ขอออกตัวก่อนนะครับว่างาน DIY ครั้งนี้เกิดจากการเริ่มต้นที่จะจัดตู้ปลาทะเล 24นิ้ว
แต่ไปๆมาๆกลับได้ตู้ดังที่จะกล่าวถึงครับ ผิดพลาดประการใด สามารถแนะนำได้เลยครับ
ทำเพราะเหตุผลง่ายๆว่าอยากทำครับ
ตู้แรกที่เริ่มเลี้ยงปลาทะเลคือตู้ 36 นิ้ว จัดแบบงูๆปลาๆ หาอ่านเอาตามเว็บครับ ได้มาแบบนี้
ทุกวันนี้เปลี่ยนเป็นแบบนี้ครับ
เริ่มกันเลยนะครับ อย่งแรกที่เราต้องมีสำหรับการเลี้ยงปลาก็คือตู้ครับ
สั่งกระจกมาจากโรงงาน ออกแบบเอง เขียนแบบเอง กำหนดขนาดเองครับ
เนื่องจากมีตู้เฟอร์เก่าๆอยู่หนี่งใบ จึงอยากทำให้พอดีกับตู้เฟอร์ใบนี้ จึงต้องกำหนดขนาดตู้เป็น 72 นิ้ว
คิดไปคิดมา สงสัยใหญ่เกิน เฟอร์เก่าๆจะรับน้ำหนักมหาศาลไม่ไหว จึงต้องโมตู้กันหน่อยครับ
เริ่มด้วย เสริมขาตู้ด้วยเหล็กกล่องนิ้วxนิ้ว ประกบคู่ ทำเป็นขาตู้ด้านใน รับน้ำหนักจากในตู้อีกชั้นหนึ่ง
เสริมขาเหล็กด้านหลังด้วยเหล็กกล่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่วาง เนื่องจากต้องออกแบบตู้ให้หนาขึ้น เพราะวางสกิมเมอร์ไม่พอ
กองกระจกที่สั่งมาจากโรงงานครับ เครดิตบริษัท TGSG ครับ
เป็นกระจกอบแข็ง Heat-strengthened บานหน้าเป็นชนิดใสพิเศษ 12มม
ผมว่าเลี้ยงฉลามได้เลยครับ
เริ่มประกอบกระจกด้วยการวางกระจกแผ่นพื้นก่อนครับ ปูด้วยโฟมขาวก่อน1ชั้น สาเหตุที่ต้องปูโฟมขาวเนื่องจาก
พื้นตู้เฟอร์กับขาเหล็กด้านหลังไม่เท่ากัน จึงใช้โฟมขาวรองเพื่อลดความแตกต่าง ให้เกิดการยุบตัวได้ และใช้ยางดำปูรองอีกชั้นนึงครับ
ยิงซิลิโคนเองครับ เลอะหน่อย (ละมั้ง) มีเสริมคานที่พื้นตู้ด้วยครับ เพิ่มความแข็งแรง
เลยเห็นเป็นชั้นซิลิโคนหนาๆ
กั้นช่องกรองครับ แต่ยังกั้นไม่เสร็จ ต้องลุยต่อ
หลายวันผ่านไป พอซิลิโคนเริ่มแห้ง ก็เริ่มทดลองใส่น้ำดูนิดหน่อยครับ ทดสอบว่าจะรั่วไหม
แต่ก็รอดไปหวุดหวิดครับ
เริ่มกั้นกรองด้านข้างตู้ เนื่องจากอยากจะเก็บตู้ใส่ของไว้เก็บของเหมือนเดิม
เลยต้องทำช่องกรองแบบโอเวอร์โฟลด้านช้างครับ รวมถึงที่วางสกิมเมอร์และปั้มหลัก
ส่วนนี้เป็นงานดัดแผ่นอคิลิคครับเพื่อปิดช่องที่จะให้น้ำดูดสิ่งสกปรกกลางตู้ไปที่ช่องกรอง
เสร็จแล้วเป็นแบบนี้ครับ กันปลาด้วย แต่ไม่รู้จะดูดสิ่งสกปรกได้ไหม
ต่อช่องกรองตามรูปเลยครับ น้ำโอเวอร์โฟลออกมาจากตู้ ไหลลงถุงกรอง ลอดใต้ผ่านมาช่องวางสกิมเมอร์
และไหลไปช่องปั้มครับ
เสริมคานบนเข้าไปอีกครับ เหมือนเดิมซิลิโคนเลอะตลอด
แต่เพื่อความแข็งแรง(สำหรับปลาฉลามละมั้ง)
ผ่านไปอีกหลายวันครับ ทีนี้ลองเติมเต็มกันเลยครับ ว่าจะอยู่หรือไป
ตอนแรกก็หวั่นๆครับ ตู้แรกในชีวิต ไม่รู้จะรั่วหรือเปล่า แต่ก็ผ่านไปด้วยดีครับ
หาสติกเกอร์มาปิดช่องกรองไว้หน่อยครับเพื่อความสวยงาม
สกิมเมอร์ครับ อย่างแรงเลยตัวนี้ C9
DIY โครงสแตนเลสด้านบนด้วยครับ เชื่อมเองเป็นแนวขอบตู้ สังเกตตรงขอบตู้ด้านบน
จริงๆแล้วเนื่องจากตู้ยาว 72นิ้ว ไม่คิดว่า (จริงๆบอกไม่รู้ก็ได้) จะมีโคมยาว 72นิ้วไหม
เลยทำโครงสแตนเลสมาสำหรับรับโคมด้วยครับ และจะเอาไว้สำหรับติดคิ้วตู้ด้านบนด้วย
คิ้วด้านล่างใช้อคิลิคสีขาวมาแปะไว้ แต่ไม่สวยเลย เดี๋ยวโมอีกทีครับ เอาแบบนี้ไปก่อน
เมื่อได้ตู้มารันนน้ำแบบเย็นใจแล้ว ก็ถึงคราวของใส่ตู้ครับ DIY หินกันบ้าง
คิดไปคิดมา ค่าหินค่าอีพร็อกซี่ ทำเองก็พอๆกับซื้อ เลยเลือกทำเองครับ
สวยไม่สวยจะได้ไม่โทษใครครับ เอาหินมาตากแห้งรอไว้หลายวันครับ หลังจากนั้นเริ่มประกอบร่างได้
เสร็จแล้วลงตู้ได้มาแบบนี้ครับ ทางกลุ่มซ้ายยังติดไม่ทุกก้อน หลังจากนี้จึงล้มลงมา ได้เอามาทำใหม่ เดี๋ยวขึ้นรูปให้ดูอีกทีครับ
แผงไฟด้านข้างตู้ก็ DIY เหมือนกันครับ ดูมาจากในเว็บนี่แหละครับ
ผมเอา Timer ต่อเข้า Relay อีกตัวนึง (ตอนแรกซื้อมาผิดสเป็ค ระเบิดไปหนนึง ไฟดับทั้งบ้าน)
เมื่อไฟหลักปิด Relay จะสลับให้ไฟ LED เปิดครับ ทำให้ไม่ต้องเสียบ LED ค้างไว้ หรืออยากปิดอุปกรณ์อย่างอื่นเช่น Wave
ก็ทำได้เช่นเดียวกัน เรียกว่าไม่ต้องยุ่งกับปลั๊กไฟกันเลยครับ เสียดายลืมถ่ายรูปด้านตรงไว้อะครับ เลยเห็นแต่ข้างๆ
ต่อมาก็ DIY ระบบเติมน้ำบ้างครับ
ไปบิดลูกลอยมาจาก Ebay 0.5 USD สบายเลย แต่ค่าส่ง 7.5 USD ครับ
ช่างมัน บวกลบดูแล้วยังถูกอยู๋
ต่อท่อจากท่อเดิมครับ เดินสายเข้าตู้ สายขาวๆนี้เป็นสายพวกเครื่องกรองน้ำครับ
ต่อเข้ากำแพงด้านหลังตู้ อนาคตอาจเพิ่มกรอง RO/DI ครับ
หลังจากนั้นเก็บงานหินที่ล้มจัดใหม่อีกทีตรงกลุ่มซ้ายมือ
คิ้วตู้ด้านบน และด้านล่างไปสั่งตัดสแตนเลสและพับมาเสร็จสรรพครับ
เอ้าท์โฟลก็เปลี่ยนจากที่ไปจ้างเขาทำเป็นท่อสแตนเลสมาเป็นแป็ปขาวครับ เนื่องจากมีคราบแกะ
ได้เริ่มลงของบ้างแล้ว
สมช. ครับ
ยังครับ ยังไม่พอ เวลาผ่านไปแต่ในตู้ยังร้อนอยู่ครับ
จัดนี่ไปเลยครับ พร้อมสายอย่างดี ตอนนี้เย็นสบายกันทั้งตู้
เพิ่มนี่ไปอีกตัวครับ กระบอก UV ไม่รู้มีประโยชน์หรือเปล่า
เสียบปลั๊กแล้วแต่มองไม่เห็นอะไรเลย น่าจะมีไฟบอกการทำงานนิดนึง
มุมใกล้ๆบ้างครับ หินเริ่มสกปรกแล้ว สีน้ำตาลสนิมๆ ไม่รู้สาหร่ายหรืออะไรกันแน่
ใครรู้ช่วยบอกทีครับ
ท้ายที่สุดนี้ครับ ขอขอบคุณพื้นที่เว็บและความรู้+สร้างความยากให้ DIY
ทำไปทำมาไม่รู้ทำมันทำไม = Do it Why ? (ผมแปลแบบนี้ครับ)
แต่ก็สนุกที่ได้ทำเเละได้เรียนรู้อะไรเยอะขึ้นครับ (แต่คงต้องศึกษาอีกนานๆๆๆๆๆๆเลย)
ขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านจนถึงสุดท้าย มีคำแนะนำอย่างไร ยินดีรับฟังครับ
หากว่างๆ อยากให้ช่วยตีราคาตู้นี้ดูเล่นๆด้วยครับ อยากรู้ว่าทำไปเสร็จแล้ว เพื่อนๆจะคิดว่ามีค่าประมาณเท่าไร
ความรักความรู้ที่ได้ทำ ตีเป็นตัวเลขยากครับ แต่ตีราคามาเป็นตัวเงินจะเข้าใจคุณค่าได้ง่ายดีครับ
ขอบคุณครับ [on_012]
อัพเดท 17/07/13 ครับ
ตอนนี้ตู้เริ่มมีตะไคร่เขียวขึ้น และมีตะไคร่เหมือนขนนกขึ้นด้วยกอนึง มีติดโรคจุดขาวตายไปจำนวนนึงครับ
พยายามเปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละหนครับ
หา Ro/Di มาติดได้พักนึงแล้วครับ
ไม่ทราบพอมีอะไรแนะนำไหมครับ ตะไคร่เขียวๆจะเปลี่ยนเป็นม่วงไหมครับ
|