Riccia fluitans in the submerged form
ริคเซียในรูปแบบใต้น้ำ
By Jan Ole Pedersen, Ole Pedersen and Claus Christensen
ริคเซียเป็นพืชน้ำใน ตระกูล liverwort Riccia fluitans เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพืชลอยน้ำชนิดหนึ่ง บทความนี้เป็นบทความที่ จะดัดแปลงริคเซียให้เป้นพืชจมน้ำและปกคลุม พื้นผิวอย่างสวยงาม
Takashi Amano เป็นคนแรกๆที่นำเทคนิคนี้ให้เป็นที่รู้จักในวงการไม้น้ำ ด้วยการนำริคเซีนมาพันหินภูเขาไฟเพื่อตบแต่งตู้ไม้น้ำ ในสภาพใต้น้ำริคเซียจะ แตกกิ่งก้านสาขาให้ความรู้สึกแปลก และรู้สึกโดดเด่นกว่าพืช ที่มีทัลลัส (thallus ส่วนของใบที่มี กิ่งก้านสีเขียว) บนพื้นผิวต่างๆ
การใช้ริคเซียเป้นไม้น้ำเป็นความรู้ที่ค่อนข้างใหม่ แต่อย่างไรก็ตามเรามักพบริคเซียในสภาพธรรมชาติที่เป็นน้ำตก จุดไหลของน้ำ น้ำที่มีการปะทะรุนแรง จะพบเห็นริคเซียเกาะติดกับส่วนรากของไม้น้ำต่างๆ สามารถเจริญได้บนพื้นโคลนได้ดี ในฤดูแล้งจะมีส่วนของ รากเทียม rhizoids ใช้ดูดน้ำและสารอาหารจากโคลนเพื่ออยู่รอด
เป็นลิเวอร์เส้นเล็กจิ๋ว ชื่อ Riccia fluitans ลองดูโตดีมากบนพีทมอส ได้ texture มาอีกแบบนึง
เครดิต http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=papiranya&group=2&month=12-2008&date=10
ในการเลี้ยงในตู้ไม้น้ำเราจะพบเห็น ริคเซียเจริญเกาะตามกิ่งก้านสาขาได้น้อยมาก (เนื่องจากการที่มันลอยน้ำ) เราจึงต้องทำการ ช่วยริคเซียซะหน่อยเพื่อความสวยงามในตู้เรา โดยวิธีง่ายๆ คือใช้ใบ (Thallus) วางให้ทั่วผิวหน้าก้อนหิน และรัด หุ้ม ไว้ด้วยด้วยตาข่ายจับปลา(ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้เขียนบอกว่าเป็นวิธีที่ทำให้เติบโตได้รวดเร็ว) หากมี CO2 และแสงไฟที่แรงเพียงพอเรามักพบว่า ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเปิดไฟ เราจะพบฟอกอากาศสะสมที่ปลายใบกระทบกับแสงไฟอย่างสวยงาม ราวไข่มุก ซึ่งการคายฟองจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมี CO2 และไฟแรง หรือตอนเปลี่ยนน้ำในตู้ น้ำประปาที่มีปริมาณ CO2 มากเกินพอตอนเปลี่ยนน้ำเป็นวิธีหนึ่งที่กระตุ้นให้ริคเซียคายฟองได้มาก แต่การคายฟองจะหยุดลงเมื่อไม่มีการเติม CO2 อย่างต่อเนื่อง(เทคนิคนี้เอาไปใช้ถ่ายภาพได้นะครับ)
ริคเซียจะไม่มีทางจับกับซับเสตรท หรือสิ่งที่เรายึด พัน ไว้ ดังนั้นเราจึงต้องปลูก พันมันใหม่หลังจากเลี้ยงได้ระยะหนึ่ง เพราะพฤติกรรมที่มันชอบลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ
วิธีที่พอจะลดการหลุดลอยทำได้โดยตัดแต่ง ด้วยกรรไกร หรือโรยทับด้วยกรวดทับบางๆ
ริคเซียใช้ตบแต่งตู้ไม้น้ำได้หลายลักษณะ ไม่ว่าจะวางหินพันริคเซียไว้เดี่ยวๆ เป็นกลุ่ม เล่นระดับ เล่นระยะ เพื่อดึงดูดจุดสนใจในตู้ได้ดี เพราะฟองอากาศที่อยู่บนใบของมัน ซึ่งแล้วแต่เทคนิคของแต่ละท่าน
การฟอร์มริคเซียให้ไว ต้องการน้ำที่มีความกระด้างต่ำ แสงแรง และปริมาณ CO2 สูง ปริมาณปุ๋ย หลักรองมากพออุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 10-28 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิที่สูงทำให้ริคเซียต้องการ CO2 และปุ๋ยที่มากขึ้น)
การขาดปุ๋ยดูได้จากใบริคเซีย ที่มีสีเหลือง สีเขียวอ่อน และหยุดการเจริญเติบโต
ริคเซียที่สมบูรณ์จะมีใบเขียวเข้ม มีลักษณะโปร่งแสง จาก Aerenchyma ช่องรูเปิดเพื่อรับอากาศ ลักษณะใบสมบูรณ์เช่นนี้จะมีมวลที่หนักและจมน้ำได้ เรามักพบริคเซียแบบนี้ในช่วงฤดูหนาวริคเซียจะจมตัวลงน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำแข็งที่ผิวน้ำ
ริคเซียสามารถพบได้ตามแหล่งธรรมชาติทั่วโลก พันธุ์ญี่ปุ่น เป็นพันธุ์ที่สวยงาม ใบยาว เหมาะสมที่เอามาประดับตู้ที่สุด ริคเซียสายพันธุ์อื่นๆ จากเอเชีย ยุโรป มักมีใบเล็ก(แคระที่เรียกกันนั่นหล่ะ) จะมีลักษณะที่ไม่หนาแน่นและลอยขึ้นผิวหน้าน้ำได้ง่าย
เครดิต http://www.tropica.com/advising/plant-articles/riccia-fluitans.aspx
ฝาก layout งามๆ
สายพันธุ์ริคเซียครับ http://www.tropica.com/advising/plant-articles/forskellige-riccia-fluitans.aspx
ญี่ปุ่นครับ
สายพันธุ์ยุโรปครับ ไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่
สายพันธุ์ไทยครับ เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกับยุโรป ไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่เช่นกัน
และสุดท้ายสายพันธุ์สิงคโปร์ ไม่นิยมเช่นกัน
ขอบคุณครับที่อ่านกันจบ [on_066]