พอดีวันนี้ได้คุยกับเพื่อนสนิทคนนึงปลาเค้าเหมือนเป็นพยาธิออกมาจากตะเกียบล่างของปลาตัวน้อย ผมเห็นไม่ชัดว่ามันแทงมาจากทางเหงือกหรือว่าใต้อก เจ้าเพื่อนตัวดีก็เลยไปซื้อยาตามร้านขายยาของปลามาใช้ โชคดีที่จับปลาไม่ได้ มันก็เลยบ่นๆกะผมว่า แม่งจับปลาไม่ได้ เลยอดใส่ยา ผมก็ถามว่ามึงไปซื้อยาอะไรมา พอมันบอกชื่อผมมา ผมแทบผงะ นั่นมันยาอันตรายนี่หว่า เท่าที่ทราบมาคือไม่มีใครเค้าใช้กันแล้ว เพราะว่ามันมีส่วนผสมของยาฆ่าแมลง และสารก่อมะเร็งในคนและสัตว์ คือถ้าเพื่อนผมจับปลาได้และแช่ยาไป แน่นอนว่าเจ้าหนอนน้อยหลุดแน่นอน แต่ปลาคงจะโดนผลกระทบไปด้วยแน่ๆ
ผมก็เลยแนะนำไปว่าทีหลังควรจะซื้อยาที่เป็น Food grade (ซึ่งราคาจะแพงมาก ขวดนิดเดียวปาไปหลายร้อย) และไม่มีส่วนผสมของยาฆ่าแมลง + โลหะหนัก เพราะว่าเจ้าสองสิ่งนี้นอกจากมันจะเป็นพิษกับปลาที่คุณรักแล้ว ยังเป็นพิษกับตัวคุณด้วย แต่ถามว่าแลกกับชีวิตปลาและชีวิตคนแล้ว เงินแค่นี้คุ้มมากๆ วิธีง่ายๆที่จะรู้ว่าเป็นยา Food grade ส่วนใหญ่ยาประเภทนี้ จะมีการบอกว่าให้ผสมอาหารให้กับปลากินได้ด้วย นั่นแหละครับเป็น Food grade แต่ก็อาจจะมีหลายตัวที่ไม่ได้บอกว่าผสมอาหารให้ปลากินก็อาจจะเป็น Food grade ได้ แต่ต้องดูตัวยาหลักให้ดีๆ ครับ ซึ่งอันนี้ผมเองก็ไม่ทราบหมดแน่นอนว่ายาไหนเป็น Food grade หรือ Non Food grade
ซึ่งจริงๆ แล้วยาที่รักษาโรคปลาที่ขายตามร้านอุปกรณ์นั้นมีหลายเกรด หลายชนิด ลองชั่งใจดูแล้วกันนะครับ ว่าเราจะเลือกแบบไหน รักษาต้องให้ถูกโรคด้วย
อ้อ!! แล้วก็ ที่สำคัญ ตอนใส่ยาให้ปลา ไม่ว่าจะยาแบบไหน ใส่ถุง(มือ)ด้วยนะครับ และล้างมือให้สะอาดหลังจากจับยาแล้วด้วยนะครับ
ทางที่ดีดูแลปลาไม่ให้ปลาป่วย ด้วยการรักษาคุณภาพน้ำในระบบ หมั่นล้างกรอง เปลี่ยนน้ำ 15-20% ทุกสัปดาห์ ให้อาหารที่ยังไม่หมดอายุในจำนวนที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป รวมทั้งอย่าเลี้ยงปลาในจำนวนที่มากจนเกินไป แค่นี้ก็ทำให้ปลาแข็งแรงและไม่เป็นโรคแล้วครับ [เย้ะ]
|