Aqua.c1ub.net
*
  Thu 25/Apr/2024
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ่ายน้ำออกวันละ 20% แก้เรื่องโรคได้มั้ยครับ  (อ่าน 1813 ครั้ง)
buttom_b ออฟไลน์
Club Member
« เมื่อ: 01/09/15, [07:01:23] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เมื่อวานปลาเป็นจุดขาวหลายตัวเลยใส่ยาคอปเปอร์+ ไบโอน็อก 2 ลงในตู้ (ปลาล้วน) ตื่นเช้ามาเป็นเยอะกว่าเดิมมากครับ เลยว่าจะหยุดใส่ยาแล้วอาสัยการเปลี่ยนน้ำทุกวัน วันละ 20% และคุมอุณหภูมิ งดอาหาร ไม่ทราบว่าถ้าใช้วิธีนี้จะทำให้จุดขาวหายมั้ยครับ
un_petit_garcon ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1 เมื่อ: 01/09/15, [09:11:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คหสต ทำทุกอย่างตามปกติดีกว่า รักษาสภาพตู้อย่างที่มันควรจะเป็น ทั้งอุณหภูมิ ความเค็ม และค่าของเสีย การเปลี่ยนน้ำจะช่วยในกรณีที่ค่าของเสียสูงเกินไป หรือสภาพน่ำเดิมไม่เหมาะสม จนทำให้ปลาเครียดจนเป็นจุด ไม่ได้เป็นปัจจัยโดยตรงครับ การใช้โอโซนหรือยูวีก็ช่วยฆ่าเชื้อปรสิตที่ล่องลอยอยู่ตามน้ำได้ครับ

ลองทำความเข้าใจเรื่องวงจรชีวิตปรสิตดู ช่วยได้เยอะครับ

bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #2 เมื่อ: 01/09/15, [09:36:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ให้ดูปัญหาที่ต้นเหตุดีกว่า  แล้วไปแก้ตรงนั้น

ถ้าปัญหาไม่ได้เกิดจากคุณภาพน้ำที่แย่จนเกินไป  การเปลี่ยนน้ำคงช่วยอะไรไม่ได้มาก

ต้นเหตุปัญหาส่วนใหญ่ของจุดขาวมาจาก
1. คุณภาพน้ำแย่ (ความเข้มข้นของของเสียสูง) = ปลาอ่อนแอ
2. อุณหภูมิแย่ (อุณหภูมิสูง-ต่ำ-เปลี่ยนแปลงบ่อย) = ปลาอ่อนแอ
3. เชื้อมาจากภายนอกบ่อย (ลงปลาใหม่ที่มีเชื้อติดมา) = ปลาเป็นโรค
buttom_b ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #3 เมื่อ: 02/09/15, [16:40:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับ ตอนนี้ผีเสื้อไปแล้ว 3 ตัว พีค็อกอีก 1 ครับ  cryingrun ที่ตายไปครีบจะเปื่อย มีสีแดงจ้ำๆ ครับ ไม่แน่ใจออดิเนี่ยมรึป่าว เมื่อวานลองเปลี่ยนน้ำไป 20% ไม่กล้าใส่ยาเพิ่มกลัวเป็นหนักอีก ตอนนี้ตัวอื่นเริ่มติดโรคครับ ตอนนี้คุมอุณหภูมิไว้ 29.5-30 ครับ ใครพอมีวิธีแนะนำบ้างมั้ยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02/09/15, [16:46:03] โดย buttom_b »
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #4 เมื่อ: 03/09/15, [09:44:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ทั้งผีเสื้อ*3 กับพีคอก ไม่ใช่ปลาที่เลี้ยงง่ายนะครับ
เป็นปลาที่ต้องการคุณภาพน้ำที่ดี ยิ่งผีเสื้อไวกับคุณภาพน้ำมาก เห็นชัดๆจะเป็นอาการจ้ำเลือดอย่างที่บอก ส่วนครีบเปื่อยน่าจะเกิดจากการที่คุณภาพน้ำไม่ดี ปลาอ่อนแอ และติดเชื้อ

งดลงปลาเพิ่มก่อนดีกว่า  ซักเดือน

ผมว่าน่าจะแก้ไขเรื่องระบบกรองก่อน  ขอรายละเอียดตู้หลัก + กรอง + อุปกรณ์ + สิ่งมีชีวิต + ภาพตู้โดยรวมครับ จะได้แก้ไขตรงปัญหา
buttom_b ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #5 เมื่อ: 03/09/15, [11:52:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ทั้งผีเสื้อ*3 กับพีคอก ไม่ใช่ปลาที่เลี้ยงง่ายนะครับ
เป็นปลาที่ต้องการคุณภาพน้ำที่ดี ยิ่งผีเสื้อไวกับคุณภาพน้ำมาก เห็นชัดๆจะเป็นอาการจ้ำเลือดอย่างที่บอก ส่วนครีบเปื่อยน่าจะเกิดจากการที่คุณภาพน้ำไม่ดี ปลาอ่อนแอ และติดเชื้อ

งดลงปลาเพิ่มก่อนดีกว่า  ซักเดือน

ผมว่าน่าจะแก้ไขเรื่องระบบกรองก่อน  ขอรายละเอียดตู้หลัก + กรอง + อุปกรณ์ + สิ่งมีชีวิต + ภาพตู้โดยรวมครับ จะได้แก้ไขตรงปัญหา

ตู้หลัก 60*20*20  กรองล่าง 48*15*18  น้ำรวมประมาณ 550 ลิตร
อุปกรณ์
ปั้มน้ำขึ้น atman 106
สกิมเมอร์ BM CURVE 9
ปั้มคลื่น WP-40
กระบอก UV 36 watt  ต่อปั้ม atman 104 (ปั้มวางในกรองช่อง 3 น้ำวนออกช่องน้ำลง)
ชิลเลอร์ 90A  ต่อปั้ม atman 104 ตั้งอุณหภูมิ 29 องศา
ใช้ไฟสีฟ้ากับขาวธรรมดา
ความเค็ม ประมาณ 31-32

สิ่งมีชีวิต การ์ตูนส้มขาว 1 คู่ , มะเขือเทศ 1 คู่ , บลูแท้ง 1 คู่
 เยลโล่แท้งค์ เดมเซล เอ็มเพอเลอร์ใหญ่ หมอเหลือง หน้าผี นาโซ่หลังเหลือง ไบร์คัลเลอร์ อย่าละ 1 ตัว
ไม่มีก้นตู้ครับ ปูพื้นปะการัง 00

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03/09/15, [11:55:51] โดย buttom_b »
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #6 เมื่อ: 03/09/15, [13:02:58] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พอดีไล่อ่านกระทู้เก่าๆที่เคยตอบไว้ ประมาณนี้นะ
16/04 เริ่มตั้งตู้ 48 (ไม่รู้ตั้งมานานแค่ไหน)
19/04 เริ่มลงบลูแทงก์ตัวแรก
01/05 ลงเอ็มลายลูก
15/05 พูดถึงพาวเดอร์บลู
23/05 พูดถึง บลูแทงก์อีกตัว
29/05 พูดถึง นาโซ่หลังดำ (และแทงก์ที่มีในตู้ขณะนั้นคือ บลูแทงก์ เยลโล่แทงก์ โกลด์ริมแทงก์ พาวเดอร์บลูแทงก์)
15/06 ว่านาโซ่ อาการไม่ค่อยดี
20/06 ว่านาโซ่เริ่มกินอาหารแล้ว
24/07 เริ่มคิดจะเปลี่ยนจากตู้ 48 เป็น 60นิ้ว
31/07 เริ่มถามขั้นตอนการย้ายตู้
07/08 ถามเรื่องการถอดประกอบหินเก่ากับตู้ใหม่
18/08 ขายตู้เก่า
21/08 ถามถึงเรื่องชิลเลอร์
จนถึงปัจจุบัน ผีเสื้อตายไป3 พีคอกอีก1 และตามด้านล่าง

ตู้หลัก 60*20*20  กรองล่าง 48*15*18  น้ำรวมประมาณ 550 ลิตร
สิ่งมีชีวิต การ์ตูนส้มขาว 1 คู่ , มะเขือเทศ 1 คู่ , บลูแท้ง 1 คู่
 เยลโล่แท้งค์ เดมเซล เอ็มเพอเลอร์ใหญ่ หมอเหลือง หน้าผี นาโซ่หลังเหลือง ไบร์คัลเลอร์ อย่าละ 1 ตัว
ไม่มีก้นตู้ครับ ปูพื้นปะการัง 00

เลยเดาสาเหตุ (เดาเอานะ) ว่าน่าจะเป็นระบบกรองที่ยังไม่เข้าที่ดี ทั้งช่วงตู้เก่า48นิ้ว(3เดือน)  และตู้ใหม่60นิ้ว(1เดือน)
เดาว่าระบบกรองที่มียังไม่สามารถรองรับของเสียจากปลาชนิดที่เลี้ยง(หลายตัวยังไม่เหมาะกับตู้อายุน้อย)

เริ่มใหม่ไม๊ งดลงปลาซักเดือน + รักษาคุณภาพน้ำให้ดี ถ้ามีชุดวัดแอมโมเนีย/ไนไตร์ทจะดีมาก จะได้บอกปัญหาและแนวโน้มของตู้ได้ดีกว่าเดิม + เปลี่ยนน้ำตามเวลา (ช่วงนี้ 2อาทิตย์ครั้งนึง หรืออาทิตย์ละ20%ตามความสะดวก) + จัดการกระแสน้ำใหม่ (wp40ตัวเดียวไม่น่าพอ) เพื่อให้ของเสียจากตู้เข้าสู่ระบบการกรอง + ให้อาหารแค่พอกินไปซักระยะ

เป็นคำแนะนำนะครับ

ส่วนแทงก์ แองเจิ้ล ผีเสื้อ ปลา3กลุ่มนี้เป็นปลาที่ไม่ง่ายครับเพราะ
- แทงก์ กินง่าย ปรับตัวง่าย จริง.. แต่ ของเสียเยอะ เพราะกินเยอะ กินง่าย กินไม่หยุด กินไม่พอ
- แองเจิ้ล กินไม่ยากไป ปรับตัวไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่ต้องการคุณภาพน้ำที่ดี (กว่าพวกปลาเล็กปลาน้อย)
- ผีเสื้อ กินยาก แต่กินแล้วโอกาสรอดก็สูง แต่ปัญหาคือไวกับคุณภาพน้ำอย่างมาก
ทั้ง3กลุ่มปลา ควรลงเมื่ออายุตู้6เดือนขึ้นไปตามสาเหตุด้านบน ซึ่ง6เดือนคือระบบต่างๆน่าจะเข้าที่เข้าทางพร้อมรับปลาทั้ง3ได้ดี แต่ก็ไม่ใช่จะลงปลาถี่ๆได้นะครับ ควรเว้นระยะซัก1-2ตัว/2อาทิตย์เป็นอย่างต่ำ เพื่อระบบกรองจะไม่Loadมากไป


bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #7 เมื่อ: 03/09/15, [13:08:38] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [ไอ้แว่น]  เพิ่มเติม
ปกติจะไม่ค่อยไล่อ่านย้อนหลังเพราะความขี้เกียจ..55
แต่ด้วยความที่ว่า เคสตู้นี้ มีอุปกรณ์ครบ ขนาดตู้ใหญ่ ปริมาณปลาไม่มากนัก แต่ทำไมถึงเป็นปัญหา เผื่อ พสมช.ท่านอื่นอาจจะสงสัย ผมเลยต้องย้อนไปดู ถ้าผิดพลาด/เข้าใจผิด แจ้งได้เลยนะครับ  จะได้รู้ปัญหาจริงๆมันเป็นไปตามนี้รึเปล่า แต่ถ้าการเดินทางของตู้นี้เป็นไปตามนี้ ก็น่าจะเป็นปัญหาตามที่ผมเขียนไว้ Reply ด้านบน
buttom_b ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #8 เมื่อ: 03/09/15, [19:25:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

[ไอ้แว่น]  เพิ่มเติม
ปกติจะไม่ค่อยไล่อ่านย้อนหลังเพราะความขี้เกียจ..55
แต่ด้วยความที่ว่า เคสตู้นี้ มีอุปกรณ์ครบ ขนาดตู้ใหญ่ ปริมาณปลาไม่มากนัก แต่ทำไมถึงเป็นปัญหา เผื่อ พสมช.ท่านอื่นอาจจะสงสัย ผมเลยต้องย้อนไปดู ถ้าผิดพลาด/เข้าใจผิด แจ้งได้เลยนะครับ  จะได้รู้ปัญหาจริงๆมันเป็นไปตามนี้รึเปล่า แต่ถ้าการเดินทางของตู้นี้เป็นไปตามนี้ ก็น่าจะเป็นปัญหาตามที่ผมเขียนไว้ Reply ด้านบน
ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ ตู้นี้ยอมรับว่ารีบลงปลาจริงๆครับ รันน้ำได้อาทิตย์เดียว เพราะต้องรีบเอาตู้เก่าออกไม่มีที่วางครับ รู้ว่าเสี่ยงมากแต่ไม่รู้จะทำยังไงครับ เพราะกลัวตู้เก่าแตกเลยต้องเปลี่ยน
ค่าน้ำที่วัดได้ตอนนี้
แอมโมเนีย = 0
ไนไตร = 0
ไนเตรด = 10
ขอถามเพิ่มเติมครับ
1. ตอนนี้พอจะมีวิธีแนะนำไม่ให้สมาชิกที่เหลือจากไปมั้ยครับ เช่นต้องใส่ยาอะไรกำจัดจุดขาวครับดูแต่ละเวปบอกไม่ค่อยเหมือนกัน วันนี้ไบรคัลเลอร์ก็จากไปแล้วครับ เอ็มเพอเลอร์ตามีสีขาวขุ่นมาคลุมตาด้านนึงครับ
2. UV ผมเดินท่อถูกมั้ยครับ ปั้มที่ใช้แรงไปมั้ย (atman 104) ตอนนี้ผมปรับแรงดันลงมาต่ำสุดเพื่อให้แรงดันน้อยลง ไม่กล้าต่อตรงกับปั้มหลักแล้วสยิงไปตู้หลักครับ กลัวน้ำแรงไปกำจัดเชื้อได้ไม่หมด
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำครับสอนผมได้เต็มที่เลยครับตอนนี้ไปต่อไม่ถูกจริงๆไม่อยากมาลุ้นว่าแต่ละวันจะเหลือกี่ตัว TT

bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #9 เมื่อ: 04/09/15, [09:11:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมเดาว่าย้ายจากตู้ 48 มาเป็น 60 ใช้ทุกอย่างจากตู้เดิม รวมทั้ง น้ำ และ ทรายปูพื้น ซึ่ง คาดว่าตัวทรายคงมีตะกอนสะสมมาอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเปลี่ยนจาก48->60 เพิ่มน้ำเข้าไปอีกมากอยู่ จึงทำให้ไม่เห็นผลกระทบในช่วงย้ายตู้ใหม่ๆ
พอเวลาผ่านไปปัญหาเริ่มมากขึ้นจากระบบกรองที่ยังไม่เซ็ตตัวดีนักทำให้คุณภาพน้ำค่อยๆตกลง ประกอบกับมาปลาเพิ่ม+ปลาตายเป็นระยะ

ตอนนี้ที่พอทำได้คือ
1. งดลงปลาใหม่
2. ควบคุมอาหาร ไม่ให้เเยอะเกินไป ไม่อิ่มก็จำเป็น วันละครั้งก็พอ
3. ดูแลเรื่องคุณภาพน้ำให้ดี เปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละครั้ง 10-20% ใส่แบคฯทุกครั้งหลังเปลี่ยนน้ำ
4. ถุงกรองล้างบ่อยๆ1-2วันครั้งล้างน้ำเปล่าธรรมดา
5. สกิมเมอร์ ตั้งฟองสูงๆ เพื่อดึงของเสียออกให้เร็ว-มากกว่าเดิม น้ำอาจจะใสนิดนึง
6. สังเกตุตะกอนตามพื้นตู้ ว่าจุดอับมีตะกอนตกค้างตามพื้นตู้บริเวณไหน ให้จัดกระแสน้ำเพิ่ม(แต่มีWP-40ยากหน่อย) จัดไม่ได้ให้ดูดตะกอนออกเอาเองวันละครั้งก็ยังดี
7. ยาไม่ต้องใส่ลงตู้ครับ ปริมาณน้ำมาก ใส่ไปแล้วต้องใช้ยาปริมาณมาก(ตามปริมาณน้ำ) หากปลายังกินอาหารได้ปกติ ปล่อยไว้ในตู้เหมือนเดิมช่วยลดอาการเครียดจากการย้ายไปย้ายมาได้มาก
8. UV ไม่ถนัดครับ ตอบไม่ถูก
9. ขอดูรูปตุ้หน่อยครับ ทั้งตู้หลัก และตู้กรอง

buttom_b ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #10 เมื่อ: 04/09/15, [20:38:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมเดาว่าย้ายจากตู้ 48 มาเป็น 60 ใช้ทุกอย่างจากตู้เดิม รวมทั้ง น้ำ และ ทรายปูพื้น ซึ่ง คาดว่าตัวทรายคงมีตะกอนสะสมมาอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเปลี่ยนจาก48->60 เพิ่มน้ำเข้าไปอีกมากอยู่ จึงทำให้ไม่เห็นผลกระทบในช่วงย้ายตู้ใหม่ๆ
พอเวลาผ่านไปปัญหาเริ่มมากขึ้นจากระบบกรองที่ยังไม่เซ็ตตัวดีนักทำให้คุณภาพน้ำค่อยๆตกลง ประกอบกับมาปลาเพิ่ม+ปลาตายเป็นระยะ

ตอนนี้ที่พอทำได้คือ
1. งดลงปลาใหม่
2. ควบคุมอาหาร ไม่ให้เเยอะเกินไป ไม่อิ่มก็จำเป็น วันละครั้งก็พอ
3. ดูแลเรื่องคุณภาพน้ำให้ดี เปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละครั้ง 10-20% ใส่แบคฯทุกครั้งหลังเปลี่ยนน้ำ
4. ถุงกรองล้างบ่อยๆ1-2วันครั้งล้างน้ำเปล่าธรรมดา
5. สกิมเมอร์ ตั้งฟองสูงๆ เพื่อดึงของเสียออกให้เร็ว-มากกว่าเดิม น้ำอาจจะใสนิดนึง
6. สังเกตุตะกอนตามพื้นตู้ ว่าจุดอับมีตะกอนตกค้างตามพื้นตู้บริเวณไหน ให้จัดกระแสน้ำเพิ่ม(แต่มีWP-40ยากหน่อย) จัดไม่ได้ให้ดูดตะกอนออกเอาเองวันละครั้งก็ยังดี
7. ยาไม่ต้องใส่ลงตู้ครับ ปริมาณน้ำมาก ใส่ไปแล้วต้องใช้ยาปริมาณมาก(ตามปริมาณน้ำ) หากปลายังกินอาหารได้ปกติ ปล่อยไว้ในตู้เหมือนเดิมช่วยลดอาการเครียดจากการย้ายไปย้ายมาได้มาก
8. UV ไม่ถนัดครับ ตอบไม่ถูก
9. ขอดูรูปตุ้หน่อยครับ ทั้งตู้หลัก และตู้กรอง



ภาพโดยรวมครับ


กรองล่างครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05/09/15, [10:00:51] โดย buttom_b »
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #11 เมื่อ: 05/09/15, [10:31:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โอ้ ... นึกว่าเล็กๆ .. 55
มีแต่ปลาใหญ่ กับขี้เยอะๆทั้งนั้นเลย 55

ที่เห็นคือ
1.ล้างถุงกรองบ่อยๆ
2.เพิ่มปั๊มคลื่นซักตัว แบบไม่ต้องคอนโทรลก็ได้ ไว้สร้างกระแสน้ำเพิ่ม ซัก3000LPH  ให้สังเกตุดูฝ้าที่ผิวน้ำถ้าไม่มีถือว่าพอได้ ถ้ามีลองย้ายปั๊มคลื่นไปไว้ฝั่ง ท่อน้ำขึ้นดูครับ
3.สกิมตั้งฟองต่ำมาก ให้ระดับฟองปุดๆ อยู่บริเวณเหนือเส้นแดงที่คอสกิม (ประมาณขอบล่างของถ้วยสกิมฯครับ)
4.เปลี่ยนน้ำตามปกติ 1-2อาทิตย์ครั้ง 20%

จริงๆก็มาถูกทางแล้วล่ะครับ อุปกรณ์และการจัดถือว่าใช้ได้เลย เสียแต่เรื่องของการลงปลา ใจร้อนไปหน่อย เล่นแต่เบอร์ใหญ่ๆ
อดใจเลี้ยงเท่านี้ก่อนซักเดือน-2เดือน ให้อาหารเบาๆมือ โดยรวมน่าจะดีขึ้นครับ

ถามหน่อย
1. เปิดไฟในกรองล่างทำไมรึ..
2. สกิมเมอร์ทำไมต้องมีอะไรหนุนด้านใต้
เพิ่ม กับแอบเห็นพาวเดอร์บลู ที่อยู่ในกรอง ผมว่าย้ายมันขึ้นตู้หลักดีกว่าถ้า น่าจะปรับตัวได้กินอาหารได้ดีกว่าอยู่เดี่ยวๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05/09/15, [10:33:30] โดย bill2517 »
buttom_b ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #12 เมื่อ: 05/09/15, [11:47:13] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โอ้ ... นึกว่าเล็กๆ .. 55
มีแต่ปลาใหญ่ กับขี้เยอะๆทั้งนั้นเลย 55

ที่เห็นคือ
1.ล้างถุงกรองบ่อยๆ
2.เพิ่มปั๊มคลื่นซักตัว แบบไม่ต้องคอนโทรลก็ได้ ไว้สร้างกระแสน้ำเพิ่ม ซัก3000LPH  ให้สังเกตุดูฝ้าที่ผิวน้ำถ้าไม่มีถือว่าพอได้ ถ้ามีลองย้ายปั๊มคลื่นไปไว้ฝั่ง ท่อน้ำขึ้นดูครับ
3.สกิมตั้งฟองต่ำมาก ให้ระดับฟองปุดๆ อยู่บริเวณเหนือเส้นแดงที่คอสกิม (ประมาณขอบล่างของถ้วยสกิมฯครับ)
4.เปลี่ยนน้ำตามปกติ 1-2อาทิตย์ครั้ง 20%

จริงๆก็มาถูกทางแล้วล่ะครับ อุปกรณ์และการจัดถือว่าใช้ได้เลย เสียแต่เรื่องของการลงปลา ใจร้อนไปหน่อย เล่นแต่เบอร์ใหญ่ๆ
อดใจเลี้ยงเท่านี้ก่อนซักเดือน-2เดือน ให้อาหารเบาๆมือ โดยรวมน่าจะดีขึ้นครับ

ถามหน่อย
1. เปิดไฟในกรองล่างทำไมรึ..
2. สกิมเมอร์ทำไมต้องมีอะไรหนุนด้านใต้
เพิ่ม กับแอบเห็นพาวเดอร์บลู ที่อยู่ในกรอง ผมว่าย้ายมันขึ้นตู้หลักดีกว่าถ้า น่าจะปรับตัวได้กินอาหารได้ดีกว่าอยู่เดี่ยวๆ
ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ จะลองไปทำตามครับ
1. ไฟกรองล่างเปิดไว้ให้ดาร์กพาวเดอร์บลูที่อยู่กรองล่างครับ
2.สกิมเมอร์ก่อนหน้านี้ปั่นน้ำล้นออกมาครับเลยหาของมาหนุน เดียวจะเอาออกละครับ
3. ดาร์กพาวเดอร์บลูชอบทะเลาะกับเพื่อนครับเลยจับแยก ตัวนี้กินเม็ดแล้วครับกินเก่งด้วย
 ส่วนฝ้าบนผิวน้ำมีตอนที่ปิดคลื่นเวลาให้อาหารปลา ถ้าเปิดคลื่นไม่นานฝ้าก้อหายหมดครับ
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: