หัวข้อ: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: ณ~ใชเหมี่ยง ที่ 08/01/11, [00:23:57] เราก็ได้รู้หน้าที่และความสำคัญของธาตุอาหารหลัก N, P, และ K ว่าเป็นส่วนสำคัญขององค์ประกอบสำคัญสำหรับธาตุอาหารของพืชจากบทความที่คุณ Coffman ได้เขียนไว้ >>>> http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=118577.0
ธาตุอาหารรอง ธาตุรองมีอยู่ด้วยกัน 3 ธาตุคือ แคลเซียม (Ca), แมกนีเซียม (Mg) และกำมะถัน (S) แต่ถึงจะถูกจัดให้เป็นธาตุรอง ทว่าธาตุอาหารในกลุ่มนี้พืชต้องการในปริมาณมากเช่นกัน แต่ในดินส่วนใหญ่มักจะมีอยู่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เราถึงชอบเข้าใจเอาเองว่าธาตุอาหารในกลุ่มนี้เป็นธาตุที่พืชต้องการในปริมาณที่น้อย แต่ถึงจะเป็นส่วนน้อยโดยปกติจะมีความจำเป็นสำหรับพืชมากที่สุดถึงกับขาดไม่ได้เลย จากที่นั่งมึนมาจึงสรุปได้ว่า ธาตุอาหารหลักเป็นธาตุที่พืชต้องการมากเพราะในดินมีธาตุอาหารหลักได้แก่ N P และ K ในปริมาณนี้ที่น้อยจึงต้องหมั่นให้ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ ส่วนธาตุอาหารรอง ธาตุรองเป็นธาตุที่มีความสำคัญถัดรองลงมาจากธาตุหลัก (แต่ไม่ได้หมายความว่าความสำคัญจะน้อยลงไป) เพียงแต่ว่าธาตุอาหารรอง Ca , Mg และ S จะไม่ค่อยมีปัญหาขาดแคลนมากนักในดินเมื่อเทียบกับธาตุอาหารหลัก (https://upic.me/i/wz/roots_flat.jpg) (https://upic.me/show/19765664) คราวนี้มาดูบทบาทและหน้าที่ของธาตุรองแต่ละธาตุกันครับ Ca หรือ แคลเซียม แคลเซียมช่วยให้รากและใบเจริญเติบโตแข็งแรงและมีสุขภาพดี ช่วยต่อต้านจากการถูกทำร้ายจากภายนอก หลักการทำงานก็เหมือนกับยาสีฟันที่เราๆใช่กันทุกวันนี้แหละครับ มีแคลเซียมผสมด้วยทั้งนั้น เพราะจะช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ไม่ผุกร่อนได้ง่าย กับต้นไม้เช่นกันจะช่วยให้ลำต้นและความต้านทานภายนอกของต้นไม้แข็งแรงขึ้น แคลเซียมยังช่วยในเรื่องเพิ่มการดูดซึมของสารอาหารอื่น ๆ โดยรากส่วนหนึ่งจะทำการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ทั้งระบบเอ็นไซม์ช่วยเปลี่ยนไนเตรตเป็นไนโตรเจน และมีส่วนจำเป็นในการสร้างโปรตีนรวมถึงการสร้างผนังเซลล์และการแบ่งเซลล์ของพืช มีผลก่อให้เกิดความต้านทานโรคที่ดีขึ้น แคลเซี่ยมแมกนีเซียมและโพแทสเซียมจขะทำงานร่วมกันเพื่อปรับสภาพกรดที่เหมาะสมในสารอินทรีย์ (ในดิน) ที่จะมีผลระหว่างการเผาผลาญอาหารในพืช หน้าที่สำคัญของธาตุแคลเซียมในพืช -มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับโครงสร้างของผลไม้ -ช่วยเสริมสร้างเซลล์และการแบ่งเซลล์ของพืช ซึ่งพืชต้องการอย่างต่อเนื่อง -ช่วยในการสร้างเซลล์และโครงสร้างของเซลล์ของพืช -ช่วยให้เซลล์ติดต่อกัน และจะช่วยเชื่อมผนังเซลล์ให้เป็นรูปร่าง และขนาดให้เป็นไปตามลักษณะของพืช -ช่วยเพิ่มการติดผล -ช่วยให้สีเนื้อและสีผิวของผลสดใส -ช่วยลดการเกิดเนื้อของผลแข็งกระด้าง และเนื้อแฉะ -ช่วยป้องกัน ผลร่วง ผลแตก -มีบาทบาทที่สำคัญในระยะการเจริญเติบโตและการออกดอกของพืช -มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการย่อยธาตุไนโตรเจน -เป็นตัวช่วยลดการหายในของพืช -เป็นตัวช่วยเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล การแสดงอาการของพืชที่ขาดธาตุแคลเซียม -ใบอ่อนที่แตกออกมาใหม่จะหดสั้นและเหี่ยว แม้ว่าใบเก่าจะมีธาตุแคลเซียมอยู่ เนื่องจากธาตุแคลเซียมไม่เคลื่อนย้ายจากใบเก่าสู่ใบใหม่ -ใบอ่อนที่ขาดธาตุแคลเซียมจะมีสีเขียวแต่ปลายใบจะเหลือง และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและจะตายในที่สุด -ถ้าขาดธาตุแคลเซียมที่บริเวณขั้วหรือข้อต่อของผลจะทำให้เกิดแก๊สเอธีลีน(Ethylene) ทำให้ผลร่วง -พืชหลายชนิดที่ขาดธาตุแคลเซียม เช่น มะเขือเทศ แตงโม พริก แตงกวา จะเกิดการเน่าที่ส่วนล่างผล, -ในผักขึ้นฉ่ายจะแสดงอาการไส้ดำ, ในแครอดจะแสดงอาการฟ่ามที่หัว, ในแอปเปิลจะมีรสขม, -ในมันฝรั่งจะแสดงอาการเป็นสีน้ำตาลบริเวณกลางหัว, -ในพืชลงหัวต่าง ๆ เช่น ผักกาดหัว(หัวไชเท้า) หอม กระเทียม จะแสดงอาการไม่ลงหัว หรือลงหัวแต่หัวจะไม่ สมบูรณ์ -ในพืชไร่ ต้นจะแตกเป็นพุ่มแคระเหมือนพัด แสดงอาการที่ราก คือ รากจะสั้น โตหนามีสีน้ำตาล ดูดอาหาร ไม่ปกติ -ในระยะพืชออกดอก ติดผล ถ้าพืชขาดธาตุแคลเซียม ตาดอกและกลีบดอกจะไม่พัฒนา ดอกและผลจะร่วง สภาพแวดล้อมที่พืชขาดธาตุแคลเซียม -ในดินที่มีค่าของความเป็นกรดเป็นด่าง(pH) ระหว่าง 4.0-7.0 และ 8.5 ขึ้นไป -เมื่อให้ธาตุไนโตรเจนมาก -เมื่อให้ธาตุโพแทสเซียมมาก -เมื่อพืชแตกใบอ่อน แม้ว่าใบแก่จะมีธาตุแคลเซียม ทั้งนี้เนื่องจากธาตุแคลเซียมไม่เคลื่อนย้ายในพืช -เมื่อพืชแตกใบอ่อนต้องให้ธาตุแคลเซียมอยู่เสมอ -ธาตุแคลเซียมจะมีความสมดุลกับธาตุโบรอนและธาตุแมกนีเซียมในพืช ถ้าไม่มีความสมดุลระหว่างธาตุทั้ง 3 ชนิด พืชจะแสดงอาการผิดปกติ -ธาตุแคลเซียมจะสูญเสียไปในดิน กลายเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งพืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้ -ในดินที่เป็นกรด จะตรึงธาตุแคลเซียมไว้ ทำให้พืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้ Mg หรือ แมกนีเซียม แมกนีเซียม มีบทบาทในการเจริญเติบโตของพืช เและยังป็นอะตอมกลางในคลอโรฟิล รับผิดชอบในการสังเคราะห์แสงและกระบวนการที่พืชเปลี่ยนแสงแดดและสารอาหารในการเจริญเติบโต เป็นธาตุอาหารที่พบมากที่สุดในสารสีเขียวของพืชก็คือคลอโรฟิลเช่นเดียวกับฟอสฟอรัส และหน้าที่สำคัญอีกอย่างของแมกนีเซียมก็คือมันจะมีหน้าที่ย้ายตัวเองจากใบเก่าๆแก่ๆของพืชเพื่อไปสร้างการเจริญเติบโตให้กับใบที่แตกออกมาใหม่ นี่ถึงเป็นเหตุผลอีกอย่างว่าการที่ใบอ่อนเจริญเติบโตช้า ก็เพราะเกิดจากการที่ขาดธาตุแมกนีเซียมด้วยเช่นกันครับ เราจะสังเกตุการขาดธาตุตัวนี้ได้อีกอย่างคือสังเกตุจากการดูสีและเส้ยใยของใบ ถ้าพืชขาดแมกนีเซียมใบที่แก่แล้วจะมีสีเทา สีเหลือง หรือ สีแดงในขณะที่เส้นใบเป็นสีเขียว (https://upic.me/i/45/cq2i1.jpg) (https://upic.me/show/19766232) หน้าที่สำคัญของธาตุแมกนีเซียมในพืช -เป็นตัวจักรสำคัญในการช่วยเสริมสร้างสารคลอโรฟีลล์ หรือความเขียวในพืช ช่วยให้พืชปรุงอาหารได้ดีขึ้ -ช่วยในการเคลื่อนย้ายธาตุฟอสฟอรัสได้ดีขึ้น -มีส่วนสำคัญในการสังเคราะห์แสง -มีส่วนสำคัญเกี่ยวกับการสุกการแก่ของผลผลิต -ช่วยให้พืชเพิ่มการใช้ธาตุเหล็กมากยิ่งขึ้น -เป็นตัวกระตุ้นการทำงานของน้ำย่อยต่าง ๆ ของพืช เคลื่อนย้ายภายในพืชได้ดี -ช่วยเสริมสร้างให้พืชไม่ชะงักการเจริญเติบโตในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น -ช่วยเสริมสร้างให้พืช มีความต้านทานต่อโรคพืชต่าง ๆ -พืชอาหารสัตว์ ถ้าขาดธาตุแมกนีเซียม จะเป็นสาเหตุของพืชอาหารสัตว์เป็นพิษ การแสดงอาการของพืชที่ขาดธาตุแมกนีเซียม -จะทำให้ต้นเล็กแคระแกรน ใบเหลือง -ในใบแก่จะมีสีซีดจาง ไม่เขียวสดใส และเมื่อแตกใบอ่อนก็จะมีสีซีดจางเช่นเดียวกัน และธาตุแมกนีเซียม สามารถเคลื่อนย้ายในพืชได้ -เมื่อใบแก่ขาดธาตุแมกนีเซียม ใบอ่อนที่แตกออกมาใหม่ก็จะขาดด้วย ใบจะเป็นสีเหลืองและเปลี่ยนเป็นสี น้ำตาลและตายไปในที่สุด -ผลจะสุกแก่ช้ากว่าปกติ -ในพืชตระกูลถั่วจะทำให้พืชไม่ค่อยจะลงฝัก และจะทำให้แบคทีเรียที่รากถั่ว ไม่จับธาตุไนโตรเจนไว้ได้ดีเท่า ที่ควร -ในพืชอาหารสัตว์จะให้ผลผลิตต่ำ และทำให้พืชอาหารสัตว์เป็นพิษ สภาพแวดล้อมที่พืชขาดธาตุแมกนีเซียม -ในดินที่มีค่าของความเป็นกรดเป็นด่าง(pH) ระหว่าง 4.0-7.0 และ 8.5 ขึ้นไป -ในดินที่มีปริมาณของธาตุแมกนีเซียมต่ำ -ในดินที่มีธาตุแคลเซียม โพแทสเซียม และโซเดียมมาก -ในดินที่มีปริมาณของเกลือมาก เช่น พวกเกลือโซเดียม -ในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ดินเย็น หรือมีอุณหภูมิต่ำ -ในระยะที่พืชแตกใบอ่อน -ในระยะที่พืชดูดใช้ธาตุไนโตรเจนมาก S หรือ ซัลเฟอร์ (กำมะถัน) กำมะถันเป็นสิ่งสำคัญในการผลิตกรดอะมิโนซึ่งเป็นหน่วยการสร้างของโปรตีนที่พบในสิ่งมีชีวิตทั้งหมด และจำเป็นมากในพืชที่มีลักษณะเป็น หัว หรือ เหง้าที่อยู่ใต้ดินและยังมีผลกระทบกับกลิ่นและรูปร่างลักษณะด้วย (https://upic.me/i/i3/untit1led.jpg) (https://upic.me/show/19766335) หน้าที่สำคัญของธาตุกำมะถัน -ธาตุกำมะถันเป็นส่วนประกอบของกรดอะมิโน(Amino acids) พืชต้องการธาตุกำมะถันเพื่อสังเคราะห์กรดอะ มิโนที่สำคัญ 3 ชนิด คือ ซีสตีน(Cystine) ซีสเตอีน(Cysteine) และเมทธิโอนีน(Methionine) ดังนั้นจึงมี ส่วนสำคัญในการสร้างโปรตีน, กรดอะมิโนเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งคน และสัตว์ด้วย -ธาตุกำมะถันจะช่วยในการควบคุม ชนิดและโครงสร้างของเม็ดสีคลอโรพลาสต์ ซึ่งภายในประกอบด้วย คลอโรฟีลล์เป็นแหล่งที่พบกำมะถันสะสมอยู่มาก เมื่อพืชขาดธาตุกำมะถันปริมาณของคลอโรฟีลล์จะลดลง ทำให้พืชมีสีเหลืองซีด -ช่วยส่งเสริมความแข็งแรงในการเจริญเติบโตของพืช ช่วยให้พืชทนทานต่ออุณหภูมิที่เย็น และต้านทานต่อ โรคพืชหลายชนิด -ช่วยสนับสนุนการเกิดปมที่รากของพืชตระกูลถั่วและกระตุ้นการสร้างเมล็ด -มีส่วนสำคัญในการเกิดน้ำมันพืชและสารระเหยให้หัวหอมและกระเทียม การแสดงอาการของพืชที่ขาดธาตุกำมะถัน -พืชจะแคระแกรนหยุดการเจริญเติบโต -ใบอ่อนมีสีเขียวจางลง รวมทั้งเส้นใบจะมีสีจางลงด้วย แต่ในใบแก่จะยังคงมีสีเขียวเข้ม -ถ้าพืชขาดธาตุกำมะถันมาก พืชจะพัฒนาการเจริญเติบโตได้ช้า -ลำต้นพืชจะสั้นและแคบเข้า ใบยอดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง -ในพืชตระกูลถั่ว การตรึงธาตุไนโตรเจนที่ปมรากจะลดลงทั้งขนาดและจำนวนปม สภาพแวดล้อมที่พืชขาดธาตุกำมะถัน -ในดินที่มีของความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) 4.0-6.0 -ในดินที่มีค่าอินทรีย์วัตถุต่ำกว่า 1%อินทรีย์วัตถุเป็นแหล่งสำรองของธาตุกำมะถัน ได้แก่ ซากพืช ซากสัตว์ -ผลจากการหักล้างถางพงป่ามาเป็นพื้นที่เพาะปลูกการเกษตรจะทำให้ดินสูญเสียอินทรีย์วัตถุเร็วขึ้น -การใช้ปุ๋ยสูตรที่มีความเข้มข้นของธาตุอาหารสูง จะทำให้เกิดการขาดธาตุกำมะถัน เช่น ปุ๋ยแอมโมเนียม ฟอสเฟต (MAP) ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต(DAP) หรือ ทริปเปิลซูเปอร์ฟอสเฟต(TSP) จากรูปถังไม้จะเป็นตัวแทนของธาตุอาหารในดิน จะสังเกตุได้ว่าปุ๋ยที่ทำออกมาส่วนมากจะไม่มีธาตุกำมะถัน (S) ขึ้นอยู่กับสภาวะของดินในแต่ละที่และการใช้งานที่แตกต่างไป ส่วนธาตุแมกนีเซียม (Mg) จะลดปริมาณลง แต่จะเน้นแคลเซียมและเหล็กเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมปัจจุบันมีผลเกี่ยวเนื่องกับการที่ก่อให้เกิดซัลเฟอร์ (S) ได้มากขึ้นกว่าอดีต การผลิตปุ๋ยจึงต้องมีการคำนวณค่าความต้องการของพืชให้เหมาะสมก่อนถึงเวลาการนำไปใช้งาน ไม่เช่นนั้นคงจะเกิดผลเสียตามมาแน่นอนครับ ยกตัวอย่างง่ายๆกับการเลี้ยงไม้น้ำคือ ถ้าเราใส่ปุ๋ยมากเกินความจำเป็น หรือมากเกินกว่าที่พืชจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันสิ่งที่ตามมาคงหนีไม่พ้นตะไคร่แน่นอนครับ (https://upic.me/i/lq/47untitled.jpg) (https://upic.me/show/19766523) แผนภูมิแสดงหน้าที่และการทำงานของธาตุต่างๆ (https://upic.me/i/1z/00000mineral_nutrition_manures3.gif) (https://upic.me/show/19785382) (https://upic.me/i/bv/00000mineral_nutrition_manures4.gif) (https://upic.me/show/19785383) รูปภาพแสดงวัฏจักรการเกิดธาตุอาหารและการทำงานของระบบธรรมชาติ (https://upic.me/i/qk/eco_processes.jpg) (https://upic.me/show/19785816) (https://upic.me/i/qq/9051ffbb16f1b7e1247cb838cf6121d8a27d8bd5.jpg) (https://upic.me/show/19785812) บทความอ้างอิงและเอกสารอ้างอิง - http://www.fertilizer101.org/science/?seq=10 - http://www.ipni.net/ipniweb/portal.nsf/0/5BFE7B077DCF57FD8525721700774B7F - http://www.indoor-gardening-guide.com/articles/plant-care/Plant-Nutrient-Primary-secondary-and-micro-nutrients.html - http://turfgrass.cas.psu.edu/education/turgeon/Modules/05_PrimaryPractices/Nutrition/VC_text02.html - www.back-to-basics.net/efu/pdfs/Secondary_Nutrients.pdf - http://www.sikkimagrisnet.org/General/en/Agriculture/mineral_nutrition_manures.aspx - http://www.bcgrasslands.org/grasslands/ecosystemprocesses.htm สีสันหน้าตารวมถึงรูปภาพประกอบจะตามมาทีหลังนะครับ ต้องปรับแต่งอีกเยอะ ตึ๊บๆ หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: RK` ที่ 08/01/11, [13:56:54] +เป็นกำลังใจก่อนเดียวตามอ่านทีหลัง [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: vinbitxp ที่ 08/01/11, [16:30:09] เนื้อหาดีมากครับ [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: juris ที่ 08/01/11, [18:11:52] เนื้อหาดีๆมีความรุ้มาอิกแล้ว [on_066]
หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: l3EП-nophila™ ที่ 08/01/11, [22:33:24] บทความดีมากคับ รูปภาพ การจัดวาง หัวข้อ-ย่อหน้าชัดเจน ทำเป็นรายงานส่งได้เลยนะเนี่ย ้hahaha
ช่วยลุ้นๆให้ได้ Award นะครับ [เจ๋ง] +ให้นะครับ หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: AM ที่ 08/01/11, [22:42:28] + ให้เลย....สุดยอด
เคยอ่านมาเหมือนกัน...แต่อันนี้สรุปให้เข้าใจได้ดีมาก ๆ หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: Coffman ที่ 09/01/11, [10:27:32] รูปสวยเลยไอซ์ เดี๋ยวพี่ต้องทำ Trace element ต่อ [on_026]
หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: Kasama ที่ 09/01/11, [10:39:16] ขอบคุณครับพี่ไอซ์
หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: ณ~ใชเหมี่ยง ที่ 09/01/11, [19:37:51] +เป็นกำลังใจก่อนเดียวตามอ่านทีหลัง [เจ๋ง] ขอบคุณครับผม อย่าลืมมาอ่านละ [ฮี่ๆๆ] เนื้อหาดีมากครับ [เจ๋ง] ขอบคุณครับผมสำหรับกำลังใจ เนื้อหาดีๆมีความรุ้มาอิกแล้ว [on_066] ตามมาอ่านให้หมดนะครับ ้hahaha บทความดีมากคับ รูปภาพ การจัดวาง หัวข้อ-ย่อหน้าชัดเจน ทำเป็นรายงานส่งได้เลยนะเนี่ย ้hahaha ช่วยลุ้นๆให้ได้ Award นะครับ [เจ๋ง] +ให้นะครับ สงสัยยังไม่ถึงขั้นหรอกครับ ต้องฝึกช่วงโมงบินให้เยอะกว่านี้ก่อน แต่ถ้าได้ก็ดีเน๊อะ อิอิ ....ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆครับ + ให้เลย....สุดยอด เคยอ่านมาเหมือนกัน...แต่อันนี้สรุปให้เข้าใจได้ดีมาก ๆ อาจจะน่าเบื่อไปหน่อยครับ เพราะมันแนววิชาการไปหน่อย คราวหน้าจะพัฒนาให้ดีกว่านี้นะครับ รูปสวยเลยไอซ์ เดี๋ยวพี่ต้องทำ Trace element ต่อ [on_026] ชั่วโมงบินผมยังห่างกับพี่มากโข ต้องขออาจารย์เก่งช่วยชี้แนะด้วยนะครับ [on_035] ขอบคุณครับพี่ไอซ์ ยินดีครับม่า เจออะไรดีๆจะเอามาเขียนใหม่ หัวข้อ: Re: บทความต่อยอดต้นปี : ว่าด้วยเรื่อง ปุ๋ยรอง Ca Mg S ทำไมฉัน(ไม้น้ำ)ถึงต้องการเธอ? เริ่มหัวข้อโดย: shunsu ที่ 10/01/11, [04:39:16] [เจ๋ง]เพิ่มความรู้กันอีกแล้ว
|