Aqua.c1ub.net
*
  Mon 29/Dec/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัยครับ เรื่องการเติมปุ๋ยน้ำ  (อ่าน 3849 ครั้ง)
เชาเชา ออฟไลน์
Club Follower
« เมื่อ: 21/05/14, [20:14:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สมมติว่า ตอนเติมปุ๋ยน้ำ แล้วเรามีเวลาสามารถ เติมได้ทุกวัน ถ้าผมปิดกรองสัก 1-2 ชม
เพื่อไม่ให้ปุ๋ยเข้าไปเสียเปล่าในกรอง
1เพื่อให้พืชได้ใช้ปุ๋ยที่เราใส่ไป แบบเต็มที่ จะได้ผลกว่ามั้ย หรือมีผลกระทบที่ไม่ดีมากกว่า
2หรือว่าผมคิดไปเอง ไม่เกี่ยว ผลไม่ต่างกัน แถมยังให้คุณภาพน้ำด้อยไปเปล่าๆ

พี่ๆคิดว่าไงอะครับ hmmmm hmmmm hmmmm
blackwater ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #1 เมื่อ: 21/05/14, [21:42:47] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไม่เคยได้ยินเรื่องปิดกรองเพราะเรื่องปุ๋ยนะครับ ส่วนกรองถ้าปิดนานแบคทีเรียขาดออกซิเจนแล้วระวังกรองล่มนะครับ  036
เชาเชา ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #2 เมื่อ: 21/05/14, [21:56:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แหะๆผมลองคิดแผลงๆดูเฉยๆอะครับ ยังไม่กล้าทำจริง เหมือนกัน
เผื่อมีคนเคยทำ เลยลองถามดู  ้hahaha
skeletom ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #3 เมื่อ: 22/05/14, [00:51:48] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น้ำเข้าไปยังไงก็ต้องไหลเวียนออกมาอยู่แล้วครับ ต้นไม้ก็ได้ใช้เรื่อยๆ ยกเว้นว่าในกรองเรามี เอททิเวดคาร์บอนที่ดูดปุ๋ย แต่ยังไงก็ไม่ค่อยมีใครใส่กันอยู่แล้ว
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4 เมื่อ: 22/05/14, [00:55:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น่าจะคิดเเละหาข้อมูลเรื่องเวลาการให้ปุ๋ย ว่าให้ก่อนเปิดไฟกี่ชม.  หรือให้หลังเปิดไฟไปกี่นาที หรือให้พร้อมเปิดไฟ
เเละดูเรื่องระยะเวลาของปุ๋ยเเต่ละตัวว่าอยู่ได้ในระบบนานเเค่ไหน น่าจะเวิร์คกว่าครับ

เพราะว่าถ้าคิดจะปิดกรองนานขนาดนั้น ผมคิดว่าเเบคทีเรียอาจจะตายครับ เเละอย่างที่คอมเม้นท์บนบอกครับ
ถ้ากลัวเรื่องปุ๋ยหาย ก็ต้องไม่ใส่ ใยกรองที่เป็นคาร์บอนสีดำๆ อย่างของอีฮามที่ให้มาในกล่อง ก็เอาออก ไม่ต้องใช้ครับ
ใช้เเค่เวลานํ้ามีกลื่นหรือมีสีผิดปกติไป เเค่ชั่วคราวครับ เเล้วต้องเอาออก ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา
รวมทั้งถ่านคาร์บอนที่ดูดกลิ่น ดูดสี เเละดูดปุ๋ยได้ด้วยครับ ไม่ควรใช้

ปล.ปิดกรองเเล้วกี่ชม. เเบคตาย  ผมไม่ทราบ รู้เเต่ถ้าข้ามคืนเมื่อไหร่ กรองเหม็นเเน่ครับ
เชาเชา ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #5 เมื่อ: 22/05/14, [22:47:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณทุกๆคนนะครับ
เดี๋ยวต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วลองทดลองแบบที่พี่รอมมี่บอก ดูดีกว่า  ้hahaha
yazoo ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #6 เมื่อ: 25/05/14, [02:25:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

[ข้อคิดเห็น]
ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลว่าทำไมควรเติมปุ๋ยเมื่อเปิดไฟ   [on_007]
จริงอยู่ที่ปริมาณสารอาหารพืชสามารถดูดไปใช้มากขึ้น เมื่อ การสังเคราะห์ด้วยแสง

ในทางกลับกัน CO2 ต่างหากที่ต้องมีเเสงต้นไม้ถึงจะเริ่มนำไปใช้ประโยชน์

ขั้นตอนในการดูดซึม ปุ๋ย ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ทันทีที่มีเเสง พืชก็ต้องค่อยๆ ดูดซึมปุ๋ย ซึ่งต้องใช้พลังงาน
เเละขั้นตอน เพื่อให้เข้าที่เข้าทางก่อน จนเริ่มกว่าได้รับแสงสว่าง เพื่อทำการสังเคราะห์ด้วยแสง


[ข้อเท็จจริง]   die1
พืชมีการดูดปุ๋ยไปใช้อยู่ตลอดเวลา 24/7 อยู่เเล้ว จากวัสดูปลูก เเละในน้ำสำหรับไม้น้ำ
ส่วนว่าจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับ เเร่ธาตุชนิดนั้นๆ เเละ แสงสว่าง

เท่าที่ผมทราบ สรุปได้ว่า
   - Phosphate ฟอสเฟต (PO4 ) ถูกน้ำไปใช้ทั้งกลางวันเเละกลางคืน เเต่ใช้มากในช่วงกลางวัน
   - Ca เเละ K ถูกดูดซึม ตอนกลางวัน เเต่ ต้นไม้ดูดซึมมากกว่าในเวลากลางคืน
   - Mg ดูดซึม เท่าๆกันทุกสภาวะเเสง (แอบมีดูดกลางคืนมากกว่า)


อ้างอิงงานจากวิจัยคนจีน (ภาษาอังกฤษ) ใครดูถูก ของจีนๆ ก็ข้ามไปเลยนะครับ ไม่ต้องมา มาม่า
ดู หน้าที่ 154 Fig 3.
http://ir.ihb.ac.cn/bitstream/342005...catum%20L..pdf

[ข้อคิดเห็น]
ผมคิดว่า ใส่ ให้สม่ำเสมอ เป็นประจำก็พอครับ
ที่บอกว่าต้องใส่ เฉพาะเปิดไฟ ไม่ได้เป็นสาระสำคัญ

ถ้าคิดว่ามันเเตกต่างกันอย่างมีนัยยะ ก็รบกวน ทดสอบมาให้ดูหน่อย
บอกด้วยนะว่าธาตุอะไรดูดเยอะดูดน้อยกว่า จะเป็นพระคุณมาก   [on_065]
 

[ข้อสงสัยอย่างมาก]
อีกอย่างที่ว่าปุ๋ยหาย ถ้าไม่เติมตอนเปิดไฟ เนี่ยท่านใดทราบช่วยอธิบายหลักการ เเละเหตุผลให้ผมเข้าใจหน่อยจะเป็นพระคุณเช่นกัน  wuuuu 
คือไม่เข้าใจว่ามันหายได้ไง หรือเปลี่ยนไปเป็นธาตุ อะไร หรือ โดน อะไรลักพาตัวไป ระเหย ตกหลุมดำ กลายเป็นธาตุอื่น สลายตัว ปลาแอบกิน กุ้งแอบดูด หอยแอบเก็บ
 
เอาให้ชัดเลยครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง  สงสัยมานาน  ไม่ดราม่านะครับ

[on_035]
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #7 เมื่อ: 25/05/14, [08:59:13] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

[ข้อคิดเห็น]
ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลว่าทำไมควรเติมปุ๋ยเมื่อเปิดไฟ   [on_007]
จริงอยู่ที่ปริมาณสารอาหารพืชสามารถดูดไปใช้มากขึ้น เมื่อ การสังเคราะห์ด้วยแสง

ในทางกลับกัน CO2 ต่างหากที่ต้องมีเเสงต้นไม้ถึงจะเริ่มนำไปใช้ประโยชน์

ขั้นตอนในการดูดซึม ปุ๋ย ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ทันทีที่มีเเสง พืชก็ต้องค่อยๆ ดูดซึมปุ๋ย ซึ่งต้องใช้พลังงาน
เเละขั้นตอน เพื่อให้เข้าที่เข้าทางก่อน จนเริ่มกว่าได้รับแสงสว่าง เพื่อทำการสังเคราะห์ด้วยแสง


[ข้อเท็จจริง]   die1
พืชมีการดูดปุ๋ยไปใช้อยู่ตลอดเวลา 24/7 อยู่เเล้ว จากวัสดูปลูก เเละในน้ำสำหรับไม้น้ำ
ส่วนว่าจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับ เเร่ธาตุชนิดนั้นๆ เเละ แสงสว่าง

เท่าที่ผมทราบ สรุปได้ว่า
   - Phosphate ฟอสเฟต (PO4 ) ถูกน้ำไปใช้ทั้งกลางวันเเละกลางคืน เเต่ใช้มากในช่วงกลางวัน
   - Ca เเละ K ถูกดูดซึม ตอนกลางวัน เเต่ ต้นไม้ดูดซึมมากกว่าในเวลากลางคืน
   - Mg ดูดซึม เท่าๆกันทุกสภาวะเเสง (แอบมีดูดกลางคืนมากกว่า)


อ้างอิงงานจากวิจัยคนจีน (ภาษาอังกฤษ) ใครดูถูก ของจีนๆ ก็ข้ามไปเลยนะครับ ไม่ต้องมา มาม่า
ดู หน้าที่ 154 Fig 3.
http://ir.ihb.ac.cn/bitstream/342005...catum%20L..pdf

[ข้อคิดเห็น]
ผมคิดว่า ใส่ ให้สม่ำเสมอ เป็นประจำก็พอครับ
ที่บอกว่าต้องใส่ เฉพาะเปิดไฟ ไม่ได้เป็นสาระสำคัญ

ถ้าคิดว่ามันเเตกต่างกันอย่างมีนัยยะ ก็รบกวน ทดสอบมาให้ดูหน่อย
บอกด้วยนะว่าธาตุอะไรดูดเยอะดูดน้อยกว่า จะเป็นพระคุณมาก   [on_065]
 

[ข้อสงสัยอย่างมาก]
อีกอย่างที่ว่าปุ๋ยหาย ถ้าไม่เติมตอนเปิดไฟ เนี่ยท่านใดทราบช่วยอธิบายหลักการ เเละเหตุผลให้ผมเข้าใจหน่อยจะเป็นพระคุณเช่นกัน  wuuuu  
คือไม่เข้าใจว่ามันหายได้ไง หรือเปลี่ยนไปเป็นธาตุ อะไร หรือ โดน อะไรลักพาตัวไป ระเหย ตกหลุมดำ กลายเป็นธาตุอื่น สลายตัว ปลาแอบกิน กุ้งแอบดูด หอยแอบเก็บ
 
เอาให้ชัดเลยครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง  สงสัยมานาน  ไม่ดราม่านะครับ

[on_035]


ลองอ่านเเละวิเคราะห์ดูครับ ... ดูจากที่ท่านนี้อธิบายไว้ก็น่าจะเข้าใจง่ายๆ ดูจากรูป
เเละข้อมูลส่วนล่างมาจากการวิเคราะห์ของพี่ท่านนึง เป็นคุณหมอครับ เคยตอบไว้นานละ
อ่านดูๆ ...ส่วนตัวผมคิดเห็นว่าเรื่องปุ๋ยเนี่ย ธาตุเเต่ละตัว มันไม่ได้คงรูปในรูปสารประกอบหนึ่งๆ ตลอดเวลาที่อยู่ในระบบ
เเต่จะเปลี่ยนเป็นสารประกอบตัวอื่นได้ เเละธาตุบางตัว สามารถสูญเสียออกจากระบบได้ด้วย เเต่บางตัวก็ค้างในระบบ
ดังนั้นนอกจากจะใส่ปุ๋ย ก็ต้องถ่ายนํ้าเป็นประจำด้วยครับ

ทั้งนี้พืชต้องการทั้งธาตุหลักเเละธาตุรอง ซึ่ง ธาตุรองจะต้องการมาก-น้อย เเละต้องการธาตุเเต่ละตัว เเต่ต่างกันไป ตามการเจริญเติบโต


เห็นด้วยครับ ปุ๋ยบางตัวต้องใช้เวลาในการแตกตัวเป็นประจุที่ต้นไม้จะนำไปใช้ได้ ถ้าเปิดไฟไปสักพักแล้วใส่ปุ๋ยไปมีโอกาสใช้ไม่หมดละค้างอยู่ในระบบ จะมีก็ปุ๋ยประเภทที่เป็น N ที่ถ้าใสนานแล้วจะสามารถสลายตัวไปก่อนได้ ส่วนประเภทอื่นอย่าง P กับ K ใส่ก่อนได้ครับ

จากรูป N cycle จะเห็นว่าถ้า N อยู่ในระบบจะมีการเปลี่ยนรูปไปมาได้รวมถึงรูปที่เป็นแก๊ส ทำให้เกิดการสูญเสียไปจากระบบได้ ซึ่งเกิดได้จากแบคทีเรียในระบบตู้ของเรา(รวมทั้งที่อยู่ในกรอง)

P cycle จะเห็นว่าเมื่อเติมไปในระบบแล้ว จะวนอยู่ในรูปสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ ซึ่งจะเสียไปตอนที่เราเปลี่ยนน้ำซะมากกว่าการเสียในรูปแบบอื่น ซึ่งมันสามารถถูกดูดซับจากดินได้(ขึ้นกับไอออนในน้ำและดินขณะนั้น) ตัวนี้เป็นหนึ่งปัญหาที่ทำให้เิกิดตะไคร่ด้วย

สุดท้ายคือ K cycle เป็นอีกหนึ่งตัวที่ไม่เปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่เป็นแก๊ส จึงไม่หายไปจากระบบด้วยการระเหยเป็นแก๊ส คล้ายๆกับ P
ปล.ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ มือใหม่หัดงง [on_026]







ความคิดผมนะครับ  [on_026] ใส่ตอนเช้าเลยก็ได้นะครับ
เพราะผมว่าตัวปัญหาน่าจะเป็น ปุ๋ย N (ไนโตรเจน) ที่สลายตัวหรือเปลี่ยนรูปได้เร็วครับ แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะตู้ไม้น้ำของเราๆ ไม่น่าจะมีปัญหาขาด N สักเท่าไร ส่วน P และ K ค้างอยู่ในระบบแน่นอนครับ ต้องถ่ายน้ำออกถึงจะหายไปจากระบบครับ

แต่ถ้าเอาตามทฤษฏีปุ๋ยน้ำ โดยเฉพาะของไม้น้ำอยู่ในรูปสารละลายอยู่แล้ว และหลักการดูดซึมจะดูดซึมผ่านทางปากใบ (stoma)
ของพืชครับ ดังนั้นผมคิดว่าถ้าจะให้พืชนำไปใช้ได้เลยทันทีควรจะให้ช่วงพืชเปิดปากใบครับ และปัจจัยหลักในการอ้าปากใบของ
ต้นไม้ก็มีประมาณ 4-5 ปัจจัย แต่ที่ผมจะขอนำเสนอและเกี่ยวข้องหลักๆ ก็จะมี
แสงครับ ช่วงแสงคลื่นสั้นสีน้ำเงิน (450 nm) และช่วงแสงคลื่นยาวสีแดง (650-700 nm) จะกระตุ้นให้ปากใบเปิดครับ ดังนั้นเปิดไฟปุ๊ป จะเริ่มกระตุ้นกลไกการอ้าของปากใบ ปุ๋ยน้ำก็น่าจะเริ่มเข้าสู่ในต้นไม้ล่ะครับ

ดังนั้นผมว่าจะใส่ก่อนออกจากบ้าน......พอกลับมาค่อยใส่เฉพาะ N เพิ่ม (ถ้าปุ๋ยมันแยกกัน) [on_026]




เพิ่มเติมเผื่อเป็นประโยชน์ครับ


จากกราฟ จะเห็นภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงการเปิดปากใบในช่วง 24 ชั่วโมง จะเห็นว่าช่วงเริ่มมีแสงจะค่อยๆ เปิดปากใบอ้าช้าๆๆๆ แต่พอแสงหมดปิดทันทีอย่างรวดเร็ว (อ้างอิง: Martin et al., 1983)

ผิดพลาดประการใด ขออภัยนะครับ

ขอบคุณนะครับที่สนใจ [on_026] และต้องขอโทษที่ไม่ได้อธิบายเพราะเห็นว่ามันวิชาการเกินไปอ่ะครับ

จากกราฟ แสดงความกว้างของการเปิดปากใบ ที่วัดจากอากาศที่ไหลผ่านปากใบน่ะครับ (เป็นการทดลองพืชบกน่ะครับ แต่ก็อาศัยหลักการวิเคราะห์และอ้างอิงได้)
ปากใบจะเปิดในช่วงเช้าที่มีแสง (ช่วง ก) โดยจะเปิดในตอนเช้าตอบสนองต่อคลื่นแสงและปิดเมื่อคลื่นแสงไม่มี (ช่วง ข) โดยมีลักษณะการตอบสนองใหญ่ๆ 5 ระยะ
1)   ช่วงเริ่มมีแสงปากใบจะเปิดอย่างช้าๆ อาจประมาณ 1-3 ชั้วโมง และเปิดเต็มที่ตอนคลื่นแสงเข้มหรือแรงขึ้น (ค)
2)   ช่วงกลางวันปากใบจะเปิดคงที่ไว้ (ง) พอช่วงคลื่นแสงเริ่มลดลง (ช่วงบ่ายถึงเย็น) ปากใบจะเปิดอ้าลดลงจากเดิมเล็กน้อย
3)   พอช่วงแสงหมดไม่มีคลื่นแสง จะปิดลงทันทีอย่างรวดเร็ว (ฉ)
4)   กลางคืนปิดตลอดเวลา
5)     แต่จะเริ่มเผยออ้าขึ้นเล็กน้อยก่อนมีแสง 2-3 ชั่วโมงในวันใหม่ (ช)

ขอบคุณครับ ผิดถูกท้วงติง แนะนำได้นะครับ วิทยาศาสตร์คือการคิดวิเคราะห์ และมีเหตุกับผลประกอบครับ [on_026]
yazoo ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #8 เมื่อ: 25/05/14, [13:28:47] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จากที่อ้างอิงมีเเค่ N ตัวเดียวที่หลุดหายไปจากระบบ ด้วย Nitrogen cycle 
ปุ๋ยกี่ตัวเชียว ที่มี N , นอกจากจะจงใจใส่จริงๆ  hide2

ส่วนแบบทดลองความกว้างของการเปิดปากใบ ในช่วงที่ให้เเสง เเละไม่ให้เเสง นั้น ไม่ได้กล่างวถึงการดูดซึมสารอาหาร ทาง ปากใบ หรือป่าว ? (เห็นว่าทดลองให้ไม้บก) สรุปจากทดลองนี้บอกเเค่ว่าปากใบเปิด ปิด เเค่ไหน ไม่ได้มีส่วนทดลองว่า มีการดึงสารอาหาร ของพืชเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง นี่ครับ


...ส่วนตัวผมคิดเห็นว่าเรื่องปุ๋ยเนี่ย ธาตุเเต่ละตัว มันไม่ได้คงรูปในรูปสารประกอบหนึ่งๆ ตลอดเวลาที่อยู่ในระบบ
เเต่จะเปลี่ยนเป็นสารประกอบตัวอื่นได้


ครับ เท่าที่ผมหาดู ใครๆ ก็คิดว่ามัน เปลี่ยนเป็นสารประกอบ อื่นได้  (ไม่นับ Nitrogen นะ)
เเต่ สารประกอบอะไร เนี่ยสิ   ไม่มีใครบอกได้  [ต๊าๆๆๆๆ]
function_wor ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #9 เมื่อ: 29/05/14, [17:16:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เปิดกรองไว้ดีกว่าครับ สารอาหารจะได้กระจายทั่วตู้

ลองคิดดูครับ ถ้าปิดกรอง น้ำมันไม่เวียน แล้วเราฉีดไปบังเอิญไปโดนเข้มๆ ที่ต้นไม้ บางสายพันธุ์ อาจละลายก็ได้นะคับ ยังไงมันก็คือสารเคมีครับ

ปุ๋ยใส่ตอนเปิดกรองให้สารอาหารมันกระจายอยู่ในน้ำจะดีกว่าครับ

เรื่องปุ๋ยใส่ตอนไหนผมว่ามันก็ไม่น่าจะเห็นผลต่างกันนะคับ (ความเห็นส่วนตัว)

แต่ถ้าเป็นเรื่อง เปิดคาร์บอน ก่อนเปิดไฟ และปิดคาร์บอน ก่อนปิดไฟ ผมว่าอันนี้น่าจะมีผลมากกว่า เพราะถ้าเราเริ่มระบบคาร์บอน พร้อมไฟ กว่าคาร์บอนจะกระจายทั่วตู้ ไฟช่วงที่เปิดแรกๆ อาจจะได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ :D

ยังไงก็แล้วแต่ ปกติคงจะมี Timer กันแค่ตัวเดียว ก็เปิดมันพร้อมกันนั่นแหละ 5555
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: