สวัสดีครับพี่น้องครับ
ผมไม่ค่อยได้โพสรูปเท่าไหล่เลยฮะ แอบอิจฉาพี่ๆแก๊งคนสร้างภาพ ไปถ่ายภาพกันทุกอาทิตย์ งามๆกันทั้งน้านนนน
ไหนๆก็ได้ไปเที่ยวตั้ง1วัน ขับรถไปแบบคลำทางหลงทางก็ถามทางเอา 036
ได้รูปมาฝากน้อยนิดแต่พอดูได้ฮะ
ป่ะลุย!! [หลั่นล้า]
ชมภาพไป อ่านบรรยายไปจะได้ไม่เบื่อนะครับสำหรับคนนอนดึก
ผมออกเดินทางจากสมุทรสาครขับไปเส้นทางสมุทรสงคราม ลัดเลาะไปตามชายฝั่ง เผื่อจะมีเรื่องเล่าระหว่างทางบ้าง ได้น้องปูเหล็กยืนก้ามโตกลางถนน กดไป2แล้วเดินทางต่อ

ขับไปเรื่องที่สมุทรสงครามก็มีคอนโดนกนางแอ่นมากมายแต่ไม่ได้เก็บภาพมากัวโดนยิง ไปเจอลุงท่านนึงแกนั่งขายรักนกอยู่ไต้สะพาน เลยลงรถชวนแกคุย ถามโน่นถามนี่ แล้วก็อุดหนุดไป3ถุง

ผู้ถือศีล8 ตอนนี้ผมเดินทางมาถึงวัดเขาตะเคราแล้วครับ แวะซื้อดอกไม้ธูปเทียน

วัดเขาตะเครา เพชรบุรี

ในตำนานของพระปฏิมากรพี่น้องที่ลอยน้ำมาด้วยกันนั้น นอกจากหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต วัดบางพลี หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อวัดบ้านแหลมแล้ว พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับตำนานพระลอยน้ำอันเลื่องลือกันนี้ได้แก่หลวงพ่อวัดเขาตะเครา ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเคราหรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า หลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดเพชรบุรี ที่ชาวไทยเคารพสักการะและเชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก
หลวงพ่อวัดเขาตะเคราเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ศิลปะเชียงแสน องค์พระถูกปิดด้วยทองคำเปลวพอกหนา ตำนานการค้นพบหลวงพ่อทองกล่าวว่า ได้ค้นพบคราวเดียวกันกับหลวงพ่อวัดบ้านแหลมในยุคปลายกรุงศรีอยุธยา เมื่อชาวบ้านแหลมเมืองเพชรบุรีหนีศึกสงครามมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ปากน้ำแม่กลองสมุทรสงคราม ได้ลากอวนแล้วพบกับพระปฏิมากรสององค์ในลำน้ำกลอง โดยได้อัญเชิญพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม ส่วนพระพุทธรูปขัดสมาธินั้น ได้มอบให้กับญาติพี่น้องอัญเชิญไปยังเมืองเพชรบุรีซึ่งได้นำมาประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเคราเป็นเวลามากกว่าสองร้อยปีแล้ว จึงเรียกกันว่าหลวงพ่อวัดเขาตะเครา มีเรื่องเล่าว่า เดิมวัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดเขาจีนเครา เนื่องจากชาวจีนที่มีเครายาวได้รับคำสั่งจากเจ้าสัวให้ควบคุมการสร้างวัดและเรียกกันเพี้ยนต่อมาว่าวัดเขาตะเคราในที่สุด
ต่อมาชาวเพชรบุรีเรียกหลวงพ่อวัดเขาตะเคราว่าหลวงพ่อทอง เนื่องด้วยจากทองคำเปลวที่ชาวบ้านพากันติดบูชาท่านจนหนา เล่ากันว่าเคยมีผู้ลอกทองออกจาพระพักตร์หลงพ่อ ปรากฏว่าชายผู้นั้นเกิดหน้าบวม จนต้องทำพิธีขอขมาอาการจึงหาย ทำให้ไม่มีใครกล้าแตะต้ององค์หลวงพ่ออีก และเรียกท่านว่าหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเคราเรื่อยมา นอกจากนี้ที่วัดยังมีหลวงพ่อวิหารบนเขาตะเครา หรือหลวงพ่อหมออันเป็นที่เคารพสักการะอย่างมากอีกด้วย
http://www.moohin.com/108tripsboon/108trips001c011.shtml
ทางขึ้นไปยอดเขา 10บาท ไม่ต้องเดินไห้เหนื่อย

ขนุน สรรพคุณ ช่วยย่อยอาหาร แก้กระหายน้ำได้ดีจัดเป็นผลไม้ไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ในรสชาติ และมีกลิ่นอันหอมหวาน

แมวขี้อายเขิลกล้อง

วันนั้นตรงกับวันสำคัญทางพุทธศาสนาพอดี ดันมีพระอาทิตย์ทรงกรตซะนี่ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นนะ นี่นะ

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาไปต่อกันที่ถ้ำเขาหลวง ลิงอย่างเยอะ ฝากรถไว้กับร้านค้าชื่อร้าน เซ็งเป็ด เค้าจะเอาตุ๊กตาเข้ ไปวางไว้บนรถ กันลิง

ทางเดินลงสู่พื้นถ้ำใหญ่โต โอ่อ่า อลังกาลมากคับพี่น้อง

พระประธานองค์ใหญ่

18mmอาจแคบไปสำหรับบรรยากาศสวยๆ และสภาวะแสงน้อยในถ้ำ มันคือฆาตกรที่เรามิอาจหลีกเรื่อง... ดันISOสูงๆ noise บาร wuuuu
แต่ยังดีที่ผมมี SB-600 ได้มาจากพี่แจ๊คKTL เป็นของรักของหวงที่ผมปลื้มมันมาก [ปิ๊งๆๆ]

ภาพนี้ถือว่าบังเอิญมาก ตั้งกล้องอยู่นานสองนาน รถให้นักท่องเที่ยวเดินผ่านไปไห้หมด แต่รอไม่ไหว เลยเอาพี่ฝรั่งเป็นนายแบบ แล้วกลับมาดูที่บ้าน เห้ย [เอ๊ะ!!!] เห้ย [เอ๊ะ!!!] เห้ย [เอ๊ะ!!!] 7เข้ [ปิ๊งๆๆ] สวยดีหว่ะ (สวยในความคิดของผมหน่ะ อาจไม่สวยสำหรับโปรก็ได้)
ชดเชยแสง และตบแฟรชที่นักท่องเที่ยว หัวพี่แกล้านพอดิบพอดี สะท้อนแสง ป๊าบ โอ้ว [ปิ๊งๆๆ]

ภายในถ้ำทุกห้องงามด้วยหินงอกหินย้อย และมีอากาศเย็นสบายไม่อับชื้น ถ้ำเขาหลวงมีชาวไทย ชาวต่างประเทศ ลงมาเที่ยวกันนานนับร้อยปีแล้ว มีบันทึกของชาวยุโรปและภาพปรากฏในงานพิมพ์ของอังรี มูโอ นักธรรมชาติิวิทยาชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมายังไทย ลาว กัมพูชา แล้วกลับไปตีพิมพ์ไว้เมื่อ พ.ศ.2407ถ้ำเขาหลวงนี้สุนทรภู่ไดเคยมาเที่ยว และเล่าไว้ในนิราศเมืองเพชร
"ดูว้างเวิ้งเชิงพนมน่าชมเชย ต่างแหงนเงยชมชะง่อนก้อนศิลา
เป็นลดหลั่นชั้นช่องมีห้องหับ แลสลับเลื่อมลายคล้ายเลขา
กลางคีรินหินห้อยย้อยระย้า ดาษดาดูดูดังพู่พวง"

ธรรมชาติสร้าง ทาร์ซานบันทึกภาพ heaven

อยากจะเล่าเรื่องราวแต่ว่าความสามารถอันน้อยนิด ถ่ายทอดเรื่องราวได้เพียงแค่นี้ heaven
วัดแสงที่ปากถ้ำ เเฟรชไวเรส ส่องที่พื้นน้ำที่พื้นถ้ำ ตั้งแสงแรงสุด [ปิ๊งๆๆ] [ปิ๊งๆๆ]

ก่อนจากกัน ขอเดินไปเก็บเป็นที่ระลึกอีกซัก1ใบ วัดแสงแล้วชดเชยunder เพื่อให้หมอกเข้มขึ้น ตบแฟรชลงพื้น

เป้าหมายต่อไปแก่งกระจาน จังหว่ะที่รอรถไฟแร่นตัดผ่านถนน เห็นแสงรุ้งสะท้อนกับกระจกรถ ที่ป้ายหยุด เราจะไม่ปล่อยไห้มันผ่านไป ลงไปเก็บอีก1ใบ ถ่ายย้อนแสง แล้วตบแฟรช


แวะไปกราบไหว้พระนอน ที่วัดพระพุทธไสยาสน์ (จ.เพชรบุรี) เป็นพระประจำวันเกิด emb01

ว๊า ว๊า ว๊า แก่งกระจานฝนตกซะงั้น 036

จอดรถข้างทางแล้วนั่งคิดว่าเอาไงต่อดีกว่า รอให้ฝนหยุดดีมั๊ย หรือว่ากลับบ้านดี

นอนฟังเพลงในรถ นอนมองกระจก เห้ย หยุดแง้ว แง้ว แง้ว

แต่ท้องฟ้าก็ยังทึมๆอยู่ ไม่กล้าเอาลูกรัก D60ไปเสี่ยงกับฝน กัวฟ้าผ่าด้วย ลงไปเก็บ1ใบ เพื่อไม่เป็นการเสียเที่ยว

ก็ขอกราบลากันด้วยภาพนี้ระหว่างทางกลับบ้านครับ เหนื่อยสุดๆ
ขอโทดพี่น้องที่ลงภาพช้า ติดสอบคร๊าบ
พี่น้องในc1ubติชม ชี้แนะ ได้เต็มที่เลยนะคร๊าบ ผมจะได้ปัตตะนาการถ่ายภาพต่อๆไปคร๊าบบบบ

ขอบคุณครับ