Aqua.c1ub.net
*
  Sat 20/Apr/2024
หน้า: 1 2   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สมาชิกใหม่มาขอคำแนะนำครับ พร้อมเเชร์ประสบการณ์ที่ไม่ดีเลย (เริ่มต้นใหม่ละครับ)  (อ่าน 4130 ครั้ง)
nuck ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #30 เมื่อ: 02/01/16, [17:50:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ผมตีน้ำเกลือในตู้ปลาไว้ความเค็มที่ 30 เปิดปั้มน้ำมา 4 วันแล้วครับ ในตู้มีแต่น้ำกับเกลือครับ กะว่า พรุ่งนี้จะเอาหินตายที่ตากแดดไว้ลง แล้วก็ลงรองพื้นปะการัง ลง แบคที่เรีย แล้วทิ้งไว้ยาวๆ ค่อยวัดค่า ๅแอมโมเนีย ไนเตรทดู ว่าเปลี่ยนแปลงอย่างไร พร้อมไหมจะมาถามอีกทีครับ
ใจเย็นๆคับค่อยๆอ่าน ค่อยๆศึกษา สงสารปลาและเงินในกระเป๋าคับ ถ้าใจร้อนก็เอาหินเป็นกับทรายเป็นเลยคับ หรือถ้าไม่เอาทรายก็หินเป็นเยอะหน่อยก็ลงปลาได้เลยคับแต่ลงแค่การ์ตูนเพาะ2ตัวนะคับมากกว่านั้นอาจจะล่มอีกรอบ เลี้ยงไว้ดูเล่นก่อนซักเดือนถ้ารอดหมดก็เล่นปะการังเลยคับ แต่ขอให้อ่านกระทู้มทอใหม่ให้มากๆเพราะถ้าพูดก็ยาวคับ ในเว็บนี้ข้อมูลครบคับที่เหลือกว่านั้นก็ประสบการ์ณคับ
nuck ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #31 เมื่อ: 02/01/16, [17:55:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อุปกรณ์ขอครบเลยนะคับ เทมคอนโท+พัดลมนะคับ เอาซัก30-30.5พอประหยัดไฟดี สกิมเมอร์ตอนแรกปลาน้อยก็อาศัยเปลี่ยนน้ำเอา ลูกลอยก็สำคัญนะคับ ผมว่าอุปกรณ์สำคัญก็แค่นี่แหละคับสำหรับปลาล้วน ถ้ามากกว่านี่ก็ตามกำลังศัยธาคับ
kasamsawad ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #32 เมื่อ: 03/01/16, [23:19:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

30/12/58 ผมผสมน้ำกับเกลือรันทิ้งไว้ ในตู้
3/01/59 ลงหินตายและแบคทีเรีย 1 หลอด
             วัดค่าความเค็ม 28
             ค่า PH 8.4
             ค่าแอมโมเนีย 0.2
             ค่า NO2   0.5
             อุณหภูมิ 29 ํ
             ตอนนี้น้ำออกเหลืองขุ่นๆ

kasamsawad ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #33 เมื่อ: 03/01/16, [23:23:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


ผิดถูกอย่างไร เสนอแนะได้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03/01/16, [23:25:46] โดย kasamsawad »
tajaba ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #34 เมื่อ: 04/01/16, [10:46:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เอาใจช่วยนะครับ

อย่างแรกเลยที่ผมจะแนะนำได้คือการมีเครื่องมือวัดที่ถูกต้องและแม่นยำ

Hydrometer ไม่ใช่1 ในนั้นครับ ถ้าคิดว่าจะเลี้ยงระยะยาวแล้ว การลงทุนซื้อ Refractrometer ซักอันนึงถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ ใช้ง่าย ทน นาน แม่นยำ เพื่อการคงสภาวะความเค็ม

อย่างที่สองคือการจัดการค่าความเค็มครับ ผมมีตู้ขนาดเท่านี้เลย 1 ตู้ ไม่มีกรองหลัง ผมใช้กรองแขวน เลี้ยงมา 3 ปีละ สิ่งที่ต้องทำเลยคือ ติด sticker ครับ ข้างๆตู้ บอกระดับน้ำ แบบในรูปผม

จะทำให้คุมค่าความเค็มได้ดีขึ้นครับ


อย่างที่ 3 ที่สำคัญที่สุด คือการวางแผนเลี้ยงสัตว์ ในตู้ครับ ผมดีใจที่ใจรัก เด๋วนี้หายาก แต่สำคัญที่เราจะใส่ใจปลาเราเหมือนกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเช่นหมา แมว นก คือเอาเขามาเลี้ยงก็ใส่ใจให้เขาอยู่ดีๆหน่อย
โดยที่นี่ ต้องดู ขนาดตู้ให้ดีๆ ว่าตู้ขนาดนี้ ปลาที่เราจะเลี้ยงโตเต็มที่ใหญ่ขนาดไหน อยู่ได้กี่ตัว เขาชอบอยู่ยังไง อะไรแบบนี้อ่ะครับ

ยกตัวอย่าง ตู้ผม 12 Cube คือ 1 ไม้บรรทัดทุกทาง ปลาการ์ตูนโตเต็มที่ 4-6 นิ้ว หรือประมาน ครึ่งตู้ผม แล้วยังต้องการที่ว่ายน้ำมากกว่านั้นอีก เลยเลี้ยงไม่ได้
ในทางกลับกัน Yellow watchman Goby ตัวยาวเปนใส้กรอก ชอบอยู่กับพื้น ไม่ค่อยออกห่างจากรู้ ขนาดmax 3 นิ้ว อยู่ได้เป็นคู่

ทุกวันนี้อยู่กับผมมา 3 ปี หน้าบูดเช่นเดิมครับ  [on_066]

และสิ่งสุดท้ายที่ต้องเรียนรู้คือ : ขีดจำกัดของตู้ ครับ ไม่ว่าจะเป็นขนาด/อุปกรณ์/ฝีมือการเลี้ยง/เวลาที่มีเลี้ยง ดูก่อนว่าของเราได้ขนาดไหนแล้วไม่ไปเกินมัน ตู้เราก็จะอยู่ได้นาน เมื่ออันไหนเป็นจุดด้อยของเรา เราก็ทำการพัฒนามันซะ มันก็จะเป็นการเลี้ยงแบบยั่งยืน และไม่มีอะไรตายครับ

ปีใหม่นี้ขอให้โชคดีนะครับ!
kasamsawad ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #35 เมื่อ: 04/01/16, [11:42:00] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เอาใจช่วยนะครับ

อย่างแรกเลยที่ผมจะแนะนำได้คือการมีเครื่องมือวัดที่ถูกต้องและแม่นยำ

Hydrometer ไม่ใช่1 ในนั้นครับ ถ้าคิดว่าจะเลี้ยงระยะยาวแล้ว การลงทุนซื้อ Refractrometer ซักอันนึงถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ ใช้ง่าย ทน นาน แม่นยำ เพื่อการคงสภาวะความเค็ม

อย่างที่สองคือการจัดการค่าความเค็มครับ ผมมีตู้ขนาดเท่านี้เลย 1 ตู้ ไม่มีกรองหลัง ผมใช้กรองแขวน เลี้ยงมา 3 ปีละ สิ่งที่ต้องทำเลยคือ ติด sticker ครับ ข้างๆตู้ บอกระดับน้ำ แบบในรูปผม

จะทำให้คุมค่าความเค็มได้ดีขึ้นครับ


อย่างที่ 3 ที่สำคัญที่สุด คือการวางแผนเลี้ยงสัตว์ ในตู้ครับ ผมดีใจที่ใจรัก เด๋วนี้หายาก แต่สำคัญที่เราจะใส่ใจปลาเราเหมือนกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเช่นหมา แมว นก คือเอาเขามาเลี้ยงก็ใส่ใจให้เขาอยู่ดีๆหน่อย
โดยที่นี่ ต้องดู ขนาดตู้ให้ดีๆ ว่าตู้ขนาดนี้ ปลาที่เราจะเลี้ยงโตเต็มที่ใหญ่ขนาดไหน อยู่ได้กี่ตัว เขาชอบอยู่ยังไง อะไรแบบนี้อ่ะครับ

ยกตัวอย่าง ตู้ผม 12 Cube คือ 1 ไม้บรรทัดทุกทาง ปลาการ์ตูนโตเต็มที่ 4-6 นิ้ว หรือประมาน ครึ่งตู้ผม แล้วยังต้องการที่ว่ายน้ำมากกว่านั้นอีก เลยเลี้ยงไม่ได้
ในทางกลับกัน Yellow watchman Goby ตัวยาวเปนใส้กรอก ชอบอยู่กับพื้น ไม่ค่อยออกห่างจากรู้ ขนาดmax 3 นิ้ว อยู่ได้เป็นคู่

ทุกวันนี้อยู่กับผมมา 3 ปี หน้าบูดเช่นเดิมครับ  [on_066]

และสิ่งสุดท้ายที่ต้องเรียนรู้คือ : ขีดจำกัดของตู้ ครับ ไม่ว่าจะเป็นขนาด/อุปกรณ์/ฝีมือการเลี้ยง/เวลาที่มีเลี้ยง ดูก่อนว่าของเราได้ขนาดไหนแล้วไม่ไปเกินมัน ตู้เราก็จะอยู่ได้นาน เมื่ออันไหนเป็นจุดด้อยของเรา เราก็ทำการพัฒนามันซะ มันก็จะเป็นการเลี้ยงแบบยั่งยืน และไม่มีอะไรตายครับ

ปีใหม่นี้ขอให้โชคดีนะครับ!

ขอนุญาติถามครับ
1. เมื่อเช้าลองวัดแอมโมเนีย ขึ้นไป 0.5 เลย ปล่อยมันก่อนใช่ไหมครับ หรือต้องเติมอะไรไหม
2. ผมลองเอาไฮโดรมิเตอร์แบบลอยน้้ำมาลอง ค่าความเค็มดันสูงไปกว่าแบบเดิมน้ำตอนนี้งงครับ ตกลงอันไหนเชื่อถือได้กว่ากันครับ
3. สกิมเมอร์ต้องเปิดไหมครับช่วงรันน้ำ
ȯʘfllʓ ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #36 เมื่อ: 04/01/16, [20:57:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เท่าที่พูดมาเป็นไปได้ 4 สาเหตุ
1. ความเค็มมั่วมากๆ เพราะไม่ใช้กล้องวัด
(ประหยัดในเรื่องไม่เป็นเรื่อง อันนึง 700-800 บาท ใช้ได้ทั้งชีวิต เลิกเลี้ยงขายต่อ 600 ก็ออก ขาดทุนนิดเดียว)
2. น้ำอุณหภูมิสูงเกินไปมากๆ
(ถ้าถึง 32-33 สาหัสแน่ๆ ถ้าปลาอยู่เย็นๆมาตลอด)
3. หินที่ซื้อมาใส่ เป็นหินที่เน่ากำลังจะตาย คายของเสียออกมาเยอะมาก
4. ทรายที่ใช้ ผิดประเภท ไม่ใช่สำหรับตู้ทะเล

เหตุผลหลักๆที่ปลาตายในวันเดียวผมว่ามีแค่นี้แหละครับ
เพราะต่อให้ไม่รันน้ำเลย ผสมเกลือใหม่ทิ้งไว้ 1 ชม. แล้วลงปลาเลย
การ์ตูนแค่สองตัว ไม่มีทางตายทันทีในวันเดียวแบบนี้หรอกครับ
ของเสียมันแค่นิดเดียว น้อยมาก
kasamsawad ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #37 เมื่อ: 04/01/16, [21:28:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เท่าที่พูดมาเป็นไปได้ 4 สาเหตุ
1. ความเค็มมั่วมากๆ เพราะไม่ใช้กล้องวัด
(ประหยัดในเรื่องไม่เป็นเรื่อง อันนึง 700-800 บาท ใช้ได้ทั้งชีวิต เลิกเลี้ยงขายต่อ 600 ก็ออก ขาดทุนนิดเดียว)
2. น้ำอุณหภูมิสูงเกินไปมากๆ
(ถ้าถึง 32-33 สาหัสแน่ๆ ถ้าปลาอยู่เย็นๆมาตลอด)
3. หินที่ซื้อมาใส่ เป็นหินที่เน่ากำลังจะตาย คายของเสียออกมาเยอะมาก
4. ทรายที่ใช้ ผิดประเภท ไม่ใช่สำหรับตู้ทะเล

เหตุผลหลักๆที่ปลาตายในวันเดียวผมว่ามีแค่นี้แหละครับ
เพราะต่อให้ไม่รันน้ำเลย ผสมเกลือใหม่ทิ้งไว้ 1 ชม. แล้วลงปลาเลย
การ์ตูนแค่สองตัว ไม่มีทางตายทันทีในวันเดียวแบบนี้หรอกครับ
ของเสียมันแค่นิดเดียว น้อยมาก
น่าจะเป็นอย่างที่บอกครับเพราะความเค็มมันเพี้ยนมากๆครับ ผมพลาดเองคิดว่าอุปกรณืที่ได้มาครบ ร้านจัดมาให้ก็วางใจว่าค่าความผิดพลาดอาจจะไม่มาก อันนี้ยอมรับครับ
kasamsawad ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #38 เมื่อ: 04/01/16, [23:31:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เจ้าตัวนี้มันอะไรครับ โผล่มายืดๆหดๆด้วย ผมตากแดดหินก้อนนี้ไว้ 5 วัน มันไม่ยักกะตายเหรอครับ

ท่อๆเหลืองๆเหมือนมันเริ่มชูชัน
Nava Coral Reef ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #39 เมื่อ: 05/01/16, [06:11:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รูปบน ดูคร่าวๆ คล้ายพ๊อตนะครับ ส่วนรูปล่างน่าจะเป็นหนอนท่อ หรือไม่ก็อาจจะเป็นพวกสาหร่ายที่สีมันซีด ครับ รอท่านอื่นเสริมครับ
tajaba ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #40 เมื่อ: 06/01/16, [16:40:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอนุญาติถามครับ
1. เมื่อเช้าลองวัดแอมโมเนีย ขึ้นไป 0.5 เลย ปล่อยมันก่อนใช่ไหมครับ หรือต้องเติมอะไรไหม
2. ผมลองเอาไฮโดรมิเตอร์แบบลอยน้้ำมาลอง ค่าความเค็มดันสูงไปกว่าแบบเดิมน้ำตอนนี้งงครับ ตกลงอันไหนเชื่อถือได้กว่ากันครับ
3. สกิมเมอร์ต้องเปิดไหมครับช่วงรันน้ำ


1. แอมโมเนียปล่อยไปก่อนครับ
2. เอา ไฮโดรมีตเต้อร์ทิ้งขยะไปซะครับ ไปซื้อ REFRACTOMETER หรือที่คนไทยเรียกว่า "กล้องวัดความเค็ม" มาใช้ครับ อันนึง 700-1200 แล้วแต่ยี่ห้อแต่ทุกอันใช้ได้หมด
3. สกิมเมอร์จะเปิดไว้ก็ได้ครับ แล้วแต่ ตอนผมยังใช้สกิมเมอร์อยู่ผมก็เปิดตั่งกะเริ่มตู้เลย แต่ตอนแรกๆมันยังปั่นไรไม่ค่อยออกหรอกครับ มันทำหน้าที่เหมือนปั๊ม oxygen เฉยๆ
tajaba ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #41 เมื่อ: 06/01/16, [16:43:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รูปบน ดูคร่าวๆ คล้ายพ๊อตนะครับ ส่วนรูปล่างน่าจะเป็นหนอนท่อ หรือไม่ก็อาจจะเป็นพวกสาหร่ายที่สีมันซีด ครับ รอท่านอื่นเสริมครับ

อันบนนั่นเรียกว่า หนอนงวงช้างครับ ตายยากโคตร หินผมเอาไปตากไว้ 2 อาทิตย์กลางแดดมันยังไม่ตายเลย แค่เกือบ ผมไม่รู้ว่าภาษาอังกฤษคืออะไรเพราะคนที่ถามเป็นคนไทย เป็นก้นตู้ที่เลี้ยงไว้ได้ครับ ตอนกลางคือมันจะยื่นท่อออกมาหาอาหารพวก เศษขี้ปลาหรือ detritus กินครับ ส่วนตัวมันจะอยู่ในซอกหิน

รูปที่ 2 เป็น colonial Hydroid หรือ ไฮดร้านั่นเองครับ

ปล่อยๆไว้ไม่เป็นไรครับ ถ้ามันเยอะเมื่อไหร่ wrasse ซักตัวสบาย
kasamsawad ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #42 เมื่อ: 06/01/16, [19:18:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

1. แอมโมเนียปล่อยไปก่อนครับ
2. เอา ไฮโดรมีตเต้อร์ทิ้งขยะไปซะครับ ไปซื้อ REFRACTOMETER หรือที่คนไทยเรียกว่า "กล้องวัดความเค็ม" มาใช้ครับ อันนึง 700-1200 แล้วแต่ยี่ห้อแต่ทุกอันใช้ได้หมด
3. สกิมเมอร์จะเปิดไว้ก็ได้ครับ แล้วแต่ ตอนผมยังใช้สกิมเมอร์อยู่ผมก็เปิดตั่งกะเริ่มตู้เลย แต่ตอนแรกๆมันยังปั่นไรไม่ค่อยออกหรอกครับ มันทำหน้าที่เหมือนปั๊ม oxygen เฉยๆ
จัดไปตามที่บอกละครับ กล้องอีก 2 วันคงเดินทางมาถึงละ ขอบคุณที่ชี้แนะครับ
kasamsawad ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #43 เมื่อ: 18/01/16, [13:35:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

หลังจาก รันน้ำมา 23 วัน ค่าแอมโมเนีย และไนไตรท ลดลง จนเป็น 0 จึงเริ่มลงปลาและก้นตู้นิดหน่อยครับ


เจ้า 2  อันนี้จำเป็นต้องเติมไหมรับเค้าให้มากับตู้ตั้งแต่ครั้งแรก ยังงงๆเลยยังไม่เติม


ตู้รวมๆ มีปะการัง 3 ก้อน เล็กๆ 1 กลางๆ 2 ปลาการ์ตูน2 ตัว


พัดลมตัวนี้ควบคุมอุณหภูมิตู้ได้ 28-29 องศา


อันนี้สาหร่ายพวงองุ่นเลี้ยงไว้ข้างนอกครับไม่เกี่ยวกับตู้ ซื้อมาจากเมืองทองเค้าไว้กิน ผมเอามาเลี้ยงข้างๆตู้เล่นไม่รู้จะรอดไหม ใช่ตัวนี้ไหมครับที่เค้าใช้เลี้ยงเพื่อลดแอมโมเนีย


ปะการังทุกชนิดบานปกติดีครับ






สอบถามหน่อยครับ
1.ปลาไม่กินอาหารเม็ดเลยอ่ะครับ ต้องทำอย่างไร มีเทคนิคไหมครับ
2.ค่าน้ำหลังจากเลี้ยง 24 ชม.
   แอมโมเนีย 0.2
   ไนเตรท 0.25
   Ph  8.2
   อุณหภูมิ 28-29
   ความเค็ม 30 ppt
3. จุดตั้งตู้ผมไม่โดนแสง ถ้าปิดไฟจะมืดเลย ปะการัง หุบหมดเลย นี่ปกติใช่ไหมครับ (ไฟมี 2 สี ขาว,น้ำเงิน)
   
tajaba ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #44 เมื่อ: 18/01/16, [16:27:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้หยุดลงปลากก่อนครับ รอให้ระบบมันปรับตัวก่อน ammonia 0.2 ปลามีสิทธิ์ป่วยนะครับ

แร่ธาตุเสริมยังไม่ต้องใส่ครับ

ถ้าปิดไฟมืดปะการังหุบปกติครับ

มะรืนลองดูค่าน้ำใหม่อีกทีนะครับว่าammonia/nitrite ขึ้นไหม
หน้า: 1 2   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: