Aqua.c1ub.net

Reef Club => คุยเรื่องตู้ทะเล => ข้อความที่เริ่มโดย: ณ~ใชเหมี่ยง ที่ 25/05/10, [20:30:02]



หัวข้อ: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: ณ~ใชเหมี่ยง ที่ 25/05/10, [20:30:02]
(https://upic.me/i/mh/168320080205214803.jpg) (https://upic.me/show.php?id=e2463f485200b08f208a1bd9d18fcf6c)              
             การเลี้ยงปลาทะเลนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก ถ้าผู้เลี้ยงเป็นคนที่ใจเย็นและมีความเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ     เนื่องจากการเลี้ยงปลา ทะเลนั้น ต่างจากการเลี้ยงปลาน้ำจืดที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงกัน เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่มีความจำเพาะเจาะจง สำหรับคนที่มีความต้องการเลี้ยงปะการังด้วยนั้น ก็จะเพิ่มความยากในการเลี้ยงตามชนิดของปะการังที่เลี้ยง โดยการเลี้ยงปะการังนั้นก็จำเป็นต้องมีเงื่อนไขเพิ่มเข้ามาอีก ซึ่งอุปกรณ์เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จอย่างมาก
   
ปัจจัยต่างๆที่ต้องคำนึงใน การเลี้ยงปลาทะเล

1. น้ำ

             การเลี้ยงปลา ทะเลก็จำเป็นที่จะต้องใช้น้ำเค็มในการเลี้ยง โดยแหล่งน้ำที่ใช้เลี้ยงนั้นสามารถหาได้โดยใช้น้ำทะเลจริง ซึ่งควรจะใช้น้ำทะเลที่ห่างจากฝั่งพอสมควร เพื่อที่จะได้ไม่มีมลภาวะต่างๆ หรืออาจจะซื้อน้ำทะเลที่มีขายอยู่ตามร้านขายปลาทะเลก็ได้  นอกจากนี้ อาจจะใช้เกลือสังเคราะห์สำหรับเลี้ยงปลาทะเลโดยเฉพาะซึ่งหาซื้อได้ทั่วไป มีหลายยี่ห้อและเป็นที่นิยมเนื่องจากสะดวกกว่า จากนั้นก็นำเกลือที่ได้นำมาผสมน้ำตามสัดส่วนที่ระบุไว้ข้างถุง โดยน้ำที่ใช้ถ้าเป็นน้ำกลั่นจะดีมาก หรืออาจใช้น้ำที่กรองแล้ว  เนื่องจากการใช้น้ำประปาจะมีฟอสเฟสมาก และเป็นที่มาของตะไคร่ในตู้ ทำให้เกิดความไม่สวยงามได้ ซึ่งการผสมน้ำนั้นให้ค่อยๆเทเกลือลงในน้ำและคน อาจเปิดปั๊มอกหัวทรายเพื่อให้น้ำไหลเวียนหรืออาจจะผสมลงตู้เลยก็ได้ และใช้อุปกรณ์สำหรับวัดความเค็ม (Hydrometer) ซึ่ง วัดในรูปความถ่วงจำเพาะให้ได้ค่าประมาณ 1.020-1.025 โดย เครื่องวัดความเค็มนั้นมีหลายราคาตั้งแต่ถูกจนถึงแพง

2. ระบบกรอง

          ระบบกรองน้ำใน ตู้นั้นมีความสำคัญมากเนื่องจากจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพน้ำ
ภายในตู้ ซึ่งจริงๆแล้วระบบกรองในตู้ทะเลมีหลายแบบและมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันออกไป
ในที่นี้จะกล่าวถึงระบบที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้และมีคุณภาพ นั่นคือการใช้ระบบกรองข้าง
ภายในตู้ หรือการใช้ระบบกรองล่าง ภายนอกตู้ ซึ่งจะต้องมีปั๊มดูดน้ำจากในตู้ไปยังช่องกรอง
ซึ่ง สำหรับกรองข้างนั้นภายในอาจจะบรรจุด้วย

·        ใยแก้ว ชั้นบนสุดสำหรับกรองเศษสิ่งสกปรกซึ่งอาจจะเกิดการหมักหมมได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นทำความสะอาดด้วย

·        Bio ball เพื่อเพิ่มการแตกตัวของน้ำ ทำให้ผิวสัมผัสระหว่างน้ำกับอากาศมากขึ้น จึงเป็นการเพิ่มออกซิเจนในน้ำให้สูงขึ้น

·        เศษปะการัง  เปลือกหอยนางรมทุบ หรือ Bio ring เพื่อเป็นการ เพิ่มพื้นที่สำหรับเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในการย่อยสลายของ เสียในระบบ( วัสดุต่างๆอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความ สะดวกของผู้เลี้ยง )

          สำหรับระบบ กรองล่าง นอกตู้นั้น จะยุ่งยากกว่าเล็กน้อยแต่จะมีประสิทธิภาพในการกรองมากกว่าระบบกรองข้าง ซึ่งการกรองแบบนี้จำเป็นต้องมีตู้กรองแยกออกมาจากตู้หลัก และมีการดูดน้ำจากตู้หลักมายังตู้กรอง โดยเจาะรูที่ด้านข้างของตู้หลัก และใช้ท่อส่งน้ำเข้าตู้กรอง ซึ่งตู้กรองนั้นจะแบ่งเป็นช่องย่อยๆสำหรับกรองน้ำขึ้น ลงจากฝั่งหนึ่งไปยังฝั่งหนึ่ง และใช้ปั๊มสูบน้ำขึ้นไปยังตู้หลัก โดยตู้กรองจะแบ่งเป็นช่องๆดังนี้

·        ช่องแรก มักใส่พวก ใยแก้ว รวมถึง Bio ball ซึ่งอาจจะเกิดการหมักหมมได้

·        ช่อง 2 ใส่เศษปะการัง , เศษเปลือกหอยนางรม , Bio ring หรือ วัสดุกรองอื่นๆ( 2 ช่องแรกใช้เนื้อที่ประมาณ 30% )

·        ช่อง 3 จะใช้เป็นพื้นที่สำหรับ ปลูกสาหร่าย เพื่อดูดซับสารพิษหรือแร่ธาตุที่มีผลเสียบางอย่างและเป็นการเพิ่มออกซิเจนใน น้ำ หรือใส่หินเป็น เพื่อเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียสำหรับกระบวนการกำจัดของเสียจำพวก          ไนเตรต ภายในตู้เรียกว่า Refugium ซึ่งอาจต้องติด ตั้งไฟสำหรับเลี้ยงสาหร่ายให้สังเคราะห์แสง สำหรับส่วนนี้จะเป็นส่วนที่พัก สำหรับสิ่งมีชีวิตเล็กๆและระบบกรองทางชีวภาพซึ่งจะกล่าวรายละเอียดต่อไป

            จากที่กล่าวมา สำหรับกรองล่างนั้นสามารถสั่งทำได้จากร้านค้าสำหรับทำตู้ปลาได้เลยและ
อีกสิ่งที่ต้องคำนึงคือขาสำหรับตั้งตู้ปลาไม่ควรเป็นขาเหล็ก เนื่องจากอาจเกิดสนิมได้ ทำให้ไม่แข็งแรง ที่นิยมคือขาไม้เนื่องจากไม่เป็นสนิม

3. ไฟ

            สำหรับการ เลี้ยงปลาทะเลโดยที่ไม่เลี้ยงปะการังนั้น สามารถใช้ไฟอะไรก็ได้ เพื่อให้แสงสว่างและความสวยงามตามปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมแสงสีขาวจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ ผสมกับแสงสีฟ้าจากหลอด blue แต่สำหรับกรณีที่มีการเลี้ยงปะการังนั้น จำเป็นจะต้องเพิ่มปริมาณไฟ เนื่องจากปะการังส่วนใหญ่ดำรงชีวิตโดยการสังเคราะห์แสง ซึ่งต้องใช้แสงปริมาณมากและต่างกันไปตามความต้องการของปะการังแต่ละชนิด ซึ่งหลอดไฟที่สามารถเลี้ยงปะการังชนิดที่ต้องการแสงจัด ( ส่วนมาก ) ได้ดีและเป็นที่นิยม คือ หลอดไฟ MH ซึ่งจะเกิดปัญหา ในเรื่องของอุณหภูมิตามมาและมีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับปะการังที่ใช้แสงน้อยก็ สามารถใช้หลอดฟลูออเรสต์เซนต์หลายๆหลอดในการเลี้ยงได้ และปะการังบางชนิดก็ไม่ใช้แสงในการดำรงชีวิตต่างกันออกไปซึ่งไฟที่เราจะ เลือกนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งมีชิวิตที่เราจะเลี้ยง  ซึ่งโดยปกติแล้วหลอดไฟต่างๆจะมีอายุการใช้งานที่จำกัด ( ประมาณ 1 ปี ) ซึ่งเมื่อหมดอายุหลอดไฟจะให้ค่าความสว่างลดลงและอาจมีสีที่ผิดเพี้ยนจากเดิม

4. อุณหภูมิ

           โดยปกติแล้ว อุณหภูมิในทะเลเขตร้อนจะเย็นกว่าอุณหภูมิของอากาศบ้านเรา ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสม สำหรับเลี้ยงปลาทะเลนั้นอยู่ที่ 25 - 29 องศาเซลเซียส ซึ่งปลาบางชนิดจะมีความ สามารถในการทนต่ออุณหภูมิสูงๆได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปะการัง จะชอบอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นๆ และอาจตายได้ถ้าอยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนจนเกินไป และสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ก็คือความคงที่ของอุณหภูมิ ซึ่งสำคัญมากต่อสุขภาพของปลา โดยอุณหภูมิที่แกว่งขึ้น-ลงไปมาในแต่ละวัน จะทำให้ปลาปรับตัวยาก เกิดโรคต่างๆ

           เนื่องจากภูมิ ต้านทานลด เกิดความเครียด ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยมากก็คืออุณหภูมิในตู้สูงเกินไป โดยผู้เลี้ยงอาจแก้ไขได้ด้วยการติดพัดลมเป่าที่ผิวน้ำ หรือติดเครื่องทำความเย็น ( Chiller ) ซึ่งมีราคาที่สูงมากแต่สามารถคุมอุณหภูมิได้คง ที่และเย็นได้ตามต้องการ ส่วนอีกปัญหาหนึ่ง ก็คือ การเลี้ยงปลาในห้องแอร์ มีผลทำให้อุณหภูมิในตู้เย็นเกินไป สามารถแก้ไขได้โดยการติด Heater ในตู้ปลาซึ่งสามารถหา ซื้อได้ง่ายและมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป

5. หินเป็น

            หินเป็น  คือ หินที่เกิดจากซากปะการังตายมาเกาะตัวกันเป็นก้อน ซึ่งภายในมีลักษณะพิเศษต่างจากหินทั่วไป คือ    มีรูพรุน ซึ่งเหมาะสมสำหรับเป็นที่อยู่สำหรับแบคทีเรียที่มีประโยชน์ ในการกำจัดของเสียไนเตรตภายในตู้และนอกจากนี้ จะมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆหลายชนิดอาศัยอยู่ภายใน เช่น ดาวเปราะ , ปู (อันตรายต่อปลา ควรเอาออก ) , หนอน และอื่นๆ  ซึ่งสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะช่วยให้ระบบ นิเวศน์ภายในตู้ของเราสมบูรณ์และคล้ายกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยที่ถ้าในตู้มีหินเป็นมากเท่าไหร่ ระบบภายในตู้ก็จะยิ่งเสถียรมากเท่านั้น

            สำหรับการ เริ่มตั้งตู้ปลาทะเลนั้น หินเป็นมีความจำเป็นมาก เพราะจะช่วยเร่งระยะเวลาการเซตตู้ให้เร็วขึ้น และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น นอกจากนี้เรายังใช้หินเป็นในการจัดตู้เพื่อความสวยงาม เป็นฐานสำหรับวางปะการังได้ตามความต้องการอีกด้วย ซึ่งหินเป็นนั้นสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายปลาทะเล และหินเป็นที่มีคุณภาพคือหินเป็นที่บำบัดแล้ว มิฉะนั้นอาจทำให้น้ำในตู้เน่าเสียหรือเหลืองได้ และหินเป็นเหล่านี้ต้องเปียกเสมอ ถ้าหินแห้งนั้นจะเรียกว่าหินตาย ซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่แล้วแต่สามารถกลายเป็นหินเป็นได้ ถ้านำมาไว้ในตู้เดียวกันกับหินเป็นเพราะจะมีสิ่งมีชีวิตย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ เพิ่ม

6. การเซตตู้

            ความยากอย่าง หนึ่งของการเลี้ยงปลาทะเลและถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ความใจเย็นอย่างมาก นั่นก็คือขั้นตอนการเซตตู้ เนื่องจากการเลี้ยงปลาทะเลนั้นเราไม่สามารถใส่น้ำและใส่ปลาได้เลยทันที เพราะการทำแบบนี้จะทำให้ปลาตาย เนื่องด้วยระบบภายในตู้ไม่สามารถกำจัดและรองรับของเสียที่เกิดจากปลาได้ เพราะของเสียเหล่านี้จำเป็นต้องถูกกำจัดโดยแบคทีเรียที่มีในตู้ ซึ่งต้องมีปริมาณมากระดับหนึ่ง

            เมื่อแรกเริ่ม ตั้งตู้ครั้งแรกนั้นจะยังไม่มีแบคทีเรีย เราจึงต้องทำการใส่หัวเชื้อแบคทีเรียลงในตู้ (สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าขายอุปกรณ์เลี้ยงปลา)ที่ใส่น้ำจนเต็มและรันน้ำทิ้งไว้อย่างนั้นเป็นเวลา 1- 3 เดือน เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียในตู้ให้มีปริมาณมากพอ ซึ่งสำหรับขั้นตอนนี้เราจะต้องทำการลงหินเป็นไปด้วย เพื่อให้ระบบการเซตตัวสมบูรณ์สำหรับเป็นที่ลงเกาะของแบคทีเรีย โดยยิ่งมีหินเป็นมากก็จะยิ่งทำให้ระบบเซตตัวได้เร็วขึ้น และสำหรับขั้นตอนนี้ยังไม่ต้องเปิดไฟเพราะจะทำให้
มีตะไคร่ขึ้นมากทำให้เกิดความไม่สวยงาม ซึ่งในช่วงแรกของการเลี้ยงปลานั้น การเกิดตะไคร่ในตู้เป็นเรื่องปกติและจะลดลงเมื่อตู้เสถียรมากขึ้น ทั้งนี้เราอาจจะใช้วิธีควบคุมการเกิดตะไคร่ได้หลายวิธี เช่น เลี้ยงสัตว์ที่กินตะไคร่ , การใช้ Phosphate remover ,การเลี้ยงสาหร่าย หรือลดเวลาการเปิดไฟ เป็นต้น

7. การปูพื้น
            สิ่งที่จะนำ มาปูพื้นนั้นมีได้หลายอย่างเช่น เศษปะการัง ซึ่งมีความละเอียดแตกต่างกันไป
ที่นิยมได้แก่เศษปะการังเบอร์ 0 และที่ นิยมอีกอย่างหนึ่งคือทรายเป็น ซึ่งเป็นทรายละเอียดจากทะเลที่มีสิ่งมีชีวิตเล็กๆอาศัยอยู่ ซึ่งบางทีเราอาจใช้ทรายละเอียดธรรมดาปูก็ได้ ซึ่งภายหลังจะมีสิ่งมีชีวิตจาก   หินเป็นไปอาศัยอยู่และกลาย เป็นทรายเป็นในที่สุด ซึ่งปกติแล้วเราจะปูทรายค่อนข้างหนา ( โดยเฉลี่ย 4 นิ้ว ) เนื่องจากต้องการให้บริเวณล่างๆของพื้นทรายนั้น เป็นส่วนที่ไม่มีออกซิเจนและจะเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียชนิดที่ไม่ใช้ ออกซิเจน ซึ่งจะมีประโยชน์ในระบบการย่อยสลายของเสียภายในตู้

8. การลงปลาและสิ่งมีชีวิต

            สำหรับการลง ปลานั้น ไม่ควรที่จะลงปลาทีละมากๆ เนื่องจากระบบยังรองรับของเสียได้ไม่ทัน ดังนั้นเราจึงต้องค่อยๆลงปลาทีละ 1-2 ตัวเท่า นั้น เพื่อที่แบคทีเรียจะได้สามารถกำจัดของเสียที่เกิดขึ้นได้ทันและแบคทีเรียจะ ทำการเพิ่มปริมาณมากขึ้น ซึ่งระยะห่างในการลงปลาแต่ละครั้งควรจะเว้นไว้อย่างน้อย 1-2 อาทิตย์ สำหรับปลาบางชนิดจะสามารถเลี้ยงได้ในตู้ที่มีอายุนานแล้วเท่านั้น (3-6 เดือน) เช่นปลาตระกูลแท็งก์ เนื่องจากปลาเหล่านี้เป็นปลาที่ขับถ่ายของเสียปริมาณมาก จึงจำเป็นต้องเลี้ยงภายในตู้ที่ค่อนข้างเสถียรแล้ว

9. การเลือกสิ่งมีชีวิตที่นำมาเลี้ยง
          สิ่งสำคัญในการเลือกชนิดของสิ่งมีชีวิตที่จะนำมาเลี้ยงนั้นคือ ความเหมาะสมของสภาพแวดล้อม ขนาดของตู้และความเข้ากันได้ของสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ การเลี้ยงปลาที่มากเกินไปนอกจากจะทำให้คุณภาพของน้ำแย่ได้ง่ายแล้ว บางครั้งอาจทำให้ปลาเครียดจากการแย่งที่อยู่ จากการกัดกัน เนื่องด้วยปลาทะเลส่วนใหญ่จะเป็นปลาที่หวงถิ่นและบางชนิดสามารถเลี้ยงได้ชนิดละ 1 ตัวเท่านั้นภายในตู้ ดังนั้นเราจึงควรทำการศึกษาถึงลักษณะการใช้ชีวิตและรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดของสิ่งมีชิวิตที่เราสนใจจะนำมาเลี้ยง นอกจากนี้อีกสิ่งที่ต้องคำนึง คือ สิ่งมีชีวิตบางชนิดเลี้ยงยากเนื่องจากเงื่อนไขในการดำรงชีวิตหลายๆอย่าง และบางชนิดอาจเลี้ยงไม่ได้เลยในระบบปิด หรืออาจมีอายุขัยสั้น ซึ่งสิ่งมีชีวิตต่างๆเหล่านี้อาจจะมีสีสันสวยงามสะดุดตา และปะปนไปตามร้านขายปลาทะเล ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงต้องศึกษาและควรหลีกเลี่ยงที่จะนำสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มาเีลี้ยงเพื่อเป็นการอนุรักษ์สัตว์ เหล่านี้ให้อยู่ตามธรรมชาติของมันต่อไป

10. การให้อาหารและแร่ธาตุเสริม
           ปลาทะเลส่วนมากสามารถให้อาหารสำเร็จรูปให้กินได้ ซึ่งมีทั้งแบบเม็ดเล็ก เม็ดใหญ่แบบแผ่น ต่างกันออกไป แต่ปลาบางชนิดอาจกินเฉพาะอาหารสดเท่านั้น ซึ่งเราสามารถให้ไรทะเลเป็นอาหารไ้ด้ โดยที่ไรทะเลนั้นก็มีทั้งแบบเป็นๆ และแบบแช่แข็ง ซึ่งสำหรับปลาบางชนิดอาจสามารถฝึกให้กินอาหารสำเร็จรูปได้ตามเทคนิคแต่ละคน สำหรับระยะยาวแล้วการให้ไรทะเลเป็นอาหารอย่างเดียวอาจให้สารอาหารที่ไม่เพียงพอ ซึ่งอาจจะสลับให้อาหารสด เช่น กุ้งสับ หอยสับ สาหร่าย ต่างๆกันเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารหรือให้อาหารต่างๆกันไปในแต่ละมื้อก็ได้เพราะจะทำให้ปลาไม่เบื่อด้วย สำหรับกรณีที่มีการเลี้ยงปะการังอาจจะต้องมีการใส่แร่ธาตุเสริมด้วยซึ่งแตกต่างกันออกไปตามชนิดของปะการัง ที่นิยมได้แก่ แคลเซียมสำหรับปะการังโครงแข็ง ,ไอโอดีน และอื่น ๆ

11.อุปกรณ์เสริมต่างๆที่ใช้ในตู้ทะเล
          จาก 10 ข้อที่กล่าวมา ก็สามารถทำให้คุณเลี้ยงปลาทะเลได้อย่างมีความรู้ระดับนึงแล้ว
นอกจากนี้การเลี้ยงปลาทะเลอาจจำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมต่างๆอีก เช่น

-  น้ำยาสำหรับวัดค่า nitrite ( NO2 ) ซึ่งเป็นของเสียที่เกิดจากวงจรไนโตรเจนในกระบวนการ
   กำจัดของเสีย ซึ่งมีพิษร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตถ้ามีปริมาณมากจนเกินไป ดังนั้นเราจึงควรมีอุปกรณ์
   ที่สามารถวัดปริมาณได้
-  โปรตีนสกิมเมอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้กำจัดสารอินทรีย์ที่เกิดขึ้นภายในตู้โดยใช้ระบบฟอง
   อากาศ ซึ่งรวมถึงการกำจัดเมือกที่เกิดขึ้นจากปะการังบางชนิดด้วย ซึ่งจะทำให้น้ำในตู้
   มีคุณภาพที่ดี ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญเหมือนกันในตู้ทะเล ซึ่งเราอาจติดตั้งไว้ในกรองล่างก็ได้
-  ปั๊มน้ำ สำหรับเพิ่มกระแสน้ำภายในตู้ เพื่อการหมุนเวียนของน้ำและเพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ
   ซึ่งปั๊มน้ำนั้นมีความแรงหลายระดับ เราอาจติดตั้งปั๊มน้ำมากกว่า 1 ตัวในตู้เพื่อเพิ่มกระแสน้ำ
   ภายในตู้ได้โดยเฉพาะตำแหน่งที่กระแสน้ำน้อย ( 800 - 2500 ลิตรต่อชั่วโมง ) ซึ่งกระแสน้ำ
   บางทีก็มีความจำเป็นต่อปะการังบางชนิดที่ต้องการกระแสน้ำที่แรงเป็นพิเศษ
-  ปั๊มลมใช้ถ่าน พร้อมหัวทราย เพื่อป้องกันเวลาที่เกิดไฟดับ สามารถใช้เพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ
   ได้แทนปั๊มหลักที่ใช้ภายในตู้

เครดิต:  บทความโดย M@my-aquariums
              http://my-aquariums.tripod.com/Articles_page/Articles1-1.html


                                                                           หินเป็นคืออะไร?

  หินเป็นสำหรับตู้ปลาทะเล

           สำหรับตู้เลี้ยงปลาทะเลนั้นมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้เป็นระบบกรองชนิด หนึ่ง ซึ่ง เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวและภายในรูพรุนของหินนั้น ทำหน้าที่เปลี่ยนแอมโมเนียและไนไตร์ท ซึ่งเป็นพิษกับ สัตว์น้ำ ซึ่งเกิดจากการขับถ่ายย่อยสลายของเสียในตู้ ให้กลายเป็นไนเตรท แบคทีเรียกลุ่มนี้จะอาศัยอยู่บริเวณผิวของหินที่มีออกซิเจนอยู่เป็นจำนวนมาก

(https://upic.me/i/t5/0page.jpg) (https://upic.me/show.php?id=0cff6f4603ae0705b53f835eff28b89e)

           หินเป็น เกิดจากการทับถมของซากปะการังที่ตายแล้ว จึงทำให้ภายในหินเป็นมีรูพรุนเป็นจำนวนมาก บริเวณผิวของหินเป็นจะมี Nitifying Bacteria อาศัยอยู่ (เป็นแบคทีเรียที่เปลี่ยนแอมโมเนียมให้เป็นไนไตรต์และเปลี่ยนไนไตรต์ให้เป็น ไนเตรต) และภายในของหินเป็นจะมี Denitrifying Bacteria อาศัยอยู่ ซึ่งเป็นที่ๆ ออกซิเจนเข้าไปได้น้อยมาก (เป็นแบททีเรียที่เปลี่ยนแปลงไนเตรตเป็นสารประกอบ) ซึ่งทำให้ระบบสลายของเสียของตู้จะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นหินเป็น เป็นสิ่งสำคัญสำหรับตู้ปลาทะเลอย่างมากทุกตู้อย่างน้อยต้องมีหินเป็น1-2ก้อน เพื่อเป็นที่อยู่สำหรับ แบคทีเรีย แพลงตอน และ ปลาจะทำให้ปลาเครียดน้อยลง แล้ว จะเป็น ตัวที่สามารถกำจัด ไนเตรท แอมโมเนีย ได้ดีหินเป็น สำคัญมากถ้าไม่มีทรายเป็น ถ้าเรามีทรายธรรมดา เรามีหินเป็น ผ่านไป 1เดือน ทรายเหล่านั้นก็จะมี สิ่งมีชีวิตลงไปอยู่ จากหินเป็น เช่น แบคทีเรีย และ หนอนทะเล

หินเป็นสำหรับตู้ปลาทะเล
วิธีเลือกหินเป็นสำหรับตู้ปลาทะเล


1. หินต้องไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า

2. หินต้องไม่ขึ้นรา

3. หินต้องพยายามเลือกชิ้นที่มีตะไคร่เกาะอยู่น้อยๆจะดีกว่า

4. ถ้าหินเป็นมี พวก algae หรือ สีม่วงๆ ตามหินเป็น จะเป็นหินที่ดี

5. ถ้ามีพวก ปะการังบางชนิดติดหินได้ก็ยิ่งดีครับ อย่างเช่นพวก เห็ด หรือกระดุม

6. ควรเลือกหินเป็น ที่ร้านที่มี ถังพักหินเป็น จะดีกว่า

7. หินเป็น ควรจะอยู่ในน้ำเวลาเราซื้อไม่ใช่ แห้งแล้ว สิ่งมีชีวิตจะตายเรียบร้อย

8. เวลา นำหินเป็นกลับบ้านควรที่จะมีอะไรห่อไว้อย่างเช่นหนังสือพิมพ์เปียกๆ เพื่อให้หินมีความชุ่มชื่น สิ่งมีชีวิตจะได้ไม่ตาย

9.ถ้าพบกั้งหรือปูอยู่ตามซอกหินไม่ควรนำหินก้อนนั้นกลับมา [/size]

เครดิตเรื่องหินเป็นโดย : http://batkuza.exteen.com/20090908/entry


หัวข้อ: Re: บทความการเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: MannyMonomania ที่ 25/05/10, [20:33:35]
สุดยอดครับผม [เจ๋ง]


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: l3EП-nophila™ ที่ 25/05/10, [21:42:13]
แวะมาเจิม ห้องใหม่ครับ ...
ความรู้แน่นๆ


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: WhiteDS ที่ 25/05/10, [22:47:44]
ผมงงตรงสกิมเมอร์มันใช้ยังไง วางไว้ตรงไหน มันดูดทางไหนอะครับ  036


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: 00คิงคอง00 ที่ 26/05/10, [01:09:17]
ปล. แนะนำว่าเครดิต เวปที่ไปเอามาด้วยก็ดี ครับ  emb01


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: ณ~ใชเหมี่ยง ที่ 26/05/10, [09:09:26]
ปล. แนะนำว่าเครดิต เวปที่ไปเอามาด้วยก็ดี ครับ  emb01

โทษทีครับพอดีตอนทำลืมนึกไป ใส่ให้เรียบร้อยแล้วครับผม


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: Vanilla ที่ 26/05/10, [13:53:28]
ก่อนเลี้ยงไม้น้ำ ผมก็อยากเลี้ยงตู้ทะเลมาก่อน
แต่อุปสรรคที่สำคัญก็คือ เงิน นี่แหละ  [on_052]


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: John-Amazonas ที่ 28/05/10, [11:15:01]
ความรู้แน่นใช้ได้เลยนะเนี้ย

อิอิ

สุดยอดเลยครับ [on_012]


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: smob472 ที่ 04/07/10, [13:32:38]
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: Albino buffalo ที่ 04/07/10, [17:59:37]
Level up !!  [กู้ดครับ!]


หัวข้อ: Re: บทความ: การเลี้ยงปลาทะเลเบื้องต้น
เริ่มหัวข้อโดย: suming ที่ 27/12/12, [13:52:24]
แจ่วเลยท่านได้ความเข้าใจอีกเพียบ [เจ๋ง]