พอมาอ่านดีๆแล้ว รู้สึกว่ามันยากเกินกว่าพวกโง่ๆอย่างผมจะเข้าใจแฮะ
แต่เคยมีอยู่ตู้นึง เป็นตู้พักต้นไม้ พักปลา 24 นิ้ว ไม่มี CO2 มีต้นอะไรเหลือเอาไปโยนๆใว้ กรองแขวนตัวนึง ไฟอีก36 วัตต์
เอาใบหูกวางไปหมักด้วย น้ำออกเหลืองๆหน่อย สังเกตุุว่าต้นไม้ก็พออยู่รอด ยิ่งพวกเฟิร์น มอส พิเลีย งอกงามอีกตะหาก
ที่สำคัญ ตะไคร่ ไม่มีเลย เอามาจากตู้อื่นนี่ รากดำมีขนดำติดใบติดไรโซมแบบรึ่มๆ เอามาใส่ ซัก1อาทิตย์ หายเกลี้ยง
ไม่ได้มีปลากินตะไคร่ด้วย ก็เลยสรุปได้ว่า การที่แสงไม่มาก น้ำหมักๆหน่อย ตะไคร่อยู่ไม่ได้ตายเรียบ
ตู้หลังๆมาก็เลยพยายามเลียนแบบตู้พักต้นไม้นี้ คือช่วงแรกๆพยายามไม่เปิดไฟเยอะเอาพอให้ต้นไม้อยู่ได้ ใส่ใบหูกวางลงไปในกรอง
หน่อย ก็ค่อนข้างได้ผลดี รอจนต้นไม่สมบูรณ์ขึ้น เอาใบหูกวางออก เปลี่ยนน้ำ เปิดไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เจอขนดำอีกเลย เจอเขียวจุดนิดหน่อย
อีกแบบนึงก็คือไฟแรงๆ แต่ต้นไม้สมบูรณ์จัดๆ ไม่มีตะไคร่ให้เห็นเช่นกัน มีแค่ช่วงแรกๆ ตามทฤษฎีเป๊ะๆ
http://i192.photobucket.com/albums/z300/championchampies/DSC_2220blacke.jpg
แต่เคยมีอยู่ตู้นึง เป็นตู้พักต้นไม้ พักปลา 24 นิ้ว ไม่มี CO2 มีต้นอะไรเหลือเอาไปโยนๆใว้ กรองแขวนตัวนึง ไฟอีก36 วัตต์
เอาใบหูกวางไปหมักด้วย น้ำออกเหลืองๆหน่อย สังเกตุุว่าต้นไม้ก็พออยู่รอด ยิ่งพวกเฟิร์น มอส พิเลีย งอกงามอีกตะหาก
ที่สำคัญ ตะไคร่ ไม่มีเลย เอามาจากตู้อื่นนี่ รากดำมีขนดำติดใบติดไรโซมแบบรึ่มๆ เอามาใส่ ซัก1อาทิตย์ หายเกลี้ยง
ไม่ได้มีปลากินตะไคร่ด้วย ก็เลยสรุปได้ว่า การที่แสงไม่มาก น้ำหมักๆหน่อย ตะไคร่อยู่ไม่ได้ตายเรียบ
ตู้หลังๆมาก็เลยพยายามเลียนแบบตู้พักต้นไม้นี้ คือช่วงแรกๆพยายามไม่เปิดไฟเยอะเอาพอให้ต้นไม้อยู่ได้ ใส่ใบหูกวางลงไปในกรอง
หน่อย ก็ค่อนข้างได้ผลดี รอจนต้นไม่สมบูรณ์ขึ้น เอาใบหูกวางออก เปลี่ยนน้ำ เปิดไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เจอขนดำอีกเลย เจอเขียวจุดนิดหน่อย
อีกแบบนึงก็คือไฟแรงๆ แต่ต้นไม้สมบูรณ์จัดๆ ไม่มีตะไคร่ให้เห็นเช่นกัน มีแค่ช่วงแรกๆ ตามทฤษฎีเป๊ะๆ
http://i192.photobucket.com/albums/z300/championchampies/DSC_2220blacke.jpg
ที่อ่านมาที่ Tom Barr ตอบนะครับ ถ้าจะแยกประเภทตู้จากงบประมาณ ไม่ใช่ทฤษฎี มันก็จะแยกได้สองแบบ คือตู้โลว์เทค กับตู้ไฮเทค
ตู้โลว์เทค
ไฟน้อย ไม่มี CO2 ไม่อัดปุ๋ยใส่แต่ตอนแรกเท่านั้น ตอนหลังใช้ขี้ปลาที่สะสมแทน ตะไคร่น้อยเพราะแสงน้อย
CO2 ไม่ต้อง เพราะแสงทำให้ต้องการอาหารน้อย ส่งผลให้ไม่ต้องอัดปุ๋ย (ปลาต้องไม่มากเกินด้วยนะ)
ต้นไม้โตไม่เร็ว น้ำไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย (Tom Barr บอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำเลยด้วยซ้ำถ้าสมดุลย์จริงๆ
แค่เติมน้ำที่ระเหยไปก็พอ) เป็นตู้ที่ดูแลง่าย
ตู้ไฮเทค
ก็อย่างที่เราชินกัน มี CO2 อัดปุ๋ย อัดแสง ฯลฯ
ต้นไม้โตเร็ว เปลี่ยนน้ำทุกอาทิตย์ ดูแลเหนื่อยหน่อย แต่ตื่นเต้นดี เหมือนขับรถเร็วๆ
ถ้าเจออะไรขวางทางแล้วหลบไม่ทันก็คว่ำไปเลย (ตะไคร่มา)
ที่ว่าทั้งสองตู้นี้ใช้คอนเซ็ปท์เดียวกันก็คือ ความสมดุลย์ในการใช้สารอาหาร (โดยเฉพาะ NH4) ของพืช
ในสภาพต่างๆ (แสงมากแสง/น้อย, มี CO2/ไม่มี) แต่เราเข้าใจผิดว่าใช้คนละแนวทางเพราะไปยึดรูปแบบภายนอก
เขายังเคยบอกเวลามีคนบอกว่า แนวความคิด EI ขัดแย้งกับ ADA ซึ่งเขาตอบว่า โดยทั่วไปแล้ว คนที่คิดว่า
มันขัดแย้งมักจะเป็นคนที่ไม่รู้ ส่วนคนที่รู้ก็จะคิดเหมือนๆ กันน่ะแหละ (ทำนองว่า เวลามีสองลัทธิ
ทะเลาะกันในแนวความคิด คนที่ทะเลาะกันมักจะเป็นลูกศิษย์ แต่พอหัวหน้าลัทธิทั้งสองมาเจอกัน
ปรากฎว่าคุยกันถูกคอ เพราะแท้จริงแล้ว หัวหน้าทั้งสองคิดเหมือนกันในวงเล็บนี้ผมเสริมขึ้นมาเองนะ
Tom Barr ไม่ได้พูด)
อีกอย่างนึงที่ผมอ่านเจอและคิดว่าสำคัญ เพราะเห็นหลายตู้ในนี้ ที่ระยะแรกไม่มีตะไคร่ แต่พอผ่านไป
หลายๆ เดือนตะไคร่รึ่มทั้งที่ใส่ปุ๋ยเหมือนเดิม ผมว่าเป็นเพราะขี้ปลาสะสมใน Substrate ครับ เรื่องนี้ Tom Barr
ให้ความสำคัญเหมือนกัน
ขี้ปลาสะสมใน Substrate จึงเป็นแหล่งหนึ่งของ NH4
[ขอตัดเรื่อง Redox ออกไป เพราะผมกลัวว่าตัวเองจะตีความผิด]
สรุปแล้วผมว่า EI โดยแก่นของมันแล้วไม่ซับซ้อน คือ อัดปุ๋ยที่ไม่ใช่ NH4 ได้ ไม่ให้พืชขาดอาหาร
หรือถูกจำกัดการเติบโตด้วยสารอาหาร แต่อย่ามากเกินไปจนสิ่งมีชีวิตในตู้เดือดร้อน และหาทาง
จำกัดปริมาณ NH4 ที่พืชใช้ไม่หมด ส่วนใครจะทำยังไงในการจำกัดปริมาณ NH4 นั้นก็ขึ้นอยู่กับ
ประสบการณ์และวิธีที่แต่ละคนจะคิดขึ้นมาเอง (เพิ่ม CO2 ให้พืชดึงมันไปใช้ได้มากขึ้น,
หรือถ้าตู้มีสารอาหารสำหรับพืชน้อย ก็อย่าใช้ CO2 และลดแสงด้วย เพื่อไม่ให้พืชอ่อนแอ
จากการถูกบังคับให้โตโดยไม่มีสารอาหาร ฯลฯ)
ตรงนี้แหละที่ผมคิดว่าเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องอาศัยประสบการณ์ เป็นสิ่งที่แยกสิ่งที่มือเก๋าๆ ออกจากมือใหม่
ทำตามวิธีในคู่มือแล้วก็ยังมีตะไคร่ก็เพราะแต่ละตู้ไม่เหมือนกันจะให้ใช้วิธีเดียวกันได้ยังไง
แต่สิ่งที่อยู่เหนือวิธีการคือ แนวคิดครับ ทำนองว่าแนวคิดหนึ่งๆ สามารถทำได้โดยใช้วิธีการที่ไม่เหมือนกัน
ปล. ที่เขียนมานี้ ส่วนใหญ่ในนี้เป็นการสรุปและเรียบเรียงจากที่ตามอ่านคำตอบของตา Tom Barr ในเว็บบอร์ดต่างๆ
บางส่วนเป็นความคิดเห็นของผมที่มีต่อแนวคิด EI ไม่ใช่ประสบการณ์ของผมนะ (เพราะยังมีน้อย)