|
หัวข้อ: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: V 940 j ที่ 15/12/11, [14:32:49] นักวิจัยนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดลำดับที่มีเวลาเรียนที่เยอะที่สุดในโลก เมื่อรองมาจากประเทศญี่ปุ่น เหตุที่เรียนหนักจึงส่งผลทำให้มีเด็กไทยต้องออกกลางคันจำนวนปีละ 900.000 คน ต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และมีปัญหาตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควรจำนวน 1.500.000 คน ใน 2 ปีที่ผ่านมา และยังมีเยาวชนติดโรค HIV จำนวน 1.358.000 คนใน 3 ปี และจะเพิ่มขึ้นทุกปี และมีค่าเรียนที่แพงจนมีเด็กไทยหลายคนเลือกทำอาชีพที่ผิดกฎหมายกันมากขึ้นจำนวน 386.250 คนต่อปี
เด็กที่ประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย เช่น ขายตัว ค้าขายเสพติด เป็นต้น สาเหตุที่เด็กทำผิด เฉพาะต้องการหาเงินเป็นค่าเรียน และการเรียนพบว่าเด็กไทยมีเวลาเรียนวันละ 8-10 คาบต่อวัน แต่มีเด็กจำนวนไม่น้อยไม่อยากเรียนหนังสือเพราะเบื่อหน่าย และที่น่าเป็นห่วงที่สุด เด็กจำนวนร้อยละ 87 มีเวลาพูดคุยกับพ่อแม่วันละ 10 นาทีจึงทำให้เด็กไม่มีเวลาได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ จึงทำให้พ่อแม่ไม่รู้ชีวิตความเป็นอยู่ในโรงเรียนของเด็กเลย หรือน้อยมาก และพบอีกว่าเนื้อหารายวิชาต่างๆ มีแต่เนื้อหาที่มีความรู้แต่ไม่มีศิลธรรม จึงทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดศิลธรรม ไม่รู้จักเสียสละ ไม่รู้จักทำเพื่อส่วนรวมเพื่อผู้อื่น และกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวในที่สุด เมื่อเด็กจบไปเด็กอาจใช้ความรู้ที่มีมาก่อน นำไปใช้ในทางที่ผิดศิลธรรมในที่สุดได้เช่นกัน และมีเด็กไทยตั้งแต่อายุ 7 -20 ปีที่ต้องฆ่าตัวตายด้วยผลการเรียนตกตํ่า หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ที่น่าตกใจมีจำนวนที่เด็กไทยที่ฆ่าตัวตายปีละ 300.000 คนต่อ อีกปัญหาหนึ่งคือ จำนวนนักเรียนในห้องเรียนมากเกินไป ตามมาตรฐานการศึกษาจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่ควรเกิน 30 คน "คำพูดที่สรุปภาพของการศึกษาไทยได้อย่างเจ็บแสบว่าเป็นแบบ "ลู่วิ่งเดี่ยวปลายตีบ" เด็กทั้งประเทศเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งที่แข่งขันด้านความเป็นเลิศทาง วิชาการ แต่ยิ่งวิ่ง ปลายลู่ยิ่งตีบ เด็กส่วนใหญ่พ่ายแพ้ ต้องหล่นออกจากลู่ มีน้อยคนเท่านั้นที่วิ่งชนะ สภาพเช่นนี้บั่นทอนคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ทุกคน ถ้าวันนี้ถ้าระบบการศึกษาไทยยังไม่เปลี่ยน ก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้" (https://upic.me/i/lb/588114-topic-ix-2.jpg) (https://upic.me/show/31258293) ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ http://www.clipmass.com/story/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-2-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99---39965 คิดยังไงกันครับ หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: Fibo ที่ 15/12/11, [15:16:40] เห็นว่าจะปฏิรูปๆ การศึกษามาหลายปีแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: Yoda ที่ 15/12/11, [16:21:24] เดี๋ยวก็คงฉลาดขึ้นแล้วหละครับ เห็นเค้าว่าเริ่มแจกแท็บเล็ตกันแล้ว [on_026] [on_026]
หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: The_OFfy ที่ 15/12/11, [16:48:18] เห็นว่าจะปฏิรูปๆ การศึกษามาหลายปีแล้วนะ นั้นสิครับ แต่ทำไมเด็กมัธยมเก่าผม เค้าแย่เอาๆ โดยเฉพาะค่าเทอม งงมาก ยิ่งเรียนยิ่งแพง พอมีโปรโมชั่นที่รัฐช่วย หนังสือยืมเรียน ช่วยค่าเล่าเรียน ค่าอุปกรณ์ ไปประชุมผู้ปกครองแทบเป็นลม เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก [on_007] หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: bobo ที่ 15/12/11, [17:35:27] เป็นไปไม่ได้หรอกฆ่าตัวตายปีละสามแสน [on_008]
หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: Gold ที่ 15/12/11, [19:09:02] จริงคับ จากประสบการณ์ตอนนี้เลย asspain
หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: frogfrog ที่ 15/12/11, [19:13:47] เรืยนเยอะมาก รวม ๆ พื้น ก็ ป ตรี เรียนก็ เอาไป น้อง ๆ
20 ปีเหมือนกันนะ เหนื่อย เเต่ตอนนี้ไม่มีเวลากลับไปคิดเเล้วหล่ะ ทำงานอย่างเดว lol [เจ๋ง] ปล. ข้อมูลดีมีสาระ เเหล่ม หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: li13ra ที่ 15/12/11, [20:12:19] เรื่องอื่น ผมไม่แน่ใจในข้อมูลนะครับ
แต่เรื่อง พบอีกว่าเนื้อหารายวิชาต่างๆ มีแต่เนื้อหาที่มีความรู้แต่ไม่มีศิลธรรม จึงทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดศิลธรรม ไม่รู้จักเสียสละ ไม่รู้จักทำเพื่อส่วนรวมเพื่อผู้อื่น และกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวในที่สุด เมื่อเด็กจบไปเด็กอาจใช้ความรู้ที่มีมาก่อน นำไปใช้ในทางที่ผิดศิลธรรมในที่สุดได้เช่นกัน อันนี้ผมเห็นด้วยที่สุดครับ เหมือนท่านพุทธทาส เคยพูดไว้นานแล้วนะครับ ว่า "การศึกษาไทยเป็นการศึกษาแบบหมาหางด้วน" ปล. เคยได้ยินมาว่า คนที่มีอำนาจไม่ค่อยอยากให้คนในประเทศ มีความรู้หรอกครับ เพราะหลอกยาก ปกครองยาก จึงไม่มีใครปฏิรูปการศึกษาจริงๆจังๆ ซะที อันนี้ไม่รู้จิงเท็จ แค่ไหน หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: GhostDevil ที่ 15/12/11, [23:20:08] มันเป็นที่ปลายเหตุนะครับ ต้นเหตุเพราะ บ้านอีกส่วนหนึ่ง พี่สาวผมเอง (ลูกพี่ลูกน้องกันครับ) แกมีลูก2คน
คนโตเป็นผู้หญิง คนเล็กเป็นผู้ชาย คนโตไม่ค่อยน่าเป็นห่วง คนเล็กนี่น่าเป็นห่วงกว่า เพราะตอนเข้าเรียนใหม่ๆนี่พัฒนาการดีมาก แต่พอเริ่มเรียนสูงขึ้น การบ้านก็ยิ่งยาก พอเอาการบ้านมาถามแม่ แม่เขากลับไม่สนใจ บอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่เหมือนที่เคยเรียน (พี่สาวผมเขาจบป.ตรีนะครับ) เป็นแบบนี้ตลอด จนตอนนี้ครูที่โรงเรียน บอกว่าการเรียนของลูกเขาต่ำกว่าเกณฑ์ที่ควรจะเป็น แล้วก็ ครูส่วนหนึ่ง ไม่ได้ตั้งใจจะว่านะครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ ว่าครูบางคนจะหวงวิชาในห้องเรียน เช่นทริกในการคิดหรือคำนวณ ทริกในการจำ แม้กระทั่งเอาข้อสอบปลายภาคไปสอนพิเศษก็มีมาเเล้ว(อันนี้เจอมากะตัวสมัยเรียนมัธยม เเต่ผมไม่ได้ไปเรียนหรอกครับ เพือนในห้องที่ไปเรียนเล่าให้ฟังว่าเหมือนข้อสอบเด๊ะ พวกที่เรียนพิเศษได้เต็มทุกคน) แล้วก็สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นอะไรที่ล้มเหลวที่สุดในการศึกษาไทยก็คือ ระบบเงินเดือนและสวัสดิการ รวมถึงมาตรฐานของการคัดเลือกบุคลากร(ครู) อันนี้ อ.ที่วิทยาลัยเก่าผมเล่าให้ฟัง ว่าท่านมีเพื่อนอยู่คนนึงเคยเรียนด้วยกันเขาฉลาดมากๆ ประมาณว่าตอนเรียนในห้อง อ.ผม กับเพื่อนคนอื่นๆในห้อง จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่สิ่งที่ครูพูดซักเท่าไหร่ มีเพื่อนคนนี้คนเดียวที่เข้าใจ และเขาสามรถอธิบายในสิ่งที่เรียนมาให้เพื่อนเข้าใจได้ดีกว่าที่ครูสอนมาอีกตอนนี้ เพื่อน อ.ผมคนนี้ เขาเป็นวิศวะครับ มีบางครั้งที่ อ.ผมไปปรึกษาเวลาสอนหนังสือเเล้วนักเรียนไม่เข้าใจ เขาก็แนะนำการสอนแบบที่ทำให้เข้าใจได้ง่ายให้ อ.ผม อ.ผมเลยถามว่า ทำไม่ไม่มาเป็นครู เขาตอบว่า "ไม่ เพราะมันเหนื่อย และได้เงินน้อยด้วย" ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะหมอ เปรียบกับผู้ซ่อมคน วิศวะคือผู้สร้างตึกสร้างบ้าน (พ่อกับเเม่คือผู้ แต่ทำไมเงินเดือนครูถึงได้น้อยนิดแทบไม่พอยาใส้ จนต้องดิ้นรนทุกวิถีทาง ทั้งขายตรง ปล่อยกู้เล่นแชร์ และเปิดสอนพิเศษ เพื่อความอยู่รอด พอก่อน (อันที่จริงมีมากว่านี้แต่เดี๋ยวจะยาวไป) อาจจะมีบางข้อความที่สร้างความไม่พอใจกับบางท่านผมก็ขออภัย beg1 หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: V 940 j ที่ 16/12/11, [08:04:42] มันเป็นที่ปลายเหตุนะครับ ต้นเหตุเพราะ บ้านอีกส่วนหนึ่ง พี่สาวผมเอง (ลูกพี่ลูกน้องกันครับ) แกมีลูก2คน คนโตเป็นผู้หญิง คนเล็กเป็นผู้ชาย คนโตไม่ค่อยน่าเป็นห่วง คนเล็กนี่น่าเป็นห่วงกว่า เพราะตอนเข้าเรียนใหม่ๆนี่พัฒนาการดีมาก แต่พอเริ่มเรียนสูงขึ้น การบ้านก็ยิ่งยาก พอเอาการบ้านมาถามแม่ แม่เขากลับไม่สนใจ บอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่เหมือนที่เคยเรียน (พี่สาวผมเขาจบป.ตรีนะครับ) เป็นแบบนี้ตลอด จนตอนนี้ครูที่โรงเรียน บอกว่าการเรียนของลูกเขาต่ำกว่าเกณฑ์ที่ควรจะเป็น แล้วก็ ครูส่วนหนึ่ง ไม่ได้ตั้งใจจะว่านะครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ ว่าครูบางคนจะหวงวิชาในห้องเรียน เช่นทริกในการคิดหรือคำนวณ ทริกในการจำ แม้กระทั่งเอาข้อสอบปลายภาคไปสอนพิเศษก็มีมาเเล้ว(อันนี้เจอมากะตัวสมัยเรียนมัธยม เเต่ผมไม่ได้ไปเรียนหรอกครับ เพือนในห้องที่ไปเรียนเล่าให้ฟังว่าเหมือนข้อสอบเด๊ะ พวกที่เรียนพิเศษได้เต็มทุกคน) แล้วก็สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นอะไรที่ล้มเหลวที่สุดในการศึกษาไทยก็คือ ระบบเงินเดือนและสวัสดิการ รวมถึงมาตรฐานของการคัดเลือกบุคลากร(ครู) อันนี้ อ.ที่วิทยาลัยเก่าผมเล่าให้ฟัง ว่าท่านมีเพื่อนอยู่คนนึงเคยเรียนด้วยกันเขาฉลาดมากๆ ประมาณว่าตอนเรียนในห้อง อ.ผม กับเพื่อนคนอื่นๆในห้อง จะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่สิ่งที่ครูพูดซักเท่าไหร่ มีเพื่อนคนนี้คนเดียวที่เข้าใจ และเขาสามรถอธิบายในสิ่งที่เรียนมาให้เพื่อนเข้าใจได้ดีกว่าที่ครูสอนมาอีกตอนนี้ เพื่อน อ.ผมคนนี้ เขาเป็นวิศวะครับ มีบางครั้งที่ อ.ผมไปปรึกษาเวลาสอนหนังสือเเล้วนักเรียนไม่เข้าใจ เขาก็แนะนำการสอนแบบที่ทำให้เข้าใจได้ง่ายให้ อ.ผม อ.ผมเลยถามว่า ทำไม่ไม่มาเป็นครู เขาตอบว่า "ไม่ เพราะมันเหนื่อย และได้เงินน้อยด้วย" ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะหมอ เปรียบกับผู้ซ่อมคน วิศวะคือผู้สร้างตึกสร้างบ้าน (พ่อกับเเม่คือผู้ แต่ทำไมเงินเดือนครูถึงได้น้อยนิดแทบไม่พอยาใส้ จนต้องดิ้นรนทุกวิถีทาง ทั้งขายตรง ปล่อยกู้เล่นแชร์ และเปิดสอนพิเศษ เพื่อความอยู่รอด พอก่อน (อันที่จริงมีมากว่านี้แต่เดี๋ยวจะยาวไป) อาจจะมีบางข้อความที่สร้างความไม่พอใจกับบางท่านผมก็ขออภัย beg1 พูดอย่างนี้จัด + ไปเลยดีกว่า อาจารย์หลายคนกั๊กไว้สอนพิเศษจริงๆแหละ หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: Bankcaramel ที่ 16/12/11, [15:06:37] [on_003]ผมเคยมีครั้งนึง โดดเรียนยกชั้นไปเที่ยวน้ำตก 13 คนรวดโดดลงกำแพงข้างๆโรงเรียน (ตอนนั้นในห้องมี 14คน) ้hahaha
เลยเกิดความคิดได้อย่างนึงหลักสูตรบางวิชาก็ดี อาจารย์สอนก็ใช้ได้ แต่ทำไมเราถึงเกิดการต่อต้าน สงสัยต้องขึ้นอยู่กับตัวนักศึกษาอีกที [on_018] หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: Fibo ที่ 16/12/11, [15:43:02] [on_003]ผมเคยมีครั้งนึง โดดเรียนยกชั้นไปเที่ยวน้ำตก 13 คนรวดโดดลงกำแพงข้างๆโรงเรียน (ตอนนั้นในห้องมี 14คน) ้hahaha เค้าเรียกว่า เป็นการเรียนนอกห้องเรียน จะทำให้เรียนเข้าใจกว่าเรียนในห้องในบางวิชา [on_026]เลยเกิดความคิดได้อย่างนึงหลักสูตรบางวิชาก็ดี อาจารย์สอนก็ใช้ได้ แต่ทำไมเราถึงเกิดการต่อต้าน สงสัยต้องขึ้นอยู่กับตัวนักศึกษาอีกที [on_018] หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: aquamedical_fraghouse ที่ 16/12/11, [16:24:10] ถ้าไม่เรียนกันหนักประเทศก็จะขาดรายได้ไปจากภาษีสินค้าอุปโภค บริโภค เช่น เปปท... ที่จัดแคมเปนกันแบบถ้ากินตรูเมงติด เป็นต้น [on_065]
อยาาาาาาาก เปปปปปปปนนน หมอ....ย า ก จัง emb01 หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: F~irstiz~Z ที่ 17/12/11, [11:15:56] เออ เห็นด้วย ผมนี่เห็นเด็กทุกวันนี้แล้วเครียดแทนลูกเลย ทำให้คิดไม่อยากจะมีลูกเลยแหล่ะ เพราะไม่อยากให้ลูกไปแข่งขันกับเด็กคนอื่นอะไรกันบ้าบอขนาดนี้ รุ่นผมนี่เลิกเรียนเสร็จ3-4โมงก็ไปวิ่งเล่นกันแล้ว พอ6โมงเย็นเสียงเพลงกระจก6ด้านดังแล้วไม่เข้าบ้านนี่พ่อถือไม้เรียวรอแล้วอ่ะ เด็กยุคนี้2-3ทุ่มผมเลิกงานกลับบ้านนี่ก้อว่าเหนื่อยๆแล้วอ่ะ แต่มาเจอเด็กที่เรียนพิเศษตามติวเตอร์ต่างๆกลับบ้านพอๆกันนี่แบบว่า เรารู้สึกไม่เหนื่อยไปเลยอ่ะ เห็นเด็กแบกกระเป๋า หอบหนังสือพะรุงพะรังไปหมด ดูแล้วน่าสงสารอ่ะ อะไรก้อไม่รู้ อัดๆๆๆเข้าไปทั้งวันทุกวัน ไม่รู้จะเอาไอที่อัดๆมานี่ไปเก็บไว้ไหน สมองก็มีแค่อันเดียว เสาร์-อาทิตย์แทนที่จะได้หยุดพักบ้าง ก็ยังต้องออกไปเรียนอีก ก็พอจะเข้าใจว่าสมองแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วพอถึงเวลาเอ็นทรานซ์ ประมาณว่าเด็กกลุ่มเดียวกัน15คน เอ็นฯติดคนเดียว........แล้วไอความรู้สึกของไอคนที่เหลืออ่ะ เรียนก้อเรียนมาด้วยกัน ทำไมไม่ติดเหมือนไอนั่นวะ คิดแล้วท้อแทนอ่ะ แล้วก็ย้อนมาคิดถึงลูกว่า ถ้าเรามีลูก ต่อไปมันต้องแข่งขันกันมากกว่านี้ แล้วลูกเราจะไปแทรกตัวอยู่ ณ จุดไหนของเด็กพวกนี้กันนะ?
หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: pipeky ที่ 17/12/11, [16:30:25] ผมกำลังอยู่ใน สภาพแบบนั้นแหละครับ แต่ผมสงสัยคือ ระบบของไทยคือการอัด ความรู้และขนทุกอย่างมากองรวมกัน
ให้เด็กเรียน แต่ถ้าจะเืลือกเส้นทางแบบเจาะจงต้องไปคลำเอาเอง ซึ่งผมว่าน่าจะมีการทดสอบความเหมาะสม และความชอบเสียก่อนจะเปิดให้เรียน และแบ่งเป็นกลุ่มๆไป ถ้าคนเข้าผิดกลุ่มไม่ไหว ก็ออกไป แบบนั้นผมว่าเวิร์คกว่าเยอะ(ทดสอบนี่หมายถึงควรเริ่มทำตั้งแต่ม.ต้น) แต่นี่ให้เอาทุกอย่าง แล้วเด็กที่จบมาก็มีความรู้เยอะครับ แต่ส่วนใหญ่ก็เก่งกันแค่ในตำราและข้อสอบเท่านั้นไม่สอนให้คิด ,ให้รู้จักใช้ปัญญามากกว่าขนความรู้ ส่วนคนที่ทั้งเก่งทั้งฉลาด ก็ไม่อยากอยู่ช่วยประเทศ เพราะคนทั่วไปมันทำตัวให้น่าหมดกำลังใจเหลือเกิน ไม่สนับสนุนแถมยังทำตัวอย่างแย่ๆกันอีก สุดท้ายเด็กพวกนี้ก็ออกไปพัฒนาประเทศอื่นกันหมด และถ้ายังเป็น แบบนี้ต่อไป คงไม่ต้องไปหวังอนาคตของชาติมากมายนัก เพราะพวกคุณสร้างอนาคตด้วยความสะเพร่ากันเช่นนี้ หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: yok.030 ที่ 18/12/11, [09:35:50] จากประสบการณ์ ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม
นั่งเทียนมั่วอะ หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: WazZa27 ที่ 18/12/11, [18:21:29] เห็นด้วยน่ะครับ
และก็เคยผ่านมาแล้วครับ เอ็นทรานเป็นอะไรที่เครียด แต่ถ้าผ่านมาแล้วจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น สู้ต่อไปครับเด็กไทย [เจ๋ง] หัวข้อ: Re: ไทยติดอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น เริ่มหัวข้อโดย: AuN 27 ที่ 18/12/11, [20:53:54] อยากมีชีวิตอนาคตที่สดใส ก็อย่าใส่ใจการเรียนมากเกินไป...คือคติประจำใจของผมตอนเรียนเลยอ่ะครับ [on_007]
|