|
หัวข้อ: เซพทีคัทตัดบ่อยมาก เริ่มหัวข้อโดย: chaikitti ที่ 07/06/07, [15:57:03] ผมมีตู้ปลารวมทั้งหมด 4 ตู้ที่บ้าน แต่เป็นตู้ไม้น้ำ 3 ตู้ มีการใช้อุปกรณ์ดังนี้:
1. ระบบกรอง - กรองนอก Atman EF4 1 ตัว - กรองนอก Atman 3336 1 ตัว - กรองแขวนตัวใหญ่สุดของ Atman 1 ตัว - กรองตัวเล็กสุดของ Atman 1 ตัว กรองเปิด 24 ชั่วโมงครับ 2. ระบบไฟ - MH 150 watt 1 ชุด - หลอดฟลู 18 watt 3 หลอด - หลอดฟลู 10 watt 1 หลอด 3. ระบบคาร์บอน + พัดลม - คาร์บอนต่อผ่านโซลินอย - พัดลม DC 24 Volt 3 ตัว ซึ่งระบบไฟ, คาร์บอน และพัดลม จะเปิดวันละ 7 ชั่วโมง โดยพ่วงผ่าน timer ตัวเดียวกัน แต่ใช้รางปลั๊กไฟหลายอันมาต่อๆ กัน ปัญหาที่เจอคือ 2-3 วันที่ผ่านมา เซพทีคัทที่ผ่านตัดลงบ่อยมาก แล้วแผงควบคุมมันจะตัดเฉพาะห้องที่มีตู้ปลาเท่านั้น เลยงงว่าอยู่มาทตั้งนานไม่เคยตัด ทำไมสองสามวันนี้มมาตัด ผมเลยนั่งนึกว่าทำอะไรไมเหมือนเดิมหรือไม่ ก็นึกได้ว่ามีเอา Heater 300 watt มาแช่ให้ปอม หรือว่าจะเป็นเพราะว่าผมเสียบปลั๊กออกจากเต้าเสียบตัวเดียวมันเลยโหลดที่จุดนี้ครับ หรือ Timer ตัวเดียวควบคุมไฟหลายดวงมันเลยโหลดครับ รบกวนผู้ชำนาญการเรื่องระบบไฟฟ้าชี้แจงด้วยครับ ซึ่งแต่ก่อนที่บ้านเปิดแอร์ 2 ตัว ยังเฉยครับ แต่เดี๋ยวนี้เปิดแอร์สองตัว พร้อมเปิดไฟตู้ปลา ไฟยังตกเลยครับ งงมากเลยครับ หัวข้อ: Re: ถามเรื่องระบบไฟที่บ้านกับการเลี้ยงปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: บัง! ที่ 07/06/07, [16:09:13] ไม่ต้องสงสัยเลยครับ คุณกำลังกระทำการอันเสี่ยงต่อไฟไหม้อย่างแรงกล้า สุดยอด ทำไปได้ไง
ตัวตั้งเวลาแบบตัวสีขาวๆใช่ไหมครับ ที่เห็นขายๆกันมีสองแบบ พวกนี้ ตามสเปกมักจะระบุว่าใช้ได้ไม่เกิน 1000W แต่จริงๆคงไม่ถึง เพราะสายไฟภายใน ดูกระจอกมาก และหน้าสัมผัสของทองเหลืองภายในส่วนสวิทย์ยังแตะกันนิดเดียว บริเวณนั้นจะร้อนมาก หากใช้ไฟเยอะๆ (ที่ไฟตัดอาจจะมาจากตัวนี้มันสปาร์คก็ได้ครับ) และพลาสติกที่เป็นตัวบอดี้ของ timer พวกนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ ABS สามารถติดไฟได้ จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเอาไปพ่วงอุปกรณ์หลายๆอย่าง โดยเฉพาะพวกที่กินไฟเยอะๆอย่างฮีตเตอร์ 1 ตู้ / timer 1 ตัว ดีที่สุดครับ หรือถ้าขี้เกียจตั้งหลายๆอัน อย่างน้อยควรจะใช้ timer ดีๆ อย่างของเนชั่นแนล หรือพานาโซนิก (อันเดียวกันแหละ) แต่ก็ยังไม่ควรอยู่ดีแหละ แยกตู้เถอะครับ ไม่กี่ตังค์ ไฟไหม้ไปมันไม่คุ้มกันเลย อีกสาเหตุที่ทำให้เซฟทีคัทตัดบ่อยๆ คือความชื้นจากตู้ปลา ไปโดนปลั๊ก หรือสายไฟครับ ลองสำรวจดูให้ดีๆ ว่ามีตรงไหนชื้นแฉะหรือเปล่านะครับ หัวข้อ: Re: ถามเรื่องระบบไฟที่บ้านกับการเลี้ยงปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: chaikitti ที่ 07/06/07, [16:13:07] ไม่ต้องสงสัยเลยครับ คุณกำลังกระทำการอันเสี่ยงต่อไฟไหม้อย่างแรงกล้า สุดยอด ทำไปได้ไง ตัวตั้งเวลาแบบตัวสีขาวๆใช่ไหมครับ ที่เห็นขายๆกันมีสองแบบ พวกนี้ ตามสเปกมักจะระบุว่าใช้ได้ไม่เกิน 1000W แต่จริงๆคงไม่ถึง เพราะสายไฟภายใน ดูกระจอกมาก และหน้าสัมผัสของทองเหลืองภายในส่วนสวิทย์ยังแตะกันนิดเดียว บริเวณนั้นจะร้อนมาก หากใช้ไฟเยอะๆ (ที่ไฟตัดอาจจะมาจากตัวนี้มันสปาร์คก็ได้ครับ) และพลาสติกที่เป็นตัวบอดี้ของ timer พวกนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ ABS สามารถติดไฟได้ จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเอาไปพ่วงอุปกรณ์หลายๆอย่าง โดยเฉพาะพวกที่กินไฟเยอะๆอย่างฮีตเตอร์ 1 ตู้ / timer 1 ตัว ดีที่สุดครับ หรือถ้าขี้เกียจตั้งหลายๆอัน อย่างน้อยควรจะใช้ timer ดีๆ อย่างของเนชั่นแนล หรือพานาโซนิก (อันเดียวกันแหละ) แต่ก็ยังไม่ควรอยู่ดีแหละ แยกตู้เถอะครับ ไม่กี่ตังค์ ไฟไหม้ไปมันไม่คุ้มกันเลย อีกสาเหตุที่ทำให้เซฟทีคัทตัดบ่อยๆ คือความชื้นจากตู้ปลา ไปโดนปลั๊ก หรือสายไฟครับ ลองสำรวจดูให้ดีๆ ว่ามีตรงไหนชื้นแฉะหรือเปล่านะครับ โห น้าบังมาตอบผมแทบช็อก ออกไปซื้อ Timer ดีกว่าครับ เออ แล้วถามอีกอย่าง ตอนที่ Timer มันอยู่ที่ Off แล้วทำไมเซพทีคัทมันยังตัดครับ หัวข้อ: Re: ถามเรื่องระบบไฟที่บ้านกับการเลี้ยงปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: บัง! ที่ 07/06/07, [16:15:17] งั้นสงสัยมันชื้น หรือเป็นที่ตรงอื่นแล้วล่ะครับ เรียกช่างไฟมาเช็คดีกว่านะ อาการแบบนี้ ไม่น่าไว้วางใจ กลับมาระวังบ้านเหลือแต่ตอ
หัวข้อ: Re: ถามเรื่องระบบไฟที่บ้านกับการเลี้ยงปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: podrbu ที่ 07/06/07, [18:02:11] ที่คอนโด ผมเคยเป็นครับ อาจเป็นปัญหาเดียวกันก็ได้ (ไม่แน่ใจนะครับ) ผมซื้อ คอนโด มาใหม่ 1 หลัง ขอต่อหม้อไฟ 15 แอม (ไม่รู้เรียกถูกหรือปล่าวครับ) แต่ พอ เปิด แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น พร้อมกัน คัทเอาท์ เด้งลงทุกที
พอเรียกช่างมาดู เกิดจากสาเหตุ คัทเอาท์ของผม มันแค่ 5 แอมป์เลยต้องเปลี่ยนใหม่ เป็น 15 ก็หายเป็นปลิดทิ้ง แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ เพราะผมไม่ใช่ช่างไฟ แต่เคยเจอ hur03 หัวข้อ: Re: ถามเรื่องระบบไฟที่บ้านกับการเลี้ยงปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายวุฒิ ที่ 07/06/07, [22:46:12] เซฟทีคัท ใช้งานได้ดีจริงหรอ con01
ผมว่าเบรกเกอร์อย่างเดียวก็พอแล้ว หัวข้อ: Re: ถามเรื่องระบบไฟที่บ้านกับการเลี้ยงปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~wInP@~ ที่ 07/06/07, [23:07:45] เซฟทีคัท ใช้งานได้ดีจริงหรอ con01 รองเท้าน่ะรอคับ lau02 lau02ผมว่าเบรกเกอร์อย่างเดียวก็พอแล้ว อ่ะล้อเล่น ที่บ้านผมไม่มีเซฟทีคัทอ่ะ แต่มีต่อพวงเยอะแยะมากและหลายจุดด้วย แต่ไฟไม่เคยตกน่ะ แต่คงจะอันตรายอ่ะมั้ง hur02 hur02 หัวข้อ: Re: ถามเรื่องระบบไฟที่บ้านกับการเลี้ยงปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: พ่อม้าน้ำ ที่ 07/06/07, [23:37:58] ตอบด้วยวุฒิ วิศวไฟฟ้า (ที่ไม่เคยทำงานวิศวเลย lau03) คาดว่า เบรกเกอร์ ที่ของห้องตู้ปลาคงจะเล็กเกินไปแล้วครับ สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ให้ไปซื้อเบรกเกอร์ ตัวใหม่ที่มีขนาด แอมป์สูงกว่ามาต่อแทนครับ เพราะว่าอุปกรณ์หลายตัวเวลามันสตาร์ทจะกินกระแสไฟแรงกว่าปรกติครับ หรือไม่ก็ซื้อ Timer มาหลายตัวหน่อย แล้วให้เปิดปิดเวลาที่เหลื่อมๆกันหน่อยก็อาจจะช่วยได้ครับ
ส่วนที่เซพทีคัทมันตัดบ่อย ก็มีได้หลายสาเหตุครับ เช่นตั้งค่าตัด น้อยเกินไป, ขนาดเซพทีคัท(กระแสไฟ) เล็กกว่าที่ใช้งานจริง, ไม่ได้ต่อสายดิน, น้ำท่วมขังในบางจุด ทำให้ไฟฟ้าจากสายดินย้อนกลับมาที่อุปกรณ์ หรือเซพทีคัทเสีย หรือ ฯลฯ wat01 ส่วนวิธีแก้ก็ อย่างที่บอกครับ ไปซื้อ timer มาหลายๆตัวแล้วลองต่อแยกดูก่อนดีกว่า (ง่ายสุด) แล้วก็ลองหาจุดที่น้ำท่วมขังภายในบ้านดูครับ (ถ้าหาไม่เจอ ก็รอให้ฝนหยุดตกซัก หลายๆวันดู ถ้าหายแสดงว่าเกิดจากน้ำขังจริงๆ) ถ้าไม่หายก็ค่อยไปตามช่างไฟฟ้ามาลองไล่สายดูครับ bye01 หัวข้อ: Re: ถามเรื่องระบบไฟที่บ้านกับการเลี้ยงปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: chaikitti ที่ 08/06/07, [08:34:39] ตอบด้วยวุฒิ วิศวไฟฟ้า (ที่ไม่เคยทำงานวิศวเลย lau03) คาดว่า เบรกเกอร์ ที่ของห้องตู้ปลาคงจะเล็กเกินไปแล้วครับ สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ให้ไปซื้อเบรกเกอร์ ตัวใหม่ที่มีขนาด แอมป์สูงกว่ามาต่อแทนครับ เพราะว่าอุปกรณ์หลายตัวเวลามันสตาร์ทจะกินกระแสไฟแรงกว่าปรกติครับ หรือไม่ก็ซื้อ Timer มาหลายตัวหน่อย แล้วให้เปิดปิดเวลาที่เหลื่อมๆกันหน่อยก็อาจจะช่วยได้ครับ ส่วนที่เซพทีคัทมันตัดบ่อย ก็มีได้หลายสาเหตุครับ เช่นตั้งค่าตัด น้อยเกินไป, ขนาดเซพทีคัท(กระแสไฟ) เล็กกว่าที่ใช้งานจริง, ไม่ได้ต่อสายดิน, น้ำท่วมขังในบางจุด ทำให้ไฟฟ้าจากสายดินย้อนกลับมาที่อุปกรณ์ หรือเซพทีคัทเสีย หรือ ฯลฯ wat01 ส่วนวิธีแก้ก็ อย่างที่บอกครับ ไปซื้อ timer มาหลายๆตัวแล้วลองต่อแยกดูก่อนดีกว่า (ง่ายสุด) แล้วก็ลองหาจุดที่น้ำท่วมขังภายในบ้านดูครับ (ถ้าหาไม่เจอ ก็รอให้ฝนหยุดตกซัก หลายๆวันดู ถ้าหายแสดงว่าเกิดจากน้ำขังจริงๆ) ถ้าไม่หายก็ค่อยไปตามช่างไฟฟ้ามาลองไล่สายดูครับ bye01 ขอบคุณมากครับ ตอบได้ตรงประเด็นมากๆ ได้ความรู้ดีๆ ด้วยครับ lau01 |