Aqua.c1ub.net
*
  Thu 13/Nov/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: นักการเมืองอเมริกาที่มีเชื้อสายไทย  (อ่าน 2707 ครั้ง)
bobo ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 26/01/12, [23:11:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


Adelaide "Alex" Sink

เธอคนนี้ ดำรงตำแหน่งนักการเมืองฝั่ง Democrat เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของรัฐฟลอริด้าและเหรัญญิกในคณะกรรมการของมูลนิธิของคณะกรรมการรัฐฟลอริดา

ดูไม่มีเค้าคนไทย แต่เธอคือลูกหลานของ Chang Bunker หรือ "จัน" จากแฝดสยาม "อิน-จัน" นั่นเองครับ 

คนไทยมีทุกมุมโลกจริงๆ

ประวัติ


ฝาแฝดอิน-จัน เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2354 ตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 2 ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ที่จังหวัดสมุทรสงคราม
โดยมีบิดาเป็นชาวจีนอพยพแต่ครั้งรัชกาลที่ 1 ชื่อ นายที มารดาเป็นคนไทยชื่อ นางนาก (บันทึกของชาวตะวันตกเรียกว่า นก (Nok))
ซึ่งฝาแฝดคู่นี้สามารถเติบโตและใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ แตกต่างไปจากแฝดติดกันคู่อื่น ๆ ที่มักเสียชีวิตหลังคลอดได้ไม่นาน
ตามกฎหมายในเวลานั้น ทั้งคู่ต้องถูกประหารชีวิตเนื่องจากความเชื่อที่ว่าเป็นตัวกาลกิณี แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็หาได้มีเหตุการณ์ใด ๆ
ตามความเชื่อไม่ โทษนั้นจึงได้รับการยกเลิก
เมื่อทั้งคู่อายุได้แค่ 2 ขวบ บิดาก็เสียชีวิตลงด้วยอหิวาตกโรค ภาระจึงตกอยู่ที่มารดาแต่เพียงผู้เดียว แฝดทั้งคู่จึงช่วยเหลือมารดาเท่าที่
เด็กในวัยเดียวกันจะทำได้ เช่น จับปลา ขายน้ำมันมะพร้าว และทำไข่เค็มขาย จนในปี พ.ศ. 2367 ความพิเศษของเด็กทั้งคู่ทราบไปถึง
พระกรรณของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นางนากและอิน-จันเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
 แล้วในปี พ.ศ. 2370 ก็มีพระบรมราชานุญาตให้อิน-จันได้เดินทางร่วมไปกับคณะทูตเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศโคชินไชน่า
(เวียดนามในปัจจุบัน)
ในปี พ.ศ. 2367 นายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ พ่อค้าชาวอังกฤษ หรือที่คนไทยสมัยนั้นเรียกว่า "นายหันแตร" ได้นั่งเรือผ่านแม่น้ำแม่กลอง
และได้พบแฝดคู่นี้กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ ด้วยความประหลาดและน่าสนใจ นายฮันเตอร์จึงคิดที่จะนำฝาแฝดคู่นี้ไปแสดงโชว์ตัวที่สหรัฐอเมริกา
 จึงเข้าทำความสนิทสนมกับครอบครัวของฝาแฝดอยู่นานนับปี จนพ่อแม่ของทั้งคู่ไว้วางใจ ในที่สุดนายอาเบล คอฟฟิน กัปตันเรือสินค้า
เดอะ ชาเคม (The Sachem) ซึ่งขณะนั้นได้เข้ามาทำการค้าในประเทศไทย ก็เป็นผู้นำตัวคู่แฝดออกเดินทางจากประเทศไทยเมื่อวันที่
1 เมษายน พ.ศ. 2372 ขณะนั้นอิน-จัน อายุได้ 18 ปี โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 138 วัน จึงถึงเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ และที่นี่เอง
ที่คู่แฝดได้ทำการเปิดตัว ก่อนจะออกเดินทางแสดงทั่วอเมริกาและยุโรปอีกร่วม 10 ปี (เอกสารบางฉบับบอกว่า ไม่ได้เริ่มที่บอสตัน แต่ไป
ตั้งหลักที่รัฐแคลิฟอร์เนีย) โดยสัญญาที่ทำไว้กับนายฮันเตอร์และนายคอฟฟินสิ้นสุดลงเมื่อทั้งคู่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ โดยในช่วง 2 ปีแรก
ทั้งคู่ก็ได้รับส่วนแบ่งค่าตอบแทน แต่ก็มีบางครั้งก็ถูกเอาเปรียบด้วย เมื่อเป็นอิสระทั้งคู่ก็เปิดการแสดงเอง และได้แสดงไปทั่วสหรัฐอเมริกา
จนเมื่ออายุได้ 28 ปี ใน พ.ศ. 2382 ทั้งคู่ก็ได้ลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านแทรปฮิลล์ (Traphill) เขตชานเมืองวิลส์โบโร (Wilkesboro) เคาน์ตีวิลส์
ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา พร้อมกับได้เปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกัน โดยมีชื่อว่า เอ็ง-ชาง บังเกอร์ (Eng and Chang Bunker)
พร้อมกับได้แต่งงานกับหญิงชาวอเมริกัน และมีลูกด้วยกันหลายคน ซึ่งระหว่างที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตในต่างประเทศนั้น มีความพยายามหลายครั้งจาก
หลายบุคคลที่จะทำการผ่าตัดแยกร่างทั้งคู่ออกจากกัน แต่ท้ายที่สุดก็มิได้มีการดำเนินการจริง ๆ
จากบันทึกที่ได้บันทึกไว้ ระบุว่า จัน (คนน้อง) เป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน หุนหันพลันแล่น และชอบดื่มสุราจนเมามาย ขณะที่ อิน (ผู้พี่) กลับมีนิสัย
ตรงกันข้าม คือ ใจเย็น สุขุมกว่า และไม่ทานเหล้า อีกทั้งทั้งคู่เคยทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นชกต่อยกันเองมาแล้วด้วย
จากการที่จันผู้น้องนิยมดื่มเหล้าจนเมามายบ่อย ๆ ทำให้เป็นโรคหลายโรค จนในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2417 จันก็เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจวาย
 จากนั้นอีกราว 2 ชั่วโมงถัดมา อินก็ได้เสียชีวิตตามไปด้วย ซึ่งจากการชันสูตรและลงความเห็นของแพทย์สมัยใหม่ ระบุว่า อินต้องสูญเสีย
เม็ดเลือดแดงให้แก่จันที่เสียชีวิตไปแล้ว ผ่านทางเนื้อที่เชื่อมกันที่อก ทั้งคู่เสียชีวิตขณะที่มีอายุได้ 63 ปี

ปัจจุบันนี้มีผู้สืบเชื้อสายรุ่นเหลน และโหลนของ ฝาแฝดอิน จัน ที่มีชีวิตอยู่มากกว่าหนึ่งพันคน
น.ส.ทันย่า รีส และนางเบ็ตตี้ บุนเกอร์ แบล็คมัน (ซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสายของ อิน และจัน)
เล่าว่า.."ครอบครัวของอินจันมีลูกหลานฝาแฝดถึง 4 คู่ แต่ไม่มีคู่ไหนร่างกายติดกัน
ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในนอร์ธแคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
บางคนเป็นดำรงตำแหน่งสำคัญในสหรัฐฯเช่น ประธาน Union Pacific railroad
และนายพลแห่งฐานทัพอากาศสหรัฐฯ
ส่วนน.ส.ทันย่า รีส นั้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของสภาศิลปะเซอเรย์
ในเมาท์แอรี่ นอร์ธแคโรไลน่า

นางเบ็ตตี้ บุนเกอร์ แบล็คมัน และ น.ส.ทันย่า รีส
ผู้สืบเชื้อสายรุ่นเหลนและโหลนของอิน-จัน

ลูกหลานของ อิน กับ จัน ส่วนใหญ่จะใช้นามสกุล บุนเกอร์ หรือบังเกอร์
ที่เป็นเช่นนี้เพราะ อิน กับ จัน ใด้นามสกุลนี้จากเพื่อนบ้านนั้นเอง

ที่มา :
wikipedia
http://www.everykid.com/worldnews2/twin/index.html
bobo ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1 เมื่อ: 26/01/12, [23:12:47] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ประดับความรู้ครับ ดูไม่มีเค้าคนเอเชียเหลืออยู่เลย

อิน กับ จัน มีลูกทั้งหมด21คน และในจำนวนนั้นหลายคู่ที่เป็นคู่แฝดที่ร่างไม่ติดกัน
ลูกหลานของเขาทั้งหมดในขณะนี้มีอยู่ประมาณ1,500คน ซึ่งพวกเขาจะพบกันในทุกวันที่22กรกฎาคม
ซึ่งเป็นวันเกิดของอินกับจัน โดยเมื่อวันที่22กรกฎาคม2554 เป็นวันครบรอบ200ปีของอินกับจัน

นอกจาก อาดิเลด หรือ อาเล็กซ์ ซิงค์ แล้ว ยังมีพลอากาศตรีคาเล็บ วี. เฮนส์ ลูกชายของนางมาร์กาเร็ต เอลิซาเบ็ธ 'ลิซซี่' บังเกอร์
ซึ่งเธอเป็นลูกสาวของจัน และ ดร.แวนซ์ เฮนส์ ซึ่งเป็นลูกชายของ พล.อ.ต.คาเล็บ วี. เฮนส์ ก็มีศักดิ์เป็นเหลนของจันเช่นเดียวกันกับ
นางอาดิเลด หรือ อาเล็กซ์ ซิงค์ 
Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #2 เมื่อ: 27/01/12, [00:16:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เพิ่งรู้เหมือนกัน   [เจ๋ง]
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: