจะลอกคราบ และผ่านไป7-10วัน ก็เปลี่ยนถ่ายน้ำสัก20% เลี้ยงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ2.5-3นิ้ว

ถ้าเลี้ยงแล้วสนุก ค่อยซื้อเพิ่ม เพิ่มตู้ต่อไป  เริ่มต้นเลี้ยงมากๆ ส่วนใหญ่ดูแลไม่ทัน  
เลี้ยงกุ้งให้สนุก ค่อยๆเลี้ยง ค่อยๆดูแล  หาข้อมูล โพสท์คุยกับเพื่อนที่เลี้ยงกุ้ง หรือถามผู้เพาะเลี้ยง  
เลี้ยงกุ้งให้สนุก ต้องถ่ายรูปกุ้งท่าต่างๆ กุ้งลอกคราบ กุ้งตัวใหญ่ขึ้น มาโพสให้ชมกัน  รับรองคุณจะเลี้ยงกุ้งสนุกค่ะ

ถ้าเลี้ยงกุ้งไซส์กลาง 1.5-2.5นิ้ว ได้แล้ว ลองเลี้ยงไซส์เล็กเพิ่ม สัก5-10ตัว ก่อน ดูการลอกคราบ ดูการเจริญเติบโต
ถ้าคุณค่อยๆเลี้ยงไปเรื่อยๆ บันทึกการเจริญเติบโต บันทึกการลอกคราบ คุณจะเช็คได้ว่า กุ้งตัวนี้จะลอกคราบเมื่อไรได้เลย
แล้วคุณก็จะเพิ่มตู้ไปเรื่อยๆ คุณอาจจะเป็นผู้นึ่งที่เลี้ยงเก่งมากแล้วก็มาถ่ายทอดข้อมูลให้ผู้เลี้ยงกุ้งเครฟิชน้องใหม่ต่อไป

ถ้ามีข้อมูลการเลี้ยงมากๆ กุ้งเครฟิชก็จะมีการพัฒนา เครฟิชตัวใหญ่ๆก็จะมีมาให้ชมกัน

ถ้ามีข้อมูลการเลี้ยงมากๆ กลุ่มเพาะพันธุ์กุ้งจับมือกัน จัดงานกิจกรรมให้ข้อมูลกุ้งเครฟิชจุดใดจุดนึ่ง นำเครฟิชมาโชว์กัน
นำเครฟิชมาประกวดกัน ทำแหล่งการค้าเฉพาะจุดอาจจะเ็ป็นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์มานัดพบกัน นำกุ้งมาโชว์มาขาย
มาให้ข้อมูลกัน  สิ่งเหล่านี้ถ้าได้เกิดขึ้นรับรองว่า คนเลี้ยงกุ้งเครฟิชจะสนุกมากค่ะ

 [on_055]








เรื่องที่16 นี่เป็นแนวทางของผมเลยครับ ค่อยๆเลี้ยงสังเกตพฤติกรรม , ถ่ายรูปการเจริญเติบโต , ค่อยๆเพิ่มจำนวน , ค่อยๆเพิ่มตู้เลี้ยง  [เจ๋ง] [on_066] [เจ๋ง]
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #198 เมื่อ: 03/07/12, [07:55:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

งานประมงน้อมเกล้าครั้งที่24 ณัฐ Yabby House

วันนี้รับโล่พระราชทานเรียบร้อยแล้ว  รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง  เป็นอีกหนึ่งก้าวของชาวเครฟิชค่ะ   [on_055]




 hawaii hawaii hawaii hawaii hawaii hawaii hawaii hawaii hawaii hawaii  hawaii hawaii

งานประมงน้อมเกล้าครั้งที่24 จัดงานตั้งแต่วันที่ 29/6/2555 - 8/7/2555
สถานที่ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต  เวลา 10.30น. - 20.00น.
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #199 เมื่อ: 11/07/12, [16:31:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

กุ้งเครฟิชว่ายน้ำไม่เป็นเดินก้นตู้และดีดตัวได้เท่านั้นค่ะ

ปลาหางนกยูงและปลาสอดแดง ใส่ไว้เพื่อเก็บเศษอาหารที่เหลือของกุ้งเครฟิช  
(เราไม่ได้ใส่ปลาไว้ในตู้เพื่อเป็นอาหารของกุ้งเครฟิชน่ะค่ะ  แจ้งมาเพื่อทราบกันค่ะ)

 [on_055]

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12/07/12, [01:39:15] โดย ณัฐ Yabby House »
NanG Cherax Yabby ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #200 เมื่อ: 11/07/12, [22:20:39] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เสริมนิดนึงครับ น่าจะเรียกว่า ดีดตัว มากกว่า กระโดด ครับ
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #201 เมื่อ: 12/07/12, [01:39:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เสริมนิดนึงครับ น่าจะเรียกว่า ดีดตัว มากกว่า กระโดด ครับ
แก้แล้วค่ะ  ขอบคุณค่ะ   [on_055]
NewMoon ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #202 เมื่อ: 15/07/12, [13:48:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รบกวนพี่นัฐหน่อยครับ
- ผมอยากทราบคุณสมบัติของ วิตามินน้ำ แคลเซี่ยมน้ำ แบคทีเรียน้ำ
- แล้วสำหรับใส่นี่ น้ำใหม่คือน้ำประปาหรอครับ ถ้าน้ำที่เราเก็บไว้ในโอ่งอย่างนี้นำมาใส่ แคลเซี่ยม วิตามิน แบคทีเรีย
ได้หรือเปล่าครับ
- แล้ววันแรกที่ได้น้องกุ้งมา ควรจะใส่อาหารให้เขากินเลยใหม่ครับ
- หลังจาก 7 วัน เปลี่ยนน้ำ 20% นี่เอาน้องกุ้งออกหรือเปล่า ถ้าเอาออกแล้วเราเติมพวก วิตามิน แคลเซียม แบคทีเรียลงไป
จะใส่น้องกุ้งได้เลยไหมครับ (( ยาวมากๆ ขอบคุณล่วงหน้าครับ ))
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #203 เมื่อ: 15/07/12, [19:19:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รบกวนพี่นัฐหน่อยครับ
- ผมอยากทราบคุณสมบัติของ วิตามินน้ำ แคลเซี่ยมน้ำ แบคทีเรียน้ำ
- แล้วสำหรับใส่นี่ น้ำใหม่คือน้ำประปาหรอครับ ถ้าน้ำที่เราเก็บไว้ในโอ่งอย่างนี้นำมาใส่ แคลเซี่ยม วิตามิน แบคทีเรีย
ได้หรือเปล่าครับ
- แล้ววันแรกที่ได้น้องกุ้งมา ควรจะใส่อาหารให้เขากินเลยใหม่ครับ
- หลังจาก 7 วัน เปลี่ยนน้ำ 20% นี่เอาน้องกุ้งออกหรือเปล่า ถ้าเอาออกแล้วเราเติมพวก วิตามิน แคลเซียม แบคทีเรียลงไป
จะใส่น้องกุ้งได้เลยไหมครับ (( ยาวมากๆ ขอบคุณล่วงหน้าครับ ))






พิมพ์ไม่ไหวค่ะ ยาว ตัดมาเลยง่ายกว่า   ้hahaha

น้ำใหม่คือน้ำประปาจะพักหรือไม่ก็คือน้ำใหม่ยังไม่มีแบคทีเรียเกิดในน้ำค่ะ  สามารถเติมได้ทั้งสามตัวเลยค่ะ

กุ้งที่รับมาวันแรกหลังลงตู้จะให้หรือไม่ให้อาหารก็ได้  บางตัวอาจจะไม่กินอาหารเลยเพราะตื่นที่ยังปรับตัวไม่ได้ 

วันรุ่งขึ้นหลังจากลงตู้แล้วค่อยให้อาหารก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา

เอาออกหรือไม่ก็ได้ค่ะ  หลังจากเติมน้ำใหม่เข้าไปแล้วก็เติมทั้งสามตัวตามลงไปได้เลยค่ะ ไม่มีปัญหา   [เจ๋ง]

 [on_055]
NewMoon ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #204 เมื่อ: 15/07/12, [22:10:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณมากนะครับ ที่พี่มาแนะนำ รักพี่แล้ว [on_024]
noonong ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #205 เมื่อ: 16/07/12, [05:33:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เป็นเรื่องที่ดีจริง
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #206 เมื่อ: 16/07/12, [21:50:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องที่ 17 เก็บคำถามจากบู๊ธโชว์เครฟิช งานประมงน้อมเกล้าครั้งที่24 ที่ผ่านมา [on_023]

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC
ตอนไปออกงานประมงน้อมเกล้าที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่าเป็นกุ้งน้ำเค็มและเลี้ยงยาก
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงที่บ้านเราเป็นกุ้งน้ำจืดค่ะ

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด  
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่าเป็นกุ้งเลี้ยงยาก
กุ้งเครฟิช เลี้ยงง่ายๆ มีตู้ กรองฟองน้ำ และปั้มลม  น้ำที่ใช้เลี้ยงกุ้งในตู้ ใช้น้ำประปา น้ำบาดาล ก็เลี้ยงได้แล้วค่ะ

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด  
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่ากุ้งเครฟิชกินอาหารสด หนอนแดงสด หนอนแดงแช่แข็ง กุ้งฝอย หนอนนก ไส้เดือน
จึงทำให้เกิดการยุ่งยากในการเลี้ยง
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงที่บ้านเราสามารถกินอาหารเม็ดได้ไม่ยุ่งยากกับการเลี้ยงค่ะ ส่วนอาหารสดก็กินได้ค่ะ

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่ากุ้งเครฟิชว่ายน้ำได้
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงที่บ้านเราว่ายน้ำไม่เป็น เดินก้นตู้และดีดตัวได้เท่านั้นค่ะ

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่ากุ้งเครฟิช บลูล๊อปเตอร์น้ำจืดเป็นกุ้งน้ำเค็ม เพราะชื่อเหมือนกุ้งล๊อปเตอร์น้ำเค็ม
คนที่เข้ามาส่วนใหญ่เรียกกุ้งเครฟิช บลูล๊อปเตอร์น้ำจืด ว่า กุ้งก้ามแดงค่ะ
 [on_055]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17/07/12, [11:29:02] โดย ณัฐ Yabby House »
NewMoon ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #207 เมื่อ: 17/07/12, [06:31:13] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น่าจะมีคนสนใจขึ้นเยอะนะครับก็มันน่ารัก^^
Anda Carp Farm ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #208 เมื่อ: 17/07/12, [09:24:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เก็บคำถามจากบู๊ธโชว์เครฟิช งานประมงน้อมเกล้าครั้งที่24 ที่ผ่านมา

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC
ตอนไปออกงานประมงน้อมเกล้าที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่าเป็นกุ้งน้ำเค็มและเลี้ยงยาก
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงที่บ้านเราเป็นกุ้งน้ำจืดค่ะ

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด  
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่าเป็นกุ้งเลี้ยงยาก
กุ้งเครฟิช เลี้ยงง่ายๆ มีตู้ กรองฟองน้ำ และปั้มลม  น้ำที่ใช้เลี้ยงกุ้งในตู้ ใช้น้ำประปา น้ำบาดาล ก็เลี้ยงได้แล้วค่ะ

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด  
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่ากุ้งเครฟิชกินอาหารสด หนอนนก ไส้เดือนจึงทำให้เกิดการยุ่งยากในการเลี้ยง
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงที่บ้านเราสามารถกินอาหารเม็ด อาหารสด หนอนนก ไส้เดือนได้ค่ะ ไม่ยุ่งยากกับการเลี้ยงค่ะ  

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่ากุ้งเครฟิชว่ายน้ำได้
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงที่บ้านเราว่ายน้ำไม่เป็น เดินก้นตู้และดีดตัวได้เท่านั้นค่ะ

 [on_055]


เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ เราๆเองผู้เพาะพันธุ์และเลี้ยงมาก่อน ก็คงต้องช่วยๆกันประชาสัมพันธุ์เกี่ยวกับการดูแลการเลี้ยงให้กับบุคลทั่วไปให้เข้าใจได้ถูกต้อง แล้ววงการเครฟิชก็จะเริ่มมีคนสนใจและเลี้ยงกันมากขึ้น

ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #209 เมื่อ: 17/07/12, [10:18:32] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ เราๆเองผู้เพาะพันธุ์และเลี้ยงมาก่อน ก็คงต้องช่วยๆกันประชาสัมพันธุ์เกี่ยวกับการดูแลการเลี้ยงให้กับบุคลทั่วไปให้เข้าใจได้ถูกต้อง แล้ววงการเครฟิชก็จะเริ่มมีคนสนใจและเลี้ยงกันมากขึ้น
เพิ่มเติมข้อมูลค่ะ
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด  
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่ากุ้งเครฟิชกินอาหารสด หนอนแดงสด หนอนแดงแช่แข็ง กุ้งฝอย หนอนนก ไส้เดือน
จึงทำให้เกิดการยุ่งยากในการเลี้ยง
กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงที่บ้านเราสามารถกินอาหารเม็ดได้ไม่ยุ่งยากกับการเลี้ยงค่ะ ส่วนอาหารสดก็กินได้ค่ะ

กุ้งเครฟิชที่เลี้ยงในบ้านเราทั้งสายP และสายC  เป็นกุ้งน้ำจืด
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมที่บู๊ธคิดว่ากุ้งเครฟิช บลูล๊อปเตอร์น้ำจืดเป็นกุ้งน้ำเค็ม เพราะชื่อเหมือนกุ้งล๊อปเตอร์น้ำเค็ม
คนที่เข้ามาส่วนใหญ่เรียกกุ้งเครฟิช บลูล๊อปเตอร์น้ำจืด ว่า กุ้งก้ามแดงค่ะ
 [on_066]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17/07/12, [11:29:33] โดย ณัฐ Yabby House »
หน้า: 1 ... 5 6 7 8 9 ... 20   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: