Aqua.c1ub.net
*
8:31:34 Sat 02/Aug/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อธิบายเรื่อง F0, F1, F2 ของหมอแคระครับ  (อ่าน 16799 ครั้ง)
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
Moderator
« เมื่อ: 11/04/10, [13:51:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขออธิบายเรื่อง F นิดนึงครับ เห็นคุยกันมาหลายกระทู้แล้ว
จริงแล้วคำ F อะไรนี่ จริงๆแล้วเป็นศัพท์ทางพันธุกรรมที่ใช้กับ "ลูกผสม" นะครับ ไม่ได้ใช้กับทุกอย่าง
แต่พอนักเลี้ยงปลา(หมอแคระ)เอามาใช้ เราก็ใช้แบบความหมายเพี้ยนๆ ไปเป็นตามนี้ครับ

F0 สำหรับนักเลี้ยงปลา คือปลาที่เลือดน่าจะไม่เกี่ยวกันจริงๆ เช่นปลาป่าส่วนใหญ่
F1 คือลูกของพ่อแม่ F0
F2 คือลูกของพ่อแม่ F1 ที่เลือดเกี่ยวกัน เช่นครอกเดียวกัน
(หมายความว่าถ้าพ่อกับแม่ F1 มาจากคนละที่คนละสายกันเลย ลูกก็นับเป็น F1 ไม่ได้นับต่อเป็น F2 นะครับ)
F3 คือลูกของพ่อแม่ F2 ที่เลือดเกี่ยวกัน
F4 คือลูกของพ่อแม่ F3 ที่เลือดเกี่ยวกัน
Fอื่นๆ ก็นับต่อๆไปครับ

ประเด็นคือเราจะนับ F ต่อไป ก็ต่อเมื่อพ่อแม่ปลาเป็นเชื้อสายเดียวกันเท่านั้นครับ
ถ้าพ่อแม่มาจากคนละสายกัน ก็ไม่ต้องไปนับ F เพิ่มครับ

สมมุติว่าเราผสมคาคาทอยมา 5 รุ่น โดนที่เราเอาปลาข้างนอกมาผสมทุกรุ่น ไม่เคยให้ปลาสายเดี่ยวกันผสมกัน เราก็จะได้ลูก F1 เสมอครับ 
แต่ถ้าเราผสม 5 รุ่น โดยผสมกันเองเสมอ เราจะได้ลูกปลา F1, F2, F3, F4, F5 ตามลำดับครับ

ที่นี่มาตอบคำถามที่ถามนะครับ ที่ว่า
ปลาเพาะส่วนใหญ่ที่ขายๆกัน มักจะมาจากพ่อแม่เดียวกันใช่ไหม 
ผมว่าสำหรับหมอแคระส่วนใหญ่ก็น่าจะใช่ครับ
ถ้าขายอยู่ตู้เดียวกัน ไซส์ปลาเท่ากัน หน้าตาเหมือนกัน ก็สงสัยไว้ก่อนได้เลยครับ
เพราะปลาหมอแคระ ไม่ใช่ปลาที่มาจากฟาร์มที่เพาะกันเป็นพาณิชย์ พ่อแม่ปลาจึงมักจะมีอยู่ไม่กี่คู่ครับ
ถึงจะโชคดีได้จากคนละครอก แต่ก็มักจะสายเดียวกันอยู่ดี
การเอาคู่แบบนี้มาผสมกัน จึงจะเป็นการต่อ F ไปทันที อย่างน้อยก็ F2 แล้ว หรืออาจจะเยอะกว่านั้นอีก

จากประสบการณ์การคัดสายคาคาทอยของผม
ผมบอกได้เลยว่า ควรรักษาสายปลาไว้ที่ F1 เสมอครับ ด้วยการ "สลับสาย" คือเอาปลานอกสายเข้ามาผสมครับ
การทำ F2 และ Fถัดไป ไม่ควรทำครับ ยกเว้นว่าเราตั้งใจจะ "เค้น" ให้ได้ลักษณะพิเศษจริงๆ (เช่นปลาเผือก)
และต้องยอมรับผลที่ออกมาด้วยครับ คือปลาจะอ่อนแอลงและมีโอกาสพิการมากขึ้นครับ
paman ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1 เมื่อ: 11/04/10, [15:04:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [เจ๋ง] [เจ๋ง]
นี่คือเรื่องที่หลายคน(มือใหม่อย่างผม)สงสัย ข้อมูลดีๆมาอีกพี่อ๊อด
 
น่าปักหมุดมาก สนับสนุนๆ

chatpon ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #2 เมื่อ: 11/04/10, [15:08:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่แบ่งปัน [เจ๋ง] หลักการคล้ายกับการทำปลาหางนกยูงเลยแต่ปลาหางนกยูงทำให้ได้ผลนิ่งต้องทำถึงF3 เลยครับ
แต่ว่าทำให้เป็นปลาเผือกนี่ต้องทำกี่F ถึงจะหลุดปลาเผือกมาครับ
silapin ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #3 เมื่อ: 11/04/10, [15:46:39] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เพราะผมรึเปล่า ถึงตั้งกระทู้นี้
555555555555555
ขอบคุณครับ พี่อ๊อด
clickcat488 ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4 เมื่อ: 11/04/10, [16:01:52] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าจะทำสายปลาแนะนำทำไลน์บรีดครับ
คือการนำแม่เข้าลูกพ่อเข้าลูกครับจะดึงลักษณะดีกว่า
ส่วนอินบรีดคือลูกเข้าลูกนั้นจะออกพิการเร็วกว่าครับ
จากความรู้อันน้อยนิดของผม
HoNDa ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #5 เมื่อ: 11/04/10, [16:06:47] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับพี่  [เจ๋ง]
indigoben ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #6 เมื่อ: 11/04/10, [16:24:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 อธิบายได้กระจ่างดีครับ ลองเขียนมาซักหน้ามั้ย ลงเล่มต่อไป ผมเริ่มหมดมุขแล้ว ถ้าเป็นผมอธิบาย คงแบบไสตล์ชาวบ้านๆหน่อย แบบวิชาการอย่างงี้กระจ่างกว่าเยอะ
paman ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #7 เมื่อ: 11/04/10, [18:06:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าจะทำสายปลาแนะนำทำไลน์บรีดครับ
คือการนำแม่เข้าลูกพ่อเข้าลูกครับจะดึงลักษณะดีกว่า
ส่วนอินบรีดคือลูกเข้าลูกนั้นจะออกพิการเร็วกว่าครับ
จากความรู้อันน้อยนิดของผม
อ่าวพี่แมวมาจุดประเด็น ไลน์บรีด อินบรีดอีก อธิบายให้กระจ่างเลย
Apistoensis ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #8 เมื่อ: 11/04/10, [18:26:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ความรู้แน่นมากครับคุณอ๊อด  [เจ๋ง]   
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #9 เมื่อ: 14/04/10, [03:20:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านกันนะครับ

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่แบ่งปัน [เจ๋ง] หลักการคล้ายกับการทำปลาหางนกยูงเลยแต่ปลาหางนกยูงทำให้ได้ผลนิ่งต้องทำถึงF3 เลยครับ
แต่ว่าทำให้เป็นปลาเผือกนี่ต้องทำกี่F ถึงจะหลุดปลาเผือกมาครับ

ผมว่าหลักก็คล้ายๆ ปลาหางนกยูงแหล่ะครับ
จริงๆ คนเลี้ยงปลาหางนกยูงน่าจะชำนาญเรื่องแบบนี้มากกว่าคนเลี้ยงปลาหมอแคระด้วยซ้ำไปครับ
เพราะเรายังไม่มีความรู้เรื่องพันธุกรรมของปลาหมอแคระมากเท่าปลาหางนกยูงครับ ไม่ได้รู้ขนาดว่าสีไหนลายไหน เป็นยีนเด่นหรือยีนด้อย มีเงื่อนไขอะไรแบบไหน
หลายๆอย่างตอนนี้ก็เป็นการผสมแบบกึ่งๆเดาเอาครับ
เรื่องไลน์บรีด อินบรีด ผมว่าให้คนที่ค้นคว้าด้านปลาหางนกยูงมาอธิบายน่าจะตอบได้ลึกกว่านะครับ

ส่วนการผสมแบบเลือดชิดให้ได้ปลาเผือกนี่ ผมว่ามีสองกรณีหลักๆ ครับ
1. เรามีปลาเผือกอยู่แค่ตัวเดียว เลยต้องเอาลูกของมันมาผสมกลับให้ได้ปลาเผือกในรุ่นหลาน
2. เราสงสัยว่าปลาของเราจะมียีนเผือกแฝงอยู่

อธิบายได้กระจ่างดีครับ ลองเขียนมาซักหน้ามั้ย ลงเล่มต่อไป ผมเริ่มหมดมุขแล้ว ถ้าเป็นผมอธิบาย คงแบบไสตล์ชาวบ้านๆหน่อย แบบวิชาการอย่างงี้กระจ่างกว่าเยอะ

ด้วยความยินดีเลยครับ  lau01
ว่าแต่คุณเบญคิดจะเขียนเรื่องอะไรในเล่มต่อไปเหรอครับ 
indigoben ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #10 เมื่อ: 14/04/10, [03:48:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านกันนะครับ

ผมว่าหลักก็คล้ายๆ ปลาหางนกยูงแหล่ะครับ
จริงๆ คนเลี้ยงปลาหางนกยูงน่าจะชำนาญเรื่องแบบนี้มากกว่าคนเลี้ยงปลาหมอแคระด้วยซ้ำไปครับ
เพราะเรายังไม่มีความรู้เรื่องพันธุกรรมของปลาหมอแคระมากเท่าปลาหางนกยูงครับ ไม่ได้รู้ขนาดว่าสีไหนลายไหน เป็นยีนเด่นหรือยีนด้อย มีเงื่อนไขอะไรแบบไหน
หลายๆอย่างตอนนี้ก็เป็นการผสมแบบกึ่งๆเดาเอาครับ
เรื่องไลน์บรีด อินบรีด ผมว่าให้คนที่ค้นคว้าด้านปลาหางนกยูงมาอธิบายน่าจะตอบได้ลึกกว่านะครับ

ส่วนการผสมแบบเลือดชิดให้ได้ปลาเผือกนี่ ผมว่ามีสองกรณีหลักๆ ครับ
1. เรามีปลาเผือกอยู่แค่ตัวเดียว เลยต้องเอาลูกของมันมาผสมกลับให้ได้ปลาเผือกในรุ่นหลาน
2. เราสงสัยว่าปลาของเราจะมียีนเผือกแฝงอยู่

ด้วยความยินดีเลยครับ  lau01
ว่าแต่คุณเบญคิดจะเขียนเรื่องอะไรในเล่มต่อไปเหรอครับ 
ยังนึกไม่ออก ว่าจะเขียนเรื่องการอนุบาลลูกปลาอะครับ ว่าถึงเรื่องอาหารลูกปลาล้วนๆ แต่ตอนนี้ งานล้นมือ ไม่มีเวลาทำอะไรเลย
~TheEndZonE~ ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #11 เมื่อ: 16/04/10, [11:34:09] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เข้ามาเก็บความรู้ สุดยอดเลยคับ ขอบคุณมากๆ [เจ๋ง] [เจ๋ง]
song32356 ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #12 เมื่อ: 16/04/10, [19:22:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับ [เจ๋ง]
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #13 เมื่อ: 20/04/10, [01:43:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ยังนึกไม่ออก ว่าจะเขียนเรื่องการอนุบาลลูกปลาอะครับ ว่าถึงเรื่องอาหารลูกปลาล้วนๆ แต่ตอนนี้ งานล้นมือ ไม่มีเวลาทำอะไรเลย

เรื่องอาหารลูกปลาก็น่าสนนะครับ คงเป็นประโยชน์กับคนที่เลี้ยงปลาอื่นๆด้วย

แต่บทความแนะนำปลา ผมว่าก็น่าจะยังได้อีกหลายชนิดเลย
ที่ผ่านมาพึ่งได้แค่ 4-5 ชนิดเอง
เหลืออีกเพียบเลย (ต่อให้ลงเล่มละชนิด ก็คงเขียนต่อไปได้อีกเป็นทศวรรษเลยมั้งครับ)
TENTzz ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #14 เมื่อ: 20/04/10, [17:16:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ความรู้แน่น ครับ  [เจ๋ง] [เจ๋ง]
indigoben ออฟไลน์
Moderator
« ตอบ #15 เมื่อ: 20/04/10, [17:50:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องอาหารลูกปลาก็น่าสนนะครับ คงเป็นประโยชน์กับคนที่เลี้ยงปลาอื่นๆด้วย

แต่บทความแนะนำปลา ผมว่าก็น่าจะยังได้อีกหลายชนิดเลย
ที่ผ่านมาพึ่งได้แค่ 4-5 ชนิดเอง
เหลืออีกเพียบเลย (ต่อให้ลงเล่มละชนิด ก็คงเขียนต่อไปได้อีกเป็นทศวรรษเลยมั้งครับ)
ปัญหาคือ ผมจะลงเฉพาะปลาที่ผมเลี้ยงเองครับ ซึ่งตัวที่เลี้ยงเองหลายๆตัวก็ลงไปหมดแล้ว ที่เหลือคือไม่มีครับ ไม่อยากจะเขียนโดยที่ไม่เคยเลี้ยงอะครับ
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: