|
หัวข้อ: ช่วยด้วยครับ ปลาทองไม่รู้ติดโรคอะไร เป็นกันทั้งอ่างเลยครับ เริ่มหัวข้อโดย: THAI26 ที่ 10/04/10, [08:28:50] ปลาทองของผมอยู่ดีๆก็เริ่มมีอาการ
1. กินอาหารน้อยลง 2. เหงือกเริ่มปิดไม่ค่อยสนิท 3. มีการตกเลือดข้างลำตัว แล้วก็ดูซึมๆตลอดเวลาเลยครับ แถมเป้นเกือบทั้งอ่างเลยครับ cryingrun (https://upic.me/i/jx/dsc03779.jpg) (https://upic.me/e534e) สังเกตดูที่เหงือกอะครับ จะเห็นว่ามันปิดไม่ค่อยสนิทอะครับ asspain (https://upic.me/i/g4/dsc03782.jpg) (https://upic.me/e534f) จะเห็นรอยแดงๆข้างลำตัวครับ [on_024] ตอนนี้ผมก็ใส่ยาเหลืองให้เค้าอยู่แล้วก็เกลืออะไรสักอย่างนี่แหละ(เห็นเค้าบอกว่าฆ่าเชื้อได้) 036 รบกวนผู้รู้ทีครับ ว่าเค้าเป็นโรคอะไร แล้วก็ขอวิธีรักษาด้วยอะครับ [on_052] ตอนนี้เริ่มทยอยตายกันทีละตัวแล้วครับ [on_024] หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยครับ ปลาทองไม่รู้ติดโรคอะไร เป็นกันทั้งอ่างเลยครับ เริ่มหัวข้อโดย: Crayzy ที่ 10/04/10, [09:06:18] ผมไม่แน่ใจนะครับว่าเป็นอะไร เพราะภาพมันไม่ชัด แต่ส่วนมากโรคของปลาทอง จะมีอยู่หลายโรคมากเลยครับ ก็เลยเอามาให้อ่านทั้งหมดเลย ลองสังเกตุอาการดูนะครับ ว่าตรงกับอันไหนมากที่สุดแล้วก็เลือกวิธีการรักษาเอาครับ ตามนี้เลยครับ
โรคของปลาทองและวิธีการรักษา โรคหนอนสมอ (Anchor worms) อาการ : หนอนสมอจะมีขนาดความยาว 0.6-1 เซนติเมตร หนอนสมอจะใช้ส่วนหัวฝัง เข้าไปในตัวปลาและยื่นส่วนหางออกมาทำให้เห็นเหมือนมีเส้นด้ายเกาะติดอยู่ที่ตัวปลา ถ้าดึงออก ส่วนที่เป็นสมอมักจะขาดติดอยู่ใต้ผิวหนังทำให้เกิดแผล เป็นทางให้แบคทีเรียเข้าสู่ตัวปลา ได้ ปลาที่พบหนอนสมอจะมีอาการซึมไม่กินอาหาร ว่ายถูตัวกับขอบตู้หรือบ่อ และมีรอยแดงช้ำเป็นจ้ำ ตามตัว เนื่องจากปลาระคายเคืองเป็นอย่างมาก จะเอาตัวถูข้างบ่อ การรักษา : แช่ปลาในสารละลาย ดิพเทอเร็กซ์ 0.25-0.5 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่ตลอดไป และแช่ ซ้ำทุก 7 วัน รวมระยะเวลารักษา 4 ครั้งหรือเวลารักษา 1 เดือน โรคเห็บ (Fish lice) Argulus sp. อาการ : เห็บมีลักษณะกลมแบบคล้ายรูปจาน ขนาดยาว 3 - 5 มิลลิเมตร มีขา 8 ขา แต่ละขายังแยกเป็นขาละ 2 คู่ ปลาที่มีเห็บเกาะอยู่จะว่ายถูตัวกับข้างบ่อ เพื่อให้เห็บหลุด เกล็ดปลาจะหลุดเป็นแผล ซึ่งทำความเสียหายมากเนื่องจากปรสิตนี้สามารถขยายพันธุ์เร็ว การรักษา : แช่ปลาที่มีเห็บในสารละลาย ดิพเทอเร็กซ์ในอัตราส่วน 0.25-0.5 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่ตลอดไปและแช่ซ้ำทุก 7 วันต่อครั้ง รวมระยะเวลารักษา 4 ครั้ง หรือเวลารักษา 1 เดือน โรคจุดขาวหรืออิ๊ค (White spot "Ich") อาการ : เกิดจากโปรโตซัวขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเป็นรูปไข่ Ichthyophthirius multifilis โดยจะฝังอยู่ที่ผิวและเหงือกของปลาปลาจะสร้างเซลล์ผิวหนังชั้นนอกเพิ่มขึ้นจนหุ้มปรสิตหมด ทำให้ บริเวณนั้นกลายเป็นจุดขาว ๆ ระคายเคือง ผิวหนังมีอาการคันปรสิตจะขยายพันธุ์เจริญเต็มที่ หลุดออก จากตัวปลา ว่ายน้ำเป็นอิสระส่วนหนึ่งจะสร้างเกราะหุ้มตัวให้ตัวอ่อน เมื่อสภาพเหมาะสมเกราะก็จะแตก ออก ตัวอ่อนว่ายเข้าติดตัวปลาต่อไป ถ้าเกาะไม่ได้ตัวอ่อนจะตายภายใน 4 วัน โรคจะลามภายใน 7-8 ชั่วโมงเท่านั้น มักเกิดช่วงหน้าฝน เมื่อปลากระทบน้ำฝนหรือหนาวเย็นจัด ปลาจะมีอาการเซื่องซึม ครีบ เปื่อย ไม่ค่อยเคลื่อนไหว และว่ายน้ำถูกับข้างบ่อ การรักษา : ใช้มาลาไคท์กรีน 0.1-0.2 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่ตลอดไป และแช่ซ้ำ 2-3 ครั้ง ห่างกัน ครั้งละ 5-7 วัน : มาลาไคท์กรีนร่วมกับฟอร์มาลิน อัตรา 4 ซีซี กับ 1 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร โรคเชื้อรา (Fungus) อาการ : พบบริเวณผิวหนัง ครีบ บริเวณมีบาดแผล และในไข่ปลาที่ไม่ได้รับการผสมลักษณะเป็นเส้นใยอยู่ เป็นกลุ่ม ปลาที่ได้รับเชื้อ Saprolegnia sp. จะมีปุยขาวคล้ายปุยสำลีเกาะติดตามลำตัวที่ได้รับความ บอบช้ำหรือมีบาดแผลตามตัว ราจะเข้าเกาะทันทีราเจริญที่อุณหภูมิ 25-28 องศาเซลเซียส และมีวงจร ชีวิต 1-2 วัน เท่านั้น การรักษา : แช่ปลาในน้ำที่ผสมเกลือ 3-5 กิโลกรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร นานตลอดไป หรือใช้มาลาไคท์กรีน 0.1-0.2 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร หรือ 2 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร แช่จนกว่าปลาจะหายป่วย ซึ่งอาจต้องแช่ซ้ำ 2-3 ครั้ง โรคครีบและหางเปื่อย อาการ : ปลาจะมีอาการเซื่องซึมไม่ค่อยกินอาหารและมักจะว่ายน้ำสั่นกระตุกเป็นพัก ๆ ครีบและหางจะขาดแหว่งคล้ายถูกกัด บริเวณปลายครีบและหางจะมีสีขาวขุ่นหรือแดง และค่อย ๆ ลุกลามไปเรื่อย ๆ จนครีบและหางของปลาหดหายไป ซึ่งจะทำให้ปลาตายในที่สุด โรคนี้เกิดจากปลา ได้รับเชื้อโปรโตซัว และมีการติดเชื้อแบคทีเรียรวมด้วย การรักษา : แช่ปลาป่วยด้วยฟอร์มาลิน 25 - 45 ซีซี/ น้ำ 1,000 ลิตร แช่ปลานาน 2 วัน : ใช้ยาปฏิชีวนะจำพวกไนโตรฟูราโซน ในอัตราส่วน 1-2 กรัม ต่อน้ำ 1,000ลิตรแช่ปลานาน 2-3 วัน โรคเหงือกอักเสบหรือเหงือกเน่า (Gill rot) อาการ : เหงือกปลาจะบวมแดง เกิดการเน่าและแหว่งหายไป ปลาหายใจถี่ ผิดปกติ และขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำเสมอ ๆ หรือว่ายไปอยู่ที่ท่อออกซิเจน การรักษา : ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยขึ้น และให้ออกซิเจน หรือใช้ด่างทับทิม 3-4 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่ตลอดไป โรคเวลเว็ทหรือโอโอดิเนียม (Velvet disease หรือ Oodinium disease) อาการ : เป็นโรคที่เกิดจากปรสิต (Oodinium sp.) มีสีน้ำตาลคล้ายสนิมเกาะตามลำตัว เหงือก ถ้ามีเป็นจำนวนมากจะทำให้ปลาว่ายน้ำทุรนทุราย เนื่องจากหายใจไม่ออก การรักษา : แช่ปลาในน้ำเกลืออัตราส่วน เกลือ 1 กิโลกรัมในน้ำ 100 ลิตร แช่จนปลาเริ่มว่ายน้ำ กระสับกระส่ายจึงจับปลาออก และอาจต้องทำซ้ำอีก 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะ 2-3 วัน โรคท้องบวม (Abdominal dropsy) อาการ : เป็นโรคที่ส่วนใหญ่เกิดจากแบคทีเรีย ปลาจะมีอาการเซื่องซึม ไม่เคลื่อนไหว อออยู่ใต้ผิวน้ำหรือจมก้นบ่อ ปลาไม่ค่อยกินอาหารในแบบเฉียบพลัน ส่วนท้องจะบวมมาก มีน้ำสีแดงออกมาจากช่องท้อง และอาจเกิดเกล็ดตั้งขึ้น ส่วนแบบเรื้อรัง ผิวหนังของปลาจะเป็นรอยช้ำตกเลือด การรักษา : แช่ปลาในยาปฏิชีวนะออกซี่เตตร้าซัยคลิน หรือเตตร้าซัยคลิน ในอัตราส่วน 10-20 มิลลิกรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่นาน 2-3 วัน จึงถ่ายน้ำใหม่แล้วแช่ยาซ้ำอีก : ไม่ควรเลี้ยงปลาในปริมาณที่แน่นจนเกินไปและควรให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสม การเกิดฟองอากาศ (Gas bubble disease) อาการ : ส่วนมากจะเกิดกับลูกปลาที่เลี้ยงในบ่อที่มีแสงแดดจัด และมีสาหร่ายในน้ำ ปริมาณสูง (สังเกตจากน้ำในบ่อจะมีสีเขียวมาก) ซึ่งสาหร่ายจะทำให้เกิดการสังเคราะห์แสง และเกิด ก๊าซออกซิเจนมากเกินไป ส่วนในตอนเย็นออกซิเจนลดลงอย่างรวดเร็วทำให้ปลาปรับตัวไม่ทัน เห็น เป็นฟองอากาศในตัวปลาโดยเฉพาะลูกปลา การรักษา : ควรจะหาที่บังแดด โดยใช้ตาข่ายบังแสงให้มีแสงผ่านได้ 40-60% โรคเสียการทรงตัว (Swim bladder disease) อาการ : ปลาจะว่ายน้ำหมุนควงตีลังกา เสียการทรงตัว ตกเลือดตามตัวและซอกเกล็ด จะ เกิดกับปลาตั้งแต่วัยอ่อนถึงตัวเต็มวัย ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของถุงลมระบบแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติ สาเหตุการเกิดโรคยังไม่แน่ชัด การรักษา : ไม่พบวิธีการรักษาที่ได้ผล ส่วนมากถ้าพบปลาป่วย จะนำปลาไปเลี้ยงในที่แคบ ๆ เพิ่มอุณหภูมิ และความเค็ม โรคเสียการทรงตัวบางครั้งไม่ได้ขึ้นกับกระเพาะลมอย่างเดียวอาจเกิดจากการทำงานของ ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ทำให้เกิดก๊าซมาก หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยครับ ปลาทองไม่รู้ติดโรคอะไร เป็นกันทั้งอ่างเลยครับ เริ่มหัวข้อโดย: THAI26 ที่ 10/04/10, [09:53:37] พอดีปลามันว่ายตลอดเลยอะครับ เลยจับภาพไม่ค่อยทันครับ 036 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะครับ [เจ๋ง] ตอนนี้ก็มีอีกตัวนึงกำลังจะไปแล้วอะครับ ซึมมากเลยครับ แถมไม่ค่อยขยับแล้วครับ cryingrun แถมตกเลือดเกือบทั้งตัวเลยอะครับ ตอนนี้อัดอ๊อกกับยาเหลืองอย่างเต็มที่เลยครับ ไม่น่าจะรอดแล้วครับ ตัวนี้ [on_052] หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยครับ ปลาทองไม่รู้ติดโรคอะไร เป็นกันทั้งอ่างเลยครับ เริ่มหัวข้อโดย: 413 ที่ 10/04/10, [10:00:15] ตอนนี้อัดอ๊อกกับยาเหลืองอย่างเต็มที่เลยครับ ไม่น่าจะรอดแล้วครับ ตัวนี้ [on_052] ผมว่าคงไม่ตายง่ายๆหรอกครับ ใจเย็นๆครับ xxx2หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยครับ ปลาทองไม่รู้ติดโรคอะไร เป็นกันทั้งอ่างเลยครับ เริ่มหัวข้อโดย: THAI26 ที่ 11/04/10, [08:54:43] ตอนนี้ผมแยกตัวที่ร่อแร่ใกล้จะไปแล้วมาแยกไว้ในถังแล้วครับ แล้วก็แยกตัวที่ไม่เป็นอะไรมากไว้อีกอ่างที่แล้วครับ(ยังใส่ยาเหลืองกับอัดอ๊อกอยู่นะครับ) 036
พวกที่อยู่ในถังนี่อาหารไม่กินเลยครับ บางตัวก็ลอยตัวอ้าปากพะงาบๆอยู่ตลอดเวลาเลยอะครับ [on_052] ส่วนพวกที่ไม่เป็นอะไรมากยังกินอาหารอยู่ดีครับ [เจ๋ง] พวกนี้น่าจะรอดแล้วแหละครับ [เขิลลลล] หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยครับ ปลาทองไม่รู้ติดโรคอะไร เป็นกันทั้งอ่างเลยครับ เริ่มหัวข้อโดย: หมูจ๋า ที่ 25/04/10, [07:34:54] เป็นโรคเหงือกครับ
ใส่เกลือ งดอาหารทุกชนิด แล้ว เปิดอ็อกแรงๆ ดูอาการทุก 6 ชม. ถ้ายังไม่ดีขึ้นให้ใส่เพิ่มไปอีกครับ ค่อยๆเพิ่มจนกว่าปลาจะกลับมาว่ายปกติ แล้วหยุดเกลือครับ เพราะปลาที่ป่วยแบบนี้มักนิยมลอยตัวครับ ไม่นิยมว่าย หัวข้อ: Re: ช่วยด้วยครับ ปลาทองไม่รู้ติดโรคอะไร เป็นกันทั้งอ่างเลยครับ เริ่มหัวข้อโดย: TENTzz ที่ 25/04/10, [17:58:33] อาการไม่ดีแล้วนะครับ ลองหายาดู
|