Aqua.c1ub.net
*
  Sat 09/Aug/2025
หน้า: 1 ... 51 52 53 54 55 ... 76   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: คำถาม ความรู้รอบตัว  (อ่าน 599295 ครั้ง)
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1560 เมื่อ: 27/08/11, [19:01:30] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เห็นในภาพเค้าทำเรียกว่าอะไรและเกิดขึ้นที่ใด





 ้hahahaจะเอามาทายอยู่พอดี

เทศกาลกลิ้งชีสในคูเปอร์ฮิลล์
สถานที่: บร็อคเวิร์ธ (โกลเชสเตอร์เชียร์) ประเทศอังกฤษ
ช่วงเวลา: วันจันทร์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม
 
    เทศกาลที่จัดขึ้นทุกปีในคูเปอร์ฮิลล์นี้มีมานานแล้วกว่า 200 ปี โดยในช่วงเที่ยงของวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคม ก้อนเนยแข็งดับเบิ้ล กลูเชสเตอร์ก้อนโตจะถูกกลิ้งลงมาจากเนินขาและในอีกเสี้ยววินาทีต่อมา ผู้เข้าร่วมงานก็จะวิ่งตามกันเป็นพรวนลงมา แต่บอกได้เลยว่าการวิ่งลงเขาเป็นอะไรที่ยากสุดๆ ผนวกกับสภาพที่เปียก เป็นโคลนตม และหนาวด้วยแล้ว ไม่น่าแปลกใจที่ส่วนใหญ่จะกลิ้งหกคะเมนตีลังกาลงมาเสียมากกว่า งานเทศกาลกลิ้งชีสมีการแข่งด้วยกัน 5 ประเภทซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการแข่งเฉพาะของผู้หญิง ผู้ชนะทุกรายจะได้ก้อนชีสกลับบ้าน ขณะที่อันดับ 2 และ 3 จะได้รับเงินสำหรับค่าที่จอดรถ
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1561 เมื่อ: 27/08/11, [19:03:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


The Louvre Pyramid. อยู่ที่ Paris France

หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล

ถูกต้องนะครับ
Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1562 เมื่อ: 27/08/11, [19:11:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

้hahahaจะเอามาทายอยู่พอดี

เทศกาลกลิ้งชีสในคูเปอร์ฮิลล์
สถานที่: บร็อคเวิร์ธ (โกลเชสเตอร์เชียร์) ประเทศอังกฤษ
ช่วงเวลา: วันจันทร์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม
 
    เทศกาลที่จัดขึ้นทุกปีในคูเปอร์ฮิลล์นี้มีมานานแล้วกว่า 200 ปี โดยในช่วงเที่ยงของวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคม ก้อนเนยแข็งดับเบิ้ล กลูเชสเตอร์ก้อนโตจะถูกกลิ้งลงมาจากเนินขาและในอีกเสี้ยววินาทีต่อมา ผู้เข้าร่วมงานก็จะวิ่งตามกันเป็นพรวนลงมา แต่บอกได้เลยว่าการวิ่งลงเขาเป็นอะไรที่ยากสุดๆ ผนวกกับสภาพที่เปียก เป็นโคลนตม และหนาวด้วยแล้ว ไม่น่าแปลกใจที่ส่วนใหญ่จะกลิ้งหกคะเมนตีลังกาลงมาเสียมากกว่า งานเทศกาลกลิ้งชีสมีการแข่งด้วยกัน 5 ประเภทซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการแข่งเฉพาะของผู้หญิง ผู้ชนะทุกรายจะได้ก้อนชีสกลับบ้าน ขณะที่อันดับ 2 และ 3 จะได้รับเงินสำหรับค่าที่จอดรถ
ถูกต้องครับ   [เจ๋ง]



คำถาม  :  สิ่งที่เห็นในภาพเรียกว่าอะไร    (คำใบ้ :  อยู่ในยุโรป)



V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1563 เมื่อ: 27/08/11, [19:19:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เห็นคือธงที่หมายถึงอะไร  และเป็นของประเทศใด



ธงประจำกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน

http://www.thaigoodview.com/node/9024   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27/08/11, [19:22:12] โดย V 940 j »
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1564 เมื่อ: 27/08/11, [19:29:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เห็นในภาพเรียกว่าอะไร    (คำใบ้ :  อยู่ในยุโรป)





Jelling Runic Stones  ประเทศเดนมาร์ก
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1565 เมื่อ: 27/08/11, [19:32:32] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เทศกาลอะไรครับ  ในเอเชีย



Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1566 เมื่อ: 27/08/11, [19:36:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ธงประจำกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน
http://www.thaigoodview.com/node/9024   
ถูกต้องครับ

Jelling Runic Stones  ประเทศเดนมาร์ก
ถูกต้องครับ




คำถาม  :  สิ่งที่เห็นในภาพเรียกว่าอะไร   ดวงอาทิตย์ทำอะไรกับดาวโลกและส่งผลกระทบอะไรบ้าง

Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1567 เมื่อ: 27/08/11, [19:38:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เทศกาลอะไรครับ  ในเอเชีย

Onbashira

เทศกาล เสาเกียรติยศหรือเทศกาลแห่งความกล้าหาญ เป็นเทศกาลในนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในรอบหกปี (ในปีขาลและปีวอกตามปฏิทินราศีของจีน) ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมและครั้งที่สองในเดือนเมษายน โดยส่วนที่เป็นอันตรายของ เทศกาลคือชาวบ้านจะเข้าไปในป่าแล้วตัดต้นไม้ใหญ่มาจากภูเขาแล้วใช้เชือกมัด กับต้นไม้ จากนั้นพวกเขาก็ลากเชือกพร้อมต้นไม้ลงจากภูเขา เพื่อสร้างอนุสรณ์รอบๆ ทั้ง 4 มุมของ ศาลเจ้า Suwa Taisha Shrine โดยเทศกาลนี้มีเหล่าคนหนุ่มซึ่งมีความกล้าหาญจาก 6 หมู่บ้านในแถบเมืองซุวะ ร่วม 210,000 คน เข้าร่วมงานเทศกาลศักดิ์สิทธ์แห่งนี้ ส่วนที่มาของเทศกาลนี้ไม่มีใครทราบ แต่จากหลักฐานจากภาพวาดเขียนไดเมียวจินซุวาโกะในสมัยมุโรมาชิ พบว่าจักรพรรดิในสมัย เฮอัน (ปี 781-806) ได้มีรับสั่งให้สร้างศาลเจ้าในปีเสือและวอก จึงว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิด ของเทศกาลซึ่งหลายคนบอกว่านี้เป็นเทศกาลแห่งความกล้าหาญ แต่ก็มีรายงานผู้ได้รับ บาดเจ็บและเสียชีวิตในขณะเข้าร่วมเทศกาลมากมายหลายราย




คำถาม  :  สิ่งที่เห็นในภาพคือวัฒนธรรมที่มีชื่อเรียกว่าอะไร



PEATSOIL ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1568 เมื่อ: 28/08/11, [06:18:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Tuol Sleng Genocide Museum   in Phnom Penh

ผมยังไม่มีพี่     มีแต่ ......  [on_026]

ถูกต้องครับ
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1569 เมื่อ: 28/08/11, [07:44:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Onbashira

เทศกาล เสาเกียรติยศหรือเทศกาลแห่งความกล้าหาญ เป็นเทศกาลในนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในรอบหกปี (ในปีขาลและปีวอกตามปฏิทินราศีของจีน) ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมและครั้งที่สองในเดือนเมษายน โดยส่วนที่เป็นอันตรายของ เทศกาลคือชาวบ้านจะเข้าไปในป่าแล้วตัดต้นไม้ใหญ่มาจากภูเขาแล้วใช้เชือกมัด กับต้นไม้ จากนั้นพวกเขาก็ลากเชือกพร้อมต้นไม้ลงจากภูเขา เพื่อสร้างอนุสรณ์รอบๆ ทั้ง 4 มุมของ ศาลเจ้า Suwa Taisha Shrine โดยเทศกาลนี้มีเหล่าคนหนุ่มซึ่งมีความกล้าหาญจาก 6 หมู่บ้านในแถบเมืองซุวะ ร่วม 210,000 คน เข้าร่วมงานเทศกาลศักดิ์สิทธ์แห่งนี้ ส่วนที่มาของเทศกาลนี้ไม่มีใครทราบ แต่จากหลักฐานจากภาพวาดเขียนไดเมียวจินซุวาโกะในสมัยมุโรมาชิ พบว่าจักรพรรดิในสมัย เฮอัน (ปี 781-806) ได้มีรับสั่งให้สร้างศาลเจ้าในปีเสือและวอก จึงว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิด ของเทศกาลซึ่งหลายคนบอกว่านี้เป็นเทศกาลแห่งความกล้าหาญ แต่ก็มีรายงานผู้ได้รับ บาดเจ็บและเสียชีวิตในขณะเข้าร่วมเทศกาลมากมายหลายราย

 Correct! เยี่ยมครับ
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1570 เมื่อ: 28/08/11, [07:53:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 :  สิ่งที่เห็นในภาพคือวัฒนธรรมที่มีชื่อเรียกว่าอะไร





ปฎิทินหินของชาวมายา

       พบที่เมืองโคบา แหล่งอารยธรรมมายาโบราณที่เม็กซิโกและกำลังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนให้ความสนใจ หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดออกไปว่าที่นี่มีศิลาจารึกทำนายว่าโลกจะถึงกาลสิ้นสุดในวันที่ 21 ธ.ค. ปี 2554
ในรายงานระบุว่า นักโบราณคดีได้ตีความจากอักษรภาพบนหลักศิลาว่า อาจหมายถึงการสิ้นสุดยุคเก่า เริ่มต้นยุคใหม่ แต่ก็ยังมีข้อโต้กันแย้งว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไรกันแน่ แต่มีคนไม่น้อยเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ้นปีนี้
      ส่วนบรรดานักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย เชื่อว่าคำทำนายนี้อาจเป็นเรื่องจริง เมื่อดูจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกในระยะหลังเกิดขึ้นถี่ และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่บางคนก็มองว่ามนุษย์ทำลายโลกมามาก และอาจถึงวันที่โลกหรือธรรมชาติจะเอาคืนบ้าง
      ทั้งนี้อารยธรรมมายาโบราณเคยเจริญรุ่งเรืองอยู่ที่นี่มานานกว่า 3,000 ปี พวกเขามีความรู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ และใช้ความรู้นี้คิดค้นปฏิทิน 2 ระบบ คือปฏิทินดาราศาสตร์ที่มีปีละ 365 วัน และปฏิทินเกษตรที่มีปีละ 260 วัน โดยชาวมายาเชื่อว่าวันดังกล่าวจะเป็นวันสิ้นยุคที่ 5 ของโลก
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1571 เมื่อ: 28/08/11, [08:02:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เห็นในภาพเรียกว่าอะไร   ดวงอาทิตย์ทำอะไรกับดาวโลกและส่งผลกระทบอะไรบ้าง



ดวงอาทิตย์-โลกเชื่อมต่อกันด้วยอันตรกิริยาเชิงแม่เหล็ก

 Credits: Magnetosphere: NASA, the Sun: ESA/NASA SOHO

     พวกเขาทดสอบข้อมูลหลาหลายแหล่ง ทั้งที่เกิดภายในปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ หรือที่เกิดภายในระบบเทคโนโลยีของมนุษย์ เช่น ภายในอุปกรณ์โทรคมนาคม และข้อมูลเชิงแผ่นดินไหววิทยา และพยายามหาหลักฐานของความถี่ไม่ต่อเนื่องที่เป็นคุณลักษณะของการสั่นจากดวงอาทิตย์ (solar oscillation) ซึ่งเคยเชื่อกันว่า เป็นเพียงสัญญาณรบกวน (noise) เท่านั้น
     Thomsons เชื่อว่ากุญแจไขปัญหานี้คือ “สภาพแม่เหล็ก” (magnetism) เขาเสนอว่า การสั่นแบบ g-mode จะถูกพาขึ้นมาโดยสนามแม่เหล็กที่ผิวดวงอาทิตย์ บางส่วนของสนามแม่เหล็กเหล่านี้ถูกพาออกมาจากดวงอาทิตย์สู่อวกาศระหว่างดาวเคราะห์โดยลมสุริยะ (solar wind) ที่ซึ่งพวกมันถูกตรวจพบโดยอุปกรณ์ตรวจวัดในอวกาศอย่าง Ulysses
      สนามแม่เหล็กของลมสุริยะจะทำอันตรกิริยากับสนามแม่เหล็กโลกแล้วทำให้เกิดการสั่นอย่างสอดคล้อง และคงลักษณะของสัญญาณ g-mode เอาไว้ การเคลื่อนที่ของสนามแม่เหล็กโลก (geomagnetic field) จะควบคู่กับส่วนที่เป็นของแข็งเกร็งบนโลก เพื่อผลิต การสั่นขนาดเล็กแต่ง่ายต่อการตรวจวัดบนโลก

    Copy มาตอบนะครับ ผมอ่านแล้วก็งง [งง] คือไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1572 เมื่อ: 28/08/11, [08:04:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชื่อนกอะไรครับ และมันมีความพิเศษยังไง


V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1573 เมื่อ: 28/08/11, [08:06:13] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น้ำหนักเท่าไหร่ และมีความพิเศษยังไงครับ


Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1574 เมื่อ: 28/08/11, [09:31:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ปฎิทินหินของชาวมายา

       พบที่เมืองโคบา แหล่งอารยธรรมมายาโบราณที่เม็กซิโกและกำลังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนให้ความสนใจ หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดออกไปว่าที่นี่มีศิลาจารึกทำนายว่าโลกจะถึงกาลสิ้นสุดในวันที่ 21 ธ.ค. ปี 2554
ในรายงานระบุว่า นักโบราณคดีได้ตีความจากอักษรภาพบนหลักศิลาว่า อาจหมายถึงการสิ้นสุดยุคเก่า เริ่มต้นยุคใหม่ แต่ก็ยังมีข้อโต้กันแย้งว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไรกันแน่ แต่มีคนไม่น้อยเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ้นปีนี้
      ส่วนบรรดานักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย เชื่อว่าคำทำนายนี้อาจเป็นเรื่องจริง เมื่อดูจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกในระยะหลังเกิดขึ้นถี่ และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่บางคนก็มองว่ามนุษย์ทำลายโลกมามาก และอาจถึงวันที่โลกหรือธรรมชาติจะเอาคืนบ้าง
      ทั้งนี้อารยธรรมมายาโบราณเคยเจริญรุ่งเรืองอยู่ที่นี่มานานกว่า 3,000 ปี พวกเขามีความรู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ และใช้ความรู้นี้คิดค้นปฏิทิน 2 ระบบ คือปฏิทินดาราศาสตร์ที่มีปีละ 365 วัน และปฏิทินเกษตรที่มีปีละ 260 วัน โดยชาวมายาเชื่อว่าวันดังกล่าวจะเป็นวันสิ้นยุคที่ 5 ของโลก
ถูกต้อง  เป็นของ อารยธรรมมายาโบราณ    [เจ๋ง]


ดวงอาทิตย์-โลกเชื่อมต่อกันด้วยอันตรกิริยาเชิงแม่เหล็ก
 Credits: Magnetosphere: NASA, the Sun: ESA/NASA SOHO
     พวกเขาทดสอบข้อมูลหลาหลายแหล่ง ทั้งที่เกิดภายในปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ หรือที่เกิดภายในระบบเทคโนโลยีของมนุษย์ เช่น ภายในอุปกรณ์โทรคมนาคม และข้อมูลเชิงแผ่นดินไหววิทยา และพยายามหาหลักฐานของความถี่ไม่ต่อเนื่องที่เป็นคุณลักษณะของการสั่นจากดวงอาทิตย์ (solar oscillation) ซึ่งเคยเชื่อกันว่า เป็นเพียงสัญญาณรบกวน (noise) เท่านั้น
     Thomsons เชื่อว่ากุญแจไขปัญหานี้คือ “สภาพแม่เหล็ก” (magnetism) เขาเสนอว่า การสั่นแบบ g-mode จะถูกพาขึ้นมาโดยสนามแม่เหล็กที่ผิวดวงอาทิตย์ บางส่วนของสนามแม่เหล็กเหล่านี้ถูกพาออกมาจากดวงอาทิตย์สู่อวกาศระหว่างดาวเคราะห์โดยลมสุริยะ (solar wind) ที่ซึ่งพวกมันถูกตรวจพบโดยอุปกรณ์ตรวจวัดในอวกาศอย่าง Ulysses
      สนามแม่เหล็กของลมสุริยะจะทำอันตรกิริยากับสนามแม่เหล็กโลกแล้วทำให้เกิดการสั่นอย่างสอดคล้อง และคงลักษณะของสัญญาณ g-mode เอาไว้ การเคลื่อนที่ของสนามแม่เหล็กโลก (geomagnetic field) จะควบคู่กับส่วนที่เป็นของแข็งเกร็งบนโลก เพื่อผลิต การสั่นขนาดเล็กแต่ง่ายต่อการตรวจวัดบนโลก

    Copy มาตอบนะครับ ผมอ่านแล้วก็งง [งง] คือไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่
ครับ   [เจ๋ง]   มันคือ  Solar wind  พายุสุริยะ

คือ กระแสของอนุภาคประจุไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากชั้นบรรยากาศชั้นนอกของดวงอาทิตย์สู่อวกาศ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยอิเล็กตรอนและโปรตอน ซึ่งมีพลังงานเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 10-100 eV กระแสอนุภาคเหล่านี้มีอุณหภูมิและความเร็วที่แตกต่างกันออกไปตามช่วงเวลา กระแสอนุภาคจะหลุดออกพ้นจากแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ได้เนื่องจากมีพลังงานจลน์และอุณหภูมิโคโรนาที่สูงมาก

ลมสุริยะทำให้เกิดเฮลิโอสเฟียร์ คือฟองอากาศขนาดใหญ่ในมวลสารระหว่างดาวที่ครอบคลุมระบบสุริยะเอาไว้ ลมสุริยะยังทำให้เกิดปรากฏการณ์อื่นที่เกี่ยวข้องได้แก่ พายุแม่เหล็กโลก (geomagnetic storm) ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ไฟฟ้าบนโลกใช้การไม่ได้บางครั้งบางคราว, ออโรรา (หรือปรากฏการณ์แสงเหนือ-แสงใต้) และหางพลาสมาของดาวหางที่จะชี้ออกไปจากดวงอาทิตย์เสมอ

Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1575 เมื่อ: 28/08/11, [09:34:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น้ำหนักเท่าไหร่ และมีความพิเศษยังไงครับ

มันคือ  Hope Diamond   หนัก 112 กะรัต

เพชร "โฮป"
เพชรสีน้ำเงินเข้มเม็ดนี้เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ได้รับการกล่าวขานมาเนิ่นนานว่ากันว่า
เพชรโฮปมาจากดวงตาของเทวรูปในวัดริมแม่น้ำโคเลอรูน (Coleroon) ในอินเดีย เพชรหนัก 112 กะรัต เม็ดนี้
ถูกขุดพบในเหมืองคอลเลอร์ (Kollur mine) ในกอลคอนดา เป็นเพชรที่หายากและมีสีน้ำเงินเหมือนสีไพลินเข้ม
ชอง-แบปตีส ตาแวร์นีเย (Jean-Baptist Tavernier) พ่อค้าเพชรชื่อดังชาวฝรั่งเศส
 ซื้อเพชรนี้มาและลักลอบนำเข้าไปยังกรุงปารีสใน ค.ศ. 1668
 ต่อมาใน ค.ศ. 1669 ตาแวร์นีเยขายเพชรให้แก่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยราคา 3,000,000 ปอนด์ เพชรโฮปนี้
ได้รับการเจียระไนเป็นรูปหยดน้ำรูปทรงสามเหลี่ยมหนัก 67.5 กะรัต โดยนายเปเตออง (Petean)
 และเป็นที่รู้จักในนาม "เพชรตาแวร์นีเยสีฟ้า" (The Tavernier Blue)
 เพชรสีน้ำเงินฝรั่งเศส (The French blue) หรือเพชรสีน้ำเงินแห่งมงกุฎ (The Blue Diamond of the Crown)
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงมอบเพชรให้แก่มาดาม เดอ มงเตสปอง (Madam de Montespan)
 แต่ไม่นานหลังจากนั้นนางก็กลายเป็นที่เกลียดชังของราชสำนัก เพชรฝรั่งเศสสีน้ำเงินนี้ ได้หายไปในเดือนกันยายน ค.ศ. 1792
หลังจากการปล้นเพชรครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ที่คลังเก็บสมบัติแห่งชาติ (The National Garde Meuble)
ใน ค.ศ. 1812บันทึกความทรงจำของจอห์น ฟรานซิลลอน (john Francillon) พ่อค้าเพชรชาวลอนดอนเขียนไว้ว่า
เพชรสีน้ำเงินหนัก 45-52 กะรัตได้ปรากฏขึ้นใน ค.ศ. 1830 ที่อังกฤษ โดย เดเนียล แอเลียสัน (Denial Eligson)
 พ่อค้าเพชรชาวลอนดอน เขาเปลี่ยนรูปแบบการเจียระไนเป็นรูปหมอนและขายให้แก่เฮนรี ทอมัส โฮป (Henty Thomus Hope)
นักการธนาคารชาวอังกฤษ ดังนั้นเพชรสีน้ำเงินจึงได้ชื่อใหม่ตามชื่อของเขาคือ เพชร "โฮป"
ลอร์ดฟรานซิส เพลแฮม คลินตัน โฮป (Lord Francis Pelham Clinton Hope)
ซึ่งได้เป็นเจ้าของเพชรของพ่อของเขา ท้ายที่สุดแล้วกลับล้มละลายและเพชรก็ได้หายไปอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมาปีแยร์ การ์ตีเย (Pierre Cartier) พ่อค้าเพชรชาวปารีส
ได้ขายเพชรโฮปผ่านทางสุลต่านอับดุล-ฮามิด (Abdul - Hamid) ให้กับวิลเลียม แมกลีน (William Mclean)
คนสำคัญในวงการหนังสือพิมพ์ และเพชรเม็ดนี้ก็ถูกนำไปที่สหรัฐอเมริกา แมกลีน ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
ซื้อเพชรมาด้วยราคา 154,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภรรยาของแมกลีนต้องการให้พระทำพิธีขับไล่ผีในเพชรก่อน
พิธีนี้จึงได้มีขึ้นและเธอก็ป่าวประกาศว่ามี "ฟ้าผ่าและฟ้าแลบในระหว่างพิธี" ด้วย
หลังจากนั้นเธอจึงค่อยสวมใส่เพชรเม็ดนี้โชคร้ายที่ดูเหมือนคำสาปในเพชรยังคงมีอยู่ ใน ค.ศ. 1918
ลูกชายของแมกลีนอายุ 9 ขวบ หลุดรอดจากการดูแลของบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและถูกรถคันหนึ่งชนเสียชีวิต
แมกลีนจึงดื่มเหล้าและหลังจากนั้นไม่กี่เดือนลูกสาวคนเดียวของพวกเขาก็ปลิดชีพตัวเองโดยใช้ยานอนหลับใน ค.ศ. 1949
หลังจากที่ภรรยาของแมกลีนเสียชีวิตแล้ว แฮร์รี วินสตัน (Harry Winston)
พ่อค้าเพชรชาวนิวยอร์ก ได้ซื้อเพชรโฮปไปด้วยราคา 180,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปเพิ่มชุดสะสมส่วนตัวของเขา
ใน ค.ศ. 1958 เอดนา วินสตัน (Edna Winston) ได้บริจาคเพชรเม็ดนี้ให้แก่สถาบันสมิทโซเนียนในกรุงวอชิงตัน
 ซึ่งเป็นที่ที่จัดแสดงเพชรในปัจจุบัน และมีผู้มาเยี่ยมชมหลายพันซึ่งหลงไหล
ในเพชรสีน้ำเงินไพลินและความแวววาวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่มีตำนานที่น่าสนใจ




คำถาม  :  สิ่งที่เค้ากำลังเล่นอะไรกันอยู่มีชื่อเรียกว่าอะไรครับ





V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1576 เมื่อ: 29/08/11, [12:12:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มันคือ  Hope Diamond   หนัก 112 กะรัต

เพชร "โฮป"
เพชรสีน้ำเงินเข้มเม็ดนี้เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ได้รับการกล่าวขานมาเนิ่นนานว่ากันว่า
เพชรโฮปมาจากดวงตาของเทวรูปในวัดริมแม่น้ำโคเลอรูน (Coleroon) ในอินเดีย เพชรหนัก 112 กะรัต เม็ดนี้
ถูกขุดพบในเหมืองคอลเลอร์ (Kollur mine) ในกอลคอนดา เป็นเพชรที่หายากและมีสีน้ำเงินเหมือนสีไพลินเข้ม
ชอง-แบปตีส ตาแวร์นีเย (Jean-Baptist Tavernier) พ่อค้าเพชรชื่อดังชาวฝรั่งเศส
 ซื้อเพชรนี้มาและลักลอบนำเข้าไปยังกรุงปารีสใน ค.ศ. 1668
 ต่อมาใน ค.ศ. 1669 ตาแวร์นีเยขายเพชรให้แก่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยราคา 3,000,000 ปอนด์ เพชรโฮปนี้
ได้รับการเจียระไนเป็นรูปหยดน้ำรูปทรงสามเหลี่ยมหนัก 67.5 กะรัต โดยนายเปเตออง (Petean)
 และเป็นที่รู้จักในนาม "เพชรตาแวร์นีเยสีฟ้า" (The Tavernier Blue)
 เพชรสีน้ำเงินฝรั่งเศส (The French blue) หรือเพชรสีน้ำเงินแห่งมงกุฎ (The Blue Diamond of the Crown)
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงมอบเพชรให้แก่มาดาม เดอ มงเตสปอง (Madam de Montespan)
 แต่ไม่นานหลังจากนั้นนางก็กลายเป็นที่เกลียดชังของราชสำนัก เพชรฝรั่งเศสสีน้ำเงินนี้ ได้หายไปในเดือนกันยายน ค.ศ. 1792
หลังจากการปล้นเพชรครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ที่คลังเก็บสมบัติแห่งชาติ (The National Garde Meuble)
ใน ค.ศ. 1812บันทึกความทรงจำของจอห์น ฟรานซิลลอน (john Francillon) พ่อค้าเพชรชาวลอนดอนเขียนไว้ว่า
เพชรสีน้ำเงินหนัก 45-52 กะรัตได้ปรากฏขึ้นใน ค.ศ. 1830 ที่อังกฤษ โดย เดเนียล แอเลียสัน (Denial Eligson)
 พ่อค้าเพชรชาวลอนดอน เขาเปลี่ยนรูปแบบการเจียระไนเป็นรูปหมอนและขายให้แก่เฮนรี ทอมัส โฮป (Henty Thomus Hope)
นักการธนาคารชาวอังกฤษ ดังนั้นเพชรสีน้ำเงินจึงได้ชื่อใหม่ตามชื่อของเขาคือ เพชร "โฮป"
ลอร์ดฟรานซิส เพลแฮม คลินตัน โฮป (Lord Francis Pelham Clinton Hope)
ซึ่งได้เป็นเจ้าของเพชรของพ่อของเขา ท้ายที่สุดแล้วกลับล้มละลายและเพชรก็ได้หายไปอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมาปีแยร์ การ์ตีเย (Pierre Cartier) พ่อค้าเพชรชาวปารีส
ได้ขายเพชรโฮปผ่านทางสุลต่านอับดุล-ฮามิด (Abdul - Hamid) ให้กับวิลเลียม แมกลีน (William Mclean)
คนสำคัญในวงการหนังสือพิมพ์ และเพชรเม็ดนี้ก็ถูกนำไปที่สหรัฐอเมริกา แมกลีน ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
ซื้อเพชรมาด้วยราคา 154,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภรรยาของแมกลีนต้องการให้พระทำพิธีขับไล่ผีในเพชรก่อน
พิธีนี้จึงได้มีขึ้นและเธอก็ป่าวประกาศว่ามี "ฟ้าผ่าและฟ้าแลบในระหว่างพิธี" ด้วย
หลังจากนั้นเธอจึงค่อยสวมใส่เพชรเม็ดนี้โชคร้ายที่ดูเหมือนคำสาปในเพชรยังคงมีอยู่ ใน ค.ศ. 1918
ลูกชายของแมกลีนอายุ 9 ขวบ หลุดรอดจากการดูแลของบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและถูกรถคันหนึ่งชนเสียชีวิต
แมกลีนจึงดื่มเหล้าและหลังจากนั้นไม่กี่เดือนลูกสาวคนเดียวของพวกเขาก็ปลิดชีพตัวเองโดยใช้ยานอนหลับใน ค.ศ. 1949
หลังจากที่ภรรยาของแมกลีนเสียชีวิตแล้ว แฮร์รี วินสตัน (Harry Winston)
พ่อค้าเพชรชาวนิวยอร์ก ได้ซื้อเพชรโฮปไปด้วยราคา 180,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปเพิ่มชุดสะสมส่วนตัวของเขา
ใน ค.ศ. 1958 เอดนา วินสตัน (Edna Winston) ได้บริจาคเพชรเม็ดนี้ให้แก่สถาบันสมิทโซเนียนในกรุงวอชิงตัน
 ซึ่งเป็นที่ที่จัดแสดงเพชรในปัจจุบัน และมีผู้มาเยี่ยมชมหลายพันซึ่งหลงไหล
ในเพชรสีน้ำเงินไพลินและความแวววาวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่มีตำนานที่น่าสนใจ

ถูกต้องครับ ข้อมูลแน่นเปรี๊ยะ [on_066]
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1577 เมื่อ: 29/08/11, [12:30:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เค้ากำลังเล่นอะไรกันอยู่มีชื่อเรียกว่าอะไรครับ







กีฬา ฟุตวอลเลย์ ครับ ไทยได้แชมป์โลกเมื่อปีที่แล้วด้วยนะ
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1578 เมื่อ: 29/08/11, [12:33:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชื่อนกอะไรครับ และมันมีความพิเศษยังไง



[/quote]

ยังเหลืออีกภาพนึงครับ
Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1579 เมื่อ: 29/08/11, [13:38:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

กีฬา ฟุตวอลเลย์ ครับ ไทยได้แชมป์โลกเมื่อปีที่แล้วด้วยนะ
ถูกต้องครับ  Footvolley


ชื่อนกอะไรครับ และมันมีความพิเศษยังไง

ยังเหลืออีกภาพนึงครับ
เหมือนคุ้นๆแต่ผมหาไม่เจอครับ   asspain   มีคำใบ้เพิ่มไหมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29/08/11, [13:42:38] โดย FISHBONE »
Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1580 เมื่อ: 29/08/11, [13:39:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เค้ากำลังเล่นอะไรกันอยู่มีชื่อเรียกว่าอะไรครับ



Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1581 เมื่อ: 29/08/11, [13:45:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เห็นในภาพเรียกว่าอะไร  และทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้น



V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1582 เมื่อ: 29/08/11, [16:28:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


เหมือนคุ้นๆแต่ผมหาไม่เจอครับ   asspain   มีคำใบ้เพิ่มไหมครับ

ตระกูล Parrot ครับ หายากมาก
PEATSOIL ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1583 เมื่อ: 29/08/11, [16:46:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชื่อนกอะไรครับ และมันมีความพิเศษยังไง





ยังเหลืออีกภาพนึงครับ
Orange-Bellied Parrot
อาศัยทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะทาซมาเนีย ออสเตลเลีย ครับบ
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1584 เมื่อ: 29/08/11, [16:49:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เห็นในภาพเรียกว่าอะไร  และทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้น





อำพัน เป็นซากดึกดำบรรพ์ของยางไม้ เป็นสิ่งมีค่าด้วยสีสันและความสวยงามของมัน อำพันที่มีคุณภาพดีเยี่ยมจะถูกนำมาผลิตเป็นเครื่องประดับและอัญมณี แม้ว่าอำพันจะไม่เป็นแร่แต่ก็ถูกจัดให้เป็นพลอย

โดยทั่วไปแล้วจะเข้าใจผิดกันว่าอำพันเกิดจากน้ำเลี้ยงของต้นไม้ แท้ที่จริงแล้วน้ำเลี้ยงเป็นของเหลวที่ไหลเวียนอยู่ในระบบท่อลำเลียงของพืช ขณะที่ยางไม้เป็นอินทรียวัตถุเนื้ออสัณฐานกึ่งแข็งที่ถูกขับออกมาผ่านเซลล์เอพิทีเลียมของพืช

เพราะว่าอำพันเคยเป็นยางไม้ที่เหนียวนิ่มเราจึงพบว่าอาจมีแมลงหรือแม้แต่สัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กอยู่ในเนื้อของมันได้ ยางไม้ที่มีสภาพเป็นกึ่งซากดึกดำบรรพ์รู้จักกันในนามของโคปอล

สีของอำพันมีได้หลากหลายสีสัน ปรกติแล้วจะมีสีน้ำตาล เหลือง หรือส้ม เนื้อของอำพันเองอาจมีสีได้ตั้งแต่ขาวไปจนถึงเป็นสีเหลืองมะนาวอ่อนๆ หรืออาจเป็นสีน้ำตาลจนถึงเกือบสีดำ สีที่พบน้อยได้แก่สีแดงที่บางทีก็เรียกว่าอำพันเชอรี่ อำพันสีเขียวและสีฟ้าหายากที่มีการขุดค้นหากันมาก

อำพันที่มีค่าสูงมากๆจะมีเนื้อโปร่งใส ในทางตรงกันข้ามอำพันที่พบกันมากทั่วไปจะมีสีขุ่นหรือมีเนื้อทึบแสง อำพันเนื้อทึบแสงมักมีฟองอากาศเล็กๆเป็นจำนวนมากที่รู้จักกันในนามของอำพันบาสตาร์ดหมายถึงอำพันปลอม ซึ่งแท้ที่จริงแล้วก็เป็นอำพันของแท้ๆนั่นเอง
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1585 เมื่อ: 29/08/11, [16:51:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Orange-Bellied Parrot
อาศัยทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะทาซมาเนีย ออสเตลเลีย ครับบ

 Correct! ถูกต้องครับ เค้าว่าเป็นนกที่หายากที่สุดในโลก ( ตามข้อมูล )
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1586 เมื่อ: 29/08/11, [17:09:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  :  สิ่งที่เค้ากำลังเล่นอะไรกันอยู่มีชื่อเรียกว่าอะไรครับ





Hurling ใช่ป่าวครับ  asspain
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1587 เมื่อ: 29/08/11, [17:12:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ต้นนี้มีชื่อด้วยนะครับ แล้วมีความพิเศษยังไง


PEATSOIL ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1588 เมื่อ: 29/08/11, [17:24:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  นกสายพันธุ์อะไร เล่นหนังเรื่องอะไร


V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1589 เมื่อ: 29/08/11, [17:39:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำถาม  นกสายพันธุ์อะไร เล่นหนังเรื่องอะไร




   

นกฮูกหิมะสแกนดิเนเวีย หรือ Snowy Owl พบครั้งแรกใน 1758 ในส่วนเหนือของยุโรป
 
เล่นหนังเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์  ครับ
หน้า: 1 ... 51 52 53 54 55 ... 76   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: