พิมพ์หน้านี้ - ขอ ข้อมูลการเลี้ยง Blue Moon ครับ

กุ้งสายพันธุ์C อินโด จะมีลักษณะวิธีการเลี้ยง และการกินอาหาร คล้ายๆกัน แต่จะไม่เหมือนกันทั้งหมด จากประสบการณ์ที่เพาะเลี้ยงมานะคับ

ขนาดตู้ 24" ใช่ได้มาตราฐาน มีวัสดุปูพื้นบางๆ หินอะไรก็ได้แล้วแต่เจ้าของกุ้งจะชอบ หาขอนไม้มาใส่ในตู้ หาใบหูกวางแห้งกรอบมาใส่สัก 1ใบ แล้วก็อุปกรณ์การเลี้ยงทั่วๆไปคับ ป้๊มอ๊อกฯ กรองฟองน้ำ หาปลาตัวเล็ก อย่างพวกปลาซิว ปลาหางนกยูง ปลาสอด หรือปลาก้นตู้ก็ ปลาแพะ ปลาสายน้ำผึ้ง (ปริมาณปลาก็ใส่ให้พอดีๆ ไม่มากไม่น้อย แต่เดี๋ยวมันก็จะค่อยๆหายไปทีละตัวสองตัว เพราะกุ้งสายC อินโด นี่ชอบจับปลากินกันมากคับ) แต่เดี๋ยวนี้ที่ฟาร์มจะไม่ได้ใส่พวกปลาร่วมตู้กับกุ้งสายC อินโดแล้วคับ ไม่อยากให้มันคอยจ้องจะจับปลากิน เพราะใส่อาหารให้กินกุ้งมันจะไม่ยอมกินคับ มันจะปล่อยทิ้งให้ปลาร่วมตู้มากินอาหาร แล้วกุ้งก็จะคอยจับปลากินอย่างเดียว พฤติกรรมแบบนี้ที่ฟาร์มสังเกตุมาโดยตลอดคับ แต่ที่อื่นผมไม่ทราบว่าเป็นหรือเปล่านะคับ แต่ที่นี่เป็น และเราต้องการให้กุ้งกินอาหารโดยตรงมากกว่าที่จะไปคอยจ้องจะจับปลาร่วมตู้กินคับ เพราะเค้าจะกลายเป็นกุ้งที่กินอาหารไม่เก่งไปโดยปริยายคับ

แต่ยังไงปลาร่วมตู้ ก็จะคอยช่วยในเวลาที่มีปรสิตเกิดในตู้คับ ปลาทั้งหลายจะไปไล่กินปรสิตให้หมดไปจากตู้ได้คับ ก็ดีอย่างเสียอย่างคับ

ยังไงลองติดต่อสอบถามไปยังคุณ ปะป๊าตุ๊กติ๊ก ดูได้คับ มีการจัดจำหน่ายหนังสือแนะแนวทางในการเลี้ยงกุ้งสายC อินโด ไว้เป็นรูปเล่มสวยงาม ครบถ้วนมากมายสำหรับกุ้งสายC อินโดจริงๆคับ [on_066]

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cherax sp. Blue moon ทางวิทยาศาสตร์ คาดว่า กุ้งชนิดนี้ น่าจะเป็นเครือญาติที่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ Cherax boesemani และ Cherax hoa creek
แหล่งกำเนิด : ปาปัวนิวกินี ทะเลสาบ Ajamaru
ความสวยงามโดดเด่นที่น่าประทับใจ : ลวดลายสีขาวที่ขอบก้าม โดยเฉพาะในตัวผู้ ตัดกับ พื้นผิวลำตัวที่เป็นสีน้ำเงินเข้ม , สีฟ้าเข้ม หรือ สีน้ำตาลดำ ฯลฯ และ แพนหาง สีเหลือง / ส้มสด
ขนาดตู้ที่ใช้เลี้ยง : แนะนำตั้งแต่ 80 เซนติเมตรขึ้นไปเป็นขั้นต่ำ แนะนำ ตั้งแต่ 120 – 150 เซนติเมตร และ ยิ่งเลี้ยงในปริมาณที่หนาแน่น ยิ่งต้องใช้พื้นที่มากขึ้นครับ ตกแต่งตู้เลี้ยงด้วย ถ้ำและ ที่หลบซ่อนต่างๆ แต่ต้องระวังเรื่องการขุดรองพื้นตู้ของกุ้งด้วย อาจจะทำให้หินที่ประดับเอาไว้ในตู้ หล่นมาทำกระจกของตู้แตกได้ครับ กุ้งชนิดนี้ต้องการน้ำที่สะอาด ดังนั้นระบบกรองควรจะต้องมีคุณภาพพอสมควรครับ การจัดเตรียมน้ำ ควรระวังในเรื่องของสารเคมีที่มากับน้ำครับ ท่านอาจจะใช้น้ำที่มาจากระบบกรองน้ำดื่ม มาใช้เลี้ยงพวกเขาก็ได้ครับ ถ้ามีการนำพืชน้ำหรือสาหร่ายต่างๆ มาใส่ในตู้ ขอให้ผู้เลี้ยงล้างทำความสะอาดให้ดี เพื่อกันปัญหาเรื่องสารเคมีต่างๆ ที่จะปะปนมาเช่นพวกยาฆ่าหอยครับ และทางกระผมไม่ขอแนะนำให้นำไปเลี้ยงในบ่อดิน เพราะว่า กุ้งจะสามารถขุดดินหนีเราไปได้นะครับ ถ้าไม่ได้ปูพวกพลาสติกรองบ่อดินเอาไว้ตั้งแต่แรก ( ฮา ) และควรหมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำให้สะอาดเป็นระยะๆครับ

ค่า pH ที่เหมาะสมในการเลี้ยง : 6.5 – 8.5 ( น้ำอ่อนปาณกลาง ถึง ค่อนข้างกระด้าง )
ค่า ความกระด้างของน้ำ : 12° dGH
อุณหภูมิที่เหมาะสม ในการเลี้ยง : 15 – 28 องศาเซลเซียส
เพื่อนร่วมตู้ : โดยปกติแล้วกุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ จะเลี้ยงรวมกับปลาเล็กๆ ที่เร็ว และ ว่ายผิวน้ำ หรือ กลางตู้ได้ค่อนข้างดี กุ้งจะไม่สนใจจับปลากินมากนัก แต่จะมีบ้างที่จับปลาที่อ่อนแอ หรือ กินซากปลาที่ตายเป็นอาหารครับ
และควรหลีกเลี่ยงการเลี้ยงกุ้งชนิดนี้ รวมกับกุ้งเครย์ฟิชจากทวีป และ สายพันธุ์อื่น ๆ (เช่นจำพวก Cambarus , Cambarellus , Procambarus , Orconectes ) เพราะอาจจะเกิดการแพร่เชื้อไวรัสระหว่างกุ้งต่างสายพันธุ์กันได้ และ จะเป็นอันตรายต่อกุ้งที่เลี้ยงเอาไว้ครับ
อาหาร : กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้กินอาหารได้ค่อนข้างง่าย สามารถให้กินได้ทั้งใบไม้แห้ง , พืช ผัก และ ผลไม้ต่างๆ เช่นแอปเปิ้ล , แตงกวา , แครอท , ผักขม , ลูกเชอร์รี่ และ ธัญพืชอื่นๆ รวมทั้งการให้กินอาหารจำพวกโปรตีนเช่นเนื้อของสัตว์น้ำ , อาหารเม็ดสำหรับกุ้งชนิดต่างๆ และ ตัวอ่อนแมลงน้ำด้วย กุ้งจะกินประมาณ 1 – 4 เปอร์เซ็นต์ต่อน้ำหนักตัวของเขาทุกๆ 3 วันนะครับ การให้อาหารที่มากเกินไป อาจจะทำให้น้ำเสียได้ครับ
การผสมพันธุ์ : ถ้าตัวเมียและตัวผู้มีความสมบูรณ์พันธุ์ สามารถที่จะผสมพันธุ์ได้ ประมาณ 3 – 4 ครั้งต่อปี อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการผสมพันธุ์ จะอยู่ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียส หลังจากการจับคู่ผสมพันธุ์กันเรียบร้อยแล้ว ตัวเมีย ก็จะอุ้มไข่ ประมาณ 60 – 70 ฟอง อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่แม่กุ้งมีไข่ แนะนำให้สังเกตดูพฤติกรรมของตัวผู้เอาไว้ซักหน่อยครับ เพราะหลายๆครับพบว่า กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ ในตอนที่ตัวกำลังจะมีไข่ ตัวผู้จะค่อนข้างมีพฤติกรรมก้าวร้าวได้ง่ายครับ แต่ถ้าเห็นว่า ทั้งสองตัวจับคู่กันได้ดีอยู่ ก็ไม่ต้องแยกก็ได้ครับ ไข่จะใช้เวลาในการฟักตัวที่ประมาณ 6 สัปดาห์ ลูกกุ้งตอนเกิดใหม่ๆ จะมีขนาดประมาณ 3 มิลลิเมตร ถึง 5 มิลลิเมตร และหลังจากตัวอ่อนออกจากท้องแม่แล้ว ผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องการให้อาหาร และที่หลบซ่อนอย่างเพียงพอ ลูกกุ้งก็จะลดโอกาสการกินกันเองครับ อาหารที่เหมาะสมสำหรับอนุบาลลูกกุ้งก็เช่น ลูกไรทะเลเกิดใหม่ , อาหารกุ้ง หรือ อาหารปลาอย่างดีบดให้เขากินได้ครับ และก็ขอให้ผู้เลี้ยงระมัดระวังในส่วนของปริมาณอาหารที่เหลือด้วย ถ้ามีการกินเหลือ ขอให้ผู้เลี้ยง รีบทำการดูดอาหารที่เหลือทิ้งอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาคุณภาพน้ำเอาไว้ให้ดีอยู่เสมอ เพราะถ้าน้ำเน่าแล้วมีกุ้งตาย น้ำก็จะยิ่งเสียเร็วมาก และ อาจจะพาลทำให้ตายได้เพิ่มเติมอย่างรวดเร็วเลยทีเดียวครับ และ ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำทีละน้อย เพื่อให้ ลดโอกาสที่ลูกกุ้งจะได้รับการเปลี่ยนแปลงค่าน้ำต่างๆ มากเกินไป และ จะเป็นการกระตุ้นให้ลูกกุ้งลอกคราบ โดยที่ยังไม่พร้อมได้ครับ

Aqua.c1ub.net

Shrimp Club => กุ้งเครฟิช => ข้อความที่เริ่มโดย: BanKKlongtoey ที่ 25/02/14, [00:16:23]