Aqua.c1ub.net
*
  Thu 25/Dec/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: "Startup-service ใน 90 วัน"  (อ่าน 3399 ครั้ง)
mon_env ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 07/10/13, [16:41:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ต้องขอออกตัวก่อนครับว่า ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมาย
อ่านจาก http://www.tropica.com/en/tropica-abc/start-up/tropica-app.aspx
เห็นว่ามีประโยชน์สำหรับมือใหม่จริง ๆ ซึ่งปัญหาหลายอย่างผมก็เพิ่งได้คำตอบ
ก็ว่าไปตามความเข้าใจ ผสมกับประการณ์ตรงบ้าง ผิดถูกก็ขออภัยครับ  [on_065]

Day 1
ก่อนการเริ่มต้น Run ระบบไม้น้ำของคุณ มีอยู่ 3 สิ่งที่คุณควรตรวจสอบอีกครั้งว่ามันมีความเหมาะสมหรือพร้อมที่จะใช้กับตู้ไม้น้ำของคุณหรือไม่ สิ่งแรกคือ ระบบกรอง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการควบคุมความสมดุลของระบบนิเวศภายในตู้ไม้น้ำ ต่อมาคือ ระบบแสงสว่าง ทั้งระบบหน่วงเวลาเปิด/ปิด (Timer) และปริมาณแสงสว่างที่เพียงพอ โดยปริมาณแสงที่เหมาะสม คือ 0.5 วัตต์ต่อน้ำ 1 ลิตร และช่วงแรกของสัปดาห์ควรเปิดไฟเพียง 6 ชั่วโมงต่อวัน สุดท้ายคือ ระบบจ่ายคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกันในตู้ไม้น้ำ เพราะต้นไม้ต้องใช้ CO2 ในกระบวนการสังเคราะห์แสง (Photosynthesis) ในการเติม CO2  สิ่งหนึ่งที่คุณควรศึกษาเพิ่มเติม คือ ธรรมชาติของไม้น้ำที่คุณเลี้ยง ว่ามีความชอบต่อสภาพน้ำอย่างไร คือในช่วงความเป็นกรด – ด่าง (pH) ที่เท่าไร ทั้งนี้ ปริมาณ CO2 จะมีผลโดยตรงต่อระดับ pH ของน้ำในตู้ และอุปกรณ์ที่ง่ายที่สุดในการทดสอบความเหมาะสมของ CO2 คือ drop checker ที่ใช่ร่วมกับน้ำยาชนิดหนึ่ง ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสีเพื่อใช้เป็น Indicator ของช่วง pH ต่าง ๆ
สำหรับในช่วงแรกของการ Run ระบบ จะพบปริมาณธาตุอาหารหรือสารต่าง ๆ จากวัสดุปลูกที่มากเกินความสามารถที่พืชน้ำหรือจุลินทรีย์ภายในระบบกรองจะกำจัดออกไปได้ ดังนั้น คุณควรหาพืชน้ำหรือพืชลอยน้ำโตเร็ว เช่น จอก แหน หรือสาหร่ายหางกระรอกตามคลองหลังบ้านคุณ มาใส่ลงในตู้เพื่อช่วยในการกำจัดธาตุอาหารส่วนเกิน และลดปัญหาตะไคร่น้ำที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ควรงดการให้ปุ๋ยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยน้ำ หรือปุ๋ยฝัง เพราะนั้นคือสาเหตุของตะไคร่ในช่วงแรกของการเริ่มระบบ

Day 3
เปลี่ยนถ่ายน้ำ 50 % โดยสามารถใช้น้ำประปาที่พักทิ้งไว้ประมาณ 3 วันเพื่อลดปริมาณคลอรีนที่ตกค้างอยู่ และในช่วงเวลานี้อาจปล่อยสัตว์เพื่อป้องกันตะไคร่ เช่น กุ้งและหอยชนิดต่าง ๆ โดยกุ้งที่นิยมกัน คือ กุ้งยามาโตะ (Amano shrimp) หลายคนคงส่งสัยว่าจะใส่กี่ตัว มีการแนะนำไว้ว่า กุ้งยามาโตะ 1 ตัว ต่อปริมาตรน้ำ 5 ลิตร แต่อย่างไรก็ตาม คุณควรสังเกตุอาการของสัตว์ที่ใส่ลงไปในตู้ เพราะในช่วงแรกระบบกรองของคุณอาจยังไม่สมบูรณ์ ปริมารของเสียยังมีอยู่มาก เช่น ปริมาณแอมโมเนีย ซึ่งเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต ถ้าหากคุณใส่สิ่งมีชีวตเหล่านี้ลงไปแล้วมันมีอาการผิดปกติ เช่น ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำปล่อยครั้ง อยู่นิ่งเป็นเวลานาน ไม่หากินตามปกติ คุณควรนำสัตว์เหล่านั้นขึ้นมาพักในน้ำปกติที่เตรียมไว้น่าจะดีกว่า

Day 7
     เปลี่ยนถ่ายน้ำ 50 % และตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น และควรทำการตัดเล็มใบไม้หรือซากไม้น้ำที่เป็นในเก่าหรือเสียหายออกจากตู้ เพราะมันคืดสาเหตุหนึ่งของการเกิดตะไคร่ในตู้ไม่น้ำของคุณ

Day 10
   เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และในช่วงนี้คุณสามารถนำปลาที่ช่วยกินตะไคร่น้ำมาปล่อยลงในตู้ ปลาที่นิยมใช้กัน คือ ปลาออตโต้ ปลาสอดดำ หรือตระกูลสอดต่าง ๆ ใช้ได้ทั้งนั้น อาจจะกินเก่งกินไม่เก่งต่างกันเลือกใช้กันตามสะดวก   
   ถ้าหากในช่วงนี้พบว่าน้ำมันสีเขียวซึ่งเกิดจการบูมของแพลงค์ตอนพืช (Plankton bloom) อาจเกิดจากการทำงานของระบบกรองของคุณ และสามารถนำสวัสดุกรองต่าง ๆ ที่ใช้อยู่มาล้างทำความใหม่ และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำ 75 % ทุก 2 วันจนกว่าน้ำจะกลับมาใสเหมือนเดิม และถ้าหากยังไม่หาย คุณสามารถแก้ไขโดยการปิดไฟเป็นเวลา 2 วัน แล้วเปลี่ยนถ่ายน้ำ 75 % แล้วเริ่มต้น Run ระบบใหม่ ซึ่งสาเหตุของน้ำสีเขียว อาจเกิดการที่คุณให้อาหารปลาหรือกุ้งในตู้มากเกินไป และสิ่งหนึ่งที่ผมจะแนะนำคือการใช้จุลินทรีย์น้ำร่วมด้วยในช่วงแรกของการ Run ระบบน้ำ ส่วนวิธีการใช้ก็แล้วแต่ผู้จำหน่ายที่คุณหาซื้อมาใช้ 

Day 14
   เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ในช่วงนี้คุณอาจเริ่มตัดแต่งไม้น้ำของคุณเมื่อพบว่าบางจุดเริ่มมีการบดบังแสงกันเกิดขึ้น

Day 17
   เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และในช่วงนี้หากคุณพบตะไคร่จำพวกเส้นขนต่าง ๆ เช่น ตะใคร่เส้นผมเขียว ตะไคร่เส้นผมน้ำตาล วิธีกำจัดที่ง่ายที่สุด คือ การใช้แปรงสีฟันสอยมันขึ้นมาจากน้ำ และควรเพิ่มสัตว์ที่ช่วยกำจัดตะไคร่ เช่น ปลาเล็บมือนาง และหอยเขา เป็นต้น

Day 21
   เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และหลังจากนี้จะเปลี่ยนน้ำแค่สัปดาห์ละครั้ง ใน่ชวงนี้ระบบกรองของคุณเริ่มคงที่และไม่มีปัญหาตะไคร่มากวนใจ แต่อย่างไร่ก็ตามก็ควรตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ และสามารถเพิ่มระยะเวลาของการเปิดไฟเป็น 8 ชั่วโมงต่อวัน  และถ้าหากคุณต้องการใส่สารอาหารต่าง ๆ ให้กับไม้น้ำ ควรงดปุ๋ยที่มีไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) เป็นส่วนประกอบ และปริมาณที่ใช้ควรใช้เพียงครึ่งโดสตามที่ฉลากระบุไว้ หรือใช้ปริมาณน้อย ๆ ตลอดสัปดาห์ดีกว่าการใช้เพียงครั้งเดียว

Day 28
   เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และล้างทำความสะอาดระบบกรองของตู้ไม้น้ำ เพื่อกำจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ออกไป ในช่วงนี้สามารถเติมปุ๋ยได้แต่ควรใช้แต่ครึ่งโดส และควรตัดแต่งไม่น้ำที่ทีการบดบังแสง รวมทั้งนำใบเก่าออกจากตู้ของคุณด้วย และถ้าหากยังพบตะไคร่น้ำอยู่ ควรทำความสะอาดด้วยแปรงหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่เหมาะสม ซึ่งการเกิดตะไคร่ในช่วงนี้ แสดงว่าคุณอาจเติมปุ๋ยมากเกินไป

Day 35
   เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % ในช่วงนี้สามารถเติมปุ๋ยได้แต่ควรใช้แค่ครึ่งโดส และถ้าไม่พบปัญหาตะไคร่ ก็สามารถนำพืชน้ำที่ช่วยในการดูดกินสารอาหารส่วนเกินที่ใส่ไว้ในวันแรกของการตั้งตู้ออกได้

Day 42
    เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % ในช่วงนี้สามารถเติมปุ๋ยได้แต่ควรใช้แค่ครึ่งโดส และสามารถเพิ่มช่วงเวลาของการเปิดไฟเป็น 8-10 ชั่วโมงต่อวัน และยังสามารถเพิ่มความสว่างของไฟได้มากว่า 0.5 วัตต์ต่อน้ำ 1 ลิตร แต่ไม่ควรเปิดไฟมากกว่า 10 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เกิดตะไคร่ได้

Day 49
เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % ในช่วงนี้สามารถเติมปุ๋ยได้แต่ควรใช้แค่ครึ่งโดส ซึ่งการให้ปุ๋ยนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชน้ำนั้นด้วยว่ามีความต้องการปุ๋ยมากน้อยเพียงใด และในช่วงเวลานี้เป็นครั้งแรกที่คุณสามารถตัดแต่งไม้น้ำ การตัดแต่งไม้น้ำจะช่วยให้ระบบรากและการเจริญเติบโตของต้นไม้ดีขึ้น

Day  56
    เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ และล้างทำความสะอาดระบบกรอง ในช่วงเวลานี้คุณสามารถให้ปุ๋ยกับต้นไม้ได้อย่างเต็มรูปแบบ (ตามที่ผู้ผลิตระบุไว้) ซึ่งปุ๋ยที่ควรให้ก็ควรประกอบด้วยไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) แต่อย่างไรก็ตามในการให้ปุ๋ย คุณควรสังเกตุลักษณะของไม้น้ำของคุณ ว่ามีอาการขาดธาตุอาหารชนิดใด และควรใช้อย่างระมัดระวัง เพราะมันอาจเป็นสาเหตุของตะไคร่น้ำในตู้ของคุณ

Day 63
เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ สามารถเพิ่มปริมาณปุ๋ยได้ และตัดแต่งพืชตามความเหมาะสม

Day 70
เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ สามารถเพิ่มปริมาณปุ๋ยได้ และตัดแต่งพืชตามความเหมาะสม การเจริญเติบโตของไม้น้ำในช่วงนี้จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น คุณควรตัดแต่งในบางส่วนที่คิดว่ามันทำให้องค์ประกอบ หรือ Layout ที่ตั้งใจไว้เปลี่ยนไป และในส่วนของไม้น้ำที่ไม่โตหรือตายไปคุณสามารถนำมาปลูกเพิ่มเติมใหม่ได้

Day 77
เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ และเติมปุ๋ย ตัดแต่งไม้น้ำตามความเหมาะสม การตัดแต่งไม้น้ำเป็นประจำจะช่วยทำให้ระบบภายในตู้สมบูรณ์ขึ้น

Day 84
เปลี่ยนถ่ายน้ำ 30 % และตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ และล้างทำความสะอาดระบบกรอง และเติมปุ๋ย ตัดแต่งไม้น้ำตามความเหมาะสม

Day 90
ช่วงนี้ระบบนิเวศภายในตู้ไม้น้ำของคุณจะอยู่ในช่วงมีสมดุล และมีความสมบูรณ์ที่สุด


     “ขอให้มีความสุขกับโลกใบเล็กใบนี้ครับ”   emb01
yutaka ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1 เมื่อ: 07/10/13, [17:25:09] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โอ้ว....มาเป็นสูตรเลย ใครตั้งตู้ใหม่น่าลองนะครับ
TFMAKO ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #2 เมื่อ: 07/10/13, [22:00:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=230253.0 ตัวแอพหน้าตาเปน ฉะนี้

และแล้วก็มีเวอร์ชั่นภาษาไทย เยี่ยมเบย ใครไม่สันทัดอังกฤษ เชิญทางนี้เลยจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07/10/13, [22:04:15] โดย TFMAKO »
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #3 เมื่อ: 08/10/13, [01:50:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Day 3 ที่สามารถลงกุ้งได้นี่น่าจะเหมาะกับตัว substrate เฉพาะของตัว tropica เอง

http://www.tropica.com/en/plant-care/plant-growth-substrate.aspx
ถ้าเป็น กลุ่ม ADA BE  หรือยี่ห้ออื่นๆน่าจะต้องดูตามกราฟระยะเวลาของผู้ผลิตด้วยครับ

แต่ชอบวิธีการที่ให้ใช้โดสปุ๋ยครึ่งนึงแล้วรอดูอาการตอบสนองในช่วงแรกถือเป็นความท้าทายจริงๆที่คุมไม่ให้เกิดตะไคร่

+ให้ครับ
TFMAKO ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4 เมื่อ: 08/10/13, [08:17:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Day 3 ที่สามารถลงกุ้งได้นี่น่าจะเหมาะกับตัว substrate เฉพาะของตัว tropica เอง

http://www.tropica.com/en/plant-care/plant-growth-substrate.aspx
ถ้าเป็น กลุ่ม ADA BE  หรือยี่ห้ออื่นๆน่าจะต้องดูตามกราฟระยะเวลาของผู้ผลิตด้วยครับ

แต่ชอบวิธีการที่ให้ใช้โดสปุ๋ยครึ่งนึงแล้วรอดูอาการตอบสนองในช่วงแรกถือเป็นความท้าทายจริงๆที่คุมไม่ให้เกิดตะไคร่

+ให้ครับ


BE ก็ลงได้ไม่ร่วงครับพี่เก่ง ผมลองละ แต่ADA ยังไม่เคยลอง
mon_env ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5 เมื่อ: 08/10/13, [09:29:52] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

BE ก็ลงได้ไม่ร่วงครับพี่เก่ง ผมลองละ แต่ADA ยังไม่เคยลอง

ถ้าจำไม่ผิด เคยเห็นกราฟของ ADA บอกไว้ว่า
ค่า ammonia จุดสูดสุดในช่วงวันที่ 3 แล้วลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว
ถ้าตามที่ Tropica แนะนำให้เปลี่ยนน้ำ 50 % ของวันที่ 3
ผมว่าก็น่าจะช่วยได้เยอะนะครับ
แต่ก็อย่างว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น ปริมาตรกรอง อัตราการไหลของน้ำ หรือการกระจายตัวของน้ำในตู้

ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับ  [เอ๊ะ!!!]
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #6 เมื่อ: 08/10/13, [12:57:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าจำไม่ผิด เคยเห็นกราฟของ ADA บอกไว้ว่า
ค่า ammonia จุดสูดสุดในช่วงวันที่ 3 แล้วลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว
ถ้าตามที่ Tropica แนะนำให้เปลี่ยนน้ำ 50 % ของวันที่ 3
ผมว่าก็น่าจะช่วยได้เยอะนะครับ
แต่ก็อย่างว่ามันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น ปริมาตรกรอง อัตราการไหลของน้ำ หรือการกระจายตัวของน้ำในตู้

ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับ  [เอ๊ะ!!!]
ปริมาณ ammonia ของ aquasoil amazonia จะลดลงต่ำกว่า 0.25 ppm หลังจากสัปดาห์ที่ 2 ครับ จนถึงระดับปลอดภัยต้องสัปดาห์ที่ 3

แต่การลงสิ่งมีชีวิตต้องหลังจาก สัปดาห์ที่ 3 จึงจะปลอดภัยดูจากระดับไนไตรท์ร่วม


กราฟนี้จะต้องใช้วิธีการดูแลตู้แบบ ADA นะครับ ผมได้อธิบายไว้โดยละเอียด
http://www.ada-tbac.com/tank.php?id_tank=4&dispevent=25#
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #7 เมื่อ: 08/10/13, [13:05:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

BE ก็ลงได้ไม่ร่วงครับพี่เก่ง ผมลองละ แต่ADA ยังไม่เคยลอง
Special characteristics of Black Earth Premium:

1) Does not release ammonia
Fertile substates tend to leach high levels of ammonia into the water column during the initial weeks of setup. This may be harmful to sensitive inhabitants, making users wait for long periods of time before safely introducing aquatic fauna into their tank. Although Black Earth Premium is highly-fertile and rich in organic nutrients, our advanced production process locks the ammonia inside the substrate. This assures that most of the nutrients remain within the substrate for the plants, and not washed away by water. As a result, the substrate remains fertile longer. This also makes your aquarium less prone to algae outbreaks, as well as keeps the aquatic inhabitants safe and eliminates long cycle times.

สำหรับ Black earth premium เคลมว่าไม่ปล่อย แต่ความจริงยังอยู่ที่การเน่าเสียจากส่วนของไม้น้ำที่เราปลูกลงไปอยู่ดีครับ ผมวัดได้ 0.25 ppm ในช่วงสัปดาห์แรกโดยตลอด

สำหรับดิน Black earth ที่เป็นลักษณะเฉพาะของดินนี้ทุกตู้คือค่า TDS จะถีบสูงขึ้นกว่าดินอื่น
ผมใช้น้ำประปา TDS 140 ตู้ดิน Black earth ช่วง 10 วันแรกเปลี่ยนน้ำทุก 2 วัน TDS 200+ ตลอด ช่วงนี้ไม่แนะนำให้ลงสิ่งมีชีวิตใดๆครับ เคยพบว่ามีร่วงเหมือนกันให้ชัวร์ BE จะลงสัตว์น้ำทุกชนิดได้ดี  ปลอดภัยต้อง 14 วันครับ  ช่วงแรกที่ถึงลงได้ไม่รีบลงเพราะไม่มีความจำเป็นในการกำจัดตะไคร่มากนัก  สัตว์น้ำจะไปรบกวนหน้าวัสดุปลูกไม้น้ำหลุดได้อีก
mon_env ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #8 เมื่อ: 08/10/13, [13:18:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ปริมาณ ammonia ของ aquasoil amazonia จะลดลงต่ำกว่า 0.25 ppm หลังจากสัปดาห์ที่ 2 ครับ จนถึงระดับปลอดภัยต้องสัปดาห์ที่ 3

แต่การลงสิ่งมีชีวิตต้องหลังจาก สัปดาห์ที่ 3 จึงจะปลอดภัยดูจากระดับไนไตรท์ร่วม


กราฟนี้จะต้องใช้วิธีการดูแลตู้แบบ ADA นะครับ ผมได้อธิบายไว้โดยละเอียด
http://www.ada-tbac.com/tank.php?id_tank=4&dispevent=25#

ใช่ ๆ กราฟนี้แหละครับ
แต่ผมเพิ่งตั้งตู้ใหม่ อายุ 1 สัปดาห์ ลงกุ้งเชอรี่ 22 ตัว ก็ยังปกติดีครับ
วัสดุปลูก ADA และสาเหตุที่กุ้งยังอยู่ได้น่าจะมาจาก 2 สาเหตุ
1. ผมถ่ายน้ำจำนวน 2 ครั้ง คือ Day 3 และ 7 ครั้งละ 50%
2. วัสดุกรองใช้ของเดิม ซึ่งจุลินทรีย์น่าจะทำงานได้อยู่ และวัสดุกรองใหม่ที่เพิ่มเข้าไป ผมอัดออกซิเจน เติมจุลินทรีย์น้ำ ทิ่งไว้ 1 สัปดาห์
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #9 เมื่อ: 08/10/13, [13:27:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ใช่ ๆ กราฟนี้แหละครับ
แต่ผมเพิ่งตั้งตู้ใหม่ อายุ 1 สัปดาห์ ลงกุ้งเชอรี่ 22 ตัว ก็ยังปกติดีครับ
วัสดุปลูก ADA และสาเหตุที่กุ้งยังอยู่ได้น่าจะมาจาก 2 สาเหตุ
1. ผมถ่ายน้ำจำนวน 2 ครั้ง คือ Day 3 และ 7 ครั้งละ 50%
2. วัสดุกรองใช้ของเดิม ซึ่งจุลินทรีย์น่าจะทำงานได้อยู่ และวัสดุกรองใหม่ที่เพิ่มเข้าไป ผมอัดออกซิเจน เติมจุลินทรีย์น้ำ ทิ่งไว้ 1 สัปดาห์
ถ้าใช้วัสดุกรองเดิมก็ลงได้ไวแบบนี้เลยครับ   [เจ๋ง]
oOEreBallOo ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #10 เมื่อ: 08/10/13, [16:55:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

นี้แหละที่ต้องการ เวอร์ชั่นภาษาไทย... [เจ๋ง]
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: