
รูปจาก : http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?action=database;sa=view;id=44
"ดาริโอ" หมอแคระตัวจิ๋ว สีแดงแรงริด ที่ปกติจะรู้จักกันดีในฐานะทหารเฝ้าตู้ คอยกำจัดพนาเลียและเหล่าแมลงน้ำไม่ให้มากร้ำกรายตู้ (พูดจะดูเว่อร์เลยเน๊อะ) เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เดินเจเจอยู่บ่อยๆคงเคยเห็นกันจนชินตา แม้ตู้ของบางคนไม่เคยมีพานาเลียมาบุกซักตัว ก็ยังอดใจในความน่ารักของเจ้าหมอแคระตัวจิ๋วนี้ไม่ได้จนต้องหิ้วกลับมานอนดูที่บ้านก็มีไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือผมด้วย ฮิฮิ

รูปจาก : http://www.future-digital.com/aquarium_info/info_freshwater_tropical_fish/dario_dario_7.html
ที่เกริ่นมาข้างต้นนั้นก็เพื่อที่จะยกความดีความชอบให้กับเจ้าดาริโอตัวน้อยที่ทำให้ผมเริ่มสนใจในปลากลุ่มหมอแคระขึ้นมา แต่บทความต่อไปนี้จะพูดถึงญาติใกล้ชิดของเจ้าตัวน้อยนั่นคือเจ้า "บลูบาดิส" (Blue badis) นั่นเอง

รูปจาก : http://www.apistoworldhk.com/shop/product_info.php?cPath=2_35&products_id=1011
แม้ว่าจะเป็นญาติใกล้เคียงกัน แต่ "ดาริโอ" กับ "บลูบาดิส" ก็แตกต่างกันพอสมควร
ดาริโอ หรือเรดบาดิส มีชื่อวิทยาศาตร์ว่า Badis bengalensis
ขนาดตัวประมาณ 1.5 ซม.ลำตัวมีสีแดง ส่วนเรื่องอาหารนั้นกินง่าย ที่ว่ากินง่ายนี่หมายถึงถ้าเป็นอาหารสดจะกินง่ายเลยล่ะ แต่ถ้าเป็นอาหารเม็ดน่ะเมินซะเถอะ ดังนั้นถ้าตู้ใครไม่พร้อมและไม่ค่อยมีเวลาดูแลจะแนะนำให้ปล่อยกุ้งเชอร์รี่ลงไปด้วย จะได้มีลูกกุ้งให้เค้ากินเป็นอาหาร
ส่วนเจ้าบลูบาดิส มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Badis Badis ตัวผู้ขนาดประมาณ 4 ซม. ตัวเมียขนาดประมาณ 2 ซม. สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ สีฟ้าอมน้ำเงินสวยงามที่บริเวณลำตัว ครีบ และหาง นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมหลงรักเจ้าตัวนี้ ประกอบส่วนตัวชอบสีฟ้าเป็นทุน จึงมักชอบหาปลาสีฟ้ามาเลี้ยง


ตัวนี้เป็นพ่อพันธุ์ รูปซ้ายถ่ายไว้ตอนเดือนมกราคม รูปขวาคือปัจจุบัน สีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับวิธีการเลี้ยงนั้นไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย
- 1. อาหารการกินสำหรับเจ้าบลูบาดิสนั้นก็แสนจะง๊ายง่ายเหมือนเจ้าดาริโอ 55+ ที่ได้มาครั้งแรกเห็นว่าตัวโต น่าจะกินอาหารเม็ด แต่ที่ไหนได้ อาหารเม็ดตกตรงหน้ายังเมิน แต่ถ้าเป็นอาหารสด เช่น หนอนแดง ไรทะเล ข้าสู้ไม่ถอย
- 2. ตู้ที่เลี้ยงนั้นสามารถใช้ตู้ที่เซ็ทเฉพาะเพื่อเลี้ยงหมอแคระหรือตู้ไม้น้ำธรรมดาๆก็ได้ ที่ผมเลี้ยงอยู่ก็เป็นตู้ไม้น้ำ อุณหภูมิน้ำเหมือนปลาทั่วไปซึ่งไม่ควรสูงเกินไป (>30 C) การจัดตู้ควรจะมีที่ให้ปลาหลบซ่อนตัวบ้าง เพราะปลาชนิดนี้ขี้อาย ไม่ใช่ปลาชอบโชว์ตัว
- 3. บลูบาดิสมีนิสัยไม่ดุร้าย แต่หวงถื่นบ้าง ดังนั้นควรมีพื้นที่พอควรหากจะเลี้ยงหลายตัว มีทะเลาะกันเองบ้าง ไม่ถึงขั้นกัดกันสะบักสะบอมหรือตาย และไม่ดุร้ายกับปลาตัวอื่น ถึงแม้ปลาตัวอื่นจะเล็กกว่ามาก โดยรวมถือว่าเป็นปลารักสงบ
- 4. การผสมพันธุ์คล้ายกับหมอแคระทั่วไป คือ จัดหากระถางใบเล็กๆวางไว้สำหรับให้ปลาไข่ แล้วรอๆๆๆจนปลาฟักเป็นตัวหรืออาจนำไปเป่าเองก็ได้ ที่ผมเลี้ยงนั้นไม่ได้ตั้งใจจะเพาะพันธุ์ ปล่อยให้พ่อแม่ปลาเลี้ยงดูลูกเอง แต่ก็มีลูกๆมาให้ชื่นชมอยู่บ้าง เพราะตู้ที่เลี้ยงใส่กุ้งเชอร์รี่ไว้เยอะพอสมควร

ลูกปลาเพศผู้ ขนาดเกือบเท่าพ่อแล้ว แต่สียังไม่เข้มเท่าไหร่

ตัวนี้ก็ลูกปลาที่ได้มาเช่นกัน น่าจะเพศเมียนะ แต่ขนาดใหญ่กว่าแม่เยอะ
สรุปโดยรวม บลูบาดิสเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ขนาดไม่ใหญ่จึงเหมาะกับตู้ไม้น้ำ รักสงบ สีสันสวยงามโดยเฉพาะคนที่ชอบปลาสีฟ้าหรือน้ำเงินอยู่แล้ว แต่ต้องใส่ใจและมีเวลาให้กับเค้าพอประมาณเนื่องจากเค้ากินแต่อาหารสด สุดท้ายนี้หากบทความผิดพลาดประการขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ใครมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ ติชม โพสลงหน้ากระทู้ได้เลยนะครับ ยินดีรับฟังครับ
ขอให้สนุกกับการเลี้ยงปลานะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ