Aqua.c1ub.net
*
  Sat 10/May/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 10 อันดับสิ่งที่ไม่ควรไปกราบไหว้ นะจ๊ะ  (อ่าน 4218 ครั้ง)
bobo ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 03/09/11, [23:25:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


อันดับ 10  ไข่นกกระจอกเทศ
มื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงามีชาวประมงพบไข่ขนาดใหญ่ขนาดเท่าลูกมะพร้าว ซึ่งเจ้าของไข่เปิดเผยว่าขณะที่เขาตระเตรียมอวนตาข่ายเพื่อหาปลาได้สังเกต เห็นวัตถุสีขาวลักษณะกลมรีคล้ายไข่ไก่ แต่มีขนาดใหญ่ผิดปกติตั้งอยู่บนพื้นในพงหญ้า จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าลักษณะภายนอกเปลือกแข็งเหมือนไข่ทั่วไป มีสีขาวครีม ส่งกลิ่นคาวซึ่งชาวบ้านบางคนคาดว่าสัตว์ที่เป็นเจ้าของคงจะตัวใหญ่มากและ บริเวณที่พบมีน้ำลึกมาก อาจมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่มาอาศัยอยู่ขณะเดียวกันบริเวณนั้นอยู่ห่างจากทะเล ประมาณ 700 เมตรถือว่าไม่ไกลมากนักอาจมีสัตว์บางชนิดขึ้นมาจากทะเลแล้ววางไข่ก็เป็นได้ จึงมีการจุดธูปกราบไหว้บูชาและใช้แป้งโรยไปที่ไข่(หมายถึงไข่ใบที่เก็บมาจาก ทะเล) แล้วใช้มือลูบหวังให้เห็นเลขเด็ด เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นางระวีวรรณ ยิ่งวรรณศิริ หัวหน้าปศุสัตว์ จ.พังงา เปิดเผยว่าไข่ที่พบน่าจะเป็นไข่ของนกกระจอกเทศโดยที่จังหวัดพังงามีฟาร์มนก กระจอกเทศอยู่ 2-3 แห่งลูกจ้างของเจ้าของฟาร์มอาจจะขโมยมาจากที่อื่น แล้วนำมาทิ้งไว้เพื่อจะนำไปปรุงรับประทาน เพราะไข่นกกระจอกเทศนั้นมีราคาแพงมาก ใบละ 100กว่าบาท แต่เพื่อมั่นใจว่าใช่หรือไม่ ใช่ ต้องนำไข่ไปพิสูจน์ในห้องแล็บแต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการสอบถามเจ้าของไข่แล้ว ไม่ยอมให้นำไปพิสูจน์และขณะนี้พบว่าไข่เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าแล้ว


อันดับ 9  ต้นหว้า
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ที่ อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมาชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปมุ่งดูและกราบไหว้ต้นหว้าที่มีน้ำไหล ออกมาอย่างขาดสายเจ้าของที่ดินกล่าวว่า ตนเองกำลังจะตัดต้นไม้ต้นดังกล่าวเพื่อต้องการไถดินเพื่อนำนาแต่หลังจากทำ งานมาตลอดทั้งวันจึงได้หยุดพักโดยได้นั่งหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ดังกล่าวซึ่ง เป็นต้นหว้าแต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่ามีหยดน้ำไหลออกมาจากต้นไม้ ดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงเริ่มเดินตรวจสอบบริเวณต้นไม้จึงพบว่ามีหยดน้ำที่ ไหลลงมาจากต้นไม้และไม่ใช่หยดน้ำที่เกิดจากน้ำค้างอย่างแน่นอนและเมื่อข่าว แพร่สะพรัดออกไปชาวบ้านจำนวนมากต่างพากันมาดูพร้อมกับน้ำภาชนะมารองรับน้ำ เพื่อนำกลับไปดื่มและอาบเพราะเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกทั้งชาวบ้านบาง ส่วนยังเชื่ออีกว่าน้ำที่หยดลงมานั้นเป็นหยดน้ำตาของต้นไม้ที่เสียใจว่าจะ ต้องถูกตัดทิ้งจึงได้ร้องไห้ออกมาอย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปตนเองคงจะไม่กล้า ที่จะตัดต้นไม้ต้นนี้ทิ้งอย่างแน่นอนเนื่องจากชาวบ้านต่างมามุงดูและไม่ยอม ให้ตนเองตัดทิ้ง เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นหว้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติความสูงประมาณ 15 เมตรมีอายุราว 20 ปี ซึ่งต้นว่าเป็นต้นไม้ที่รับประทานผลได้ส่วนสาเหตุของเรื่องประหลาดที่มีน้ำ หยดลงมานั้นจากการตรวจสอบพบว่าน้ำได้ไหลออกมาจากส่วนใบ ผ.ศ. ยงยุทธ์ จรรยารักษ์กล่าวว่านี่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น ความชื้นความกดอากาศ สภาวะแวดล้อม และ กระบวนการหาอาหารของต้นไม้ซึ่งในบางครั้งที่อากาศมีความชื้นสัมพันธ์สูงน้ำ จะระเหยเป็นไอสู่บรรยากาศได้น้อยลง ทำให้การคายน้ำลดลงแต่แรงดันน้ำในต้นพืชยังสูงอยู่จึงสามารถพบหยดน้ำที่ บริเวณกลุ่มรูเปิดที่ผิวใบซึ่งเรียกว่า ไฮดาโทด(hydathode) มักพบอยู่ใกล้ปลายใบหรือขอบใบตรงตำแหน่งของปลายท่อลำเลียงการคายน้ำในลักษณะ นี้เรียกว่า กัตเตชัน (guttation)ทำให้พืชสามารถดูดน้ำทางรากเข้าไปใช้ได้ไม่ได้เกิดจากความเศร้า เสียใจของต้นไม้แต่อย่างใด


อันดับ 8 ควาย
บ่ายวันที่ 23 กันยายน 2550ได้มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศในจ.ศรีสะเกษจำนวนมากนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบ ไหว้ลูกควายประหลาดมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนถูกจัดวางให้อยู่ในสภาพนอนหงาย แขนขากางออกจากกันลักษณะเหมือนกับท่าทางคนนอนหลับ เจ้าของลูกควายประหลาดเปิดเผยว่า มีควายอยู่ทั้งหมด 9 ตัว โดยแม่ของลูกควายประหลาดนี้เป็นตัวที่5 ได้ตกลูกออกมาเมื่อ มีลักษณะประหลาดท่าทางเหมือนคนทุกอย่าง ตั้งแต่ศีรษะปาก จมูกหู รวมทั้งขาทั้ง 4 ข้าง (เหมือนคนทุกอย่าง???)แต่ไม่มีอวัยวะแสดงลักษณะของเพศผู้หรือเพศเมียและลูก ควายประหลาดได้เสียชีวิตทันทีตั้งแต่แรกตนกับสามีจึงได้นำซากควายประหลาดไป ฝังดินไว้ในนาของตัวเองชาวบ้านบางส่วนได้นำน้ำปะพรมบนซากควายประหลาดและเอา แป้งทาตามร่างของซากลูกควายเพื่อขอหวยตามความเชื่อของตัวเองอย่างคึกคัก พร้อมนำเงินมาทำบุญใส่ในขันเงินและหยอดตู้ไม้ตามแต่ศรัทธา เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่าอาตมาเห็นว่าการที่ชาวศรีสะเกษพากันแห่ไปกราบไหว้ซากลูกควายประหลาด นี้ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถจะทำได้แต่ว่าตามหลักธรรมคำสอนของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติไว้ว่าจะต้องให้พุทธศาสนิกชนไปกราบ ไหว้ซากสัตว์แต่อย่างใด


อันดับ 7 เห็ดเขาเหม็น
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมามีชาวบ้านล่ำลือกันว่าพบเห็ดประหลาดโผล่ขึ้นมามีลักษณะ คล้ายกับหนวดปลาหมึกสูงประมาณ 7-8 นิ้ว โผล่ชูหนวดขึ้นมาประมาณ 8-9หนวดแถมยังมีน้ำคล้ายน้ำเมือก เจ้าของเห็ดกล่าวว่าก่อนหน้านี้ตนก็ได้ฝันเห็นงูสีปีกแมงทับเขียวมรกตขนาด ใหญ่ 3 ตัวในฝันนั้นบอกว่างูทั้ง 3ตัวเป็น**เมียและลูกได้มาเกี้ยวพันกันอยู่ในขื่อภายในบ้านของตนแต่ก็ไม่ ได้ฝันอะไรต่อไปอีกจึงทำให้ตนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หรือไม่เพื่อความสบายใจของประชาชนในละแวกนี้และผู้ที่พบเห็นตนจึงได้นำ ดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาเพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุที่ดีแก่ครอบครัว และชุมชน เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... เช่นเดียวกับเห็ดมือผีที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อนเห็ดชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม ของเห็ดเขาเหม็น (Stink Horn) เห็ดกลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษคือจะส่งกลิ่นเหม็นเมื่อดอกเห็ดแก่เพื่อดึงดูด แมลงให้มาตอมซึ่งจะทำให้สปอร์ติดตัวไปกับแมลงเพื่อกระจายพันธุ์ยังที่อื่น ได้เป็นเห็ดที่มีลักษณะแตกต่างไปจากราทั่วไป คือบางชนิดมีรูปร่างคล้ายการพนมมือไหว้ เช่น เห็ดในสกุล Pseudocolusหรือบางชนิดอาจมีลักษณะคล้ายเขาสัตว์


อันดับ 6 ปลาจระเข้
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้วชาวปทุมธานีพบกับปลาประหลาดที่ลำตัวมีเกล็ดสีดำเทาเงา คล้ายเกล็ดงูเห่ามีลิ้น 2 แฉก ลักษณะแฉกมนคล้ายรูปหัวใจ และมีกลิ่นคาวปลาเหม็นแรงกว่าปลาชนิดอื่นๆ มีความแปลกเหมือนมีลักษณะของอวัยวะในส่วนต่างๆของปลา งู จระเข้ รวมกัน ซึ่งเจ้าของปลาดังกล่าว เล่าว่าตนฝันแปลกๆฝันเห็นว่ามีผู้หญิงแก่เดินเข้ามาหาและจับมือตนไว้ จากนั้นเข้ามากอดเมื่อหญิงแก่คนนั้นกอดตนแล้วสภาพร่างกายของหญิงแก่ก็กลาย สภาพเน่าเฟะเหม็นเหมือนศพ จากนั้นตนสะดุ้งตื่น ตอนเช้ามาจึงใส่บาตรทำบุญและจุดธูปไหว้ขอขมา ซึ่งชาวบ้านที่เข้ามาดูต่างพากันมาลูบที่ตัวปลามีบางคนมาขอเกล็ดไปไว้บูชา ที่บ้านบ้าง จุดธูปไหว้บ้างวันนั้นทั้งวันตนไม่เป็นอันขายของเพราะต้องเดินเข้าออกไปมา หยิบปลาประหลาดให้ชาวบ้านที่แห่มาขอดู เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ปลาที่พบคือ ปลาจระเข้หรือปลาอัลลิเกเตอร์ การ์ อาศัยอยู่มากในแถบรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับปลาชนิดนี้เป็นปลาที่กินเนื้อเป็นอาหารโดยส่วนมาก ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเลี้ยงเป็นปลาสวยงามและเลี้ยงไว้ในบ่อตกปลาปลาในข่าวอาจจะมีผู้นำมา เลี้ยงเมื่อเกิดเบื่อก็นำมาปล่อยทิ้งหรืออาจจะหลุดออกมาในช่วงน้ำท่วม ซึ่งในปีพ.ศ.2545ทางกรมประมงประกาศห้ามนำเข้าปลาจระเข้ เนื่องจากเป็นปลากินเนื้ออาจทำลายระบบนิเวศของแหล่งน้ำ ด้วยการกินปลาพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าจนทำให้ระบบนิเวศเกิดความเสียหาย หรือปลาอาจสูญพันธุ์ได้


อันดับ 5 ต้นบุก
ในวันที่ 24 เมษายน 2550 ชาวบ้านเมืองพิจิตร ต่างมาชุมนุมกันหลังทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีต้นไม้ประหลาดผุดขึ้น มาจากพื้นดินมีลักษณะคล้ายพานพุ่มที่จัดวางบนโต๊ะหมู่บูชา โดยต้นไม้ดังกล่าวสูงประมาณ25 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตรซึ่งหากมองจากทางด้านข้างจะเห็นคล้ายพานพุ่มแต่ถ้ามองจากด้านบนจะ คล้ายใบโพธิ์เรียงล้อมรอบ ชาวบ้านที่เดินทางมาดูต้นไม้ประหลาดดังกล่าวต่างพากันจุดธูปเทียนกราบไหว้ พร้อมทั้งบนบานขอให้มีโชคลาภเพราะลือกันว่าในงวดที่ผ่านมามีผู้ถูกรางวัลเลข ท้ายสองตัวจากจำนวนก้านธูปที่คนนำมากราบไหว้กัน เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... มันคือต้นบุก ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นบอน (Araceae) เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นอวบไม่มีแก่น สูง 3-6 ฟุต มีดอกสีม่วงเหมือนดอกหน้าวัว เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น จีน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดจีน ในประเทศไทย คนไทยใช้เป็นอาหารกันมาช้านานแล้ว โดยใช้ต้นใบ และหัวบุกมาทำขนม เช่น ขนมบุกแกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว) ซึ่งการนำบุกมาทำอาหารจะแตกต่างกันในแต่ละภาค นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้วบุกใช้เป็นไม้ประดับที่สวยงามโดยนักจัดสวนนิยมนำ มาประดับตามใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นที่มีป่าโปร่งหรือจะนำมาใส่กระถางเป็นไม้ ประดับ


อันดับ 4 จิ้งจก
ในเวลาราวๆ ตีสาม เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมากลางดึกและจิ้งจกสีแดงตัวหนึ่ง เกาะอยู่ในมุ้งซึ่งตอนแรกเจ้าของบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไรและนอนหลับไปจนกระทั่ง เช้าจิ้งจกสีแดงก็ยังเกาะอยู่ที่เดิมจึงอธิษฐานจิตบอกจิ้งจกตัวนั้นว่า "อยากอยู่ด้วยกันก็ได้"พร้อมทั้งยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือไปจับจิ้งจกได้อย่าง ง่ายดายโดยมันไม่ได้คลานหลบหนีไปไหน และได้ไปนำเอาตู้ปลามาใส่เลี้ยงไว้พร้อมตั้งชื่อเจ้าจิ้งจกสีแดงว่า "ถุงเงินถุงทอง"โดยจิ้งจกตัวดังกล่าวมีสีแดงทั้งตัว ขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตรนอกจากนี้นิ้วเท้าทั้ง 4 ข้าง ยังแปลกประหลาดกว่าจิ้งจกทั่วไปซึ่งปกติจะมีนิ้วข้างละ 4 นิ้ว แต่จิ้งจกสีแดงดังกลาวมีนิ้วข้างละ 5 นิ้วเจ้าของบ้านจับใส่ไว้ในตู้ปลามีมุ้งลวดปิดคลุมไว้ซึ่งบริเวณแผ่นกระจก ด้านนอกตู้ ได้มีชาวบ้านนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดไว้บางรายนำผ้าแพร 3 สี และพวงมาลัยมาผูกไว้ที่หน้าตู้ประชาชนที่เดินทางไปดูจิ้งจกสีแดงต่างแสดง ความตื่นเต้นประหลาดใจบางคนก็พูดว่าเป็นมันเป็นจิ้งจก นปช. เหตุผลที่ไม่ควรกราบไหว้... นายอรรถกร สุขทวี ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลาน สวนสัตว์ดุสิตกล่าวว่ายังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจิ้งจกดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ อะไรเนื่องจากยังไม่เห็นตัวจริง แต่เบื้องต้นจากลักษณะที่บอกคาดว่าอาจเป็นจิ้งจกสายพันธุ์ต่างประเทศที่มี ผู้นำเข้ามาเลี้ยงแต่ยังไม่สามารถระบุชื่อพันธุ์ได้ชัดๆ เพราะไม่มีในเมืองไทย ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้นิยมนำสัตว์เลื้อยคลานจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงเป็น จำนวนมาก- อย่างไรก็ดีทางผู้ชื่นชอบสัตว์เลื้อยคลานจากเว็บ siamreptileเชื่อว่าเป็นจิ้งจกบ้านหางอ้วนตัวเมียที่ตกถังสีมาและยังกล่าว ไว้ว่าจิ้งจกดังกล่าวนั้นมี 5นิ้วอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด


อันดับ 3 เสาอาคาร
เรื่องเล่ามีอยู่ว่า มีคนงานสาวชาวพม่าตกลงไปในแบบหล่อเสา ขนาดใหญ่แต่เพื่อนคนงานไม่รู้เลยเทปูนซีเมนต์ทับลงไป ทำให้ฝังร่างเหยื่อทั้งเป็นมารู้อีกครั้งก็ตอนแกะแบบเหล็กออกไปแล้วจึงเห็น เป็นรูปตัวคนปรากฏอยู่ในเสาวิศวกรคุมงานสั่งให้คนงานช่วยกันกะเทาะคอนกรีต เพื่อนำศพออกมาแต่เนื่องจากคอนกรีตหล่อเสาดังกล่าวมีความแข็งมากจึงนำศพออก มาได้เพียงบางส่วนจากนั้นวิศวกรจึงสั่งให้อัดซีเมนต์เข้าไปในรอยกะเทาะดัง เดิมและฉาบปูนปิดทับแต่ก็ยังคงปรากฏเป็นรอยปะอยู่ที่เสาสองรอยซึ่งบริเวณตรง กลางเสาต้นดังกล่าวมีร่องรอยการฉาบปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ 2 จุดลักษณะคล้ายถูกเจาะเนื้อปูนเดิมออกแล้วมีการฉาบปูนใหม่ปิดทับผิดกับเสา ต้นอื่นที่จะมีลักษณะของเนื้อปูนที่ราบเรียบสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน โดยบริเวณรอยฉาบปูนมีคราบแป้งคล้ายมีคนมาถูหาตัวเลขและมีแผ่นทองคำเปลวมาติด ที่ต้นเสาเพื่อขอหวยนอกจากนี้ยังมีผู้นำสายสร้อยลูกปัดมาแขวนไว้คล้ายเป็น เครื่องเซ่นไหว้สักการะ ทางรายการเรื่องจริงผ่านจอได้ติดต่อไปทางวิศวกรผู้สร้างอาคารดังกล่าวและ ได้คำอธิบายว่าโครงสร้างของเสาที่อาคารหลังนั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริม เหล็กเป็นเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 60 เซนติเมตรซึ่งภายในเสาจะเสริมด้วยเหล็กเสริมขนาด 28 มิลลิเมตรมัดรวมกัน จำนวน 60เส้น ซึ่งรอยปูนนั้นเกิดจากการไหลเวียนขอวงน้ำปูนขณะเทคอนกรีดบางช่วงน้ำปูนไหล ไม่สะดวกซึ่งเกิดจาการติดเหล็กเส้นจำนวนมากทำให้เกิดรอยดังกล่าว และในขณะทำการหล่อเสานั้นจะมีการตรวจสอบที่ละเอียดอย่างต่อเนื่องทั้งก่อน การเทคอนกรีต ขณะเทคอนกรีต และหลังการเทคอนกรีตถ้ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆเช่นเศษลวดหรือเศษไม้ทางผู้ตรวจสอบ จะไม่อนุมัติให้เทปูนจึงยากที่จะมีวัสดุแปลกปลอมหลุดเข้าไปได้ นอกจากนี้แล้วจำนวนเหล็กเสริมที่ผูกเรียงกันข้างในนั้นทำให้มีพื้นที่ภายใน เสาเพียง 35เซนติเมตร ซึ่งแคบกว่าคนจะเข้าไปได้นอกจากนี้แล้วอาจารย์ภาควิศวกรรมโยธาแห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำเอาเครื่อง Ultra Sonic ไปตรวจสอบ และไม่พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดๆอยู่ในเสาต้นนั้นอย่างที่ข่าวลือกล่าวไว้เลย


อันดับ 2 แผ่นเจลลดไข้
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2549 เกิดพายุฝนตกฟ้าคะนองอย่างรุนแรงที่อำเภอลานสักจังหวัดอุทัยทานี และปรากฎวัตถุเรืองแสงคล้ายผีพุ่งไต้หล่นลงมาจากฟากฟ้าเมื่อพายุสงบลงเจ้า ของบ้านหลังหนึ่งได้พบสิ่งมีชีวิตประหลาดมีลักษณะคล้ายตัวหนอนเป็นปล้อง สีขาวเป็นวุ้น ข้างในลำตัวมีลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายเป็นแกนน้ำแข็ง มีจุดเล็ก ๆ 2 จุดคล้ายตาและมีติ่งยื่นออกมาคล้ายใบหูมีขนาดเท่าฝ่ามือ ซึ่งพอจับจะหดตัว แต่พอใส่ในขวดโหลตัวจะพองใหญ่ขึ้นเจ้าของบ้านหลังนั้นจึงนำธูป หมากพลูและดอกไม้มาบูชาเชื่อว่าหากใครมีในครอบครอง 7 อัน (เช่นเดียวกับดราก้อนบอล)จะทำให้เจริญรุ่งเรือง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มากไปกว่านั้นยังนำเอาเนื้อเยื่อที่หลุดลุ่ยไป คลุกเคล้ากับข้าวกินกันในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีประชาชนเดินทางไปดูเป็นจำนวนมากทั้งนี้ชาวบ้าน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ก่อนจะลงมือจุดธูปเทียนขอเลขเด็ดไปเเทง หวย เลขที่ได้รับความสนใจคือ 115เเละ 17 โดยตัวเเรกเป็นเลขที่บ้าน ส่วน 17เป็นจำนวนปล่องที่นับได้จากตัวหนอน จากข้อมูลที่ได้มาตามเว็บบอร์ดต่างๆว่าแท้จริงแล้วหนอนที่ตกมาจากฟ้านั้น นั้นเป็นเพียงเจลลดไข้ที่อมน้ำไว้ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์พันธุวิศวกรรมฯจึงได้ทดสอบนำหนอนประหลาดที่ส่งมาจาก ชาวบ้านมาเปรียบเทียบกับแผ่นเจลลดไข้ที่แช่น้ำไว้ พบว่าวัตถุทั้ง 2 ชิ้นมีลักษณะเหมือนกันทุกประการและหลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไปแผ่นเจลลดไข้ ก็ถึงกับขาดตลาดเนื่องจากผู้คนแห่กันไปซื้อมาเล่นโดยมีการนำเอาเอาแผ่นเจลมา ย้อมสีและทำการตกแต่งประดับไปด้วยวัสดุต่างๆเป็นที่สนุกสนานกัน


อันดับ 1 น้ำท่อส้วม
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 ชาวบ้าน อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่และหมู่บ้านใกล้เคียงนับพันคนแห่มาดูสิ่งประหลาดในรั้วของบ้าน หลังหนึ่งที่มีน้ำผุดขึ้นจากดินไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานมา ให้กับประชาชนที่ยากจนได้ใช้น้ำดังกล่าวไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเป็นสิริมงคล เจ้าของพื้นที่ที่น้ำผุดขึ้นมา กล่าวว่าเห็นสนามหน้าบ้านผิดสังเกตตั้งแต่ในช่วงเช้าเมื่อตรวจสอบพบว่ามีน้ำ ซึมออกมาจากดิน เมื่อลองเอานิ้วเขี่ยดูน้ำยิ่งออกมากขึ้น จึงได้บอกให้ชาวบ้านมาดู ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุตนได้ฝันเห็นยายซึ่งเสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันบอกว่าไม่ สบายอยากได้ยาพาราเซตามอล เมื่อตนเดินไปหยิบยามาให้ยายก็หายไปแล้วยายอาจมาเข้าฝันบอกเรื่องยารักษาโรค ในขณะตอนเช้าน้ำก็ผุดขึ้นมาทำให้นึกถึงฝันดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นยารักษา โรคจึงได้เอาธูปเทียนดอกไม้มาบูชา และขอน้ำไปเก็บไว้เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ชาวบ้านบางคนกล่าวว่าเข้าคิวรอ ตักน้ำตั้งแต่ทราบข่าวในตอนเช้ากว่าจะได้ตักน้ำก็เกือบเที่ยงโดยนำธูป เทียน-เงินถวายจำนวน 20 บาท วางใส่ในถาดดอกไม้คงเป็นบุญของชาวบ้านที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจชาวบ้านที่ อยู่ในสภาวะข้าวยากหมากแพง จึงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้รักษาโรคคนยากคนจนโดยชาวบ้านต่างรุมล้อมเพื่อ ขอตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปบ้านในขณะที่น้ำใต้ดินก็ผุดขึ้นมาตลอดเวลาชาวบ้านที่ นั่งรอน้ำผุดขึ้นมามีทั้งน้ำและฟองอากาศเมื่อชาวบ้านร้องขอให้แสดง ปาฏิหาริย์ให้ผุดฟองอากาศบ่อน้ำขนาดเล็กก็สำแดงให้เห็นทันที เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ในขณะที่จะเข้าไปตักน้ำปรากฏว่าน้ำที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงหยุดทันทีและยุบ ตัวจนพื้นดินแห้งซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 20 นาที น้ำก็ผุดขึ้นมาอีกทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าแพทย์ที่ไปเก็บตัวอย่างน้ำสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ไม่พอใจเมื่อไหลออกมาอีก นายสุรินทร์ นิภาโยธิน กำนันตำบลแม่จั๊วะได้นำลูกบ้านขุดหาที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวก็พบท่อ เก่าเป็นท่อพีวีซีขนาด 6 หุน ซึ่งมีน้ำไหลออกมาเมื่อขุดตรวจสอบไปอีกจึงพบว่าเป็นท่อจากส้วมเก่าบ้านติด กันห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 4เมตรเท่านั้น ซึ่งกำลังมีการสร้างส้วมและกำลังทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าไปใน ส้วมเมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่าหลายคนที่ดื่มน้ำ ศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที

ที่มา : Toptenthailand.com
ผู้มาแวะชม ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1 เมื่อ: 03/09/11, [23:28:54] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ห้ามคนไม่ให้เชื่อ ยากพอๆกับห้ามไม่ให้หวยออก
bobo ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #2 เมื่อ: 03/09/11, [23:29:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อันดับ 4 สุโค่ยมาก......จิ้งจกตกถังสี(แดง)  [on_008]

ถ้าเจอเร็วกว่านี้ เราอาจจะได้มีนายกเป็นจิ้งจกตัวแรกของโลก  ้hahaha
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03/09/11, [23:31:15] โดย bobo »
อาเดียว ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #3 เมื่อ: 04/09/11, [01:37:39] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

555+ ชอบเจลลดไข้กับน้ำส้วม ดื่มน้ำส้วม  ้hahaha

สงสัยไปหาซื้อใหญ่ ต้องไปซื้อมั้งล่ะ สะสมเจลลดไข้ครบ 7 อัน เทพเจ้าแห่งหนอนชาเขียวจะออกมาให้พร
iBever ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #4 เมื่อ: 04/09/11, [02:00:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อันดับ 1 น้ำท่อส้วม  ้hahaha ้hahaha ้hahaha ้hahaha ้hahaha
cheezzii ออฟไลน์
Cute Member
« ตอบ #5 เมื่อ: 04/09/11, [03:10:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โอ๋ยยย น้องจิ้งจกตกถังสี สงสาร


ทั้งหมดทั้งมวลคงเพราะ ชาวบ้านส่วนมากขาดความรู้

แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่เราก็ไม่รู้ [on_055]
V 940 j ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #6 เมื่อ: 04/09/11, [08:31:45] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชอบไอ้น้ำท่อส้วม ้hahaha จะเข็ดกันไม๊
Atom ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #7 เมื่อ: 04/09/11, [12:51:32] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แม่ผมคนนึงละครับบอกว่า ชีวิตคน"เขา"กำหนดมาแล้ว ผมล่ะได้แต่คิดในใจโถ่ถัง... 036
Yoda ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #8 เมื่อ: 04/09/11, [13:10:32] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น้ำท่อส้วม....ต้องมีคนเอาไปดื่มรักษาโรคแน่ๆ  thr01 thr01
RK` ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #9 เมื่อ: 04/09/11, [13:38:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น้ำส้วมนี่ฮาจริง ๆ
WazZa27 ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #10 เมื่อ: 04/09/11, [13:54:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น้ำท่อส้วมมมม  thr01
ได้โรคเพิ่มมาชัวร์
[ซีดดด]
Bankcaramel ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #11 เมื่อ: 04/09/11, [14:24:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 ้hahaha ้hahaha ้hahaha ฮาน้ำส้วม
WazZa27 ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #12 เมื่อ: 04/09/11, [15:00:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ทำไมคงไทยอยากกิงน้ำส้วมมมมมม
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
หมอแคระ mania
« ตอบ #13 เมื่อ: 04/09/11, [20:48:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


เมื่อชาวบ้านทราบว่าน้ำดังกล่าวมาจากท่อในส้วมเก่าหลายคนที่ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไปแล้วถึงกับอาเจียนออกมาทันที


สะใจมาก
 ้hahaha
0oTATSUo0 ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #14 เมื่อ: 05/09/11, [02:48:35] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชาวบ้านบางส่วนที่ได้กินน้ำป่านนี้คงนอนโรงบาลกันยกก๊วนแล้วมั้ง [on_026]
aquamedical_fraghouse ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #15 เมื่อ: 05/09/11, [11:36:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ฮาครับ น้ำท่อส้วมเด็ดมาก
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: