หน้าหลัก
ค้นหา
บทความ
คำนวณ
ล๊อกอิน
สมัครสมาชิก
Fri 31/Oct/2025
IMG_9073-n.jpgการจัดตู้ต้นไม้น้ำจากประสบประสบการณ์
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ Aqua.c1ub.net ชุมชนต้นไม้น้ำที่อบอุ่นครับ เรามาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นเราต้องกำหนดก่อนว่าจะจัดตู้ขนาดไหนแล้วตั้งที่ไหน ตั้งบนอะไร หลังจากนั้นเราจึงมองหาสไตล์ที่เราชอบ layoutที่เราต้องการ หลังจากนั้นเราจึงเริ่มหาซื้อของหรืออุปกรณ์ให้ครบตามที่เราต้องการ เมื่อของครบเรียบร้อยแล้วเรามาเริ่มตั้งตู้ต้นไม้น้ำกัน
ขั้นตอนแรกหาตำแหน่งที่ตั้งตู้ให้เหมาะสมในความเป็นจริงแล้วตู้ควรจะตั้งในตำแหน่งที่ไม่ควรโดนแสงแดดและใกล้กับจุดเปลี่ยนถ่ายน้ำ โปร่งโล่งไม่รกทึบ เมื่อได้ตำแหน่งที่เราต้องการเรียบร้อยแล้วนำตู้และขาตั้งตู้จัดวางเข้าตำแหน่งที่เราต้องการ
ขั้นตอนต่อไปเบ็นการปรับระดับของตู้เพื่อให้อยู่ในแนวราบทั้งด้านกว้างและด้านลึก โดยใช้อุปกรณ์ในการตั้งระดับคือ ระดับน้ำ ตัวอย่างดังรูป
สาเหตุที่ต้องตั้งระดับน้ำเพื่อป้องกันระดับน้ำภายในตู้ไม่เท่ากัน จะมีผลทำให้น้ำหนักของตู้เทไปด้านใดด้านหนึ่ง อาจทำให้ตู้แตกราวได้
ขั้นตอนต่อไปนำดินที่จะใช้จัดตู้เทลงในตู้และจากนั้นนำหินหรือขอนไม้ที่จะมาจัด layout ทดลองวางและจัดตำแหน่งตามต้องการดูก่อนตัวอย่างดังรูป
จะเห็นได้ว่ารูปแบบคร่าวๆในการจัดวางตรงตามที่เราต้องการหรือไม่ ในขณะนี้เรายังสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งของหินหรือขอนไม้ที่เราไม่ต้องการให้ไปอยู่ในตำแหน่งที่เราต้องการได้ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้เรียบร้อยแล้วให้ถ่ายรูปหรือสเก็ตภาพตำแหน่งของหินและขอนไม้เก็บไว้เพื่อใช้ในการจัด layout จริง จากนั้นให้นำหินและดินออกจากตู้เพื่อทำการจัด layout จริง
ขั้นตอนต่อไปนำแบคทีเรียระบบพื้นที่จัดเตรียมไว้โรยใส่ลงบริเวณพื้นตู้ ปริมาณตามที่ผลิตภัณฑ์นั้นกำหนด ตัวอย่างดังรูป
จากรูปจะเห็นได้ว่าผู้จัดได้โรยแบคทีเรียและอาหารแบคทีเรียผสมกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วแบคทีเรียระบบพื้นนี้สามารถเกิดขึ้นได้เองแต่ต้องใช้เวลามากกว่าปกติ ปัจจุบันนี้จึงมีแบคทีเรียระบบพื้นสำเร็จรูปจำหน่ายอยู่มากมายหลายยี่ห้อ
ขั้นตอนต่อไปนำพัมมิสเทใส่ทับลงบนแบคทีเรีย พัมมิสมีหลายแบบหลายขนาดให้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับขนาดของตู้และยังแบ่งเป็นแบบผสมสารอาหารและปุ๋ยรองพื้นสำเร็จมาในถุง อีกแบบบางท่านอาจจะหาซื้อพัมมิสแล้วมาผสมสารอาหารและปุ๋ยลองพื้นเองก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างดังรูป
ในจังหวะนี้ต้องเข้าใจถึง layout ในธรรมชาติให้มากที่สุดเพราะในความเป็นจริงแล้วหินแต่ละก้อนที่เปรียบสเหมือนภูเขาจะมียอดที่ไม่เท่ากัน เราอาจจะทำการว่าหินบางก้อนก่อนที่จะเกรี่ยพัมมิส ก่อนก้อนหินทั้งหมดที่จะวางตามลงไปครับ ตัวอย่างดังรูป
และต้องหมั่นใจว่าหินที่ตั้งทั้งหมดจะไม่ล้มลงมาเมื่อใส่น้ำเต็มหรือเคลื่อนย้ายตู้ เพราะจากประสบการณ์ตู้ที่ layout จัดด้วยหินเมื่อเติมน้ำเต็มจะทำให้ดินทรุดตัวและหินล้มพังลงมา จึงต้องเช็คความหมั่นคงของหินทุกก้อนที่วางลงในตู้
ขั้นตอนต่อไปเกรี่ยพัมมิสให้ทั่วพื้นตู้ โดยจะเกรี่ยเป็นสโลปหรือไม่สโลปก็ได้ หลังจากนั้นให้เกรี่ยพัมมิสที่ด้านหน้าของตู้เข้าไปด้านในประมาณ 1 cm. ตัวอย่างดังรูป
หลังจากนั้นให้นำดินเม็ดเล็กละเอียด(powder)โรยบริเวณด้านหน้าของตู้ เพื่อไม่ให้เห็นพัมมิสที่มีขนาดแตกต่างกับเม็ดดินและเพื่อความสวยงามเวลาถ่ายภาพ ส่วนความสูงที่โรยแล้วแต่ขนาดของตู้อีกในหนึ่งอาจจะเป็นการบอกความหนาของชั้นดินด้านหน้าตู้ของขนาดตู้นั้นๆด้วยก็ได้ครับ ตัวอย่างดังรูป
หลังจากนั้นเราจะใช้ดินเม็ดที่ใหญ่กว่าโรยทับลงบนพัมมิส การทำลักษณะเช่นนี้จะช่วยสร้างสโลปและมิติให้เกิดขึ้นภายในตู้ อีกอย่างหนึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะดินเม็ดเล็กมีราคาสูงกว่าดินเม็ดใหญ่ ลักษณะของการโรยดินเม็ดใหญ่ให้โรยจากข้างหลังมาข้างหน้าจนถึงรอยต่อระหว่างดินเม็ดเล็กพยายามอย่าให้ดินเม็ดใหญ่กับเม็ดเล็กปนกันนั้นหมายความว่า ถ้าโรยดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราต้องนำดินเม็ดเล็กมาโรยทับทั้งหมดเพื่อให้ดูเป็นเนื้อเดียวกันครับ ตัวอย่างการโรยดินเม็ดใหญ่ดังรูป
หลังจากนั้นแล้วทำการเกรี่ยเม็ดดินให้ด้านหลังเป็นสโลป และนำหินส่วนที่เหลือมาจัดวางให้ได้ตาม layout ที่ต้องการและนำดินเม็ดเล็กส่วนที่เหลือมาเทเสริมและปรับระดับให้ได้ตามต้องการในขั้นตอนนี้จะต้องวางหินให้หมั้นคง มิฉะนั้นเวลาเติมน้ำแล้วดินอาจจะทรุดตัวแล้วก้อนหินอาจจะล้มได้
ในขั้นตอนต่อไปคือขั้นตอนที่ทุกคนจะต้องพึงระวังเสมอ เพราะเป็นการป้องกนดินถล่มหลายท่านอาจจะมีวิธีที่แตกต่างกัน แต่ในการ set ครั้งนี้ผู้จัดได้ใช้ตะแกรงเป็นอุปกรณ์ในการป้องกันดินถล่ม เพราะจากที่ผู้จัดได้ทดลองใช้มานั้นตะแกรงสเตนเลดเป็นวัสดุที่ไม่เป็นสนิมและสามารถให้ออกซิเจนไหลผ่านได้ดี ทำให้รากของต้นไม้มีอ๊อกซิเจนไปหล่อเลี้ยงและยากต่อการเกิดการเน่าของรากต้นไม้ครับ ตัวอย่าง ดังรูป
หลังจากนั้นใช้อุปกรณ์ปรับแต่งหน้าดินให้เรียบสม่ำเสมอและเป็นสโลปตามต้องการ ในขั้นตอนนี้พยายามเกรี่ยให้ดินบริเวณหน้าตู้เสมออยู่ในระนาบเดียวกัน แต่ในตามความเป็นจริงแล้วบางท่านอาจจะทำเป็นเนินหรือสโลปทางซ้ายและขวาตามความต้องการของแต่ละท่านก็ได้ เมื่อเก็บรายระเอียดบริเวณพื้นและตามก้อนหินแต่ละก้อนเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปเป็นการเติมน้ำลงตู้ ขั้นตอนนี้น้ำในตู้จะขุ่นหรือไม่อยู่ที่ความปราณีตในการปล่อยน้ำลงกระแทกดิน มีหลายวิธีที่จะไม่ให้น้ำกระทบกับดินโดยตรง เช่นการใช้ถุงพลาสติกรองหน้าดินหรือการใช้ใยแก้วรองหน้าดินแล้วค่อยเปิดน้ำใส่เบาๆ ตัวอย่าง ดังรูป
เมื่อเติมน้ำเต็มเรียบร้อยแล้วให้นำอุปกรณ์ที่จำเป็น อาทิเช่น ถังกรองประกอบและติดตั้งเพื่อทำการรันน้ำ ในขั้นตอนนี้บางท่านอาจจะทำการปักต้นไม้เลยก็ได้ แต่สำหรับผู้จัดจะรันน้ำไว้ประมาณ 3 วันเพราะเท่าที่เคยพบเมื่อเติมน้ำเสร็จและทำการปักต้นไม้เลยนั้น เวลาปักต้นไม้แล้วถอนฟอร์เซ็บออกมักจะมีเม็ดดินที่ยังไม่อุ่มน้ำลอยตามขึ้นมาด้วยซึ่งจะทำให้เราต้องมาเสียเวลาไล่เม็ดดินตามผิวน้ำให้จมเหมือนเดิม ดังนั้นผู้จัดจึงรันน้ำประมาณ 3 วันเพื่อให้เม็ดดินได้ดูดซับน้ำทุกเม็ดแล้วจึงทำการปักต้นไม้ ตัวอย่างดังรูป
จะเห็นได้ว่าผู้จัดไม่ได้ใช้จำนวนต้นไม้ ที่มากมายหรือหลายชนิด ต้นไม้ส่วนมากจะเป็นไม้พื้นด้านหน้าซึ่งจะเจริญเติบโตช้าและต้องการแสงที่แรง แต่ก็แล้วแต่ความต้องการส่วนบุคคลเพราะทุกขั้นตอนมีวิธีแก้ไขครับ ถ้าเพื่อนๆบางท่านใจร้อนจะปักครั้งเดียวเสร็จเลยก็ได้ครับ แต่จะเหนื่อยหน่อยครับเพราะอัตราการเจริญเติบโตของไม้ข้อด้านหลังกับไม้พื้นหน้าจะแตกต่างกันมากครับ อาจจะต้องตัดแต่งไม้ข้อด้านหลังมากกว่าไม้พื้นหน้าครับ
สำหรับตู้นี้ขนาด 18x9x10 นิ้ว ปริมาณน้ำ 26.55 ลิตร ซึงจัดอยู่ในปรเภท ตู้นาโน จริงๆแล้วตู้ขนาดนี้จัดว่าดูแลยากพอสมควรเพราะค่าต่างๆของน้ำจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอถ้าเทียบกับตู้ที่มีขนาดใหญ่และปริมาณน้ำที่เยอะกว่า สำหรับผู้ที่พึ่งจะเริ่มเลี้ยงใหม่ๆผมแนะนำให้ใช้ตู้ขนาด 24x12x14 นิ้วครับ เพราะอะไร เพราะว่าคุณจะหาอุปกรณ์ต่างๆง่ายและพอดีไม่ขาดไม่เกินซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากครับ เวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำค่าของน้ำก็จะเปลี่ยนแปลงไม่มากครับ
ต่อไปเป็นขั้นตอนการดูแลประจำวันสำหรับตู้ที่จะส่งประกวด ส่วนใหญ่เรามักจะทำการบำรุงรักษาตอนเช้าครับ ในช่วงเช้าเมื่อไฟเริ่มเปิดเราต้องเริ่มทำการถ่ายน้ำอย่างน้อยวันละ 10-20% เป็นอย่างต่ำเพื่อเป็นการกำจัดของเสียภายในตู้ ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนแรกและควรเปิดไฟเป็นระยะเวลาวันละ 4 ชั่วโมงทำเช่นนี้ทุกวันเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือนในช่วงนี้หลายท่านอาจจะพบกับปัญหาการเกิดตะไคร่ภายในตู้ซึ่งปัญหานี้หลายท่านอาจจะตกใจและหาน้ำยาหรือสารเคมีมากำจัดตะไคร่ออก แต่สำหรับผู้จัดแล้วมันคือเรื่องปกติซึ่งผู้จัดจะอาศัยการถ่ายน้ำและดูดตะไคร่ออก เป็นการแก้ปัญหาผู้จัดจะยังไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าตะไคร่ เพราะอาจจะมีผลทำให้การเจริญเติบโตของต้นไม้ในช่วงแรกชะงักได้ แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรในช่วงเดือนแรกและสังเกตว่าไม้พื้นเริ่มมีการเจริญเติบโตเราสามารถฝังปุ๋ยที่พื้นดินได้เพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตและแตกรากยึดผิวดินได้อย่างรวดเร็ว นั้นหมายความว่าเราสามารถเริ่มปล่อยสัตว์น้ำ อาทิเช่น กุ้งเชอรี่หรือกุ้งยามาโตะ เพื่อไปช่วยทำความสะอาดพื้นดินหรือตามใบไม้ ขอนไม้และตามซอกหิน ในจังหวะนี้เราอาจจะให้ปุ๋ยน้ำเพิ่มเข้าไปด้วยเพื่อเสริมสารอาหารให้กับต้นไม้ แต่อย่าลืมถ้าในระบบตู้ยังมีตะไคร่อยู่ห้ามให้ปุ๋ยโดยเด็ดขาด!
ต่อไปในช่วงเดือนที่ 2 ผู้จัดคิดว่าตู้ของทุกท่านน่าจะสมบูรณ์ขึ้น ไม้พื้นแข็งแรงและมีการแตกยอดส่วนไม้กลางตู้และหลังตู้ก็น่าจะมีการเจริญเติบโตพอสมควร ถ้าในเดือนที่ 2 นี้ยังมีปัญหาเรื่องตะไคร่มีวิธีแก้ได้ 2 วิธีคือ ใช้ยาฆ่าตะไคร่หรือกุ้งยามาโตะเท่านั้น! สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำในช่วงเดือนที่ 2 นี้สามารถทำได้ทุกวันในครั้งละปริมาณมากๆ 50-80% สาเหตุเพราะว่าระบบกรองเริ่มจะสเถียรมากขึ้น โดยการทำความสะอาดแต่ละครั้ง ให้ขัดตะไคร่ที่กระจกและตัดแต่งต้นไม้ก่อนที่จะทำการถ่ายน้ำหลังจากนั้นค่อยใส่ปุ๋ยน้ำหรือปุ๋ยฝังตามระยะเวลาที่เจ้าของผลิตภัณฑ์กำหนด และในช่วงนี้การเปิดปิดไฟให้แสงสว่างกับตู้ควรจะอยู่ในช่วง 5,6,7,8 ชั่งโมงไม่ควรเกินจากนี้ บางท่านอาจจะสงสัยว่าแค่เดือนที่ 2 ทำไมถึงมี 7-8 ชั่วโมงสาเหตุเพราะว่าประสบการณ์แต่ละท่านไม่เท่ากัน ท่านที่มีประสบการณ์มากกว่าในช่วงเดือนนี้อาจจะไม่พบกับปัญหาอะไร ก็ทำการเร่งทั้งปุ๋ย,Co2,และแสง เพื่อให้ตู้และต้นไม้สมบูรณ์เร็วขึ้น
ช่วงเดือนที่ 3 จะเรียกได้ว่าเป็นช่วงนาทีทองสำหรับนักเลี้ยงไม้น้ำครับ อัดกันเต็มที่เพื่อให้ต้นไม้สมบูรณ์สุดๆ ช่วงนี้ผู้จัดจะถ่ายน้ำประมาณ 80% ทุกวันครับ บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมถ่ายน้ำเยอะจังสาเหตุเพราะว่าระบบกรองและระบบพื้นปลูกเราเข้าที่แล้วครับ โอกาสตู้ล่มมีน้อยมากครับ และช่วงนี้เช่นกันครับจะมีการตัดแต่งต้นไม้และปักเสริมเข้าไปเพื่อให้กลุ่มต้นไม้ดูแน่ขึ้นครับ เพราะยอดต้นไม้ที่ตัดในตู้จะปรับสภาพน้ำในตู้เราเรียบร้อยแล้วจึงไม่เป็นการยากในการที่จะแตกรากหรือยอดใหม่ครับเมื่อเราปักแซมเข้าไปในกลุ่มเดิมครับ เช่นเดิมครับตัดแต่งไม้พื้น,ไม้กลางตู้,ไม้ข้อด้านหลังและตามด้วยขูดตะไคร่ แล้วค่อยถ่ายน้ำครับพยามดูดบริเวณผิวหน้าของไม้พื้นนะครับเพื่อดูเอาเศษฝุ่นและเศษใบไม้ที่เน่าทิ้งไปครับ หลังจากนั้นค่อยใส่ปุ๋ยน้ำหรือปุ๋ยฝังลงไป อาจจะมีการเพิ่มปริมาณปุ๋ยทั้งหมดนิดหน่อยเพื่อให้เหมาะกับปริมาณของต้นไม้ที่เพิ่มมากขึ้นครับ และ
ชั่วโมงของการเปิดไฟอาจจะเป็น 8-12 ชั่วโมงครับพร้อมกับปริมาณของ co2 ด้วยครับ สำหรับกุ้งยามาโตะไม่ระบุจำนวนนะครับใส่เท่าไรก็ได้ แต่มีข้อกำหนดว่าถ้าเค้าทำภาระกิจเสร็จแล้วต้องนำออกจากตู้ครับ มิฉะนั้นเค้าจะกินยอดต้นไม้แทนตะไคร่ครับ วิธีการนำออกคือใช้อาหารจมน้ำใส่ในกระชอนแล้วกุ้งก็จะเข้ามากินแล้วค่อยตักออกครับ เพราะฉนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะเอากุ้งจำนวนมากๆออกได้อย่างไร เทคนิคง่ายๆครับ
พอเข้าช่วงเดือนที่ 4 แน่นอนครับก่อนส่งตู้เข้าประกวดประมาณ 15 วัน จะต้องมีการเก็บรายละเอียดภายในตู้เพื่อให้ดูออกมาสวยงามและดูเป็นธรรมชาติที่สุดครับ การขูดตะไคร่ที่กระจก,การตัดแต่งไม้พื้น,กลาง,หลัง ตามลำดับ ช่วงนี้แนะนำให้งดการฝังปุ๋ยครับ แต่สำหรับปุ๋ยน้ำยังสามารถให้ได้ตามปกติครับ ซึ่งในช่วงนี้ผู้จัดจะเรียกว่า “สิบวันอันตราย” ครับถ้าพลาดนั้นหมายความว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดจบสิ้นลงครับ เราก็จะมีตู้ไม้ธรรมดาตู้หนึ่ง แต่ถ้าทุกท่านที่ทดลองทำดูแล้วได้ผลผ่านพ้นไปได้ด้วยดีท่านก็จะได้รับสิ่งตอบแทนที่คุ้มค้ากับการอดทนในครั้งนี้
July 2011 Aquascape of the Month:
Thank you Mr. John N. http://www.aquascapingworld.com/
http://www.aquascapingworld.com/forum/aquascape-month/5205-july-2011-aquascape-month-antelope-canyon.html#post52741
ขนาด 18x9x10 นิ้ว อายุ 4.5 เดือน มีอะไรไม่เข้าตาหรือสดุด ดูแล้วไม่ราบรืนแนะนำได้ครับ ผมจะได้ไปแก้ไขครับ ขอบคุณมากครับ
[แลบลิ้นแอ๊บแบ๊ว] แปลงร่าง
Mammoth Tank
Concept ของตู้นี้เมื่อพูดถึง"ช้างแมมมอส" ทุกท่านคงจะนึกถึงช้างที่มีขนยาวและงายาว บรรยากาศป่าดึกดำบรรพ์ ซึ่งมีต้นไม้รกทึบและมีมอสเกาะอยู่ตามกิ่งไม้ ยอดไม้เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่มาของตู้นี้ครับ
Landscaper Shop.
1-10-2011
รูปแรกนั่งงงอยู่นานจะลงอะไรก่อนดีน้า เอาก้อนกลางก่อนเลยค่อยๆกดลงอย่างบรรจงเอียงนิดหน่อยเอาด้านสวยออกหรอกกรรมการ [on_003]
รูปสองหินก็ได้มาแค่สามโลขอนมีสองขอนจับขอนด้านซ้ายลงก่อนเอียงด้านสวยออกเชิดขึ้นเล็กน้อยปลายกิ่งมุ้งหน้าขึ้นเนินให้เหมือนธรรมชาติเข้าไว้ครับ เสร็จแล้วใช้หินก้อนหน้าซ้ายกดทับให้ไม้คงตัว บางคนสงสัยว่าแล้วจะอยู่หรอ [on_026] จากนั้นเราก็หาต้นไม้ชนิดรากแข็งมาปักโคนไม้ครับเพื่อให้รากทำการยึดต่อไปเทคนิคนี้ใช้มาหลายตู้แล้วครับยกไปไม่มีล้มครับ
กระโดดมารูปนี้เลยรูปนี้ด้านขวาครับ ก่อนวางหินให้ดูจังหวะของกิ่งไม้ก่อนครับว่าเลื้อยไปทางไหน วางขอนแล้วสูงไปรึเปล่า ถ้าสูงตัดครับอย่าเสียดาย ตัดให้ความสูงพอดีและแม็ตกับขอนด้านซ้าย กิ่งไหนไม่ควรมีตัดทิ้งครับ เสร็จแล้วเลือกหินก้อนหน้าและก้อนหลังวางแล้วกิ่งไม้ลงพุ้งมาด้านหน้าพอดีครับ การวางขอนไม่ควรวางเสมอกันควรจะมีขอนนึงมาข้างหน้าอีกขอนเยื้องไปด้านหลังผมว่าดูธรรมชาติดีครับ
พอถึงตอนนี้ตู้นี้เสร็จไป 40% ที่เหลือคือการจัดต้นไม้ลงครับ layout ผสมเช่นนี้ผมชอบใช้ไม้เขียวเป็นหลักครับ เช่น มอส,หรือไม้ใบเล็กและละเอียดครับ เด๋วลงไม้เสร็จเรามาคุยกันต่อครับ ที่ผมเขียนมาทั้งหมดเป็นความคิดส่วนตัวของผมนะครับ ผมเองก็ยังไม่ทราบว่าตู้นี้มันจะไปแนวไหนครับ ้hahaha เราก็ตามไปพร้อมๆกันครับ
จบเส้นทางของ Mammoth Tank เพียงเท่านี้ครับ ขอผิดพลาดต่างที่ผมได้เรียนรู้ผมต้องนำกลับไปแก้ไขในตู้ต่อไปครับ ติดตาม layout ที่สามโดยไม่ต้องรื้อตู้ครับ แล้วจะมาอัปให้ชมกันครับ
ขอบคุณครับ
landscaper.
