Update : ๒๔/๐๖/๕๔ - หน้า ๒ <<<กดตามไปดูกันเลยลูกเพี่ยะ!!!
สวัสดีครับทุกๆ ท่าน
วันนี้กลับมานำเสนอเรื่องราวเพี้ยนๆ ของคนสติล้นบาทอย่างผม มาให้ได้ชม ได้อ่านกันอีกครั้ง
หลังจากหายหน้าหายตาไปนานเนื่องจาก เจ็บไข้ได้ป่วย อาการสาหัสมากๆ
แถมด้วยหน้าที่การงานที่มากขึ้น (ในบริษัทผม มีคนลาออก แต่ไม่มีคนสมัครงานเข้าครับ)
ไหนจะอาการสมองตัน นึกคิด ว่าจะเขียนอะไรไม่ค่อยออก
เพราะพักหลังๆ นี่ไม่ค่อยได้คลุกคลีกับปลาที่เลี้ยงไว้สักเท่าไหร่ ไปนอนเล่นที่บ้านสวนเสียเป็นส่วนมาก
ดีที่ยังพอมีเวลาช่วงเย็น ให้อาหารเปลี่ยนน้ำ ซักใยแก้วบ้างนะเออ...
มาวันนี้จะขอนำเสนอปลาที่ซุ่มเลี้ยงไว้ราว เดือนกว่าๆ มาให้ได้รู้จักกันสักหน่อย
ปลาตัวนี้หลายท่านที่อ่านบทความผม คงพอจะรู้จักกันดี เพราะเขียนถึงหลายครั้งหลายครา
และปลาตัวนี้ยังเป็นปลาตัวแรกที่นำมาเขียนบทความในแนวทางของผมเป็นชนิดแรกด้วยนะครับ
ปลาตัวนี้มีนามกรว่า ปลาหมอ มานาเกวนเซ่ ชื่อวิทย์คือ Parachromis managuense
ท่านสามารถหาอ่านบทความได้ที่
http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board5&topic=89&action=view
และสามารถรู้จักกันยกสกุลได้ที่นี่เช่นกันครับ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=plaraberd&date=22-06-2010&group=1&gblog=23
แต่เอาไว้อ่านทีหลังนะ อ่านที่จะเขียนต่อไปนี้ก่อนนะจ๊ะ จุ๊บๆ
แน่นอนตามสันดาน เวลาได้ปลามาใหม่ หลังจากปล่อยปลาลงตู้ ยืนดู นั่งดู นอนดูจนตาแฉะแล้ว
ก็ถึงเวลาที่จะต้องต้องชื่อ เพื่อให้ง่ายเวลาเรียกหา ซึ่งค่อนข้างใช้กำลังสมองมากโขทีเดียว
พักหลังๆ นี่จึงมักเอาชื่อจากสิ่งที่เคยได้ยิน ได้เห็นมาใช้อยู่เสมอ
อย่างเจ้าปลาตัวนี้ที่จะนำเสนอ ก็ได้ชื่อจากบทเพลงของ คุณชัย สานุวัฒน์
ในบทเพลงที่ชื่อว่า โอ้ เอ็ม.บี. ลองหาฟังดูเอาเพราะจะมีท่อนหนึ่งของเพลงกล่าวถึง “มะแอ๊ะ” ว่า...
“มะแอ๊ะเพื่อนฉัน ก็มาอยู่จนร่ำรวย ได้มีแฟนสวย ที่ห้างเดอะมอล์”
ด้วยเห็นว่าเป็นมงคลดี (มงคลตรงได้มีแฟนสวยที่ห้างเดอะมอล์นี่แหละ 55 55 )
ฟังแล้วมันโดนใจ ติดหูดีแท้ เพราะเจ้าปลาตัวนี้ก็ได้รับที่(ข้างๆ) ห้าง เจเจมอล์ เช่นกัน <<<โถ.....ดู๊ ดู คนมันจะแถ
จำได้มั่นว่าวันที่ไปรับฝนตก ถนนหนทางเฉอะแฉะ เดินทางลำบาก ผมเดินข้ามมาจากฝั่งอตก. มาที่เจเจ อย่างทุกลักทุเล
“คุณบอยใช่ไหมครับ นี่ครับปลา” น้องพี่ต้นคนดีของผมเอ่ยถาม เมื่อยามที่เราเจอกัน
“ครับ” <<<ไม่ใช่เล่นตัวอะไรหรอกนะครับ แค่เหนื่อยเฉยๆ พูดมากเดี๋ยวหายใจไม่ทัน สำลักน้ำลายตาย...
“นี่ ครับปลา” น้องพี่ต้นยื่นถุงปลาให้ถุงใหญ่เบ้อเร้อ ในใจนึกเอาว่าเขาคงกลัวปลาว่ายไม่สบายตอนอยู่ในถุง เพราะบอกแค่ว่าปลาขนาด 6 นิ้วเท่านั้น
ลับหลังลองยกถุงปลาออกมาดูหน้าตาซะหน่อย
“ไอ้หย๋า ทำไมใหญ่ขนาดนี้” ผมร้องในใจดังลั่นไปสามทุ่ง
หลังจากเดินเล่นจนขาเริ่มปวดแล้วก็ได้เวลากลับถ้ำกันล่ะครับ
ตอนเอาปลาใส่ตู้นี่ยากลำบากมาก เพราะช่องว่างน้อยมาก (เกิดจากความผิดพลาดตอนสั่งตู้ แหะๆ )
ต้องเอาลมออกให้หมด แล้วทำถุงแบนๆ ปลาก็เลยนอนตะแคงไปด้วย ดูลำบากทั้งคนทั้งปลาสุดๆ
ใจคนก็เสียวปลาจะดิ้น ส่วนใจปลานั้นมันคงคิดว่า “ไอ้บ้านี่มันจะทำอะไรของมัน”
แต่ก็ผ่านไปด้วยดี เพราะปลาไม่มีอาการดิ้นแม้แต่น้อย แม๊....ปล่อยให้เสียวตั้งนาน
พอปล่อยปลาลงตู้ปลาก็ว่ายมึนๆ ไปมาตามประสา
ตัวปลาใหญ่มาก น่าจะราวๆ 9-10นิ้วได้มั้ง โอ้ว~ [mo_001]
ลวดลายซีดเซียวเนื่องจากคงกำลังปรับตัว งั้นเอาไว้คืนนี้จะมาดูใหม่
ว่าแล้วอาบน้ำอาบท่า แกะถุงกับข้าวมาเทใส่ถ้วยกิน เพื่อชดเชยพลังงานที่เสียไป
กินข้าวไปพลางก็แอบดูปลาไปพลาง ก็ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น เลยหันเหไปดูหนังดีกว่า
หนังสนุกจนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ได้... เฮ้อ
ตื่นมาอีกทีตอนค่ำเดินมึนๆ ไปเปิดไฟแล้วหันไปมองเจ้าปลาตัวใหญ่ที่ได้มาใหม่...
อืม.....ยังใหญ่เหมือนเดิม นั่งดูพร้อมกับกินน้ำอัดลมขวดใหญ่หมดไปหนึ่งขวด จนได้ชื่อปลามาตั้งสมใจนึก นี่แหละครับ
มะแอ๊ะ เพื่อนฉัน....
เห็นปลาหมอมานาเกวนเซ่ทำให้ผมคิดถึงสิ่งดีๆ สามอย่าง
1.คุณมานา
2.มานะ-มานี
3.พี่ปิติ
มาซิจะเล่าให้ฟัง เอาอย่างแรกก่อนเลยแล้วกันนะครับ
1. คุณมานา...
คุณมานา เป็นชื่อของเพื่อนท่านหนึ่งซึ่งเคยคุยกันผ่านกระทู้ในเว็บปลาเว็บหนึ่ง
ปัจจุบันเว็บนี้ถูกปล่อยทิ้งร้างไปเสียแล้ว ขนาดคนทำเว็บเองยังไม่ค่อยได้เข้าไปเลย
คุณมานา เป็นใครอันนี้ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าแกเป็นคนชื่นชอบปลาหมอสายแท้เหมือนเรา-ท่านนี่แหละ
แกเคยถ่ายรูปมาให้ดู เป็นตู้ปลา บ้านไม้ และลูกครับ <<<จำได้คร่าวๆ นะ
จนล่าสุด แกว่า หาคนที่เลี้ยงปลาหมอโดวิอาย (parachromis dovii) เจอแล้ว แต่เป็นปลาตัวเมียนะ
นั่นทำให้ผมตื่นเต้นมากมาย แต่เผอิญช่วงนั้นเว็บเต็มหรือไรนี่แหละครับ ทำให้กระทู้นั้นโดนลบไป
ยังนึกเสียดายอยู่ทุกวันนี้ว่า ไม่น่าลบไปเลย
ไม่ รู้ว่าคุณมานาจะมีเวลาอ่านกระทู้อีกหรือเปล่านะครับ เพราะเข้าใจว่าต้องทำงาน สร้างครอบครัว และมีลูกน้อยให้ดูแลแล้วด้วย คงยุ่งน่าดูเชียว
แต่ถ้าได้พบเจอกระทู้นี้ อยากให้รู้ว่า เพื่อนที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยได้ยินเสียง คนนี้คิดถึงครับ
อยากให้ติดต่อกันหน่อย เผื่อจะได้นั่งคุยกันให้มันไปเลย…
2. มานะ-มานี
รอบนี้ไม่ใช่คนครับ แต่เป็นแบบเรียนภาษาไทยที่เคยเล่าเรียนกันมา ไม่รู้ทำไมถึงคิดถึงก็ไม่รู้
จำได้ว่าเป็นหนังสือที่ผมชอบเปิดมากๆ ในตอนเด็ก
ไม่ใช่เพราะใฝ่เรียนหรอกนะครับ แต่ชอบเพราะในเล่มจะมีภาพประกอบลายเส้นสนุกน่าอ่าน
ผมทราบแค่หนึ่งท่านนะครับ นั่นคือ คุณเตรียม ชาชุมพร ท่านเป็นนักวาดการ์ตูนและนิยายภาพชื่อดังแห่งชัยพฤกษ์การ์ตูน
หนังสือชุดนี้ใช้ในการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยระหว่างปี พ.ศ. 2521-2537 ซึ่งผมน่าจะทันช่วยกลางๆ นั่นแหละครับ
ผมถือว่าเป็นหนังสือสร้างคนเลยทีเดียว สร้างให้เราเข้าใจหลักการอ่าน การเขียน
ผมถือว่าเป็นคนโชคดีมากทีเดียวที่ได้เรียน เขียน อ่านกับหนังสือเล่มนี้จนครบ
นึก ถึงสมัยยังนั่งเก้าอี้ไม้นะครับ เปิดเรียนใหม่ที ผมต้องรีบวุ่นไปแกะเชือกห่อหนังสือเรียนเสียทุกที และที่หยิบมาเปิดดูอันดับแรกต้องเป็นหนังสือภาษาไทยทุกที
น่าเสียดายที่ปัจจุบันเลิกใช้สอนกันแล้วนะครับ แต่ก็ยังพอพบเห็นสมาชิกในหนังสือตามเสื้อยืดบ้าง ตามหนังสือนิตยสารบ้างให้พอคิดถึง
คิดถึงหนังสือเล่มนี้ทีไร กลิ่นดอกพุดลอยเข้าจมูกเสียทุกที emb01
ก็หน้าห้องเรียนสมัยนั้นปลูกต้นดอกพุดไว้ครับ
เรียนไปก็ได้กลิ่นหอมละมุนไป เพลิดเพลินจำเริญใจดีจริง....
3. พี่ปิติ
ผมเชื่อว่าคนที่เข้าเว็บปลาส่วนใหญ่รู้จักพี่ท่านนี้แน่นอน ท่านนี้เป็นคนที่เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับผมอย่างมาก
เป็นคนที่ผมนับถือน้ำใจมากคนนึงเลยนะครับ เริ่มจากให้ความรู้กับคนอื่นในเว็บ
สอนให้คนเลี้ยงปลาเข้าใจการเลี้ยงปลาจริงๆ รวมถึงแนะนำแนวทางสายกลางของการเลี้ยงปลาได้อย่างน่าชื่นชมทีเดียว
แต่มาช่วงหลังนี้พี่ท่านมีความจำเป็นหลายๆ อย่างทำให้ต้องเลิกการตอบกระทู้ต่างๆไป ด้วยภาระที่พึงมี
อันนี้ผมเองและหลายๆ ท่านก็เคารพในการตัดสินใจ
แต่ยังคงนึกเสียดายอยู่ทุกครั้ง ทุกทีไปนะครับ
ผมได้แนวทางการใช้ชีวิตดีๆ จากพี่ท่านหลายด้านมากๆ (แอบอ่านเอาทั้งนั้นแหละครับ ไม่ค่อยได้ตอบอะไรเท่าไหร่ หุหุ)
พูดแล้วจะหาว่าคุย ที่นั่งยิ้มได้ทุกวันนี้ พี่ปิติเองก็มีส่วนมากโขเลยนะครับ
ถ้าสมัยก่อนนี้ เจอเรื่องทุกข์อะไรเข้าหน่อย หน้าผมจะไม่ต่างกับตูดทีเดียว
คิ้วนี่แทบจะเอาไว้มัดถุงแกงได้เลยก็ว่าได้
พักหลังๆ อ่านบทความของพี่ท่านเข้าไปมากๆ เข้า หน้าที่เหมือนตูดเวลาโมโห ก็ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม
คิ้วที่แทบจะชนกันก็สามารถห่างกันแต่พองามได้ แม้ในวันมามาก...
คิดแล้วก็คิดถึงพี่ปิตินะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะได้อ่านบทความการเลี้ยงปลาผสมแนวธรรมะอีกเมื่อไหร่
เอ๊ะ! วันนี้เป็นอะไร เขียนแต่เรื่องคิดถึง + อาลัย [เอ๊ะ!!!]
มาต่อกันที่เจ้า มะแอ๊ะ ดีกว่า เจ้านี่ได้มาก็ตามประสาครับ
ผมมันคนชอบให้ปลากินอาหารเม็ด ถ้าอาหารสด ณ เวลานี้ขอเลือกไรทะเลล้างสะอาดๆ ดีกว่า
เพราะเข็ดกับอาหารสดชนิดอื่นๆ แล้วครับ
แต่ด้วยปลาตัวใหญ่ ยังกับควายน้ำ ดังนั้นให้อาหารเม็ดกิน คงเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ให้จนหมดห่อ ไม่รู้จะอิ่มหรือเปล่า
แรกเลยจึงจับปลาอดอาหารก่อน 1 วันเพื่อให้ปลาพักท้อง
จากนั้นเปลี่ยนน้ำเสียหน่อยเพื่อกระตุ้นให้ปลาหิว <<<จากประสบการณ์ล้วนๆ อย่าเอาไปใช้อ้างอิง เดี๋ยวจะหน้าแตกเอา หุหุ [on_003]
แล้วลองหอาหารที่มีอยู่ดู
มาวันแรกๆ จัดตู้ให้น่าดูชม กะว่าสวยเลยทีเดียว...
อีกไม่กี่วันพวกรื้อซะกระจุย เอาเถอะ ตู้เอ็ง บ้านเอ็ง จะทำอะไรก็เชิญเลย พ่อมหาจำเริญ
อาหารเม็ด – ปลามอง งง งง มองอาหารเม็ด แล้วมองหน้าคนให้ เหมือนจะบอกว่า....
เอากรวดมาเติมหรอ -*-“
กุ้งฝอย – ให้ทีละตัว ก็กินทีละตัว แสดงกริยาบ้าพลังมาก ไล่ล่าสุดฤทธิ์ มีแรงเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้ง
เหมือนพ่อม้าพันธุ์ดีเจอแม้ม้าพันธุ์แจ่ม ให้ไปกว่า 30 ตัว ยังมีหน้ามาขอกินอีก
กุ้งฝอยตาย – เหลือจากเมื่อกี๊แหละ เลยเอาไปแช่ตู้เย็นซะ
กินเหมือนเดิม แต่ถ้าให้ก้อนใหญ่หน่อย จะมีอาการชะงัก แล้วก็พยายามยัดเข้าปากไปเหมือนเดิม
กุ้งขาวแกะเปลือก – ตัวประมาณนิ้วโป้ง ขนาดกำลังดี คนไม่ค่อยได้กิน ปลาได้กินทุกวัน 55 55
ตัดหั่นเป็นสองท่อนแล้วโยนให้ไปเลย ให้ไปครั้งละ 4 ตัว พุงแค่ปูดๆ
ผมชอบอาหารสดชนิดนี้มาก เนื่องจากดูแลรักษาง่าย ราคาคงที่ สะดวกสบายในการจัดเก็บ
แถมเวลาต้มมาม่า ยังแอบจิ๊กไปใส่ในมาม่าเสีย 4-5 ตัว อร่อยเหาะ..... ้hahaha
อาหารอื่นที่ประเคนให้กินบ้างก็เช่น เนื้อกบ ปลาหั่น แต่ก็ไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ หลักๆ ณ ตอนนี้ลงตัวที่กุ้งขาวที่สุดครับ
มะแอ๊ะ น่ารัก คึกคักเวลาลงเล่น มะแอ๊ะตัวเป็นๆ เวลาลงเล่นคึกคัก คึกคัก
ที่นี้จะมาว่าด้วยเรื่องนิสัยกันบ้างนะครับ โดยรวมก็ปลาหมอดุๆ ตัวนึงนี่แหละ
แต่ที่ชอบคืออาการว่ายตามไปเสียทุกทีที่เดินผ่าน (เมื่อก่อนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ตัวนี้ยกเว้นครับ)
และเล่นมือ เล่นไม้เสมอเมื่อมีเวลา (จริงๆ แล้วมันหิว หรือมันอยากกินนิ้วผมก็ไม่ทราบ)
หลังจากเลี้ยงได้ 1 อาทิตย์ จุดขาวก็ถามหาเลยครับ แหม.... จากปลาตัวใหญ่ๆ ล่ำๆ กางครีบ กางเครื่องสง่า
กลายเป็นปลาหน้ายิ้มเจื่อนๆ ครีบเครื่องหุบแนบลำตัว หัวหลิมๆ น่าเกลียดเป็นบ้า n032
ดีหน่อยที่มียาแก้จุดขาวพอดี เลยจัดการใส่ไปตามโดสหลังเปลี่ยนน้ำซะ กรวดอะไรก็ไม่ได้เอาออกครับ
ฮีทเตอร์ก็ไม่ติด แต่ปลาก็หายได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของผมจริงๆ อ่อ... ลืมบอก ในระหว่างที่ป่วยก็ยังยัดทะนาน กินได้เหมือนเดิมนะครับ
ใส่ยาเปลี่ยนน้ำอยู่ราวๆ 1 อาทิตย์ อาการจุดขาวก็ดีขึ้นจนเกือบจะหายเลยนะครับ
กลับมาเป็นปลาบ้าบิ่น กางครีบเครื่องอวดเขี้ยวให้ได้มองกันอย่างกับคนละตัวเลยทีเดียว
แถมรอบนี้เหมือนจะกินเก่งขึ้นด้วย คงเหมือนคนมั้งครับ คราป่วยก็กินอะไรไม่ค่อยลง
พออาการเริ่มดีขึ้นจวนจะหายมักจะโหย ไก่ กา หมาแมว เป็นซัดเรียบ<<<อันนี้เฮียก็พูดเกินไป เอิ๊ก ้hahaha
มานาเกวนเซ่นั้น ตั้งแต่เลี้ยงมา เจ้านี่ดูจะมีความผูกพันให้มากที่สุด เพราะเตรียมตัวดี
ปลาดี นิสัยดี ไม่โรคจิต แม้จะมีอาการชอบขุด ชอบรื้อบ้าง แต่หากมองดูดีๆ
ปลาอาจชอบแบบนี้ก็เป็นได้นะครับ
ดังนั้นคนเลี้ยงเองก็ควรจะเหลือที่ว่างสำหรับปลาบ้าง ให้ปลาได้คิด ได้ตัดสินใจเองบ้าง
เลี้ยงปลาแบบไม่ให้ตึงเกินไป (นั่งจ้องจับผิดปลาตลอด 24 ชม.) [เอ๊ะ!!!]
และก็ไม่ให้หย่อนเกินไป(ไม่เปลี่ยนน้ำชาตินึง แล้วมาถามว่าทำไมปลาตาย...อันนี้เป็นต้น) asspain
รวมๆ แล้วทั้งปลาทั้งคนก็น่าจะมีความสุขพอๆกัน ในสุนทรียภาพของการลี้ยงปลาแบบไทยๆ ได้เลยนะครับ
ปล. ลมหนาวเริ่มมาเยือนกันแล้ว รักษาสุขภาพทั้งคนและปลาให้ดี โชคดีมีเงินใช้ทุกท่านครับ
สวัสดี
|