กุ้งเครฟิช

[woot]

[/b]ขอความคิดเห็นผู้รู้หน่อยครับขอบคุณครับ

[Crayfish Habitat]

บลูเพิร์ลก้ามจะทรงคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามภาพ (ทรงยาวๆแต่ผมก็อธิบายไม่ถูก)ก้ามมีขน ลายที่หัวจะค่อนข้างชัด

เดสทรงก้ามจะกลม ไม่มีขนหรือมีแต่ไม่เด่นชัดเท่าบลู เพิร์ล

รูปตัวอย่างบลู เพิร์ล

[/size]

[ป๊ะป๋าดุ๊กดิ๊ก&น้องดริว&น้องดรีม]

    ในปีค.ศ.  1936   ดร. เอนเลน คลาร์ค นักอนุกรมวิธานประจำพิพิธภัณฑ์วิคตอเรียน ได้ขนามนามกุ้ง White yabby เป็นครั้งแรกว่า Cherax  albidus     กุ้ง White yabby เป็นที่รู้จักในออสเตรเลียตะวันตกโดยเริ่มจากเขตกสิกรรม Wimmera ในแถบวิคตอเรียตะวันตกในปี 1932  แต่จุดที่พบแน่ชัดคือบึง Miram ใกล้กับ Nihil      สิ่งที่น่าสนใจคือ ชื่อของกุ้งยับบี้หรือ Cherax albidus มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินคือ คำว่า “albus” หมายถึงสีขาว ซึ่งใช้อธิบายลักษณะการสะท้อนแสงอาทิตย์จากเขื่อน และเจ้ากุ้งยับบี้สะท้อนแสงได้ดี  

    กุ้ง Cherax albidus  เรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า “white yabby”  ซึ่งจะต่างจากกุ้ง Cherax destructor ที่เรียกกันว่า “common yabby”      นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1936  บรรดานักชีววิทยาได้แยกความแตกต่างระหว่างกุ้ง Cherax albidus  กับกุ้ง Cherax destructor โดยมีเกณฑ์การแบ่งแยกความต่างระหว่างกุ้งทั้งสองสายพันธุ์นี้ โดยดูจากลักษณะทางสัณฐานวิทยา    ลักษณะที่น่าสังเกตมากที่สุดคือ ที่ส่วนด้านในของก้ามกุ้ง Cherax  albidus  จะมีขนที่หนาแน่นกว่ากุ้ง Cherax destructor  และจะมี areola ที่กว้างกว่า    อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานทางอิเล็กโทรโฟเรทิก พบว่ามีการจัดประเภทของกุ้ง Cherax albidus เสียใหม่ให้เป็นสปีชีส์ย่อยของ Cherax destructor และตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า Cherax destructor-albidus ครับ

[thender]

จุดสังเกตุง่ายๆคงเป็นก้ามด้านในอ่ะ ถ้ามีขนๆก็บลูเพิล ถ้าเป็นหนามๆก็เดส
หรือจะดูอย่างอื่นเพิ่มตามที่ข่างบนๆว่าก็ได้นะ แต่สำหรับเราสังเกตุแค่ก้ามอ่ะง่ายดี อิอิ

[Prab Prabchana.]

จุดสังเกตุง่ายๆคงเป็นก้ามด้านในอ่ะ ถ้ามีขนๆก็บลูเพิล ถ้าเป็นหนามๆก็เดส
หรือจะดูอย่างอื่นเพิ่มตามที่ข่างบนๆว่าก็ได้นะ แต่สำหรับเราสังเกตุแค่ก้ามอ่ะง่ายดี อิอิ

ถ้าลูกผสมละครับ

[thender]

^
^
^
เหมือนจะเคยอ่านที่พี่ณัฐบอกไว้ว่าสายแท้ๆของเดสไม่ได้นำเข้ามานานแล้ว
ชะนั้นตัวที่ขายๆกันอยู่ในตลาดก็น่าจะเป็นลูกผสมทั้งนั้น
สรุปแบบมักง่ายในสายตาเราเป็น3แบบละกัน
1. ถ้ามีขนๆก็เป็นเพิล
2. ถ้าเป็นหนามๆก็เดส
3. ถ้าซื้อมาจากตลาดตัวละไม่กี่สิบก็คืดซะว่าเป็นพวกลูกผสมละกัน
เพราะแต่ละตัวมันได้ลักษณะเด่นมาไม่เท่ากันแต่ถ้าอยากรู้ให้ได้จริงๆ
อันนี้เราว่าต้องศึกษาแบบละเอียดแล้วแยกแยะเอาเองหรือลองไปถามเซียนๆเอาเองล่ะครับ
เพราะผมก็ไม่ใช่เซียนเลยแยกแยะเอาง่ายๆตามสายตาตัวเองพอและครับ

[`Oh Y‚‚‚‚‚e„„ƒah™™hh]

พี่Prabด้านบนนี่แหละคับ คือ คนที่เพาะและพัฒนาเดสแท้ๆหรือที่เรียกว่าเดสดั้งเดิมอยู่ในตอนนี้ เจ้าเดียวในประเทศไทย(ไม่รวมเด็กๆที่ออกจากบ้านพี่เขาไปนะคับ ถ้าหลักๆก็มีแค่พี่เขานี่แหละ)

ส่วนเดสตามตลาดเกือบทั้งหมดเคยผ่านเลือดเพิลมาแล้วอะใช่คับ แต่ถ้าเอาผสมกันเองไปเรื่อยๆไม่ได้เอาไปข้ามกับเพิลอีกเลย เลือดของบลูเพิลก็จะน้อยลงๆ จนยีนเดสกลับมาเด่นคับ แต่ยังไงๆในตัวก็มีเลือดเพิลอยู่ แต่เขาก็เรียกเดสไปคับ ง่ายดี ไม่ต้องมีคอยบอกปู่เป็นเพิล ทวดเป็นเพิล ยกเว้นลูก50%ขึ้นไปคับ เขาถึงเรียกลูกผสม เพราะ ราคาแพงกว่าเดสเยอะคับ

ถ้าเดสกับบลูเพิลอะ ไม่ต้องดูขน ดูมาร์คจุดขาวๆที่ข้างหางหรอกคับ ดูทรงก้ามก็รู้แล้วคับ ต่างกันเยอะ แต่เดี๋ยวนี้ลูกผสม%สูงๆเช่น  ลูก75 ทรงก้ามเหมือนบลูเพิลเป๊ะ(คงไม่ต้องพูดถึงขนนะคับ) แต่จะพอดูต่างบ้างก็คือลูกผสมสีเปลี่ยนได้ตามอาหารเหมือนเดส และ รูปทรงของลำตัวและหางจะดูใหญ่ๆกว่า      แต่!!!!!!!! ตอนนี้ก็มีบลูเพิลสีธรรมชาติอีกนะคับ ซึ่งสีก็คล้ายลูกผสมพวกตัวที่ไม่ฟ้าด้วย แล้วอีกอย่างบลูเพิลสีธรรมชาติข้อก้ามแดงนะคับ ซึ่งตำราบลูเพิลจะต้องข้อขาว เดสข้อแดง.  ยังคิดว่ามันง่ายยุไหมคับ

ผมแนะนำให้ซื้อกับร้านค้า พ่อค้า ที่เชื่อถือได้ หรือ มีหน้าร้าน เพราะ ถ้าเกิดปัญหา เขาก็ยังมีตัวตนคับ^^

[Prab Prabchana.]

ความต้องการของตลาดคือ ลูกผสม + สีฟ้า ทำให้เดสทรัคเตอร์เดิมๆ หมดไป เพราะมองว่ามันไม่สวย