
ตู้ Lonely Tree จากลาไปอย่างไม่สมบูรณ์เพราะขาดการดูแล และขาดความต่อเนื่อง
เลยขอเอาหมายเลขผลงานมา Re-use ละกัน จะได้ไม่เป็นการเปลืองทรัพยากรธรรมชาติ(เกี่ยวมั้ยเนี่ย [เขิลลลล])
อันเนื่องมาจาก
กำหนดการประกวดตู้นาโน งาน ACT Aquascape Contest 2014 (ครั้งที่ 1) ในวันที่ 4 ต.ค. 2557
และ AGA Aquascape Contest 2014 ที่จะครบกำหนดรับสมัครในวันที่ 15 Sep 2014
เป็นเหตุให้กระผมควรจะทำตู้นาโนขึ้นมาสักหนึ่งใบสำหรับงานทั้งสองนี้
แต่ทว่า...
ด้วยกิจกรรมนู่นนี่ และความขี้เกียจที่พอกพูน ทำให้การเริ่มต้นของตู้ใบนี้ล่าช้าอีกเช่นเคย
กว่าจะได้ลงมือก็ต้นเดือนสิงหาเข้าไปแล้ว ถ้านับเอา AGA เป็นที่ตั้ง ก็จะเหลือเวลาแค่ 45 วัน
มันจึงเป็นการยากมากที่จะทำทุกอย่างให้จบใน 45 วัน ผมจึงต้องลองวิธีใหม่ๆ(สำหรับผม)
เพื่อหวังว่ามันจะช่วยร่นเวลาการรอคอยได้บ้าง
ผมจึงเริ่มด้วย
1. การเลี้ยงแบบ DSM ครึ่งหนึ่งเพราะอยากให้ไม้พื้นเดินได้เร็วกว่าและลดปัญหาตะไคร่
อีกครึ่งหนึ่งเพราะอยากให้มอสเกาะหินแบบเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องใช้การพันด้วยเอ็นหรือด้าย
2. นำไม้พื้นจากตู้เก่ามาปูให้เต็มไปทั้งแผง แทนการปลูกทีละต้นแล้วรอโต
แบบนี้

ก็ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสียทั้งหมดนะครับ เพราะ
ตามข้อ 1. ผมพบว่าการใช้ตัวทำควันมันคุมความชื้นได้ก็จริง แต่ทำให้ตู้ร้อนและน้ำส่วนนั้นร้อน
ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ผิวน้ำจะละลายและเน่าได้ในเวลาสั้นๆ
ตามข้อ 2. ต้นไม้ที่ผมใช้ก็เป็นใบน้ำมาแล้ว การเอามาทำใบบกอีกครั้งมันกลับทำให้เน่าและละลายได้
ซึ่งผมยังไม่รู้ข้อเท็จจริงแต่คาดว่าจะเกิดจากความร้อนนี่แหละ
อ้อ ลืมพูดถึงเรื่อง Hardscape และ Layout
ตู้นี้ผมไม่ได้มีแรงบันดาลใจหรือต้นแบบอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่สนใจที่การทดลองใช้หินลาวาในการจัดตู้
และอยากได้ตู้ที่มีมิติเชิงลึกที่มีหลายเลเยอร์ แล้วก็วางไปตามวัตถุดิบและจินตนาการที่มีในตอนนั้น
แต่ก็ไม่ลืมที่จะจัดวางตามหลักพื้นฐานทางการจัดตู้ เพราะนี่คือวิถีทางของคนไม่เก่งศิลปะอย่างผม
หินลาวาที่ได้มา มีข้อเสียคือ ผมได้มาในจำนวนจำกัด(ตามสภาพเศรษฐกิจในกระเป๋า)
สีของหินจะต่างกัน เนื้อของหินจะต่างกัน ซึ่งบางก้อนมารู้ในภายหลัง หลังจากที่ลงน้ำไปแล้ว
แต่ในขั้นต้นก็พอสังเกตได้ จึงแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ 3 กลุ่ม โดยอิงจากเนื้อที่หยาบไปละเอียด และสีอ่อนไปเข้ม
อันนี้สีตอนเติมน้ำแล้ว(เมื่อผ่านไปสองสัปดาห์)

จะสังเกตว่าหินชุดหลังๆ จะมีมอสติดเรียบร้อยแล้วโดยไม่ได้มัดอะไรเลย
จากนั้นก็ปรับเลย์เอาท์ส่วนย่อยของ ต้นไม้มอส/ต้นไม้เพิร์ลกราส ให้ดูเนียนตาจนพอใจ ไปเรื่อยๆ


สองรูปบน ถ้าสังเกตดีๆจะมีหลายส่วนที่แต่กต่าง
1. ขนาด ตำแหน่ง และรูปทรงของต้นไม้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามความเหมาะสม
2. หินก้อนสีน้ำตาลอ่อนด้านขวากลางตู้ได้เปลี่ยนไป เพราะผมได้ลองให้โอกาสมันแล้วพบว่า
ถึงเวลาจะผ่านไป สีและลวดลายของมันก็ยังขัดแย้งกับเพื่ออย่างสิ้นเชิง
และเมื่อผมตัดสินใจเอาต้นไม้ข้างหน้าออก(เดิมตั้งใจจะใช้ปิดบังความชั่วร้ายนี้) ก็ยิ่งทำให้จุดอ่อนถูกฉายมากขึ้นอีก
3. เริ่มเห็นเค้าลางของตะไคร่น้ำตาลที่เกิดขึ้นจากการขาดการดูแล (วันที่ 4 ก.ย.)
และแล้วเพื่อนเก่าของผมก็มาเยือน (วันที่ 10 ก.ย.) สาเหตุก็ไม่ใช่อะไรนอกไปจาก
1. ประมาทว่าตะไคร่ตัวนี้จัดการง่าย บวกกับความขี้เกียจและง่วง
2. ยังไม่กล้าลงสัตว์น้ำ เพราะมองว่าต้นไม้ยังไม่พร้อมมากนัก เดี๋ยวจะหลุด และกลัวกุ้งคุ้ยดินด้วย
ต้องบอกว่า ณ จุดนั้น ตัดสินใจบอกลา AGA ไปแล้ว เพราะเหลืออีกแค่ 5 วัน ไม่น่าจะทำอะไรได้ทัน

แต่ก็อย่างว่า ถ้าไม่พยายามให้ถึงที่สุด การจะมานั่งเสียใจทีหลังมันไม่เกิดประโยชน์อะไร
ผมจึงเริ่มจากการนั่งตัดๆ ดูดๆ ตะไคร่ที่มีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่องานคนจบก็เป็นงานของกุ้งและหอยต่อ (11 ก.ย.)


สองวันต่อมา ผลงานของพลทหาร 100 นาย (มีสูญเสียบ้างตามสภาพของสงคราม)
และในจังหวะนี้ก็ถือโอกาสลองจัดแสงสำหรับการถ่ายรูปในวันถัดมาซะเลย

และแล้วเย็นวันที่ 14 ก.ย. ก็ต้องลงปลาและถ่ายรูป Final Shot อย่างฉุกละหุก
ตอนนั้นต้องบอกว่าสองจิตสองใจมากๆว่าจะส่งหรือไม่ส่ง AGA ดี แต่โชคดีที่มีคนให้คำปรึกษา ผมจึงตัดสินใจส่งไปในที่สุด
ผลจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือผมได้ทำอะไรๆจนวินาทีสุดท้ายแล้ว ไม่มีอะไรต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง

จริงๆแล้วตั้งใจว่าจะถ่ายรูปอีกครั้งในวันที่ 15 แล้วส่งในวินาทีสุดท้าย
เสียดาย ดันเกิดอุบัติเหตุที่ปลาและกุ้งตายเกือบยกตู้เพราะ CO2 พุ่ง แต่ก็ถือว่าโชคดีมากที่มีรูปของเมื่อวานกันเหนียวไว้
ชุดสุดท้าย ขอลาไปด้วย Closeup Shot เท่าที่ฝีมือถ่ายภาพจะเอื้อนะครับ [เขิลลลล]




ปล. ถึงแม้ตู้นี้จะไม่สามารถปรับปรุงอะไรได้อีกแล้ว(เพราะมีคนรับไปดูแลต่อ)
แต่ก็อยากให้ช่วยกันติและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นกรณีศึกษากับคนอื่นๆ และผมด้วย ในตู้ใบต่อไป [ไอ้แว่น]
ปล.2 ติได้ทุกอย่าง ยกเว้นชื่อตู้นะ นั่งคิด นอนคิด มาเนิ่นนานทีเดียวละ ้hahaha