เมื่อชะตาลิขิตให้ต้องทำภาระกิจกู้ชีพ "ปลากัดมรกต" เดนตายที่ช่วยไว้จากไหปลาร้า!

(1/17) > >>

Dyckia (พี่ป้อง):


[on_018] ผมมีเรื่องประทับใจเรื่องหนึ่ง มาเล่าสู่กันฟัง เกี่ยวกับความรักความผูกพันที่ผมมีต่อ "ปลากัดป่าอีสาน"
หรือ Betta smaragdina ซึ่งเป็นปลากัดพื้นเมืองตามแหล่งธรรมชาติของไทย ที่พบมากทางภาคอีสาน
ซึ่งผมบังเอิญได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสโลกอันน่าสนใจของพวกมันเข้า จากการเดินทางไปทำสารคดีหนังสือท่องเที่ยว
ที่ผมทำอยู่

คือเมื่อราวๆ ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมต้องไปจัดทำบทความสารคดีท่องเที่ยวให้กับนิตยสาร Nature Explorer
ของผม เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทางภาคอีสาน คืออุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในเขตจังหวัดอุบลฯ
ซึ่งในการเดินทางไปทำงานครั้งนี้ ผมเองได้ศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อจะได้นำมาเขียน
ประกอบบทความ และในจำนวนสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจในบริเวณรอบๆ พื้นที่อุทยานฯ แห่งนั้น ก็มีรายชื่อของปลาตัวเล็กๆ
ซึ่งเป็นปลาพื้นเมืองท้องถิ่นแถบภาคอีสานที่ผมยังไม่เคยรู้จักหน้าตาเห็นตัวเป็นๆ มันมาก่อนเลย มันคือเจ้าปลากัดป่าอีสาน
หรือที่คนที่นั่นเรียกว่า "ปลากัดเขียว"

เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ชี้จุดแหล่งบึงน้ำต่างๆ ที่รับน้ำจากน้ำลำโดมซึ่งมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาภูจองนายอย
ซึ่งมีปลากัดป่าอีสานอาศัยอยู่ตามธรรมชาติเป็นหย่อมๆ บริเวรนี้เป็นจุดบรรจบของสามประเทศ คือไทย-ลาว-กัมพูชา ที่เรียกกันว่า "สามเหลี่ยมมรกต"



ผมเดินทางไปสำรวจปลากัดป่าอีสานตามแหล่งหนองน้ำต่างๆ ในเขตรอบๆ อุทยานฯ โดยสอบถามข้อมูล
จากชาวบ้านในท้องที่ และทราบว่าคนที่นั่นก็นิยมจับปลากัดเขียวตัวผู้มาเลี้ยงเพื่อกัดกันเล่นเป็นเกมกีฬา
จากนั้นก็ปล่อยคืนแหล่งน้ำ หรือในฤดูแล้งที่มีปลาตกคลั่กตามปลักควายและหาจับมาได้เยอะๆ ก็นำมาบริโภคเป็นอาหาร







ผมได้นำตัวอย่างที่ชาวบ้านช้อนตัวผู้มาให้กลับมาเลี้ยงที่กรุงเทพฯ เพื่อจะถ่ายภาพประกอบบทความ






Dyckia (พี่ป้อง):
 [mo_001] และจากการที่ได้ลองเลี้ยงดูพวกมันเพียงช่วงเวลาสั้นๆผมก็รู้สึกประทับใจในความสวยงามแบบเหลือเชื่อของสีสันพวกมัน
ที่ยามอวดกางหางครีบเพื่อข่มขู่ตัวผู้ด้วยกัน มันดูราวกับ"มรกตที่มีชีวิต" จริงๆ
สมกับชื่อวิทยาศาสตร์ของพวกมัน โดยคำว่า "Smaragdina" ที่มีรากศัพท์มาจากภาษาลาติน แปลตรงตัวเลยว่า "Emerald" หรือ "มรกต" นั่นเอง  [on_066]

ลองดูบรรดาตัวผู้ของปลากัดป่าเหล่านี้ซิครับ มันมีความหลากหลายในสีสัน
ใครจะเชื่อว่าว่าปลาพวกนี้คือปลาป่าตามแหล่งน้ำธรรมชาติ มันช่างสวยงามจริงๆ















ตัวเมียของปลากัดป่าอีสาน ในยามปรกติที่ไม่ใช่ช่วงฤดูผสมพันธุ์จะมีสีออก
น้ำตาลทองๆ และมีแถบขีดยาวๆ มีเกล็ดเขียวแซมบ้างเล็กน้อย และครีบสั้นต่าง จากปลากัดตัวผู้อย่างชัดเจน





แต่หากช่วงฤดูผสมพันธุ์ ตัวเมียก็จะขับสีสันออกมาได้เกือบใกล้เคียงตัวผู้ เพียงแต่ไม่สดใสเท่า (ถ่ายภาพจากหน้าหนังสือต่างประเทศเกี่ยวกับ Betta smaragdina ที่ผมมีอยู่)



Dyckia (พี่ป้อง):
 [on_065] หลังจากปลากัดป่าอีสานชุดแรกได้สร้างความสนใจให้ผมหันมาหลงใหลปลากัดพื้นเมืองของไทยเข้าแล้ว
ผมก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลดูในเรื่องความหลากหลายของสายพันธุ์ปลากัดป่าอีสาน และพบว่าปลากัดป่าในเมืองไทยนั้นยังมีอีกหลายชนิด นอกจากนี้ยังขยายวงความสนใจของผมไปยังพวกปลากัดกลุ่มอมไข่ รวมทั้งญาติสนิทของพวกปลากัด คือพวกสกุลปลากริม (Trichopsis spp.) อีกด้วย

จากนั้นไม่นาน ราวๆ ช่วงเกือบปลายเดือนสิงหา ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนผมที่อุบลฯ ซึ่งช่วยไปหาช้อนปลากัดป่าอีสาน
จากแหล่งน้ำต่างๆ เป็นตัวอย่างแหล่งละนิดหน่อยเพื่อส่งมาให้ผมและเพื่อนที่กำลังทำวิจัยปลากัดป่าของไทยอีกคนได้ศึกษาเปรียบเทียบ
โดยบอกว่าช่วงนั้นฝนตกน้ำหลากท่วมบึง หาปลาไม่ได้แต่ไปเจอปลาเดนตายจากแหล่งบ้านหนองเม็ก ใกล้เขตอำเภอน้ำยืน
ที่เด็กในหมู่บ้านช้อนมาขังไว้ในไห โดยไม่ได้ให้อาหารอะไรกินจนตัวผอมแห้งหัวโต
เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกแล้ว ซึ่งประเมินว่าคงจะตายแน่ๆ หากปล่อยเทลงน้ำ เพราะไม่มีแรงว่ายหาอาหาร หรือหนีปลาล่าเหยื่อได้แล้ว จะเอายังไง ...?!
 [on_abe]
ผมตัดสินใจทันทีว่าให้ขอซื้อเด็กมา อยากลองช่วยชีวิตพวกมันดู

แล้วให้เพื่อนจัดการแพ็กแบบพิเศษโดยให้หาสาหร่ายใส่ประคองมาในถุงด้วยเพื่อกันปลาแกว่งกระแทก
แล้วให้หากล่องโฟมส่งด่วนขึ้นรถทัวร์แบบคืนเดียวถึงกรุงเทพฯ...เมื่อแรกมาถึง ซึ่งพร้อมตัวอย่างปลากัดจากแหล่งหมู่บ้านใกล้เคียงอีกสองที่



สภาพพวกเดนตาย 3 ใน 4 ตัว ที่ผมขอซื้อเพื่อจะกู้ชีพนั้น ดูแล้วน่าสงสารมาก ตัวนี้หางแหว่งวิ่น ดูแล้วก็ไม่แน่ใจเลยว่าจะช่วยให้มันกลับฟื้นคืนสภาพได้ดังเดิม



ผมเรียกเจ้านี่ว่า "น้องไม้ขีด" เพราะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก หัวโต ได้แต่นอนนิ่งๆ แววตาแทบไร้สัญญาณชีพ ครีบและแค่ไหน คิดในใจว่าอาจจะหมดหวัง!



อีกตัวที่แย่ไม่แพ้กัน ลูกตาเริ่มยุบลงไปในเบ้าแล้ว และนิ่งซึมแทบไม่ยอมว่าย



อย่างไรก็ตาม ผมรีบนำพวกมันแช่ในน้ำใส่ยาป้องกันการติดเชื้อสองคืน โดยพวกมันก็ไม่ยอมกินอาหารอะไรที่ให้เลย
แต่ก็ดูท่าทีดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นผมก็ นำพวกมันไปเลี้ยงแยกใส่ในโหลที่ใส่น้ำหมักใบหูกวาง



รอดูอาการอีกคืนปรากฏว่ามันดูมีเรี่ยวแรงขึ้น และดีใจมากเมื่อเห็นพวกมันสองตัว ยอมกินหนอนแดงแบบแช่แข็งที่ผมทดลองมาหย่อนให้ [on_055]



 n032 กินซะพุงกางเลย มันคงเป็นมื้อแรกในรอบหลายอาทิตย์ที่โดนขังอยู่ในไหอันมืดมิดไร้ซึ่งอาหารและแสงตะวัน!



หลังจากหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป เจ้าปลากัดเดนตายตัวน้อยสองตัวผู้น่าสงสาร ก็ดูค่อยมีเรี่ยวแรงเมื่อได้โปรตีนจากหนอนแดงเข้าไปสภาพของมันสองตัวดูดีขึ้น นี่เจ้าไม้ขีด สดใสขึ้นทันตา



นี่เจ้าครีบแหว่ง ครีบกลับเต็มอย่างรวดเร็วภายในสองอาทิตย์ที่ผมอัดอาหารเต็มที่



แต่ยังคงมีอีกตัวที่ไม่ยอมกินอะไรเลย ได้แต่นอนนิ่งก้นโหลนานๆ ทีจึงจะขึ้นมาฮุบอากาศ ซึ่งผมคาดว่ามันคงไม่รอดแน่ หากยังไม่ยอมกินอะไรเข้าไป! [on_008]
 [on_062] แต่แล้วในที่สุด เหมือนมันคงจะรับรู้ได้ถึงพลังใจที่ผมเอาใจช่วย อยากให้มันมีชีวิตรอดกลับมาอีกครั้ง เจ้าเดนตายตัวนั้นก็ยอมกินลูกไร
ที่ผมต้องใช้เวลาหลังเลิกงานรีบบึ่งแวะมาซื้อลูกไรให้ทันร้านปิดจากตลาดปลาจตุจักร

 036 รอดตายแล้วเจ้าตายุบ

Dyckia (พี่ป้อง):
 [on_066] หลังจาการพักฟื้นราวๆ สามสัปดาห์ผ่านไป แทบไม่น่าเชื่อว่าเจ้าพวกเดนตายสามารถกลับมาแหวกว่าย
ดูมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ทว่าพวกมันก็ยังคงดูซีดเซียวไร้สีสันแบบที่ปลากัดตัวผู้ควรจะเป็น หรือที่ถูกคือ ที่มันเคยเป็นมาก่อน

และแล้ววันที่ผมดีใจที่สุดในชีวิตอีกวันก็คือ วันที่ผมบังเอิญจะเปลี่ยนน้ำให้เจ้าปลากัดเดนตายของผม
แล้วต้องดึงกระดาษกั้นโหลออก เจ้าหัวไม้ขีดที่พอหันมาเห็นเพื่อนเดนตายอีกตัวในโหลข้างๆ วิญญาณนักสู้แห่งลุ่มน้ำมูลก็ฉายแววออกมาอีกครั้ง

มันทำท่ากางครีบและหาง และขับสีเขียวมรกตสดใสขึ้นต่อหน้าต่อตาผม

 cryingrun โอ้...น้ำตาแห่งความปิติมันซึมออกมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ ครับ




พวกมันฟื้นคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว ผมให้พวกมันกินหนอนแดงแบบแช่แข็งวันละสองมื้อ เช้า/เย็น
ให้ดูภาพเปรียบเทียบการพัฒนาการฟื้นสภาพของแต่ละตัวในช่วงเพียงราวๆ หนึ่งเดือนครับ

เจ้าไม้ขีด



เจ้าครีบแหว่ง



เจ้าตายุบ



จากปลาเดนตายแทบไร้สัญญาณชีพ และคงจะจากโลกนี้ไปอย่างไร้คนเหลียวแลในไหปลาร้าอันมืดมิดเมื่อสองเดือนก่อน

ก็สามารถฟื้นคืนสภาพกลับมาดูงามสง่าใกล้เคียงอย่างที่มันเคยเป็นเมื่อหลายเดือนก่อน



 [on_018] ผมรู้สึกยินดีที่ได้ทำภาระกิจกู้ชีพปลาน้อยนักสู้ผู้อดทนแห่งแดนอีสานเหล่านี้จริงๆ



บางครั้งผมคิดว่า ชะตาชีวิตของพวกเรานั้น หากได้ลิขิตให้มาพบพานกันแล้ว มันก็หมายถึงว่า
ต่างย่อมมีผลต่ออีกฝ่ายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และมันอาจหมายถึงการต้องก้าวข้ามไปอยู่คนละภพแดน
ระหว่างความตาย หรือชีวิตที่สวยงามร่วมกันบนโลกใบนี้เลยทีเดียว

จงอย่าละทิ้งโอกาสที่จะช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยากกว่า มันคือความสุขที่เราสามารถหยิบ
ยื่นให้ทั้งตัวเองและผู้อื่นได้อย่างไม่ยากจริงๆ ครับ


pyloveyou:
น้ำตาซึมเลยครับ....พี่เป็นไอดอลของผม[on_045]

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป