ห้องโชว์ตู้ทะเล

[Dyckia (พี่ป้อง)]

แน่นอนว่าตู้ Reef tank ที่มีสีสันสวยงาม พลิ้วไหวไปด้วยเหล่า "ก้นตู้" มันสวยเย้ายวนใจจริงๆ
แต่ก็อีกหล่ะครับ มันมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ไม่ให้คนชอบปลาสวยๆ ตัวใหญ่ๆ ได้มีโอกาสเลี้ยงปลาที่ชอบ

ทำไงได้ ได้อย่างก็ต้องยอมเสียอีกอย่างไป แต่ก็พอชดเชยได้บ้าง...ฉากหลังตู้ หรือไม่ก็ปะการังเทียมครับ

ผมเองชอบปลากลุ่ม Angelfish หรือพวกสินสมุทรไซส์ใหญ่มากๆ
อย่าง Queen Angel "Golden morph" ตัวนี้

เธอกำลัง "ตอด" หนอนท่อ (ฉากหลังตู้!)  [on_026]



เชื่องมากๆ ครับ Queen สีทองตัวนี้



นอกจากน้อง Queen แล้ว ในตู้นี้ก็ยังมีเจ้า "Asfur" หรือที่เรียก "Arabian Angelfish" อีกตัวครับ



แล้วก็มี Yellow Map หรือที่เรียก Maculosus Angelfish อีกตัว



Tankmate ที่อยู่กับเหล่าสินสมุทร ก็มีนี่ครับ เจ้า Hifin Snapper





Tomato Clown อีก 1 คู่



แล้วก็ Longnose Hawkfish ครับ

[Saly11]

ปลาสวยมากครับ

[Dyckia (พี่ป้อง)]

ปลาสวยมากครับ

ขอบคุณครับ [เจ๋ง]

ที่จริงตู้ที่ผมเลี้ยงน้อง Queen กับเพื่อนๆ อยู่นี้เป็นตู้สำรองที่กะให้อยู่ชั่วคราวครับ
ขนาดแค่ 42 x 16 x 24 นิ้ว ระบบกรองผสม มีกรองถัง EHEIM Pro 2 ต่อพ่วงไปทำ Reverse undergravel filter
แล้วก็มี Protein Skimmer กับติด Ozone ช่วยฟอกน้ำครับ



ตู้เลี้ยงจริงผมเพิ่งสั่งต่อใหม่จากร้าน "นิศาชล" เพิ่งมาติดตั้งเมื่อเร็วๆ นี้เองครับ




ตู้เลี้ยงใบใหม่ขนาด ยาว 120 กว้าง 24 สูง 30 นิ้ว กระจก 4 หุน ดามคาน
เสริมเสามุมเพิ่มความแข็งแรงครับ ตอนเอาเข้ามาส่งทุลักทุเลได้เรื่อง ปลาคาร์ฟผมมาว่ายดูกันใหญ่  [on_026]



ตู้กรองล่างยาวสะใจเท่าตู้เลี้ยงเลยครับ



ขาตู้ ใช้ไม้เต็ง แบบ 8 ขา (4x4 นิ้ว) ทำผิวย้อมกึ่งเฟอร์ งานจากร้านนิศาชลเช่นกันครับ

[Dyckia (พี่ป้อง)]

 [on_018] อย่างที่บอกครับ ว่าถ้าอยากเลี้ยงปลาใหญ่ ก็ต้องเสียโอกาสเลี้ยงก้นตู้
แต่ถ้ายังชอบบรรยากาศก้นตู้ ก็มีทางเลือกอยู่บ้าง คือตกแต่งด้วยพวกปะการังเทียม
ผมเลยช็อปปะการังเทียมมาแต่งตู้ จากร้าน Dream Magic ครับ
งานเค้าประณีต สวย เหมือนจริงมาก  [on_066]



ได้มา 1 หอบ! ราคาพอๆ กับตัวตู้  ้hahaha





ลองวางเลย์ดูคร่าวๆ



เพิ่งจะล้างทราย ละลายเกลือใส่น้ำเสร็จเมื่อวานเอง ตอนนี้กำลังตั้งรันระบบน้ำอยู่



Protein Skimmer ซื้อมาจากร้านสีสัน ยังไม่ได้ติดตั้งเลย  036

[corydoras]

รอชมต่อครับคุณป้อง [เจ๋ง] [เจ๋ง]

[clickcat488]

เป็นตู้ปลาล้วนที่น่าติดตามอย่างมากครับ [เจ๋ง]

[Dillinger]

อลังการงานเลี้ยง  [เจ๋ง]

[jamprince]

ชอบมากเลย ครับ สวยงามมาก ตู้มันยาวแค่120 เหรอผมมองว่าเกินนะ

[crossova]

สุดยอดคร้าบ

[sodedta]

 [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]
จะคอยติดตามครับ ตู้นี้

[mai2610]

รบกวนขอราคาตู้ ขา กรองได้ไหมครับ

[Dyckia (พี่ป้อง)]

เรื่องราคา สามารถเช็คดูได้จากหน้าเวบของร้าน "นิศาชล" เลยครับ ตามลิงค์ด้านล่างนี่
ตู้กรองมาตรฐานทั่วไป ก็จะตามราคาในลีสต์ แต่ถ้าออกแบบพิเศษก็ต้องไปเช็คราคากันกับร้าน
ส่วนเรื่องขาไม้ คงแล้วแต่ขนาดการออกแบบหล่ะครับ

อย่างชุดของผมนี่ เฉพาะขาไม้เต็งโล่ง 8 เสา ทำผิว กึ่งเฟอร์ 18,000 ครับ

http://www.nisashon.com/price/?action=view&file=price03

[dayz]

เเค่เห็นกรองล่างก็หนาวละคับ

[Dyckia (พี่ป้อง)]

ไหนๆ ก็แนะนำตัวเหล่าสมาชิกตู้ใหม่ที่ผมกำลังเซ็ตแล้ว ก็เลยขอพาน้องๆ ตัวอื่นๆ
ที่ยังไม่ได้โชว์ตัวมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ ทั้งหมดนี้ ยังพักอยู่ในตู้กักโรคสองสามใบที่บ้าน
เพื่อเป็นการป้องกันการนำโรคต่างๆ เข้าสู่ตู้เลี้ยง และก็ยังใช้ช่วงเวลานี้ฝึกให้ปลากินอาหารต่างๆ ไปด้วยในตัวครับ


แนะนำตัวแรกก่อนครับ "ปลาลองน้ำ" แต่ตู้พิเศษแบบนี้ ก็ต้องปลาลองน้ำพิเศษหน่อย เป็นเดมเซลครับ
แต่เป็น "Garibaldi Damsel" ที่โตขึ้นจะเป็นสีส้มทั้งตัว และมีขนาดใหญ่เกินคืบ!



ปลาลองน้ำ อีกสองตัว "Fiji Blue Devil" มาเป็นคู่ผู้เมีย ตัวเมียสวยกว่าตรงที่ครีบหลัง และท้องเหลือง



ส่วนตัวผู้จะมีครีบหลังฟ้า แค่ก็มีจุดประกายสีทองตามตัวเวลาโตขึ้น นี่ยังเด็กทั้งคู่ครับ




เพื่อนตัวเล็กๆ อื่นๆ ที่ในตู้อีกสองตัวครับ สีแสบทั้งนั้น ตัวนี้เจ้า "Royal Gramma"



ส่วนเจ้านี้ตัวโปรดผมอีกตัว "Flame Hawkfish"



พี่แสบ Blueface Angel ของอินโด ขนาดฝ่ามือ เธอนิสัยดุเอามากๆ ครับ คงต้องลงหลังสุด



น้องนุชสุดสวย Majestic Angel ตัวเปี๊ยกเดียว



และที่เพิ่งมาถึงบ้านผมวันนี้สดๆ ร้อนๆ เจ้า Achilles Tang ขนาดฝ่ามือ ลายหยาดน้ำสวยลืมโลกไปเลยตัวนี้

[บัง!]

เหยดดดดดด  [mo_001]

ปะการังร้านนี้ก้อนเดียวผมยังซื้อไม่ไหวเลย พี่โดนมาเป็นเข่ง

[sir-t]

ตู้ก้อใหญ่ปลาก้อสวยมากครับพี่ [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]

[ARTery69]

สุดยอดครับเฮีย  [เจ๋ง]

[npartzz]

อชิเลทสวยครับ

[G-o-l-F]

ตู้ใหญ่สะใจมากๆๆเลยพี่ [เจ๋ง]

[Dyckia (พี่ป้อง)]

 [เจ๋ง] ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่่านที่เข้ามาชมตู้ผมนะครับ

มาอัพเดทให้เพื่อนดูครับ เมื่อคืนเพิ่ง set up ระบบกรองตู้ล่าง กับติด Protein Skimmer

แต่ก็ยังไม่เสร็จดี เพราะปรากฏว่าจะทำให้เม็ดวัสดุกรอง Moving bead มันหมุนวนในห้องกรอง

[mo_001] ด้วยแรงลม ไม่สำเร็จ  
แต่หาวิธีโดยลองเอาปั๊มเจ๊ตบ้านๆ เป่าดู ปรากฎว่ามันหมุน เลยต้องไปถอยปั๊ม "Rio" จากร้าน "สีสัน"
มาเป่าอีกสองตัว ยังไม่ได้ใส่ปั๊ม เพราะต้องหามุมแขวนให้พอดี

กับยังไม่ได้เซ็ตห้องกรองสาหร่ายอีก




เลยไปจัดการกับไอ้ที่ยุ่งยากกว่า คือ Protein Skimmer ของ Reef Octopus ตัวใหญ่นี่ให้เสร็จ
กว่าจะเข้าที่เข้าทาง เล่นเอายันเช้า!

[on_066]

ต่อกับตัวทำ Ozone ไปด้วย เพื่อเพิ่มระดับอ็อกซิเจน และเคลียรสิ่งไม่พึงประสงค์ต่างๆ ในน้ำ




เมื่อกี้เพิ่งหยอดแบคทีเรียสูตรเด็ด ของน้องต่อ "ฺBlueSpace" ไปหมาดๆ
แต่เดี๋ยวว่าจะเติมทรายเป็นจากตู้เรฟูเจียมที่ทำไว้เล่นๆลงไปด้วย



 n032ยอมรับเลยว่าเหนื่อยสุดๆ

แต่ก็หนุกโคตรๆ ครับ  [on_066]

[บัง!]

โหเฮีย ลงตู้ซะอลัง ลงของให้เพียบ ดั๊นใช้รางปลั๊กแบบนั้น
ของเล่นพี่กินไฟไม่ใช่น้อยนะ แต่ละตัว ทำแผงไฟดีๆหน่อยเหอะ เสียวแทน
รางปลั๊กพวกนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้ บางทีสปาร์คไหม้ขึ้นมาซะเฉยๆ สายก็เล็ก บางอันบอกไว้ 10 แอมป์ใช้แค่พันกว่าวัตต์ 5แอมป์กว่าๆก็ร้อนสายละลายแล้ว
หาช่างมาเดินสายแข็ง 1.5mm แล้วทำแผงไฟดีๆเหอะ

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=69879.0

ถ้าไม่รู้จะทำยังไงก็อันนี้นะเฮีย จะเอากี่ปลั๊กกี่สวิทช์กี่ไทเมอร์ก็สั่งได้เลย ราคาแพงว่าทำเองนิดเดียว ไม่ต้องเมื่อย

[Dyckia (พี่ป้อง)]

โหเฮีย ลงตู้ซะอลัง ลงของให้เพียบ ดั๊นใช้รางปลั๊กแบบนั้น
ของเล่นพี่กินไฟไม่ใช่น้อยนะ แต่ละตัว ทำแผงไฟดีๆหน่อยเหอะ เสียวแทน
รางปลั๊กพวกนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้ บางทีสปาร์คไหม้ขึ้นมาซะเฉยๆ สายก็เล็ก บางอันบอกไว้ 10 แอมป์ใช้แค่พันกว่าวัตต์ 5แอมป์กว่าๆก็ร้อนสายละลายแล้ว
หาช่างมาเดินสายแข็ง 1.5mm แล้วทำแผงไฟดีๆเหอะ

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=69879.0

ถ้าไม่รู้จะทำยังไงก็อันนี้นะเฮีย จะเอากี่ปลั๊กกี่สวิทช์กี่ไทเมอร์ก็สั่งได้เลย ราคาแพงว่าทำเองนิดเดียว ไม่ต้องเมื่อย

Thanks ครับน้องบัง  [on_066]
จะปรับให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นครับ ตอนนี้ผมก็แยกปลั๊กแต่ละชุดซึ่งเสียบต่อมาจากปลั๊กเมนหลัก
ของตัวบ้านที่ใช้สายใหญ่ โดยแต่ละชุดก็จะไม่ใช้กับอุปกรณ์เกินการรองรับครับ
อย่างพวกปั๊มหลักตู้กรองของ Reef Octopus ก็ 60 วัตต์ กับพวกปั๊มกรองเล็ก ๆอีกสองอัน ไม่เกิน 40 วัตต์

[Dyckia (พี่ป้อง)]

 [on_026] มาอัพให้เพื่อนดูรายละเอียดการเซ็ตระบบกรองที่ทำเสร็จแล้วครับ

ตู้เลี้ยง และตู้กรองล่าง ที่เพิ่จะทำเสร็จเมื่อตอนบ่ายนี่เองครับ





ตู้นี้ใช้ระบบ Overflow น้ำตู้เลี้ยงหลักลงมาตู้ Sump จากช่องกั้นน้ำล้นมุมครับ



จะเห็นว่าการทำงานของตู้กรองที่ผมออกแบบนี้ จะแบ่งออกเป็นระบบหลักๆ สองส่วน

คือส่วนที่เป็นกรองกายภาพ



และส่วนที่เป็นกรองชีวภาพ



โดยห้องรับน้ำห้องแรกจะมีการใส่วัสดุกรองกายภาพดักตะกอนหยาบต่างๆไว้
โดยมีใยกรองไนล่อนเหนียวแบบละเอียดไว้ดักชั้นบนสุด
ซึ่งจะถูกน้ำออกไปล้าง และเปลี่ยนทิ้งเป้นครั้งคราว


จากนั้นน้ำก็ไหลลงมาสู่ฟองน้ำพรุนหนาๆ สองชั้นเพื่อกระจายน้ำ
และลงมาสู่ตัวดักตะกอนให้ตกจม หรือแตกย่อยลงด้วยใยกรองหยาบ แบบกรองบ่อปลาคาร์ฟ



ซึ่งจะทำเป็นช่องกริด โดยใช้พวกวัสดุ cross flow แบ่งช่อง และชลอน้ำ กั้นระหว่างแผ่นกรองใยหยาบ



จากห้องนี้ น้ำที่ถูกดักตะกอนหยาบออกไปแล้วก็จะไหลมาห้องสูบน้ำไป Skimmer กำจัดสารละลายโปรตีนต่าง
จริงๆ ห้องนี้ ทีแรกออกแบบไว้ใส่ Protein Skimmer แบบตั้งในห้องกรอง
แต่ไปๆ มาๆ Skimmer รุ่นที่จะรองรับปริมาณน้ำทั้งตู้ และแบบที่ตัวปั๊มอยู่ใต้ Skimmer เพื่อลดพื้นที่มันไม่มี
เลยต้องเอา Skimmer ไปติดตั้งนอกตู้ครับ



น้ำจาก Skiimer ที่ถูกฟอกจะส่งกลับมาตู้นี้ ซึ่งผมก็ใช้ห้องที่สองนี้เป็นที่กำจัดฟอง
ที่อาจมีโอโซนหลงหลุดลงมา โดย DIY ถุงกันน้ำกระเด็นด้วยถุงเท้าเก่า มาสวมเข้ากับปลายท่อน้ำลง
และลอยเม็ด Moving bead ผิวน้ำหนาๆ เพื่อดักฟอง และให้ทำหน้าที่เป้นวัสดุเป็นกรองชีวภาพไปด้วยในตัว

[Dyckia (พี่ป้อง)]

จากห้องนี้ น้ำที่ถูกบำบัดเอาสารโปรตีนออกไปบางส่วนแล้ว ก็จะเข้าสู่ห้องกรองชีวภาพหลัก ห้องที่หนึ่ง
ซึ่งผมออกแบบใช้ระบบกรองแบบ"Moving Bead" ซึ่งตอนนี้มีสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบางแห่งนำมาใช้กับตู้ทะเลแล้ว  ้hahaha



เม็ด Moving Bead นี้ มันจะทำงานโดยอาศัยหลักการที่ตัวเม็ดพลาสติกซึ่งมีค่าความถ่วงจำเพาะพิเศษ
โดยมีคุณสมบัติกึ่งจม กึ่งลอยนี้ถูกทำให้มันเคลื่อนหมุนวนไปในน้ำทั่วห้องกรองด้วยแรงปั๊ม หรือแรงลมเป่า
เม็ดพลาสติกนี้ถูกออกแบบมาให้มันมีพื้นที่ผิวให้แบคทีเรียช่วยย่อยเกาะอาศัยได้สูงมาก
คืออาจถึง 900 m2/m3 (บางยี่ห่อมากกว่า 1000!) และเมื่อมันเคลื่อนที่ไปในมวลน้ำ
มันก็จะทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
เพราะสามารถเคลื่อนไปรับอ็อกซิเจนมากกว่าแบบiระบบ Fix bed
นอกจากนี้พวกเมือกชีวภาพ หรือกลุ่ม Biofilm ของแบคทีเรียที่เกาะอยู่ตามผิววัสดุ
ก็จะมีการเจิรญได้รอบทิศทาง และมีการเกิดใหม่ทดแทนตัวเก่าที่ตาย หรือหมดอายุอยู่ตลอดเวลา
ที่เม็ด Moving bead เคลื่อนที่ไปครับ[/color]



ก่อนหน้านี้ผมเองทดลองให้ระบบ Moving Bead นี้กับตู้กรองเลี้ยงปลาหมอ Frontosa Moba ได้ผลมาแล้ว
ว่าเยี่ยมกว่าทุกระบบอื่นๆ ที่ผมเคยใช้มาครับ



ฝูงปลาหมอ Frontosa Moba ที่ผมเลี้ยงในตู้ 96-30-30 ระบบกรอง Moving Bead ครับ แข็งแรง อ้วนถ้วน กินเก่ง
ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยเลยตั้งแต่เลี้ยงมาสองปี ทุกวันนี้ ตัว Alpha จ่าฝูงผม ถือเป็น Moba ที่ใหญ่ที่สุดตัวนึง ขนาดฟุตกว่าแล้วครับตอนนี้



จากห้อง Moving Bead ซึ่งน้ำจะถูกแบทีเรียแบบใช้อ็อกซิเจนย่อยเอาแอมโมเนีย และำไนไตรต์
ไปจะเกลี้ยงจนเหลือแต่ ไนเตรต ก็จะมาถูกบำบัดในห้องกรองชีวภาพห้องที่สอง คือห้อง Refugium สาหร่าย



ผมใช้สาหร่ายหลากหลายชนิด ทั้งพวกองุ่น ฝอยทอง ใบเลื่อย ฯลฯ ปนๆ กัน
ใช้โคมไฟธรรมดา กับหลอด Kowa 12000 K สองหลอดวางใกล้ผิวน้ำ เปิด 24 ชั่วโมงตามตำราฝรั่งแนะนำ
วึ่งสาหร่ายชุดนี้ ผมทดลองเลี้ยงในอ่างเรฟุเจี่ยมขนาดทดลองมาก่อนแล้วว่างาม และกินไนเตรตได้เยี่ยมครับ




ในห้องสาหร่ายนี้ ทีแรกจะปล่อยเป็นตู้พื้นโล่ง เลี้ยงม้าน้ำ ปลากบเล่น แต่คิดอีกที
เอาพื้นที่ทำเป็นจุด buffer pH และความกระด้าง ด้วยการเลือกใช้วัสดุกรวดปะการังมาทิ้งไว้
จากนั้นน้ำก็จะถูกสูบกลับไปขึ้นตู้เลี้ยง ด้วยปั๊ม Blaster ของ Reef Octopus ขนาด 5000 l/h
โดยปล่อยใกล้ผิวน้ำให้เกิดแรงผลักเพื่อสร้างคลื่นในตู้ไปในตัว ทางฝั่งตรงข้ามช่องน้ำล้นครับ





นอกจากนี้ ตู้นี้ผมตั้งใจใช้เลี้ยงแต่ปลาล้วน ก็เลยไม่ติดตั้ง Chiller แต่ใช้พัดลมเป่าลดอุณหภูมิสองจุด
คือตรงตู้ sump ห้องสาหร่ายที่จะเป็นห้องสุดท้ายก่อนน้ำกลับตู้



กับอีกจุดคือเหนือตู้เลี้ยง



ผลการลดความร้อนยังไม่น่าพอใจนัก อย่างเมื่อกี้ตอนเที่ยง อุณหภูมิห้องคือ 33 องศา แต่ในตู้ได้ 29 กว่าๆ
จริงๆ ถ้าเพิ่มพวกวสัดกันความร้อนมาปิดไอร้อนหลังตู้ และบนหลังคาห้อง จะลดลงได้กว่านี้อีกครับ




ตอนนี้ก็ Run น้ำ เติมทรายเป็น เพิ่มแบคทีเรีย...และรอ [on_051]

[บัง!]

พี่ลืมบอกข้อดีของ Moving Bed ไปอีกอย่างนะ คือมันไม่ต้องล้างวัสดุกรองบ่อยๆด้วยครับ

ไหนๆแล้วก็ให้ความรู้ด้วยละกัน เผื่อคนอื่นสนใจ

เรียกว่าไม่ต้องล้างวัสดุกรองตลอดอายุการใช้งานเลยครับ ไม่ต้องไปยุ่งกับมันเลยก็ได้นอกจากดูดตะกอนใต้ช่องกรองทิ้งบ้าง กับล้างใยกรองหรือวัสดุดักตะกอน แถมประสิทธิภาพของแบคทีเรียยังเต็ม 100% ตลอด
เพราะเม็ดมันจะเคลื่อนไหวไปมาและกระทบกันเองตลอดเวลา ทำให้เมือกแบคทีเรียไม่ได้จับตัวหนาเหมือนมีเดียที่อยู่นิ่งๆ
ไอ้เมือกที่หนาตัวขึ้นนี่เองที่ทำให้แบคทีเรียด้านในตาย และทำให้เราต้องล้างกรองอยู่บ่อยๆเพื่อกำจัดเมือกส่วนเกินนี้ออกจากระบบกรอง แบคทีเรียก็จะได้รับกระแสน้ำและออกซิเจนอย่างทั่วถึงเต็มที่ทุกส่วน ทำให้ระบบกรองแบบนี้สามารถรับปริมาณของเสียได้สูง เ้หมาะกับตู้ปลาที่มีปลาหนาแน่น ตัวใหญ่ ขี้เยอะ

แต่ก็มีข้อเสียคือต้องใช้พื้นที่มากพอสมควร และต้องเป็นระบบกรองล่างหรือกรองชนิดที่เปิดโล่งเช่นกรองถัง กรองบน
ไม่งั้นมันไม่มีที่พอให้มีเดียเคลื่อนไปมาน่ะ
แต่ผมก็คิดจะทำระบบนี้แบบเล็กๆมาใช้กับตู้ 24 นิ้วอยู่เหมือนกันนะ แต่ต้องหามีเดียเม็ดเล็กๆ ยังไม่เจอเหมาะๆ

จะมี Moving อีกแบบที่คล้ายๆกันคือ Moving Sand ที่จะใช้ทรายละเอียด แต่ไม่ค่อยนิยมเพราะถ้าไฟดับทรายจะทับอัดตัวทำให้แบคทีเรียตายหมด ถ้าเป็นมีเดียกึ่งลอยและโปร่งแบบนี้ก็จะไม่มีเหตุแบบที่ว่าเกิดขึ้น

ว่าแต่เม็ดของพี่น่าสนใจดีนะ ของอะไรอ่ะครับ มีรูปใกล้ๆก่ะ มองไม่เห็นอ่ะ

[AKEKAKAE]

ขอบคุณครับ นอกจากมีภาพสวย ตู้อลัง ให้อิจฉาแล้ว ยังมีความรู้เรื่องระบบกรองอีก [เจ๋ง] [เจ๋ง]

[มัจฉาเพลินสุรา <ได้เวลารุก>]

สนใจระบบกรอง มาก ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ [on_066]

[นายบรรเจิด]

ถ้าไฟดับหยุดหมุนซัก2ชัวโมง Moving Bed จะเป็นไรไม

[Dyckia (พี่ป้อง)]

น้องบังสุดหล่อ และเพื่อนๆ ที่สนใจอยากเห็นว่าหน้าตาชัดๆ ของเจ้าเม็ด Moving Bead เป็นเช่นไร
เจ้าเม็ดพลาสติกวิเศษนี้ ปัจจุบันส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า "Moving Bed"
จริงแล้วเดิมมาจากคำว่า "Bead Filter" หรือ การกรองด้วยเม็ดพลาสติก
"Bead" หมายถึงเม็ดลูกปัด หรือของที่เป็นเม็ดๆ

แล้วเมื่อมีการวิจัยพัฒนานำมาทำเป็นส่วนหนึ่งของระบบกรองในอุตสาหกรรมเกษตร และประมง ก็เรียก Bead bed media
และต่อมาตอนเป็นระบบ Moving media ก็นิยมเรียกกันว่า "Moving Bed" ในที่สุด

หน้าตามันมีหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่บริษัทผู้ผลิต และก็มีขนาด หรือพื้นที่ผิวมากน้อยต่างๆ กันไป
ตัวทีผมใช้นี้เป็นรุ่นที่เรียกว่า BCN-012 KLL ที่มีค่าพื้นที่ผิวจำเพาะ ( Specifc sutface area )
ประมาณ 859 m2/m3 นำเข้ามาจากเยอรมัน บางยี่ห่อก็เป็นสีขาว เม็ดเหลี่ยมๆ
ล่าสุดเห็นคนไทยนำมาวิเคราะห์ และผลิตเอง ราคาถูกว่าสั่งนอกครึ่งต่อครึ่ง อย่างของเยอรมันกระสอบ 100 ลิตร ขายกัน 5000- บาท แต่ของไทยเห็นว่าแค่ 2000 นิดๆ เองครับ ก่อนหน้านี้ถูกนำมาใช้ในระบบกรองบ่อปลาคาร์ฟ



แล้วจึงมีการนำมาทดลองใช้ในระบบกรองตู้กรองล่าง รวมทั้งตู้กั้นกรอง อย่างเช่นของผมทดลองใช้กับตู้ปลาหมอ
เพื่อนตามไปชมรายละเอียดการเซ๊ตระบบ และเรื่องเกี่ยวกับตัวเม็ด Moving ได้จากลิงค์นี้ครับ

http://www.ninekaow.com/wbs/?action=view&sub=05&id=0009614

ส่วนในภาพนี้ ถ่ายจากบ้านเพื่อนผม คุณโรม แห่งปลาบ้านโรม ที่ทดลองเอาเม็ด Moving Bead
มาอัพเกรดกรองกั้นข้างตู้เลี้ยงจนได้ผลดีมาก โดยแค่เอาวัสดุกรองเก่าออก
แล้วเอาเม็ดนี่ใส่ลงไป 50% ของพื้นที่ เอาหัวลมเป่าลงไป แค่นั้น !




ล่าสุด เพื่อนผมคุณโรมได้ประดิษฐิ์คิดค้นการทำ DIY ระบบ Moving Bead นี้ให้เป็น "กรองขวด"



ซึ่งมีเพื่อนในกลุ่มเลี้ยงและจำหน่ายปลาทะเลทดลองนำไปทำแล้ว อย่างที่ร้าน "Marine World" ของคุณใหม่
ใครอยากทำบ้างก็ลองตามลิงค์วิธีการทำอย่างละเอียดที่คุณโรมแกโพสไว้ในห้องปลาหมอสายแท้
ของเวบนายเก๋าได้เลยครับ[/color]

http://www.ninekaow.com/wbs/?action=view&sub=05&id=0008645

 [on_066]

[Dyckia (พี่ป้อง)]

ถ้าไฟดับหยุดหมุนซัก2ชัวโมง Moving Bed จะเป็นไรไม

ธรรมชาติของเจ้าเม็ดพลาสติกพิเสษนี่มันจะกึ่งจมกึ่งลอยครับ เมื่อใดที่เราหยุดระบบ

คือพอไม่มีลมมาเป่า หรือมีปั๊มเจ๊ตมาพ่นผลักให้มันเคลื่อนที่ มันจะลอยขึ้นมาอยู่ที่ใกล้ผิวน้ำครับ

ซึ่งนี่คือข้อดีอีกอย่าง เพราะที่ระดับใกล้ผิวน้ำ ไม่เกิน 20-30 cm คือระดับที่

อ็อกซิเจนสามารถละลายลงไปในน้ำได้

นั่นหมายความว่า กลุ่ม colony ของ Nitrifying bacteria ที่ต้องใช้อ็อกซิเจน

จะยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้ระดับหนึ่ง แต่จะไม่ active เรื่องการกรองมลพิษเท่านั้นเอง

พอเราเดินระบบ มันก็จะทำงานต่อได้

เปรียบเทียบให้ดูว่ามันจะมีสภาวะอย่างไรนะครับ

อย่างช่องซ้าย คือห้องที่ไม่มีการใช้ลม หรือปั๊มมาเป่าเม็ด Moving จะลอยตัวขึ้นมาพักนิ่งๆ ใกล้ผิวน้ำ

แต่ช่องขวา คือมีการเปิดปั๊มเจ๊ตเป่าให้ Moving Bead ทำงานครับ




แต่หากเป็นวัสดุกลุ่ม Pack bed หรือ Fix bed

ที่จมตัวอยู่ที่ก้นตู้ซึ่งระดับค่าอ็อกซิเจนน้อย หากระบบหยุดไปนานพอจนอ็อกซิเจนในน้ำถูกใช้หมด

แบคทีเรียฝ่ายดีจะอ่อนแอลง หรือล้มตายไปเยอะครับ!!! n032