Aqua.c1ub.net
*
  Fri 19/Apr/2024
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: หากระทู้วิธี รันน้ำไม่เจออะคับ  (อ่าน 1431 ครั้ง)
LIVES IN THE SHADOW ออฟไลน์
Club Member
« เมื่อ: 20/03/15, [18:54:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

หากระทู้รันน้ำไม่เจออะคับ ดูในมือใหม่แล้วก็ไม่มี รบกวนอธิบายหน่อยคับ คือสมัยนี้ยังต้องลงเศษเนื้อกุ้งอยุ่ไหม
ผมเพิ่งซื้อเกลือลงหินเป็นทรายเป็นไป แบบว่าซื้อพร้อมกันทุกอย่างแล้วรีบมาตีเกลือ รอชั่วโมงนึงแล้วลงหินพร้อมทรายเลย
ไม่ได้ตีเกลือทิ้งไว้ ใช้redseaแบบกลัวหินเป็นตายตีเกลือไว้5นาทีก็ละลายหมดเริ่มใสละ ลงหินกับทรายดำหลังจากนั้นชั่วโมงนึง กรองอะไรงี้จัดเรียบร้อยพร้อมลงเศษปะการัง
ตอนนี้มีหนอนท่อจิ๋วๆกับสตามั้งเล็กมากกกกกกก ยังไม่ตายแต่ไม่มีไฟ ว่าจะไปซื้้อสวนอีก4วัน ไม่รุ้จะรอดไหม<<อยากรุ้ว่ามันจะรอดไหมคับ
แล้วคือผมต้องไงต่อจากนี้อะคับคับ มีไบโอไดเจท ยังไม่ได้ลง เห็นว่าต้องตีเกลือทิ้งไว้หลายวัน แต่รีบไปหน่อยเด๋วหินตาย รอไม่ได้ 555
คือลงไบโอ ได้เลยหรือรอก่อนคับ แล้วต้องลงกุ้งตายไหม ลงตอนไหน ในกรองหรือ ทั้งกรองทั้งตู้ ขอวิธีที่ควรทำหลังจากนี้อ่ะคับ มือใหม่แต่ก็เคยทำระบบล่มยกตู้มารอบนึง 555 ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอย
Luxuria ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #1 เมื่อ: 20/03/15, [20:35:58] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จัดอะไรเสร็จแล้ว ก็ เอาน้ำเกลือที่ตีไว้ใส่ตู้ได้เลยครับ ถ้า ปกติจะใช่ ไบโอไดเจส กับ ไอโอทิม แต่ถ้าใช่กุ้งลงไป ก็ไม่ต้องใส่ ไบโอทิม แล้วครับ รันไปเรื่อยๆ จนครบเดือน ช่วงนี้ก็มองเศษกุ้งไปก่อน  ้hahaha พอครบเดือน ก็วัด no2 no3 ดู ถ่ายน้ำ ราวๆ 10-25 % แล้วค่อยทะยอยลง ปลา หรือก้นตู้
LIVES IN THE SHADOW ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 20/03/15, [21:03:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จัดอะไรเสร็จแล้ว ก็ เอาน้ำเกลือที่ตีไว้ใส่ตู้ได้เลยครับ ถ้า ปกติจะใช่ ไบโอไดเจส กับ ไอโอทิม แต่ถ้าใช่กุ้งลงไป ก็ไม่ต้องใส่ ไบโอทิม แล้วครับ รันไปเรื่อยๆ จนครบเดือน ช่วงนี้ก็มองเศษกุ้งไปก่อน  ้hahaha พอครบเดือน ก็วัด no2 no3 ดู ถ่ายน้ำ ราวๆ 10-25 % แล้วค่อยทะยอยลง ปลา หรือก้นตู้
สงสัยว่ากุ้งจะใส่ตรงไหนคับ แล้ว กุ้งจะโดนแบคกินละลายหายไปเลยหรือทิ้งไว้แล้วตักออกคับ
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #3 เมื่อ: 21/03/15, [09:52:15] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=168542.0
ให้ดูเรื่องของเวลาด้วยนะครับ ว่าแต่ละขั้นตอนใช้เวลาประมาณกี่วัน
หินเป็น-หินตาย ก็รันเหมือนกันครับ

หนอนท่อ คงไม่ตาย
สตาร์ อาจจะตาย ไม่ใช่เพราะไฟ แต่เพราะอุณหภูมิ
กุ้ง ไม่ต้องก็ได้ครับ ใส่ ไบโอไดเจส กับ ไบโอทิม (แบคฯ + อาหารแบคฯ)
DominoFx ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #4 เมื่อ: 21/03/15, [10:16:35] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รบกวนถามต่อด้วยครับ กำลังตั้งตู้ได้อาทิตย์นึงพอดี เลิกเลี้ยงมาหลายปีแล้ว กลับมาหัดเลี้ยงใหม่ นั่งไล่อานไป 50 กว่าหน้าแล้ว
อ่านสองสามเว็ปด้วย เห็นพูดถึงสมัยนี้ไม่ต้องใส่กุ้งแล้ว แต่ก็เจอบทความนึง(จำไม่ได้ว่าที่ไหน) บอกว่า กุ้ง ยังจำเป็นสำหรับการตั้งตู้ใหม่อยู่ดีเพราะ ถ้าใช้ biodiges กับ biotim มันก็จะได้แค่แบคทีเรียในระบบ แต่ในตู้เราต้องการวงจร ไนโตรเจน ซึ่ง ต้องการแอมโมเนียเริ่มระบบ ถ้าใช้หินตาย เริ่มรันในระบบ จะไม่มีวงจรไนโตรเจน ถ้าไม่ใส่กุ้งลงไปครับ

รบกวนไขข้อสงสัยด้วยครับ ขอบคุณครับ
LIVES IN THE SHADOW ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #5 เมื่อ: 21/03/15, [10:22:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=168542.0
ให้ดูเรื่องของเวลาด้วยนะครับ ว่าแต่ละขั้นตอนใช้เวลาประมาณกี่วัน
หินเป็น-หินตาย ก็รันเหมือนกันครับ

หนอนท่อ คงไม่ตาย
สตาร์ อาจจะตาย ไม่ใช่เพราะไฟ แต่เพราะอุณหภูมิ
กุ้ง ไม่ต้องก็ได้ครับ ใส่ ไบโอไดเจส กับ ไบโอทิม (แบคฯ + อาหารแบคฯ)
เรื่องของอุณภูมินี่ไม่ต้องห่วงเลยคับ อุณภูมิคงที่ 28 ตลอดเวลา ทั้งเช้าเย็นไม่ขยับเลย หินเป็นที่ได้มาแบบมีก้นตู้ติดมาเยอะมาก แทบจะทั่วทุกมุมของก้อนเลย เลือกไม่ถูกจะวางด้านไหนดี ด้านที่คว่ำปะการังไม่โดนแสงมันก็จะตายใช่ไหมคับหรือมันขยับได้จะเดินมาด้านบนเอง
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #6 เมื่อ: 21/03/15, [11:00:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รบกวนถามต่อด้วยครับ กำลังตั้งตู้ได้อาทิตย์นึงพอดี เลิกเลี้ยงมาหลายปีแล้ว กลับมาหัดเลี้ยงใหม่ นั่งไล่อานไป 50 กว่าหน้าแล้ว
อ่านสองสามเว็ปด้วย เห็นพูดถึงสมัยนี้ไม่ต้องใส่กุ้งแล้ว แต่ก็เจอบทความนึง(จำไม่ได้ว่าที่ไหน) บอกว่า กุ้ง ยังจำเป็นสำหรับการตั้งตู้ใหม่อยู่ดีเพราะ ถ้าใช้ biodiges กับ biotim มันก็จะได้แค่แบคทีเรียในระบบ แต่ในตู้เราต้องการวงจร ไนโตรเจน ซึ่ง ต้องการแอมโมเนียเริ่มระบบ ถ้าใช้หินตาย เริ่มรันในระบบ จะไม่มีวงจรไนโตรเจน ถ้าไม่ใส่กุ้งลงไปครับ

รบกวนไขข้อสงสัยด้วยครับ ขอบคุณครับ

ถ้าเอาแบบจริงๆ ไม่ต้องใส่อะไรเลย ในตู้ก็จะมีแบคฯชนิดต่างๆอยู่แล้ว เพียงแต่ ในปริมาณที่ยังน้อย
และเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างช้าๆ  ซึ่งถ้าใจเย็นพอ ค่อยๆทยอยลงปลา ไม่ต้องใส่อะไรเลย ก็เลี้ยงได้ครับ
แต่....
ที่ผมเห็นนักเลี้ยงใหม่ๆมักเป็นกันบ่อยๆคือ  ใจร้อน เผลอปุ๊บก็ลงปลาเพิ่ม เผลออีกอดใจไม่ไหวก็ลงเพิ่มอีก
สุดท้ายก็กลายเป็นปัญหาให้เจ้าของตู้ต้องมานั่งแก้ไขกัน

เรื่องการใส่กุ้ง ก็เป็นทางนึงในการช่วยเพิ่มปริมาณของแบคฯให้มากขึ้น (เร็วกว่าแบบไม่ใส่อะไรเลย) เพราะเมื่อมีอาหาร
แบคฯก็ใช้กินเพื่อขยาย เพิ่มปริมาณ เมื่อเปลี่ยนจากสารโปรตีนกลายเป็นแอมโมเนีย ก็จะเพิ่มปริมาณแบคตัวนึง เมื่อเปลี่ยนจากแอมโมเนียเป็นไนไตร์ทก็จะมีแบคอีกตัว  เมื่อเปลี่ยนจากไนไตร์ทเป็นไนเตรทก็จะมีแบคอีกตัวนึง
ทีนี้ก็ครบวงจร เพราะมีแบคทุกชนิด เพียงพอ(ในระดับนึง)เพื่อช่วยย่อยสลายของเสียในตู้

เมื่อเริ่มลงปลา/สิ่งมีชีวิต ของเสียก็จะมีอย่างต่อเนื่อง ให้แบคนำไปใช้  ระยะเวลานึง ปริมาณแบคทุกชนิดก็เพียงพอกับของเสียที่มีในตู้
เมื่อเริ่มลงปลา/สิ่งมีขีวิตเพิ่มขึ้นอีก ของเสียก็เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยมี และถูกผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ระยะเวลานึงแบคก็จะเพิ่มปริมาณ(ขึ้นตามของเสียที่มี)เพียงพอที่จะช่วยกำจัดของเสียในตู้
เมื่อเริ่มลงปลา/สิ่งมีชีวิตเพิ่มขึ้นอีก ของเสียก็เพิ่มแล้วก็วนเป็นวงจรทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงของปริมาณส่ิ่งมีชีวิตในตู้

ดังนั้น กุ้ง เป็นสิ่งจำเป็นแต่ไม่เสมอไป เพราะของเสียไม่ได้มีเพียงแค่กุ้งครับ  แม้แต่ในหิน ในทราย ก็มีของเสียที่สะสมไว้รอเวลากลับออกมาวนเวียนเป็นวงจรเสมอ ทั้งหินเป็นและหินตาย

ส่วนไบโอไดเจส (หรือแบคยี่ห้ออื่น) ก็เป็นทางลัด(โดยตรง)ในการเพิ่มปริมาณแบคเข้าสู่ระบบตู้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้แบคที่มีในตู้เพิ่มปริมาณ ซึ่งต้องอาศัยเวลาในการขยายพันธ์
ส่วนไบโอทิม (หรืออาหารแบคยี่ห้ออื่น) ก็เป็นอาหารสำหรับแบคทีเลียที่เราใส่เข้าไปก่อนหน้านี้ เพราะ เป็นการช่วยเพิ่มปริมาณอาหารให้แบคมากขึ้น เมื่อมีอาหารมากขึ้นแบคก็จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นด้วยเช่นกัน

เพราะฉะนั้นผมจึงสรุปได้ว่า วงจรไนโตรเจน ก็สามารถสร้างขึ้นได้จาก ไบโอไดเจสหรือแบคยี่ห้ออื่นๆ หรือ จะสร้างโดยใช้กุ้ง

ดังนั้น กุ้ง จึงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเพียงทางเดียวเสมอไป แต่ก็ไม่ใช่เรื่องตกยุค-ล้าหลังเสมอไป เพียงแต่เราจะเลือกใช้วิธีไหนในการตั้งตู้   ซึ่งต้องสัมพันธ์กับเจ้าของตู้โดยตรง ว่าทำอะไรกับตู้ลงไปบ้าง สามารถรอเวลาได้หรือไม่ และผลลัพธ์เป็นเช่นไร ความสะดวกชอบแบบไหนต่างหากครับ

ส่วนปริมาณแบค ก็ยังสัมพันธ์กับพื้นที่อาศัยของแบคด้วยเช่นกัน หากแบคมีปริมาณมาก แต่พื้นที่ให้อาศัยมีน้อย ก็ไม่สัมพันธ์กัน ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้เลี้ยง ควรจะมีปริมาณหิน/ทรายมากพอ เพื่อให้เป็นที่อยู่ของแบคครับ
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #7 เมื่อ: 21/03/15, [11:03:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องของอุณภูมินี่ไม่ต้องห่วงเลยคับ อุณภูมิคงที่ 28 ตลอดเวลา ทั้งเช้าเย็นไม่ขยับเลย หินเป็นที่ได้มาแบบมีก้นตู้ติดมาเยอะมาก แทบจะทั่วทุกมุมของก้อนเลย เลือกไม่ถูกจะวางด้านไหนดี ด้านที่คว่ำปะการังไม่โดนแสงมันก็จะตายใช่ไหมคับหรือมันขยับได้จะเดินมาด้านบนเอง

ถ้าเรื่องอุณหภูมิที่ 28 จริง ก็สามารถเลี้ยงก้นตู้ได้ ก็หาไฟมาเพื่อให้ใช้สังเคราะห์แสง หากด้านที่ไม่โดนแสง ก็อาจจะไม่ตายในทันที บางชนิดสามารถเลื่อนตัวเองได้ก็สามารถรอดต่อไปได้  บางชนิดไม่สามารถเลื่อนตัวเองได้ก็จะค่อยๆขาดแสงและตายไปเอง

ส่วนหินมีอะไรต่างๆติดมา ก็ค่อยไปดูว่า อะไรเป็นอะไร ชนิดไหนดีมีประโยชน์ ชนิดไหนสร้างปัญหา ก็จัดการแก้ไขแต่เนิ่นๆครับ
LIVES IN THE SHADOW ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #8 เมื่อ: 21/03/15, [15:34:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าเรื่องอุณหภูมิที่ 28 จริง ก็สามารถเลี้ยงก้นตู้ได้ ก็หาไฟมาเพื่อให้ใช้สังเคราะห์แสง หากด้านที่ไม่โดนแสง ก็อาจจะไม่ตายในทันที บางชนิดสามารถเลื่อนตัวเองได้ก็สามารถรอดต่อไปได้  บางชนิดไม่สามารถเลื่อนตัวเองได้ก็จะค่อยๆขาดแสงและตายไปเอง

ส่วนหินมีอะไรต่างๆติดมา ก็ค่อยไปดูว่า อะไรเป็นอะไร ชนิดไหนดีมีประโยชน์ ชนิดไหนสร้างปัญหา ก็จัดการแก้ไขแต่เนิ่นๆครับ
ตัวที่อยู่ในรูป คือไรอะคับ มันเปนแท่งๆทรงกระบอกอะคับ อันตรายไหม แล้ว พวกอิปนี้ไม่ดียังไงหรอคับ ถามต่อ ตอนนี้ใส่ไบโอไดเจสกับเนื้อปลาเก๋าลงไปแทนเพราะกุ้งหมด ผิวน้ำเป็นเมือกๆ คือต้องเอาออกไหมคับ แล้วที่เหลือไม่ต้องทำอะไรแล้วใช่ไหมคับ ปล่อยไปเลยเกือบๆเดือนใช่ป่าว มือใหม่ขอโทดทีที่ถามเยอะ กลัวทำไรผิดแล้วระบบจะไม่สมบูรณ์อะคับ hah1
ไม่มีใครตอบผ่านมา1วันไม่ได้เอาออก เนื้อปลาละลายหายไป1ชิ้นตรงจุดที่หินเป็นม่วงๆสวยที่สุด อีกชิ้นบนทราย ยังคงอยู่เหมือนเดิมหรือหดไปนิดนึงมั้ง
ไอชิ้นที่หายไปคือดีหรือไม่ดีอ่า ไวมากคืนเดียว - -*
ตรงกลางๆรูปอ่ะคับไม่ค่อยชัดเพราะต้องซูมมันเล็ก
อ๋อในตู้มีก้นตู้ติดมาอีกตัวนึง (คนละตัวกับในรูปนะ)คือมันแบบว่า เปิดไฟแล้วแอบหด แต่มึดๆปิดไฟ มันบาน ดูคล้ายๆซีแอนทัสช่อเล็กๆ มันคือ aip ป่ะคับ เอาไฟฉายส่องก็หดใหม่  - -*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22/03/15, [15:52:48] โดย LIVES IN THE SHADOW »
DominoFx ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #9 เมื่อ: 23/03/15, [09:00:23] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าเอาแบบจริงๆ ไม่ต้องใส่อะไรเลย ในตู้ก็จะมีแบคฯชนิดต่างๆอยู่แล้ว เพียงแต่ ในปริมาณที่ยังน้อย
และเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างช้าๆ  ซึ่งถ้าใจเย็นพอ ค่อยๆทยอยลงปลา ไม่ต้องใส่อะไรเลย ก็เลี้ยงได้ครับ
แต่....
ที่ผมเห็นนักเลี้ยงใหม่ๆมักเป็นกันบ่อยๆคือ  ใจร้อน เผลอปุ๊บก็ลงปลาเพิ่ม เผลออีกอดใจไม่ไหวก็ลงเพิ่มอีก
สุดท้ายก็กลายเป็นปัญหาให้เจ้าของตู้ต้องมานั่งแก้ไขกัน

เรื่องการใส่กุ้ง ก็เป็นทางนึงในการช่วยเพิ่มปริมาณของแบคฯให้มากขึ้น (เร็วกว่าแบบไม่ใส่อะไรเลย) เพราะเมื่อมีอาหาร
แบคฯก็ใช้กินเพื่อขยาย เพิ่มปริมาณ เมื่อเปลี่ยนจากสารโปรตีนกลายเป็นแอมโมเนีย ก็จะเพิ่มปริมาณแบคตัวนึง เมื่อเปลี่ยนจากแอมโมเนียเป็นไนไตร์ทก็จะมีแบคอีกตัว  เมื่อเปลี่ยนจากไนไตร์ทเป็นไนเตรทก็จะมีแบคอีกตัวนึง
ทีนี้ก็ครบวงจร เพราะมีแบคทุกชนิด เพียงพอ(ในระดับนึง)เพื่อช่วยย่อยสลายของเสียในตู้

เมื่อเริ่มลงปลา/สิ่งมีชีวิต ของเสียก็จะมีอย่างต่อเนื่อง ให้แบคนำไปใช้  ระยะเวลานึง ปริมาณแบคทุกชนิดก็เพียงพอกับของเสียที่มีในตู้
เมื่อเริ่มลงปลา/สิ่งมีขีวิตเพิ่มขึ้นอีก ของเสียก็เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยมี และถูกผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ระยะเวลานึงแบคก็จะเพิ่มปริมาณ(ขึ้นตามของเสียที่มี)เพียงพอที่จะช่วยกำจัดของเสียในตู้
เมื่อเริ่มลงปลา/สิ่งมีชีวิตเพิ่มขึ้นอีก ของเสียก็เพิ่มแล้วก็วนเป็นวงจรทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงของปริมาณส่ิ่งมีชีวิตในตู้

ดังนั้น กุ้ง เป็นสิ่งจำเป็นแต่ไม่เสมอไป เพราะของเสียไม่ได้มีเพียงแค่กุ้งครับ  แม้แต่ในหิน ในทราย ก็มีของเสียที่สะสมไว้รอเวลากลับออกมาวนเวียนเป็นวงจรเสมอ ทั้งหินเป็นและหินตาย

ส่วนไบโอไดเจส (หรือแบคยี่ห้ออื่น) ก็เป็นทางลัด(โดยตรง)ในการเพิ่มปริมาณแบคเข้าสู่ระบบตู้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้แบคที่มีในตู้เพิ่มปริมาณ ซึ่งต้องอาศัยเวลาในการขยายพันธ์
ส่วนไบโอทิม (หรืออาหารแบคยี่ห้ออื่น) ก็เป็นอาหารสำหรับแบคทีเลียที่เราใส่เข้าไปก่อนหน้านี้ เพราะ เป็นการช่วยเพิ่มปริมาณอาหารให้แบคมากขึ้น เมื่อมีอาหารมากขึ้นแบคก็จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นด้วยเช่นกัน

เพราะฉะนั้นผมจึงสรุปได้ว่า วงจรไนโตรเจน ก็สามารถสร้างขึ้นได้จาก ไบโอไดเจสหรือแบคยี่ห้ออื่นๆ หรือ จะสร้างโดยใช้กุ้ง

ดังนั้น กุ้ง จึงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเพียงทางเดียวเสมอไป แต่ก็ไม่ใช่เรื่องตกยุค-ล้าหลังเสมอไป เพียงแต่เราจะเลือกใช้วิธีไหนในการตั้งตู้   ซึ่งต้องสัมพันธ์กับเจ้าของตู้โดยตรง ว่าทำอะไรกับตู้ลงไปบ้าง สามารถรอเวลาได้หรือไม่ และผลลัพธ์เป็นเช่นไร ความสะดวกชอบแบบไหนต่างหากครับ

ส่วนปริมาณแบค ก็ยังสัมพันธ์กับพื้นที่อาศัยของแบคด้วยเช่นกัน หากแบคมีปริมาณมาก แต่พื้นที่ให้อาศัยมีน้อย ก็ไม่สัมพันธ์กัน ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้เลี้ยง ควรจะมีปริมาณหิน/ทรายมากพอ เพื่อให้เป็นที่อยู่ของแบคครับ


ขอบคุณมากครับ
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #10 เมื่อ: 23/03/15, [09:18:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตัวที่อยู่ในรูป คือไรอะคับ มันเปนแท่งๆทรงกระบอกอะคับ อันตรายไหม แล้ว พวกอิปนี้ไม่ดียังไงหรอคับ ถามต่อ ตอนนี้ใส่ไบโอไดเจสกับเนื้อปลาเก๋าลงไปแทนเพราะกุ้งหมด ผิวน้ำเป็นเมือกๆ คือต้องเอาออกไหมคับ แล้วที่เหลือไม่ต้องทำอะไรแล้วใช่ไหมคับ ปล่อยไปเลยเกือบๆเดือนใช่ป่าว มือใหม่ขอโทดทีที่ถามเยอะ กลัวทำไรผิดแล้วระบบจะไม่สมบูรณ์อะคับ hah1
ไม่มีใครตอบผ่านมา1วันไม่ได้เอาออก เนื้อปลาละลายหายไป1ชิ้นตรงจุดที่หินเป็นม่วงๆสวยที่สุด อีกชิ้นบนทราย ยังคงอยู่เหมือนเดิมหรือหดไปนิดนึงมั้ง
ไอชิ้นที่หายไปคือดีหรือไม่ดีอ่า ไวมากคืนเดียว - -*
ตรงกลางๆรูปอ่ะคับไม่ค่อยชัดเพราะต้องซูมมันเล็ก
อ๋อในตู้มีก้นตู้ติดมาอีกตัวนึง (คนละตัวกับในรูปนะ)คือมันแบบว่า เปิดไฟแล้วแอบหด แต่มึดๆปิดไฟ มันบาน ดูคล้ายๆซีแอนทัสช่อเล็กๆ มันคือ aip ป่ะคับ เอาไฟฉายส่องก็หดใหม่  - -*


1. ในรูป ดูไม่ออกครับ  [on_007]
2. Aiptasia Anemone ไม่ดีเพราะ หนวดและก้นมีพิษ ทำความเสียหายกับก้นตู้ที่เราตั้งใจเลี้ยงได้ ขยายพันธ์เร็ว กำจัดได้ยาก
3. ใส่ BioDigest และ เนื้อปลา ไปแล้วก็ปล่อยตามนั้นครับ อีกไม่นานเนื้อปลาจะเปื่อยและหายไป นั่นคือแบคทีเรียกำลังทำงาน ทำหน้าที่ของมันครับ ก็รอไปจนครบเดือนค่อยเริ่มทยอยลงสิ่งมีชีวิตได้ครับ
4. ผิวน้ำเป็นฝ้า อาจจะเพราะ ไขมันจากเนื้อปลา หรือ ของเสียลงกรองได้ไม่ดี ฝ้าผิวน้ำจึงวนเวียนในตู้ ต้องจัดกระแสน้ำใหม่ ถ้าจะได้ดีและถูกต้อง จะไม่มีฝ้าที่ผิวน้ำครับ
5. ทั้งในรูปและที่ไม่ได้ถ่ายรูป หากแตะโดนแล้วหดหายไปหมด มองไม่เห็น ให้เดาว่าเป็น Aiptasia ครับ ปกติปะการังอ่อนที่เลี้ยงกัน เวลาหด จะแค่หุบ แต่ยังเห็นเนื้อ/ตัว  การกำจัด ลองค้นหาคำว่า Aiptasia จะมีวิธีกำจัดเยอะครับ
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: