หัวข้อ: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [12:26:24] (https://upic.me/i/je/3046e74_20.jpeg) (https://upic.me/show/43482260)
เป็นสมาชิกห้องตู้ทะเลมาสักระยะ เลี้ยงตู้ทะเลมาประมาณปีเศษ ๆ ความรู้ต่าง ๆ ที่ได้ก็มาจากค้นคว้าเอาตามเวป และกระทู้ของเพื่อนสมาชิกที่มาแชร์ประสบการณ์กัน ... อ่านมาก ๆ คิดตามมาก ๆ เลือกเอาแนวทางที่เหมาะสมมาปรับใช้กับตู้ตนเองให้เกิดผล วันนี้เกิดคำถามหนึ่งขึ้นมาว่า "ทำไมสกิมเมอร์ต้องเอาใหญ่ ๆ ไว้ก่อน 3-5 เท่าของน้ำในตู้ ? เอาเท่าสเปคที่มันให้มาไม่ได้เหรอไง ?" รวมถึงคำถามที่ว่า "สกิมเมอร์ในท้องตลาดรูปร่างต่างกันมากมาย มันมีหลักทำงานไงหว่า ? แล้วแบบไหนดีที่สุด ? ไอ้รุ่นที่บอกว่าเป็นแบบโคน (cone) มันต่างจากแบบเดิมยังไง ?" ต่อมกระสันอยากรู้ทำงาน จึงนั่งไล่ search ตามเวปนอกเจอบทความ และความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Protein Skimmer หรือบ้างอาจเรียกว่า Foam Fractionator ซึ่งผมขออนุญาตแปลบทความ หรือเนื้อหาบางส่วนมาเพื่อกระจายความรู้ และแชร์ความรู้เกี่ยวกับไอ้เครื่องสร้างโฟม ที่กลายมาเป็นอุปกรณ์สำคัญอุปกรณ์หนึ่งในการตั้งตู้ทะเลครับ โดยเริ่มจากบทความเรื่อง "ทำความเข้าใจสกิมเมอร์ของคุณ!" โดย ด๊อกเตอร์ แฟรงค์ มารินี เพื่อเป็นพื้นฐานทำความเข้าใจเรื่องสกิมเมอร์ ซึ่งผมจะยกเฉพาะใจความสำคัญเท่าที่ความสามารถภาษาอังกฤษจะอำนวย [on_007] และจะพยายามปรับให้ทำความเข้าใจกันง่าย ๆ ต่อไปครับ "ข้อมูลเนื้อหา + รูปภาพต่าง ๆ ได้มาจาก Google นะครับ ขออภัยที่อาจไม่ได้ลงถึงที่มา" อ่านแล้วถูกใจ หรือมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมยังไง ก็รบกวนช่วยกันแชร์ให้เพื่อน ๆ สมาชิกท่านอื่นด้วยนะครับ ... ขอบคุณครับ และช่วยเป็นกำลังใจให้สรรหาข้อมูลมานำเสนอต่อไปด้วยคร้าบบบบบ [on_026] หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: Crow ที่ 26/02/13, [12:31:07] รอชมครับ กำลังจะถอยสักตัวพอดี เหอ ๆ [on_026]
หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [13:02:05] เริ่มแรก .... ทำไมต้องมีสกิมเมอร์ ??
ตอบกำปั้นทุบดิน คือ เอาของเสียออกจากระบบ ... ของเสียนี่ได้แก่พวกสารอินทรีย์ทั้งหลาย อาทิ ขี้ปลา เศษอาหารที่หลงเหลือ หรือพวกการย่อยสลายของซากสิ่งมีชีวิตภายในตู้ ซึ่งไอ้ของเสียเหล่านี้หากมีมากในระบบจะส่งผลต่อคุณภาพน้ำในตู้ทะเลให้ต่ำลง และปัจจัยสำคัญที่เกิดพวกตะไคร่ และ ไซยาโน ที่พวกเรานักเลี้ยงตู้ทะเลไม่โปรดปราน ดังนั้น เราจึงต้องเอาสารอินทรีย์พวกเนี้ย ออกจากระบบตู้ทะเลของเราก่อนมันจะส่งเสียต่อระบบ ซึ่งวิธีการนอกเหนือจากใช้ใยกรอง หรือถุงกรอง กรองเอาพวกสารที่หยาบออกจากระบบแล้ว แต่พวกสารอินทรีย์ที่มันละลายปะปนอยู่กับในน้ำ (Dissolved Organic Compounds (DOCs)) บางกรณีอนุภาคมันเล็กมากจนมันกรองออกโดยใช้ใยกรองหรือ ถุงกรองไม่ได้ ก็จะใช้วิธีการ "สกิม" มันออกไปซะ โปรตีนสกิมเมอร์ .... สารอินทรีย์ที่มันละลายปะปนอยู่กับในน้ำ (Dissolved Organic Compounds (DOCs)) เหล่านี้ขนาดมันจิ๋วมากครับ อาทิ พวกกรดอะมิโน ตัวมันจิ๋วขนาด 0.02-0.25 ppm และสารกลุ่มโปรตีนประเภทอื่น ๆ ดังนั้น การที่เราต้องการเอาไอ้พวกนี้ออกจากระบบ อุปกรณ์ที่เราใช้ในการดัก หรือ "สกิม" มันออกจากระบบจึงเรียกกันว่า โปรตีนสกิมเมอร์ ซึ่งมีหลักการโดยใช้ "ฟองอากาศ" เป็นตัวดักจับเอาพวก DOCs เหล่านี้ออก แล้วดักได้ยังไง ? .... ไอ้ DOCs มันเป็นรูปแบบโมเลกุลคู่ (bipolar molecules) เอาง่าย ๆ คือมันมีสองขานั่นแหล่ะครับ ... ขาข้างหนึ่งจะชอบยึดกับน้ำ ส่วนขาอีกข้างหนึ่งชอบยึดกับอากาศ ... ส่วนหลักการทางเคมี บวก ๆ ลบ ๆ ข้ามไปก่อนกัน งง [on_026] ดังนั้น เครื่องสกิมเมอร์ของเรา ก็ใช้หลักการที่ว่านี้ ใช้อากาศในการจับอนุภาคของ DOCs และสกิมเมอร์จะดันฟองอากาศขึ้นสูงมาโผล่ยังปากกระบอกถ้วยของเสียนั่นเองครับ (แต่วิธีการในการอัดอากาศเข้าระบบ หรือการดันอากาศขึ้นสู่กระบอกของเสีย ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของสกิมเมอร์ ดังจะกล่าวต่อไปครับ) "The longer that the DOCs are in contact with the bubbles, the more of them will attach to the bubbles, the more of them will be removed. Longer contact times allow for less adherent molecules to be attracted and "stuck" to an air bubble" จึงขอยกใจความตรงนี้มาเพื่อประกอบที่ว่า "ยิ่งอนุภาคเหล่านี้สัมผัสกับฟองอากาศมาก และนานแล้ว ไอ้อนุภาคพวกนี้ก็จะถูกขับออกได้มากเช่นกัน ตลอดจน เวลาในการสัมผัสกันระหว่างฟองอากาศกับอนุภาคยิ่งนานก็จะยิ่งทำให้พวกอนุภาคประเภทแรงยึดต่ำ ยิ่งสามารถติดกับฟองกาศได้มากขึ้น" (ยิ่งแปลยิ่งงง [on_026]) เอาเป็นว่า "ฟองยิ่งละเอียด ยิ่งเพิ่มการสัมผัส .. ระยะเวลาการสัมผัสยิ่งนาน ยิ่งทำให้จับของเสียได้เยอะ" ดังนั้น จึงไม่แปลกใจที่ เรา ๆ มักจะอยากให้สกิมเมอร์ของเรามีฟองหนานุ่ม เหมือนดัง ฟองนมคาปูชิโน่ แต่ไม่ใช่แค่พวก DOCs ที่จะถูกกำจัดโดยสกิมเมอร์นะครับ ... การใช้ฟองอากาศดักจับอนุภาคเนี้ย สามารถดักจับได้ทั้งพวก VOCs (volatile organic compounds), POC (particulate organic compounds), เศษอาหารปลา, เมือก หรือสารอินทรีย์ต่าง ๆ ที่ปะการังผลิต อาทิ ไข่ สเปิร์ม รวมทั้ง แบคทีเรีย , แพลงตอนขนาดต่าง ๆ ก็ยังถูกกำจัดโดยสกิมเมอร์ได้ด้วยเช่นกัน หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [13:09:04] (https://upic.me/i/f6/needle-wheel-protein-skimmer-function.jpg) (https://upic.me/show/43471723)
ภาพ: การทำงานของโปรตีนสกิมเมอร์ .... ได้นำภาพมาจาก reefbuilders ครับ (Protein Skimmers infographic by Marine Depot breaks down foam fractionation) โดยจากภาพเป็นการทำงานของโปรตีนสกิมเมอร์ แบบ Aspirating impeller skimmers ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของสกิมเมอร์ครับ (เดี๋ยวแจกแจงกันอีกที) จากภาพจะเห็นว่าน้ำและอากาศจะถูกดูดเข้าโดยปั๊ม เข้าไปในตัวสกิมเมอร์ และเกิดการปั่นอากาศเป็นฟองละเอียดเพื่อดักจับอนุภาคของเสียในน้ำ และของเสีย (สีแดง) ที่ยึดติดกับฟองอากาศจะถูกดันขึ้นไปยังกระบอก หรือถ้วยดักของเสียข้างต้น ส่วนน้ำดี (สีน้ำเงิน) ที่ไม่ได้ถูกผลักโดยฟองอากาศขึ้นสู่ผิว ก็จะไหลย้อนลงด้านล่างของสกิมผ่านช่องทางน้ำออกแทน ซึ่งสกิมเมอร์ไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตามก็จะใช้รูปแบบคล้าย ๆ กันในการดักอนุภาคของเสียออกจากน้ำครับ ดังนั้น ตัวโปรตีนสกิมเมอร์ จะแบ่งออกเป็นส่วนหลัก ๆ ได้อย่างน้อย 3 ส่วน คือ 1. ตัวสกิม (The skimmer body) เป็นตำแหน่งที่น้ำได้ปะทะกับฟองอากาศ 2. พื้นที่แยกโฟม (The foam separation area) เป็นพื้นที่ที่มีไว้ให้ฟองอากาศที่ดักอนุภาคของเสียได้แล้ว สามารถแยกตัวออกจากน้ำได้ (บริเวณของสกิมเมอร์ที่เป็นกระบอกสูง ๆ หรือเป็นรูปโคนเพื่อรีดฟองอากาศออกจากน้ำอ่ะครับ) 3. ถ้วยดักของเสีย (A collection cup) ถ้วยที่อยู่ยอดสุดจากพื้นที่แยกโฟม ที่กักเก็บอนุภาคของเสียที่แยกตัวออกจากน้ำ ก่อนนำไปเททิ่งทำความสะอาด หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [19:59:23] ต่อไปเป็นส่วนที่ผมว่าน่าสนใจในบทความ โดยเป็นส่วนที่กล่าวถึงการเลือกซื้อสกิมเมอร์ที่เหมาะสม
ซึ่งนักเลี้ยงตู้ทะเลทุกคนย่อมอยากได้สกิมเมอร์ที่ดีที่สุดสำหรับตู้ทะเลของแต่ละคน อาทิ กำจัดของเสียจากระบบได้ดีที่สุด, สกิมเมอร์มีขนาดที่เหมาะสม กระทัดรัด, ราคาไม่แพง สบายกระเป๋า รวมทั้งง่ายต่อการดูแลบำรุงรักษา (Many hobbyists are looking for the perfect skimmer, one that will remove all the organic waste in the tank water, a skimmer which is compact in size, inexpensive to run, and requires virtually no maintenance.) แต่ปัญหามันก็อยู่ที่ในท้องตลาดมันมีสกิมเมอร์ มากมายหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ หลายประเภท แล้วไอ้ประเภทไหนหล่ะที่ว่าดีที่สุด ? หรือเหมาะสมมากที่สุด ? ..... จากบทความนั้น ผู้เขียนได้บอกไว้ว่า "NO ONE BEST Skimmer" หรือ ไม่มีสกิมเมอร์ใดที่ดีที่สุดดอกกกกก อีนางเอ้ย !! [on_055] สกิมเมอร์ในท้องตลาด ส่วนใหญ่ถูกผูกยึดโยงกับคำโฆษณาของแต่ละบรรดาผู้ผลิต ว่าสกิมเมอร์ของตนดีอย่างนั้น เด่นอย่างนี้ เทคโนโลยีดีที่สุด ... ปัญหาก็อยู่ที่เราจะแยกความจริงออกจากคำโฆษณาต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างไรกัน ?? ด๊อกเตอร์ แฟรงค์ มารินี กล่าวว่า สำหรับตัวเองแล้ว การเลือกสกิมเมอร์ให้มีความเหมาะสมต้องเข้าใจหลักการทำงานตามทฤษฎีที่สำคัญของสกิมเมอร์เสียก่อน และนำมาปรับประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของแต่ละตู้ ซึ่ง ด๊อกเตอร์ แฟรงค์ มารินี ได้นำเสนอกฎ หรือหลักทางทฤษฎีเกี่ยวกับการทำงานของสกิมเมอร์บางประการจากตำรา "Aquatic Systems Engineering: Devices and How They Function" (P.R.Escobal, 2000) พอสรุปใจความสำคัญได้ดังนี้ หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [20:17:29] 1: The bombardment rate (number of times a clean air bubble bumps into a drop of water) depends on the duration of the tank water exchange and the diameter of the skimmer.
2: Increased skimmer length or height only raises the value of the absolute contact time but does not affect the bombardment rate. 3: The airflow rate entering a skimmer should produce a full upward blossom of bubbles without excessive turbulence, and is theoretically determined as a function of skimmer diameter, length, bombardment rate and absolute contact time. 4: The value of bombardment rate within the skimmer, its length, diameter and airflow must all be properly chosen for optimum operation. ขอยกภาษาอังกฤษมา เพราะเกรงว่าภาษาอังกฤษอาจจะอ่อนแรง กันแปลผิดพลาด กลัวทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน .. หากผมแปลผิด หรือตกหล่นตรงไหน ก็ช่วย ๆ กันด้วยเน้อ 1. อัตราการปะทะ หรืออัตราการจับอนุภาคของเสีย (ระยะเวลาที่ฟองอากาศที่สะอาด ปะทะกับอนุภาคของเสียในน้ำ) ขึ้นอยู่กับระยะเวลาอัตราการไหลของน้ำที่ไหลผ่านตัวสกิมเมอร์ รวมถึงขึ้นอยู่กับเส้นผ่านศูนย์กลางของสกิมเมอร์ กล่าวคือ อัตราการปะทะเนี่ย ... ยิ่งมีสูง ก็หมายถึงยิ่งดักจับอนุภาคของเสียออกจากน้ำได้เยอะ ... แต่อัตราการดักจับที่สูงได้เนี่ย มันขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่น้ำไหลผ่านในระบบสกิมเมอร์ ยิ่งไหลช้า ก็ยิ่งมีเวลาในการปะทะมาก ถ้าไหลเร็วก็เวลาปะทะน้อยลง ... รวมถึงเส้นผ่านศูนย์กลางของสกิมเมอร์ในบริเวณจุดปะทะ ที่ควรมีเส้นผ่านศูนย์กลางที่มากพอสมควร เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการปะทะ (บริเวณตัวสกิม ... ตามส่วนสำคัญหลัก ๆ ของสกิมเมอร์) 2. ความสูงของกระบอกสกิมเมอร์ ไม่ได้มีผลต่ออัตราการปะทะ หรืออัตราการดักจับอนุภาคของเสียแต่อย่างใด ... แต่ความสูงมีผลต่อการเพิ่มเวลาในการสัมผัสเท่านั้น กล่าวคือ เป็นช่วงของพื้นที่แยกโฟม (ตามส่วนสำคัญหลัก ๆ ของสกิมเมอร์) ที่ยิ่งสูงเวลาที่อนุภาคของเีสียสัมผัสกับฟองอากาศก็มีมาก และเป็นบริเวณที่ดันฟองอากศแยกออกจากน้ำดี ให้ขึ้นสูงไปลงถ้วยดักของเสีย 3. อัตราการไหลของอากาศเข้าสู่สกิมเมอร์ ต้องสามารถทำให้เกิดฟองอากาศขึ้นในตัวสกิมเมอร์ ส่วนในทางทฤษฎีแล้วเป็นหน้าที่ของอัตราการปะทะ เส้นผ่านศูนย์กลาง ความสูงของสกิมเมอร์ และเวลาในการสัมผัส ที่จะส่งผลต่อการกำจัดของเสียออกจากระบบ 4. การทำงานของสกิมเมอร์ที่ดีนั้น ต้องเกิดจากความสูง เส้นผ่านศูนย์กลางของสกิมเมอร์ที่เหมาะสม รวมทั้งอัตราการปะทะ และอัตราการไหลที่สัมพันธ์กันทั้งระบบ ดังที่กล่าวถึงกฏ 4 ประการของสกิมเมอร์ไปข้างต้น (ไม่รู้แปลให้เข้าใจได้เปล่า [on_007]) จะทำให้เราสามารถออกแบบสกิมเมอร์ หรือเลือกสกิมเมอร์ที่เหมาะสมได้ .... ซึ่งโดยสรุป สามารถนำเสนอหลัก 4 ประการที่ต้องให้ความสำคัญในการเลือกสกิมเมอร์ ดังนี้ คือ The water flow rate through the skimmer (อัตราการไหลของน้ำผ่านสกิมเมอร์) The height of the skimmer (ความสูงของสกิมเมอร์) The amount of air pumped into the reaction chamber of the skimmer (จำนวนของปั๊มในการอัดอากาศเข้าสู่ตัวสกิมเมอร์) The diameter of the skimmer (เส้นผ่านศูนย์กลางของตัวสกิมเมอร์) .... ยาวไป ๆ [on_055] หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: Rut(Iris) ที่ 26/02/13, [20:21:37] ขอบคุณจ้าแน่นมากเลยครับพี่ๆทั้งหลายทำไมเก่งกันอย่างนี้ไม่ไหวแล้วนะ...จงมอดไหม้คอสโมของข้า [พลังเต็มที่]
หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [20:50:09] ขอบคุณจ้าแน่นมากเลยครับพี่ๆทั้งหลายทำไมเก่งกันอย่างนี้ไม่ไหวแล้วนะ...จงมอดไหม้คอสโมของข้า [พลังเต็มที่] โอยยยย ... พี่ไม่เก่งเลยครับ อาศัยค้นหาตามเวปนอกเอา .. ข้อมูลที่ได้ก็แปลงู ๆ ปลา ๆ เอามาแชร์กันครับ มีเพื่อนสมาชิกหลายท่านที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการเลี้ยงตู้ทะเลอีกเยอะครับ สังคมอยู่ได้ ก็โดยการช่วยเหลือและแชร์ความรู้กันนี่แหล่ะครับ ต่อ ๆ .......... (เยอะนะเนี่ย [on_051] อ่านจนตาลาย แต่ก็เห็นว่ามีประโยชน์แยะอยู่ เป็นความรู้ด้วย ฮึบ ๆ) ............................. ตามกฎ และข้อพิจารณาในการเลือกสกิมเมอร์ ที่นำเสนอไปนั้น ก็นำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า - อัตราการไหลของน้ำผ่านตัวสกิมเมอร์ ควรจะมีอัตราการไหลที่ช้า เพื่อเพิ่มอัตราการปะทะ ในการดักจับอนุภาคของเสียให้มากขึ้น - สกิมเมอร์ต้องมีช่วงกระบอกที่สูง เพื่อเพิ่มเวลาการสัมผัส โดยปั๊มที่อัดอากาศเข้าสู่สกิมเมอร์ ต้องอัดอากาศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ - เส้นผ่านศูนย์กลางของสกิมเมอร์ในบริเวณจุดปะทะ ต้องมีขนาดกว้างสัมพัทธ์กับปริมาณของน้ำที่ไหลเข้าสู่ตัวสกิมเมอร์ กล่าวคือ ถ้าน้ำที่ไหลเข้าในสกิมเมอร์มีปริมาณมากเท่าใด เส้นผ่านศูนย์กลางของสกิมเมอร์ก็ต้องกว้างขึ้นสัมพันธ์กัน แต่อย่างไรก็ตาม .......... ไอ้ที่บ่น ๆ มาข้างต้นเนี่ย ด๊อกเตอร์ แฟรงค์ มารินี ก็บอกว่า มันก็เป็นแค่ในทางทฤษฎีเพียงเท่านั้น มันย่อมแตกต่างจากในทางปฏิบัติ หรือโลกของความเป็นจริงอยู่ดี กล่าวคือ .... ถ้าเอาตามทฤษฎีหล่ะก็ สกิมเมอร์ที่ประสิทธิภาพดีก็ต้องใหญ่โตอลังการ สูงชะลูด แต่ .... เราก็สามารถที่จะใช้ความรู้ทางทฤษฎี ที่เปรียบเสมือนเป็นกฎ เกณฑ์ ในการพิจารณาเลือก ตัดสินเลือกสดิมเมอร์ได้ ดังนั้นจากคำถามที่ว่า เราสามารถใช้สกิมเมอร์ที่ผอมลง เตี้ยลง ไม่ตรงตามทฤษฎีเนี่ย จะยังมีประสิทธิภาพในการดัดจับของเสียได้หรือไม่อย่างไร ? ตอบได้ว่า ... ทำได้ โดยใช้เทคนิคกระบวนการต่าง ๆ ในการออกแบบสกิมเมอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน อาทิ ใช้เทคนิคการเลื่อนตำแหน่งอัดอากาศเพื่อเพิ่มระยะเวลาการสัมผัส หรือเพิ่มประสิทธิภาพของปั๊มในการอัดอากาศ หรือหาเทคนิคในการลดขนาดของฟองอากาศให้มีขนาดเล็กลงเพื่อเพิ่มการสัมผัส เป็นต้น ดังนั้น จึงนำมาสู่การทำงานของสกิมเมอร์แต่ละประ้เภท พอสรุปความได้ดังนี้ [on_066] หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [21:12:37] 1. ประเภทแรก ......... สกิมเมอร์แบบใช้เทคนิคการนำโดยอากาศ (Air driven counter-current (CC) skimmers)
ในบทความกล่าวว่า เป็นรูปแบบสกิมเมอร์แบบแรก ๆ ที่ถูกออกแบบมาใช้กับตู้ทะเล สำหรับนักเลี้ยงโดยทั่วไป หลักการง่าย ๆ คือใช้ตัวสร้างฟองอากาศที่ละเอียดในตัวสกิมเมอร์ เพื่อดักจับอนุภาคของเีสีย อันได้แก่พวกไม้ (wooden air diffusers) และใช้เครื่องเปล่าลมอัดอากาศผ่านวัสดุเหล่านี้ให้เกิดฟองอากาศขึ้น (https://upic.me/i/9v/limewood-airstone-1.jpg) (https://upic.me/show/43473288) ภาพบน คือ ไม้ที่นิยมใช้เป็นตัวทำฟองละเอียด (https://upic.me/i/4q/nano-smimmer-atb-2.gif) (https://upic.me/show/43473391) รูปแบบที่เรามักจะพบกันบ่อย ๆ นิยมใช้ในพวกตู้นาโน (https://upic.me/i/u1/atb-mini-mikro-skimmer-217x205.png) (https://upic.me/show/43473402) บางทีก็มีการนำมาใช้ในสกิมตัวใหญ่ก็มีนะครับ (https://upic.me/i/7s/leeskimmer1setup.jpg) (https://upic.me/show/43473413) (https://upic.me/i/lp/air_stone_air_driven.gif) (https://upic.me/show/43473420) (https://upic.me/i/ga/air_stone_pump_driven.gif) (https://upic.me/show/43474991) แสดงหลักการทำงานของสกิมเมอร์รูปแบบดังกล่าว (อาจเรียกชื่อไม่เหมือนกัน แต่หลักการเดียวกันครับ) ในบทความของ ด๊อกเตอร์ แฟรงค์ เค้าบอกว่า สกิมเมอร์ประเภทนี้ผลิตฟองละเอียด มีขนาดเล็กมากที่สุด จึงมีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคค่อนข้างดี แต่แลกมาด้วยการบำรุงรักษาอย่างบ่อยครั้ง (เปลี่ยนทุ่นตัวทำฟองบ่อย ๆ เพื่อให้ได้ฟองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงสุด) เป็นสกิมเมอร์ที่นัก DIYs นิยมลองหัดทำเพื่อใช้ในระบบตู้ทะเล ... ซึ่งในบทความยังอธิบายอีกว่า สกิมเมอร์ประเภทนี้ควรจะต้องมีความสูงประมาณ 28 นิ้ว ส่วนความกว้างก็ขึ้นกับปริมาณสิ่งมีชีวิตภายในตู้ และยิ่งสกิมเมอร์กว้างเท่าใด ก็ยิ่งต้องมีทุ่นทำอากาศ (airstone) เพิ่มมากขึ้นตามสัดส่วนเส้นผ่านศูนย์กลางเท่านั้น และควรเปลี่ยนทุ่นทำฟองอากาศทุกเดือนหรือสองเดือน และต้องหมั่นเชคปั๊มลมว่าสามารถทำลมได้เต็มกำลังหรือไม่ ตัวอย่างคลิปการทำงานจ้า http://www.youtube.com/watch?v=hliGZvaq3nA หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [21:33:50] 2. สกิมเมอร์แบบเวนทูรี่ (Venturi skimmers)
สกิมเมอร์ประเภทนี้ต้องอาศัยอุปกรณ์สำคัญที่เรียกว่า Venturi Injector ในการสร้างฟองอากาศขึ้นในตัวสกิมเมอร์ ดังนั้น สกิมเมอร์ประเภทนี้จึงสามารถสร้างให้มีความสูงน้อยกว่าประเภทใช้การนำโดยอากาศ ในประเภทที่ 1 โดยสกิมเมอร์ประเภทนี้ต้องอาศัย ปั๊มน้ำกำลังแรงสูง เพื่อดันน้ำผ่าน Venturi Injector ซึ่ง ตัว Venturi Injector เนี่ยมีหลักการทำงานตามภาพครับ (https://upic.me/i/5p/v3_chart.jpg) (https://upic.me/show/43473903) ดังนั้นไอ้ตัว Venturi Injector เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างฟองอากาศของสกิมเมอร์ประเภทนี้ ซึ่งการออกแบบ Venturi Injector ให้มีประสิทธิภาพก็แตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ผลิต (https://upic.me/i/47/m287b.gif) (https://upic.me/show/43473909) โดยสกิมเมอร์แบบ Venturi มีหลักการทำงานปรากฏตามภาพครับ (https://upic.me/i/ox/venturi.gif) (https://upic.me/show/43473823) (https://upic.me/i/ey/ill_venturi_system.gif) (https://upic.me/show/43473831) ที่เรารู้จักกันดีและเป็นที่นิยมในระดับหนึ่ง ก็อาทิพวก Weipro นะขอรับ [on_066] (https://upic.me/i/zw/t2ec16hhjgke9no8jeh4bqihtjeueg60_35.jpg) (https://upic.me/show/43473813) จะเห็นได้ว่าสกิมเมอร์แบบนี้จะยิ่งมีประสิทธิภาพสูง ต้องมีการออกแบบ Venturi Injector ที่ดี ควบคู่ไปกับใช้ปั๊มน้ำ อัดน้ำผ่านวาล์วที่เหมาะสม จึงจะทำให้เกิดฟองอากาศในการดักจับอนุภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 26/02/13, [21:59:39] 2.1 สกิมเมอร์แบบ Beckett-head skimmer
ที่เขียนว่าเป็นประเภท 2.1 เพราะ สกิมเมอร์ประเภทนี้ใช้เทคนิคเดียวกับ สกิมเมอร์แบบเวนทูรี่ คือ มีอุปกรณ์สำคัญเช่นเดียวกับที่สกิมเมอร์แบบเวนทูรี่มี Venturi Injector เป็นตัวสร้างฟองอากาศ แต่สกิมเมอร์แบบ Beckett-head จะเรียกว่า Beckett value หรือ injector แทน ... ซึ่งถูกออกแบบมาให้สร้างฟองอากาศได้มาก และมีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบเวนทูรี่เดิม ๆ ซึ่งความแตกต่างของตัว Injector ปรากฏตามภาพ (https://upic.me/i/xd/beckettventuricomparison.gif) (https://upic.me/show/43474196) ซึ่งการออกแบบตัว injector ใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างฟองอากาศให้สกิมเมอร์มากขึ้น (ปรากฏในบทความอีกอันของ ด๊อกเตอร์มอรีนี่ เรื่อง "การวิวัฒนาการของสกิมเมอร์" ไว้มีโอกาสจะนำมา นำเสนอใหม่) (https://upic.me/i/19/28images.jpg) (https://upic.me/show/43474208) ซึ่งการติดตั้งตัว Beckett value จะต้องติดตั้งอยู่สูงกว่าระดับของผิวน้ำ เพื่อเพิ่มระยะเวลาที่ฟองอากาศจะทำการปะทะ นี่เป็นรูปตัวอย่างสกิมเมอร์ประเภทดังกล่าวนี้ครับ (https://upic.me/i/ix/pmr-2.jpg) (https://upic.me/show/43474247) (https://upic.me/i/2z/80gallon341gr.jpg) (https://upic.me/show/43474454) ข้อสังเกตของสกิมประเภทนี้คือ จะมีกล่องด้านล่างสกิมครับ เป็นที่แยกน้ำดี และดันเอาฟองอากาศและอนุภาคของเสียขึ้นยังกระบอกของเสีย .... ในต่างประเทศมีการ DIYs สกิมเมอร์แบบนี้อยู่พอสมควรครับ ส่วนนี่เป็นลิงค์ยูทูปชมการทำงานของสกิมเมอร์ประเภทนี้ครับ ผมว่ามันก็เจ๋งดีนะ [on_026] http://www.youtube.com/watch?v=IdPAHAfw4wQ ส่วนอันนี้เป็น beckett skimmer แบบหลายหัวครับ [on_008] http://www.youtube.com/watch?v=3fhpkvDdLls หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: gapbyjung ที่ 26/02/13, [22:08:20] [เจ๋ง]เจ๋งไปเลยครับ ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล(แปลมาให้อ่านอีก..รอครับผม) [on_066]
หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: sinaz ที่ 26/02/13, [22:18:22] ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: Romeo_Pop ที่ 26/02/13, [23:17:54] เยี่ยมบวกให้เลย
หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 27/02/13, [00:59:46] 3. สกิมเมอร์แบบดาวน์ดารฟท์ (Downdraft™ skimmers )
ถูกออกแบบโดย the ETSS® เป็นสกิมเมอร์ที่ใช้ประโยชน์จากน้ำแรงดันสูงผ่านกระบอกที่บรรจุด้วย Bio-ball ซึ่งจะช่วยให้เกิดการแตกตัวเป็นฟองอากาศ และตกลงสู่กล่องเบื้องล่างก่อนจะดันตัวขึ้นกระบอกสกิม ช่วงกระบอกบรรจุ Bio-ball ที่ยาวนั้น จะช่วยเพิ่มระยะเวลาในการปะทะ มีการทำงานตามภาพนะครับ (https://upic.me/i/yg/beckettskimmer.png) (https://upic.me/show/43474204) (https://upic.me/i/0v/downdraftskimmer.jpg) (https://upic.me/show/43477008) (https://upic.me/i/tl/downdraft.gif) (https://upic.me/show/43477014) (https://upic.me/i/kv/0image003.jpg) (https://upic.me/show/43477006) นี่เป็นตัวอย่างของสกิมเมอร์แบบนี้นะครับ (https://upic.me/i/dc/downdraft20skimmer202bc5.jpg) (https://upic.me/show/43477079) ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่า สกิมเมอร์แบบดาวน์ดราฟท์มีลักษณะคล้าย ๆ กับสกิมเมอร์แบบ Beckett-head ตามที่กล่าวไปข้างต้น เพราะ downdraft พัฒนาขึ้นโดยใช้หลักกการพื้นฐานเดียวกัน จนบางกรณีเรียกว่าเป็นสกิมเมอร์แบบ Downdraft Beckett Skimmer นี่เป็นคลิปของสกิมเมอร์นะครับ แต่ผมไม่แน่ใจนักว่าเป็นแบบ Downdraft แท้ ๆ หรือเป็นแบบ Beckett [on_008] http://www.youtube.com/watch?v=Z3HwHbVXYGo สกิมเมอร์พวกนี้มักจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพราะใช้พื้นที่เยอะครับ [on_006] และต้องอาศัยปั๊มที่มีกำลังค่อนข้างสูงในดันน้ำเข้าสู่ระบบครับ หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 27/02/13, [01:25:47] 4. สกิมเมอร์แบบใช้ปั๊มปั่นสร้างฟองอากาศขนาดเล็ก (Aspirating impeller skimmers (Air Shredding))
หลักการพื้นฐานของสกิมเมอร์ประเภทนี้คือใช้ปั๊มน้ำ ที่มีลักษณะพิเศษเป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างฟองอากาศขณะเล็ก ป้อนเข้าสู่สกิมเมอร์ โดยลักษณะพิเศษที่ว่านี้คือ "ลักษณะของแกนใบพัด" [on_055] แกนใบพัดของปั๊มน้ำในสกิมเมอร์ ประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นซี่ ๆ เพื่อใช้ในการตีน้ำให้เกิดเป็นฟองอากาศที่มีขนาดเล็ก ซึ่ง ลักษณะของแกนใบพัด สามารถเรียกได้ตามรูปแบบที่แตกต่างกันดังนี้ 1. แบบ Regular Impeller (ไม่รู้จะแปลว่าอะไร เรียกทับศัพท์ไป แบบไฮโซเบา ๆ) กล่าวเป็นแกนใบพัดที่ถูกออกแบบเพื่อการตีฟองอากาศโดยเฉพาะ ดังภาพล่าง (https://upic.me/i/3y/fig7b.jpg) (https://upic.me/show/43477222) ซึ่งวัตถุประสงค์ในการใช้งานจะแตกต่างจากแกนใบพัดปกติ (ภาพถัดไป) ที่มีวัตถุประสงค์ในการผลักดันน้ำ (https://upic.me/i/vz/21017_001_xl.jpg) (https://upic.me/show/43477158) 2. แบบ Needle Wheel ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ (https://upic.me/i/ft/fig7dsm.jpg) (https://upic.me/show/43477189) 3. แบบ Pegged Wheel (https://upic.me/i/ql/fig7c.jpg) (https://upic.me/show/43477195) ตามแบบที่ 2. และ 3. จะสังเกตได้ว่าแกนใบพัดจะเป็นซี่ ๆ ใช้เพื่อตีน้ำผสมกับอากาศ เพื่อให้เกิดการสร้างฟองอากาศที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ว่าจะมีการออกแบบใบพัดในลักษณะใดก็ตาม ก็จะมีเป้าประสงค์เดียวกันคือตีน้ำเพื่อสร้างฟองอากาศให้มีขนาดเล็ก และจำนวนมากที่สุด เพื่อป้อนเข้าไปยังสกิมเมอร์ .... ดังนั้น จึงสรุปได้เลยว่า สกิมเมอร์แบบประเภทนี้ต้องการปั๊มน้ำที่มีแกนใบพัดที่มีลักษณะพิเศษตามที่กล่าวมาเท่านั้น .... หากนำปั๊มน้ำปกติมาใช้ก็จะทำให้ปั๊มไม่สามารถสร้างฟองอากาศเข้าสู่สกิมเมอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนหลักการทำงานก็คล้ายคลึงกับภาพที่ผมโพสไปข้างต้น ในส่วนหัวข้อการทำงานของสกิมเมอร์ครับ แต่อย่างไรก็ตามขอเพิ่มเติมภาพดังนี้ (https://upic.me/i/wh/aispirated.gif) (https://upic.me/show/43477227) ตัวอย่างสกิมเมอร์แบบนี้ในท้องตลาด ประเทศไทยเรา ก็มีพอสมควรครับ ผมขอยกตัวอย่างมารุ่นหนึ่งแล้วกัน ซึ่งเพื่อนสมาชิหลายท่านก็ใช้อยู่ ได้แก่ JEBO 520 โปรตีนสกิมเมอร์ (https://upic.me/i/rm/jebo520iiproteinskimmer.jpg) (https://upic.me/show/43477247) (https://upic.me/i/q1/2009937232285176.jpg) (https://upic.me/show/43477250) ที่ผมยกตัวอย่างสกิมเมอร์ของ JEBO 520 นี้ เพราะที่บ้านผมเองก็ใช้อยู่ตัวหนึ่ง 555 [on_026] ซึ่งด้วยราคาค่าตัวไม่แพง ก็ปั่นของเสียได้ในระดับที่น่าพอใจทีเดียว ... (ไม่ได้โฆษณาเน้อ) และเป็นสกิมเมอร์ที่เป็นประเภทแบบใช้ปั๊มปั่นสร้างฟองอากาศขนาดเล็ก (Aspirating impeller skimmers (Air Shredding)) อย่างชัดเจน มีอุปกรณ์สำคัญ เป็นปั๊มที่ดูดอากาศ และน้ำเข้าสู่แกนใบพัดลักษณะพิเศษที่ถูกออกแบบใช้ตีน้ำสร้างฟองอากาศโดยเฉพาะ ก่อนสร้างฟองอากาศจ่ายเข้าสู่บริเวณจุดปะทะในสกิมเมอร์ และฟองที่จับอนุภาคแล้วก็ดันเข้าสู่ถ้วยของเสียด้านบน สกิมเมอร์แบบนี้ได้รับความนิยม เพราะใช้ปั๊มที่กำลังไม่สูงมาก (เมื่อเทียบกับสกิมเมอร์ประเภทอื่น ๆ อาทิ เวนทูรี่) แต่สามารถสร้างฟองอากาศได้ละเอียด และมีจำนวนมาก .... แต่ข้อเด่นของแกนใบพัดลักษณะพิเศษ ก็กลับเป็นข้อเสียสำคัญของสกิมเมอร์ประเภทนี้เช่นกัน เพราะแกนใบพัดที่เป็นซี่เล็ก ๆ นี่มีคความทนทานในการใช้งานค่อนข้างต่ำ กว่าแกนใบพัดปกติ ดังนั้น จึงมักพบอาการที่แกนใบพัดชำรุดบ่อย ๆ [on_024] นี่เป็นภาพจากสกิมเมอร์ JEBO 520 ที่เป็นแบบใช้ปั๊มตีอากาศ ของบ้านผมเอง [on_066] (https://upic.me/i/mx/img-20130101-wa0007.jpg) (https://upic.me/show/43477281) เห็นได้ว่าปั่นของเสียได้ดีพอสมควร [on_066] หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 27/02/13, [02:00:36] (https://upic.me/i/7t/image001.jpg) (https://upic.me/show/43481107)
จากที่กล่าวถึงสกิมเมอร์ประเภทต่าง ๆ โดยสังเขปไปแล้วข้างต้นนั้น .... เมื่อพิจารณาเข้ากับกฎการทำงานของสกิมเมอร์ จะเห็นได้ว่าสกิมเมอร์แต่ละแบบก็จะมีข้อเด่น ข้อด้อยต่างกันไปดังสรุปนี้ ขอยกภาษาอังกฤษมาเพื่อกันพลาด [on_026] สกิมเมอร์แบบใช้อากาศเป็นตัวนำ (Air driven counter-current): low water flow, good foam production (with new air stones), good bubble size, maximum contact times (with taller units), frequent maintenance and requires frequent water height adjustments (called tuning) ----> การไหลของน้ำต่ำ แต่สามารถสร้างฟองที่มีขนาดเล็ก และมีประสิทธิภาพ (แต่ต้องเป็นตัวทำฟองใหม่ ๆ นะ) ระยะเวลาการสัมผัสสูสุด (ขึ้นกับความสูงของกระบอกสกิมเมอร์) แต่ก็ต้องอาศัยการดูแลรักษาในการเปลี่ยนทุ่นทำฟองบ่อย และต้องมีการปรับระยะความสูงของระดับน้ำบ่อยครั้ง [on_007] สกิมเมอร์แบบเวนทูรี่ (Venturi): good water flow, good foam production, moderate contact time, requires a powerful pump, valve tends to clog (Lifereef has a self-cleaning venturi valve) ----> การไหลของน้ำอยู่ในระดับดี สร้างโฟมได้ดี มีระยะเวลาการสัมผัสปานกลาง .. ต้องอาศัยปั๊มน้ำที่ค่อนข้างแรง และมีปัญหาคือ ตัว Venturi value มักจะอุดตันได้ [on_008] สกิมเมอร์แบบ Beckett (Beckett-head skimmer) (ประเภทหนึ่งของเวนทูรี่): high water flow, maximum bubble production, moderate contact time (swirling patterns will increase this), requires a very powerful pump, Beckett-head requires cleaning ----> การไหลของน้ำสูง สร้างฟองอาการได้เต็มที่ มีระยะเวลาการสัมผัสปานกลาง (การออกแบบที่ทำให้ฟองอากาศมีการหมุนวน จะช่วยเพิ่มเวลาการสัมผัสได้) ต้องการปั๊มน้ำที่มีกำลังสูงมาก และคล้ายกับเวนทูรี่ คือ ตัว Beckett-head value ต้องมีการทำความสะอาดบ่อย ๆ สกิมเมอร์แบบดาวน์ดราฟท์ (Downdraft™) (พัฒนารูปแบบจาก Beckett): good water flow, excellent bubble production, excellent contact time. Units tend to be tall and bulky (the ETSS 1000 is over 60 tall), require powerful pumps to create air bubbles ----> น้ำไหลผ่านดี สามารถสร้างฟองอากาศ และมีระยะเวลาการวมัผัสที่ยอดเยี่ยม แต่แลกมาด้วยขนาดของตัวสกิมเมอร์ที่สูง เทอะืทะ (อย่างรุ่น ETSS1000 สูงแค่ 60 นิ้วเอ๊งงงงง [on_008]) และก็ต้องอาศัยปั๊มน้ำที่มีกำลังสูงมากในการสร้างฟองอากาศ สกิมเมอร์แบบใช้ปั๊มสร้างฟองอากาศ (Aspirating skimmer): low to moderate water flow, good foam production, good bubble size, excellent contact time, cost-efficient, requires specialized impellor or needlewheel. The needlewheel impellors have been shown to be a weak point. ----> การไหลของน้ำอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางต่ำ สามารถสร้างโฟม และขนาดของฟองกาศได้ดี ... ระยะการเวลาการสัมผัสที่ยอดเยี่ยม ค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก แต่ก็ต้องการปั๊มน้ำที่มีแกนใบพัดชนิดพิเศษ ซึ่งกลายเป็นจุดอ่อนที่มักจะชำรุดตรงแกนใบพัดนี่แหล่ะ [on_030] หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: Pongsatorn35 ที่ 27/02/13, [03:05:24] ขอบคุณมากครับ ข้อมูลดีจริงๆเลย กดบวกไปเลย
คนดีแบบนี้แหละครับ ที่บ้านเมืองเราต้องการ แต่มีน้อยเหลือเกิ๊นน หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: sodedta ที่ 27/02/13, [06:59:10] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: ว่ากันด้วยเรื่องของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 27/02/13, [13:48:04] (https://upic.me/i/3q/proteinskimmers.jpg) (https://upic.me/show/43481482)
ต่อมา ทางบทความได้กล่าวถึงการบำรุงรักษาสกิมเมอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าสกิมเมอร์ที่เราใช้อยู่นั้น สามารถกำจัดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง !! - ควรมีการกำหนดเวลาการทำความสะิิอาดสกิมเมอร์ อาทิ ล้างถ้วยทุก 1 สัปดาห์ ล้างทั้งระบบทุกเดือน เป็นต้น - ทำความสะอาดถ้วยดักของเสียบ่อยครั้ง - ทำความสะอาดในตัวกระบอก และคอสกิมเมอร์ด้วย เพราะจะมีพวกของเสียไปเกาะติดเป็นคราบ - เวลาทำความสะอาดก็ระมัดระวัง อย่าให้ของเสียตกหล่นกลับเข้าไปยังระบบตู้ทะเล - อย่าลืมทำความสะอาดวาล์วอากาศ (ถ้ามี) บ่อย ๆ ... เช็ดเอาพวกเศษเกลือ เศษคราบต่าง ๆ ออกป้องกันการอุดตัน และให้วาล์วสามารถดูดอากาศได้อย่างเต็มที่ - ถ้าเป็นสกิมเมอร์แบบเวนทูรี่ .... ให้หมั่นเชคที่ venturi value กันการอุดตัน - ระวังพวกเศษหิน หรือตะกอนขนาดเล็กที่อาจถูกดูดเข้าไปทำอันตรายกับปั๊มสกิมเมอร์ - ถ้าเป็นสกิมเมอร์แบบใช้อากาศเป็นตัวนำ ต้องหมั่นตรวจสอบว่าทุ่นทำฟองอากาศ สามารถทำฟองได้อย่างเหมาะสมอยู่หรือไม่ - อย่าลืมตรวจสอบการทำงานของปั๊ม ว่าัยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ [on_023] จะเห็นได้ว่า จากบทความ การทำความสะอาดสกิมเมอร์มีความสำคัญ และส่งผลถึงประสิทธิภาพในการดึงของเสียออกจากระบบมาก ... ซึ่งเพื่อนสมาชิกควรจะกำหนดรอบทำความสะอาดสกิมเมอร์ สำหรับตู้ผมนั้น กำหนดรอบดังนี้ (เป็นตัวอย่างนะครับ) 1. ล้างถ้วยอย่างน้อยทุกสัปดาห์ 2. ทำความสะอาด คอและกระบอกสกิมเมอร์ เมื่อเริ่มเห็นว่ามีคราบเกาะ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครั้ง ไม่เกินนี้ 3. ทำความสะอาดทั้งระบบ คือ รื้อสกิมเมอร์ เป็นชิ้น เพื่อทำความสะอาดตะกอนภายใน ทำความสะอาดปั๊ม แกนปั๊ม อย่างน้อยเดือนละครั้ง ส่วนความรู้ใหม่ที่ได้จากบทความคือ เรื่องพวกวาล์วต่าง ๆ รวมถึงท่อลม ที่ต้องหมั่นเชคตรวจสอบว่าอุดตันหรือไม่ ดูดอากาศได้ดีอยู่หรือไม่ ........... รวมถึงควรดักตะกอนหยาบที่อาจทำความเสียหาย หรือที่อาจถูกดูดไปติดภายในตัวสกิมเมอร์ ยากต่อการทำความสะอาดออกจากระบบตู้ก่อนเข้าถึงสกิมเมอร์ คือ ใช้การกรองเบื้องต้นที่มีประสิทธิภาพ อาทิ ถุงกรอง ใยกรอง ที่ดี มีมาตรฐาน และหมั่นเชค ว่าถุงกรอง ใยกรอง เหล่านั้น อุดตัน ? หรือทำงานได้มีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: นายบรรเจิด ที่ 27/02/13, [17:29:32] ทฤษฎีเพียงเท่านั้น มันย่อมแตกต่างจากในทางปฏิบัติ [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 27/02/13, [18:49:20] มาอัพข้อมูลเพิ่มอย่างต่อเนื่อง .... [on_060]
จากการแบ่งประเภทสกิมเมอร์ตามที่ปรากฏไปแล้วนะครับ ถ้าเพื่อนสมาชิกได้ไปอ่านข้อมูลที่อื่น อาจเจอการแบ่งประเภท หรือการเรียกชื่อที่แตกต่างกันนะครับ ... แต่อย่างไรก็ตามก็จะมีลักษณะไปในแนวทางเดียวกัน [on_066] ผมได้ลองไปค้นความรู้เกี่ยวกับโปรตีนสกิมเมอร์เพิ่ม ก็พบการแบ่งประเภทสกิมเมอร์ อีกรูปแบบหนึ่ง ... ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นรูปแบบสกิมเมอร์ยุคใหม่ (Modern Skimmer) สกิมเมอร์ยุคใหม่ (Modern Skimmer) การจำแนกสกิมเมอร์ประเภทนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการนำเทคนิคของสกิมเมอร์แบบเวนทูรี่ และสกิมเมอร์แบบใช้ปั๊มสร้างฟองอากาศ มาหลอมรวมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างฟองอากาศที่มีจำนวนมากและมีขนาดเล็ก โดยใช้ปั๊มที่มีกำลังไม่สูง และตัวสกิมเมอร์ไม่ต้องมขนาดใหญ่มาก กล่าวคือ สกิมเมอร์ประเภทนี้ จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน สำคัญคือ 1. Venturi value ใช้วาล์วรีดน้ำให้เกิดแรงดันสูง มาผสมกับอากาศให้เกิดฟอง (ตามหลักการทำงานของสกิมเมอร์แบบเวนทูรี่) 2. มีปั๊มแบบใช้แกนใบพัดชนิดพิเศษ อาทิ pegged หรือ needle wheel etc. ในการปั่นให้เกิดฟองอากาศ (ตามหลักการทำงานของสกิมเมอร์แบบใช้ปั๊มสร้างฟองอากาศ ตาม ตย. ที่ยก JEBO 520 ข้างต้น) นี่คือภาพประกอบแสดงการทำงานของสกิมเมอร์ ประเภทนี้ครับ (https://upic.me/i/8w/diagram-protein-skimmer.jpg) (https://upic.me/show/43486419) จากภาพจะเห็นได้ว่า สกิมเมอร์แบบนี้ใช้ประโยชน์ จากวาล์วแบบเวนทูรี่ (1.) และปั๊มที่มีแกนชนิดพิเศษ (2.) โดยน้ำจะถูกดูดผ่านวาล์วเวนทูรี่ เพื่อรีดให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นและผสมกับอากาศ จนเกิดเป็นฟองอากาศขึ้น (ถ้าเป็นสกิมเมอร์แบบเวนทูรี่ หลังจากเกิดฟองอากาศในขั้นตอนนี้แล้ว ฟองอากาศก็จะถูกส่งเข้าตัวสกิมเมอร์ต่อไป) .... แต่ เพื่อความละเอียดของฟองอากาศ สกิมเมอร์ยุคใหม่นี้จึงใช้ปั๊มแบบที่มีแกนชนิดพิเศษ ปั่นฟองอากาศที่ผ่านเวนทูรี่อีกครั้ง ทำให้ฟงอากาศมีขนาดเล็ก ละเอียดเพิ่มมากขึ้น ก่อนที่จะส่งเข้าไปในกระบอกสกิมเมอร์ ให้ทำการปะทะจับอนุภาคของเสียต่อไป ด้วยวิธีการนี้ ปั๊มน้ำที่ใช้จึงไม่จำเป็นต้องใช้ ปั๊มที่มีกำลังสูงเหมือนสกิมเมอร์รุ่นก่อน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ อีกทั้งฟองที่ละเอียดขึ้น ก็ยิ่งทำให้มีความสามารถในการจับอนุภาคของเสียได้ดีขึ้น ซึ่งสกิมเมอร์ยุคใหม่เหล่านี้ เป็นสกิมเมอร์ที่วางตลาดจำหน่ายอย่างแพร่หลายในปัจจุบันครับ ทั้ง Bubble Magus , AE , ปลาหมึก หรือยี่ห้อดัง ๆ อย่าง Bubble King , ATI และอื่น ๆ เป็นต้นครับ [on_055] ตัวอย่างครับ (https://upic.me/i/5l/bm-cone-skimmer.jpg) (https://upic.me/show/43486604) นี่เป็นแกนใบพัดในตัวปั๊มของสกิมเมอร์ ประเภทนี้ครับ (ถ้าจำไม่ผิดตามภาพต่อไป เป็นการออกแบบเพื่อใช้ในสกิมเมอร์ของ BM) (https://upic.me/i/mt/kgrhqri4e2kvtedbnqcoi3nq_35.jpg) (https://upic.me/show/43486611) ส่วนการจัดวางตำแหน่งปั๊มว่าจะวางไว้ภายใน หรือภายนอกกระบอกสกิมเมอร์ เป็นเทคนิคการออกแบบของแต่ละบริษัทผู้ผลิตครับ ดังนั้น จุดสังเกตคือ ต้องมีวาล์ว และปั๊มที่มีแกนพิเศษนะครับ [on_026] ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน แบบไหน จัดวางปั๊มกี่ตัว ลักษณะใด ถ้ามีวาล์วกับ ใช้ปั๊มแบบแกนพิเศษ ก็แบบรูปแบบใหม่ของสกิมเมอร์ทั้งนั้นครับ (https://upic.me/i/6h/207024-bubble-king-supermarin-300-internal-d_1.jpg) (https://upic.me/show/43486739) (https://upic.me/i/i3/octopus_extreme_xs350_protein_skimmer.jpg) (https://upic.me/show/43486742) หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 28/02/13, [15:16:34] แว๊ปงานมาต่อกันอีกนิด ... [on_003]
(https://upic.me/i/1n/2qcats.jpg) (https://upic.me/show/42412123) ดังนั้น จากแนวคิดหลักการทำงานของสกิมเมอร์ที่นำเสนอโดยสังเขปไป สามารถสรุปได้ว่า โปรตีนสกิมเมอร์คืออุปกรณ์สำคัญ ที่จะช่วยรักษาคุณภาพของน้ำภายในตู้ทะเลของเรา [on_061] โดยช่วยกำจัดอนุภาคของเสียต่าง ๆ จะเป็นขี้ปลา อาหารปลา พวก DOCs หรืออนุภาคของเสียอื่น ๆ และจากกฎหลัก เกี่ยวกับการทำงานของสกิมเมอร์ จะสรุปได้ว่า สกิมเมอร์ที่ดีจะต้องมีช่วงกระบอกสกิมเมอร์ที่สูง (สูงดีกว่าเตี้ยว่างี้น) และสกิมเมอร์ต้องสามารถสร้างฟองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ฟองยิ่งเล็ก ยิ่งละเอียดยิ่งดี) ฟองอากาศขนาดเล็กจะมีความสามารถในการดัดจับอนุภาคของเสียได้ดีกว่า ดังนั้น การจะดูว่าสกิมเมอร์ของเราทำงานได้ดีหรือไม่ ก็สามารถดูได้ที่ โฟมของเสียที่สกิมเมอร์ได้สร้างขึ้นดันขึ้นมาตามกระบอกสกิมเมอร์ ตกลงถ้วยของเสียนั้นเอง โฟมของเสีย (คือฟองอากาศที่จับกับอนุภาคของเสียแล้ว ถูกผลักขึ้น และแยกตัวออกจากน้ำดี) จะต้องถูกดันขึ้นตามกระบอกสกมเมอร์ "อย่างต่อเนื่อง" และควรจะมีฟองละเอียด หนานุ่ม คล้ายกับฟองนมคาปูชิโน่เยี่ยงนั้นเลย [on_026] ผมจึง เคยได้ยินคำกล่าวของเพื่อนสมาชิกหลายท่านที่ว่า "สกิมเมอร์ดีปั่นได้โฟม สกิมเมอร์ห่วยปั่นได้แต่น้ำ" หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 28/02/13, [15:30:32] มาถึงข้อสงสัย ... อีกประเด็นหนึ่ง
"สกิมเมอร์รูปทรงโคน (Cone Skimmer) มันดีกว่า สกิมเมอร์รูปทรงปกติ (Regular Skimmer) ตรงไหน ?" ก่อนอื่น ทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า วกิมเมอร์รูปทรงโคนเนี่ย เป็นแค่การออกแบบรูปทรงของสกิมเมอร์นะครับ ไม่ใช่จัดว่าเป็นประเภทหนนึ่งของโปรตีนสกิมเมอร์ .... เพราะการจำแนกประเภทนั้น เราพิจารณาจากหลักการทำงานในการสร้างฟองอากาศ และผลักให้เกิดการปะทะกับของเสีย ดังที่นำเสนอประเภทไปแล้วข้างต้น (https://upic.me/i/45/meerwasser-technik-cone-skimmer-800.jpg) (https://upic.me/show/43497790) จากรูปตัวอย่างข้างต้น .... จะเห็นได้ว่า ด้านซ้ายมือ -------> สกิมเมอร์รูปทรงโคน ด้านขวามือ --------> สกิมเมอร์รูปทรงปกติ สกิมเมอร์ทั้งสอง ก็เป็นสกิมเมอร์ประเภทเดียวกัน ที่มีหลักการทำงานเดียวกัน แตกต่างกันเฉพาะรูปทรงการออกแบบเท่านั้นนะครับ [on_066] แต่ในท้องตลาดก็มีลูกครึ่งครับ ... การฟีเจอริ่งกันระหว่างสกิมเมอร์แบบโคนและแบบปกติ ... ออกมาเป็น สกิมเมอร์แบบกึ่งโคน (Half Cone Skimmer) ตามภาพครับ (https://upic.me/i/fo/p-79697-fish.jpg) (https://upic.me/show/43497814) แล้ว โคน หรือไม่โคน ดูยังไง ??? ตอบว่า ... เอาง่าย ๆ ดูตรงกระบอก และตัวของสกิมเมอร์ แหล่ะครับ .... ถ้าเป็นทรงกระบอก สูงขึ้นไป ก็เป็นแบบปกติ .. แต่ถ้าความกว้างของกระบอกค่อย ๆ เล็กลงตามความสูงของกระบอกสกิมเมอร์ ตั้งแต่ฐานจรดปากกระบอก ก็เป็นแบบโคน ส่วนลูกครึ่ง ก็จะมีส่วนหนึ่งเป็นกระบอก และอีกส่วนหนึ่งที่สูงขึ้นก็จะเริ่มหดความกว้างลง เหมือนแบบโคน (ดูรูปจะเข้าใจง่ายกว่าเนอะ [on_065]) หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: นายบรรเจิด ที่ 28/02/13, [16:25:20] ถ้าเป็นไปได้ขอข้อมูลเรืองการใส่ โอโซน ในสกิมเมอร์ครับ ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 28/02/13, [16:36:47] ถ้าเป็นไปได้ขอข้อมูลเรืองการใส่ โอโซน ในสกิมเมอร์ครับ ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ รับทราบครับคุณเจิด .. เป็นประเด็นน่าสนใจเหมือนกันครับ ตอนผม เสิจอ่านบทความ จำได้ว่าผ่านตาอยู่เหมือนกันครับ โดผู้เลี้ยงใน ตปท. ใช้การใส่สารเคมีที่เป็นประโยชน์ หรือแม้แต่โอโซน ไปพร้อมกับการตีฟองอากาศของสกิมเมอร์ ... น่าจะเป็นการป้อนสู่สกิมเมอร์ผ่านทาง venturi value เป็นต้น ครับ เดี๋ยวผมจะลองสืบค้นมาเรียบเรียงให้ครับ ยังเหลือประเด็นเรื่องสกิมเมอ์ น่าสนใจอีกเยอะครับ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: aquamedical_fraghouse ที่ 28/02/13, [19:52:12] บทความดีครับ รออ่านต่อเหมือนยังไม่จบ
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 01/03/13, [08:55:22] บทความดีครับ รออ่านต่อเหมือนยังไม่จบ [on_024] ขออภัยด้วยครับ ค่อย ๆ ทยอยค้นหาข้อมูลดี ๆ และเอามาเรียบเรียงกัน อาจจะขาดช่วง ขาดตอนกันบ้าง แต่อย่าลืมติดตามชมครับ ... ว่าด้วยสกิมเมอร์นี่ยาวจริง ๆ [on_008] มีเรื่องน่าสนใจ และที่ยังเป็นข้อสงสัยกันอีกมากครับ (https://upic.me/i/4u/snow-flyer.jpg) (https://upic.me/show/43507862) มาต่อกันเรื่อง Cone Skimmer ครับ การที่สกิมเมอร์รูปทรงโคน ได้เข้ามาเป็นรูปแบบของสกิมเมอร์ล่าสุด ที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดในปัจจุบัน ... การที่จะพิจารณาว่าสกิมเมอร์รูปทรงโคนเนี่ย มันมีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นกว่าสกิมเมอร์แต่ก่อนหรือไม่ อย่างไรนั้น ??? ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็สามารถตอบได้ว่า "ดีขึ้น" [on_026] เพราะมันเป็นรุ่นล่าสุด ถ้ามันไม่ดีขึ้น แล้วผู้ผลิตต่าง ๆ จะออกแบบมันขึ้นมาใหมาทำไมหล่ะ !?? จากบทความเรื่อง (Cone Skimmers-Fad or Function) โดย Michael Rice ได้ให้ทรรศนะ และข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโปรตีนสกิมเมอร์รูปทรงโคน พอสรุปใจความได้ว่า ข้อเท็จจริงของรูปทรงโคนถูกออกแบบมา เพื่อตอบจุดประสงค์ในการลดความผันผวน (turbulence) ของฟองอากาศในการจับอนุภาคของเสียของสกิมเมอร์ และเพิ่มระยะเวลาในการทำปฏิกริยา (reaction time) (The fact is that they are a very well thought out design aimed at reducing performance robbing turbulence and increasing reaction time.) Skimmer turbulence and reaction time: จุดประสงค์หลักของโปรตีนสกิมเมอร์ ก็ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วครับ คือ เพื่อนำอนุภาคอินทรีย์ที่เป็นของเสียออกจากระบบตู้ทะเล โดยการใช้ฟองอากาศดัดจับอนุภาคของเสีย ภายในพื้นที่ปะทะ หรือภายในตัวสกิมเมอร์ .... แต่ไอ้อนุภาคของเสียที่มันปะปนอยู่ในน้ำเนี่ย มันก็มีหลายรูปแบบ บางตัวจับกับฟองอากาศได้ง่าย บางตัวดื้อหน่อยก็ยาก [on_055] ไอ้อนุภาคตัวที่จับกับฟองอากาศง่าย ... ก็ใช้เวลาน้อยในการทำปฏิกริยา หรือการปะทะจับกับฟองอากาศ แต่ ... ก็มีไอ้อนุภาคอีกหลายตัว ที่นิสัยไม่ดี ที่จับตัวกับฟองอากาศยาก ทำให้ต้องใช้เวลานานในการจับกับฟองอากาศ ดังนั้น โปรตีนสกิมเมอร์ที่มีประสิทธิภาพในการดัดจับของเสียที่ดี จะต้องสามารถดักเอาพวกอนุภาคนิสัยเสีย ที่จับฟองอากาศยากเนี่ยให้ออกจากน้ำให้มากที่สุด ก็ต้องเป็นสกิมเมอร์ที่ถูกออกแบบให้ลดความผันผวนให้นอยที่สุด และเพิ่มระยะเวลาการปะทะ หรือการทำปฏิกริยาให้สูงที่สุด (minimize turbulence and maximize reaction time) ความผันผวน (turbulence) จะเป็นตัวลดประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคของเสีย โดยความผันผวนจะเข้าไปทำลายพันธะ หรือแรงยึดเหนี่ยว (bond) ระหว่างอนุภาคของเสียกับฟองอากาศ (เอาง่าย ๆ ตามประสา คือ ความผันผวนที่เกิดขึ้นจะไป วุ่นวายขัดแข้ง ขัดขา อนุภาคของเสียที่กำลังจะไปจับกับฟองอากาศ) ในขณะที่สกิมเมอร์ที่ออกแบบรูปทรง หรือกระบอกสกิมเมอร์ที่ดีแล้ว จะช่วยลดความผันผวนที่เกิดขึ้นภายในจุดปะทะ จึงทำให้อนุภาคของเสียที่จับกับฟองอากาศยาก (กลุ่มนิสัยเสีย) สามารถอยู่ในจุดปะทะได้นานขึ้น เพื่อให้มีเวลาในการที่ฟองอากาศจะจับกับอนุภาคของเสียเหล่านั้น และถูกกำจัดออกจากน้ำ ที่กล่าวไป ทำให้พิจารณาได้ว่า อนุภาคนิสัยเสีย ที่จับตัวยาก จึงต้องการเวลาการปะทะนาน และความผันผวนในจุดปะทะที่น้อย จึงจะสามารถทำให้ถูกฟองอากาศดัดจับออกไปจากระบบได้ Cone vs. Cylinder: เมื่อแบบรูปทรงโคน เผชิญหน้ากับรูปทรงแบบปกติ จากเรื่องความผันผวน และระยะเวลาการปะทะ จึงทำให้สกิมเมอร์รูปทรงโคน มีความได้เปรียบเหนือสกิมเมอร์รูปทรงปกติ กล่าวคือ สกิมเมอร์รูปทรงโคนถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้ช่วยลดความผันผวนในจุดปะทะ และเพิ่มระยะเวลาการปะทะ หรือการทำปฏิกริยาให้มากขึ้น (cone skimmers both reduce turbulence and increase reaction time.) โดยการออกแบบรูปทรงสกิมเมอร์นั้น จะบังคับฟองอากาศให้อยู่ในบริเวณเฉพาะ และบีบให้ฟองอากาศเดินทางเป็นเส้นตรง ขึ้นไปยังบริเวณคอสกิมเมอร์ ด้วยการนี้ ทำให้ลดความผันผวนของฟองอากาศที่จะเกิดขึ้นได้จากการออกแบบสกิมเมอร์รูปทรงแบบเดิม ๆ อีกทั้ง การที่สกิมเมอร์รูปทรงโคน ที่สังเกตได้ว่าจะมีลักษณะคอดลง ตรงคอสกิมเมอร์ จะเพิ่มระยะเวลาในการปะทะ หรือทำปฏิกริยาเพิ่มขึ้น จากการที่ฟองอากาศไปชะลอตัวลงแย่งกันขึ้นไปยังคอสกิมเมอร์ (นึกเอาครับ เหมือนรถวิ่งเป็นเส้นตรงจาก 8 เลน เหลือ 2 เลน รถจึงชะลอตัวลง ทำให้มีระยะเวลาในการปะทะเพิ่มขึ้น) เข้าใจง่ายไหมเอ่ย ??? [on_055] Which is right for you? แล้วแบบไหนหล่ะที่เหมาะกับเรา ??? ถึงตรงจุดนี้ คงสามารถสรุปได้ไม่ยากนักครับว่า เมื่อเทียบหมัดต่อหมัดแล้ว "สกิมเมอร์รูปทรงโคนได้เปรียบ สกิมเมอร์รูปทรงปกติแทบทุกประตู" แต่ อย่างไรก็ตาม ก็ปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาครับ มิใช่เฉพาะแค่รูปทรงสกิมเมอร์อย่างเดียวเท่านั้น อาทิ ประเภทของสกิมเมอร์ (เวนทูรี่ ปั๊มปั่นอากาศ ดาวน์ดราฟท์ ฯลฯ) ขนาดของตัวสกิมเมอร์ ขนาด/ความแรงของปั๊ม อัตราการโฟลว์น้ำผ่านสกิมเมอร์ อัตราการโฟลว์ของอากาศ ... ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการดัดจับของเสียของสกิมเมอร์ทั้งนั้นครับ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าสมมติมีสกิมเมอร์อยู่ 2 ตัว ที่เรากำลังพิจารณาตัดสินใจเลือกอยู่นั้น ทั้งขนาดปั๊ม อัตราการไหลของน้ำและอากาศ ขนาดสกิมเมอร์ หรือปัจจัยยิบย่อยอื่น ๆ แตกต่างกันไม่มาก หรือเท่ากันแล้ว .... แต่มีความต่างที่ว่า สกิมเมอร์ตัวหนึ่งเป็นทรงโคน แต่อีกตัวทรงธรรมดา เลือกทรงโคน ไปเลยครับ ......... ฟันธง [on_026] ไขข้อข้องใจเรื่องรูปทรงโคนของสกิมเมอร์ กันไปแล้วนะครับ .... เดี๋ยวมาต่อ เรื่องน่ารู้ของสกิมเมอร์ ประเด็นอื่น ๆ กันนะครับ [on_066] อย่าลืมติดตามชม และให้กำลังใจกันนะคร้าบบบ (ทำยังกะรายการทีวี ) หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: aquamedical_fraghouse ที่ 01/03/13, [13:35:45] ขอเสริมให้นิดนึงนะเห็นว่าเข้าเรื่องอยู่เลย
cone skimmer เริ่มแนวคิดมาจาก Mixing chamber ที่ใช้ในการผสมโอโซนหรือทำปฏิกริยาออกซิเจนอิ่มตัวในงานบำบัดน้ำเสียซึ่งมักเป็นรูปทรงหยดน้ำ เพื่อใช้หน่วงเวลาตามที่บทความว่าด้านบนครับ และผมก็ยังรออ่านต่อไป ^^ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 01/03/13, [16:19:11] ขอเสริมให้นิดนึงนะเห็นว่าเข้าเรื่องอยู่เลย cone skimmer เริ่มแนวคิดมาจาก Mixing chamber ที่ใช้ในการผสมโอโซนหรือทำปฏิกริยาออกซิเจนอิ่มตัวในงานบำบัดน้ำเสียซึ่งมักเป็นรูปทรงหยดน้ำ เพื่อใช้หน่วงเวลาตามที่บทความว่าด้านบนครับ และผมก็ยังรออ่านต่อไป ^^ ขอบคุณที่ช่วยแชร์ความรู้นะครับ ประเด็นดังกล่าวผมก็ไม่ทราบมาก่อนเหมือนกัน [on_026] ช่วย ๆ กัน แชร์เรื่องความรู้ข้อมูล ข้อสงสัย ปัญหาของโปรตีนสกิมเมอร์ จะได้มีความสุขกับการเลี้ยงตู้ทะเลอย่างเต็มที่ กำลังติดงานครับ เดี๋ยวค่ำ ๆ มาต่อเรื่อง ตำแหน่งที่เหมาะสมในการจัดวางสกิมเมอร์ เพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด [on_066] กับเรื่องที่เพื่อนสมาชิกถามเรื่อง การใช้โอโซนร่วมกับสกิมเมอร์ ... รวมถึง เทคนิคการเลือกซื้อสกิมเมอร์ที่เหมาะสม และ คำถามที่ว่า -----> โอเวอร์สกิมฯ ดีจริงไหม ? แล้วควรโอเวอร์เท่าใด ? [on_018] นั่งค้นไว้เยอะอยู่ ต้องมาไล่ ๆ แปล และเรียบเรียงเอา หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 02/03/13, [03:02:29] ตามที่เกริ่นเรื่องข้อสงสัยในเรื่อง "ตำแหน่งที่เหมาะสมในการจัดวางสกิมเมอร์ เพื่อให้สกิมเมอร์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ!"
ก่อนอื่นผมเห็นควรว่าจะต้องนำเสนอ การจำแนกประเภทของสกิมเมอร์อีกรูปแบบหนึ่ง นอกเหนือจากการจำแนกตามลักษณะการสร้างฟองอากาศในการดักจับของเสียตามที่กล่าวไป สกิมเมอร์ยังสามารถจำแนกตาม "ลักษณะของการติดตั้ง" สกิมเมอร์ในการใช้งานในระบบ โดยที่สืบค้นคร่าว ๆ พบว่าในปัจจุัับัน สามารถจำแนกลักษณะการติดตั้งได้ ดังนี้ 1. สกิมเมอร์แบบแขวนในตู้ (Hang In Skimmer) 2. สกิมเมอร์แบบแขวนหลังตู้ (หรือนอกตู้) (Hang On Back Skimmer: HOB) 3. สกิมเมอร์แบบติดตั้งภายใน (Internal Skimmer) 4. สกิมเมอร์แบบติดตั้งภายนอก (External Skimmer) -------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สกิมเมอร์แบบแขวนในตู้ (Hang In Skimmer) เป็นสกิมเมอร์รูปแบบแรก ๆ ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้กับในวงการตู้ทะเล ... เริ่มพัฒนามาจากการใช้ แบบทุ่นสร้างฟองอากาศผ่านตัวสกิมเมอร์ ฯ (ลองไปอ่านในเรื่อง สกิมเมอร์แบบใช้อากาศเป็นตัวนำ) จนมีการนำเทคนิคแบบอื่นมาใช้ โดยสกิมเมอร์แบบแขวนในตู้นั้น ตัวสกิมเมอร์ทั้งหมดจะถูกติดตั้งอยู่ภายในตู้ปลา (ไม่ว่าจะเป็นตู้หลัก ตู้กรอง ก็ตาม) และอาศัยตัวยึดเกาะไว้กับขอบตู้ปลา ... ดังตัวอย่างสกิมเมอร์ที่เรารู้จักกันดีครับ BM Nac QQ เป็นต้น (https://upic.me/i/td/ybmqq.jpg) (https://upic.me/show/24258250) (https://upic.me/i/x5/16302.jpg) (https://upic.me/show/43520434) ตามภาพนะครับ ตัวสกิมเมอร์แบบนี้ จะถูกแขวนไว้ภายในตู้ปลาครับ ปัญหาที่มักจะพบจากการใช้งานสกิมเมอร์ประเภทนี้ คือ เกิด "ฟองอากาศ" ขนาดเล็กภายในตู้ปลา [on_007] อันจะเป็นปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะผู้เลี้ยงที่ติดตั้งตัวสกิมเมอร์ไว้ในตู้หลัก .... การแก้ไข อาจต้องพิจารณาเป็นกรณีไป เพื่อดูว่าฟองอากาศเกิดจากส่วนใด แต่ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากแรงปะทะของน้ำที่ออกจากสกิมเมอร์ กับน้ำในตู้ .. สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยใช้ฟองน้ำหุ้มทางน้ำออก หรือปรับระดับการจุ่มน้ำของตัวสกิมเมอร์ แต่ข้อดี ก็คือติดตั้งง่าย กระทัดรัด ไม่ตั้งกลัวปัญหาพื้นเปียก [on_026] ในส่วนตำแหน่งการติดตั้งสกิมเมอร์ประเภทนี้ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ผมจะเรียบเรียงมานำเสนอต่อไป เพราะมีปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในภาพรวมนะครับ [on_066] หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 02/03/13, [03:22:47] 2. สกิมเมอร์แบบแขวนหลังตู้ (หรือนอกตู้) (Hang On Back Skimmer: HOB)
สกิมเมอร์แบบนี้คล้ายคลึงกับสกิมเมอร์แบบแขวนในตู้ แต่แตกต่างตรงที่ "ตัว หรือกระบอกสกิมเมอร์" จะถูกติดตั้งอยู่ภายนอกตู้ (ไม่ว่าจะเป็นตู้หลัก ตู้กรอง ก็ตาม) และอาศัยตัวยึดเกาะไว้กับขอบตู้ปลา แต่สกิมเมอร์ประเภทนี้ บางผู้ผลิตออกแบบให้ตัวปั๊มน้ำถูกติดตั้งภายในตู้ ก่อนจะสูบน้ำผ่านท่อ และสร้างฟองอากาศเข้าตัวสกิมเมอร์ที่แขวนอยู่ภายนอก ดังตัวอย่างสกิมเมอร์ตามภาพ Weipro ยอดนิยมของคนไทย [on_026] (https://upic.me/i/qc/weipro-2013-protein-skimmer-1005-06-eaquamarine1.jpg) (https://upic.me/show/43520485) (https://upic.me/i/9c/atb-hang-on-back.jpg) (https://upic.me/show/43520494) (https://upic.me/i/ik/aqua-medic-turboflotor-1000-blue-hang-on-skimmer-1.jpg) (https://upic.me/show/43520495) และบางผู้ผลิต ก็ออกแบบให้ปั๊มน้ำอยู่ภายนอกตู้ มีเพียงท่อทางน้ำเข้าที่ถูกติดตั้งให้หย่อนไปในตู้เท่านั้น (ตามภาพ) (https://upic.me/i/5e/atb-hang-on-1.jpg) (https://upic.me/show/43520476) (https://upic.me/i/8z/kz-hang-on-skimmer.jpg) (https://upic.me/show/43520477) (https://upic.me/i/qa/p-70091-59947-fish.jpg) (https://upic.me/show/43520478) การออกแบบการจัดวางปั๊มทั้ง 2 กรณีย่อยที่กล่าวมานี้ ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้เทคนิคการสร้างฟองอากาศของสกิมเมอร์ รวมถึงประสิทธิภาพของปั๊มแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อที่สามารถทำงานได้เมื่อต้องจุ่มน้ำ หรือบางรุ่นใช้เพียงท่อนำน้ำก็สามารถทำงานได้ จุดเด่นของสกิมเมอร์ประเภทนี้ คือ ติดตั้งได้ง่าย ไม่ใช่พื้นที่ติดตั้งมาก (แต่ผมว่าก็แอบเกะกะข้างตู้เหมือนกันนะ) สามารถพัฒนารูปทรง และนำเทคนิคการสร้างฟองอากาศ หรือการปะทะจับอนุภาคต่าง ๆ มาใช้ในการออกแบบสกิมเมอร์ ได้หลากหลายกว่าแบบแขวนในตู้ ... มีขนาดไล่เรียงตั้งแต่เล็กไปถึงใหญ่ ข้อเสียสำคัญ ที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านเคยประสบด้วยตนเอง คือ "น้ำท่วม" เพราะการที่ตัวสกิมเมอร์ถูกแขวนไว้นอกตู้ บางครั้งหากผู้เลี้ยงไม่ได้ตรวจสอบระดับน้ำในสกิมเมอร์ให้เหมาะสมแล้ว อาจเจอภาวะัปั๊มสกิมเมอร์ดูดน้ำล้นทะลักออกตัวสกิมเมอร์ได้ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 03/03/13, [02:13:04] 3. สกิมเมอร์แบบติดตั้งภายใน (Internal Skimmer)
สกิมเมอร์แบบนี้ เป็นประเภทที่ต้องติดตั้งภายในตู้กรอง อาจเรียกได้อีกอย่างว่า เป็นสกิมเมอร์แบบติดตั้งบนพื้นภายในกรอง (Internal On Floor Skimmer) ซึ่งตัวสกิมเมอร์ทั้งหมดจะแช่อยู่ภายในน้ำในตู้กรอง ดังตัวอย่างตามภาพ (https://upic.me/i/f3/rdc-1800_2.jpg) (https://upic.me/show/43535820) (https://upic.me/i/wh/95603.jpg) (https://upic.me/show/43535822) สกิมเมอร์ ประเภทนี้ต้องอาศัยพื้นที่ภายในตู้กรอง ในการจัดวาง ข้อดีของสกิมเมอร์แบบติดตั้งภายในตู้กรอง คือ จะมีประสิทธิภาพสูงมากกว่าแบบแขวน แต่ก็แลกมาด้วยขนาดของสกิมเมอร์ที่เพิ่มขึ้น ไม่ต้องกังวลปัญหากับ "ปัญหาน้ำท่วม" ... สภาพดูเรียบร้อยไม่เกะกะข้างตู้ หรือนอกตู้ ข้อเสียที่ผมได้ลองค้นหาตามคำวิจารณ์ และข้อมูลจากผู้ใช้ตามเวปนอกต่าง ๆ ก็พอสรุปได้ว่า สกิมเมอร์แบบติดตั้งภายในมีจุดยิบย่อยที่ต้องพิจารณามาก อาทิ - พื้นที่ภายในตู้กรองในการจัดวาง ซึ่งหลายกรณีตัวสกิมเมอร์อาจใหญ่กว่าตู้กรอง ยัดลงไม่ได้ - ติดปัญหาการติดตั้งสกิมเมอร์ เพราะติดกับความสูงของกรองกับขาตู้ (ถ้ามี) ทำให้ถ้าสกิมเมอร์มีขนาดใหญ่ ไม่สามารถลอดช่องว่างระหว่างตู้กรองกับขาตู้ เพื่อติดตั้ง (ถ้าตู้กรองแยกต่างหากไม่ อยู่ใต้ตู้หลัก หรือออกแบบช่องว่างได้สูง ก็รอดไป) - การติดตั้งต้องคำนึงถึงระดับน้ำในตู้กรองเสมอ !! .... อาทิ ถ้าระดับน้ำในตู้กรองสูง 14 นิ้ว ก็อาจมีผลต่อการใช้สกิมเมอร์บางประเภทที่ต้องการระดับน้ำไม่สูงนักเช่น Nac7 ส่งผลทำให้ระดับน้ำในสกิมเมอร์สูงขึ้น การแก้จึงต้อง DIY ให้ตัวสกิมเมอร์อยู่สูงขึ้นในระดับที่ต้องการ - ระดับน้ำในตู้กรอง ควรมีระดับที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ... เพราะตู้กรองของเราระดับน้ำอาจมากขึ้น หรือลดลงได้ ทั้งจากการระเหย หรือเติมน้ำใหม่ ถ้าระดับน้ำตู้กรองเกิดเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเราไม่สังเกต ... ก็จะส่งผลต่อระดับน้ำในสกิมเมอร์เช่นกัน - การที่ตัวสกิมเมอร์จุ่มอยู่ในน้ำ จึงส่งผลทำให้เป็นการเพิ่มอุณหภูมิในระบบ - ไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำไหลเข้าสกิมเมอร์ได้ - นักเลี้ยงบางคนก็ว่า มันเสียพื้นที่ในกรองล่าง ... อยากเอาพื้นที่กรองล่างไปเลี้ยงสาหร่าย ทำที่พักปลาเสียมากกว่า ข้อเสีย หรือข้อความระวังเพียบ [on_051] ... เป็นข้อคิดเห็นที่รวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองพิจารณากันดูนะครับ แต่ในทรรศนะส่วนตัวของผม ก็ยังชอบสกิมเมอร์แบบติดตั้งภายใน เพราะมันไม่เกะกะ [on_026] และไม่กลัวน้ำท่วมนี่แหล่ะครับ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 03/03/13, [02:32:41] 4. สกิมเมอร์แบบติดตั้งภายนอก (External Skimmer)
เป็นสกิมเมอร์ที่ติดตั้งไว้ภายนอกตู้ แต่จุดสำคัญของสกิมเมอร์ประเภทนี้คือ "ต้องการปั๊มน้ำที่ต้องดูดน้ำจากระบบ เข้าไปทำงานในสกิมเมอร์" ... สกิมเมอร์แบบภายนอกส่วนมากจะมีขนาดใหญ่ สามารถทำน้ำได้ปริมาณมาก ดังตัวอย่างตามภาพครับ (https://upic.me/i/3s/10fa46ca098d04ee3e6f056a0546f12b.jpg) (https://upic.me/show/43535969) (https://upic.me/i/9k/bm460e.png) (https://upic.me/show/43535971) ข้อดีของสกิมเมอร์ประเภทนี้ คือ ... ไม่เกะกะภายในตู้กรอง ไม่ต้องกังวลว่าจะติดตั้งภายในระบบตู้ได้หรือไม่ เหมือนแบบติดตั้งภายใน .... และที่นักเลี้ยงหลายคนเห็นว่าเป็นจุดเด่นคือ สามารถควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสกิมเมอร์ได้ ข้อเสียหรือข้อจำกัดบางประการของสกิมเมอร์ประเภทนี้คือ - ต้องอาศํยปั๊มน้ำในการดึงน้ำจากระบบตู้ เข้าสู่สกิมเมอร์ - การติดตั้งค่อนข้างยุ่งยาก ต้องมีการพิจารณาการนำน้ำจากระบบเข้า และทางน้ำออก หลายกรณีต้องมีการเดินท่อให้มีความเหมาะสม - มักมีราคาค่าตัวค่อนข้างสูง - อาจประสบกับปัญหา "น้ำท่วม" ได้หากมีปัญหาในการปรับระดับน้ำ และปัญหาตามข้อต่อต่าง ๆ - เกะกะพื้นที่บริเวณภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม .... ในบางกรณีผู้เลี้ยงหลายคน ก็นำสกิมเมอร์แบบติดตั้งภายนอก ไปติดตั้งภายในตู้กรอง เหมือนกับสกิมเมอร์แบบติดตั้งภายในเช่นกัน [on_066] หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: thepgung ที่ 03/03/13, [08:58:55] เยี่ยมเลยครับ ต่อไปขอเป็นเรื่อง Remover ทั้งหลายด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: keang555 ที่ 03/03/13, [19:42:57] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 03/03/13, [19:50:15] ขออภัยที่โพสขาดตอนนะครับ
เผอิญผมกำลังจัดการกับกรองล่างอยู่ เนื่องจากซื้อสกิมเมอร์ C7 ของใหม่อีก 1 ตัว เพราะแอบได้ยินเสียงข่าวลือว่าของขาดตลาด เลยจัดมาอยู่ในกรองล่างเป็น 3 สหาย BM C7 .... แต่ประสบปัญหาที่ C7 ตัวใหม่จูนระดับน้ำในตัวสกิมเมอร์ยากมาก [on_051] ... ระดับน้ำมักจะพุ่งเลยถ้วยเสมอ ๆ แม้ว่าจะปรับระดับต่ำสุดแล้วก็ตาม [on_007] ทั้ง ๆ ที่ C7 สองตัวแรกไม่ประสบปัญหาดังกล่าว เลยนั่งไล่ไปไล่มา พบว่าสกิมเมอร์ C7 ตัวใหม่นั้น ได้ให้ปั๊มสกิมเมอร์รุ่น SP4000 มาให้ [on_008] ทั้งที่ควรเป็นปั๊ม SP2000 แต่ไอ้ตัว SP4000 เนี่ย มันเป็นปั๊มที่ประจำการอยู่ใน BM C9 [on_065] มิน่าหล่ะจูนระดับน้ำไม่ได้สักที ล้นกระบอกตลอด คงเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค ไม่รู้ว่าจะเป็นคราวดี หรือคราวเคราะห์ เดี๋ยวไล่ลองปรับดูก่ิอน ว่ามีประสิทธิภาพประมาณไหน เดี๋ยวผมจะทยอยอัพต่อเนื่องให้วันละเรื่อง สองเรื่องนะครับ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 03/03/13, [23:24:19] "ตำแหน่งที่เหมาะสมในการจัดวางสกิมเมอร์ เพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด"
ถ้าเพื่อนสมาชิกได้ติดตามอ่านเรื่องราวของสกิมเมอร์ ตั้งแต่เริ่มแรก ... พอมาถึง ณ จุดนี้ทุกท่านก็พอจะทราบแล้วว่า สกิมเมอร์ คืออะไร? มีหลักการทำงานอย่างไร? การจำแนกประเภทของสกิมเมอร์ ข้อดีข้อด้อยของแต่ละประเภท? จากการประมวลข้อมูลตามที่ผ่านมาแล้ว ก็พอที่จะช่วยในการเลือกการจัดวางตำแหน่งของสกิมเมอร์ในระบบของเราได้ โดยอาศัยการเข้าใจหลักการทำงานของสกิมเมอร์ และการออกแบบระบบของตู้แต่ละตู้ ซึ่งผมขออนุญาตหยิบยกมานำเสนอดังนี้ ถ้าเปรียบเปรย ----> สกิมเมอร์ เปรียบเหมือนกับเครื่องดูดฝุ่น ... และ น้ำในระบบเราทั้งหมดก็เปรียบเสมือนกับเป็นห้อง ๆ หนึ่ง ถ้าห้ิองใหญ่ มีพื้นที่เยอะมาก ........ ก็ต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีกำลังในการทำความสะอาดมาก ซึ่งก็เช่นเดียวกัน ถ้าน้ำในระบบมีมาก สกิมเมอร์ก็ควรมีประสิทธิภาพที่จะทำน้ำได้เหมาะสมกับขนาดตู้ <-------------- เป็นประเด็นที่จะนำเสนอในเรื่องการ Over Skimming ต่อไปครับ ถ้าห้องมีขนาดใหญ่ ....... แต่เราใช้เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กหล่ะ จะได้ไหม ? ตอบครับว่า "ได้" แต่มันก็ทำความสะอาดได้ช้า ... กว่าจะทำความสะอาดในแต่ละจุดในห้องให้สะอาดได้ จุดอื่นความสกปรกก็สะสมแล้ว .. และไอ้ที่เพิ่งทำความสะอาดไปหยก ๆ ก็เริ่มสกปรกใหม่อีก ...... ก็เช่นเดียวกัน ถ้าน้ำในระบบมีเยอะ แต่สกิมเมอร์สามารถทำน้ำได้น้อย ... กว่าตัวมันเองจะทำความสะอาดน้ำได้ปริมาตรเท่าทั้งระบบ ป่านนั้นน้ำก็สกปรกหมักหมมไปนักต่อนักแล้ว แต่ .... การเปรียบเปรย สกิมเมอร์ เป็นเครื่องดูดฝุ่นนั้น ก็เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่อยู่นิ่งอยู่กับที่ .... กล่าวคือ เหมือนเราเอาเครื่องดูดฝุ่นไปวางไว้ที่มุมใด มุมหนึ่งของห้องนั่นแหล่ะครับ ดังนั้น .... หลักประการแรก ๆ ที่เราต้องคำนึงถึงในการจัดวางสกิมเมอร์คือ 1. การจัดกระแสน้ำในระบบให้พัดพาของเสียผ่านสกิมเมอร์ให้ได้มากที่สุด กลายเป็นว่า เรื่องการจัดกระแสน้ำเข้ามามีส่วนสำคัญในการจัดของเสียอีก ซึ่งการจัดกระแสน้ำก็กลายเป็นศิลปะหนึ่ง ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละบริบทตู้ อันจะต้องว่ากันอีกยาวววว [on_051] ตามข้อ 1. นั้น ลองจินตนาการว่า ถ้าเราเอาสกิมเมอร์วางไว้ในจุดใดจุดหนึ่งในระบบ จะในหรือนอกตู้ก็ตาม ... แต่เราไม่สามารถจัดระบบให้น้ำที่ยังไม่ผ่านการบำบัดผ่านสกิมเมอร์ให้ได้มากที่สุดแล้ว .... ก็เหมือนกับดูดฝุ่นอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง แม้เครื่องดูดฝุ่นจะดีเพียงใด ก็ทำความสะอาดมุมห้องนั้นได้เอี่ยมอ่อง แค่มุมเดียว .... 2. ควรมีการกรองของเสียหยาบ ออกจากระบบก่อนผ่านเข้าสกิมเมอร์ กล่าวคือ ตามหน้าที่ของสกิมเมอร์ที่ทำหน้าที่กำจัดอนุภาคของเสีย จำพวกสารอินทรีย์ที่ละลายน้ำต่าง ๆ ด้วยวิธีการยึดจับอนุภาคโดยฟองอากาศ ตามที่กล่าวไปแล้วนั้น .... จะเห็นได้ว่า สกิมเมอร์ ... ไม่สามารถจัดการกับตะกอนหยาบได้ อาทิ ฝุ่นละออง เศษตะกอนหินเป็น ปะการัง (ไม่นับพวกเศษละอองขนาดเล็กมาก ๆ นะครับ) ถ้าในน้ำมีเศษเหล่านี้ปะปน ในบางกรณีก็จะถูกปั๊มสกิมเมอร์ดูดเข้าไปในระบบ แต่ตะกอนก็จะตกค้างอยู่ภายในตัวสกิมเมอร์ เพราะไม่สามารถถูกฟองดักจับได้ และไม่สามารถผ่านทางน้ำดีออกจากสกิมเมอร์ไปได้ ฝุ่นละออง เศษตะกอนเหล่านี้อาจเข้าไปขัดขวางการทำงานของสกิมเมอร์ ถ้าสกิมเมอร์เป็นระบบใช้ปั๊มแบบแกนพิเศษ ตะกอนที่ถูกปั๊มดูดเ้ข้าไปถ้ามีขนาดใหญ่อาจไปกระทบกับตัวใบพัดทำให้เกิดแกนใบพัดหักได้ และเศษตะกอนจะเข้าไปตกค้างในตัวสกิมเมอร์ตามที่กล่าวไป ดังนั้น เราควรมีการ "กรองหยาบ" น้ำในระบบเสียก่อน อาจจะใช้ใยกรอง ถุงกรอง เพื่อดักเอาเศษตะกอนเหล่านี้ออกจากระบบก่อนผ่านเข้าไปยังสกิมเมอร์ และเป็นการทำความสะอาดของเสียจากระบบอีกวิธีหนึ่ง .... นำไปสู่การวางสกิมเมอร์ ไม่ว่าจะเป็นสกิมเมอร์แบบวางในตู้กรอง หรือใช้ปั๊มดึงน้ำไปยังสกิมเมอร์ภายนอก ก็ควรวางถัดจากการกรองหยาบ .... แต่ถ้าติดตั้งสกิมเมอร์ในตู้หลัก ... จะประสบกับข้อจำกัดในการกรองหยาบก่อนเข้าสกิมเมอร์ ดังนั้นผู้เลี้ยงก็จำเ็ป็นต้องตรวจเชค และทำความสะอาดสกิมเมอร์บ่อยครั้ง เพื่อกำจัดตะกอนเหล่านี้ หรือในสกิมเมอร์บางรุ่นตัวปั๊มสกิมเมอร์ก็ถูกออกแบบให้มีตะแกรงพลาสติกเพื่อกันเศษตะกอนเหล่านี้ เป็นต้น ตามภาพที่ผมลองค้นจาก Google นะครับ (https://upic.me/i/bo/5images1.jpg) (https://upic.me/show/43551914) (https://upic.me/i/yo/sump2.jpg) (https://upic.me/show/43551920) จากรูปจะเห็นได้ว่า มีการจัดวางสกิมเมอร์ให้อยู่ถัดจาก น้ำที่ผ่านการกรองหยาบ (ถัดจากทางน้ำลง ในกรณีกรองล่าง) ส่วนในรูปที่เห็นเป็นการทำ ช่องปลูกสาหร่ายเรฟูเจี้ยมนั้น เป็นแนวคิดการบำบัดประเภทหนึ่งที่ใช้การปลูกสาหร่าย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อถกเถียงในความเหมาะสมของทำช่องเรฟูเจี้ยมอยู่ ซึ่งขอให้เพื่อนสมาิิชิกลองพิจารณาเฉพาะการวางสกิมเมอร์นะครับ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 06/03/13, [23:22:44] 3. ถ้าสกิมเมอร์สามารถปรับระดับการไหลของอากาศได้ ควรปรับให้อากาศเข้าสู่สกิมเมอร์ให้มากที่สุด
กล่าวคือ สืบเนื่องจากข้อมูลแรก ๆ ที่ผมได้สรุปไปว่า กฎหลักของสกิมเมอร์ข้อหนึ่งนั้น คือ - สกิมเมอร์ต้องมีช่วงกระบอกที่สูง เพื่อเพิ่มเวลาการสัมผัส โดยปั๊มที่อัดอากาศเข้าสู่สกิมเมอร์ ต้องอัดอากาศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งผมขอเน้นในประเด็นเรื่องการอัดอากาศเข้าสกิมเมอร์ มากกว่าเรื่องความสูงของสกิมเมอร์ เพราะในปัจจุบันมีการออกแบบตัวสกิมเมอร์ให้มีความสูง และรูปทรงแตกต่างกันให้เหมาะสมกับลักษณะการสร้างฟองอากาศ และสัมพัทธ์กับปั๊ม ฯลฯ ดังนั้น .... การที่จะให้สกิมเมอร์ สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จะต้องอัดอากาศเข้าสู่ตัวสกิมเมอร์ให้มากที่สุด เท่าที่ตัวสกิมเมอร์นั้นจะสามารถกระทำได้ แต่สกิมเมอร์หลายรุ่นในปัจจุบัน มีวาล์วที่สามารถปรับอัตราการไหลของอากาศเข้าสู่ตัวสกิมเมอร์ได้ ซึ่งตัววาล์วนี้ก็มีลักษณะปรากฏตามภาพครับ (https://upic.me/i/kz/saltwater-connection-cone-skimer-15.jpg) (https://upic.me/show/43601559) เพื่อนสมาชิกบางท่าน อาจจะสงสัยว่า ... "ถ้าหลักของสกิมเมอร์คือ ต้องอากาศไหลเข้าสู่ตัวสกิมเมอร์ให้มากที่สุด แล้วทำไมต้องมีการปรับระดับการไหลของอากาศเข้าสู่สกิมเมอร์ด้วย ? มันควรจะตั้งไว้ให้อากาศเข้าเต็มที่ไม่ใช่หรือ ?" ตอบครับ ...... ตามหลักการ คือ ต้องให้อากาศไหลเข้าสู่สกิมเมอร์มากที่สุดตามที่นำเสนอไปหล่ะครับ แต่วาล์วปรับอากาศนี้ จะมีผลต่อการปรับเพิ่ม/ลด ระดับอัตราการทำน้ำของสกิมเมอร์ หรืออัตราการโฟลว์น้ำผ่านสกิมเมอร์ครับ เอาง่าย ๆ ครับว่า "ถ้าปรับปริมาณอากาศเข้าสกิมเมอร์น้อยลงเท่าใด สกิมเมอร์ก็จะยิ่งทำน้ำได้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ... แต่ประสิทธิภาพในการดักของเสียออกจากน้ำก็จะลดน้อยลง" ถ้าเพื่อน ๆ จะตัดสินใจซื้อสกิมเมอร์สักตัว โดยมีโฆษณาว่า ทำน้ำได้ 900-1500 ลิตร .... แล้วตู้ของเพื่อนสมาชิกมีปริมาตรน้ำประมาณ 1500 ลิตรพอดี (สมมติครับ [on_009]) เพื่อนซื้อสกิมเมอร์ตัวนี้มาใช้โดยปรับวาล์วอากาศให้ดึงอากาศเข้าสกิมเมอร์น้อย เื่พื่อเพิ่มปริมาณทำน้ำให้มาก .... ก็จะไปเข้าหลักการทำงานของสกิมเมอร์ที่กล่าวไว้ครับว่า "สกิมเมอร์จะทำการได้ดี ก็ต่อเมื่ออัดอากาศเข้าสู่ตัวสกิมเมอร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" ดังนั้น ถ้าสกิมเมอร์ของเพื่อน ๆ สามารถปรับวาล์วอากาศได้ ควรปรับวาล์วให้ดูดอากาศเข้าสกิมเมอร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ ..... และไปปรับช่องทางน้ำออกแทน เพื่อคุมระดับของปริมาณน้ำในกระบอกสกิมเมอร์ครับ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 06/03/13, [23:57:16] 4. ถ้าเป็นการติดตั้งสกิมเมอร์ในตู้กรอง ควรวางสกิมเมอร์ หรือปั๊มดึงน้ำเข้าสกิมเมอร์ (กรณีติดตั้งภายนอก) ไว้ถัดจากช่องน้ำจากตู้หลักที่ผ่านการกรองหยาบแล้ว
กล่าวคือ การออกแบบตู้กรอง ก็มีการออกแบบแตกต่างกันไปตามเทคนิค ประสบการณ์ของแต่ละบุคคล จะใช้วัสดุกรอง ทำเรฟูเจี้ยม หินเป็น หรืออย่างอื่นสุดแล้วแต่ความถนัดเฉพาะตน แต่ การตำแหน่งการติดตั้ง หรือวางสกิมเมอร์ นอกเหนือจากที่น้ำที่จะบำบัดควรผ่านการกรองหยาบก่อนแล้วนั้น ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น ... ควรวางตัวสกิมเมอร์หรือปั๊มดึงน้ำเข้าสกิมเมอร์ ไว้ถัดจากช่องน้ำเข้าในระบบตู้กรอง ..... แต่นักเลี้ยงบางท่านออกแบบตู้กรองให้ช่องน้ำเข้ากรองนั้นผ่านพวกวัสดุกรองต่าง ๆ ก่อน อาทิ หินปะการัง หินเป็น เรฟูฯ ก่อนจะมาเข้าบำบัดโดยสกิมเมอร์ ตัวอย่างตามภาพครับ (https://upic.me/i/9l/images2.jpg) (https://upic.me/show/43602296) ตามภาพบนจะเห็นได้ว่า ผู้เลี้ยงติดตั้งสกิมเมอร์ไว้ในช่องเดียวกับช่องทางที่น้ำมาจากตู้หลัก โดยผ่านการกรองหยาบโดยถุงกรอง และจะถูกสกิมเมอร์บำบัดต่อไป แม้วัสดุกรองจะเป็นการบำบัดคุณภาพน้ำตามวิธีทางธรรมชาติ และสามารถทำให้น้ำมีคุณภาพดีได้จริง แต่จะเป็นการดีกว่า ถ้าสามารถติดตั้ง หรือวางสกิมเมอร์ ฯ ไว้ที่ตำแหน่งแรก ถัดจากการกรองหยาบ เพื่อให้สกิมเมอร์ทำหน้าที่ดึงของเสียที่ละลายน้ำอยู่ให้เต็มประสิทธิภาพ ก่อนจะผ่านไปสู่ระบบกรองทางชีวภาพต่าง ๆ (ถ้ามี) 5. คำนึงถึงช่องทางน้ำเข้าและทางน้ำออกของสกิมเมอร์ กล่าวคือ ถ้าเพื่อนสมาชิกสังเกตตัวสกิมเมอร์ จะมีช่องทางนำน้ำเข้าไปบำบัดโดยสกิมเมอร์ ผ่านทางปั๊มต่าง ๆ และช่องทางที่น้ำบำบัดแล้วออกจากตัวสกิมเมอร์ ... หากบางกรณีนักเลี้ยงบางท่านจัดวางตำแหน่งทางน้ำออกและทางน้ำเข้าได้ไม่ดีแล้ว ทิศทางการไหลของน้ำดีที่ออกจากตัวสกิมเมอร์อาจถูกดูดกลับเข้าไปบำบัดโดยสกิมเมอร์อีกครั้ง .... แม้ว่าบำบัดบ่อย ๆ ก็จะทำให้สะอาดขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าน้ำดีจากสกิมเมอร์ไปแทนที่พื้นที่น้ำที่จำเป็นต้องบำบัดแทน (ผมใช้คำพูดงงไหมเนี่ย [on_008]) ผมลองไล่ดูตามตัวอย่างการจัดวางสกิมเมอร์ และทางน้ำเข้าออกของสกิมเมอร์ของนักเลี้ยงหลายท่าน ก็พอสังเกตได้ว่า ถ้าเป็นสกิมเมอร์ติดตั้งภายนอกที่ต้องอาศัยปั๊มในการดึงน้ำที่ต้องการบำบัดเข้าสู่ตัวสกิมเมอร์ นักเลี้ยงก็จะจัดปั๊มดึงน้ำเข้าในช่องกรองถัดจากกรองหยาบ (ตามข้อ 4. ข้างต้น) และต่อท่อน้ำออก หรือหันทางน้ำออกของตัวสกิมเมอร์ ให้ไปออกยังช่องถัดไปโดยไม่ไหลย้อนกลับไปในช่องที่มีปั๊มทางน้ำเข้าอยู่ แม้ว่า นักเลี้ยงบางท่าน อาจพิจารณาประเด็นนี้แล้วมองว่า เป็นประเด็นยิบย่อยเกินไป ไม่ส่งผลกระทบมากมายนักต่อระบบหรอก ... แต่ ถ้าเราปรับจุดเล็กจุดน้อยไ้ด้ ก็ไม่เสียหายหนิครับ [on_066] สำหรับพวกสกิมเมอร์ที่ติดตั้งภายในมักจะมีปัญหา เพราะทางน้ำเข้าออกอยู่ใกล้กันมาก ...สำหรับตัวผมเองใช้วิธีการดูกระแสการไหลของน้ำในตู้กรอง ว่าน้ำมีทิศทางการไหลไปในทางใด และจะติดตั้งทางนำเข้าของสกิมเมอร์ ให้อยู่บริเวณตอนต้นของกระแสน้ำ เพื่อให้ดูดน้ำที่ต้องการบำบัดเข้าระบบก่อน และน้ำดีที่ออกมาจากสกิมเมอร์ ก็จะไหลตามกระแสผ่านระบบต่าง ๆ ต่อไป ไม่กลับย้อนเข้ามาบำบัดซ้ำอีก อันจะเป็นการแทนที่ปริมาณน้ำที่ต้องการบำบัด หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 07/03/13, [00:12:26] ขออภัยที่มาอัพเพิมเติมช้านะครับ ติดภารกิจเล็กน้อย ... [on_007]
หากเพื่อนสมาชิกท่านใด มีประสบการณ์ มีข้อมูล ปัญหา ทางแก้ ข้อเสนอแนะ รีวิว เกี่ยวกับโปรตีนสกิมเมอร์ ช่วยแชร์กันก็ยินดีนะครับ จักได้เป็นคลังสะสมความรู้ต่อไป [on_055] หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 08/03/13, [13:24:00] "การปรับตั้งค่าสกิมเมอร์ แบบเปียก (Wet) VS แบบแห้ง (Dry)"
เพื่อน ๆ สมาชิดอาจจะเกิดข้อสงสัย กับข้อคำถามที่ว่า ไอ้การปรับสกิมเมอร์แบบเปียก กับ แบบแห้ง เนี่ยมันแตกต่างกันอย่างไร แล้วอย่างไรดีกว่ากัน ?? พอมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่า "มันมีด้วยเหรอฟ่ะ ปรับแบบเปียก แบบแห้ง [on_008] ตั้งแต่ใช้มาก็เพิ่งได้ยิน" [on_055] ประเด็นเรื่องการปรับสกิมเมอร์ ไม่ว่าจะแบบเปียก หรือแบบแห้ง เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันพอสมควรในหมู่นักเลี้ยง ตปท. ซึ่งหลายคนก็ชอบแบบเปียก ... หลายคนก็นิยมแบบแห้ง ... คราวนี้ขอผมขอนำเสนอถึงรายละเอียดของการปรับสกิมเมอร์ทั้งสองรูปแบบ และข้อดี/เด่น ที่เหมาะสมนะครับ [on_066] ตามที่ได้ไล่เรียงนำเสนอความเกี่ยวกับสกิมเมอร์มาตั้งแต่แรก ... ที่พอสรุปการทำงานของสกิมเมอร์ที่ใช้หลักการ ให้ฟองอากาศดักจับอนุภาคของเสีย และผลักดันขึ้นสู่ถ้วยเก็บด้านบนนั้น (ตามอ่านข้างต้น ๆ นะครับ) โดยปกติสกิมเมอร์แทบทุกรูปแบบในปัจจุบัน สามารถปรับระดับน้ำในสกิมเมอร์ได้ ซึ่งการปรับระดับน้ำนี่แหล่ะ คือ การปรับเปียก (Wet) และปรับแห้ง (Dry) การปรับเปียก (Wet) คือ การปรับระดับน้ำในสกิมเมอร์ให้อยู่ในระดับสูง หรือบางคนเรียกว่าตั้งสกิมเมอร์แบบสูง ซึ่งระดับน้ำจะอยู่ประมาณช่วงคอสกิมเมอร์ หรือบางคนอาจปรับระดับน้ำอยู่ที่ช่วงกลางของถ้วยรับของเสีย ...... การตั้งสกิมเมอร์สูงเช่นนี้ จะทำให้ตัวสกิมเมอร์ผลักของเสียออกมาได้ค่อนข้างง่าย (เพราะระดับน้ำอยู่สูง) แต่จะสังเกตได้ว่า ของเสียที่สกิมเมอร์ขับออกมาจะมีลักษณะค่อนข้างใส ไม่เป็นโฟมข้น ๆ ดังภาพครับ (https://upic.me/i/qy/cameracleanup134.jpg) (https://upic.me/show/43627485) ข้อดี: ของเสียออกได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน ข้อเสีย: แม้ว่าของเสียจะออกมาได้เร็ว แต่มีปริมาณของน้ำปะปนอยู่มาก (จึงเป็นที่มาของคำว่าแบบเปียก) ทำให้ต้องล้างถ้วยดักของเสียบ่อยครั้ง น้ำในระบบลดลงบ่อย ต้องมีการเติมน้ำเพิ่มในระบบ .. ในหลาย ๆ ทรรศนะเห็นว่าเป็นการดึงแร่ธาตุบางส่วนออกจากน้ำ รวมถึงอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถ้วยสกิมเมอร์ได้ เมื่อเกิดอาการไฟดับ ไฟกระชาก การปรับแห้ง (Dry) เป็นลักษณะตรงกันข้ามกับการปรับแบบเปียก คือ ปรับระดับน้ำในสกิมเมอร์ให้อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ดังนั้น จึงมีระยะห่างระหว่างระดับน้ำกับถ้วยดักของเสียมากกว่าการปรับแบบเปียก ดังนั้น ฟองอากาศที่ดักจับอนุภาคของเสียจะถูกดันขึ้นสูง และรีดเอาเฉพาะฟองอากาศที่มีแต่ของเสีย และขจัดน้ำออกไป .... ของเสียที่ได้จึงมีลักษณะเป็นโฟม ฟองละเอียด (จึงเป็นที่มาของคำว่าแบบแห้ง) การตั้งสกิมเมอร์แบบแห้ง จะใช้เวลาค่อนข้างนานในการที่ของเสียจะถูกดันออกมายังถ้วยสกิมเมอร์ เพราะต้องอาศัยเวลาในการที่ฟองอากาศดักจับอนุภาคของเสียสะสมในปริมาณหนึ่งก่อน จะใช้เวลาในการดันขึ้นที่สูง ตามภาพครับ (https://upic.me/i/mx/fishtankoct6th045d.jpg) (https://upic.me/show/43627754) ข้อดี: สกิมเมอร์ทำงานได้เต็มที่ เป็นการดึงเอาเฉพาะของเสียออกจากระบบ ไม่ต้องทำความสะอาดถ้วยสกิมเมอร์บ่อยครั้ง ไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณน้ำในระบบที่จะลดลง ข้อเสีย: ใช้เวลานาน ถึงนานมากกว่าที่ของเสียจะสะสมและจะถูกดันขึ้นสู่ถ้วยสกิมเมอร์ และการที่ตั้งระดับน้ำไว้ต่ำ อาจทำให้คราบของเสียไปติดค้างในตัวกระบอกสกิมเมอร์ เป็นปัญหาในการล้างทำความสะอาด จากการค้นตามเวปต่าง ๆ ก็ยังพบว่า สกิมเมอร์ในตลาดส่วนใหญ่มักจะปรับเปียก ได้ง่ายกว่าปรับแห้ง เพราะการปรับแห้งต้องอาศัยความสามารถของตัวสกิมเมอร์ และปั๊มในการดูดเอาอากาศเข้าระบบสกิมเมอร์เป็นจำนวนมาก และต้องสร้างฟองอากาศให้มีจำนวนมากและมีขนาดเล็กที่สุด .... ซึ่งสกิมเมอร์ส่วนใหญ่มักจะเจอข้อจำกัดเช่นว่านี้ ทำให้สกิมเมอร์ส่วนใหญ่มักจะถูก (จำใจ) ปรับแบบเปียกแทน ก็สอดคล้องกับหลักการนะครับที่ว่า "สกิมเมอร์ห่วยปั่นได้น้ำ สกิมเมอร์ดีปั่นได้โฟม" แต่เมื่อได้รับทราบข้อมูลเรื่องนี้แล้ว ทำให้ทราบได้ว่า ถึงแม้สกิมเมอร์ที่ (จำใจ) ปรับเปียก จากการสร้างฟองได้จำนวนน้อย หรือความตั้งใจปรับโดยผู้ใช้ ก็ยังมีความสามารถในการกำจัดของเสียออกจากระบบอยู่ดี แต่อาจต้องอาศัยการหมั่นดูแลทำความสะอาด และเติมน้ำบ่อย ๆ ครับ [on_055] ปรับแบบไหนดีกว่ากัน ?? ประเด็นนี้ถกเถียงกันมากพอควรครับ .... [on_018] ในกลุ่มนิยมการปรับแบบแห้งมีทรรศนะว่า "การปรับแห้ง เป็นการเพิ่มเวลาการสัมผัส (contact time)" ระหว่างฟองอากาศกับอนุภาคของเสีย (สงสัยคำใด ลองย้อนอ่านดูครับ) ........ [on_026] โดยเห็นว่า การเพิ่มความสูงของระยะระหว่างระดับน้ำในสกิมเมอร์ กับถ้วยดักของเสีย จะทำให้มีระยะเวลาในการสัมผัสมากขึ้น ดังนั้นของเสียในน้ำย่อมจะถูกนำเอาออกไปได้ดียิ่งขึ้น !! ... ซึ่งถ้ากล่าวตามทฤษฎี หลักการทำงานของสกิมเมอร์ อันนี้ผมเห็นด้วยนะ แต่ก็มีการศึกษาของ Ken S. Feldman, Kelly M. Maers, Lauren F. Vernese, Elizabeth A. Huber, Matthew R. Test ในบทความวิจัยเรื่อง "Feature Article: The Development of a Method for the Quantitative Evaluation of Protein Skimmer Performance" กลับมีทรรศนะที่ว่าถึงแม้การปรับแห้งจะตอบโจทย์ทางทฤษฎีได้ดี ในเรื่องหลักการนำของเสียออกจากระบบโดยฟองอากาศ ... แต่การปรับเปียกเพื่อให้โฟมของเสียที่กำจัดออกมานั้นมีน้ำปนอยู่ออกมา น่าจะมีความเหมาะสมในการกำจัดสารอินทรีย์ออกจากระบบได้มากกว่า ซึ่งผมสรุปใจความสำคัญที่ว่าปรับเปียกก็น่าจะดีกว่า ก็คือ น้ำจำนวนหนึ่งที่ปะปนอยู่ในโฟมของเสียจากการปรับเปียก ก็เป็นน้ำที่มีสารอินทรีย์จำนวนมากละลายปะปนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการยากในทางทฤษฎีที่จะให้สกิมเมอร์ดึงของเสียออกจากระบบได้ตามทฤษฎี ที่กล่าวมา อาจระบุได้ยากว่าการปรับแบบใดดีที่สุด [on_007] ผมขอเลือกเอาตามทางพระพุทธศาสนาแล้วกันครับ "เอาทางสายกลาง" คือ ปรับระดับน้ำในสกิมเมอร์ ให้มีลักษณะกึ่งเปียก กึ่งแห้ง (ต้องค่อย ๆ ปรับหาจุดที่เหมาะสมในแต่ละตู้เอาครับ) ซึ่งการปรับเช่นนี้ ทำให้สกิมเมอร์ไม่ใช้เวลานานเกินไปในการสะสมของเสียเพื่อดันตัวขึ้นมาเป็นโฟม และเป็นการกำจัดน้ำที่ยังมีสารอินทรีย์ละลายปะปนอยู่ในน้ำที่ฟองอากาศไม่สามารถดักจับอนุภาคได้ .... แต่ก็ต้องปรับจูนดี ๆ นะครับ ผมจะใช้การปรับสูง ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นหลัก เพื่อรีดเอาน้ำเสียที่มีสารอินทรีย์ออกมาให้มากที่สุด ก่อนเติมน้ำดีไป ... และมักจะปรับให้ระดับน้ำต่ำลงเป็นแบบแห้ง เมื่อต้องไปทำธุระนอกบ้าน กันจังหวะไฟดับไฟกระชาก ... และเมื่อกลับบ้านก็จะปรับระดับน้ำให้มีความสูงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามก็สุดแล้วแต่ ดุลยพินิจและความชอบของเพื่อนสมาชิกนะครับ ว่าเพื่อนชอบปรับเปียก หรือปรับแห้ง [on_066] หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 08/03/13, [15:38:46] (https://upic.me/i/07/hydorperformerproteinskimmers.jpg) (https://upic.me/show/43630947)
"ปัจจัยที่ต้องคำนึง .... ก่อนการเลือกซื้อสกิมเมอร์ !!??" [on_055] คงเป็นการยากที่จะบอกสกิมเมอร์แบบไหน ยี่ห้อใด เป็นสกิมเมอร์ที่ดีที่สุด หรือเหมาะสมที่สุด ดังคำกล่าวที่ว่า ""No one best skimmer!" ผมได้ลองไปอ่านบทความของ Jason Kim ผู้ก่อตั้ง AquaC. Inc. ได้นำเสนอปัจจัยสำคัญ 6 ประการที่นักเลี้ยงจำเป็นต้องพิจารณาก่อนการเลือกสกิมเมอร์ได้แก่ 1. ประสิทธิภาพ (Performance) : คำว่าประสิทธิภาพในที่นี้ คือ ความสามารถของสกิมเมอร์ในการกำจัดของเสียออกจากระบบ ... ซึ่งประสิทธิภาพของสกิมเมอร์ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของสกิมเมอร์ (ลองดูข้อดี ข้อจำกัด ของสกิมเมอร์แต่ละประเภทดูครับ) โดยนาย Jason Kim มีทรรศนะว่าสกิมเมอร์แบบดาวน์ดราฟท์ เป็นสกิมเมอร์ที่แลดูมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็แรกมาด้วยข้อจำกัดด้านขนาดที่ค่อนข้างใหญ่โต 2. ต้นทุนแรกเริ่ม (Initial Cost) : ก็คือ ราคาค่าตัวของสกิมเมอร์ ... สกิมเมอร์เองก็เหมือนกับรถ มีหลายเกรด หลายรุ่น หลายยี่ห้อ .... ตลาดล่างหน่อยก็ราคาย่อมเยาว์ แต่ถ้ามีทุนเยอะไม่อั้นจะกด Bubble King เลยก็ไม่มีใครว่า ... โดยส่วนใหญ่แล้วคุณภาพก็มักจะแปรผันตามราคาค่าตัวของสกิมเมอร์เช่นกัน 3. ต้นทุนต่อเนื่อง (Ongoing Cost) : เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นหลังจากใช้งานสกิมเมอร์ ที่เห็นได้ง่าย คือค่าไฟที่เพิ่มขึ้นตามกำลัง Watt ของปั๊มสกิมเมอร์ ... หลายกรณีสกิมเมอร์บางยี่ห้อมีราคาค่าตัวค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับอีกยี่ห้อหนึ่ง แต่ปั๊มที่ใช้กับกินไฟมากกว่ากันถึง 2-3 เท่า ... อันนี้ แม้ราคาเริ่มต้นจะถูก ก็ต้องแลกมากับต้นทุนค่าไฟที่เพิ่มขึ้น 4. ความต้องการในการดูแลรักษา (Maintenance Requirements) : สกิมเมอร์ก็เปรียบเช่นของใช้งานทั่วไป ที่เมื่อใช้งานแล้วก็ต้องมีการดูแลบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อใ้ห้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ชำรุด เสียหาย ... ซึ่งสกิมเมอร์หลายประเภทก็ต้องการ การดูแลรักษาที่แตกต่างกัน และมีจุดเน้นในการตรวจสอบแตกต่างกัน อาทิ แบบเวนทูรี่ ก็ต้องหมั่นทำความสะอาดตัววาล์วเวนทูรี่เป็นประจำ ถ้าเป็นแบบใช้ปั๊มที่มีแกนใบพัดพิเศษ ที่มักจะพังบริเวณแกนฯ ก็ต้องดูแลป้องกันมิให้มีเศษตะกอนหลุดเข้าไปทำอันตรายต่อแกนใบพัด ... แบบใช้อากาศเป็นตัวนำ ก็ต้องหมั่นเปลี่ยนทุ่นทำอากาศอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น 5. ขนาด (Size) : ตามหลักการทฤษฎีแล้ว สกิมเมอร์ควรจะต้องมีกระบอกสกิมเมอร์ที่สูง เพื่อเพิ่มระยะเวลาการสัมผัส ... และต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการปะทะ ดังนั้น ถ้าออกแบบสกิมเมอร์ตามหลักการแล้ว สกิมเมอร์มักจะมีขนาดใหญ่เทอะทะ ... ผู้ผลิตสกิมเมอร์ต่าง ๆ ก็มีการปรับปรุงออกแบบสกิมเมอร์ให้มีความกระทัดรัดมากขึ้น มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการกำจัดของเสียอยู่ แต่อย่างไรก็ตามสกิมเมอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาดแตกต่างกันไป และส่งผลสำคัญต่อการเลือกซื้อสกิมเมอร์ ถ้าเลือกสกิมเมอร์แบบวางภายใน (Internal Skimmer) ก็ต้องคำนึงถึง พื้นที่ (space) ของตู้กรองว่ามีขนาดเพียงพอที่จะสามารถวางสกิมเมอร์ได้ หรือไม่ .... มีหลายครั้งที่เพื่อนสมาชิกมักจะประสบกับปัญหา ที่ชอบสกิมเมอร์ ตัวหนึ่งรุ่นหนึ่ง แต่ไม่สามารถตัดสินใจเลือกซื้อสกิมเมอร์ตัวนั้นได้ เพราะไม่สามารถยัดลงกรองล่างได้ จึงต้องไปเล่นตัวอื่นยี่ห้ออื่นที่แทน เป็นต้น บางกรณีถ้าเลือกใช้สกิมเมอร์แบบวางภายนอก แม้จะไม่มีปัญหาเรื่องขนาดช่องกรอง แต่ก็มีปัญหาเรื่องของขนาดเช่นกัน กล่าวคือ จะเกะกะหรือไม่ จะจัดวางไว้ตรงไหน เป็นต้นครับ 6. ความง่ายในการใช้งาน (Ease of Use) : บางผู้ผลิตและจำหน่ายสกิมเมอร์ในท้องตลาด เคลมว่าสกิมเมอร์ของตนมีความง่ายต่อการใช้งาน เพียงนำจุ่มน้ำแล้วเสียบปลั๊กไฟก็ใช้งานได้แล้ว มาเป็นจุดขาย .... จะเห็นได้ว่าความยากง่ายในการใช้งานมีส่วนสำคัญต่อการเลือกซื้อ กล่าวคือ สกิมเมอร์บางประเภท บางรุ่น ต้องมีการเดินท่อ ต่อสายยาง อันทำให้เกิดความยุ่งยากก่อนจะใช้งานได้ ... บางรุ่นก็ต้องหมั่นตรวจสอบและปรับระดับน้ำนสกิมเมอร์สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมบ้าน ... ถ้าผู้เล้ยงมีทักษะ และมีความเข้าใจในระบบของสกิมเมอร์นั้น ๆ ปัจจัยนี้ก็อาจลดทอนลงไป แต่สำหรับบางคนที่ไม่คุ้นเคยแล้ว เรื่องความยากง่ายในการใช้งานอาจกลายมาเป็นปัญหาสำคัญต่อการเลือกซื้อสกิมเมอร์ได้ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: note_Chonburi ที่ 10/03/13, [23:17:37] รบกวนขอความคิดเห็นด้วยครับ
เคยได้ยินหลักเลือกปั้มหลักให้ได้การเวียนน้ำให้ได้ 10 รอบต่อชั่วโมง เช่น น้ำ 500 ลิตรก็เลือกปั้ม 5000 ลิตรอะไรประมาณนี้ อยากทราบความคิดเห็นว่าการเลือกปั้มน้ำหลักเพื่อให้เข้ากับหลักการดังกล่าวน่าจะส่งผลต่อการเลือกขนาดของสกิมเมอร์หรือไม่ครับ ยกตัวอย่าง ตู้ที่มีปริมาณน้ำ 500 ลิตร ใช้ปั้ม 5000 ลิตร/ช.ม. แต่ใช้สกิมขนาด 1000 ลิตรเพื่อโอเวอร์สเป๊ก 1 เท่า กับตู้ขนาดน้ำ 500 ลิตร ใช้ปั้ม 2500 ลิตร/ช.ม. ใช้สกิมขนาด 1000 ลิตรเช่นกัน ในเคสนี้คิว่าการเลือกใช้ปั้มน้ำหลัก จะมีผลต่อประสิทธิภาพของกสกิมเมอร์หรือไม่ครับ ขอบคุณครับผม ^^ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 11/03/13, [02:26:35] รบกวนขอความคิดเห็นด้วยครับ เคยได้ยินหลักเลือกปั้มหลักให้ได้การเวียนน้ำให้ได้ 10 รอบต่อชั่วโมง เช่น น้ำ 500 ลิตรก็เลือกปั้ม 5000 ลิตรอะไรประมาณนี้ อยากทราบความคิดเห็นว่าการเลือกปั้มน้ำหลักเพื่อให้เข้ากับหลักการดังกล่าวน่าจะส่งผลต่อการเลือกขนาดของสกิมเมอร์หรือไม่ครับ ยกตัวอย่าง ตู้ที่มีปริมาณน้ำ 500 ลิตร ใช้ปั้ม 5000 ลิตร/ช.ม. แต่ใช้สกิมขนาด 1000 ลิตรเพื่อโอเวอร์สเป๊ก 1 เท่า กับตู้ขนาดน้ำ 500 ลิตร ใช้ปั้ม 2500 ลิตร/ช.ม. ใช้สกิมขนาด 1000 ลิตรเช่นกัน ในเคสนี้คิว่าการเลือกใช้ปั้มน้ำหลัก จะมีผลต่อประสิทธิภาพของกสกิมเมอร์หรือไม่ครับ ขอบคุณครับผม ^^ ขอบคุณสำหรับคุณโน๊ตด้วยครับ สำหรับคำถาม ... ซึ่งผมเห็นว่าเป็นคำถามสำคัญ และอาจเป็นข้อถกเถียงกันในการเลี้ยงปลาทะเลเช่นกัน โดยตัวผมเองก็เชื่อ และรับฟังตามที่ผู้เลี้ยงท่านอื่น ๆ กล่าวสืบต่อกันมาว่า "ปั๊มหลักควรทำน้ำได้มากกว่าปริมาณน้ำในตู้ปริมาณ 7-10 เท่า" เพราะเชื่อกันว่า -----------> ถ้าน้ำในระบบมี 500 ลิตร ... ถ้าใช้ปั๊มขนาด 5000 ลิตร/ชม. แล้ว หมายความว่า สามารถหมุนเวียนน้ำในระบบเพื่อบำบัดได้ถึง 10 รอบ/ชม. แต่พอผมลองสืบค้นในประเด็นดังกล่าวตามเวป ตปท.ที่มีการถกเถียงกันบ้าง หรือมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ที่มีประสบการณ์การเลี้ยงตู้ทะเลมานับสิบปี ก็พอสรุปคำตอบได้ พอสังเขปดังนี้ครับ ว่า ขนาดของปั๊มหลัก ส่งผลต่อประสิทธิภาพของสกิมเมอร์ในการดึงของเสียออกจากระบบแน่นอนครับ !!! แต่เรามักจะมองข้ามเรื่องขนาดของปั๊มหลัก ที่เกี่ยวพันกับสกิมเมอร์ไป ตามที่คุณโน๊ตถาม ยังมีประเด็นเกี่ยวกับขนาดของสกิมเมอร์ที่เหมาะสม ..... ซึ่ง ผมเคยได้เกริ่นไปในหัวข้อข้างต้นเกี่ยวกับการ "Overskimming" หรือ ความเชื่อที่ว่าควรเลือกใช้สกิมเมอร์ที่สามารถทำน้ำได้มากกว่าปริมาณน้ำในตู้ 3-5 เท่า หรือยิ่งมากยิ่งดี .... อันเป็นประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวพันกับที่คุณโน๊ตถาม และคงเป็นประเด็นที่ผมเชื่อว่าเพื่อนสมาชิกหลายคน "ต้องเคยตั้งคำถาม" กับขนาดของสกิมเมอร์ โดยผมขออนุญาตตามเรื่องของ Overskimming และจะอธิบายไล่เรียงถึงประเด็นขนาดของปั๊มหลัก ที่เกี่ยวพันกับสกิมเมอร์ในคราวต่อไปด้วยครับ ปล ... ผมขออนุญาตออกตัวไว้ ณ ที่นี้ครับว่า ผมเองมีประสบการณ์ตู้ทะเลมาแค่ปีเศษ คงมีประสบการณ์ได้ไม่มากมาย หรือเชี่ยวชาญมากกว่าเพื่อนสมาชิกแต่อย่างใด ... ข้อมูล เนื้อหาที่ผมนำมานำเสนอในที่นี้ เกือบทั้งหมดกว่า 90% ผมได้จากการสืบค้นตามเวป ตปท. ที่มีการถกเถียงกันในหลาย ๆ ประเด็น ... ซึ่งการถกเถียงก็อยู่บนพื้นฐานของหลักการทฤษฎีการทำงานของสกิมเมอร์ มากกว่า ความเชื่อส่วนบุคคล .... แต่อย่างไรก็ตาม หลายกรณีที่ทฤษฎีต่างจากการปฏิบัติ และข้อถกเถียงบางอย่างก็ไม่ได้ข้อสรุป 100% ดังนั้น สิ่งที่นำเสนออาจมีประเด็นที่ผิดพลาด หรือขัดกับความเชื่อ หรือการปฏิบัติที่เป็นอยู่ของเพื่อนสมาชิกในบางกรณี ซึ่งผมจักขอบคุณเป็นอย่างสูง ถ้าเพื่อนสมาชิกจะมาแลกเปลี่ยน มาแชร์ข้อมูล ประสบการณ์ หรือรีวิวการใช้งานสกิมเมอร์ของแต่ละคน อันจะเป็นหลักฐานยืนยันถึงข้อมูลที่ผมได้นำเสนอไป รวมทั้งถ้ามีข้อผิดพลาดในข้อมูล ก็จักได้แก้ไขให้ถูกต้องต่อไปครับ .......... ขอบคุณครับ [on_055] หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: jamprince ที่ 11/03/13, [18:47:12] อายย่ะ....!!! เจ๋งเลยครับ รอคำตอบอยู่เลยนึกว่าจะอดแล้วหลังจากที่ได้ถามไป แจ๋วเจ๋งครับ..... [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Romeo_Pop ที่ 13/03/13, [10:58:06] [on_058] ยินดีด้วยสำหรับรางวัลตรา Anemone Award จากตาบัง!! เหมาะสมแล้วสำหรับบทความนี้ครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: icare4usp ที่ 14/03/13, [08:53:34] รางวัลเท่ห์จริงๆเลย ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 22/03/13, [21:32:57] ขอบคุณครับ ช่วงนี้ติดสอบดุษฎี สิ้นเดือนนี้สอบเสร็จจะมาตอบให้จบถ้วนกระบวนความนะครับ n032
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: paranoy ที่ 24/03/13, [11:44:17] ขอบคุณความรู้ดีๆครับ
ขอให้ได้เกียรตินิยมครับ หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: aquamedical_fraghouse ที่ 24/03/13, [22:21:47] คคห.ข้างบนนี้มายังไงฟระ
หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Romeo_Pop ที่ 24/03/13, [22:37:27] คคห.ข้างบนนี้มายังไงฟระ ขอบคุณค้าบจัดการไปล่ะพวกโฆษณาก่อกวนนี่น่าเบื่อจริง หัวข้อ: Re: เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 09/04/13, [12:07:27] หายไปนาน กลับมาอัพข้อมูลต่อครับ
(https://upic.me/i/n0/28images.jpg) (https://upic.me/show/44221636) กลับมาเรื่องของความเชื่อเรื่อง "การโอเวอร์สกิมฯ" หรือที่เชื่อกันว่า "ควรเลือกใช้สกิมเมอร์ที่มีความสามารถในการทำน้ำสูงกว่าปริมาตรน้ำในตู้ของเราให้มาก ๆ ยิ่งมากยิ่งดี อย่างน้อย 3 เท่า หรือ 5 เท่า ขึ้นไป" ประเด็นนี้ เป็นประเด็นสำคัญที่ผมสงสัย และเป็นบ่อเกิดของการไล่ตามหาอ่านความรู้เกี่ยวกับโปรตีนสกิมเมอร์จากเวปภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม "ไม่ใช่ว่าองค์ความรู้จากเวปต่างประเทศจะถูกต้อง เป็นเอนกอนันต์จนต้องไล่ตามเชื่อ หรือฟังความแต่ฝรั่งแต่ไม่เชื่อความคนไทยกันเอง" ที่ผมต้องออกตัว เอี๊ยดดดด ดังกล่าวก่อนก็ด้วยสิ่งต่าง ๆ หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เอามาแชร์กันได้มาจากกการไล่อ่านตามเวปต่างประเทศเสียมากกว่า 90% และอาศัยการแปลและเรียบเรียงความมาให้เพื่อนสมาชิกได้รับทราบข้อมูลกัน แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้ก็ต้องอาศัยการอ้างอิงตามหลักการทำงานของสกิมเมอร์ อยู่บนพื้นฐานของ "ความจริง" ดังนั้น ผมจึงต้องนำเสนอข้อมูลหลักการทำงานของโปรตีนสกิมเมอร์ไว้ตั้งแต่คราวแรก ความเชื่อเรื่องการใช้สกิมเมอร์ โอเวอร์ปริมาตรน้ำสูง ๆ นั้น นักเลี้ยงในต่างประเทศก็ถกเถียงกันเป็นจำนวนมากว่า "จำเป็นไหมที่ต้องโอเวอร์สกิม" "ถ้าจะโอเวอร์ ควรโอเวอร์เท่าใด" "ถ้าโอเวอร์สกิมฯ มาก ๆ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น" แน่นอนครับ การถกเถียงก็ต้องแบ่งตามความเชื่อ ประสบการณ์ในการเลี้ยงของนักเลี้ยงแต่ละฝักฝ่าย แต่ในทรรศนะของผมที่ไล่อ่านดู ก็พอสรุปได้ว่า "การโอเวอร์สกิมเมอร์นั้น ไม่จำเป็น แต่ถ้าจะทำ ก็สามารถกระทำได้ แต่ไม่ควรโอเวอร์จนเกินไปเอาแค่พอประมาณก็พอ" [on_018] คำอธิบาย คงต้องย้อนกลับไปอ่านเรื่องหลักการทำงานของสกิมเมอร์ในเบื้องต้นที่ว่า จุดประสงค์ของสกิมเมอร์มีไว้เพื่ออะไร ?? เอาง่าย ๆ คือ บำบัดน้ำให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วยการดักจับของเสียจำพวกอนุภาคโปรตีนที่ละลายน้ำ (DOCs) อยู่ออกจากน้ำโดยใช้ฟองอากาศเป็นตัวดัก ดังนั้น ถ้ามองเชิงตรรกะ .............. เพราะ "น้ำมีของเสียจำพวกอนุภาคโปรตีนละลายปะปนอยู่ จึงต้องใช้สกิมเมอร์ในการจัดการกำจัดของเสีย" ดังนั้น "ยิ่งน้ำมีของเสียมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องใช้โปรตีนสกิมเมอร์ที่มีความสามารถสูงขึ้นในการกำจัดของเสียตามสัดส่วนกัน" "ของเสียเกิดจาก ขี้ปลา อาหารตกค้าง สิ่งมีชีวิตตายเน่าสลายในระบบ ฯลฯ ยิ่งปัจจัยเหล่านี้มาก ของเสียยิ่งมาก" ในทางตรงข้ามทางตรรกะเช่นกัน "ถ้าปัจจัยพวก ขี้ปลา อาหารตกค้าง สิ่งมีชีวิตตายเน่าสลายในระบบ ฯลฯ มีน้อย น้ำก็มีของเสียน้อย" "น้ำมีของเสียปะปนน้อย ก็ต้องการสกิมเมอร์ที่สัมพันธ์กับของเสีย" <------------ นี่หล่ะคิอ ประเด็นที่ถกเถียง จะเห็นได้ว่า โดยหลักการที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสกิมเมอร์แล้ว คุณภาพ หรือประสิทธิภาพของสกิมเมอร์ที่เหมาะสมสัมพันธ์กับขนาดของตู้ปลานั้น คือ ความสัมพันธ์กับ "ของเสียที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ในตู้ปลา" เป็นหลักครับ "ไม่ใช่ดูปริมาตรน้ำเป็นหลัก" หรือที่เค้าเรียกกันว่าต้องพิจารณา "Bio Loading" หรือต้องพิจารณาจำนวนสิ่งมีชีวิตในตู้ปลาของเราครับ แต่ มันจะไปพิจารณาจำนวนสิ่งมีชีวิตในตู้อย่างไรฟ่ะ [on_018] เอาอะไรเป็นเกณฑ์ ?? [on_009] ตู้ขนาด 24 นิ้วไม่มีกรองล่าง อัดปลาตระกูลแทงค์ไป 5 ตัว นี่เยอะไหม ??? หรือ ตู้ขนาด 48 นิ้ว มีกรองล่าง แต่ชอบโล่ง ๆ เลี้ยงการ์ตูนสักคู่กับแอนสักตัวก็พอแล้ว นี่เยอะไหม ??? เกณฑ์การพิจารณามันเชิงอัตวิสัย ขึ้นกับความพอใจส่วนบุคคลเป็นหลักเสียมากกว่า ไม่มีเกณฑ์กลางที่ถือเอาได้ จึงถือเอาเกณฑ์ที่ตั้งบนฐานคติที่ว่า "ตู้ปลาแต่ละระบบ จะเลี้ยงสิ่งมีชีวิตในจำนวนที่เหมาะสมกับปริมาตรน้ำในระบบ" ดังนั้นจึงเอาเกณฑ์การทำน้ำมาเป็นเกณฑ์ในการกำหนดสกิมเมอร์แทน (การทำน้ำว่า สกิมเมอร์ตัวนี้เหมาะสมกับน้ำกี่ลิตร ๆ เป็นต้น) โดยปกติตามธรรมชาติแล้ว นักเลี้ยงมักลงสิ่งมีชีวิตหนักมือมากเกินกว่าปริมาตรน้ำในระบบเสมอ (อาการมันมือ จากกิเลส) ทั้งโดนสายตายั่วยวนของปลาเวลาว่ายขออาหาร จึงโปรยอาหารทุกครั้งที่เดินผ่านตู้ปลา (ต้องมีคนเป็นมั่งหล่ะน่า) ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้กลุ่มนักเลี้ยงที่เชื่อว่า "การโอเวอร์สกิมเมอร์นั้น มีความเหมาะสม" ซึ่งผมเองก็เห็นด้วยในประเด็นนี้นะครับ นอกเหนือจากนั้นแล้ว "ราคาคุย" หรือคำโฆษณาที่บรรยายสรรพคุณของโปรตีนสกิมเมอร์แต่ละยี่ห้อ ที่มักโอ้อวดสรรพคุณเกินประสิทธิภาพที่แท้จริง ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องเอามาพิจารณาด้วยเช่นกัน <------------ ลองสังเกตดูครับ เอาแค่กำลังของปั๊มยี่ห้อผลิตจีนตลาดล่าง กับผลิตจีนตลาดบน กับของยุโรป ในกำลังเท่ากัน (ตามคำโฆษณา) แต่กำลังจริง ๆ แตกต่างแน่นอนครับ งั้นเราพอสรุปความได้คร่าว ๆ นะครับว่า .............. "การโอเวอร์สกิมเมอร์นั้นสามารถกระทำได้" เนื่องจาก 1. นักเลี้ยงมักจะยัดสิ่งมีชีวิต ปลา+ก้นตู้ เต็มระบบ 2. คำโฆษณาเกินจริงของสกิมเมอร์แต่ละยี่ห้อในท้องตลาด แต่ .......... ด้วยตรรกะ เหตุและผลที่กล่าวมาตอนต้นนั้น ถ้า .... เลี้ยงสิ่งมีชีวิตน้อย เมื่อเทียบกับปริมาตรน้ำในระบบ และควบคุมปัจจัยการเกิดของเสียได้ดี เช่น ให้อาหารเป็นเวลา และให้ในปริมาณที่เหมาะสม เป็นต้น <---------- ของเสียที่เกิดในระบบก็จะมีน้อย กรณีนี้ "การโอเวอร์สกิมเมอร์ก็ไม่มีความจำเป็น หรือบางกรณีใช้สกิมเมอร์ขนาดย่อมกว่าปริมาตรน้ำก็เพียงพอ" แต่ ............ ก็อย่างที่บอกไปว่านักเลี้ยงน้อยกลุ่มที่จะเป็นเช่นนั้น แต่มักจะเป็นกรณีแรกมากกว่าที่ลงสิ่งมีชีวิตเต็มสตรีม ด้วยกิเลสมันพาไป ไอ้นั่นก็สวย ไอ้นี่ก็งาม ของเสียที่เกิดขึ้นมักจะเต็มปริมาตรระบบอยู่แล้ว "แต่ระดับการโอเวอร์สกิมเมอร์ที่เหมาะสมควรเป็นเท่าใด ????" หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: kaikuru ที่ 09/04/13, [21:00:24] มีความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ ้hahaha
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: oho ที่ 06/05/13, [13:35:12] เจ๋งอ่ะ ขอบคุณครับ.. แต่ยังอ่านไม่จบเลย [on_008]
ผมมือใหม่ฝากตัวด้วยครับ.. หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Oob. ที่ 09/05/13, [20:34:05] - พอจะมีข้อมูลมั้ยครับว่า ที่ผู้ผลิดบอกว่าสกิมตัวนี้สำหรับตู้ 1,000 ลิตร เค้าคำนวณยังไง หรือมันมีความสัมพันธ์กันยังไงระหว่าง ปริมาณน้ำที่ผ่านปั้มสกิม, ปริมาณอากาศที่เข้าตัวสกิม, หรือปริมาตรรวมทั้งหมดของสกิม ถึงคำนวณออกมาได้ - แล้วที่บอกว่าสำหรับตู้ 1,000 ลิตร หมายความว่ากรองน้ำได้ 1,000 ลิตร ต่อ ชั่วโมงหรือเปล่าครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ช่วยรวบรวมมาให้ครับ หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: longduza ที่ 06/06/13, [17:01:44] ขอสอบถามหน่อยนะครับ
ของผมมีสกิมเมอร์แบบแขวนข้างตู้อยุ่ พอดีจะย้ายไปตู้ใหญ่ เป็นกรองล่าง ขาเฟอ กรองล่างมันเต็มๆในขาเฟอพอดีอ่ะครับ ไม่มีที่ให้แขวนได้ แบบนี้ผมนำสกิมเมอร์แขวนแช่ใว้ในกรองได้รึป่าวครับ มีผลเสียอะไรมั้ย หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Kuroky77 ที่ 07/06/13, [12:17:47] กำลังหาเลย
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 08/06/13, [12:50:33] ขอสอบถามหน่อยนะครับ ของผมมีสกิมเมอร์แบบแขวนข้างตู้อยุ่ พอดีจะย้ายไปตู้ใหญ่ เป็นกรองล่าง ขาเฟอ กรองล่างมันเต็มๆในขาเฟอพอดีอ่ะครับ ไม่มีที่ให้แขวนได้ แบบนี้ผมนำสกิมเมอร์แขวนแช่ใว้ในกรองได้รึป่าวครับ มีผลเสียอะไรมั้ย ไม่ทราบว่าใช้สกิมเมอร์ ของยี่ห้ออะไร รุ่นใดครับ เผื่อเป็นข้อมูลครับ แต่ตามนัยปกติแล้ว สามารถนำไปจุ่มในกรองล่างได้ครับ เหมือนกับสกิมเมอร์แบบ external หลายรุ่นก็สามารถนำไปจุ่มไว้ในกรองล่างได้ไม่เป็นปัญหาเช่นกันครับ แต่ผมไม่แน่ใจ 100% นะครับ อาจมีบางรุ่นที่เป็นข้อยกเว้น แต่ตามตรรกะแล้วน่าจะมีจำนวนน้อยครับ หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: longduza ที่ 08/06/13, [15:59:29] ไม่ทราบว่าใช้สกิมเมอร์ ของยี่ห้ออะไร รุ่นใดครับ เผื่อเป็นข้อมูลครับ แต่ตามนัยปกติแล้ว สามารถนำไปจุ่มในกรองล่างได้ครับ เหมือนกับสกิมเมอร์แบบ external หลายรุ่นก็สามารถนำไปจุ่มไว้ในกรองล่างได้ไม่เป็นปัญหาเช่นกันครับ แต่ผมไม่แน่ใจ 100% นะครับ อาจมีบางรุ่นที่เป็นข้อยกเว้น แต่ตามตรรกะแล้วน่าจะมีจำนวนน้อยครับ ตอนนี้ผมใช้เป็น Boyu DG-2520 อยู่ครับ กำลังปั้ม 1600 L/Hr ขนาด 21.2 x1 3.1 x 50 cm เดิมใช้กับตู้24 นิ้ว ตอนนี้ผมกำลังขนาดทำตู้ใหม่ 36นิ้ว อยากจะยกตัวเดิมไปใช้ เพราะเพิ่งซื้อได้เดือนกว่าๆเองครับ หรือมีข้อแนะนำอะไรเพิ่มเดิม ช่วยแนะนำด้วยนะครับ (ปริมาณตู้ใหม่ น้ำ 600L) หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 09/06/13, [16:04:48] ตอนนี้ผมใช้เป็น Boyu DG-2520 อยู่ครับ กำลังปั้ม 1600 L/Hr ขนาด 21.2 x1 3.1 x 50 cm เดิมใช้กับตู้24 นิ้ว ตอนนี้ผมกำลังขนาดทำตู้ใหม่ 36นิ้ว อยากจะยกตัวเดิมไปใช้ เพราะเพิ่งซื้อได้เดือนกว่าๆเองครับ หรือมีข้อแนะนำอะไรเพิ่มเดิม ช่วยแนะนำด้วยนะครับ (ปริมาณตู้ใหม่ น้ำ 600L) อ่อครับ ตัว Boyu 2520 เป็นสกิมเมอร์แบบ Needle Wheel อยู่แล้ว (ลองไปดูคำอธิบายแต่ละชนิดครับ) ตามคำถามคืออยากเอาไปใช้กับตู้ใหม่ขนาดน้ำรวมประมาณ 600 ลิตร นั้น ในทรรศนะตามตรรกะแล้ว แม้่ว่า Boyu 2520 จะมีคำ claim ตามบริษัทผู้ผลิตว่าสามารถทำน้ำได้ถึง 600 ลิตรนั้น ผมว่าไม่น่าจะถึงครับ อีกทั้ง การที่เราขยายตู้ ก็เพื่อบรรจุ สมช. เพิ่มขึ้นค่า Bio loading ก็ย่อมเพิ่มขึ้น ของเสียเพิ่มขึ้น ผมว่าตัว Boyu ไม่น่าจะรับระบบไหว ยกเว้น ท่านเลี้ยงตู้ 36 น้ำขนาด 600 ลิตร ลงการ์ตูนสักคู่ กุ้งพยาบาลสักตัว หรือเอาง่าย ๆ คือ ลงสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ เมื่อ สมช. น้อย ค่า Bio loading ก็น้อย ของเสียน้อย แบบนี้ก็พอถูไถกับสกิมเมอร์ตัวเก่าได้ครับ ถ้าท่านอยากใช้ตัวสกิมเมอร์ตัวเก่า เพราะซื้อมาแค่ 1 เดือน ก็สามารถใช้ได้ครับ จะแขวนข้างตู้ตามสเปค หรือ DIY ยัดลงกรองล่างก็ไม่ปัญหาใด หรือ โมปั๊ม Needle Wheel กำลังแรงขึ้นก็เพิ่มปริมาณฟองได้ดีระดับหนึ่ง หรือ ขายมือสองเก็บเงินอีกนิด ถอยสกิมเมอร์ตัวใหม่ก็เป็นทางออกที่ดีครับ สิ่งที่ผมตอบไป เป็นการตอบตามตรรกะเท่านั้นนะครับ อาจแตกต่างตามประสบการณ์การเลี้ยงของสมาชิกแต่ละท่าน ซึ่งหวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้าง และทางที่ดีคือ ลองหาอ่านเยอะ ๆ ครับ และนำข้อมูลมาปรับให้เข้ากับบริบทของตู้เราครับ NO ONE BEST WAY ครับ หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: longduza ที่ 09/06/13, [17:34:06] อ่อครับ ตัว Boyu 2520 เป็นสกิมเมอร์แบบ Needle Wheel อยู่แล้ว (ลองไปดูคำอธิบายแต่ละชนิดครับ) ตามคำถามคืออยากเอาไปใช้กับตู้ใหม่ขนาดน้ำรวมประมาณ 600 ลิตร นั้น ในทรรศนะตามตรรกะแล้ว แม้่ว่า Boyu 2520 จะมีคำ claim ตามบริษัทผู้ผลิตว่าสามารถทำน้ำได้ถึง 600 ลิตรนั้น ผมว่าไม่น่าจะถึงครับ อีกทั้ง การที่เราขยายตู้ ก็เพื่อบรรจุ สมช. เพิ่มขึ้นค่า Bio loading ก็ย่อมเพิ่มขึ้น ของเสียเพิ่มขึ้น ผมว่าตัว Boyu ไม่น่าจะรับระบบไหว ยกเว้น ท่านเลี้ยงตู้ 36 น้ำขนาด 300 ลิตร ลงการ์ตูนสักคู่ กุ้งพยาบาลสักตัว หรือเอาง่าย ๆ คือ ลงสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ เมื่อ สมช. น้อย ค่า Bio loading ก็น้อย ของเสียน้อย แบบนี้ก็พอถูไถกับสกิมเมอร์ตัวเก่าได้ครับ ถ้าท่านอยากใช้ตัวสกิมเมอร์ตัวเก่า เพราะซื้อมาแค่ 1 เดือน ก็สามารถใช้ได้ครับ จะแขวนข้างตู้ตามสเปค หรือ DIY ยัดลงกรองล่างก็ไม่ปัญหาใด หรือ โมปั๊ม Needle Wheel กำลังแรงขึ้นก็เพิ่มปริมาณฟองได้ดีระดับหนึ่ง หรือ ขายมือสองเก็บเงินอีกนิด ถอยสกิมเมอร์ตัวใหม่ก็เป็นทางออกที่ดีครับ สิ่งที่ผมตอบไป เป็นการตอบตามตรรกะเท่านั้นนะครับ อาจแตกต่างตามประสบการณ์การเลี้ยงของสมาชิกแต่ละท่าน ซึ่งหวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้าง และทางที่ดีคือ ลองหาอ่านเยอะ ๆ ครับ และนำข้อมูลมาปรับให้เข้ากับบริบทของตู้เราครับ NO ONE BEST WAY ครับ ขอบคุณมากนะครับ เป็นประโยชในการตัดสินใจมากเลยครับ ถ้างั้น ขายสกิมเมอร์ตัวเก่า แล้วเพิ่มเงิน ซื้อตัวใหม่ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ ตู้ใหม่ 36*24*30 เล่นเอาเหนื่อยเลยอิอิ หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Ebi - Esann ที่ 15/06/13, [16:54:32] รบกวนถามนิดนึงครับ ตอนนี้กรองล่าง กั้น3ช่อง ผมจะเอาสกิมเมอร์ไว้ช่องแรก ที่น้ำลงจากตู้ ซึ่งมีเฉพาะถุงกรอง
กระแสน้ำมันจะไหลเร็วจนน้ำเสียเข้าสู่สกิมเมอร์ทันบำบัดมั้ยครับ เหตุผลที่ไว้ช่องกลางไม่ได้ เพราะเอาไว้ทำเรฟูเจียม ครับ หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 16/06/13, [13:22:22] รบกวนถามนิดนึงครับ ตอนนี้กรองล่าง กั้น3ช่อง ผมจะเอาสกิมเมอร์ไว้ช่องแรก ที่น้ำลงจากตู้ ซึ่งมีเฉพาะถุงกรอง กระแสน้ำมันจะไหลเร็วจนน้ำเสียเข้าสู่สกิมเมอร์ทันบำบัดมั้ยครับ เหตุผลที่ไว้ช่องกลางไม่ได้ เพราะเอาไว้ทำเรฟูเจียม ครับ การนำเอาสกิมเมอร์ไปติดตั้งไว้ยังช่องแรกนั้น มีความเหมาะสมที่สุดแล้วครับ ส่วนที่ว่าน้ำจะไหลลงเร็วมากจนสกิมเมอร์ไม่สามารถดึงน้ำเข้าไปบำบัดได้หรือไม่นั้น ขอตอบว่า "มีส่วนครับ" อย่าลืมครับว่า สกิมเมอรแต่ละประเภทมีลักษณะการดึงน้ำเข้าสู่การบำบัด รวมถึงประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน อย่างเช่นแบบ Needle Wheel จะมีความสามารถดึงน้ำเข้าระบบบำบัด ต่ำกว่า Venturi เป็นต้นครับ ส่วนสกิมเมอร์แบบติดตั้งภายนอกที่ต้องใช้ปั๊ม feed น้ำเข้าระบบสกิมฯ ก็มีประสิทธิภาพแตกต่างกับระบบที่ติดตั้งภายในช่องกรองด้วยเช่นเดียวกันครับ ที่กล่าวมานั้น หมายถึงกรณี ปริมาตรการดึงน้ำเสียจากระบบเข้าสู่การบำบัดนะครับ แต่อย่างไรก็ตามการดึงน้ำเข้าสู่ระบบมาก ๆ ไม่ได้หมายความว่าจะบำบัดได้ดีนะครับ ยังมีปัจจัยอื่นอีก อาทิ ความสามารถการทำฟอง ความสามารถการจัดระเบียบฟองให้ดันของเสียลงสู่ถ้วยกัก ฯลฯ ดังนั้น ต้องพิจารณาหลายปัจจัยครับ แต่การติดตั้งสหิมเมอร์ไว้ที่ช่องแรกนั้น เหมาะสมที่สุดแล้วครับผม หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Nava Coral Reef ที่ 27/06/13, [16:25:39] รบกวนถามครับ....
ตอนนี้ตู้ผมเป็นตู้ 48" กรองข้างเต็มธรรมดา (เลี้ยงแต่ปลา) [on_024] กำลังจะขยับขยาย ทำกรองล่าง 48" เช่นกัน แต่จะเปลี่ยนตู้ใหม่เป็นตู้ 48" โล่งเลยอยากจะขอคำแนะนำเกี่ยวกับสกิมเมอร์ครับว่าควรใช้ลักษณะไหนดี ยี่ห้อ+รุ่น+ราคา (ไม่ต้องแพงมากนะครับ) sick1 น้องปลาจะได้อยู่อย่างมีความสุขซะที [on_055] ปล.ขอตัวเลือกสัก 2-3 รุ่นนะครับถ้าจะพออนุเคราะห์ beg1 หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: mokjang_kill ที่ 16/07/13, [19:10:17] เป็นประโยชน์อย่างมากมาย ขอบคุณนะงับที่นำมาแบ่งปัน [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: kung1512 ที่ 27/07/13, [10:29:24] [on_066] [on_066] [on_066] [เจ๋ง] [เจ๋ง] ต้องยกให้เป็นผู้ชำนาณการ เลย
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: เจิ๊วหวๅน ที่ 24/08/13, [21:38:02] ช่วยดันนคับบ เห็นให้ความรู้ดีดี สมาชิกใหม่จะได้รู้กันน
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: copcong ที่ 14/09/13, [12:06:32] หายไปนาน เดี๋ยวมาเพิ่มข้อมูลครับ [on_018]
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: mai2610 ที่ 26/09/13, [20:38:11] (https://upic.me/i/ql/fig7c.jpg) (https://upic.me/show/43477195)
สอบถามครับ แกนปั๊มส่วนสีดำบวม ตอนนี้ดึงไม่ออก งัดแงะ แกะ ทึ้ง หักคา (Nac9 / atman 4000) ขอ 2 คำถามครับ 1.เกิดจากอะไร 2.เอาออกยังไง ขอบคุณครับ ได้คำตอบมา 1 แกนปั๊มบวม เกิดจากน้ำเค็มเข้าไปทำให้ส่วนของเหล็กเป็นสนิม แล้วดันพลาสติกให้บวม (http://www.reefthailand.com/webboard/t8706/ ) หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Nay68 ที่ 05/10/13, [16:48:19] ขอบคุณมากเลยครับ เป็นประโยชน์มากเลย แต่มีคำถามๆนึงที่ยังสงสัยครับว่า
การวางสกิมเมอร์ไว้ที่ช่องกรองช่องแรกที่น้ำไหลลง กับวางไว้ที่ช่องสุดท้ายมันจะต่างกันยังไงเหรอครับ ในเมื่อน้ำในระบบมันไหลวนอยู่ดีน่ะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Coral Reef House ที่ 16/10/13, [13:16:26] ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: mido ที่ 17/10/13, [00:09:42] ขอบคุณ จขกท. มากคับ สุดยอดเลยคับ กระจ่างมากเลย [on_066]
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: GMD ที่ 18/10/13, [17:18:05] ขอบคุณมากเลยค่ะ ได้ความรู้จากหัวข้อนี้มากๆ เลย จะรออ่านข้อมูลต่อๆ ไปนะคะ
[เย้ะ] หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Mayouza ที่ 20/11/13, [21:43:15] ขอบคุณครับความรู้ดีมากๆ
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: แมวเลี้ยงปลา ที่ 24/12/13, [22:24:36] ขอบคุณมากครับผม สำหรับความรู้ดีๆ และสาระประโยชน์ในการเลี้ยงปลาครับผม
หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: chavalit T ที่ 26/02/14, [01:30:56] ข้อความของคุณcopcongให้ความรู้มากเลยครับ สิ่งที่ผมอยากถามคือ ถ้าเราใช้ Nano bubble เข้ามาแล้วสามารถเอามาใช้ในสกิมเมอร์ในน้ำจืดได้ไหมครับ
chavalit T หัวข้อ: Re: อัพ ..เรื่องควรรู้ของ Protein Skimmer หรือ Foam Fractionator .. การทำงาน+เลือกซื้อ+ข้อสงสัย ?? เริ่มหัวข้อโดย: Puzzle ที่ 22/07/16, [20:52:52] up ครับ
|