|
หัวข้อ: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Mewclub ที่ 27/06/11, [23:09:19] ปลานีโมมีเมือกอยู่ตามหัวเป็นไรไหมครับ
หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: iEmz ที่ 27/06/11, [23:43:13] สงสัยป่วยแล้วมั้งครับท่าน [on_008]
หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Mewclub ที่ 27/06/11, [23:48:40] แล้วต้องแยกมันออกมาหรือป่าวอ่ะคับ กัวไ่ปติดตัวอื่นเข้า
หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: iEmz ที่ 27/06/11, [23:54:12] แยกเลยครับ เพื่อความปลอดภัย รอดูอาการไปเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Mewclub ที่ 28/06/11, [00:04:04] ไอ้หยา....ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: MrDomes ที่ 28/06/11, [00:16:55] ถ้ามีรูปมาให้ดูประกอบด้วยจะดีมาก ^^"
แล้วปลาเพิ่งลงหรือว่าเลี้ยงนานแล้วฮะ อุณภูมิแกว่งหรือเปล่า เพิ่งเปลี่ยนน้ำหรือเปล่า ขอข้อมูลเพิ่มเติมด้วย จะได้ช่วยหาทางแก้ไขได้ถูกครับ emb01 หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Mewclub ที่ 28/06/11, [11:14:04] ตัวที่มีเมือกติดน่ะครับ เมื่่อวานถ่ายน้ำ20%ครับและอุณภูมิอยู่ที่ 25-26องศาครับ ลงได้7วันครับ ตู้นี้ผมตั้งได้7วันเองครับ(https://upic.me/i/as/picture010.jpg) (https://upic.me/show/25599481)
หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Dark Light ที่ 28/06/11, [11:49:23] ตัวที่มีเมือกติดน่ะครับ เมื่่อวานถ่ายน้ำ20%ครับและอุณภูมิอยู่ที่ 25-26องศาครับ ลงได้7วันครับ ตู้นี้ผมตั้งได้7วันเองครับ(https://upic.me/i/as/picture010.jpg) (https://upic.me/show/25599481) แยกเลยคับ หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: TonGa ที่ 28/06/11, [11:57:50] แยกก็ไม่มีประโยชน์ รันน้ำแค่ 7 วัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปลาจะป่วยครับ
หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Dark Light ที่ 28/06/11, [12:01:18] แยกก็ไม่มีประโยชน์ รันน้ำแค่ 7 วัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปลาจะป่วยครับ เขาโดนหลอกมาคับ ต้องเห็นจัยเขาด้วย asspainหัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: ถังขยะ ที่ 28/06/11, [12:18:30] สงสัยว่าให้แยกให้แยก สำหรับคนรันน้ำ 7 วันจะเอาไปแยกไว้ตรงไหนครับ??
เผื่อเวลาผมเกิดปัญหาขึ้นมาจะได้ทำการแก้ไขแบบเคสนี้ได้ทัน เพราะเห็นบางท่านบอกว่า รันน้ำที่จะเปลี่ยนทิ้งเอาไว้นานก็ไม่ดีไอ้นั่นลด ไอ้นีี่่ขาด จะผสมน้ำใหม่มันก็ไม่ได้ ไม่ได้รันน้ำอีก เลยคิดว่า ไอ้แยกปลาของทุกท่านแยกกันแบบไหนครับ? ตักจากตุ้ใหญ่ที่มีเชื้อทำให้ปลาป่วยอยู่แล้วออกมาสัก 4-5ขันแล้วเอาปลาป่วยลงไปตู้ที่แยก?? หรือยังไงอ่ะ ขอความรู้หน่อยครับ หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: i_brabus ที่ 28/06/11, [15:56:08] สงสัยว่าให้แยกให้แยก สำหรับคนรันน้ำ 7 วันจะเอาไปแยกไว้ตรงไหนครับ?? เผื่อเวลาผมเกิดปัญหาขึ้นมาจะได้ทำการแก้ไขแบบเคสนี้ได้ทัน เพราะเห็นบางท่านบอกว่า รันน้ำที่จะเปลี่ยนทิ้งเอาไว้นานก็ไม่ดีไอ้นั่นลด ไอ้นีี่่ขาด จะผสมน้ำใหม่มันก็ไม่ได้ ไม่ได้รันน้ำอีก เลยคิดว่า ไอ้แยกปลาของทุกท่านแยกกันแบบไหนครับ? ตักจากตุ้ใหญ่ที่มีเชื้อทำให้ปลาป่วยอยู่แล้วออกมาสัก 4-5ขันแล้วเอาปลาป่วยลงไปตู้ที่แยก?? หรือยังไงอ่ะ ขอความรู้หน่อยครับ ปกติการเลี้ยงตู้ปลาทะเลควรมีตู้สำหรับกักโรค แยกไว้ต่างหากอีก 1 ชุด สำหรับปลาที่มาใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาที่มาใหม่ไปเผยแพร่เชื้อโรคต่างๆ ติดปลาเก่า ทำให้ปลาเก่าเป็นโรคตายตามไปด้วย แต่คนที่เลี้ยงตู้ทะเลบ้านเรามักไม่เห็นความสำคัญของตู้กักโรค ผมสังเกตุจะเห็นเฉพาะคนที่เลี้ยงปลาแพงๆ หรือคนที่เลี้ยงตู้ทะเลมานาน ถึงจะมีตู้กักโรค เพราะเขาคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ปลาตัวนึงไม่ใช่ 200 - 300 บ. แต่ตัวนึงไม่ต่ำกวา 3000 - 4000 บ. เขาจึงต้องมีตู้กักโรค เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะมี เพื่อลดการสูญเสีย ผู้เลี้ยงปลาทะเลหน้าใหม่ส่วนใหญ่ ไม่เคยคิดถึงเรื้องนี้เลย พอซื้อปลามาก็เทลงตู้เลย ส่วนที่ดีขึ้นมาหน่อยก็พวกที่กักปลาไว้ในกรองล่าง แต่จุดประสงค์หลักๆ ก็เพื่อฝึกให้ปลากินอาหารเม็ดได้ พอ 3 - 4 วัน ปลาเริ่มกินอาหารเม็ดก็จับลงตู้หลัก โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงการกักโรคเลย บางท่านอาจจะสังเกตุว่า ทำไมบางคนเขากล้ากักปลาไว้ที่กรองล่างของตู้หลัก ไม่กลัวว่าปลาใหม่มันจะพาโรคไปติดปลาเก่าในตู้หลักเหรอ คำตอบคือเขามีตัวช่วยครับ นั่นคือ UV กับ Ozone นั่นเอง ซึ่งหน้าที่ของเจ้าเครื่องตัวนี้คือ กำจัดเชื้อโรคและปรสิตบางชนิด ได้เป็นอย่างดี เขาจึงกล้ากักปลาไว้ในกรองล่างของตู้หลัก(หลายท่านอาจจะสงสัยอีกว่า UV กับ Ozone มันต่างกันอย่างไง ใช้ยังไง เดี๋ยวผมจะขยายความให้ฟังใน Rep ต่อไปนะครับ) ฉะนั้นตู้กักโรคจึงเป็นสิ่งจำเป็น วิธีทำก็ง่ายๆ ไปหาซื้อตู้น้ำจืดขนาดซัก 30 นิ้ว กรองข้างก็ได้(หรือถ้าใครมีตังค์ ก็ทำเป็นกรองล่างไปเลย) หาสกิมเมอร์ WEIPRO ถูกๆ ซักตัว ใส่เข้าไป รันน้ำใส่แบคทีเลียปกติเหมือนตู้เลี้ยง ส่วนในตู้ก็หาหินเป็นมาใส่ซัก 2 ก้อน เพื่อให้ปลามีที่หลบ จะได้ไม่เครียด หาสาหร่ายมาใส่สักหน่อยก็ดี พวกปลากินพืชจะได้ปรับตัวง่าย เปลี่ยนน้ำบ้างซัก 2 อาทิตย์ครั้งก็ได้(ถ้าจะให้ดี ควรเปลี่ยนหลังจากที่เอาปลาที่กักโรคอยู่ไปปล่อยลงตู้หลัก แล้วเปลี่ยนทันที ซัก 30 %) โดยปกติควรกักปลาไว้ซัก 2 - 3 อาทิตย์ ค่อยปล่อยลงตู้หลักครับ ปล.คิดที่จะเลี้ยงปลาทะเล ควรคำนึงถึงว่าอุปกรณ์สิ่งไหนควรจะมีใช้ ควรน่าลงทุนหาซื้อมาใช้ เพราะงานอดิเรกนี้จำเป็นต้องใช้เงินเยอะพอสมควร ถ้าเงินไม่ถึงอย่าใจร้อน ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เก็บเงินซื้ออุปกรณ์สะสมไปเรื่อยๆ เมื่ออุปกรณ์สิ่งจำเป็นพร้อม ความสูญเสียย่อมเกิดน้อยลง หรืออาจไม่เกิดขึ้นกับตู้เราเลยก็ได้ครับ ถ้าท่านมีความพร้อม ตู้ทะเลของท่านจะสวยขึ้นในบัดดล หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: i_brabus ที่ 28/06/11, [16:02:08] UV กับ Ozone
ทั้งสองอย่าง มีหลักการทำงานที่แตกต่างกันครับ มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป เริ่มจาก UV ก่อน หลอดกำเนิดแสง UV ที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในตู้ปลา จะให้รังสี UV-C ออกมา ซึ่งโดยปกติแล้ว รังสี UV-C จากแสงอาทิตย์ตามธรรมชาติ จะถูกดูดกลืนโดยโอโซน ในชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้ไม่สัมผัสกับมนุษย์โดยตรง UV-C มีอันตรายต่อเซลล์ของสิ่งมีชีวิตบนโลก หากมนุษย์สัมผัสกับแสงโดยตรง ก็อาจจะทำให้เกิดการไหม้เกรียมของผิวหนัง หรือหากมองด้วยตาเปล่าก็อาจจะทำให้เกิดอาการเยื่อบุตาอักเสบ และสามารถทำลายเซลล์ต่างๆของสิ่งมีชีวิตได้อย่างรุนแรง ดังนั้น หลอดยูวีที่ใช้ในตู้ปลา จึงต้องบรรจุอยู่ในกระบอกทึบ เพื่อป้องกันอันตรายจากตรงจุดนี้ เวลาใช้งาน ก็ทำได้โดยการส่งน้ำให้ไหลผ่านเข้าไปในกระบอกอย่างช้าๆ ไข่หรือตัวอ่อนของปรสิต แพลงตอน เชื้อโรค หรือแบคทีเรียต่างๆ เมื่อสัมผัสกับแสงยูวี เซลล์ก็จะถูกทำลายและตายไป จึงถือเป็นการฆ่าเชื้อในน้ำที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง แต่ก็ต้องเลือกขนาดของยูวี และอัตราการไหลเวียนของน้ำให้เหมาะสมกับขนาดปริมาณน้ำในตู้ด้วย (หากน้ำไหลผ่านเร็วเกินไป เชื้อต่างๆจะมีเวลาสัมผัสกับแสงน้อย อาจจะทำให้ไม่ตาย) การใช้ยูวีฆ่าเชื้อในน้ำ เป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตในตู้ อาจจะใช้เวลามากหน่อย แต่ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพ หลอด UV ก็มีอายุการใช้งาน เช่นเดียวกับหลอดไฟทั่วๆไป เมื่อใช้งานไปซักระยะหนึ่ง หลอดจะค่อยๆเสื่อม ทำให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคลดลง โดยทั่วไปแล้ว จึงควรจะมีการเปลี่ยนหลอดทุกๆ 1 ปีครับ ส่วน โอโซน (Ozone) โอโซน (O3) เป็นก๊าซที่ไม่เสถียร สลายตัวได้ค่อนข้างเร็ว มีคุณสมบัติเป็น oxidizing agent (สารที่ทำให้สารอื่นรวมตัวกับอ็อกซิเจน) ในความเป็นจริงแล้ว โอโซนคือก๊าซพิษ หากมีปริมาณมากพอก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตต่างๆได้ แต่หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็สามารถนำไปทำประโยชน์ได้มหาศาล ดังนั้น โอโซนจึงมีคุณสมบัติในการช่วยฆ่าเชื้อโรคในน้ำ และยังทำลายสารพิษ สี กลิ่น สารเคมี ฯลฯ ในน้ำด้วย การใช้โอโซนในปริมาณที่เหมาะสม และมีความแรงเพียงพอ จึงช่วยฆ่าเชื้อโรค และตัวอ่อนของปรสิตต่างๆในน้ำได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่เป็นอันตรายกับปลาหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แถมยังช่วยบำบัดคุณภาพน้ำ กำจัดของเสีย สี และสารเคมีต่างๆในน้ำอีกด้วย แต่การใช้โอโซนโดยไม่มีตัววัดค่า หรือตัวควบคุมค่า(ORP Controller) ก็มีข้อเสียคือ หากใช้ในปริมาณน้อยเกินไป เชื้อโรคหรือปรสิตต่างๆก็อาจจะไม่ตาย หรือหากใช้ในปริมาณมากเกินไป ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อปลา หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆในตู้ อุปกรณ์ในการวัด หรือควบคุมค่าโอโซน ส่วนใหญ่ก็จะมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น การจะใช้โอโซนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงสามารถทำได้เฉพาะผู้ที่มีตัวควบคุมค่าโอโซนเท่านั้น แต่หากใช้เปิดโดยการกะระยะเวลา หรือคาดคะเนเอา โดยไม่มีตัวควบคุม ก็อาจจะได้ประโยชน์ในแง่การช่วยบำบัดคุณภาพน้ำ แต่การฆ่าเชื้อโรคอาจจะทำได้ไม่เต็มที่นัก เมื่อรู้จักคุณสมบัติ และหลักการทำงานของทั้งสองตัวแล้ว ก็ลองตัดสินใจด้วยตัวเองดูครับ ว่าจะเลือกใช้อันไหน หรือจะใช้ทั้งสองตัวเลย ปล.ไม่มีใครตอบหรือกำหนดได้ ว่าตู้ต้องคุณต้องมี หริอไม่มี อุปกรณ์อะไรบ้าง เพราะแต่ละตู้ หรือผู้เลี้ยงแต่ละคน ก็ย่อมมีปัจจัยต่างๆ ที่แตกต่างกัน แต่เมื่อเราเข้าใจถึงประโยชน์และหลักการทำงานของมันแล้ว ก็ควรจะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองครับ ว่าเราเหมาะสมที่จะเลือกใช้อุปกรณ์ชิ้นไหน หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: ถังขยะ ที่ 28/06/11, [16:06:06] ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
แรกๆผมก็คิดจะตั้งตู้เปล่าๆเอาไว้ให้ปลาว่ายเล่น แต่ถูกแย้งว่า ตั้งตู้เปล่าแล้ว สารอาหารจะลด แร่ธาตุจะหายนะครับ เลยสงสัยเฉยๆ หัวข้อ: Re: ถามเรื่องปลาครับ เริ่มหัวข้อโดย: Mewclub ที่ 28/06/11, [16:07:48] [กู้ดครับ!] สุดยอดGetเลย
|