หน้าหลัก
ค้นหา
บทความ
คำนวณ
ล๊อกอิน
สมัครสมาชิก
Wed 24/Apr/2024
เริ่มเลย [เจ๋ง]
ใครมีกล้องส่องความเค็ม (Reflextometer) ใช้กันบ้าง มันสะดวกสบายใช่มั๊ยครับ แถมหน้าตามันดูทนทานอีกด้วย แล้ว ใช้ไปนานๆ เคยห่วงมันพังกันบ้างมั๊ยครับ อย่างน้อยก็สนิมกับขี้เกลือ อย่างมากก็เลขเบี้ยวเอียง มีฝุ่นขยะเกาะข้างในเลนส์ อย่างร้ายแรงก็แตก ข้อหลังสุด ซื้อใหม่ไปเลย แก้ไม่ไหว
เราเริ่มทำความสะอาดกันเลยครับ
อันดับแรกก็เตรียมอุปกรณ์และความพร้อม
1. กล้องส่องที่ซื้อมาจะมีไขควงครอบจักรวาลมาให้ 1 ตัวขนาดจิ๋ว ไว้ใช้ปรับความถูกต้อง (calibrate) ระวังหาย นี่ของสำคัญ ระวังบิ่น ให้ดีไปหาซื้อขนาดเท่าๆกันแบบแข็งๆ และด้ามโตมาไว้ติดบ้านก็ดีครับ
2. cotton bud ถ้าได้หัวเล็ก หัวแหลมจะดีมาก
3. แอลกอฮอล์ ใช้ทำละลายคราบต่างๆ และใช้ไล่ความชื้นได้บ้าง
4. กระดาษชำระเอนกประสงค์ ให้ใช้แบบนี้ เพราะจะไม่มีเยื่อกระดาษตกหล่นให้รำคาญใจ
5. จาระบี หรือซิลิโคนเกรซ
6. กระดาษเช็ดเลนส์และน้ำยาเช็ดเลนส์ หาซื้อได้จากร้านถ่ายรูป (ระวังของแพงหูตูบ) และศึกษาภันฑ์ (หายากหน่อย)
7. ลูกยางเป่าลม แบบที่ใช้เป่าเลนส์กล้องถ่ายรูป
8. น้ำมันเอนกประสงค์ โซแนก WD-40 หรือป้าเช็ง ก็เลือกเอา
9. กล่องดูดความชื้น (กล่องพลาสติกสูญญากาศ + ซิลิก้าเจล)
อุปกรณ์พร้อม เริ่มทำความสะอาด [on_060]
จับคอกล้องตรงที่เป็นห่วง ติดกับแผ่นปิดใสๆให้แน่น แล้วจับคอส่วนยางสีดำ บิดทวนเข็มเลยครับ จะหมุนออกจากกันได้ เช่นนี้
จากนั้นลงมือทำความสะอาดคราบสนิมและตะกรันก่อนครับ
จะเห็นคราบในเกลียวนี้เยอะเป็นพิเศษ เพราะเดิมจากบริษัท จะเคลือบด้วยซิลิโคนเกรซมาก่อนครับ ให้ใช้สำลีก้านชุบแอลกอฮอล์หมาดๆ เช็ดๆๆๆๆๆๆๆๆ ออกให้หมดเกลี้ยงเกลา จุดนี้สำคัญครับเพราะเป็นจุดเสี่ยงน้ำเข้าปริซึมและเกลือจะทำให้สนิมกรังครับ ก่อนทำความสะอาด อ่านข้อต่อไปก่อนนะครับ
จุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
ในวงกลมทั้ง2
A คือ น๊อตยึดก้านสปริง ถ่างคอกระบอกแสง ไม่ต้องยุ่งเลยครับเดี๋ยวงานเข้า กระบอกรับแสงนี้จะใช้ปรับความสะว่างของกล้อง เราไม่ต้องยุ่งเขาตั้งมาดีแล้ว และขอบอกว่าใส่กลับที่เดิมยากนะครับ ไม่ได้องศาเดี๋ยวหน้ามืดนะครับ น็อตตัวนี้ สำลีชอบเกี่ยวติด เอาออกด้วยครับ [on_063]
B คือ รูกระบอกแสง มันตรงมาจากปริซึมเลยครับ จุดนี้ระวังแอลกอฮอล์ น้ำ หรือฝุ่น หลุดเข้าไปให้มากๆครับ เพราะปริซึมมีคราบ หรือเสียหาย เกิดรอย ส่งศูนย์ เสียตังค์อีกครับ ถ้าทำเองก็ต้องชำนาญหน่อย ขอไม่อธิบายใครอยากรู้ ลองเสี่ยงดู [on_026]
อีกฝั่งที่เป็นยางและพลาสติกก็ทำความสะอาดเช่นเดียวกัน จบขั้นตอนทำความสะอาดถ้าเป็นไปได้ มีกล่องดูดความชื้น ก็เอาไปดูดความชื้นที่ 50-60% ซักคืนนึงครับ ไม่แนะนำให้ดูดความชื้นที่ต่ำกว่านี้หรือนานกว่านี้เพราะ เลนส์จะแห้งไป และเลนส์อาจจะมัวได้
มาอีกวันนึง เราก็ทาซิลิโคนเกรซคืนไป ถ้าไม่มี จาระบีก็ยังดีวะ ทาไปทั่วๆ ระวังจุด A B ที่บอกและทาให้ไม่บางหรือหนาเกินไปครับ เอาแค่พอติดทั่วเกลียวพอ
จบงานส่วนแรก มาส่วนต่อไป
หน้าตามันดูมีราศี หันมามองที่เลนส์ดีๆ มีคราบอะไรไหม ถ้ามีเดี๋ยวเราจะทำความสะอาดมันด้วยน้ำยาเช็ดเลนส์
ส่วนนี้จะแยกได้ 2 ตอน คือในกรอบสีแดงนั่นท่วนนึง ส่วนนั้น ถอดได้และถ้ามีปัญหา ตัวเลขกับระดับน้ำเวลาส่องมันไม่ใช่ระนาบเดียวกัน เราก็ถอดมาหมุนใส่ให้ตรงได้ แต่ของผม สนิมอลูมิเนียม แดรรรรรก แกะไม่ออกไปแล้วใช้งานนานเกิน หลายมือ
ผมจึงได้แค่ทำความสะอาดเลนส์ใกล้ตาแทน ดึงปลอกยางมันออกมา เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ให้สะอาดฉ่ำจิต แล้วก็ทำความสะอาดเช่นเดียวกันกับที่ตัว body ภายนอกด้วย
เลนส์ใกล้ตา จะถอดยากหน่อย จุดนี้ว่างๆ 5-6 เดือน หมั่นมาคลายเกลียวน็อต แตะน้ำมันเอนกประสงค์บ้างก็ดีนะครับ เพราะถ้าสนิมจับแล้วจะทำความสะอาดจุดนี้ยากมาก ถ้าสนิมติด ใช้น้ำมันเอนกประสงค์ชุบสำลีก้าน แตะๆ ไปเรื่อยๆ ก็จะแกะออกครับ คลายออกมาทำความสะอาดน็อตให้หมด เช็ดแห้ง รอไว้ก่อน
แกะส่วนนี้ออกมาวางไว้ จะเห็นคราบโสโครก อ๊ะ ไม่ใช่ มันคือ คราบจาระบีเก่าครับ
เราเช็ดคราบจาระบีเก่าออกให้หมด ด้วยแอลกอฮอล์ทั้งเกลียวใน และเกลียวนอก
(ย้ำตัวโตๆ ว่า ระวังที่สุด อย่าให้ จาระบี คราบต่างๆ และแอลกอฮอล์ โดนหน้าเลนส์นะครับ ระวังมากๆ เบาๆมือ)
เสร็จแล้ว เอาไปดูดความชื้น ถ้าทำชำนาญก็ดูดไปพร้อมกับเมื่อตอนถอดส่วนแรกเลย จากนั้นเอากระดาษเช็ดเลนส์ออกมา
กระดาษเช็ดเลนส์ซื้อศึกษาภันฑ์ ห่อละ 10 บาทมี 50 แผ่น ซื้อร้านกล้องเจอมา 50-200 บาท ดันยี่ห้อเดียวกันอีก 50 แผ่น มันจะรวยกันไปไหน น้ำยาเช็ดเลนส์ เป็นเคมีควบคุมอาจจะมีขายบางร้านศึกษาภัณฑ์ แต่ร้านกล้องมีแน่เพราะกำไรเยอะ ราคาตั้งแต่ 30 บาท ไปถึง 200 บาทเช่นกัน
หยดน้ำยาลงไปบนกระดาษนะไม่ใช่บนเลนส์ หยดเยอะหน่อยก็ได้ แบบที่ผมใช้หยดเยอะเพราะแอร์แรง ระเหยเร็วมาก พับกระดาษเป็นมุมแหลม แล้วลูบด้วยปลายไปทั่วๆเลนส์ อย่าใช้มือกด [on_023] ดูว่าสะอาดดีไม่มีฝุ่นและใย ก็พอ ทำทั้ง 2 ด้านของเลนส์นะครับ
อัดจาระบีกลับคืนที่เกลียวเช่นเดียวกันและประกอบกลับ ไม่ต้องใส่น้ำมันในน๊อตนะครับ เพราะเดี๋ยวจะเอาไม่ออกในคราวหน้า เน้นแห้งเป็นสำคัญ
ส่วนสุดท้ายที่ถอดได้อีกคือ น๊อต 2 ตัวในรูป (ผมลืมถ่ายรูปไว้) ตัวน๊อตปรับความคมชัดนั้นจะต่อลงไปยังกระบอกแสง เราคลายออกมาหมดเช็ดน้ำมันสะอาดดีแล้วขันกลับลงไป
ส่วนน๊อตที่รัดแผ่นปิดปริซึม คลายออกมาเช็ดๆทำความสะอาดแล้วก็ขันสวมกลับง่ายๆ แต่ดูมุมองศาให้แผ่นปิดประกบขนานกับปริซึมดีๆด้วยนะครับ
วิธีคือ เอากระดาษอเนกประสงค์วางคั่นกลางระหว่างปริซึมกับแผ่นพลาสติก เอานิ้วกดเบาๆให้ติดกันแล้วค่อยขันน๊อตให้แน่นครับจะพอดี
ปัญหาที่มักเกิดกับกล้องส่องเค็มคือ
1. สนิมแดรกก จุดไหนก็ทำความสะอาดตามข้างบน เคลือบด้วยน้ำมันเอนกประสงค์ ok จบง่ายๆ
2. เกิดฝ้า ฝุ่นอ่านเลข ดูระดับไม่ได้ ก็ถอดมาเช็ดเลนส์ตามข้างบน เคลียนะ
3. เกิดรอยบนเลนส์ ไม่รุนแรงแต่อ่านเลขไม่ออก ถอดเลนส์ใกล้ตามาหมุนซะให้มันอยู่พ้นๆเลขที่จะอ่านก็จบ
4. เกิดเกลือ หยดน้ำในกล้องทำให้เกิดฝ้า ถอดมาเช็ดและดูดความชื้น ก็ผ่าน
5. เลขและระดับขีดแสงบอกความเค็มมันไม่ขนานกัน ถอดเลนส์ใกล้ตาส่วนที่ต่อกับด้านจับ ย้อนไปดูข้างบน ในกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงที่ของผมขึ้นสนิมอลูมิเนียมแกะไม่ออกน่ะ แกะตรงนั้นมาค่อยๆหมุนน้อยมากๆจะแก้ได้
6. เส้นแสงปรับ เอียง ตะแคงยังไงก็ไม่คมชัดซักที แสงสว่างพอก็ยังไม่ชัด ให้คลายเกลียวน๊อตปรับความชัดออกมาทำความสะอาดใส่ไปใหม่จะหาย มันอาจจะมีเกลือเกาะหรือสนิม
7. กรณีอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับปริซึม ส่งศูนย์โลด พลาดไปเสียหาย อ่านค่าผิด ไม่ก็เสียไปเลย จะให้ซื้อปริซึมใหม่ไม่คุ้ม ซื้อกล้องใหม่ไปเลยคุ้มกว่า
ภาพห่วย มือถือเก่า แสงน้อยไม่ว่ากันนะครับ [on_007]
หวังว่าที่เขียนมานี้จะมีประโยชน์กับคนเลี้ยงตู้ทะเลบ้างนะครับ ของซื้อมาแพงก็ใช้ให้คุ้มค่าหน่อย ดูแลรักษาซักนิด ใช้กันจนลูกโตไปเลย ขอบคุณครับ
แก้ไขคำตกหล่นให้อ่านรู้เรื่องขึ้นครับ
