กินเพื่ออยู่ กินเพื่อความสุนทรีย์ กินเพื่อความเชื่อทางเสริมสร้างสมรรถภาพ
มีการคิดค้น และค้นหาเมนูเด็ดต่างๆ เช่น สมองลิง และอื่นๆอีกมากมาย
วันนี้ได้รับสูตรเมนูเด็ดของท่านเจ้าของต้นตำหรับเมนูที่หลายท่านคงอยากลิ้มลอง
อร่อยเด็ด เจ้าของสูตรต้นตำรับท่านนั่งยันมา 100 %
รสชาติที่ติดปากติดใจผู้ที่ได้ลิ้มรสมาแล้ว
อาจทำยากพอสมควรแต่ก็คุ้ม และทำได้จำนวนจำกัด
ดังนั้นกลุ่มนักชิม (ชอบชิมฟรีแล้วให้กระดาษติดฝาร้าน)
กลุ่มนี้ไม่ต้องมาชิมนะท่านไม่ว่าเชลล์ ก็ไม่ต้องมาชิม แม่ช้อยก็ไม่ต้องมารำ
หมึกดำหมึกแดง ไม่ต้องมา อร่อยช่อง 5 ของดสักพัก อ.ยิ่งศักดิ์ ไม่ต้องมารับรอง
สูตรนี้เค้าบอกอร่อยจริงและมีจำกัด
ท่านเจ้าของสูตรไม่ปิดบังท่านอยากให้นำไปทำรับประทานกันในครอบครัว
เมนูนี้คือ ไก่กะทิ
ขั้นตอนการทำ
1. ซื้อไก่เป็นๆอายุประมาณ 30 วัน
2. หาพื้นที่ดิน ขุดหลุมใหญ่กว่าตัวไก่เล็กน้อย
3. นำไก่ใส่ลงไปในหลุม ฝังกลบพอหลวมๆ ให้คอไก่โผล่พ้นดิน
4. นำหลอดฉีดยา ดูดนำกะทิสด แล้วบีบหยดใส่ที่ปากไก่ หยดใส่ทุกวัน
วันละ 3 เวลา ไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารใดๆแก่ไก่เพื่อรสชาติที่อร่อยเด็ด
5. หาสุ่มหรืออุปกรณ์ป้องกันสัตว์อื่นมาทำร้ายครอบไว้
6. ควรทำเพื่อให้เพียงพอต่องานเลี้ยง และแขกที่มาร่วมงาน
7. เมื่อทำครบ 15 วันแล้วจึงนำไก่ขึ้นมาปรุงอาหาร
8. เตรียมเครื่องปรุงให้พร้อมไม่ว่าจะต้มหรือย่างก็อร่อย
เพราะเนื้อไก่ชุ่มไปด้วยไขมันกะทิ เนื้อนุ่ม หอมหวานมัน
9. ไม่ต้องเสียเวลาถอนขนเพราะขนไก่จะหลุดร่วงเนื่องจากความร้อนในดินแล้ว
10. เครื่องใน จะสะอาดเพราะมีการขับถ่ายออกหมดแล้วได้กินเฉพาะกะทิ
.
.
.

หลังจากงานเลี้ยงวันเกิดของท่านเจ้าของเมนูผ่านไปไม่นาน
ท่านได้มีโอกาสเล่าให้ข้าพเจ้าฟังและให้นำไปเผยแพร่
เพื่อความเข้าใจต่อโลก เหตุแห่งการเกิด และผลที่มาจากเหตุ ดียิ่งขึ้น
แขกที่มาในงานวันเกิดของท่านเจ้าของสูตรยอมรับในรสชาติ
อร่อยติดปาก รสชาติติดใจ และอยากกลับมาลิ้มรสชาติอีกครั้ง
เมื่อทุกคนอิ่มหนำสำราญจากงานเลี้ยงแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
อีกสองวันต่อมาเกิดพายุฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
ฝนตกตลอดทั้งวัน จนถึงเย็นลมแรงเข้ามาอีกระลอก
บ้านท่านเจ้าของสูตรนี้ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูง
พังลงมา และบ้านหลังอื่นๆที่ห่างออกไปก็ได้รับความเสียหาย
พอสมควร หลังคาสังกะสีพังปลิวลงมาทำให้ฝนที่ตกสาดเข้าไปในบ้าน
จนรุ่งเช้าฝนก็หยุดตก ชาวบ้านก็ซ่อมแซมหลังคาบ้านบ้าง จัดเก็บของที่ยังไม่เข้าที่
บางช่วงก็ยังมีฝนพรำมาเป็นระยะ กว่าจะเรียบร้อยก็เข้าสู่ค่ำคืนอันเหน็บหนาว
และเปียกปอน จนรุ่งเช้าฝนหมดจากฟ้าหลายคนเริ่มออกไปทำงานแล้วเดินผ่าน
มาพบบ้านท่านเจ้าของสูตรเมนูเด็ด ที่อยู่ห่างจากเพื่อนบ้านมากนั้นได้พังลงมา
น่าจะตั้งแต่วันหรือไม่ก็คืนแรกที่มีพายุแรงจัดพัด ผ่านมาตั้งสองวันแล้วพวกเขาก็
ตามหาเจ้าของบ้านแต่ไม่พบ จึงได้เข้าไปช่วยจัดบ้านที่พังระเนระนาด
สักพักได้ยินเสียงร้องครวญครางแว่วมาจากใต้สังกะสี
จึงไปเปิดดูพบท่านเจ้าของบ้านนอนหายใจระรวยระริน
จึงนำส่งอนามัยหมู่บ้าน แต่อาการไม่ดี
จึงส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ
แม้ว่าไม้ที่ทำขื่อบนหลังคาจะทับกลางลำตัวขยับไม่ได้
แต่ก็ได้น้ำที่ไหลซึมผ่านรอยรั่วที่ตีปูของสังกะสี
กินโดยที่กว่าจะหยดเข้าปาก ก็ได้กินทีละหยดทีละหยด
จึงรอดออกมาได้ คล้ายกับวิธีที่ท่านได้หยดน้ำกะทิสดทีละหยดให้ไก่กิน
และเมื่อไม่นานท่านเจ้าของสูตรได้
บอกให้ผู้ที่อยากชิม ลิ้มลองอาหารแบบ เมนูนรก
ลองไปฝึกทำแจกเพื่อนๆได้ลองลิ้มชิมรสเพื่อความอร่อย
ที่จะเกิดและพบได้ในชาตินี้อย่างมีความสุข............................
โดยที่ไม่ต้องรอความสุขของชาติหน้า ชาติหน้าจะเป็นอย่างไรช่างมัน
ท่านใจกว้างมากที่ไม่ได้หวงสูตรไม่ปิดบังเคล็ดลับความอร่อย
ผู้ที่ได้รับรู้เมนูเด็ดทุกท่านต้องขอขอบคุณท่านเจ้าของสูตรอย่างยิ่ง
ที่ใจดีสุดๆครับ และท่านก็มีความเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น
แม้ว่าท่านจะป่วยต้องนั่งรถเข็ญ จากเหตุการณ์พายุพัดบ้านพังก็ตาม
ทำให้ขยับตัวไม่ได้ คล้ายกับวิธีการเลี้ยงไก่ของท่านก็ตาม
ขอให้ท่านหายป่วยกลับมาเดินได้
ไม่ต้องนั่งรถเข็ญตลอดชีวิตนะครับท่าน
แม้ว่าหมอจะบอกว่าหมดหวังก็ตามที
ขอให้ปาฏิหาริย์มีจริงด้วยเถิด.........
ยามว่าท่านเล่าให้ฟังว่า...........................
ท่านนั่งเฝ้ามองหลุมจำนวนมากที่ว่าเปล่าไม่มีไก่ฝังอยู่อีกแล้ว
แต่ท่านก็ไม่ได้บอกว่าท่านคิดอะไรกับหลุมนั้น หรือว่าคิดถึงรสชาติของไก่ทะทิ
แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะทำมันขึ้นมาได้อีก ตลอดชีวิตท่าน
เพราะสภาพร่างกายของท่านไม่เอื้ออำนวยอีกแล้ว
คงต้องเผยแพร่เฉพาะสูตรเพื่อให้ผู้อื่นได้ทำตาม และได้ผลเช่นท่าน
ได้ประสบมา และกำลังประสบอยู่...............................................
หวังว่าเมนูนี้คงอยู่ในความทรงจำของ
ท่านเจ้าของต้นตำรับตลอดไปไม่มีวันลืม
อ้างอิงจาก
http://www.pantown.com/board.php?id=56629&area=4&name=board68&topic=953&action=view