หน้าหลัก
ค้นหา
บทความ
คำนวณ
ล๊อกอิน
สมัครสมาชิก
Fri 26/Apr/2024
1.ไม่มีที่จะตั้งตู้ใหม่จึงเป็นต้องใช้ที่ตั้งเก่าขนาดยาว 1 เมตรด้านบนติดตู้ข้างบนอีก
จึงมีช่องสูงแค่ 2 ฟุต. ตู้ล่างเลิกคิดไม่มีที่จะวางช่องนี้เดิมคือตู้ปลาแหละแต่เอาออกมา
วางของแทน ด้วยเหตุนี้เลยใช้ตู้เก่าเพราะตัดใหม่ก็ต้องขนาดเดิม
2. 20กว่าปีมาแล้วเคยเลี้ยงปลาทะเล ตอนนั้นตู้ 48นิ้วผลเสียของตู้ทะเลตอนนั้น
ยังเห็นลงเหลืออยู่ในเวลานี้ คือผนังปูนสีร่อนผิวกร่อน. แก้ยังไงก็ไม่หาย
คราวนี้ต้องไม่เกิด
3. ต้องใช้ของเก่าๆที่มีอยู่ ตู้ กรองนอก chiller เก่าๆ.
4. ต้องสวย ต้องเลี้ยงปะการังให้เติบโตได้จริงๆ ต้องประหยัดไฟ. ต้องใช้เวลาดูแลน้อย
เริ่มด้วยตู้เก่าสมัยเลี้ยง Killi ทิ้งตากแดดตากฝนมาตั้งแต่ตอนน้ำท่วม
ทดสอบคุณภาพซักหน่อยก่อน
ถอดกระจกกั้นออก กาวมันยังเหนียวมากๆ ไม่รู้ร้านเค้าใช้ยี่ห้ออะไร
ทำความสะอาดอีกหน่อย
เริ่มแปลงโฉม วางระบบละ หาซื้อสติกเกอร์สีดำแถวบ้านไม่ได้ เลยเอาสีกระป๋องพ่นมันซะเลย
ทำช่องน้ำลง จะได้หมุนเวียนที่พื้น
ช่องที่ใส่สกิมเมอร์ตอนแรกจะใช้ตัว AE MINI เพื่อเป็นหลักในการบำบัดน้ำ ลองวางดู ...พอดีเลยแฮะ แต่พอลองไปวัด
กับชั้นวางตู้ ก็พอดีเลยเหมือนกัน ฝาสกิมติดชั้นบนพอดีเลย...ถ้าจะยกถ้วยออกมาเทต้องเอียงตัวสกิมเมอร์ถึงจะทำได้
โอ้ย..วุ่นวาย หกเรอะเทอะ ผิดคอนเซป ข้อ 4. เลยเปลี่ยนมาใช้ตัว BB QQ แทน กะว่าติดมัน 2 ตัวเลยก็ได้
หลังจากลองวาง BB QQ เข้าไปยัดอยู่ในนั้น 2 ตัว รู้สึกว่าไม่ไหวแฮะมันแน่นไป จะถอด จะยกออกมาล้างเอามือลงไป
ลำบาก ผิดเงื่อนไขข้อ 4. อีกแล้ว ที่ต้องดูแลง่าย แล้วยังเปลืองไฟเป็น 2 เท่าอีก น้ำก็จะร้อนเพิ่มขึ้น เลยกลับมานั่งคิดใหม่
ว่าเอาสกิมเมอร์เป็นตัวช่วยเสริมการบำบัดน้ำดีกว่า หน้าที่หลักให้เป็นของแบคทีเรียไป เลยใช้ BB QQ ตัวเดียวพอ
ที่นี้ก็มาถึงหัวใจหลักของตู้ละ คือระบบบำบัดน้ำด้วยแบคทีเรีย จะใช้อะไรมาเป็นบ้านของเจ้าตัวเล็กๆพวกนี้ดี หินเป็น!
ไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตู้ตรงกลางกะว่าจะเป็นตู้เลี้ยงปะการัง มีพื้นที่อยู่แค่นั้น ขืนวางหินเป็นลงไป ก็คงเลี้ยงปะการังได้นิดเดียว ที่นี้ก็เหลือพื้นที่ช่องซ้าย -กับช่องขวา ช่องซ้ายแบ่งไปใส่สกิมเมอร์ ช่องขวาแบ่งไปทำเรฟูเจียม ซึ่งในนี้จะใส่หินเป็น
ก้อนเล็กๆ ลงไป ก็เหลือพื้นที่ช่องซ้าย ขวานิดหน่อย จะใส่อะไรลงไปไม่ได้นอกจากมีเดีย ! ใช้มีเดียอะไรดีที่ล้างง่ายๆ เศษปะการังก็ไม่ได้เพราะจะเกิด EFFECT อะไรก็ลืมไปแล้วที่เกิดจากปะการังหมดสภาพ
เลยเลือกใช้ Media แบบนี้เพราะสามารถดึงออกมาล้างได้ง่าย ที่สำคัญรูมันพรุนจริงๆ ไม่เหมือนพวกมีเดียทั่วไป ซึ่งมักจะ
พรุนเฉพาะส่วนที่เรามองเห็น คิดว่า 1 แผ่นสามารถแทนหินเป็นได้เยอะอยู่ อันนี้คิดเอาเอง แต่ผลรีวิวจากเมืองนอกโอเค
เลยใส่ไปซะ 3 แผ่น
อันนี้ถ่ายเองจากของจริง ตัวนี้ Made in USA เค้าว่าปลอด effect ต่างๆ
มาถึงเรื่องปั้มละ ก็ใช้ของเก่าที่มีอยู่เลือกตัว EHEIM 2215 มาใช้กินไฟแค่ 15 W. กับกำลังหมุนเวียน 600 L/Hr.
ยิ่งช้ายิ่งดี แต่ถ้าช้ากว่านี้ Chiller ที่มีอยู่จะทำงานไม่ได้ตามปกติ ส่วนในถังกรองไม่ได้ใส่อะไรลงไป เพราะมีผู้รู้ในนี้
แนะนำว่าถ้าใช้ต้องล้างบ่อย ไม่งั้นไนเตรท ฟอสเฟต อะไรพวกนี้จะขึ้นเยอะ ผิดคอนเซปเรา เพราะว่าล้างที่จะยุ่งยาก
ต้องยกไปล้างข้างนอก ถังกรอง+น้ำ นี่มันหนักนะครับ ที่นี้ก็มีปัญาเล็กๆ กับกรองตัวนี้ เพราะวาวล์ มีมาแค่ 2 ตัว
เราเอาไปต่อกับ Chilller แล้ว 1 ตัว เลยขาดวาวล์สำหรับตอน Inflow ไปที่นี้หากต้องการเบาความแรงของน้ำก่อน
เข้าปั้มมันจะทำไม่ได้ เลยโทรไปไวท์เครนถามว่ามีขายมั๋ย "มีครับ คู่ละเจ็ดร้อยกว่าบาท" โอ๊ะโอ... ไม่แยกขายด้วย
ไม่ไหวแพงไป มองซ้ายมองขาว เดินออกไปนอกบ้านเอาอะไรมาทำดีว่ะ จะใช้พวกบอลวาวล์ พีวีซี ของท่อน้ำมาทำ
ก็ไม่ไหวอันมันใหญ่แล้วต้องต่อกันหลายต่อเลย ผ่านไปตัวนี้ เดินไปเดินมาเหลือบไปเห็น ท่อระบบน้ำหยดที่ใช้รด
น้ำต้นไม้ โป๊ะเช๊ะ! อันละ 15 บาทเอง แถมดูดีซะด้วย แต่ใครอย่าคิดเอาวาวล์แบบนี้ไปใช้นอกตู้นะครับ :)
ต่อไปก็มาเริ่มที่ไฟละครับ ต้อง LED DIY อยู่แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเหมือนกับพวกยี่ห้อแพงๆมั๋ย
หา Heat sink ยาวๆไม่ได้เลยต้องเอา 3 อันมาต่อกัน ตอนแรกคิดหนักมากเกี่ยวกับเรื่องขาวางไฟ ไม่รู้จะทำแบบไหนดี
Heat sink ก็หนักพอดูเลย กะว่าคงต้องจ้างเค้าทำขาเหล็ก ...ตอนน้ำท่วมคราวที่แล้ว ไม้พื้นที่รองโฟมไว้ราขึ้นเลย
ทิ้งไปหมด พอตั้งตู้ใหม่หลังน้ำท่วมหาซื้อไม้ยาก เลยไม่ได้ใช้ไม้รอง ใช้แต่โฟมหนานิ้วครึ่งมารอง (เคยมีประสบการ์ณพื้นตุ้
แตกมาแล้วตอนที่ไม่มีไม้รอง เลยกลัวมาก) ครั้งนี้เลยโชคดีไป เสียค่าขาแขวนไฟไปแค่ 20 บาท แถมไม่เกะกะเลยด้วย
อ้นนี้เป็นการผสมสสีของผม
ลองไฟละ มืดไปหน่อยละมั้ง
โชว์ขาไฟซักหน่อย
ใช้แผ่นอะคริริค ปิดทุกส่วน ให้มีไอเกลือระเหยให้น้อยที่สุด
ในส่วนของช่อง Skimmer ปิดทึบด้วยสีดำป้องกันการเกิดตะไคร่
ส่วนนี้เป็นช่องเรฟูเจี้ยม
อันนี้ภาพรวม
