Aqua.c1ub.net
*
  Sat 02/Aug/2025
หน้า: 1 2 3 4 5 ... 7   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เกีอบ 2 เดือนแล้ว ได้เวลาวัดค่าน้ำอีกรอบแล้วของคนตังน้อยแต่อุดมด้วยความรู้  (อ่าน 72763 ครั้ง)
Red Cherry ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #60 เมื่อ: 11/03/12, [16:22:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พี่กบที่ แล้ว Power home ss นี่มีรูพรุนเท่าไหร่หรอแล้วใช้แทน Azoo bio glass แบบพี่ได้ไหม
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #61 เมื่อ: 11/03/12, [16:43:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พี่กบที่ แล้ว Power home ss นี่มีรูพรุนเท่าไหร่หรอแล้วใช้แทน Azoo bio glass แบบพี่ได้ไหม

Azoo bio glass พรุนกว่าครับ
ถ้ามี ก็ใช้ไปเถอะครับ ไม่อยากให้เสียตัง
มีคำถามมาอีกแล้วว่า  มีเดีย ที่ลดpH ล่ะครับ
คำตอบ มีครับ  แต่ ค่อยๆครับ 
ไม่ได้มาเกรียน ครับ  ต้องการ แชร์ความรู้ครับ
[on_055]
ณัฐ Yabby House ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #62 เมื่อ: 11/03/12, [21:23:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


อยากรู้เรื่องไนเตรด จังเลยค่ะ เผื่อจะเอามาปรับใช้กับกุ้งเครฟิชได้บ้าง  ขอความรู้อาจารย์คนนั้นให้หน่อยสิคะ

พี่กบ  คนที่หล่อ ๆ ขาว ๆ อ่ะ  พี่คุยกับอาจารย์บ่อย ๆ ล้วงความรู้มาแบ่งน้อง ๆ หน่อย   [เจ๋ง]
one ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #63 เมื่อ: 11/03/12, [21:53:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พี่กบครับ  จากตรงนี้

 **อีกกรณีนึงในการลดไนเตรทคือการเปลี่ยนน้ำ แต่ มีคนสอนพี่กบมาว่า ถ้าเปลี่ยนน้ำ
pH ของน้ำที่ดูดออก และ เติมเข้าไปใหม่ควรจะเท่ากัน  
แต่ถ้าไม่เท่ากันก็.......นั่นสินะใครรู้บอกหน่อย อยากรู้จริงๆนะ***

เราควรจะปรุงน้ำ(ph.gh)ให้เท่าในตู้ก่อนเปลี่ยนใช้หรือเปล่าครับ แล้วพี่กบจะเปลี่ยนน้ำบ่อยแค่ไหนครับ(ถามถึงต้อนที่เลี้ยงเรดบีด้วยครับ)

ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12/03/12, [12:15:09] โดย one »
tunoishi ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #64 เมื่อ: 11/03/12, [23:00:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แวะมาเก็บความรู้ครับ ยอดมากครับพี่กบ  [เจ๋ง]
Dr San ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #65 เมื่อ: 12/03/12, [10:47:13] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

กระทู้สาระ น่าติดตามจิงๆคับ อยากเห็นตอนเอากุ้งลงว่าจะสุดยอดแค่ไหน  [เจ๋ง]
กบ ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #66 เมื่อ: 12/03/12, [11:19:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

นับถือจริงๆครับ..... [on_066]
PEATSOIL ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #67 เมื่อ: 12/03/12, [11:21:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เยี่ยมครับ
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #68 เมื่อ: 12/03/12, [12:36:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มาแล้วครับ  จะโพส  เมื่อคืน  ไม่ไหวครับ
ค่อยเรียนรู้กัน

1)แอมโมเนีย ไนไตรท์ ไนเตรด คืออะไร
แอมโมเนีย (NH3) แอมโมเนียม(NH4+) ไนไตรท์(NO2-) และไนเตรท(NO3-)
เป็นโมเลกุลที่มีไนโตรเจน (N) เป็นส่วนประกอบ โมเลกุลเหล่านี้มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี
แอมโมเนียเป็นโมเลกุลที่ไม่มีประจุ แอมโมเนียมจะมีประจุบวก ส่วนไนไตรท์และไนเตรท จะมีประจุลบ

2)แอมโมเนีย ไนไตรท์ ไนเตรด เข้ามาอยู่ในตู้ได้อย่างไร

สาเหตุหลักที่โมเลกุลเหล่านี้เข้ามาอยู่ในตู้มีดังนี้

     * มากับน้ำที่ใส่ลงไป
     * เกิดจากการย่อยสลายของสารอินทรีย์ในตู้
        (อาหารปลาที่เหลือ หรือสารอินทรีย์ที่มีอยู่เช่นซากตะไคร่
        ซากพืช หรือของเสียจากสัตว์น้ำต่างๆ)
     * การใส่ปุ๋ยหรือวัสดุปลูกที่มีไนโตรเจนสูง

3)แอมโมเนีย (NH3) แอมโมเนียม(NH4+) ไนไตรท์(NO2-)
และไนเตรท(NO3-) เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำหรือไม่

โมเลกุลเหล่านี้มีอันตรายต่อสัตว์น้ำไม่เท่ากัน โดยแบ่งคร่าวๆได้ดังนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12/03/12, [17:23:02] โดย พี่กบ »
กุ้งน้อย ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #69 เมื่อ: 12/03/12, [12:38:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เยี่ยมที่สุดพี่กบ ความรู้แน่ปึกๆๆ เก็บความรู้เรื่องระบบกรองไปใช่ ขอบคุณครับๆ  [เจ๋ง]
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #70 เมื่อ: 12/03/12, [12:50:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แอมโมเนีย (NH3)อันตรายมากที่สุด
แอมโมเนียม(NH4+)อันตรายน้อย
ไนไตรท์(NO2-)อันตรายมาก
ไนเตรท(NO3-)อันตรายน้อยถึงน้อยที่สุด
ตัวอย่างเช่น LD50 (ความเข้มข้นของสารที่สามารถ
ฆ่าปลาในปริมาณ 50% ของกลุ่มทดลอง)
ของสารเมื่อทดลองกับปลา Catla catla
ซึ่งอยู่ในตระกูลปลายี่สกเป็นดังนี้

โมเลกุล LC50 (ความเข้มข้นของสารที่สามารถฆ่าปลา
ในปริมาณ 50% ของกลุ่มทดลอง)
แอมโมเนีย (NH3) 0.045 ppm
แอมโมเนียม(NH4+ ) (ไม่ได้ทำการวัด)
ไนไตรท์(NO2-) 120.84 ppm
ไนเตรท(NO3-) 1565 ppm
จะเห็นได้ว่าแอมโมเนียมีความเป็นพิษสูงมาก
ปริมาณความเข้มข้นเพียงแค่ 0.045 ppm
ก็สามารถฆ่าปลาในปริมาณครึ่งหนึ่งของกลุ่มทดลองได้


4) โมเลกุลเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันอย่างไร


แอมโมเนียและแอมโมเนียม
แอมโมเนีย และแอมโมเนียม เป็นโมเลกุลเดียวกัน
แต่สามารถเปลี่ยนรูปไปมาได้ ขึ้นอยู่กับค่าความเป็นกรดเป็นด่าง pH ของน้ำ
ในน้ำมีค่า pH ต่ำ (เป็นกรด) โมเลกุลเกือบทั้งหมดจะอยู่ในรูปของแอมโมเนียม (NH4+)
(ตัวอย่างเช่นที่ pH = 7, 99.4% ของโมเลกุลจะอยู่ในรูปของแอมโมเนียม)  
เมื่อ pH สูงขึ้นโมเลกุลแอมโมเนียมจะเริ่มเปลี่ยนรูปไปเป็นแอมโมเนีย (NH3) มากขึ้น
จนที่ pH 10-11 โมเลกุลเกือบทั้งหมดจะอยู่ในรูปของแอมโมเนีย
ซึ่งเป็นพิษต่อสัตว์น้ำอย่างมาก

แอมโมเนียม ไนไตรท์ และ ไนเตรท
แบคทีเรียบางชนิด(ตระกูล Nitrosomas)
สามารถช่วยเปลี่ยนแอมโมเนียมไปเป็นไนไตรท์ได้
ส่วนแบคทีเรียตระกูล Nitrobacter จะสามารถเปลี่ยนไนไทรท์ไปเป็นไนเตรท  
ส่วนแบคทีเรียในตระกูล Psudomonas และ Clostridium
สามารถเปลี่ยนไนเตรทกลับไปเป็นก๊าซไนโตรเจน
ด้วยเหตุนี้เองแบคทีเรียจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อสมดุลย์ของตู้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13/03/12, [12:21:01] โดย พี่กบ »
fendering ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #71 เมื่อ: 12/03/12, [15:29:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ   [เจ๋ง]
parasall ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #72 เมื่อ: 12/03/12, [16:05:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เมพขิงๆครับ  [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [กู้ดครับ!] [กู้ดครับ!] [กู้ดครับ!]
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #73 เมื่อ: 12/03/12, [16:42:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โอย..จะเย็นแล้วเดี๋ยวจะรีบเรียบเรียงก่อนกลับบ้าน [on_018]


5) จะควบคุมสารไนโตรเจนเหล่านี้ได้อย่างไร [on_035]
แอมโมเนีย แอมโมเนียม และไนไตรท์
เมื่อสารอินทรีย์ในตู้ย่อยสลาย ไนโตรเจนจะถูกปลดปล่อยออกมาอยู่ในรูปของแอมโมเนียและแอมโมเนียม (ปริมาณแต่ละตัวขึ้นอยู่กับ pH ของน้ำ)  เนื่องจากแอมโมเนียมีความเป็นพิษสูงมาก เราจึงต้องรักษาระดับของแอมโมเนียในตู้ให้อยู่ในปริมาณต่ำที่สุดโดยสามารถทำได้ดังนี้

      * เปลี่ยนน้ำบ่อยๆเพื่อลดการสะสมของแอมโมเนียลง
      * รักษาให้น้ำมีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ เพื่อให้แอมโมเนีย(อันตรายมาก)
เปลี่ยนไปอยู่ในรูปของแอมโมเนียม(อันตรายน้อย)ให้มากที่สุด (ถึงแม้ว่าที่ pH 7, 99.4% ของสารจะอยู่ในรูปของแอมโมเนียม แต่หากมีปริมาณความเข้มข้นที่สูง  0.6% ของโมเลกุลที่อยู่ในรูปของแอมโมเนีย
อาจเพียงพอที่จะทำอันตรายต่อสัตว์น้ำได้)
      * การใช้สารดูดซับแอมโมเนีย/แอมโมเนียมเช่นดินที่มีค่า CEC สูง ซีโอไลท์ หรือ เรซิ่น
      * ให้แบคทีเรียช่วยเปลี่ยนแอมโมเนีย(อันตรายมากที่สุด)ไปเป็นไนเตรท(อันตรายน้อยที่สุด)
 แบคทีเรียสามารถเปลี่ยนแอมโมเนียมไปเป็นไนไตรท์ และไนไตรท์ไปเป็นไนเตรทได้อย่างรวดเร็ว  

วิธีการเหล่านี้ก็จะมีข้อดีและข้อเสียเหมือนกัน ลองเปรียบเทียบกันดูนะครับ

วิธีการข้อดีข้อเสีย
เปลี่ยนน้ำบ่อยๆได้ผลเร็วเหนื่อย  [ฮึ๊ยยย]เปลืองน้ำ
รักษาน้ำให้เป็นกรดอ่อนๆทำได้ง่ายยังอาจเป็นอันตรายหากมีความเข้มข้นสูง
การใช้สารดูดซับใช้ง่าย ได้ผลเร็วสารดูดซับอาจจะดูดได้ไม่หมด หรือจะมีจุดอิ่มตัว
ทำให้ต้องเปลี่ยนหรือใส่เพิ่มเรื่อยๆ
แบคทีเรียเป็นการแก้ที่ดีที่สุดในระยะยาว ได้ผลช้า ต้องใช้เวลาเพื่อให้แบคทีเรียเจริญเติบโต
การใช้เรซิ่นใช้ง่าย ได้ผลเร็ว ค่าใช้จ่ายสูง มีจุดอิ่มตัวทำให้ต้องเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ
เรซิ่นเหล่านี้ใช้หลัก ion exchange ซึ่งเมื่อดูดไนเตรท
ไปจะปล่อยโมเลกุลอื่น(เช่นคลอไรด์ หรือซัลเฟต) ออกมาแทนที่
ซึ่งอาจทำให้ค่าน้ำเปลี่ยนได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12/03/12, [17:30:27] โดย พี่กบ »
corydoras ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #74 เมื่อ: 12/03/12, [17:14:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เเน็นเกินไปเเล้วอากบ
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #75 เมื่อ: 12/03/12, [17:15:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถึงเวลา ไนเตรทออกโรงแล้วครับ [on_018]


ไนเตรท
เมื่อแอมโมเนียถูกแบคทีเรียเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของไนเตรทแล้ว
สามารถกำจัดด้วยวิธีการดังนี้  die1

    * การเปลี่ยนน้ำ  sick1 (เหนื่อยอีกละ)
     * การปลูกต้นไม้น้ำเพื่อดูดซับไนเตรทในน้ำ
        (แนะนำอเมซอน บัว คลิปโตคลอรีน)
     * การใช้แบคทีเรียเปลี่ยนไนเตรทไปเป็นก๊าซไนโตรเจน
        (แบคทีเรียตระกูล Pseudomonas, Clostridium)
     * การใช้เรซิ่นสำหรับดูดไนเตรทโดยเฉพาะ  
        (Nitrate specific ion exchange resin)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12/03/12, [17:21:05] โดย พี่กบ »
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #76 เมื่อ: 12/03/12, [17:43:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

    * การปลูกต้นไม้น้ำเพื่อดูดซับไนเตรทในน้ำ
        (แนะนำอเมซอน บัว คลิปโตคลอรีน)

แนะนำตระกูลอเมซอนมากกว่าตัวอื่น เพราะระบบรากแข็งแรงและกว้าง (มาก) โตเร็วกว่าบัวและคริป ใบไม่เยอะมากจนตัดลำบากชีวิต
ถ้าโคมตู้สูงหน่อย สามารถปล่อยให้โตจนงอกใบขึ้นเหนือผิวน้ำ จะรับแสงได้ดีกว่าและดูดไนเตรทได้มากกว่า
(มีแสงมาให้สังเคราะห์แสงมาก -> เอามาสร้างอาหารได้มาก -> ใช้ปุ๋ยมาก -> ดูดสารอาหารเข้าไปมาก)
ปลูกในตู้ปลา เปิดไฟทั้งวันทั้งคืน ไม่มีตะไคร่เหลือให้เห็นเลยนะจ๊ะ  [เฮะๆ]

ปล.พลูด่างก็ดีนะ เอารากมันจุ่มลงไป เอาต้นไว้บนตู้
ปล.2 พี่กบทำตารางเป็นด้วย  [โอ๋ว]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12/03/12, [17:45:18] โดย บัง! »
savagepong ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #77 เมื่อ: 12/03/12, [20:02:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แนะนำตระกูลอเมซอนมากกว่าตัวอื่น เพราะระบบรากแข็งแรงและกว้าง (มาก) โตเร็วกว่าบัวและคริป ใบไม่เยอะมากจนตัดลำบากชีวิต
ถ้าโคมตู้สูงหน่อย สามารถปล่อยให้โตจนงอกใบขึ้นเหนือผิวน้ำ จะรับแสงได้ดีกว่าและดูดไนเตรทได้มากกว่า
(มีแสงมาให้สังเคราะห์แสงมาก -> เอามาสร้างอาหารได้มาก -> ใช้ปุ๋ยมาก -> ดูดสารอาหารเข้าไปมาก)
ปลูกในตู้ปลา เปิดไฟทั้งวันทั้งคืน ไม่มีตะไคร่เหลือให้เห็นเลยนะจ๊ะ  [เฮะๆ]

ปล.พลูด่างก็ดีนะ เอารากมันจุ่มลงไป เอาต้นไว้บนตู้
ปล.2 พี่กบทำตารางเป็นด้วย  [โอ๋ว]

พี่บังแนะนำหน่อยสิครับว่าใช้ตัวไหนในตู้เรดบีดีอ่ะ ต้นเล็กๆ เลี้ยงด้วยไฟ LED ของจีน ก็ยังอยู่ได้อ่ะครับ
juniji ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #78 เมื่อ: 12/03/12, [20:07:30] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พี่บังแนะนำหน่อยสิครับว่าใช้ตัวไหนในตู้เรดบีดีอ่ะ ต้นเล็กๆ เลี้ยงด้วยไฟ LED ของจีน ก็ยังอยู่ได้อ่ะครับ


ผมใช้บัวไทเกอร์ก็โอเค นะคุณป้อง
minova ออฟไลน์
Cute Member
« ตอบ #79 เมื่อ: 13/03/12, [08:07:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แนะนำตระกูลอเมซอนมากกว่าตัวอื่น เพราะระบบรากแข็งแรงและกว้าง (มาก) โตเร็วกว่าบัวและคริป ใบไม่เยอะมากจนตัดลำบากชีวิต
ถ้าโคมตู้สูงหน่อย สามารถปล่อยให้โตจนงอกใบขึ้นเหนือผิวน้ำ จะรับแสงได้ดีกว่าและดูดไนเตรทได้มากกว่า
(มีแสงมาให้สังเคราะห์แสงมาก -> เอามาสร้างอาหารได้มาก -> ใช้ปุ๋ยมาก -> ดูดสารอาหารเข้าไปมาก)
ปลูกในตู้ปลา เปิดไฟทั้งวันทั้งคืน ไม่มีตะไคร่เหลือให้เห็นเลยนะจ๊ะ  [เฮะๆ]

ปล.พลูด่างก็ดีนะ เอารากมันจุ่มลงไป เอาต้นไว้บนตู้
ปล.2 พี่กบทำตารางเป็นด้วย  [โอ๋ว]
ตารางกะสีสันเนี่ย..ผู้ช่วยอยู่นี่จ๊ะ
บัวกับ คลิป ชั้นเติมเองแหละเพราะปลูกหมดรวมทั้งไม้ข้อด้วย แต่ที่รอดสุดๆ ก็ 3 ตัวนี้
เผื่อบางคนไม่ชอบอะเมซอน อะเมซอนดีที่สุด ต่อให้ต้นใหญ่ขนาดไหน มาเลี้ยงในตู้เรดบี ที่ไม่มีคาร์บอน ช่อใหม่มันจะเล็กลงเองและโตช้าลง ถ้าอยากให้เล็กๆแต่แรก ก็เอาต้นเล็กๆใส่ไป มันจะแกรนอยู่อย่างนั้นแหละ
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #80 เมื่อ: 13/03/12, [11:35:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พี่บังแนะนำหน่อยสิครับว่าใช้ตัวไหนในตู้เรดบีดีอ่ะ ต้นเล็กๆ เลี้ยงด้วยไฟ LED ของจีน ก็ยังอยู่ได้อ่ะครับ

ยากหน่อย แสงมันไม่ค่อยเหมาะกับต้นไม้ มันก็โตนะ แต่ซีดแล้วก็แกร็นมาก
มันจะกลายเป็นว่าทำงานไม่ได้ตามจุดประสงค์คือดูดไนเตรท

อย่างน้อยเป็นไฟฟลูโคมหนีบก็ยังดี หลอดเกลียว E27 ของร้านเกี๊ยวก็ดีน่ะ ส่องแล้วกุ้งข๊าวขาว ไม่เกะกะด้วย
หลอดฟลูธรรมดาก็ได้ ทั้งเกลียว E27 T8 T5 ตะเกียบ ได้ทั้งนั้น ขอให้เป็น 6500K

หรือถ้าอยากใช้ led ก็หาหลอด led สีแดงกับน้ำเงินมาส่องเพิ่มให้มันหน่อย
ลองดูอีเบย์หรือตามเว็บขายไฟปลูกสมุนไพร มี led แดง+น้ำเงินขั้วเกลียว E27 ขาย รวมค่าส่งไม่เกิน 1000
ฟรือไปบ้านหม้อ คลองถม อมร มันจะมีไฟ led ขั้ว E27 ขายเหมือนกัน มีทั้งแดงและน้ำงิน แต่จะเป็นสีละหลอด หลอดละ 60-120
แบบเส้นก็มี เสียบหม้อแปลง 12V มีทุกสี เส้นเมตรนึงร้อยกว่าบาท
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #81 เมื่อ: 13/03/12, [12:14:30] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ยากหน่อย แสงมันไม่ค่อยเหมาะกับต้นไม้ มันก็โตนะ แต่ซีดแล้วก็แกร็นมาก
มันจะกลายเป็นว่าทำงานไม่ได้ตามจุดประสงค์คือดูดไนเตรท

อย่างน้อยเป็นไฟฟลูโคมหนีบก็ยังดี หลอดเกลียว E27 ของร้านเกี๊ยวก็ดีน่ะ ส่องแล้วกุ้งข๊าวขาว ไม่เกะกะด้วย
หลอดฟลูธรรมดาก็ได้ ทั้งเกลียว E27 T8 T5 ตะเกียบ ได้ทั้งนั้น ขอให้เป็น 6500K

หรือถ้าอยากใช้ led ก็หาหลอด led สีแดงกับน้ำเงินมาส่องเพิ่มให้มันหน่อย
ลองดูอีเบย์หรือตามเว็บขายไฟปลูกสมุนไพร มี led แดง+น้ำเงินขั้วเกลียว E27 ขาย รวมค่าส่งไม่เกิน 1000
ฟรือไปบ้านหม้อ คลองถม อมร มันจะมีไฟ led ขั้ว E27 ขายเหมือนกัน มีทั้งแดงและน้ำงิน แต่จะเป็นสีละหลอด หลอดละ 60-120
แบบเส้นก็มี เสียบหม้อแปลง 12V มีทุกสี เส้นเมตรนึงร้อยกว่าบาท

ผู้ชี่ยวชาญเรื่องไฟมาตอบแล้ว
ถ้าถามพี่กบเนี่ย   โง่  เ  ี้ยๆเลย
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #82 เมื่อ: 13/03/12, [12:39:48] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มีน้องถามเรื่อง มีเดีย ลด  pH ได้ใช้รึเปล่า
ไม่ได้ใช้ครับ  ด้วยเหตุผล  ที่ว่า ลดด้วยดิน
จะได้ผลดีกว่า ถูกตัง กว่า  ก็พี่ตังน้อย  
ส่วนลดด้วย มีเดีย  
รู้ไหมว่าคืออะไร
รู้ครับ แต่ไม่ขอตอบในที่นี้

ส่วนใครจะลดด้วย มีเดีย    ไม่ผิดครับ
สไตล์ใคร สไตล์มันครับ  
[on_055]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13/03/12, [15:28:59] โดย พี่กบ »
juniji ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #83 เมื่อ: 14/03/12, [09:48:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เมื่อไหร่จะลงกุ้งครับ  รอดูอยู่ครับ
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #84 เมื่อ: 14/03/12, [12:55:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ผลการทดลองด้วยครับ 
มีน้องๆมาถามเรื่องการการลด pH  KH   
เคย  อ่านในบอร์ดเรดบีว่า   KH    เป็น  0  จะลด pH ได้ดี
ผิดนะครับ ถ้าKH   เป็น  0 ไม่ได้เป็นผลดี
กลับจะ เป๋นผลเสียอย่างมาก  คือ pHจะแกว่งตลอดเวลาครับ
คุณเก่งเคยเขียนไว้นานแล้ว  ไปขออนุญาต มาลงให้น้องๆอ่าน อีกครั้งดีกว่า
เมื่อไหร่จะลงกุ้งครับ  รอดูอยู่ครับ

สัปดาห์นี้ล่ะครับ [on_055]
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #85 เมื่อ: 14/03/12, [15:45:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอคุณเก่งมาแล้วครับ
   
   

   
1 GH เท่ากับ ความเข้มข้นทั้งหมดของ Ca2+ และ Mg2+โดยจะแสดงในหน่วยของ  18มิลลิกรัมต่อลิตรของแคลเซียมคาร์บอเนต (mg/l as CaCO3)

วัดได้โดยน้ำยา test kits ต่างๆ

การทำน้ำที่ GH KH ตามที่กำหนดต้องเตรียมจากน้ำ กรอง RO สารเคมีตามบ้านก็หาได้ง่ายไม่ยุ่งยากอะไร เทคนิคนี้จะเป็นสำหรับผู้ทำน้ำเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีกชอบ GH KH ที่ต่างกันไป เช่น redB shrimp

สูตร เพิ่มทั้ง GH และ KH ซื้อหินปูน   carbonate (CaCO3) เกรดอาหาร. 1/2 ช้อนชา ต่อน้ำRO 100ลิตร จะเพิ่ม KH GH  1-2 dH.

สูตร เพิ่ม KH แต่ไม่เพิ่ม GH เติม sodium bicarbonate (NaHCO3) เบคกิ้งโซดานั่นหล่ะ baking soda. 1/2 ช้อนชาต่อน้ำRO 100 ลิตร  จะเพิ่ม KH ประมาณ 1 dH. ค่อยๆเติมครับ pH อาจเด้งไปถึง  8.2

เครดิต http://fins.actwin.com/mirror/begin-chem.html
[on_055]
Red Cherry ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #86 เมื่อ: 14/03/12, [15:47:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พี่กบดินชุเใหม่มาหรอยังถ้ายังมี Azoo PH 6.8 ไหมใช้แทนได้ป่าว
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #87 เมื่อ: 14/03/12, [15:53:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=108113.0

http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=101290.75

หวังว่าน้องๆจะได้ความรู้ครับ
[on_055]
พี่กบ ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #88 เมื่อ: 14/03/12, [15:57:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พี่กบดินชุเใหม่มาหรอยังถ้ายังมี Azoo PH 6.8 ไหมใช้แทนได้ป่าว
Azoo PH 6.8ไม่มีแล้วครับ  
แต่มี  มีาดียAzoo ที่สามารถดูดไนเตรดได้ครับ
[on_055]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15/03/12, [09:45:40] โดย พี่กบ »
มัจฉาเพลินสุรา <ได้เวลารุก> ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #89 เมื่อ: 14/03/12, [16:39:38] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขยันนะเนี่ย ช่วงนี้
หน้า: 1 2 3 4 5 ... 7   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: