Aqua.c1ub.net
*
  Mon 22/Sep/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สารอาหารส่วนเกิน = ตะไคร่ จริงแค่ไหน  (อ่าน 9020 ครั้ง)
NP ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 27/03/10, [23:22:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอเห็นแย้งเรื่องไนเตรทในปริมาณที่มากเกินจนไม้น้ำใช้ไม่หมด เป็นสาเหตุให้ไม้น้ำไม่ “ชนะ” ตะไคร่

ที่เห็นแย้งก็เพราะผมเชื่อที่ Tom Barr เจ้าของวิธีให้ปุ๋ยแบบ EI Method ว่าไว้ครับ และเท่าที่ทดลองดู
ก็เห็นว่าเป็นไปตามนั้น

คุณทอมเขาบอกว่า จากการทดลอง (เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านพืช) เนี่ย พบว่า

- ไนเตรทเป็นอาหารตะไคร่นั้น ถูกต้อง แต่ไนเตรทไม่ใช่สิ่งที่กระตุ้นให้ตะไคร่ขยายพันธ์ุ

- ตะไคร่ต้องการสารอาหารน้อยมากในการอยู่รอดและเติบโต น้อยจนถ้าเราจะจำกัดตะไคร่ด้วยการ
ลดสารอาหารอย่างไนเตรท ไม้น้ำจะอดตายก่อน

- โปแตสเซี่ยมหรือแม้แต่ฟอสเฟตก็เป็นอาหารตะไคร่ แต่มันก็ไม่กระตุ้นให้ตะไคร่ขยายพันธ์ุเช่นกัน
(คุณทอมล้มทฤษฎีการใส่ปุ๋ยแบบ PMDD ที่มีใจความหลักว่า ถ้าเราคุมฟอสเฟต ก็คุมตะไคร่ได้—แต่เขาก็
ไม่ได้ทับถมดูถูกทฤษฎ๊ PMDD อะไร เพราะ EI Method ของเค้า ก็มีพื้นฐานจาก PMDD น่ะแหละ
รวมทั้งดูเหมือนคุ้นเคยกันกับคนคิด PMDD ด้วย ยังคงรักษาน้ำใจกัน)

- ปริมาณธาตุเหล็กที่มากเกินไปก็ไม่ใช่สาเหตุของตะไคร่เส้นผม

- อ้าว โน่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่ แล้วสารตัวไหนเป็นสาเหตุของตะไคร่ฟะ? เขาก็ออกตัวว่า เนื่องจากตัวเองเป็น
นักวิทยาศาตร์ การด่วนฟันธงไปอาจทำให้หน้าแตกในภายหลังได้ (ประโยคหลังนี้ผมตอกไข่ใส่เอง) จึงขอตอบ
แบบนักวิทยาศาสตร์ว่า ตอนนี้เขาก็ไม่แน่ใจหรอกว่าสารตัวไหนเป็นสาเหตุ แต่แน่ใจว่าอะไรไม่ใช่สาเหตุ
แต่ก็นั่นแหละ ถ้ามีผู้ใหญ่คาดคั้นให้จับตัวผู้ต้องสงสัยให้ได้ภายใน 7 วัน ผู้ต้องสงสัยรายนั้นก็น่าจะเป็น NH4
หรือแอมโมเนียม เพราะใส่เข้าไปทุกที ได้เรื่องทุกที นอกจากนั้น เขายังเสริมต่ออีกว่า ถ้าคุณสงสัยว่า
ทำไมการปลูกต้นไม้ในตู้ปลาไม่ให้มีตะไคร่มันถึงยากหยั่งงี้ ไม่เห็นมีใครพยายามทำให้มันง่ายแบบกดปุ่มซักทีว้า
คำตอบคือ ไม่มีเงินมาล่อใจไง ตลาดไม้น้ำมันไม่ใหญ่พอที่จะล่อใจให้มีการวิจัยแบบเจาะลึกในเรื่องนี้

วิธีควบคุมตะไคร่ที่เห็นๆ กันตอนนี้ ก็เป็นแค่แอพพลายเอาจากข้อมูลจากการวิจัยหาวิธีกำจัดวัชพืช
ในแหล่งน้ำสาธารณะกันทั้งนั้น การวิจัยอย่างว่าได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐมหาศาล ข้อมูลเลยมีเพียบ
แต่การวิจัยเรื่องวัชพืชในแหล่งน้ำที่เค้าทำๆ กัน มันไม่ได้แยกว่าไอ้นี่เป็นตะไคร่ที่ต้องกำจัด
ส่วนไอ้นั่นเป็นไม้น้ำที่ต้องรักษา แต่มันมองว่าทั้งคู่คือตัวปัญหาที่ต้องฆ่าทิ้ง ก็เลยยังไม่มี
เทคโนโลยีเจ๋งเป้งเป๊ะๆ แม่นๆ โดนใจคนปลูกวัชพืชในตู้ปลาอย่างเราๆ ไง

- ดังนั้น EI Method ก็เลยแจ้งเกิด โดยมีคอนเซ็ปท์ว่า ปรนเปรอไม้น้ำให้มันอิ่มหมีพีมันทุกอย่าง
ด้วยไนเตรท, ฟอสเฟต, โปรแตสเซียม, ธาตุอาหารรอง, CO2 (โดยมีเพดานจำกัดไว้ที่ความเป็นพิษ
ต่อสัตว์น้ำ) และให้แสงในปริมาณพอเหมาะ แต่ยกเว้นของแสลงอย่าง NH4 ไม้น้ำจะได้แข็งแรง
แย่งใช้ NH4 ลงจนตะไคร่ขยายพันธ์ุน้อยลง เหลือไว้แต่ตะไคร่แก่ๆ ที่จะเฉาตายหมดอายุขัยไปเอง
(หรือจะดึงทิ้งเองก็ได้ถ้าใจร้อน)

- ไม้น้ำเนี่ย ถึงเราจะขุนมันด้วยสารอาหารทุกอย่าง เราก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเมิน NH4 เพราะดูเหมือน
ภารกิจหนึ่งที่ฝังอยู่ในสัญชาติญาณของไม้น้ำ (ถ้ามันจะมีสิ่งที่เรียกว่าสัญชาติญาณอะนะ
แต่คงไม่มีหรอก) ก็คือ ถ้าเจอ NH4 ก็หม่ำมันก่อน แล้วค่อยจัดการไนเตรท ยิ่งไม้น้ำแข็งแรงสุขภาพดี
เท่าไหร่ ก็จะสามารถหม่ำ NH4 ได้มากเท่านั้น

- วิธีปลูกแบบ ADA ของลุงอามาโน่คือ เน้นธาตุอาหารในดินเป็นหลัก เพราะยังคงเชื่อในทฤษฎีเก่าที่ว่า
สารอาหารส่วนเกินในน้ำคือต้นเหตุของตะไตร่ ก็ให้ผลดีได้เช่นกัน แต่จะดีกว่าถ้าใส่ปุ๋ยแบบ EI ไปด้วย
เพราะธาตุบางตัวมันเคลื่อนย้ายลำบาก ถ้าพืชได้รับทั้งทางรากและทางใบก็จะเปรมปรีย์ทั้งสองทาง
โดยตู้ของเขาที่ใช้ดิน Amazonia นั้้น เขาจะใส่ปุ๋ยแบบ EI ในปริมาณครึ่งเดียวหรือหนึ่งในสาม

- ถ้ามีสารอาหารเสนอให้ทั้งในดินและในน้ำ ไม้น้ำจะเลือกหม่ำสารอาหารในน้ำผ่านใบเป็นอันดับแรก


การให้ปุ๋ยแบบ EI Method เนี่ย ฮอตมาก ดูจากเว็บไม้น้ำของอเมริกา, ยุโรป, สิงคโปร์, มาเลย์ฯ
บอกไว้เพื่อเสริมอิมเมจน่ะ ไม่มีอะไร emb01


00คิงคอง00 ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1 เมื่อ: 28/03/10, [00:23:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอเห็นแย้งเรื่องไนเตรทในปริมาณที่มากเกินจนไม้น้ำใช้ไม่หมด เป็นสาเหตุให้ไม้น้ำไม่ “ชนะ” ตะไคร่

ที่เห็นแย้งก็เพราะผมเชื่อที่ Tom Barr เจ้าของวิธีให้ปุ๋ยแบบ EI Method ว่าไว้ครับ และเท่าที่ทดลองดู
ก็เห็นว่าเป็นไปตามนั้น

คุณทอมเขาบอกว่า จากการทดลอง (เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านพืช) เนี่ย พบว่า

- ไนเตรทเป็นอาหารตะไคร่นั้น ถูกต้อง แต่ไนเตรทไม่ใช่สิ่งที่กระตุ้นให้ตะไคร่ขยายพันธ์ุ

- ตะไคร่ต้องการสารอาหารน้อยมากในการอยู่รอดและเติบโต น้อยจนถ้าเราจะจำกัดตะไคร่ด้วยการ
ลดสารอาหารอย่างไนเตรท ไม้น้ำจะอดตายก่อน

- โปแตสเซี่ยมหรือแม้แต่ฟอสเฟตก็เป็นอาหารตะไคร่ แต่มันก็ไม่กระตุ้นให้ตะไคร่ขยายพันธ์ุเช่นกัน
(คุณทอมล้มทฤษฎีการใส่ปุ๋ยแบบ PMDD ที่มีใจความหลักว่า ถ้าเราคุมฟอสเฟต ก็คุมตะไคร่ได้—แต่เขาก็
ไม่ได้ทับถมดูถูกทฤษฎ๊ PMDD อะไร เพราะ EI Method ของเค้า ก็มีพื้นฐานจาก PMDD น่ะแหละ
รวมทั้งดูเหมือนคุ้นเคยกันกับคนคิด PMDD ด้วย ยังคงรักษาน้ำใจกัน)

- ปริมาณธาตุเหล็กที่มากเกินไปก็ไม่ใช่สาเหตุของตะไคร่เส้นผม

- อ้าว โน่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่ แล้วสารตัวไหนเป็นสาเหตุของตะไคร่ฟะ? เขาก็ออกตัวว่า เนื่องจากตัวเองเป็น
นักวิทยาศาตร์ การด่วนฟันธงไปอาจทำให้หน้าแตกในภายหลังได้ (ประโยคหลังนี้ผมตอกไข่ใส่เอง) จึงขอตอบ
แบบนักวิทยาศาสตร์ว่า ตอนนี้เขาก็ไม่แน่ใจหรอกว่าสารตัวไหนเป็นสาเหตุ แต่แน่ใจว่าอะไรไม่ใช่สาเหตุ
แต่ก็นั่นแหละ ถ้ามีผู้ใหญ่คาดคั้นให้จับตัวผู้ต้องสงสัยให้ได้ภายใน 7 วัน ผู้ต้องสงสัยรายนั้นก็น่าจะเป็น NH4
หรือแอมโมเนียม เพราะใส่เข้าไปทุกที ได้เรื่องทุกที นอกจากนั้น เขายังเสริมต่ออีกว่า ถ้าคุณสงสัยว่า
ทำไมการปลูกต้นไม้ในตู้ปลาไม่ให้มีตะไคร่มันถึงยากหยั่งงี้ ไม่เห็นมีใครพยายามทำให้มันง่ายแบบกดปุ่มซักทีว้า
คำตอบคือ ไม่มีเงินมาล่อใจไง ตลาดไม้น้ำมันไม่ใหญ่พอที่จะล่อใจให้มีการวิจัยแบบเจาะลึกในเรื่องนี้

วิธีควบคุมตะไคร่ที่เห็นๆ กันตอนนี้ ก็เป็นแค่แอพพลายเอาจากข้อมูลจากการวิจัยหาวิธีกำจัดวัชพืช
ในแหล่งน้ำสาธารณะกันทั้งนั้น การวิจัยอย่างว่าได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐมหาศาล ข้อมูลเลยมีเพียบ
แต่การวิจัยเรื่องวัชพืชในแหล่งน้ำที่เค้าทำๆ กัน มันไม่ได้แยกว่าไอ้นี่เป็นตะไคร่ที่ต้องกำจัด
ส่วนไอ้นั่นเป็นไม้น้ำที่ต้องรักษา แต่มันมองว่าทั้งคู่คือตัวปัญหาที่ต้องฆ่าทิ้ง ก็เลยยังไม่มี
เทคโนโลยีเจ๋งเป้งเป๊ะๆ แม่นๆ โดนใจคนปลูกวัชพืชในตู้ปลาอย่างเราๆ ไง

- ดังนั้น EI Method ก็เลยแจ้งเกิด โดยมีคอนเซ็ปท์ว่า ปรนเปรอไม้น้ำให้มันอิ่มหมีพีมันทุกอย่าง
ด้วยไนเตรท, ฟอสเฟต, โปรแตสเซียม, ธาตุอาหารรอง, CO2 (โดยมีเพดานจำกัดไว้ที่ความเป็นพิษ
ต่อสัตว์น้ำ) และให้แสงในปริมาณพอเหมาะ แต่ยกเว้นของแสลงอย่าง NH4 ไม้น้ำจะได้แข็งแรง
แย่งใช้ NH4 ลงจนตะไคร่ขยายพันธ์ุน้อยลง เหลือไว้แต่ตะไคร่แก่ๆ ที่จะเฉาตายหมดอายุขัยไปเอง
(หรือจะดึงทิ้งเองก็ได้ถ้าใจร้อน)

- ไม้น้ำเนี่ย ถึงเราจะขุนมันด้วยสารอาหารทุกอย่าง เราก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเมิน NH4 เพราะดูเหมือน
ภารกิจหนึ่งที่ฝังอยู่ในสัญชาติญาณของไม้น้ำ (ถ้ามันจะมีสิ่งที่เรียกว่าสัญชาติญาณอะนะ
แต่คงไม่มีหรอก) ก็คือ ถ้าเจอ NH4 ก็หม่ำมันก่อน แล้วค่อยจัดการไนเตรท ยิ่งไม้น้ำแข็งแรงสุขภาพดี
เท่าไหร่ ก็จะสามารถหม่ำ NH4 ได้มากเท่านั้น

- วิธีปลูกแบบ ADA ของลุงอามาโน่คือ เน้นธาตุอาหารในดินเป็นหลัก เพราะยังคงเชื่อในทฤษฎีเก่าที่ว่า
สารอาหารส่วนเกินในน้ำคือต้นเหตุของตะไตร่ ก็ให้ผลดีได้เช่นกัน แต่จะดีกว่าถ้าใส่ปุ๋ยแบบ EI ไปด้วย
เพราะธาตุบางตัวมันเคลื่อนย้ายลำบาก ถ้าพืชได้รับทั้งทางรากและทางใบก็จะเปรมปรีย์ทั้งสองทาง
โดยตู้ของเขาที่ใช้ดิน Amazonia นั้้น เขาจะใส่ปุ๋ยแบบ EI ในปริมาณครึ่งเดียวหรือหนึ่งในสาม

- ถ้ามีสารอาหารเสนอให้ทั้งในดินและในน้ำ ไม้น้ำจะเลือกหม่ำสารอาหารในน้ำผ่านใบเป็นอันดับแรก


การให้ปุ๋ยแบบ EI Method เนี่ย ฮอตมาก ดูจากเว็บไม้น้ำของอเมริกา, ยุโรป, สิงคโปร์, มาเลย์ฯ
บอกไว้เพื่อเสริมอิมเมจน่ะ ไม่มีอะไร emb01



[เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]
OoKabukioO ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #2 เมื่อ: 28/03/10, [00:59:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับ  [on_012]
dernero ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #3 เมื่อ: 28/03/10, [11:49:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แจ่มแจ้งครับ ผมก็ตามๆอ่านจากกระทู้เก่าๆที่เคยแนะนำเก่าๆอะครับ Tom Barr แนวคิดเค้าดีนะครับ ประยุกและอธิบายได้ว่า ทำไมบางตู้มีตะไคร่อย่างหึ่ม ทำไมบางตู้ อุปกรณ์ไม่พร้อม แต่ไม้น้ำก็อยู่ได้ครับ

ขอบคุณด้วยครับ +1 ให้ครับ วันหลังเอาความรู้เรื่องปุ๋ยมาแนะนำกันอีกนะครับ เปิดโลกมากขึ้นครับ  [เจ๋ง] [เจ๋ง] [on_042] [on_042]
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #4 เมื่อ: 28/03/10, [13:42:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

+ให้ครับคุณNP ความรู้แน่นมาก แต่ฟอสเฟตต้องมีบ้างนิดหน่อยก็พอแล้วไม่ต้องเยอะ
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #5 เมื่อ: 28/03/10, [15:36:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมว่าถ้าระบบกรองชีวภาพสมบูรณ์ น่าจะเป็นกลไกการป้องกันตะไคร่ที่ดี

เคยอ่่านเจอจากบทความว่า เค้าทดลองว่า สารอะไรสักอย่าง นี่แหละที่มาจากแบคทีเรียในระบบกรอง มีส่วนยับยั้งตะไคร่

เดี๋ยวต้่องไปค้นดูก่อน

แต่สังเกตุชัดๆจากประสบการณ์คือ ตู้ไหนต้นไม้สมบูรณ์และแน่น ตะไคร่จะแทบไม่มีให้เห็น เลยจริงๆ

NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #6 เมื่อ: 29/03/10, [08:02:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

+ให้ครับคุณNP ความรู้แน่นมาก แต่ฟอสเฟตต้องมีบ้างนิดหน่อยก็พอแล้วไม่ต้องเยอะ

เรื่องนี้เห็นด้วยครับ เพราะไม้น้ำไม่ได้ต้องการฟอสฟอตมาก แค่ราว 0.2-0.6 PPM ต่อวัน

ที่จริง EI ก็บอกให้รักษาระดับฟอสเฟตไว้ที่ 1-3 PPM แต่เวลาผมโดสตามที่ EI กำหนด มันกลับ
ได้ราว 10 PPM (วัดในวันสุดท้ายก่อนเปลี่ยนน้ำ) สงสัยมาจากอาหารปลา (ปลาเยอะเกินสมควรไปหน่อย)
ฟอสเฟตสูงๆ ทำให้ pH แกว่งได้ง่าย ตอนนี้ก็เลยลดการใส่ฟอสเฟตลง

ผมว่าถ้าระบบกรองชีวภาพสมบูรณ์ น่าจะเป็นกลไกการป้องกันตะไคร่ที่ดี

เคยอ่่านเจอจากบทความว่า เค้าทดลองว่า สารอะไรสักอย่าง นี่แหละที่มาจากแบคทีเรียในระบบกรอง มีส่วนยับยั้งตะไคร่

เดี๋ยวต้่องไปค้นดูก่อน

แต่สังเกตุชัดๆจากประสบการณ์คือ ตู้ไหนต้นไม้สมบูรณ์และแน่น ตะไคร่จะแทบไม่มีให้เห็น เลยจริงๆ

ผมว่าถ้าระบบกรองชีวภาพสมบูรณ์ น่าจะเป็นกลไกการป้องกันตะไคร่ที่ดี

เคยอ่่านเจอจากบทความว่า เค้าทดลองว่า สารอะไรสักอย่าง นี่แหละที่มาจากแบคทีเรียในระบบกรอง มีส่วนยับยั้งตะไคร่

เดี๋ยวต้่องไปค้นดูก่อน

แต่สังเกตุชัดๆจากประสบการณ์คือ ตู้ไหนต้นไม้สมบูรณ์และแน่น ตะไคร่จะแทบไม่มีให้เห็น เลยจริงๆ

เคยผ่านตาเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่ผมว่าต่อให้เรื่องสารนั้นไม่จริง ระบบกรองที่สมบูรณ์มันก็ช่วยลด NH4 ลงได้เยอะอยู่ดี
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #7 เมื่อ: 29/03/10, [08:08:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แล้วสารอาหารส่วนเกินมีโทษต่อสัตว์น้ำแค่ไหน?

พอ ทอม บาร์ เปิดตัว EI Method ก็มีเสียงค่อนแคะทำนองว่า นี่จะให้ปลาว่ายในน้ำปุ๋ยจริงๆ เหรอ?
โหดร้าย ซาดิสก์ ยี้ ฯลฯ

ปริมาณสารอาหารตามแบบ EI เนี่ย มันยังอยู่ในระดับที่ยอมรับว่าไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำครับ
ปลาในตู้ผมผสมพันธ์ุกันบ่อย จนได้ลูกแบล็คนิออนกับลูกปลาแพะสเตอไบอย่างละตัวโดยไม่ตั้งใจ
แสดงว่าคุณภาพน้ำน่าจะโอเค ไม่งั้นคงไม่มีอารมณ์อย่างว่า
far_blue ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #8 เมื่อ: 29/03/10, [11:52:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

EI method คืออะไรครับ หาอ่านจากไหนหว่า
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #9 เมื่อ: 29/03/10, [12:49:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

EI method คืออะไรครับ หาอ่านจากไหนหว่า

มันเคยอยู่ในเว็บตาทอมน่ะนะ แต่ตั้งแต่ทำเว็บใหม่ผมยังหาไม่เจอเลย
คนทำเว็บนั้นต้องไปอบรมการทำเว็บอย่างแรง  [on_009] หาอะไรไม่เจอเลย
http://www.cambridge-district-aquarium-society.ca/forum/index.php?topic=72.0
อ่านอันนี้ไปก่อนก็ได้ครับ
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #10 เมื่อ: 29/03/10, [13:15:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มันเคยอยู่ในเว็บตาทอมน่ะนะ แต่ตั้งแต่ทำเว็บใหม่ผมยังหาไม่เจอเลย
คนทำเว็บนั้นต้องไปอบรมการทำเว็บอย่างแรง  [on_009] หาอะไรไม่เจอเลย
http://www.cambridge-district-aquarium-society.ca/forum/index.php?topic=72.0
อ่านอันนี้ไปก่อนก็ได้ครับ

แปลด้วย   asspain
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #11 เมื่อ: 29/03/10, [13:26:45] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แปลด้วย   asspain
แปลให้เอามะ
田彬 ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #12 เมื่อ: 29/03/10, [13:26:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มันเคยอยู่ในเว็บตาทอมน่ะนะ แต่ตั้งแต่ทำเว็บใหม่ผมยังหาไม่เจอเลย
คนทำเว็บนั้นต้องไปอบรมการทำเว็บอย่างแรง  [on_009] หาอะไรไม่เจอเลย
http://www.cambridge-district-aquarium-society.ca/forum/index.php?topic=72.0
อ่านอันนี้ไปก่อนก็ได้ครับ

ก็เหมือนเว็บเนี๊ย...




















ล้อเล่น ๆ เว็บนี้สวยยยย หาอะไรก็ง่าย
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #13 เมื่อ: 29/03/10, [13:33:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แปลให้เอามะ

ไม่เป็นไรครับ เหอๆๆ แซวหมีบังเล่นๆ ้hahaha

แปลออกอยู่ครับ แต่ส่วนใหญ่บทความอะไรที่ยาวจ ผมไม่ค่อยจะอ่านครับ อ่านไม่ไหวปวดตา  เลยโง่จวบจนปัจจุบัน  n032

บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #14 เมื่อ: 29/03/10, [15:32:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไม่เป็นไรครับ เหอๆๆ แซวหมีบังเล่นๆ ้hahaha

แปลออกอยู่ครับ แต่ส่วนใหญ่บทความอะไรที่ยาวจ ผมไม่ค่อยจะอ่านครับ อ่านไม่ไหวปวดตา  เลยโง่จวบจนปัจจุบัน  n032



สั้นๆคือเน้นการให้ปุ๋ยตามสัดส่วนเป๊ะๆ ตามความเข้มข้นในน้ำที่ควรจะเป็น ให้สารอาหารเพียงพอสำหรับต้นไม้น้ำตลอดเวลา เพื่อให้ต้นไม้แข็งแรง สู้ตะไคร่ได้ดี และลดการเกิดตะไคร่ด้วย เพราะไม่มีธาตุส่วนเกินที่มากเกินพอดี

เรียกง่ายๆว่าเป็นการเลี้ยงต้นไม้แบบวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แบบ hobby หรือคนทำสวน
ซึ่งเอ็งคงไม่สนใจอย่างแน่นอน

แต่ด้วยความที่มันเข้าใจได้ยาก ต้องมีการคำนวณปริมาณปุ๋ยและแร่ธาตุ มีการวัดปริมาณสารละลายมากมาย เลยทำให้ไม่ค่อยฮิตเท่าที่ควรจะเป็น
MPOWER ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #15 เมื่อ: 29/03/10, [16:13:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

^
^
^
ถ้าลำบากที่ต้องมานั่งคำนวณอย่างงั้น  เลี้ยงแบบไม่ต้องคิดไรมาดีกว่า  ตะใคร่มาก็ให้กุ้งให้ปลากินเอาต่อไปดีแล้ว
ถ้าเลี้ยงแล้วต้องมาวัดค่าอะไรต่างๆมากมาย มันจะกลายเป็นงานทดลองไป [on_009]
แทนที่จะเป็นงานอดเรกที่ทำสนุกๆคลายเครียด แก้เซง
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #16 เมื่อ: 29/03/10, [16:32:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

^
^
^
ถ้าลำบากที่ต้องมานั่งคำนวณอย่างงั้น  เลี้ยงแบบไม่ต้องคิดไรมาดีกว่า  ตะใคร่มาก็ให้กุ้งให้ปลากินเอาต่อไปดีแล้ว
ถ้าเลี้ยงแล้วต้องมาวัดค่าอะไรต่างๆมากมาย มันจะกลายเป็นงานทดลองไป [on_009]
แทนที่จะเป็นงานอดเรกที่ทำสนุกๆคลายเครียด แก้เซง

สำหรับบางคน การคำนวณหรือวัดนู่นนี่แค่นี้ มันไม่ได้ลำบากอะไร
บางคนเขาสนุกกับการทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ สนุกกับการคิดและทำอะไรอย่างมีหลักการ เพื่อผลการเลี้ยงที่ดีกว่า

แต่สำหรับบางคนที่ต้องการเลี้ยง หรือจัดตู้เพื่อเป็นงานอดิเรกแบบเพลิดเพลิน จิ้มนั่นนี่เล่นไปวันๆ มันก็จะไม่สนุก ถ้าต้องมาทำอะไรแบบนั้น

มันก็แล้วแต่คนชอบน่ะนะ
เอกกะมอส ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #17 เมื่อ: 29/03/10, [20:04:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมว่าจะสนุกก็ต้องทำตามหลักการแต่พอดี แล้วก็ปล่อยสบายๆตามใจบ้างแค่นี้ก็สนุกกับงานอดิเรกนี้แล้วครับสำหรับผมนะ
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #18 เมื่อ: 29/03/10, [20:07:35] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สั้นๆคือเน้นการให้ปุ๋ยตามสัดส่วนเป๊ะๆ ตามความเข้มข้นในน้ำที่ควรจะเป็น ให้สารอาหารเพียงพอสำหรับต้นไม้น้ำตลอดเวลา เพื่อให้ต้นไม้แข็งแรง สู้ตะไคร่ได้ดี และลดการเกิดตะไคร่ด้วย เพราะไม่มีธาตุส่วนเกินที่มากเกินพอดี

เรียกง่ายๆว่าเป็นการเลี้ยงต้นไม้แบบวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แบบ hobby หรือคนทำสวน
ซึ่งเอ็งคงไม่สนใจอย่างแน่นอน

แต่ด้วยความที่มันเข้าใจได้ยาก ต้องมีการคำนวณปริมาณปุ๋ยและแร่ธาตุ มีการวัดปริมาณสารละลายมากมาย เลยทำให้ไม่ค่อยฮิตเท่าที่ควรจะเป็น
สำหรับบางคน การคำนวณหรือวัดนู่นนี่แค่นี้ มันไม่ได้ลำบากอะไร
บางคนเขาสนุกกับการทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ สนุกกับการคิดและทำอะไรอย่างมีหลักการ เพื่อผลการเลี้ยงที่ดีกว่า

แต่สำหรับบางคนที่ต้องการเลี้ยง หรือจัดตู้เพื่อเป็นงานอดิเรกแบบเพลิดเพลิน จิ้มนั่นนี่เล่นไปวันๆ มันก็จะไม่สนุก ถ้าต้องมาทำอะไรแบบนั้น

มันก็แล้วแต่คนชอบน่ะนะ

เออมันก็จริงแฮะ

ตอนแรกก็คิดแต่ว่ามันเป็นงานอดิเรก รู้หลักการพอ แล้วปฎิบัติเยอะๆ ลงมือทำเยอะๆ ศึกษาอ่านควบคู่ไปด้วย หาเวลาว่างจัดตู้สวยๆ

เหมือนจารจุ่นอ่ะว่าง่ายๆ อาชีพแกแท้ๆ แต่แกจะมาถามประจำ ต้นนี้มันชื่ออะไรวะ ชื่อวิทยาศาสตร์นี่ยิ่งตัดไปเลย


แต่หลังๆมาความคิดเปลี่ยน อย่างหมีบังว่า คนที่เค้าสนุกกับการทดลองทางวิทย์ ใส่นู่นใส่นี่ลงตู้ แล้วมันส์ มันก็มีแฮะ

เปรียนเทียบคน 2 ประเภท

Mr.MAI , จารจุ่น ----> อุ๊ยส์ นั่งดูตู้ โททาร่าอันนี้แพลมมา 1 cm เลย์เอ้าท์เสีย ตัดซะ

นักวิทยาศาสตร์  -----> อุ๊ยส์ ปุ๋ยที่เราผสมขึ้นมาเอง ใส่ไปเมื่อวาน ทำให้โรทาล่า งอกมา 1 cm


แตกต่างชัดเจน แต่สนุกเหมือนกัน

มันแล้วแต่คนชอบ จริงๆ

ส่วนผมขอบาย ให้มาวัดอะไรเยอะๆ หรือมานั่งตัดแต่งเป็นกิจวัตรนี่ไม่ไหวแฮะ   ้hahaha
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #19 เมื่อ: 29/03/10, [20:12:15] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สำหรับบางคน การคำนวณหรือวัดนู่นนี่แค่นี้ มันไม่ได้ลำบากอะไร
บางคนเขาสนุกกับการทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ สนุกกับการคิดและทำอะไรอย่างมีหลักการ เพื่อผลการเลี้ยงที่ดีกว่า

แต่สำหรับบางคนที่ต้องการเลี้ยง หรือจัดตู้เพื่อเป็นงานอดิเรกแบบเพลิดเพลิน จิ้มนั่นนี่เล่นไปวันๆ มันก็จะไม่สนุก ถ้าต้องมาทำอะไรแบบนั้น

มันก็แล้วแต่คนชอบน่ะนะ

มันก็ไม่ถึงกับต้องคำนวณหรอกนาจะว่าไป

ที่เห็นหลายคนที่ใช้วิธีนี้ชอบคำนวณกันก็เพราะนิสัยส่วนตัวอะแหละ ขี้สงสัยไปเรื่อย
เช่น ทอมบอกใส่โน่นเท่านี้ ใส่นี่เท่านั้น แต่แทนที่จะทำตามเฉยๆ ก็ไปวัดโน่นนี่ว่ามันจริงมั้ย
ทั้งที่ทอมก็พยายามเน้นว่า ไม่ต้องใช้ชุดทดสอบ เพราะชุดทดสอบแบบมือสมัครเล่นมันไม่แม่น
ครั้นจะซื้อชุดทดสอบน้ำแบบมืออาชีพ มันก็แพงแบบมืออาชีพ (อย่างของลาม็อตต์เนี่ย ชุดนึงหลายพันนะ
เตตร้าหรือเอพีไอนี่ยังเป็นระดับมือสมัครเล่น)

และอีกอย่างนึง อันนี้ผมว่าเองนะ ผมว่าทอมหมั่นไส้พวกใส่ปุ๋ยแบบ PPS Pro และพวก PPS Pro
ก็เขม่นทอมจนถีบทอมออกจากเว็บ aquaticplantcentral.com (PPS Pro ใช้ปุ๋ยแบบเดียวกัน
กับ EI Method แต่ต่างกันที่ PPS Pro จะมีการเปลี่ยนน้ำน้อยกว่าเยอะ ทำให้ต้องคอยวัดน้ำ
อยู่แทบจะตลอดเวลา ในขณะที่ EI Method เน้นการเปลี่ยนน้ำ 50% ทุกอาทิตย์ จนไม่จำเป็นต้องวัด)
จะเห็นว่าถ้ามีใครพยายามพูดทำนองว่าการทดสอบน้ำบ่อยๆ เป็นสิ่งจำเป็น ทอมจะออกมา
ดักคอนิดๆ ทันที

ไม่ต้องวัดหรอก ใส่ๆ ลงไปตามที่ว่าน่ะแหละ แล้วอาศัยเปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละครั้งเพื่อตัดยอด
ปริมาณสะสม พอทำอย่างนี้ไปสักพักจนเคยชิน เริ่มสังเกตุอาการต้นไม้และปลาเป็น ก็ปรับลด
เพิ่มเอาตามสไตล์แต่ละคน

แบบว่าผมมันชอบวัดโน่นนี่ไง แต่นานๆ ก็วัดที

ปริมาณปุ๋ยที่ใส่ก็ดูได้จากเว็บที่คุณบังให้ไว้ หรือที่นี่ (ใช่ ตั้งแต่เปลี่ยนหน้าตาเว็บ เละเทะมาก)
http://www.barrreport.com/showthread.php/2819-EI-light-for-those-less-techy-folks

เช่น ตู้ขนาด 38-76 ลิตร ไฟแรงๆ ใส่ปุ๋ยตามนี้ (ที่บอกตรงนี้คือใส่แบบผงนะ ไม่ต้องผสมน้ำ
ส่วนลิ้งค์ของคุณบังจะเป็นแบบผสมน้ำก่อน) ไฟไม่แรงหรือยังปอดๆ กล้าๆ กลัวๆ ก็ลดลงครึ่งนึง

KNO3 1/8 ช้อนชา อาทิตย์ละสามครั้ง
KH2PO4 1/16 ช้อนชา อาทิตย์ละสามครั้ง
GH Booster 1/2 ช้อนชา ใส่อาทิตย์ละครั้งหลังเปลี่ยนน้ำ
ปุ๋ยธาตุรอง ถ้าเป็นแบบผงเช่น CSM+B ที่นิยมใช้กันที่เมืองนอก ก็ใส่ 1/16 ช้อนชา อาทิตย์ละสามครั้ง
บ้านเราก็ใช้พวกยูทิไลซ์ หรือยี่ห้ออื่นที่มีสัดส่วนใกล้เคียงกับยูทิไลซ์ (เดี๋ยวขอพูดเรื่องนี้อีกที
เพราะปุ๋ยธาตุรองที่หาได้ในบ้านเรามีทองแดงสูงกว่า CSM+B ที่เขาใช้เป็นหลักวัดตั้ง 5 เท่า)
แต่ถ้าเป็นปุ๋ยน้ำธาตุรองที่เขาทำขายสำเร็จรูปอย่าง Flourish ของ Seachem หรือ TPN
(ปุ๋ยน้ำสีน้ำตาลของ Tropica) ก็ใส่ 5 ซีซี อาทิตย์ละสามครั้ง

โอเค มาแจกแจงอันที่อ่านแล้วยังไม่ชัดเจน

GH Booster ที่ใส่อาทิตย์ละครั้ง ทำเองได้ ส่วนผสมมันก็ง่ายๆ
MgSO4 1 ส่วน
CaSO4 3 ส่วน
K2SO4 3 ส่วน

ปุ๋ยธาตุรอง ไอ้ CSM+B ที่เมืองนอกใช้เนี่ย จริงๆ แล้วมันเป็นปุ๋ยธาตุรองที่เขาทำขายสำหรับ
ใช้กับการปลูกพืชแบบไฮโดรโพนิก ซึ่งสัดส่วนของมมันไม่ตรงกับของที่หาได้ในบ้านเรา
แต่ก็พอทดแทนได้ด้วยยูทิไลซ์

แต่ยูทิไลซ์มันมีทองแดงเยอะ ตั้ง .5% ในขณะที่ CSM+B มีแค่ .1% ดังนั้น อย่าใส่มากกว่าที่บอกไว้นะ
คือ ถ้าใส่ตามที่บอกจะยังโอเคอยู่ (แต่ก็ไม่น่าจะเหมาะกับคนที่เลี้ยงเรดบี แต่คนที่เลี้ยงกุ้งแบบนี้เขา
ไฮโซนิ คงใช้ปุ๋ยธาตุรองแบบมียี่ห้อกัน)

อีกอย่างนึง ยูทิไลซ์มันมีเหล็กน้อย ถ้าอยากเสริมด้วยเหล็ก เราก็หาซื้อปุ๋ยเหล็กคีเลต DTPA ได้
(ดีกว่า EDTA อีก)...จากเวสโก้ไทยแลนด์ กิโลละ 370 บาท ใช้ได้ตลอดชาติ (มั้ง)

http://www.wesco.co.th/images/map.gif

1 กิโลกรัมเท่ากับ 1 ล้านมิลลิกรม ตู้ 80 ลิตรใช้วันละ 190 มิลลิกรัม... (ราว 14 ปีกว่าจะหมด)

ถึงจะใส่ปุ๋ยแบบไม่ต้องคำนวณมาก ถึงจะต้นทุนต่ำยังไง แต่ผมว่าตัวสกัดดาวรุ่งตัวจริงคือ
“อะไรฟะ KH2PO4 งง แล้วซื้อได้ที่ไหน ไปซื้อที่ร้านขายปลามีป่ะ?” อะไรทำนองนี้มากกว่า

วิธีนี้ก็เลยไม่ดึงดูดคนที่มีตู้เล็กๆ ไม่กี่ตู้และไม่อยากยุ่งยาก ไม่ชอบ DIY เท่่าไหร่ แต่คนที่มีตู้ใหญ่ๆ
หลายๆ ตู้และขี้เหนียวค่าปุ๋ย คงจะมีแรงกระตุ้นให้ดิ้นรนบ้าง

คำแปลสูตรเคมีบางตัวเเป็นภาษาคน

KNO3 = โปแตสเซียมไนเตรท ซื้อได้ที่ร้านขายปุ๋ยเคมี
KH2PO4 = โมโนโปแตสเซียมฟอสเฟต ซื้อได้ที่ร้านขายปุ๋ยเคมี
K2SO4 = โปแตสเซียมซัลเฟต ซื้อได้ทีร้านขายปุ๋ยเคมี
MgSO4 = แมกนีเซียมซัลเฟต ซื้อได้ที่ร้านขายยาจีนในชื่อว่า ดีเกลือฝรั่ง
CaSO4 = แคลเซียมซัลเฟต = ยิบซั่ม ซื้อได้ที่ร้านขายจีนในชื่อว่า เจี๊ยะกอ

ถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพฯ ก็โชคดีมาก เพราะทุกอย่างซื้อได้จากศึกษาภัณฑ์
(เช็คอีกทีศึกษาภัณฑ์ไม่มี KH2PO4 ขายนะครับ แต่มี Na2HPO4 ก็ให้ใช้อันนี้แทน
ใส่ปริมาณเท่ากับ KH2PO4 นั่นแหละ)

ปล. เหล็กคีเลตเนี่ย ตอนนี้เวสโก้มีอยู่สามชนิด EDTA, DTPA, EDDHA
ซื้อ DTPA นะ เพราะ EDTA มันสลายตัวง่ายในน้ำที่มี pH เกิน 6.5
ส่วน EDDHA เนี่ย สเปคมันดูดีมาก แต่พอเอามาใช้จริงกลับไม่เวิ๊ร์ก
เพราะสีมันจัดมาก น้องๆ ด่างทับทิมเลย ใส่แล้วไม่สวย (แต่ปลาไม่เป็นอะไร)
ก็เลยแนะนำให้ซื้อ DTPA เหมาะที่สุด








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30/03/10, [19:30:14] โดย NP »
Longhairguy ออฟไลน์
Shrimp Admin
« ตอบ #20 เมื่อ: 29/03/10, [20:28:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โห ยาว ขี้เกียจอ่านงะ รอว่างๆก่อน asspain
Anubias ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #21 เมื่อ: 29/03/10, [21:23:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มาช่วยกันวิเคราะห์กันเถอะครับ บางที ปัญหามันอาจจะถูกคลี่คลายด้วยภูมิปัญญาของพวกเราในบอร์ดช่วยๆกันก็ได้ และหลักการตรงนี้ จะได้ถูกจดบันทึกไว้เป็นทฤษฎีร่วมกันอันเกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย  ผมก็กำลังศึกษาอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยเก่งเรื่องเคมีภัณฑ์นัก  เลยต้องมาคอยอ่านในบอร์ดนี้ประกอบกับประสบการณ์ตนเอง ผมใช้วิธีเลี้ยงแบบ ใช้ความรู้สึกเป็นตัววัดว่า สภาพของน้ำ การเจริญของต้นไม้ และระบบทั้งหมดมันใช่หรือแตกต่างจากธรรมชาติที่มันเป็นต้นแบบมาให้เราอยู่แล้วมากน้อยแค่ไหน ใช้วิธีสังเกตุโดยเอาแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นแม่แบบ ไม่ได้มานั่งวัดค่าโน่น นี่ นั่น อะไรเท่าไร ยังไง เพราะมันคงเป็นเรื่องไกลตัวไปนิด....และในธรรมชาติก็มีตะไคร่น้ำเกิดอยู่ประปรายอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน แต่สภาพของต้นไม้นั้นดูดีและสมบูรณ์มากๆเลย และมันก็จะมีช่วงที่สมบูรณ์โดยไม่มีปัญหาตะไคร่น้ำอยู่แค่ช่วงเวลาเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นสภาพมันก็เปลี่ยนไป บางทีมันอาจจะเป็นสิ่ง...ธรรมดาของธรรมชาติ...อยู่แล้วก็ได้  เพียงแต่คนเราต้องการจะทำให้มัน...เหนือธรรมชาตินิดๆ... เพื่อการหวังผลอันเป็นที่สุดของเป้าหมายใน...จิตนาการ...ของคน จริงๆแล้วมันก็เป็นสิ่งที่ดีในการกำหนดธรรมชาติให้มันอยู่ในการควบคุมดูแลของคนได้  แต่ก็อย่างลืมว่า...สัจธรรมของธรรมชาติ...มันก็คือ...ไม่มีอะไรที่ 100% อย่างที่ใจเราคิด...อันนี้ผมเห็นด้วยจริงๆ ไม่งั้นคนเราก็คงจะถูกกำหนดให้เกิดมา หน้าตาเหมือนกันหมด ทำอะไรเก่งๆได้เหมือนกันหมด ไม่มีความหลากหลายทางพันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต มันก็จะไม่เกิดการหมนเวียนของวัฐจักรของธรรมชาติในที่สุด .....  เปรียบง่ายๆ คนที่เกิดมาสวยแบบไร้ที่ติ ก็มีน้อยมากๆเลย   ตู้ไม้น้ำที่จะบังเอิญหรือตั้งใจให้ไม่มีตะไคร่น้ำ(ตำหนิ)เลย ก็คงจะเป็นเปอร์เซนต์ที่น้อยมากเช่นกัน... แต่ดีใจครับ ที่พวกเรามารวมหัวคิดหาทางแก้ปัญหาว่า ทำยังไงให้ปัญหาตะไคร่น้ำมากวนตู้ของเราให้น้อยที่สุด... น่าจะเป็นคำตอบท้ายๆแล้วหละ...
dernero ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #22 เมื่อ: 29/03/10, [23:02:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

+1  [เจ๋ง] [เจ๋ง] เยี่ยมไปเลยครับ

ขอถามต่อหน่อยครับ ใส่ปุ๋ยเยอะๆแล้ว ต้องเร่งไฟ กับคาร์บอนเพิ่มไหมอะครับ คือ ต้องเพิ่มปัจจัยอย่างอื่นอีกไหมครับ ขอบคุณครับพี่ [เจ๋ง]
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #23 เมื่อ: 29/03/10, [23:17:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Mr.MAI , จารจุ่น ----> อุ๊ยส์ นั่งดูตู้ โททาร่าอันนี้แพลมมา 1 cm เลย์เอ้าท์เสีย ตัดซะ

เห็นภาพ  [on_026]

ผมใช้แคลเซี่ยมไนเตรท 15-0-0 +cao กับ โพแทสเซียมไนเตรต 13-0-46 ผสมกันเป็นปุ๋ย 28-0-46 +cao
ใส่ครั้งละ 1 ช้อนชาปาด หลังเปลี่ยนน้ำ ต้นไม้มันก็โตดีนะ ปุ๋ยเสริมใช้ปุ๋ยน้ำที่ขายกันทั่วๆไปเอา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29/03/10, [23:44:20] โดย บัง! »
Aries .... ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #24 เมื่อ: 29/03/10, [23:24:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



Mr.MAI , จารจุ่น ----> อุ๊ยส์ นั่งดูตู้ โททาร่าอันนี้แพลมมา 1 cm เลย์เอ้าท์เสีย ตัดซะ

มันใช้กะโรทาร่าได้ด้วยหรอไอ้ศัพย์ว่าแพลมเนี่ยะ    [on_012]
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #25 เมื่อ: 29/03/10, [23:31:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

+1  [เจ๋ง] [เจ๋ง] เยี่ยมไปเลยครับ

ขอถามต่อหน่อยครับ ใส่ปุ๋ยเยอะๆแล้ว ต้องเร่งไฟ กับคาร์บอนเพิ่มไหมอะครับ คือ ต้องเพิ่มปัจจัยอย่างอื่นอีกไหมครับ ขอบคุณครับพี่ [เจ๋ง]

ไม่ต้องก็ได้ครับ

มีอย่างเดียวที่ถ้าคุณเพิ่มมัน คุณต้องเพิ่มอย่างอื่นตาม คือ แสงครับ
ถ้าเพิ่มแสง ต้องเพิ่มปุ๋ยกับคาร์บอนด้วย แต่อัตราของ EI เต็มโดสนี่
สำหรับแสงแรงมากแล้วนะ

ง่าาา จะว่าไป การปลูกพืชนี่ ประสบการณ์มีส่วนช่วยมากกว่าตำราจริงๆ
ตาทอมยังเคยบอกเลยว่า การใส่ปุ๋ยมันเรื่องหมูๆ ก็ใส่ตามอัตราที่บอกไว้
(มันเป็นศาสตร์) แต่สิ่งที่สอนกันไม่ค่อยได้คือ วิธีปรับกระแสน้ำ วิธีให้คาร์บอน
กระจายให้พืชใช้ได้ทั่วถึงมากที่สุดโดยสัตว์น้ำกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
การกระจายแสงให้สม่ำเสมอทั่วตู้ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง การตัดแต่ง
การทำความสะอาด ฯลฯ (มันเป็นศิลปะ) ผมว่าคนที่มีประสบการณ์เยอะ
(เช่นคุณและคนอื่นๆ บางคนในบอร์ดนี้) ได้เปรียบตรงนี้แหละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30/03/10, [19:33:22] โดย NP »
Kasama ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #26 เมื่อ: 30/03/10, [13:59:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ใช้ความรู้สึกซิ

รู้สึกตู้จะเริ่มเน่านะเรา = ="
SaHaRa ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #27 เมื่อ: 30/03/10, [16:04:45] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เดี๋ยวจะกลับมาอ่าน
dernero ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #28 เมื่อ: 30/03/10, [16:06:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อ่านแล้วได้ความรู้เยอะขึ้นเลยครับ ขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับ  [เจ๋ง] [เจ๋ง]
jo__qo_op ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #29 เมื่อ: 30/03/10, [18:12:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โห....สุดยอดมากครับ ความรู้ทั้งนั้น   เก็บเข้าหัวก่อน  [ไอ้แว่น]
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: