Aqua.c1ub.net
*
  Tue 14/Oct/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: คาร์บอนยีสเปิดปิดยังไง  (อ่าน 7868 ครั้ง)
rudeboy ออฟไลน์
Club Member
« เมื่อ: 22/12/13, [21:18:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมเพิ่งผสมได้วันนี้อะครับแล้วต้องเปิดไว้ทั้งวันเลยหรือป่าวอะครับ ใช้ขวด2ลิตร
ในตู้มีปลานีออน30กว่าตัว หอยเขา 11ตัว หอยหมวกทหาร5 ตัว ปลาออตโต4 กุ้งเชอรี่90กว่าตัว
ถ้าเปิด24มันจะตายไหมครับ ๆ ๆแล้วถ้าจะปิดมันปิดยังไง หรอ [on_008]
INTHANON ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #1 เมื่อ: 22/12/13, [21:27:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คารบอน์ยีตส์เปิดได้ปิดไม่ได้ครับถ้าปริมาตรตู้ใหญ่พอมันก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำแต่ถ้าจำกัดและแออัดแนะนำให้ยกทางออกกรองให้สูงเพื่อให้เกิดฟองเป็นการเพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ แต่ส่วนมากคารบอน์ยิตส์ไม่ค่อยมีผลกระทบเท่าไหร่ส่วนมากจะไม่ค่อยพอด้วยซ้ำครับ หรืออีกวิธีให้ถอดฝาออกจากขวดยีตส์แล้วเอาสำลีอุดไว้ครับ อยากทราบข้อมูลอื่นด้วยเพื่อท่านอื่นมาให้คำแนะนำครับ [on_065]
ยันเช้า ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 22/12/13, [21:38:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตู้กี่นิ้วกรอครับ ขวด 2 ลิตร

แต่สิ่งมีชีวิตเยอะมาก  036
rudeboy ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #3 เมื่อ: 22/12/13, [21:51:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตู้24 นิ้วอะครับ ๆเพิ่งลองผสมวันนี้ เอง  อยากถามอีกเรื่องคือเรื่อง ขวดกักยีสอะครับ ผมผสมไปโดนที่ไม่ได้เติมด่างทับทิม ใส่เกลือไปนิดนึง จะเป็นไรไหมครับ ยีสจะรอดลงไปในตู้หรือป่าว[on_065]
ขอบคุณพีๆที่มาแนะนำนะครับ [on_066] [เจ๋ง]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22/12/13, [22:02:23] โดย rudeboy »
ตะไคร่ น้ำ ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #4 เมื่อ: 22/12/13, [23:17:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จากที่ลองมานะครับ(ลองมาหลายวิธี สุดท้ายก็ด่างทับทิม)
ด่างทับทิมดีสุดครับ [เจ๋ง]
เกลือเข้มๆนี่ยังลงตู้นะครับ [on_055]
ส่วนเดทตองนี่ลงเหมือนกันครับ [on_024]
ใครเคยลองอย่างอื่นบ้างครับ
ส่วนตัวตอนนี้พ่วงขวดกัก 2 ขวดนะครับ ด่างทับทิมทั้ง 2 ขวด
ขวดแรกจะตกตะกอนไวครับ แต่ขวดที่ 2 ตกตะกินช้าหน่อยประมาน เกือบๆ 1 เดือน
ขวดยีสผมใช้อาเจไซต์ Big ขวดกักใช้ ขวด 1L 2 ขวดครับ [เจ๋ง]
อ้อ ถ้าจะทำเปิดปิด หาตัวปรับละเอียดมาครับ ช่วยได้ แต่ปิดแล้วเช้าต้องเปิดนะ เดี๋ยว บึ้ม...ซ่าๆ [มือระเบิด]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22/12/13, [23:19:10] โดย hipnot123 »
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5 เมื่อ: 23/12/13, [02:22:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

co2 ยีสต์ไม่สามารถปิดได้ครับ ก็เปิดมันไว้อย่างนั้นเเหละครับไม่ต้องซีเรียสมาก เพราะปกติตู้ 24" เเต่ก่อนที่ผมเคยใช้ยีสต์
ผมผสม3ชุด ถึงจะทำให้สีในตัว Drop checker เริ่มจะออกเหลืองๆนิดๆ (ถ้า2ชุด จะกำลังดีครับ ดรอปจะเขียวๆพอดี)
ซึ่งปริมาณสัตว์นํ้าเเค่นั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ โอกาสจะตายเพราะco2จากยีสต์เยอะเกินไป โอกาสมันน้อยมากๆๆๆครับ
(ในตอนกลางคืนที่เราปิดไฟ อาจจะทำให้ดรอปเหลืองนิดๆ ในกรณีที่ผสมหลายชุด เเต่ตอนกลางวันทั่วๆไปเเล้ว ต้นไม้เอาco2ไปใช้เยอะครับ เเละยิ่งใช้ยีสต์จะไม่พอซะด้วยครับ55555)

ถ้าคิดจะอุดฝาหรือผิดวาว์วไม่ไม่ให้ก๊าซในขวดหมักออกมาเลย ...ถ้าปิดไว้สักพัก ทั้งห้องจะอบอวลไปด้วยกลิ่นเเอลกอฮอล์ เเละมดขึ้นบ้านเพราะนํ้าตาลไปติดเพดานครับ55555  ดังนั้นถ้ากลัวหรือกังวล วิธีที่ดีๆมีมากมายครับ
เช่น
-ยกin-outflowให้สูงจากผิวนํ้าเพื่อให้นํ้าเกิดฟอง :: ก็ไล่ฝ้าผิวนํ้าไปพร้อมๆกับลดการละลายของco2 (ถ้าo2 ละลายมาก จะทำให้co2ละลายได้น้อยลงครับ)
-ยกหัวดิฟ ในตู้ให้สูงขึ้น เพื่อลดระยะทางที่ฟองco2จะวิ่งจากหัวดิฟ ขึ้นผิวนํ้า (ยิ่งระยะทางมากๆ co2 ที่เเตกเป็นฟอง จะมีพื้นที่ผิวมาก เเละมีเวลามากในการละลายไปในนํ้า) ::ตอนกลางวันสำหรับคนใช้ยีสต์นะครับ กดหัวดิฟให้ติดๆดินครับ ไม่งั้นco2ในระบบของท่านจะไม่พอ เเละจะเกิดเหตุการณ์....ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝากหัวใจ ~ 555555 อันหลังไม่เกี่ยวครับ
-เปิดปั้มลมต่อหัวทราย ช่วยเพิ่มo2 เเละทำให้co2ละลายได้น้อยลง(เหตุผลอยู่ด้านบน) ซึ่งวิธีนี้ก็เหมาะกับตู้ที่ตั้งใหม่ๆ ต้นไม้น้อยๆ เเต่ถ้าตู้ของท่านมีปริมาณต้นไม้มากพอเเละต้นไม้สังเคราะห์เเสงได้เต็มที่ตอนกลางวัน(ได้ผลผลิตคือo2) ก็ไม่มีความจำเป็นจะเปิดปั้มลมตอนกลางคืนครับ

ส่วนเรื่องขวดกักจะใส่อะไรนั้น ต้องใส่สิ่งที่ฆ่ายีสต์ให้ตายครับ จุดประสงค์ของขวดกักคือเเบบนั้น ^^

ฝากไว้นิดนึงครับสำหรับเรื่องco2ยีสต์ ...อย่าไปคิดว่ามันจะมากเกินไป เพราะมันมีเเต่จะไม่พอ ยิ่งตู้ใหญ่ๆ เเทบไม่พอครับ
ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าพอมั้ย ก็ซื้อdrop checkerมาติดในตู้สักอัน เอาดรอปเเก้วสวยๆก็ได้ครับ เป็นของตกเเต่งในตู้ไปในตัว
เเละถึงเเม้ว่าท่านจะใช้ยีสต์เเล้วไม่สามารถปรับลดเพิ่มได้ เเต่พอไม่พอดูทีดรอป ได้เพื่อความสบายใจครับ (ผมบอกเลยว่าถ้าตู้24"ใช้ยีสต์เมื่อคุณเอาดรอปมาติด คุณอาจจะอยากทำco2อีกชุดนึงครับ เพราะตอนต้นไม้เอาไปใช้มันไม่พอจริงๆ)   [on_026]
rudeboy ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #6 เมื่อ: 23/12/13, [16:06:54] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จากที่ลองมานะครับ(ลองมาหลายวิธี สุดท้ายก็ด่างทับทิม)
ด่างทับทิมดีสุดครับ [เจ๋ง]
เกลือเข้มๆนี่ยังลงตู้นะครับ [on_055]
ส่วนเดทตองนี่ลงเหมือนกันครับ [on_024]
ใครเคยลองอย่างอื่นบ้างครับ
ส่วนตัวตอนนี้พ่วงขวดกัก 2 ขวดนะครับ ด่างทับทิมทั้ง 2 ขวด
ขวดแรกจะตกตะกอนไวครับ แต่ขวดที่ 2 ตกตะกินช้าหน่อยประมาน เกือบๆ 1 เดือน
ขวดยีสผมใช้อาเจไซต์ Big ขวดกักใช้ ขวด 1L 2 ขวดครับ [เจ๋ง]
อ้อ ถ้าจะทำเปิดปิด หาตัวปรับละเอียดมาครับ ช่วยได้ แต่ปิดแล้วเช้าต้องเปิดนะ เดี๋ยว บึ้ม...ซ่าๆ [มือระเบิด]
co2 ยีสต์ไม่สามารถปิดได้ครับ ก็เปิดมันไว้อย่างนั้นเเหละครับไม่ต้องซีเรียสมาก เพราะปกติตู้ 24" เเต่ก่อนที่ผมเคยใช้ยีสต์
ผมผสม3ชุด ถึงจะทำให้สีในตัว Drop checker เริ่มจะออกเหลืองๆนิดๆ (ถ้า2ชุด จะกำลังดีครับ ดรอปจะเขียวๆพอดี)
ซึ่งปริมาณสัตว์นํ้าเเค่นั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ โอกาสจะตายเพราะco2จากยีสต์เยอะเกินไป โอกาสมันน้อยมากๆๆๆครับ
(ในตอนกลางคืนที่เราปิดไฟ อาจจะทำให้ดรอปเหลืองนิดๆ ในกรณีที่ผสมหลายชุด เเต่ตอนกลางวันทั่วๆไปเเล้ว ต้นไม้เอาco2ไปใช้เยอะครับ เเละยิ่งใช้ยีสต์จะไม่พอซะด้วยครับ55555)

ถ้าคิดจะอุดฝาหรือผิดวาว์วไม่ไม่ให้ก๊าซในขวดหมักออกมาเลย ...ถ้าปิดไว้สักพัก ทั้งห้องจะอบอวลไปด้วยกลิ่นเเอลกอฮอล์ เเละมดขึ้นบ้านเพราะนํ้าตาลไปติดเพดานครับ55555  ดังนั้นถ้ากลัวหรือกังวล วิธีที่ดีๆมีมากมายครับ
เช่น
-ยกin-outflowให้สูงจากผิวนํ้าเพื่อให้นํ้าเกิดฟอง :: ก็ไล่ฝ้าผิวนํ้าไปพร้อมๆกับลดการละลายของco2 (ถ้าo2 ละลายมาก จะทำให้co2ละลายได้น้อยลงครับ)
-ยกหัวดิฟ ในตู้ให้สูงขึ้น เพื่อลดระยะทางที่ฟองco2จะวิ่งจากหัวดิฟ ขึ้นผิวนํ้า (ยิ่งระยะทางมากๆ co2 ที่เเตกเป็นฟอง จะมีพื้นที่ผิวมาก เเละมีเวลามากในการละลายไปในนํ้า) ::ตอนกลางวันสำหรับคนใช้ยีสต์นะครับ กดหัวดิฟให้ติดๆดินครับ ไม่งั้นco2ในระบบของท่านจะไม่พอ เเละจะเกิดเหตุการณ์....ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝากหัวใจ ~ 555555 อันหลังไม่เกี่ยวครับ
-เปิดปั้มลมต่อหัวทราย ช่วยเพิ่มo2 เเละทำให้co2ละลายได้น้อยลง(เหตุผลอยู่ด้านบน) ซึ่งวิธีนี้ก็เหมาะกับตู้ที่ตั้งใหม่ๆ ต้นไม้น้อยๆ เเต่ถ้าตู้ของท่านมีปริมาณต้นไม้มากพอเเละต้นไม้สังเคราะห์เเสงได้เต็มที่ตอนกลางวัน(ได้ผลผลิตคือo2) ก็ไม่มีความจำเป็นจะเปิดปั้มลมตอนกลางคืนครับ

ส่วนเรื่องขวดกักจะใส่อะไรนั้น ต้องใส่สิ่งที่ฆ่ายีสต์ให้ตายครับ จุดประสงค์ของขวดกักคือเเบบนั้น ^^

ฝากไว้นิดนึงครับสำหรับเรื่องco2ยีสต์ ...อย่าไปคิดว่ามันจะมากเกินไป เพราะมันมีเเต่จะไม่พอ ยิ่งตู้ใหญ่ๆ เเทบไม่พอครับ
ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าพอมั้ย ก็ซื้อdrop checkerมาติดในตู้สักอัน เอาดรอปเเก้วสวยๆก็ได้ครับ เป็นของตกเเต่งในตู้ไปในตัว
เเละถึงเเม้ว่าท่านจะใช้ยีสต์เเล้วไม่สามารถปรับลดเพิ่มได้ เเต่พอไม่พอดูทีดรอป ได้เพื่อความสบายใจครับ (ผมบอกเลยว่าถ้าตู้24"ใช้ยีสต์เมื่อคุณเอาดรอปมาติด คุณอาจจะอยากทำco2อีกชุดนึงครับ เพราะตอนต้นไม้เอาไปใช้มันไม่พอจริงๆ)   [on_026]

ขอบคุณนะครับๆ พี่ๆ ทุกคนที่มาให้ความรู้นะครับๆ ๆ ขอบคุณมากๆ [เจ๋ง] [on_066]
เด่วผมลองศึกษาDrop checkerอีกหน่อยครับอ่านไปแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจการเปลี่ยนสีมันยังไง เปลี่ยนยังไงถึงดี แล้วDrop checkerใส่ลงไปทำอะไรได้บ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23/12/13, [16:08:41] โดย rudeboy »
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #7 เมื่อ: 23/12/13, [16:22:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณนะครับๆ พี่ๆ ทุกคนที่มาให้ความรู้นะครับๆ ๆ ขอบคุณมากๆ [เจ๋ง] [on_066]
เด่วผมลองศึกษาDrop checkerอีกหน่อยครับอ่านไปแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจการเปลี่ยนสีมันยังไง เปลี่ยนยังไงถึงดี แล้วDrop checkerใส่ลงไปทำอะไรได้บ้าง

ยินดีครับ อธิบายง่ายๆคือตัวDrop checker เป็นกระเปาะ ที่ภายในบรรจุนํ้าKH4 + นํ้ายาที่เปลี่ยนสีได้(เรียกว่าindicator)
ซึ่งสีในดรอปจะเป็น สีเหลือง - สีเขียว - สีฟ้า  คือถ้าสีเขียวหมายถึงในตู้เรามีpH ประมาณ6.6 ซึ่งเป็นกรดอ่อนๆ (กำลังดี)
เเต่ถ้าเราเปิดco2มากไปจะทำให้ดรอปเปลี่ยนเป็นสีเหลือง (pH ตํ่ากว่า6.6) เเละถ้าเปิดco2น้อยไปสีในดรอปก็จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า (pHสูงกว่า6.6) ครับ เหตุผลที่ควรมีdrop checkerใส่ในตู้เพราะ เวลาเราเปิดco2ด้วยถัง เราจะนับเป็น ฟองต่อวินาที
ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าco2มันมากไปหรือน้อยไป เราจึงดูจากสีดรอปเป็นหลักครับ (จำนวนฟองต่อวิ ของเเต่ละตู้ถึงเเม้จะเท่ากัน เช่นเปิด2ฟองต่อวิ เท่ากัน เเต่สีในดรอปอาจจะไม่เหมือนกัน เพราะปริมาณต้นไม้ที่ดึงco2ไปใช้ก็ไม่เท่ากัน เเละมีปัจจัยอื่นๆอีกครับ)  อันนี้คืออธิบายคร่าวๆ ส่วนข้อมูลละเอียดไปหาในกระทู้เก่าอันนึง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ ดรอปเช็คเกอร์ใช้ให้ถูกใช้ให้เป็นครับ
rudeboy ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #8 เมื่อ: 23/12/13, [19:30:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ยินดีครับ อธิบายง่ายๆคือตัวDrop checker เป็นกระเปาะ ที่ภายในบรรจุนํ้าKH4 + นํ้ายาที่เปลี่ยนสีได้(เรียกว่าindicator)
ซึ่งสีในดรอปจะเป็น สีเหลือง - สีเขียว - สีฟ้า  คือถ้าสีเขียวหมายถึงในตู้เรามีpH ประมาณ6.6 ซึ่งเป็นกรดอ่อนๆ (กำลังดี)
เเต่ถ้าเราเปิดco2มากไปจะทำให้ดรอปเปลี่ยนเป็นสีเหลือง (pH ตํ่ากว่า6.6) เเละถ้าเปิดco2น้อยไปสีในดรอปก็จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า (pHสูงกว่า6.6) ครับ เหตุผลที่ควรมีdrop checkerใส่ในตู้เพราะ เวลาเราเปิดco2ด้วยถัง เราจะนับเป็น ฟองต่อวินาที
ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าco2มันมากไปหรือน้อยไป เราจึงดูจากสีดรอปเป็นหลักครับ (จำนวนฟองต่อวิ ของเเต่ละตู้ถึงเเม้จะเท่ากัน เช่นเปิด2ฟองต่อวิ เท่ากัน เเต่สีในดรอปอาจจะไม่เหมือนกัน เพราะปริมาณต้นไม้ที่ดึงco2ไปใช้ก็ไม่เท่ากัน เเละมีปัจจัยอื่นๆอีกครับ)  อันนี้คืออธิบายคร่าวๆ ส่วนข้อมูลละเอียดไปหาในกระทู้เก่าอันนึง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ ดรอปเช็คเกอร์ใช้ให้ถูกใช้ให้เป็นครับ
ขอบคุณ ครับๆ พี่ ๆขออีกคำถามได้ไหมครับ การที่เปิดคาร์บอนยีส จะทำให้เปลือกของหอยเขา ผุ ไมครับ ควรทำไงดี [on_024]
ปาร์ค ไม้น้ำ ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #9 เมื่อ: 24/12/13, [01:14:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ที่บ้านผมมีถังคาร์บอน ขนาด 5 kg อยู่ 17 ใบ เขาเอามาฝากไว้ และอนุญาตให้ผมนำไปใช้ได้ แต่ผมก็ไม่เคยเอามาใช้เลยนะครับ
ผมมีตู้ที่ดูแลอยู่ 8 ใบ ใช้คาร์บอนยีสต์ 7 ใบ ทั้งตู้เล็กและตู้ใหญ่
ที่ผมยังดันทุรังทนทู่ซี้ใช้คาร์บอนยีสต์มา 3 ปี ก็เพื่อแสดงให้ท่านที่เป็นมือใหม่และมีงบน้อยๆ ได้มีตัวอย่างทางเลือกเพิ่มขึ้นว่า คาร์บอนยีสต์ก็เลี้ยงไม้น้ำให้เติบโตได้ ทั้งตู้เล็กและตู้ใหญ่ๆ ที่ใครๆเขาบอกว่าตู้ใหญ่ใช้คาร์บอนยีสต์ไม่เวิร์ก เลี้ยงต้นไม้ไม่โต ผมขอค้านสุดลิ่มทิ่มประตูว่าไม่จริงครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกอุปกรณ์แบบไหน ที่สามารถละลายคาร์บอนให้เป็นเนื้อเดียวกับน้ำ ต้นไม้ถึงจะดูดซึมคาร์บอน ไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงได้เต็มที่
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=179282242265718&set=pcb.179285408932068&type=1&relevant_count=8&ref=nf
rudeboy ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #10 เมื่อ: 24/12/13, [01:21:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ที่บ้านผมมีถังคาร์บอน ขนาด 5 kg อยู่ 17 ใบ เขาเอามาฝากไว้ และอนุญาตให้ผมนำไปใช้ได้ แต่ผมก็ไม่เคยเอามาใช้เลยนะครับ
ผมมีตู้ที่ดูแลอยู่ 8 ใบ ใช้คาร์บอนยีสต์ 7 ใบ ทั้งตู้เล็กและตู้ใหญ่
ที่ผมยังดันทุรังทนทู่ซี้ใช้คาร์บอนยีสต์มา 3 ปี ก็เพื่อแสดงให้ท่านที่เป็นมือใหม่และมีงบน้อยๆ ได้มีตัวอย่างทางเลือกเพิ่มขึ้นว่า คาร์บอนยีสต์ก็เลี้ยงไม้น้ำให้เติบโตได้ ทั้งตู้เล็กและตู้ใหญ่ๆ ที่ใครๆเขาบอกว่าตู้ใหญ่ใช้คาร์บอนยีสต์ไม่เวิร์ก เลี้ยงต้นไม้ไม่โต ผมขอค้านสุดลิ่มทิ่มประตูว่าไม่จริงครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกอุปกรณ์แบบไหน ที่สามารถละลายคาร์บอนให้เป็นเนื้อเดียวกับน้ำ ต้นไม้ถึงจะดูดซึมคาร์บอน ไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงได้เต็มที่
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=179282242265718&set=pcb.179285408932068&type=1&relevant_count=8&ref=nf
[/quote
ขอบคุณนะครับพี่ๆสำหรับความรู้สำหรับมือใหม่ ตู้พี่เยอะยังนั้นเวลาดูแลไม่เหนื่อยหรอครับ [เจ๋ง] [on_066]
ปาร์ค ไม้น้ำ ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #11 เมื่อ: 24/12/13, [01:32:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ได้ทำสิ่งที่หลงรัก ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย   มันสะกดยังไงหราาาาาา..... ้hahaha
rudeboy ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #12 เมื่อ: 24/12/13, [01:48:15] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ได้ทำสิ่งที่หลงรัก ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย   มันสะกดยังไงหราาาาาา..... ้hahaha
สุดยอดครับพี่ [เจ๋ง] [on_066]
 ้hahaha😎😎เท่มากครับพี่
ขอบคุณอีกที
ตะไคร่ น้ำ ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #13 เมื่อ: 24/12/13, [10:33:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ที่บ้านผมมีถังคาร์บอน ขนาด 5 kg อยู่ 17 ใบ เขาเอามาฝากไว้ และอนุญาตให้ผมนำไปใช้ได้ แต่ผมก็ไม่เคยเอามาใช้เลยนะครับ
ผมมีตู้ที่ดูแลอยู่ 8 ใบ ใช้คาร์บอนยีสต์ 7 ใบ ทั้งตู้เล็กและตู้ใหญ่
ที่ผมยังดันทุรังทนทู่ซี้ใช้คาร์บอนยีสต์มา 3 ปี ก็เพื่อแสดงให้ท่านที่เป็นมือใหม่และมีงบน้อยๆ ได้มีตัวอย่างทางเลือกเพิ่มขึ้นว่า คาร์บอนยีสต์ก็เลี้ยงไม้น้ำให้เติบโตได้ ทั้งตู้เล็กและตู้ใหญ่ๆ ที่ใครๆเขาบอกว่าตู้ใหญ่ใช้คาร์บอนยีสต์ไม่เวิร์ก เลี้ยงต้นไม้ไม่โต ผมขอค้านสุดลิ่มทิ่มประตูว่าไม่จริงครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกอุปกรณ์แบบไหน ที่สามารถละลายคาร์บอนให้เป็นเนื้อเดียวกับน้ำ ต้นไม้ถึงจะดูดซึมคาร์บอน ไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงได้เต็มที่
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=179282242265718&set=pcb.179285408932068&type=1&relevant_count=8&ref=nf
หล่อมากเลยพี่  [เจ๋ง] ผมก็ยีส (ไม่มีตังซื้อถัง) ้hahaha ้hahaha ้hahaha
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: