Aqua.c1ub.net

มาต่อกันในตอนที่ 2 ครับ

            หลังจากที่เกริ่นไปในตอนที่แล้ว ว่าเจ้าซักเกอร์เพิ่งจะเริ่มเป็นที่นิยม เมื่อสักช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากเมื่อก่อนการเลี้ยงก็เพียงด้วยจุดประสงค์ที่คิดว่าจะช่วยให้มากินเศษอาหารในส่วนที่เพื่อนร่วมตู้ กินเหลือ  หรือเพื่อให้กำจัดเหล่าบรรดาตะไคร่ที่เกาะอยู่ตามส่วนต่างๆของตู้เลี้ยง แต่ต่อมา จุดประสงค์ของการเลี้ยงซักเกอร์ก็เริ่มแตกต่างไปจากเมื่อก่อน ก็คือการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม เนื่องจาก ความสวยงามบนลำตัว และรวมไปถึงการค้นพบสายพันธุ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยผู้เลี้ยงเริ่มจะมองถึงรูปลักษณ์โดยไม่สนใจว่ามันจะกิน ของเสีย กินตะไคร่หรือไม่ ซึ่งในอดีตแล้วการจับปลาในธรรมชาติจะจับมาจากในบริเวณที่ตื้นเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ ซึ่งปลากลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มที่ใช้ตะไคร่เป็นอาหารหลักในการดำรงชีวิต แต่โดยส่วนใหญ่แล้วปลาในตระกูลนี้ ทีมีสีสันสวยงามโดดเด่นล้วนมาอาศัยอยู่ใน บริเวณส่วนที่ลึกของแม่น้ำทั้งสิ้น ซึ่งปลาที่อยู่ในบริเวณน้ำลึกนี้ก็ย่อมต้องการอาหาร ที่แตกต่างออกไปด้วย ก็เนื่องจากในบริเวณน้ำลึกนั้นไม่มีพื้นที่ที่ตะไคร่สามารถเจริญเติบโตได้ ด้วยเหตุผลอันนี้เองทำให้เมื่อคุณสนใจปลาตัวไหนควรจะ รู้ถึงชนิดของอาหารที่ถูกต้องปลาตัวนั้นๆ เสียก่อน


             เนื่องจากปลาซักเกอร์ที่ถูกนำมาขายในร้านขายปลาโดยส่วนใหญ่ จะเป็นเพียง ลูกปลา หรือปลาที่ยังไม่โตเต็มวัย
ซึ่งจากรูปลักษณ์ในช่วงนี้ไม่ได้เป็นการบ่งบอกถึงลักษณะของปลาเมื่อโตเต็มวัยเลย โดยในข้อเท็จจริงแล้วปลาในกลุ่มนี้บางชนิด เมื่อโตเต็มวัยลักษณะจะเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความใหญ่โต หรือแม้แต่ลวดลายบนลำตัว ถึงแม้จะมีผู้คนบอกว่าเมื่อนำปลาไปเลี้ยงตามตู้แล้วปลาก็จะปรับตัวให้เข้ากับขนาดของตู้นั้นๆ  แม้กระนั้นแล้วเราจำเป็นต้องรู้ขนาดเต็มที่ของปลาชนิดนั้นๆเสียก่อน แต่อย่างไรก็ตามนอกจากจะต้องคำนึงถึงขนาดของตู้ที่จะเลี้ยงแล้ว  สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือสภาพของน้ำ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของปลา ด้วยลักษณะของปลาซักเกอร์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างช้า  สิ่งที่จะตามมากับขนาดของปลาก็คือ ความก้าวร้าว ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับเพื่อนร่วมตู้ ที่มีขนาดเล็กกว่า ถ้าเราเลี้ยงหลายๆสายพันธุ์ที่มีขนาดต่างกันอย่างมาก ยิ่งถ้าสถานที่เลี้ยงมีขนาดเล็ก ไม่เหมาะสมแล้ว สิ่งที่จะตามมาในระยะยาวก็คือ เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ โดยปกติแล้วปลาที่มีขนาดใหญ่ย่อมต้องการอาณาเขตสำหรับตัวเอง มากกว่าชนิดที่มีขนาดเล็ก


             สำหรับปลาซักเกอร์ที่มีขนาดใหญ่ จะอยู่ใน genus Acanthicus, Pseudacanthicus, Megalancistrus , Panaque, Hypostomus, Glyptoperichthys และ Liposarcus บางชนิดในกลุ่มนี้มีขนาดถึง 40 -60 เซนติเมตร แต่สำหรับ  Acanthicus, Pseudacanthicus และ Megalancistrus สามารถมีขนาดได้ถึง 1 เมตร หรือ มากกว่านี้  และยังมีกลุ่มที่ยังคุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับการซื้อขายเพื่อนำมาเลี้ยง ก็คือ Baryancistrus และ Scobinancistrus ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไป เช่น  Golden Nuggets (L018,L081 หรือ L177)  Sunshine Sucker (Scobinancistrus aurealus/L014) โดยมีความยาวเต็มที่ได้ถึง 30-40 เซนติเมตร สำหรับผู้ที่สนใจที่จะเลี้ยง 2 สายพันธุ์นี้ก็ควรจะมีสถานที่เลี้ยงที่จุน้ำได้มากกว่า 300 ลิตร ไม่เช่นนั้นก็ควรมองข้ามไปซะ หรือถ้าไม่ก็ลองมองดูในที่มีขนาดเล็ก ได้แก่ genus Ancistrus, Lasiancistrus, Zonancistrus, Peckoltia, Hypancistrus และ Panaqolus และกลุ่มที่ความนิยมลดลงมาคือ Chaetostoma, Oligancistrus และ Specracanthicus สำหรับกลุ่มขนาดเล็กนี้มีให้เลือกมากมาย รวมทั้งมีสีสันที่สวยงามกว่ากลุ่มขนาดใหญ่ โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดสั้นกว่า 15 เซนติเมตร เต็มที่ก็ไม่เกิน 20 เซนติเมตร

   เรามาสรุปกันอีกที ก่อนจะซื้อ Sucker มาเลี้ยงสักตัว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมีดังนี้

-   อุณหภูมิ ที่เหมาะสมกับการเลี้ยง
-   Sucker ต้องการสภาพน้ำที่อ่อน หรือ Black water หรือไม่
-   อาหารที่เหมาะสมกับ species นั้นๆ

อุณหภูมิ
   Sucker ชนิดที่เป็นที่นิยม และมีสีสันสวยงามส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด จะมีแหล่งกำเนิดมาจาก บริเวณ แม่น้ำ Amazon ไปจนถึง ตอนบนของ แม่น้ำ Orinoco ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูงตลอดทั้งปี และในบริเวณในส่วนที่น้ำตื้นนั้น จะมีอุณหภูมิขั้นต่ำประมาณ 28 องศา C และในบางครั้งยังขึ้นไปสูงถึง 33 องศา C แต่เมื่อเราต้องการเลี้ยงเจ้าซักเกอร์เหล่านี้ เราก็ไม่จำเป็นให้อุณหภูมิสูงถึงขนาดนั้นก็ได้ เพียงแค่ควบคุมให้อยู่ในช่วง 26 - 29 องศา C ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการเลี้ยงดูในสถานที่เพาะเลี้ยง ซึ่งอุณหถูมิช่วงนี้ก็เป็นอุณหภูมิปกติของบ้านเราอยู่แล้ว เรื่องอุณหภูมิ จึงไม่เป็นที่น่าห่วงมากนัก แต่ก็ยังมี ปลาดูดบางชนิดอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีระดับสูงกว่า ซึ่งจะอยู่ทางตอนใต้ของ อเมริกาใต้ ก็คือบริเวณประเทศ Paraguay, Argentina และ ทางใต้ของบราซิล โดยที่บริเวณนี้จะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า ซึ่งถ้าเรานำไปเลี้ยงรวมกับกลุ่มที่มาจาก Amazon ซึ่งต้องการอุณหภูมิสูงกว่า ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และยังมีอีกกลุ่มที่อยู่ทางบริเวณ ตะวันตกและ ส่วนทางเหนือของ ทวีป อเมริกาใต้ ซึ่งกลุ่มนี้จะอาศัยกับลักษณะ mountain-stream ซึ่งสถานที่เลี้ยงก็ต้องมี กระแสน้ำที่ค่อนข้างแรงและเร็ว รวมทั้ง อุณหภูมิที่ ค่อนข้างเย็น ซึ่งตามธรรมชาติจะมีบางช่วงของปีเท่านั้นที่มีอากาศ อบอุ่น อุณหภูมิที่เหมาะสมของกลุ่มนี้จะอยู่ในช่วง 22-26 องศา C genus ในกลุ่มนี้ได้แก่ Chaetostoma และ Dolochancistrus


Soft water?
   Sucker สามารถปรับตัวได้ทั้งสภาพน้ำอ่อนและ น้ำที่ค่อนข้างกระด้าง (มากๆก็ไม่ได้นะครับ) บางชนิดก็ยังสามารถขยายพันธุ์โดยที่ไม่ต้องมีการปรับค่า parameter ของน้ำใดๆทั้งสิ้น และยังมีบาง speciesที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพ black water ได้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความเป็นกรดสูง ที่ซึ่งค่า  pH อาจลงไปถึง 4.5 – 6-0 ซึ่งบางครั้งก็เพียงชั่วคราว ซึ่งเป็นช่วงที่กระตุ้นการผสมพันธุ์ หรือไม่ก็ ถาวรไปเลย
( สภาพที่เลี้ยงที่เหมาะสมกับแต่ละ species จะกล่าวถึงในตอนต่อๆไป … ถ้าความฟิตยังมีอยู่ )

อาหาร
   อาหารที่เหมาะสมของแต่ละ species เป็นสิ่งที่ต้องศึกษาก่อนตัดสินใจซื้อ และนำมาเลี้ยงเพราะเนื่องจาก ไม่ใช่ทุกชนิดสามารถนำมาเลี้ยงใน ตู้ปลาได้ โดยเฉพาะตู้ที่มีการเลี้ยงไม้น้ำ เพราะบางสายพันธุ์สามารถทำลาย ต้นไม้ที่เราเลี้ยงไว้ได้เพียงชั่วข้ามคืน บางชนิดก็ต้องการอาหารเฉพาะเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี เพราะจะส่งผลถึงระบบย่อยอาหารของมัน เพราะฉะนั้นถ้ามีความต้องการอยากจะให้มี tank mate แล้วควรจะเลือกเฉพาะชนิดที่มีความต้องการอาหารเหมือนกันอยู่ด้วยกันเท่านั้น

ข้อมูลของแต่ละชนิดหาได้ที่เว๊บนี้ครับ http://www.planetcatfish.com/catelog/index.php (http://www.planetcatfish.com/catelog/index.php)

จบสำหรับตอนที่ 2 ละครับ พบกันใหม่เร็วๆนี้ อิอิ

ลืมเสียไม่ได้ ผมไม่ได้เขียนเองหรอกครับ แปลเค้ามาอีกที

ที่มา
Planetcatfish.com
Plecofanatics.com
en.wikipedia.org/wiki/L-number
หนังสือ Aqualog Loricariidae: Alle L-Welse / all L-Numbers
หนังสือ Guide to L-catfishes

อื้อๆ L236 นี้ละครับ เป็น 1ใน 3 ปลาซักเกอร์ที่อยากได้มาเลี้ยงสุดๆ  suicide

 deepkiss สุดยอดดดดด L  นี้ก็สวยนะเนี่ย

เพิ่งไปเห็นตัวนี้ที่ฮ่องกงมา
เห็นราคาแล้ว.....ขนลุกซู่

เท่าไหร่ๆ คงไม่เท่าซีบร้าหรอกมั้ง

ไม่เท่าซีบร้าหรอกครับ
แต่ซื้อซีบร้าได้หลายตัวเลย....ฮ่าๆ

ใช่ครับมันแพงกว่าzebraอีก ตัวนี้ลายธรรมดาๆในเวปญี่ปุ่นก็แสนเยนขึ้น  n032

 idea1 สวยงะ

แต่ราคากระชากใจอยู่นะ  [เขิลลลล]

สวยมากๆ แต่ราคามัน  036

236 กับ 173  สวยสุดๆ

(http://img177.imageshack.us/img177/4012/23849615um0.jpg) (http://imageshack.us)

รูป จาก www.planetcatfish.com

Hypancistrus สวยเยอะอ่ะ

ที่1 ของผมคือ L250

เห็นด้วยเลยครับ Hypancistrus สวยๆเยอะเลย
แต่ตัวขั้นเทพอย่าง 173 236 250 อะไรเทือกๆนี้นี่  คงไม่มีปัญญาหามาเลี้ยง
ขนาดแค่ zebra ตัวธรรมดา  กว่าจะหามาได้แทบท้องกิ่ว

จริงๆตัวที่ราคาเบาๆลงมาหน่อย ก็สวยๆหลายตัว
อย่างเช่น 174 260 262 199 270 316 333 อะไรพวกนี้

แล้วไหนจะ การโดนแบนห้ามส่งออกจากบราซิลของพวกมัน ทำให้หายากขึ้นไปอีก ....   asspain

พวกป๋าๆ จะเล่นแต่ตัวเทพๆๆทั้งนั้นเลยอ่ะ  036 เราผู้น้อยด้อยปัญญา ขอเล่นแค่ตัวพื้นๆๆดีกว่า

 idea1 idea1 idea1


ไม่มีตังโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย  อยากได้ 

 sho01 sho01 sho01
ทำไมรูปตอนตัวเล็กกับตัวเต็มวัยมันถึงได้ต่างกันขนาดนี้  dea02 dea02 dea02

ต่อให้จบเลยครับ

ติดตามอย่างใจจดใจจ่อ.... lau01 lau01 lau01
 [ปิ๊งๆๆ] [ปิ๊งๆๆ] [ปิ๊งๆๆ]

ทำเป็นมารอ เสียใจ ระบบใหม่ เดลิเวอรี่เข้าธนาคาร กั่กๆๆๆ

จัดไป 2000 แถมโบนัสประทับใจอีก 2000

ผมว่ามาทำข้อมูลแยกเป็นแต่ละ genus เลยดีป่ะครับ
เดี๋ยวผมช่วยทำ

ดีสิครับ พี่เปา

ว่าแต่...พี่จะไหวหรอ มันเยอะนา [เขิลลลล]

ได้หน่า เราก็ค่อยๆทำดีมัยเอาพวก popular ก่อน Hypan Barry Leocan....อะไรประมาณนี้
เดี๋ยวผมทำ Hypan ก่อนดีป่ะ

เห็นด้วยเลยครับ

เดี๋ยวผมรอดูดความรู้นะคร้าบบบบ

 036
ผมเลี้ยงL134ต่อไปละกันนะ เศร้าจาย บ้านปลายังหาไม่ได้เรย

สนใจไหม ผมมีเหลือของ L134 อันนึง ให้ครับ
pm มานะครับ

ปล. เดี๋ยวก็ทำขายซะเลยนิ อิอิ

รออ่านตอนต่อไปครับ  [เจ๋ง]

ซัคเกอนี้ลเี้ยงกับปลาทองได้ไหมครับ รวบกวนหน่อยครับ มือใหม่ 036

อย่าเลี้ยงรวมเลยครับ

ปลาทองได้กลิ่นอาหารตลอด ซัคเกอร์อดครับ