Aqua.c1ub.net

สัวสัดีดีครับ

ที่บ้านมีห้องเก็บของขนาดประมาณ 2.5*4 เมตร (ไม่มีหน้าต่าง) ปัจจุบันเปลี่ยนไปเป็นห้องมัจฉาและนานาพรรณไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีตู้ปลาขนาด 36*18*18 จำนวน 2 ตู้(ติดพัดลม) ตอนนี้อยากจะเลี้ยงกุ้งเรดบีเพิ่ม เลยไม่รู้ว่าจะติดแอร์(ซิลเลอร์)ให้ตู้กุ้งอย่างเดียว (คาดว่าจะใช้ตู้ขนาดเดียวกัน 36*18*18 (ใหญ่กว่านี้ไม่ไหวครับเพราะต้องแบกอยู่คนเดียว)  หรือจะติดแอร์ให้ทั้งห้อง จะได้เย็นทั้งคนเลี้ยง ปลาและต้นไม้น้ำ

เลยอยากรบกวนสอบถามว่าแบบไหนดีกว่ากันครับ เดาว่าราคาของแอร์และซิลเลอร์น่าจะไม่ทิ้งกันมาก ส่วนอันไหนประหยัดค่าไฟกว่ากันก็ไม่ทราบ รบกวนท่านๆ ด้วยครับ

ติดแอร์ดีกว่าครับ เพราะห้องไม่มีหน้าต่างชิลเลอร์ระบายความร้อนไม่ได้
เดี๋ยวตู้มันร้อนเร็วชิลเลอร์ก็ทำงานหนักครับ
ตั้ง2ตู้ใช้ชิลเลอร์2ตัวค่าไฟพอๆกับติดแอร์เลยครับ
ติดแอร์แล้วตั้งตู้เพิ่มได้อีกด้วย อิอิ

เห็นด้วยอย่างมาก [ปิ๊งๆๆ]

ติดแอร์เลยครับ เวลาคนไปยืนดูก็เย็นสดชื่นไปด้วย  emb01

ติดแอร์ เลยครับ

ไม้น้ำก็สวยขึ้นด้วย   เลี้ยงกุ้งก็ได้  คนก็เย็นนนนนนนนน   

แค่คิดก็มีความสุขแล้ววววววววววววว   emb01

ถ้าติดแอร์ต้องติด 2 ตัวสลับกันเปิดปิดรึเปล่าครับ  เปิดตัวเดียว 24 ชม. จะทำงานหนักนา

ขอบคุณมากครับ แล้วตู้อื่นๆ ที่เลี้ยงปลามันจะเย็นไปรึเปล่าครับ กลัวมันตีกรรเชียงถอยหลังตายตุ๊ปป่องกันหมด

อยู่ใด้สบายครับ

เปิดตัวเดียว 24ชม คุ้มเป่าอะ ใครคำนวน ให้หน่อยสิ จะทำเหมือนกัน

2 ตัว 24 ชม. ค่าไฟ 5000 กว่า เปิดสลับ ใช้แอร์ตัวละ 13000 BTU ห้อง 4*4

5000 นี่ทั้งบ้านปะครับพี่โต   หรือว่าแค่แอร์ 2ตัว   [ปิ๊งๆๆ]  แต่เห็นพี่นัทตัวเดียวเอง

ถ้าเราเปิดแอร์กลางวัน แล้วเปิดชิลเลอร์กลางคืนน่าจะดีน่ะครับ

  เอาแบบ inverter ทำงานผมว่าน่าจะเวิคอะ ถามว่าทำงานหนักไหม  มันก็ไม่น่า จะเท่าไหร่ เพราะ คอมเพรสเซอร์มันก็ทำงานแล้วก็ ตัด พัดลมก็หยุด มันก็เหมือนได้พัก ที่ทำงานบางที่ทำงาน ตลอด 24 ชม ตลอดทั้งปี ยังไม่เห็นเป็นไรเลยอะ แต่ทนค่าไฟไหวป่าวเท่านั้นอะ  ชิลเลอร์ ค่าไฟของผมก็อยู่ประมาณ 500-600 บาท ถ้ามี 2 ตู้ ก็ ค่าไฟประมาณ 1200 บาท ค่าชิลเลอร์ ก็ประมาณ 2 ตัว 2หมื่น -นิดๆ  เป็นผมๆเอาชิลเลอร์ 2 ตัวอะ ถ้าไม่ใช้วันหน้า เอามาขาย  asspain

เปิดแอร์ สลับกัน 2 ตัวเลยครับ

เช้าใช้ตัว 13000 btu ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 6 โมงเย็น
เย็นใช้ตัว  9000  btu  ประมาณ 6 โมงเย็นจนถึง 9 โมง

จะได้ประหยัดไฟหน่อย   [เขิลลลล]

ที่แนะนำแบบนี้เพราะลูกค้าที่รู้จักเค้าใช้แอร์สองตัวประมาณนี้อยุ่อะครับ   emb01

ปล.มีตู้ยังอะครับ

 ้hahaha ้hahaha

ทั้งบ้าน หรือ แค่ค่าไฟแอร์ครับ คิดจะติดอยู่เหมือนกัน

 [เย้ะ] อย่าลืม เจนเนอเรเตอร์เผื่อไฟดับไฟตัดด้วยนะจ๊ะ ไหนๆ ก้อไหนๆ เอาให้สุดเลยตัวเธอ [เขิลลลล]

ขอแก้ไขครับ ไอ้ 5000 เนี่ยเฉพาะค่าไฟของแอร์แต่เป็นตัว 24000 BTU ครับ

เอาใหม่...

ถ้าห้องซัก 2*4 ตร.ม. ควรใช้แอร์ 2 ตัว ขนาด 13000BTU เปิดสลับทุก 4 ชม. ค่าไฟฟ้าเฉพาะแอร์จะตกอยู่ราวๆ 3000 บาทต่อเดือน

สเปคนี้จะเป็นการดูแลรักษาแอร์ได้ยาวๆ ครับ แอร์ไม่ทำงานหนัก ได้ความเย็นสม่ำเสมอ ควบคุมความเย็นได้  และถ้ารวมถึงล้างแอร์ตามกำหนด ก็จะช่วยประหยัดไฟได้โขเลยครับ

อันนี้คิดจากสเปคห้องอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ต้องใช้แอร์ 24 ชม. เปิดสลับตลอด แต่เค้าใช้ 24000BTU เพราะในห้องมีอุปกรณ์ที่กระจายความร้อนออกมาด้วยครับ ส่วนของเราๆ ลดลงมาเหลือ 13000BTU เพราะในห้องเราไม่มีอุปกรณ์ที่จะสามารถทำความร้อนได้นอกจากหลอดไฟครับ

เดือนละ 3 พัน n032


เลี้ยงซัก 10 5 ตู้ น่าจะคุ้ม deepkiss

ไปทำการบ้านมาครับ ก๊อปมาล้วนๆ ไม่ได้คิดเอง ลองดูขนาดของแอร์กับพื้นที่ครับ

BTU/ช.ม.         ห้องปกติ (ตารางเมตร)      ห้องที่โดนแดด

9000                   12-15                          11-14
12000                 16-20                          14-18

ทีนี้ลองมาดูค่าไฟครับ

BTU           วัตต์          หน่วยที่ใช้ / ช.ม.                           ระยะเวลาต่อวัน                    หน่วย/เดือน      ค่าไฟ

9000          920               0.92                        8 ช.ม. (Compressor ทำงาน 6 ช.ม.)        165.6       418.97
12000       1,150             1.15                        8 ช.ม. (Compressor ทำงาน 6 ช.ม.)        207.0       523.71       

สรุปว่าของท่านๆ ที่จะใช้แอร์ 2 ตัว 9000 กับ 13000 ก็จะมีค่าไฟประมาณเดือนละ 942.68 บาท ถ้าเป็นระบบ Inverter ก็น่าจะดีเพราะไม่ปิดๆ เปิดๆ แต่มันใช้วิธีควบคุมกระแสไฟผ่อนหนักผ่อนเบาตามอุณหภูมิครับ

แต่ยังไงก็ บวกลบคูณหารดูแล้ว ชิลเลอร์ถูกกว่ารึเปล่าครับ.....

ขอแนะนำนิดนึงนะครับ เพระาผมมีความคิดจะติดเหมือนกันแต่มาคิดไปคิดมาไม่คุ้มเลยไม่ติดดีกว่า

เหตุผลที่ผมคิดได้ก็ประมาณนี้ แต่เป็นความคิดและข้อมูลที่ผมหาเองนะครับ ถูกไม่ถูกไม่แน่ใจลองพิจารณาดู

-แอร์ราคาแพงกว่าชิลเลอร์มากอยู่
-ติดแล้วเคลื่อนย้ายไม่ได้
-มีปัญหาแล้วซ่ิอมลำบาก,ค่าซ่อมแพง
-แอร์ 18000 btu รุ่นดีๆกินไฟต่ำสุดปีละ 13,000+ *ไม่รวมปัจจัยต่างๆ (โทรไปถามที่บริษัทมิทซู)
-แอร์ถ้ารุ่นเก่าๆหน่อยขายทิ้งไม่ได้ราคา
-ล้างแอร์+เติมน้ำยาปีละ 2 ครั้ง ถ้าเปิด 2 เครื่องสลับกัน = เสียตังปีละ 2000.  *เครื่องละ 500
-ติดตั้งยากยิ่งไม่ได้เดินท่อในผนังก็ดูไม่สวย เกะกะ + ที่บ้านอาจงงว่าติดทำไมวะ 2 เครื่อง


*****ที่บ้านผมตอนนี้ใช้ชิลเลอร์ 3 ตัว 3 ตู้ เคยทดลองคิดค่าไฟเองแล้วครั้งนึงเอามาให้ลองดูกัน

เปิดหน้าต่าง+เปิดประตู  เปิดชิลเลอร์ 3 ตัวพร้อมกัน ทุกตัวควบคุมด้วย temp control อุณหภูมิ 24.5-25.5

ตู้ 24*9*11     hailea-150a  ทำงาน 30 นาที พัก 1 ชม.

ตู้ 36*18*18    hailea-500a   ทำงาน 15 นาที พัก 40 นาที

ตู้ 30*12*12    Gex-GXC-110   ทำงาน 15 นาที พัก 35 นาที

*เวลา +/- 3 นาที


ต่อมาลองเปิดพัดลมเอาลมจ่อหน้าต่าง1 ตัว เอาอากาศหมุนออกจากห้อง อีก 1 ตัวพ่นลมเข้ามาจากนอกห้องทางประตู

ตู้ 24*9*11     hailea-150a  ทำงาน 15 นาที พัก 50 นาที

ตู้ 36*18*18    hailea-500a   ทำงาน 15 นาที พัก 1 ชม.

ตู้ 30*12*12    Gex-GXC-110   ทำงาน 15 นาที พัก 50 นาที

ทำแบบนี้ประหยัดค่าไฟไปได้เยอะเพราะค่าไฟพัดลมเดือนนึงไม่น่าเกิน 100กว่าบาท  [ฮึ๊ยยย]


ลองคิดค่าไฟดู.........ของผมเป็นห้องนอน เปิดแอร์อยู่แล้ว ชิลเลอร์จะทำงานแค่ 8.00-20.00

วิธีคิดค่าไฟจากกระทู้นี้ http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=69025.0

500a = 2.4A ทำงานวันละประมาณ 180 นาที  ค่าไฟตกเดือนละประมาณ 145 บาท ปีนึงประมาณ 1740 บาท

พัดลมอีก 2 ตัวก็ประมาณเดือนละ 200 ปีนึงก็ 2400 บาท  idea1

อีก 2 ตัวขี้เกียจคิดแล้ว  n032


**อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้อากาศเย็นนะครับ หน้าร้อนไม่รู้จะเป็นไง

ระยะยาวผมว่าแอร์คุ้มนะพี่ ไม่ต้องเปลืองตังเลาตั้งตู้ด้วย  *-*  เหมาะสำหรับคนเลี้งจริงจัง ควรทำห้องไว้หน่อย555+  เพราะยุงจะชุปล่อยมันชุมอยู่ห้องนั้น [ปิ๊งๆๆ] อยากทำมั้ง

อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวน๊ะครับ

ถ้าคิดจะเลี้ยงไว้ดูเล่น ถ้ามีลูกก็ออกมาขายบ้าง ผมว่า ชิลเลอร์ดีกว่าครับ ไม่เปลืองไฟ ลงทุนไม่สูงมากนัก เผื่อเกิดอะไรขึ้น ( เพราะเราเลี้ยงสิ่งมีชีวิต )
แต่ถ้าจะคิดว่า เลี้ยงเพื่อธุรกิจเป็นจริงเป็นจัง ก็แอร์ครับ ไม่ต้องสนใจเรื่องค่าไฟเลย .......... ต้องมีระบบรองรับอีกเยอะมากๆๆๆๆๆ

อุปกรณ์ทั้ง 2 อย่างนี้ผมว่าเค้าทำมาเพื่อการใช้ประโยชน์และการใช้สอยที่แตกต่างกันนะครับ
ลองศึกษาระบบ ทั้ง 2  อย่างดีดี ครับ 
ไม่อย่างงั้นเค้าคงไม่ทำชิลเลอร์ ออกมาขายหรอกครับ ว่าไหม  [เย้ะ] [เย้ะ] [เย้ะ]

ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความเห็นครับ

เมื่อวานก่อนกลับบ้านก็พยายามหาข้อมูลเปรียบเทียบในเน็ต แต่พอไปถึงบ้านตอน 4 ทุ่ม ปรากฏว่าปลารัมมีโนส ว่ายตีกรรเชียงหงายทอ้งไปหนึ่งตัว ส่วนรัมมีฯ และคาร์ดินัลที่เหลือยังว่ายนิ่งๆ อยู่ที่พื้นไม่ยอมว่ายขึ้นบน เอาขนนมาล่อก็ไม่ขึ้น ส่วนซิวขวานกับกุ้งเชอร์ลีและบลู มันอึดมากครับไม่เป็นไรเลย

ตอนที่เข้าไปในห้องอุณภูมิห้องอยู่ประมาณ 35C ร้อนมากครับ ส่วนอุณหภูมิในตู้ขึ้นไปถึง 30 C ครับ เดาว่าช่วงบ่ายคงร้อนกว่านี้  (ผมเปิดไฟกับพัดลมตั้งเวลาไว้แค่ 6 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6.00 - 12.00 น.) เมื่อไปถึงผมรีบเปลี่ยนน้ำประมาณ 50% ทันทีแล้วรีบระบายความร้อนในห้องเปิดประตูเอาพัดลมตัวใหญ่เป่าให้อากาศมันหมุนเวียน  แล้วเอาพัดลมอีกตัวไปติดเพิ่มที่ตู้ปลาเพื่อเร่งให้มันเย็นเร็วขึ้น กว่าอุณหภูมิจะลดลงเหลื่อประมาณ 28 C เล่นเอาถึงเที่ยงคืน หลังจากที่อุณหภูมิลดลงปลาก็เหมือนมีชีวิตชีวาขึ้น เริ่มว่ายขึ้นมาข้างบน เล่นเอาใจหายใจควำ....

สรุปว่าต้องทำอารายซักอย่างแล้วครับ ไม่ติดแอร์ ก็ซิลเลอร์ ตอนนี้เริ่มรู้ต้นทุนแอร์แล้วครับ แต่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับระบบการทำงานของซิลเลอร์และต้นทุนค่าใช้จ่าย เพราะมีท่านข้างบนให้ความเห็นไว้ว่าถ้าเป็นห้องอับไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ จะทำให้ชิลเลอร์ทำงานหนัก เมื่อทำงานหนักค่าใช้จ่ายก็ต้องมากกว่าปกติ

ผมถือคติว่าเลี้ยงอะไรก็ตามต้องให้มันมีความสุขครับ มันสนุกก็อีตอนนี้แหละครับ เลือกใช้ของให้คุ้มค่าและพอใจกับผลที่ออกมา

ถ้าเป็นผม ผมเลือกแอร์ครับ เพราะว่าไม่ได้เย็นเฉพาะตู้ เย็นไปทั้งห้องน้ำเย็นเราเย็น การงอกตู้เพิ่มก็ไม่ต้องเพิ่มอุปกรณ์ทำความเย็นแล้วแล้วเพราะแอร์เราพร้อมแล้ว [เจ๋ง]

ชอบกระทู้นี้จังค่ะ  แชร์ความรู้กันหนุกดี
ที่บ้านก็มีปัญหากับค่าไฟเหมือนกัน
เวลาจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มซักชิ้นนึงต้องคิดหนักเลย T-T

เคยคิดจะติดแอร์เหมือนกัน บ้านเป็นทาวเฮ้าส์ (ร้อนตับแตก)
แต่มันต้องกั้นห้อง .. ต้องแบ่งสัดส่วนใหม่อะไรอีกหลายอย่าง
เลยล้มเลิกความคิดไป  เพราะความขี้เกียจ 555


ส่วนตัวคิดว่า ถ้าอยู่บ้านทั้งวันก็น่าจะติดแอร์นะคะ คนก็เย็นสบายด้วย
จะเครียดแค่ตอนบิลค่าไฟมา อิอิ

เรื่องค่าไฟ เราลองมาคิดดูเล่นๆ น่ะครับเปรียบเทียบกันระหว่าง แอร์กับซิลเลอร์ สมมุติว่ามีห้องขนาด 4*2.5 เมตร เลี้ยงปลาทั้งหมด 3 ตู้  ทีนี้ลองเปรัยบเทียบราคาดูน่ะครับ ถ้าใช้แอร์ก็คงต้องใช้ 9000 BTU ระบบ Inverter ราคาประมาณ 20,000 บาท ส่วนชิลเลอร์ใช้ Hailea HC-300A ราคาก็ประมาณ 15,000 บาทต้องซื้อมา 3 ชุดก็ต้องควักเงิน 45,000 บาท  ดูเหมือนนแอร์จะถูกกว่า ทีนี้ลองมาคำนวณค่าไฟดู สมมุติว่าระยะเวลาใช้งานต่อวันเท่ากัน และค่าไฟหน่วยละ 2.53 บาท

                             Watt      Kwh       ระยะเวลาใช้งานต่อวัน        หน่วยต่อเดือน         ค่าไฟต่อเดือน   
แอร์                          920      0.92               6 ช.ม.                      165.6                 418.96 บาท   
ชิลเลอร์ 3 ตัว              600      1.80               6  ช.ม.                      324.0                 819.72 บาท

จากตัวเลข แอร์น่าจะถูกกว่าน่ะครับ ขึ้นอยู่กับว่าท่านใช้ห้องขนาดไหนถ้าห้องใหญ่ก็ต้องเพิ่ม BTU แล้วก็เพิ่มตังส์ หรือเลี้ยงตู้ปลากี่ตู้ มากตู้ก็ต้องเพิ่มตังส์ซื้อชิลลเลอร์ เว้นแต่จะไม่ใช้ซิลเลอร์กับทุกตู้ แล้วลองมาเปรียบเทียบดูครับ

คิดค่าแอร์ผิดป่าวครับ มันต้องคิดค่าอะไรต่างๆเข้าไปด้วยนะ อย่างไอ้ตัวพัดลมที่อยู่นอกบ้านอ่ะครับใช้ไฟเหมือนกัน

ไม่แน่ใจคิดรวมไปยัง ทำไมถูกจัง ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง

เข้าใจว่าเจ้าตัวพัดลมที่อยู่นอกบ้านก็คือคอยย์ร้อน เวลาเราคำนวณค่าไฟเราเอาค่า Watt มาทำเป็น Kwh ก่อน แล้วเอาไปคูณด้วยช.ม.ที่ใช้งาน ได้กี่หน่วยก็เอาไปคูณด้วยค่าไฟต่อหน่วยครับ ตาม Spec ของแอร์ที่เค้าให้มาเป็น 920 Watt ทำเป็น Kwh ก็เท่ากับ 920/1000 จะได้ 0.92 Kwh ผมว่าค่า Watt อันนี้มันน่าจะรวมทั้งระบบแอร์แล้วน่ะครับ แต่ที่ไม่ได้คิดก็คือค่าบำรุงรักษา ซึ่งก็มีท่านข้างบนบอกไว้แล้วครับ   

อ้อออออ รู้แล้วครับว่าทำไมมันถูกผมอ่านไม่ดีเองครับ เพราะแอร์กับชิลเลอร์ต่างกันตรงที่

ช้ลเลอร์วันนึงอาจทำงาน 6 ชม แต่แอร์เราต้องเปิด 24 ชม.อ่ะครับ ถึงแอร์แสตนบายก็ยังมีค่าไฟนะแต่ชิลเลอร์เราปิดไปเลยได้

แต่ขอคอนเฟิร์มข้อความข้างบนอีกทีว่า 18000btu 24 ชม ปีละ 13000 บาท ไม่รวมปัจจัยต่างๆ เพราะอันนี้ถามบริษัทโดยตรง

เลยคิดว่าชิลเลอร์คุ้มกว่าถัาห้องใหญ่หน่อยนะครับ

ยังเลือกไม่ถูก แต่อยากติดแอร์ อยากเย็นด้วย  [ปิ๊งๆๆ]
สงสัยคง ต้องลงมานอน ห้องเดียวกับกุ้งแล้ว 036

ตกลงผมเลือกแอร์ครับ ติดไปแล้ว ผลออกมาก็ OK ครับ เย็นดี.... รอดูค่าไฟสิ้นเดือน 

ช่างแอร์ที่มาติดตั้งเล่าให้ฟังว่ามีคนให้ไปช่วยต่อท่อจากชิลเลอร์ไประบายความร้อนที่คอยย์ร้อน แทนที่จะระบายในตัวซิลเลอร์ เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิในห้องไม่ให้ร้อนจากชิลเลอร์  ผมว่าไม่เลวน่ะครับ เผื่อมีใครทำไปแล้วช่วยมาเล่าให้ฟังบ้างก็ดีน่ะครับ

ขอบคุณครับ

สิ้นเดือนมารายงาน ค่าไฟ ด้วยนะครับ
เดี๋ยวช่วงมกราปีหน้า จะ ถอยละ [เจ๋ง]

คนต่างประเทศ แถบยุโรป มันคงไม่ต้องติดแอร์เลยมั้งเนี่ย ต้องติดฮีทเตอแทน  ้hahaha

เมืองไทยร้อนวายป่วง  036

ผมก็เลี้ยงกุ้งเรดบี แต่เป็น เกรดคริสตัล พอเลี้ยงง่ายหน่อยครับ ขอให้ เย็นฉ่ำกันทั้งกุ้งและผู้เลี้ยงครับ  [เจ๋ง]

ขอแชร์เพิ่มหน่อยนะครับ
ถ้าติดแอร์ สารทำความเย็นจะทำให้อากาศในห้องเย็น แล้วอากาศก็จะไปทำความเย็นน้ำในตู้ต่ออีกทีหนึ่ง (2ต่อ)
ส่วน chiller สารทำความเย็นจำทำความเย็นน้ำโดยตรง ประสิทธิภาพจะดีกว่า   (ให้ลองเข้าไปดูกระทู้ตู้มอสของคุณ T777 ครับ)
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=77423.0 (http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=77423.0)
การจะทำอุณหภูมิตู้ให้ลงได้และควบคุมให้คงที่ chiller จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับและน้ำจะเป็นตัวเก็บความเย็นได้ดีกว่าอากาศ (ประหยัดกว่า)
ความเห็นส่วนตัวการกินไฟมันขึ้นกับ load ความร้อนที่เข้ามาภายในห้อง และเข้ามาภายในตู้
ถ้าเป็นผมคงเลือก chiller และ ทำระบบพัดลมระบายอากาศห้องเอาความร้อนจากchillerออกไป ทำฉนวนกันความร้อนไม่ให้ความร้อนจากแดดเข้ามาในห้อง
เช่นปลูกต้นไม้ด้านนอก ทำไม้ระแนงถี่กันแดดจากด้านนอก
ยกเว้นแต่ว่าอยากให้ห้องเย็นครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับกับท่านข้างบน ลองปรับสถานที่ก่อน แล้วลองพัดลม ถ้าเอาไม่อยู่ก็ค่อยใช้ชิลเลอร์ ถ้าติดซิลเลอร์แล้วห้องมันร้อนก็ติดพัดลมระบายอากาศ เป็น Step Step ไป สำหรับท่านที่มีห้องแบบผมคือห้องทึบ ผมว่าลองหาห้องอื่นดีกว่าครับ 
เพราะของผมติดแอร์ไปแล้วก็คุมอุณหภูมิไม่ได้อยู่ดี เพราะเปิดได้ก็เฉพาะกลางวัน  ตั้งเวลาได้ไม่เกิน 12 ช.ม. กลางคืนก็เปิดพัดลมแทน อุณหภูมิก็ยังแกว่งประมาณ 2 - 3 องศา  จะติดแอร์อีกตัวเอาไว้เปิดสลับกันตลอด 24 ช.ม. ก็เกรงใจ  เลยเอาชิลเลอร์มาติดเพิ่ม และติดพัดลมดูดอากาศด้วย ที่นี้แหละครับ เป๊ๆ เลย 25 องศาตลอด เย็นกันทั้งคนทั้งกุ้ง จะได้นั่งมองหน้ากันได้นานๆ 



 

มารายงานเรื่องค่าไฟครับ หลังจากติดแอร์ และชิลเลอร์อีก 2 ตัวตู้ Red Bee 24 นิ้ว และตู้ไม้น้ำ 36 นิ้ว ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ปรากฏว่าจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้เพิ่มจาก 346 หน่วยเป็น 492 หรือเพิ่มไปเพียง 146 หน่วย คิดเป็นเงินเพียง 163 บาท แต่คงต้องรอดูเดือนหน้า เพราะตู้ชิลเลอร์มาติดตั้งทีหลัง
ตอนนี้ ห้องมัจฉาและนานาพรรณ ของผมมีตู้ Red Bee 24 นิ้ว ตู้ไม้น้ำและสารพันปลา&กุ้ง 36 นิ้ว (เน้นเฉพาะเฟริน์กับมอส พวกไม้ข้อรื้อทิ้งหมดแล้วเพราะขี้เกียจตัดแต่ง) และตู้เลี้ยงปลาทอง 36 นิ้ว และตู้เลี้ยงปอมปาดัวร์อีก 1 ตู้ รวม 4 ตู้ เย็นสบายกันทั้งคนและปลา

ปกติค่าไฟมันตกประมาณหน่อยละ3บาทไม่ใช่หรอครับ [งง] แล้วทำไมเพิ่มมา146หน่วยจ่ายค่าไฟเพิ่มแค่163บาทเองง่า 036

นั้นชิครับ ยังงงๆ อยู่ สงสัยให้ตัวเลขผิดครับ เอาใหม่ครับ ทีนี้เอาใบแจ้งค่าไฟตั้งแต่งวดเดือนธันวาคม มกราคม และภุมภาพันธ์มาเทียบกันใหม่น่ะครับ ปกติค่าไฟตอนที่ยังไม่ติดแอร์ติดชิลเลอร์ ตกประมาณเดือนละ 1,000 - 1,300 บาทจำนวนหน่วยที่ใช้ก็ประมาณ 340 - 350 หน่วย เอาตัวเลขนี้เป็นเกณฑ์น่ะครับ และวันที่จดเลขมิเตอร์คือทุกๆ รอบวันที่ 13 ของเดือน
ธันวาคม 52     ถึงวันที่ 13/12/52   จำนวน  346 หน่วย ค่าไฟ   1,258.67  บาท (ติดตั้งแอร์ และชิลเลอร์อีก 2 ตัว ประมาณกลางเดือนธันวาคม 52)
มกราคม 53     ถึงวันที่ 13/1/53     จำนวน 492 หน่วย ค่าไฟ   1,856.95 บาท  (เพิ่มขึ้นเกือบ 600.- บาทและจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 146 หน่วย)
กุมภาพันธ์ 53   ถึงวันที่  13/2/53    จำนวน 531 หน่วย ค่าไฟ   2,019.84 บาท (จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นอีก 39 หน่วย และค่าไฟเพิ่มขึ้นประมาณ 162 บาท)
สรุปว่าหลังจากติดแอร์ และชิลเลอร์ ต้องเสียตังส์ค่าไฟเพิ่มขึ้นประมาณ 700 กว่าบาทครับ ขอโทษครับที่ให้ตัวเลขผิดไป