Aqua.c1ub.net

Aquatic Plant => คุยเรื่องไม้น้ำ => ข้อความที่เริ่มโดย: BiG River ที่ 25/03/10, [14:28:08]



หัวข้อ: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำที่พังงา ตามหาคริปที่ระนอง แล้วออกเลกระบี่
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 25/03/10, [14:28:08]
ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา

หลบความร้อน ที่รุมเร้าและอบอ้าวจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ ใช้เส้นทางเพชรเกษม ถึงสี่แยกปฐมพร ก็เลี้ยวขวาไปทางจังหวัดระนอง ลัดเลาะไปชายฝั่งอันดามัน ผ่านอำเภอสุขสำราญ คุระบุรี ตะกั่วป่า ถึงจังหวัดพังงา

แม้ว่าพระอาทิตย์จะส่องแสงแดดจ้าเพียงใด แต่ก็ไม่ร้อนรุ่มเหมือนกับกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเขตใกล้อุทยานแห่งชาติศรีพังงา ด้วยว่ามีต้นไม้และสายน้ำทำหน้าที่เป็นม่านกั้นความร้อนได้เป็นอย่างดี

อุทยานแห่งชาติศรีพังงาอยู่ในเขตอำเภอคุระบุรี และอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นแนวขนานกับฝั่งทะเลอันดามันในแนวเหนือใต้ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ อาทิ ไม้ยาง ไม้ตะเคียนทอง ปาล์มสกุลต่างๆ กระพ้อหนู ชายผ้าสีดา กล้วยไม้รองเท้านารี เอื้องเงินหลวง และยังสามารถพบสัตว์ป่าและนกต่างๆ หลายชนิด ได้แก่ สมเสร็จ เลียงผา วัวแดง เก้ง เสือ นกเงือก นกเขียวคราม นกชนหิน ปลาพวง กบทูด เป็นต้น

นอกจากพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าดังกล่าวแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งกำเนิดสายน้ำหล่อเลี้ยงทั้งคนและสัตว์ในละแวกนี้ด้วย

น้ำตกตำหนัง น้ำตกโตนต้นเตย น้ำตกโตนต้นไทร และน้ำตกสวนใหม่ ที่แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศเข้ามาสัมผัสนับหมื่นๆ คน นอกจากนี้ ยังมีคลองคุรอด คลองตำหนัง คลองแพรกขวา คลองแพรกซ้าย คลองบางแดง คลองบางวัน คลองหลักเขต และคลองบางใหญ่ ล้วนแล้วมาจากหยดน้ำที่อุทยานฯ ทั้งสิ้น

ทรัพยากรธรรมชาติที่นี่สมบูรณ์มาก ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯ นั้น ชาวบ้านหลายคนเลี้ยงชีพด้วยการหาของป่า อาทิ เห็ด ผลไม้ และสัตว์ป่า มาแปรรูปเป็นอาหารเลี้ยงครอบครัว และขายด้วย

ดังเช่น ครอบครัวของ คุณคล่อง ชัยช่วย อดีตสารวัตรกำนันตำบลบางวัน อำเภอคุระบุรี จังหวัด พังงา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) มีลูกๆ ทั้งหมด 12 คน เขาหาเงินเลี้ยงครอบครัวด้วยการเก็บพรรณไม้น้ำตามลำคลองและน้ำตกมาส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในกรุงเทพฯ มาเป็นเวลายาวนานกว่า 40 ปี

พ่อค้าแม่ค้าในกรุงเทพฯ ก็นำมาขายให้กับกลุ่มที่เลี้ยงปลาสวยงามเพื่อนำมาประดับไว้ในตู้ปลา นอกจากนี้ มีการส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศด้วย

แม้ว่าปัจจุบันนี้ คุณคล่อง จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่อาชีพนี้ยังตกทอดมายัง คุณประจักษ์ ลูกชายคนโปรด ที่คุณคล่องได้หมายมั่นปั้นมือมาตั้งแต่ครั้นเยาว์วัย

"ตอนนี้ผมอายุ 40 แล้ว แต่ผมยังจำได้ดีว่า ในช่วงวัยเด็ก ผมกับพี่ๆ น้องๆ เข้าป่าหาสายน้ำ เพื่อไปช่วยเก็บพรรณไม้น้ำมาให้พ่อ เพื่อส่งขายพ่อค้าแม่ค้าในกรุงเทพฯ ผมและพี่น้องทำงานช่วยเหลือครอบครัวมาตลอด จนกระทั่งโตขึ้นไปทำงานเป็นพนักงานบริการร้านอาหารที่จังหวัดภูเก็ตได้สัก 1-2 ปี เท่านั้น ก็ต้องกลับบ้าน มายึดอาชีพนี้ต่อ เพราะว่าเราชอบอยู่กับธรรมชาติมากกว่านั่นเอง" คุณประจักษ์ เล่าถึงชีวิตในวัยเด็กและวัยทำงาน

พร้อมกับเล่าต่อไปอีกว่า "หลังจากคุณพ่อเสียชีวิต และทางรัฐบาลประกาศพื้นที่ภูเขาใกล้ๆ บ้านเป็นอุทยานแห่งชาติแล้ว ผมก็ยังยึดอาชีพนี้อยู่ โดยเน้นเสาะหาพรรณไม้น้ำนอกเขตอุทยานฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ตามลำคลอง นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งผมได้นำมาเพาะขยายพันธุ์เองในฟาร์มหลังบ้านด้วย ส่วนพี่ๆ น้องๆ ไม่มีคนไหนเลยที่จะสืบทอดอาชีพนี้ ส่วนใหญ่แต่งงานมีครอบครัว จากนั้นก็แยกย้ายไปอยู่ที่อื่น พร้อมกับประกอบอาชีพใหม่กันเกือบทั้งนั้น"

คุณประจักษ์ บอกว่า อาชีพนี้คุณพ่อปูฐานความรู้ให้ทุกด้านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเก็บเกี่ยว การขนส่ง และการตลาด เป็นต้น เราเพียงทำหน้าที่ต่อยอดเท่านั้น โดยไม่ต้องไปเรียนเพิ่มเติมมากนัก แต่ถ้าหันไปยึดอาชีพอื่นๆ ต้องลองผิดลองถูกอีกนาน ถึงจะประสบความสำเร็จ

"พรรณไม้น้ำที่เรานำไปขายนั้น มีทั้งเก็บเกี่ยวจากธรรมชาติและฟาร์มของเราเอง แต่ส่วนใหญ่มักหาตามธรรมชาติมากกว่า เพราะว่าที่นี่มีมาก โดยเฉพาะพวก มวกเหล็ก บอนแดง หอมน้ำ และหัวไส้ปลาไหล เป็นต้น มีจำนวนมากหลาย จนผมเก็บไม่ไหว จำเป็นต้องว่าจ้างแรงงานประมาณ 10 คน มาช่วยเก็บรวบรวม เพื่อส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในกรุงเทพฯ ส่วนตัวผมตอนนี้ส่วนใหญ่มีหน้าที่คัดเลือก และห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ จากนั้นนำมาใส่ในลังโฟม เพื่อเตรียมส่งขายสู่ตลาดในกรุงเทพฯ ต่อไป"

คุณประจักษ์เล่าว่า เมื่อก่อนนี้ จะออกเดินทางเสาะหาพรรณไม้น้ำที่ตลาดต้องการ จนสามารถรู้ข้อมูลอย่างชัดเจนเลยว่า ลำคลอง บึง ห้วย และน้ำตก ที่ไหนมีพรรณไม้น้ำอะไรมากเป็นพิเศษ หรือเก็บเกี่ยวได้ดีช่วงไหน ดังนั้น เมื่อมีประสบการณ์หรือรับรู้ข้อมูลได้ดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปเก็บเกี่ยวเลย ส่วนใหญ่จะว่าจ้างให้ลูกน้องไปทำหน้าที่แทน ส่วนตัวเองก็พัฒนาเป็นฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ พร้อมนำส่งให้พ่อค้าแม่ค้าต่อไป



ตลาดพรรณไม้น้ำ เปิดกว้าง

คุณประจักษ์ เล่าว่า ตั้งแต่จำความได้และช่วยงานคุณพ่อเก็บพรรณไม้น้ำขาย ไม่เห็นมีปัญหาด้านการตลาดเลย แต่ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ คือช่วงเก็บเกี่ยวหรือขนส่ง ต้องรักษาความชื้นไว้ตลอด ไม่เช่นนั้นเมื่อถึงมือผู้รับซื้อจะเหี่ยวเฉาได้ ซึ่งจะมีผลกระทบตามมา นั่นก็คือ จะถูกกดราคาหรือไม่ได้รับผลตอบแทนเลย

"ช่วงแรกๆ ที่ครอบครัวเราทำอาชีพนี้ก็มีปัญหาด้านคุณภาพมาก เพราะว่าไม่มีใครมีความรู้เรื่องพรรณไม้น้ำเลย ต้องศึกษาวิธีการเก็บเกี่ยวและขนส่งกันเอง ทำให้บางครั้งได้เงินน้อยหรือไม่ได้เลย แต่ระยะหลังเมื่อผมโตขึ้น ก็ศึกษาหาความรู้เพิ่มจากผู้มีประสบการณ์ทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นพวกพ่อค้าแม่ค้า และจากการอ่านหนังสือ นอกจากนี้ ยังมาจากลองผิดลองถูกของเราเองด้วย จนมีความรู้ความชำนาญรู้จักพัฒนาพรรณไม้น้ำจนมีคุณภาพ จนตลาดยอมรับและเปิดกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ" คุณประจักษ์ กล่าว

คุณประจักษ์ บอกว่า ปัจจุบันนี้ มีผู้ส่งออกพรรณไม้น้ำหลายรายได้ติดต่อขอซื้อสินค้าจากเรา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จัดการส่งไปให้เกือบทุกราย ยกเว้นในตลาดนัดจตุจักรที่ได้ส่งไปขายเพียง 1 ราย เท่านั้น เพราะว่าที่นี่พวกพ่อค้าแม่ค้าไม่มีการส่งออก จะขายเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น และมีการแข่งขันกันสูง ดังนั้น จึงถูกขอร้องไว้ว่าต้องขายเพียง 1 ราย เท่านั้น ซึ่งเป็นขาประจำมายาวนานแล้ว

"ที่ตลาดนัดจตุจักรนี้ เราจะส่งพรรณไม้น้ำไปขาย 3 กล่องโฟม ต่อสัปดาห์ ได้เงินมา 5,000 บาท หรือเดือนละ 20,000 บาท ส่วนผู้ส่งออกนั้นไม่แน่นอน บางครั้งสั่งซื้อครั้งละมากๆ หลายหมื่นบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศ"

คุณประจักษ์ บอกว่า เมื่อมีการสั่งซื้อเข้ามา ก็สั่งให้ลูกน้องออกหาพรรณไม้น้ำในคลองธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่นอกเขตพื้นที่อุทยานฯ นอกจากนี้ ก็ยังเก็บเกี่ยวพรรณไม้น้ำที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้านด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดนั่นเอง



ปลูกพรรณไม้น้ำ เลียนแบบธรรมชาติ

คุณประจักษ์ใช้พื้นที่หลังบ้านประมาณ 2 งาน หลังคาและด้านข้างคลุมด้วยซาแรนพลาสติค เพื่อพรางแสง และบริเวณพื้นจะกั้นด้วยอิฐบล็อคเป็นล็อคๆ ขนาด 2x3 เมตร ภายในจะนำดินทรายจากริมห้วยและบริเวณใกล้เคียงมาใส่ไว้เต็มพื้นที่

จากนั้นก็วางระบบน้ำหัวฉีดสปริงเกลอร์ทั่วทั้งแปลง ซึ่งคุณประจักษ์จะเปิดเครื่องสูบน้ำทำงานทั้งวัน โดยตั้งระบบอัตโนมัติไว้ คือทุกๆ 5 นาที จะทำงาน และหยุดพัก 10 นาที ยกเว้นช่วงฤดูฝนจะปิดเครื่องบ้าง

พรรณไม้น้ำที่คุณประจักษ์ปลูกไว้หลังบ้าน ส่วนใหญ่เป็นไม้ต่างถิ่นหรือเป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศ อาทิ ตระกูลอะเมซอนและรากดำ เช่น ใบแข็ง ใบแหลม ใบบาง ใบแฉก และใบเขากวาง นอกจากนี้ ยังเป็นพวกมอสส์สายพันธุ์ต่างๆ ด้วย

พรรณไม้น้ำ คุณประจักษ์จะปลูกบนพื้นดินทราย ส่วนมอสส์นั้นเขาวางบนแผ่นกระเบื้อง โดยให้น้ำทั้งวัน ทำให้พืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะมอสส์ใช้ระยะเวลาประมาณ 15 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้แล้ว เพราะว่าขยายพันธุ์เต็มแผ่นกระเบื้องแล้ว

"ที่นี่เราจะไม่ใช้สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นยา หรือปุ๋ย เราจะปล่อยให้มันเจริญเติบโตเอง คล้ายๆ กับธรรมชาติ ยกเว้นหลังการเก็บเกี่ยวพรรณไม้น้ำแล้ว เราจะพรวนดินหว่านปุ๋ยคอกลงไปเท่านั้นเอง"

คุณประจักษ์ บอกว่า การปลูกพืชลักษณะนี้ต้นทุนจะต่ำมาก และผู้ปลูกก็ปลอดภัยจากสารเคมีด้วย

สำหรับพรรณไม้น้ำที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้น คุณประจักษ์บอกว่ามีมากมายหลายชนิด แต่ที่ตลาดนิยมกัน คือบอนแดง หอมน้ำ หัวไส้ปลาไหล และมวกเหล็ก เป็นต้น ซึ่งพรรณไม้น้ำดังกล่าวในธรรมชาติมีอยู่ค่อนข้างมาก

หลังจากสัมภาษณ์คุณประจักษ์เสร็จแล้ว คุณประจักษ์ก็อาสานำทางไปดูพรรณไม้น้ำธรรมชาติที่มีอยู่ในลำคลองตำหนัง บริเวณข้างวัดตำหนัง ห่างจากบ้านคุณประจักษ์เพียง 1 กิโลเมตร เท่านั้น

ที่ลำคลองแห่งนี้ มีพรรณไม้อยู่มาก แต่บริเวณข้างๆ วัด จะมีต้นหอมน้ำ และมวกเหล็ก อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ คุณประจักษ์ชี้ให้ดูพร้อมกับเดินลงไปเก็บผลผลิตพรรณไม้น้ำในลำคลอง ถอนต้นมวกเหล็ก พร้อมกับบอกว่า ต้นนี้ราคา 80 สตางค์ ผู้เขียนมองไปดูในลำคลอง พบว่ารัศมีไม่เกิน 1 งาน พบว่ามีพืชชนิดนี้นับพันๆ ต้นเลยทีเดียว

เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า แต่คนอื่นๆ มองข้าม เพราะไม่รู้ว่าตลาดอยู่ที่ไหน และราคาเท่าไร ถามกลับไปที่คุณประจักษ์ว่า ถ้านำเรื่องราวมาเผยแพร่แล้ว ไม่กลัวชาวบ้านหรือคนอื่นมาลอกเลียนแบบ หรือยึดอาชีพเหมือนกันหรือ? คุณประจักษ์ตอบด้วยเสียงดังฟังชัดว่า ใจจริงก็อยากให้ชาวบ้านทำอาชีพนี้เหมือนกับตัวเองบ้าง เพราะว่าตลาดโดยภาพรวมยังต้องการพรรณไม้น้ำอีกมาก แต่ไม่ตลอด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพเศรษฐกิจด้วย

"พ่อค้าแม่ค้ารับออเดอร์จากตลาดต่างประเทศ เขาก็โทรศัพท์มาที่เรา เมื่อระดมคนงานออกเก็บเกี่ยวพรรณไม้น้ำ จากนั้นก็ทำการแยกเกรด และห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ใส่ลังโฟมส่งขายมายังพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ส่งออกที่สั่งซื้อมา แต่ถ้าชาวบ้านมือใหม่ เขาไม่ค่อยเชื่อใจหรือมั่นใจในคุณภาพและการบรรจุ ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นมา ก็อาจทำให้ตลาดปลายทางพังได้ ดังนั้น ผู้ซื้อในเมืองไทย ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้กับชาวบ้านรายใหม่ๆ ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่กีดกันนะ แต่ขอให้รับรู้ไว้ว่า นี่คือ กลไกการตลาด เมื่อรับรู้แล้ว อาจค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปก็ทำรายได้เหมือนกับผมก็ได้" คุณประจักษ์ กล่าวทิ้งท้าย

จาก...http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05101010451&srcday=2008/04/01&search=no (http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05101010451&srcday=2008/04/01&search=no)

---------------

ตามหาคริป ที่ระนอง

เพื่อนสนิทมิตรสหายเพิ่งจะหาว่าผมนั้นบ้าที่จะขับรถจากกรุงเทพ ถ่อไปถึงระนอง เป็นระยะทางมากกว่า 600 กิโลเมตร เพื่อไปดูต้นไม้ บางคนถามว่าที่จัตุจักรไม่มีหรือ จึงต้องลงทุน และลงแรงมากมายถึงขนาดนั้น บางคนก็ถามว่าต้นไม้อะไร ทำไมมันถึงพิเศษขนาดนั้น บางคนก็ถามว่ามันใหญ่มากไหม ด้วยความที่เขานึกว่ามันจะต้องมีขนาดใหญ่ และสวยงามมาก ที่ ทำให้ผมยอมลงไปหามันได้ถึงที่ระนองซึ่งไม่ใช่ใกล้ๆ เลย นอกไปจากนี้แล้ว บางคนยังกล่าวเตือนผมด้วยความเป็นห่วง เมื่อผมบอกว่าผมจะไปเก็บต้นไม้ที่ระนอง เขาไม่สงสัยที่ผมทำอะไรแปลกๆ และบ้าๆ เพราะผมก็เป็นอย่างนี้อยู่เสมอ คือ ชอบทำอะไรที่คนอื่นไม่ทำกัน หากได้กล่าวเตือนผมด้วยความเป็นห่วงว่า ถนนจากชุมพรไประนองนั้น หนทางเลี้ยวลดคดเคี้ยว อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะไปเลย

ผมเพิ่งกลับจากระนอง ผมเพิ่งขับรถมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เพื่อไปดูต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครสนใจ ผมอยากไปดูต้นไม้เหล่านั้นจริงๆ ผมทำตามใจตัวเอง ผมจึงไป และกลับมาด้วยความสุข

คริปกับทุกคน คริปกับผม

หลายคนที่เลี้ยงปลา และต้นไม้น้ำคงรู้จักกันดี กับต้นไม้ในสกุลคริปโตโคไรนี่ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า คริป (Cryptocoryne) ซึ่งเป็นต้นไม้น้ำที่นักเลี้ยงปลานำมาใส่ไว้ในตู้ปลา เพื่อความสวยความ และให้ปลารู้สึกปลอดภัย เพราะมันเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย ต้องการแสงน้อย ไม่ต้องการการดูแลที่เป็นพิเศษ หนึ่งในต้นไม้สกุลคริปโตโคไรนี่ที่เรารู้จักกันดี ก็ คือ ว่านใบพาย (Cryptocoryne ciliata) ที่นักเลงปลากัดมักจะนำมาใส่ไว้ในขวดโหล ด้วยความเชื่อที่ว่า จะช่วยรักษาตัวปลา ลับคมฟันปลา และเป็นที่ให้ปลาได้พักผ่อน ส่วนผู้ที่นิยมเลี้ยงตู้ไม้น้ำ ก็คงจะรู้จักคริป เพราะเป็นต้นไม้น้ำที่มีความสวยงาม และมีความหลากหลาย มีตั้ง แต่ต้นเล็กเตี้ยๆ อย่าง Cryptocoryne parva จนกระทั่งต้นที่มีใบยาว พริ้วไหวอย่าง Cryptocoryne crispatula var. balansae หรือ Cryptocoryne aponogetifolia ที่มีรายงานว่าสามารถยาวเต็มที่ได้ถึงสามเมตร

สำหรับผมแล้ว ผมเริ่มหลงไหลกับต้นไม้ในสกุลคริปโตโคไรนี่ เพราะผมเลี้ยงปลา และจัดตู้ต้นไม้น้ำ คริปเป็นต้นไม้ที่ความโดดเด่น มีความสวยงามที่ไม่ซ้ำแบบใคร ในตอนแรกผมเริ่มสะสมคริปพันธุ์ต่างๆ ที่สามารถหาได้ตามร้านขายต้นไม้น้ำในกรุงเทพ และนำมาปลูกไว้ในตู้ปลาให้จมน้ำทั้งต้น (submersed) พร้อมๆ ไปกับหาความรู้เพิ่มเติม สิ่งหนึ่งที่ผมติดใจกับต้นไม้น้ำเหล่านี้ก็ คือ การที่มันมีดอกที่มีความแปลก และสวยงามในตัวของมันเอง ดังนั้น ผมจึงเริ่มนำคริปที่ผมมีมาปลูกบนบก (emersed) เพราะต้องการให้ออกดอก (คริปจะออกดอกเมื่อปลูกบนบกเท่านั้น) นอกจาก เพื่อที่จะดูดอกของมันเองแล้ว ผมยังต้องการดูดอก เพื่อการจำแนกสายพันธุ์อีกด้วยว่าตัวไหนเป็นตัวไหน เนื่องจากรูปร่างลักษณะของใบคริปจะเหมือนกันมาก เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อม เช่น แสงแดด วัสดุปลูก ปุ๋ย ฯลฯ ที่มันอาศัยอยู่

ผมหลงไหลกับคริปมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับการออกไปเก็บตัวอย่างปลากับ เพื่อนๆ ในกลุ่มเลี้ยงปลา

กลุ่มเล็กๆ ผมนั้นมักจะยิงนกนัดเดียว เพื่อให้ได้นกสองตัว คือ ไปจับปลา และไปเก็บคริปในเวลาเดียวกัน เพราะ คริปนั้นอาศัยอยู่ในลำธารที่มีน้ำไหล ซึ่งมักจะเป็นที่เดียวกับหมายที่พวกเราไปจับปลากันเสมอ

ความสมหวัง และความผิดหวัง

ครั้งนี้ผมฉายเดี่ยวไปเก็บคริปที่ระนอง ผมมั่นหมายว่าจะไปดูลักษณะที่อยู่ในธรรมชาติ (habitat) ของ คริปสามสายพันธุ์ คือ Cryptocoryne albida, C. cordata และ C. crispatula var. flaccidifolia ซึ่งมีการกระจายพันธุ์อยู่ในเขตจังหวัดระนองใต้ และพังงา แต่ทว่า ผมนั้นจะต้องพบกับความสมหวัง และความผิดหวัง

ผมได้เจอแหลงของคริปเพียง สองสายพันธุ์เท่านั้น หนึ่งในนั้นเป็นสายพันธุ์ที่ผมตั้งใจจะหาตั้ง แต่เริ่มแรกอยู่แล้ว คือ C. albida ส่วนอีกสายพันธุ์หนึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอ คือ C.ciliata ส่วน C. cordata และ C. crispatula var. flaccidifolia นั้น ผมไม่เจอ ผมไปถึงหมายที่คาดว่าน่าจะมีคริปทั้งสองสายพันธุ์แล้ว หมายหนึ่งสำหรับ C. crispatula var. flaccidifolia นั้น ผมไม่พบ เนื่องจากไม่สามารถหาทางลงไปในคลองในส่วนที่มีน้ำไหล(ซึ่งเป็นที่คริปอาศัยอยู่) ในหมายนั้น ผมเห็น แต่หอมน้ำ (Crinum thaianum) และบัว (Nymphea sp.) ส่วนอีกหมายหนึ่งสำหรับ C.cordata ที่คาดว่าจะอยู่ในทางตอนใต้ของจังหวัดพังงานั้น ผมต้องชวดไป เพราะในวันนั้นฝนตกหนัก จนน้ำในห้วยเป็นสีแดง เพราะได้ชะล้างดินริมตลิ่งลงมา ทำให้ไม่เห็นอะไรได้ ผมเสียดายมาก

เริ่มต้น

ผมถึงระนองในตอนเย็นวันพุธ และเข้าพักในโรงแรมในตัวเมือง หลังจากอาบน้ำอาบท่า ให้หายจากความเหนื่อแล้ว ผมก็ออกมาเดินเล่นในตัวเมืองระนอง ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีนักท่องเที่ยวไม่มากมาย และไม่วุ่นวาย ในตอนเย็นวันนั้น ผมได้เดินไปในถนนสายหลักของเมือง (ตลาดเก่า) เพื่อหาของกิน ซึ่งเป็นร้านริมถนนมีอยู่อย่างประปราย หลังจากอิ่มท้องแล้วด้วยหอยทอด กับน้ำจิ้มแบบระนอง ซึ่งมีส่วนผสมระหว่างน้ำจิ้มไก่กับเต้าหู้ยี้ มีรสแปลกยิ่งน้ก ผมก็กลับที่พัก เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้น ผมตั้งใจจะออกเดินทาง แต่เช้า ลงไปทางใต้ อย่างน้อยจนถึงคุระบุรี (ห่างออกไปจากตัวเมืองประมาณ 200 กม.) ถ้ามีเวลาเหลือก็จะลงใต้ไปจนถึงตะกั่วป่า และเลยไปบนถนนเพชรเกษมจนเกือบถึงภูเก็ต

ผมออกจากเมืองระนองไปตามถนนเพชรเกษม หยุดแวะตามสะพานต่างๆ ไปตลอดทาง แต่ก็ยังไม่พบสภาพห้วย และคลองที่น่าจะมีคริปอยู่ จึงทำระยะทางต่อไปให้ถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา ซึ่ง Professor Niels Jacobson นักพฤกษศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญต้นไม้ในสกุลคริปโตโคไรนี่ ได้เคยไปเก็บตัวอย่างของ C. albida ในบริเวณริบขอบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฯ นี้มาแล้ว และผมก็ไม่ผิดหวังเมื่อได้เห็น C. albida ในสภาพต่างๆ ในหมายนี้

สภาพของห้วยดังกล่าวเป็นพื้นกรวด เนื่องจากเป็นหน้าแล้ง ปริมาณน้ำจึงมีน้อย น้ำนั้น “ใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา” มีกอหญ้ารกขึ้นอยู่ตามริมฝั่ง นอกจากคริปแล้ว ยังพบสาหร่ายพวก Limnophila (?) ด้วย

ดังที่ได้กล่าวมา แล้วว่าคริปนั้นเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะของใบแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมที่มันอยู่ ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมได้เห็น C. albida ที่มีใบในสภาพต่างๆ ใบที่อยู่กลางแดดจัดนั้นจะมีสีแดงน้ำตาล ส่วนใบที่อยู่ในที่ร่มจะมีสีเขียวสด ส่วนใบที่เคยอยู่ใต้น้ำ และเพิ่งจะพ้นน้ำเนื่องจากน้ำลดนั้น ในบางครั้งก็เหี่ยว และดูเหมือนกำลังจะตาย ส่วนใบที่อยู่ใต้น้ำนั้นมีขนาดที่เรียวยาวกว่าใบที่อยู่บนบก ส่วนสีของใบก็จะแปรเปลี่ยนไปตามปริมาณแสงแดดที่ได้รับ

นอกจากนี้แล้ว ผมยังโชคดีที่ได้เห็นดอกคริปออกในช่วยระยะเวลานี้ ซึ่งนับว่าได้พ้นระยะเวลาออกดอกไปแล้ว คริปโดยมากจะออกดอกในช่วงเดือนตุลาคม ถึงอย่างช้าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ (Jacobson, ???) ดอกของ C. albida นั้นมีมีก้านดอกชูช่อดอกขึ้นมาจากโคนต้น มีปลายที่ม้วนเป็นเกลียว โดยมีคอ (collar) ที่กว้าง

ผลของคริปนั้นจะฝังตัวอยู่ใต้ดิน คอยระยะเวลาที่จะชูช่อยื่นออกมาในอีก 5-6 เดือนต่อมา เพื่อปล่อยเมล็ดให้ล่องลอยไปตามน้ำ และจมลงเกิดเป็นต้นใหม่ ผลของ C.albida นั้นกลม มีมากกว่า 3-4 ผล กระจุกอยู่ตามโคนต้น นอกจากการขยายพันธุ์โดยเมล็ดแล้ว คริปยังขยายพันธุ์โดยไหลอีกด้วย ดังจะเห็นได้จากต้นอ่อนต้นเล็กๆ ที่เลื้อยออกไปจากต้นใหญ่

ในหมายที่สองนั้นอยู่ระหว่างทางไปตะกั่วป่า ในหมายนี้ผมได้เห็น C.albida นั้นขึ้นอยู่บนก้อนหินที่ปกคลุมด้วยมอส (Vesicularia ?) และเฟิร์นใบแคบ (Microsorium sp.) อยู่ภายใต้ร่มไม้ที่เย็นสบาย นอกจากนี้แล้ว C.albida บางต้นยังได้ถูกน้ำที่ไหลแรง “ขุดรากถอนโคน” จนแทบจะหลุดลอยไปตามกระแสน้ำ หากยังมีรากที่ยาว และแข็งแรงเพียงส่วนหนึ่งยึดไว้ ต้นที่ล้มลงก็ออกใบอ่อนชูขึ้นบนหาแสงสว่าง เป็นการปรับตัวของต้นไม้ที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งที่ผมประทับใจ

ตะกั่วป่า : หยุด เพื่อ พลัง และกำลังใจ

ผมขับรถลงไปทางใต้ต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความมุมานะที่จะพบคริปชนิดอื่นๆ อีก เช้าวันนี้ผมเหนื่อยมาก เหนื่อยจากการขับรถแบบที่ต้องใช้ความตั้งใจเป็นพิเศษ นั่น คือ ผมต้องขับแบบไปๆ หยุดๆ คอยมองหาห้วย ลำธารท และหยุดรถวิ่งลงไปดูว่าจะมีคริปอยู่หรือไม่ นอกจากจะต้องคิด และคาดเดา เพื่อหาแหล่งต้นไม้แล้ว ผมยังต้องระแวดระวัง รถที่ขับตามมาด้วย เพราะอย่างน้อย ผมก็ยังอยากที่จะลุยเก็บคริป ( และปลาเล็กๆ ) ต่อไป ไม่อยากจะหยุดชีวิตน้อยๆ ของผมไว้เพียวแค่ที่ยวนี้

จากระนอง ผมขับมาถึงตะกั่วป่า ขับรถชมเมืองเก่าที่มีอดีตอันรุ่งเรือง ตะกั่วป่าเป็นเมืองที่ชาวจีนได้เข้ามาตั้งรกรากทำเหมืองตะกั่ว ชมที่ว่าการอำเภอเก่าสถาปัตยกรรมจีน-โปรตุเกส (Sino-Protugese) และได้หยุดแวะพักกินข้าวกลางวันที่ร้านข้าวแกงร้านใหญ่ที่ตั้งประชันกับร้านเก่าแก่อย่างฮกกี่เหลา แวะกินแกงปักษ์ใต้ (ที่ไม่ใช่แกงเหลือง) กับไข่พะโล้ เพื่อลดความเผ็ดร้อน พร้อมด้วยผักเคียงนานาชนิดที่มีไว้ให้บริการ อร่อย และได้บรรยากาศยิ่งนัก ผมหายเหนื่อย และมีกำลังใจที่จะไปเก็บคริปต่อ

กลับ

จากตะกั่วป่า ผมมุ่งหน้าต่อไป เพื่อที่จะหา C. cordata ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในพังงาใต้ตามเส้นทางไปภูเก็ต แต่เมื่อลัดเลาะตามหุบเขาไปถึงที่หมาย ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ฝนตกหนัก เป็นอันว่าผมต้องหันหัวกลับตัวเมืองระนองด้วยความผิดหวัง

ครั้งนี้ ผมมุ่งตรงกลับระนอง โดยไม่แวะที่ไหนเลย เพราะในขณะนั้นเย็นแล้ว และท้องฟ้าในขณะนั้นก็มืดครึ้ม ผมขับรถมากกว่า 4-5 ชั่วโมงตั้ง แต่เช้าแล้ว เลยคุระบุรีได้สักพัก ผมแวะหมายแรกอีกครั้ง เพื่อที่จะถ่ายรูปลำห้วยหลังฝนตก จากในตอนเช้าที่น้ำน้อย ใส และไหลเย็น ในตอนเย็นหลังฝนตกนั้น น้ำนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง และไหลเชี่ยว คริปที่อยู่เคยอยู่เหนือน้ำ บัดนั้นจมน้ำแทบทุกต้น

เมื่อถึงเขตอำเภอกะเปอร์ ผมข้ามสะพานข้ามคลองกะเปอร์พร้อมมองลงไปข้างล่าง น้ำยังในคลองยังมีน้อย และยังใสอยู่ ผมจึงตัดสินใจที่จะแวะจอด เพื่อลงไปสำรวจว่าจะมีคริปชนิดใดอยู่บ้างหรือเปล่า ในใจผมคิดว่าฝนคงตกไม่ทั่วฟ้า พอขึ้นมาเรื่อยๆ ใกล้ตัวเมืองระนอง ฝนคงจะตกไม่มากเท่ากับที่ผมเพิ่งจะผ่านมา

ขณะนั้นเป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว ผมรีบลงไปในคลอง และผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็น C.ciliata ที่ผมไม่ได้หมายมั่นว่าจะเจอในครั้งนี้ขี้นอยู่เป็นกลุ่มใหญ่สองกลุ่มใต้สะพานข้ามคลอง ผมนั้นทั้งตกใจ และดีใจ ที่อย่างน้อยการลงทุน ลงแรงลงใต้มาถึงระนองในครั้งนี้ ผมก็ยังได้เห็นคริปสองชนิด ไม่ใช่ชนิดเดียวอย่างที่ผมคิดมาตลอดทางที่ผมขับรถกลับ

คลองกะเปอร์เป็นคลองที่มีขนาดกว้างประมาณ 30-40 เมตร ในขณะนั้นน้ำลดเหลือเพียงลำน้ำสายเล็กๆ กว้างเพียง 3 เมตรเท่านั้น ท้องน้ำเป็นกรวด และหิน ส่วนริมฝั่งที่ C.ciliata ขึ้นอยู่เป็นกลุ่มใหญ่นั้น เป็นตะกอนดินที่ถูกพัดเข้าฝั่ง ตามที่ได้คุยกับชาวบ้านในแถบนั้น ในช่วงหน้าน้ำ คลองกะเปอร์จะมีปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นมากถึง 3-5 เมตร ซึ่งหมายถึง C.ciliata จะต้องอยู่ใต้น้ำตลอดเวลาในหน้าน้ำ

ใบของ C.ciliata ที่ผมเห็นนั้นมีขนาดใหญ่มาก ความยาวของใบนั้นมีขนาดยาวถึง 25-30 ซม. และมีความกว้างถึง 5-10 ซม. ดอกของ C.ciliata นั้นมีสีชมพูดอ่อน ที่ปลายดอกยืดตรง ไม่ม้วนคดเหมือนคริปชนิดอื่นๆ ที่พบได้ในประเทศไทย ในกลุ่ม C. albida (C.albida group) อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นขนๆ โดยรอบของดอก (จึงได้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ciliata ซึ่งแปลว่ามีขนปกคลุม) ส่วนผลนั้น ผมไม่สามารถสังเกตเห็นได้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าผลของคริปชนิดนี้นั้นมีลักษณะ และอยู่ในที่ต่างจากผลของคริปชนิดอื่นๆ ซึ่งจะมองเห็นได้ชัดอยู่โคนลำต้น

คุณลุงชาวบ้านคนหนึ่งลงจากศาลาริมน้ำลงมาถามผมว่าผมกำลังหาอะไรอยู่ เพราะดูผมก้มๆ เงยๆ อยู่กับกอต้นไม้รกๆ พร้อมทั้งถ่ายรูป แสงแฟลชวูบวาบมาสักพักใหญ่แล้ว ผมได้เสาะถามถึงชื่อสามัญที่ใช้เรียกกันในหมู่คนท้องถิ่น ก็ได้ความว่าชื่อต้นอุตพิศ และยังได้รู้อีกว่า C. ciliata มีเยอะขนาดที่ชาวบ้านนิยมเก็บไปเลี้ยงหมู ทำเอา เพื่อนร่วมทางของผมเปรยว่า คนกรุงเทพฯขับรถเป็นร้อยกิโล เพื่อมาเก็บอาหารหมู ผมได้รับการต้อนรับขับสู้ที่น่ารักจากชาวบ้าน นับเป็นสีสันหนึ่งของการลงใต้ไปเก็บคริปในครั้งนี้ทีเดียว

ความตั้งใจต่อไปของผมนั้น คือ การที่ได้ลงไปสำรวจคริปที่มีรายงานว่าพบในประเทศไทยให้ได้ทั้งหมดในภูมิภาคต่างๆ โดยอาจจะสำรวจในทางตอนใต้ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายทางสายพันธุ์สูงเป็นครั้งต่อไป C. crispatula var. flaccidifolia, C.crispatula var. crispatula และ C.cordata ที่ผมยังไม่เคยเห็นในธรรมชาตินั้นอยู่ในอันดับแรกที่ผมจะต้องไปถึงที่พวกมันอยู่ให้ได้ ผมสนุกกับการที่ได้เห็นต้นไม้ที่ผมชอบในที่ที่มันอยู่ตามธรรมชาติ แม้ว่าจะเหนื่อยกายเพียงไร สภาพแวดล้อมที่อยู่อย่างกลมกลืนนั้นน่าดูชมยิ่งนัก

จาก...http://www.siamensis.org/survey/s003.html

-------------------
B I G River Show

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=87779.0 (http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=87779.0)


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: 2.0.2. ที่ 25/03/10, [14:39:20]
กำลังจะไปพังงาเลยวันนี้ อย่างนี้ต้องปลองส่องตามคลอง บึง เล่นๆแล้ว


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวฟ่าง ที่ 25/03/10, [15:29:42]
อ่านแล้ว ยังไม่จบ พักหายใจก่อน   036 036


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: dernero ที่ 25/03/10, [17:53:04]
ผมนึกว่าพี่ไปสำรวจแหล่งน้ำเอง ว่าจะขอติดตามไปด้วยสักคนอะครับ [เขิลลลล] ทางใต้มีไม้เยอะอย่าง ว่างๆต้องไปเดินป่ามั้งละเนี่ย  [on_024]


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 25/03/10, [20:39:27]
ผมนึกว่าพี่ไปสำรวจแหล่งน้ำเอง ว่าจะขอติดตามไปด้วยสักคนอะครับ [เขิลลลล] ทางใต้มีไม้เยอะอย่าง ว่างๆต้องไปเดินป่ามั้งละเนี่ย  [on_024]

อ้าว ท่านจะมาบ้านผม
ส่วนผมก็คิดจะไปน้ำตกโตนงาช้างบ้านท่าน
ใกล้เกลือกินด่าง

วันอาทิตย์เดือนเมษายน ผมมีโปรแกรมไปป่า ลำห้วย หนองน้ำ หลายแห่งเลยครับ

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=87779.0 (http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=87779.0)


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 25/03/10, [23:32:09]
"ไม้น้ำ"ไทยบูมต่างแดนหวั่นพรรณพื้นเมืองสูญพันธุ์ ประมงเร่งมือวิจัยเพาะขยาย

   นักวิชาการประมง 6 สถาบันวิจัยสัตว์น้ำสวยงามและพรรณไม้น้ำ  กรมประมง เปิดเผยว่า ปัจจุบันการส่งออกพรรณไม้น้ำของไทยยังคงมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะพันธุ์ไม้น้ำพื้นเมืองของไทยที่เป็นเอกลักษณ์  ได้แก่  หอมน้ำ ไส้ปลาไหล บอนแดง  ถือเป็นพันธุ์ไม้น้ำที่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการสูง  สถาบันฯ จึงเร่งศึกษาวิจัยวิธีการเพาะขยายพันธุ์พรรณไม้น้ำที่มีศักยภาพในการส่งออก  เพื่อเผยแพร่และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกรที่สนใจ อันจะนำไปสู่การสร้างงานและทางเลือกให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่ง

สำหรับสถิติการส่งออกพรรณไม้น้ำของไทยเฉพาะที่มีใบรับรองปลอดศัตรูพืช  จากกรมวิชาการเกษตร  พบว่าในปี  2546 มีการส่งออกจำนวน 9,462 กิโลกรัม 9,884,470 ต้น คิดเป็นมูลค่า  16.22 ล้านบาท ในปี 2547 มีการส่งออกจำนวน 164,187 กิโลกรัม 8,085,068 ต้น คิดเป็นมูลค่า  17.27  ล้านบาท  ซึ่งตลาดนำเข้าที่สำคัญได้แก่ ญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 60% ของการส่งออกทั้งหมด  สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ เยอรมัน และโปแลนด์ ส่วนชนิดของพรรณไม้น้ำที่มีการส่งออกมากที่สุด  5 อันดับแรก ได้แก่ Cabomba Egeria Anubias Aponogeton และ Nymphaea

น.ส.วรรณดา  กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้กรมจะสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตพรรณไม้น้ำเพื่อการส่งออก  รวมทั้งให้การสนับสนุนงานศึกษาวิจัยและเก็บรวบรวมพรรณไม้น้ำพื้นเมืองของไทยเพื่อใช้เป็นพันธุ์หลัก  แต่เนื่องจากพรรณไม้น้ำพื้นเมืองบางชนิดของไทยซึ่งตลาดต่างประเทศมีความต้องการสูงยังไม่สามารถเพาะและขยายพันธุ์ได้         
จำเป็นต้องเก็บจากธรรมชาติ  ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการสูญพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้นหอมน้ำ ซึ่งเป็นพรรณไม้น้ำที่มีเฉพาะในประเทศไทย และพบบริเวณจังหวัดแถบชายฝั่งทะเลอันดามันเท่านั้น ราคารับซื้อจากเกษตรกรสูงถึงหัวละ 0.50-1 บาท ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นสถาบันฯ จึงเร่งศึกษาวิธีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพรรณไม้น้ำพื้นเมืองที่หายาก  พร้อมหาสูตรอาหารที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุ  ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้น่าจะสามารถเผยแพร่ข้อมูลการวิจัยได้

ที่มา:หนังสือพิมพ์แนวหน้า


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 26/03/10, [00:23:53]
ล่องแพกลางคืนดูพลับพลึงธาร (หอมน้ำ)

http://www.siamensis.org/board/12410.html



หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 26/03/10, [01:02:43]
การส่งออก
หวั่น“พลับพลึงธาร”สูญพันธุ์ กระตุ้นท้องถิ่นช่วยอนุรักษ์

http://www.andamanfriend.org/index/?p=68 (http://www.andamanfriend.org/index/?p=68)



หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 26/03/10, [01:05:58]
ร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ ...ปลูกพลับพลึงธารที่คลองนาคา แหล่งพันธุ์ไม้น้ำที่เดียวในโลก

http://www.sadoodta.com/story/%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81 (http://www.sadoodta.com/story/%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81)


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: KEANG 84 ที่ 26/03/10, [11:10:36]
ยังอ่านไม่จบเหมือนกัน เดี๋ยวมาต่อ


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Anubias ที่ 26/03/10, [14:32:52]
เหมือนเคยอ่านในเดลินิวส์แล้วหละ เป็นคอลั่มเกษตรอะไรสักอย่าง จริงๆ แล้วเป็นบทความแสดงวิกฤตของพันธุ์ไม้น้ำไทยที่กำลังจะสูญพันธุ์อันเนื่องมาจาก การเก็บเอาไปขายส่งออกของพ่อค้าแม่ขายที่ขาดจิตรสำนึกของการอนุรักษ์ เพราะเหมือนตอนนี้ไม้บางชนิดกำลังจะศูนย์พันธุ์โดยเฉพาะ หอมน้ำ(พลับพลึงน้ำ) อันเป็นไม้น้ำที่มีแหล่งกำเนิดเฉพาะโซนทางภาคใต้ของไทยเท่านั้น (ที่เดียวในโลก) ซึ่งตลาดต่างประเทศกำลังต้องการเป็นอย่างมาก โดยขาดการควบคุมปริมาณการเก็บจากแหล่งน้ำธรรมชาติและยังไม่สามารถเพราะพันธุ์ได้โดยวิธีของมนุษย์นัก ดังนั้นพวกเราควรจะตระหนักถึงปัญหาตรงนี้ให้เป็นการสำคัญ ก่อนที่มันจะหมดไปจากธรรมชาติ..น่าเศร้า...


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: SaHaRa ที่ 26/03/10, [21:16:53]
ยาวจังเลยขี้เกียจอ่าน


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: ooGifToo ที่ 26/03/10, [21:31:46]
อ่านได้ครึ่งนึงละ พักเหนื่อยก่อน ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่เอาความรู้มาฝากนะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: ohmZ13 ที่ 27/03/10, [00:34:26]
เห็นรูปแล้วอยากไปเที่ยวบ้างจัง

ปล. ที่เห็นในรูปนี้มันกุ้งอะไรน่ะครับ? [งง]
http://www.siamensis.org/images/webboard_images/PlantsPics_reply_127012.jpg


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 27/03/10, [01:04:23]
พาเที่ยวฟาร์มส่งออกที่ปราจีนบุรี

http://anchasaa.multiply.com/photos/album/31/31


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: 田彬 ที่ 27/03/10, [04:40:23]
อยากเลี้ยงส่งออกกับเขาบ้างเหรอครับ

 ้hahaha ้hahaha ้hahaha จัดไปโลด...ทางของเค้า


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: ImThai ที่ 27/03/10, [10:55:15]
อ่านไปครึ่งนึง ขอพักก่อน เดี๋ยวว่างงานจะอ่านต่อ  [เขิลลลล]


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: เวสป้า ที่ 27/03/10, [19:19:32]
อ่านแล้วคึก เปลี่ยนชุดไปลุยหาในบ่อปลาที่สวนแม่ ได้มา3ต้นไม่รู้ชืออะไรอ่าครับ  036
1.พืชที่เก็บมาอยู่ทางขวาครับสวยๆ ส่วนเขียวๆนี่ก็น่ารักดีเลยตักมาด้วยเป็นอันตรายต่อพืช&กุ้งไหมนั่น asspain
https://upic.me/show.php?id=9168896fbc52ab5e01af755dce7cd3d3
2.อันนี้งมๆไปริมตลิ่งดึงขึ้นมาสวยดี  [งง]
https://upic.me/show.php?id=deca90b9760b2162b27d08036f45e60c
3.แดงสวยดี  emb01
https://upic.me/show.php?id=4cafd2650574f32095e47b15826b7557
4.ส่วนต้นนี้ปริ่มๆน้ำ จับมากดน้ำดู  036
https://upic.me/show.php?id=2cfaac9f6f740db38911cf7d4ad47198


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Revenge ที่ 27/03/10, [20:10:02]
พาเที่ยวฟาร์มส่งออกที่ปราจีนบุรี

http://anchasaa.multiply.com/photos/album/31/31
นึกว่าไผ


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 29/03/10, [21:01:16]
พาเที่ยวฟาร์มส่งออกที่ปราจีนบุรี

http://anchasaa.multiply.com/photos/album/31/31

เจ๊คนนี้หน้าคุ้นๆนะ ฮ่าๆๆ ้hahaha ้hahaha ้hahaha


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 29/03/10, [21:02:24]
ไปนี่กันไม๊   [on_012]
 
(http://www.andamanguide.com/images/info/krabi_thapom01.jpg)


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Aries .... ที่ 30/03/10, [02:29:51]
ไปนี่กันไม๊   [on_012]
 
(http://www.andamanguide.com/images/info/krabi_thapom01.jpg)
เฮ๊ยยยยย   sho01  แบบนี้มันมีจริงๆหรอว่ะ    dea02


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: ~Nu kwan~ ที่ 30/03/10, [10:03:45]
ไปนี่กันไม๊   [on_012]
 
(http://www.andamanguide.com/images/info/krabi_thapom01.jpg)
ทีไหนอะ [on_042]


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Noum ME 34 (Aqua Office) ที่ 30/03/10, [10:05:58]
ไปนี่กันไม๊   [on_012]
 
(http://www.andamanguide.com/images/info/krabi_thapom01.jpg)

พระเจ้าจอร์จ ธรรมชาติสรรสร้าง  idea1


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 30/03/10, [12:08:21]
อ่าว คลองสองน้ำที่กระบี่ไง วันก่อนอ่านนิตยสาร อสท มันลงไปดำน้ำถ่ายกันมา สุดยอดดดดดดด

(http://www.photohobby.net/webboard/post_photo/5460a7.jpg)


เอ้า ป๊ายยยยยย


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 30/03/10, [12:45:50]
พระเจ้าจอร์จ ธรรมชาติสรรสร้าง  idea1

Photoshop Sang San


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 30/03/10, [13:18:07]
Photoshop Sang San

งั้นเรามาดูภาพ Photoshop สรรสร้าง

กันต่ออีกหน่อย คนทำมันขยันเนอะ

(http://1.bp.blogspot.com/_Rz4-tnsU97E/SMfod9mQprI/AAAAAAAAAoc/HZSHJquZMro/s320/20071126-0408563.jpg)


(http://phuketthongfhantour.com/images/travelinformation/songnum.jpg)



(http://www.ladysquare.com/uploads/puppa/2008-01-15_092950_DSCN1099.JPG)


(http://board.trekkingthai.com/board/upload/photo/2007-03/1402329_kElfFEltoh1105.jpg)


(http://www.bloggang.com/data/tomyroom/picture/1170299363.jpg)



พอเหอะ   036   อยากไปฮะ  [on_012]


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: ~Nu kwan~ ที่ 30/03/10, [13:30:10]
อ่าว คลองสองน้ำที่กระบี่ไง วันก่อนอ่านนิตยสาร อสท มันลงไปดำน้ำถ่ายกันมา สุดยอดดดดดดด

(http://www.photohobby.net/webboard/post_photo/5460a7.jpg)


เอ้า ป๊ายยยยยย

อสท  เล่มทีเท่าไหร อะ จะไปหามาดูบ้างสวยดี


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: minova ที่ 30/03/10, [13:45:47]
ปายโด้ย ไปไม่ชวนมีเคือง
(ทำเหมือนว่างเลยวันพุธนะ)


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 30/03/10, [13:48:42]
อสท  เล่มทีเท่าไหร อะ จะไปหามาดูบ้างสวยดี

เดือนมีนาครับ  [เจ๋ง]

http://www.thaitripstoday.com/magazine/%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%97-%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%88.html

ปายโด้ย ไปไม่ชวนมีเคือง
(ทำเหมือนว่างเลยวันพุธนะ)

เฝ้าร้าน อดครับ ฮ่าๆๆๆ  ้hahaha


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: ~.*LST*.~ ที่ 30/03/10, [14:10:35]
เฮ้ยยย ไปเว้ย ไปๆๆๆๆๆๆๆ แช่มจัดมาด่วนเลย  [on_012]

http://anchasaa.multiply.com/photos/album/31/31

เจ๊คนนี้หน้าคุ้นๆจริงๆด้วยวุ๊ย หน้าเหมือนป้าไข่เราเลย  ้hahaha


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: ~Nu kwan~ ที่ 30/03/10, [21:33:23]
ปายโด้ย ไปไม่ชวนมีเคือง
(ทำเหมือนว่างเลยวันพุธนะ)

คนนี้ไม่ว่างไปชัว [on_027]


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: BiG River ที่ 31/03/10, [00:00:21]
งั้นเรามาดูภาพ Photoshop สรรสร้าง

กันต่ออีกหน่อย คนทำมันขยันเนอะ

อ้าว กระบี่ติดบ้านผมเอง ไปสระมรกต กระบี่ ผ่านคลองสอง ไม่ยักกะได้แวะ เที่ยวหน้าต้องไป

ต้นภาพคลองสอง

http://www.ontotour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=336040&Ntype=3 (http://www.ontotour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=336040&Ntype=3)

ผมถ่ายเอง สระมรกต กระบี่

(http://www.thaisurat.com/sramorakot2.jpg)

http://www.thaisurat.com/sramorakot.htm (http://www.thaisurat.com/sramorakot.htm)


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: keu ที่ 31/03/10, [14:31:50]
อ่าว คลองสองน้ำที่กระบี่ไง วันก่อนอ่านนิตยสาร อสท มันลงไปดำน้ำถ่ายกันมา สุดยอดดดดดดด

(http://www.photohobby.net/webboard/post_photo/5460a7.jpg)


เอ้า ป๊ายยยยยย

ของจริงก้อเปงแบบนี้แหละครับ ผมอยู่จ.ใกล้เคียง ไปมาสามครั้งแล้ว น้ำสีฟ้า จริงๆ ไม่ต้องตัดต่อ ไปมาแล้วตะลึง และคุ้ม ชื่อท้องถิ่น คือ คลองปอมครับ


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำขาย ที่พังงา และตามหาคริป ที่ระนอง
เริ่มหัวข้อโดย: keu ที่ 31/03/10, [14:38:58]
อ้าว กระบี่ติดบ้านผมเอง ไปสระมรกต กระบี่ ผ่านคลองสอง ไม่ยักกะได้แวะ เที่ยวหน้าต้องไป

ต้นภาพคลองสอง

http://www.ontotour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=336040&Ntype=3 (http://www.ontotour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=336040&Ntype=3)

ผมถ่ายเอง สระมรกต กระบี่

(http://www.thaisurat.com/sramorakot2.jpg)

http://www.thaisurat.com/sramorakot.htm (http://www.thaisurat.com/sramorakot.htm)
ถ้าขยันเดินหน่อย ด้านบนจะเป็นสระน้ำผุด สวยสุดๆ สียังกะน้ำทะเล อันซีนไทยแลนด์
ขอเตือนว่าถ้าจะไปต้องไปหลายๆคนหน่อย เพราะตามสองข้างทางมันน่ากลัว แต่ทางอุทยานจะทำทางเดินไว้ให้นะครับ สภาพป่ายังถือว่าสมบูรณ์ 


หัวข้อ: Re: ไปดูอาชีพเก็บพรรณไม้น้ำที่พังงา ตามหาคริปที่ระนอง แล้วออกเลกระบี่
เริ่มหัวข้อโดย: minova ที่ 31/03/10, [16:33:20]
คนนี้ไม่ว่างไปชัว [on_027]
แต่พี่มีบ้านเพื่อนอยู่กระบี่นะ พักฟรี งิงิ