คิดเองทำเอง : ประยุกต์ขวดน้ำ "ดักกุ้ง" สิ่งประดิษฐ์ฝีมือชาวบ้าน
คนเราหากมีความขยันขันแข็ง และมีความคิดสร้างสรรค์เชื่อว่าชีวิตนี้คงไม่อดตายแน่ อย่างกรณีของสามีภรรยาแห่งเมืองละโว้ สมศักดิ์ กับ นงลักษณ์ สาริสิทธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 81/1 หมู่ 6 ต.โพนทอง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี นำขวดน้ำดื่มพลาสติกที่ทิ้งกันเกลื่อนเมือง
แต่สามีภรรยาคู่นี้กลับนำมาทำประโยชน์ในการทำที่ดักกุ้งฝอย โดยดัดแปลงเป็น "เครื่องมือดักกุ้งฝอย" ในคลองจำหน่าย สร้างรายได้เข้ากระเป๋าทุกวันไม่ต่ำกว่าวันละ 300-500 บาท ยิ่งช่วงน้ำหลากปริมาณกุ้งฝอยก็มากขึ้น รายได้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ทุกวันหากใครผ่านไปแถวๆ คลองชลประทานบ้านหมี่-ลพบุรี คงเห็นสามีภรรยาขับรถสามล้อแดง หรือซาเล้ง ขับลัดเลาะไปตามคลองพร้อมกับเครื่องมือดักกุ้งฝอยที่ดัดแปลงมาจากขวดน้ำดื่ม
สมศักดิ์ เล่าว่า เคยทำงานอยู่โรงงานปูนซีเมนต์และลาออก แรกๆ ไม่รู้ว่าจะทำมาหากินอะไร เพราะอายุมากแล้ว กระทั่งสังเกตเห็นขวดน้ำพลาสติกที่ดื่มกันแล้วนำมาทิ้ง จึงนำมาดัดแปลงให้เป็นเหมือน "ด้วง" ที่ดักสัตว์ โดยการตัดก้นขวดออกแล้วนำมุ้งเขียวเย็บเป็นถุงหุ้มขวดไว้ แต่ให้ยาวกว่าขวด จากนั้นใช้ไม้ไผ่ทำเป็นด้ามเหลาให้แหลมยาวใช้ลวดผูกกับขวดพลาสติกเท่านี้ก็เรียบร้อย
การใช้งานนั้น ผมนำเครื่องมือดักกุ้งฝอยประมาณ 200 อัน ไปปักชายตลิ่งริมคลองชลประทานบ้านหมี่-ลพบุรี โดยใช้รำข้าวผสมข้าวสุก ปั้นให้เป็นลูกกลมๆ พอใส่ในปากขวดพลาสติกได้ กุ้งฝอยจะเข้าไปในขวดแล้วจะลงไปกินรำข้าวที่อยู่ในมุ้งเขียวที่ทำเป็นถุงยาว แล้วกุ้งก็จะไม่ออกทางปากขวด มันจะติดอยู่ในขวด จากนั้นจะไปกู้และนำเอากุ้งออกไปขาย ซึ่งเฉลี่ยแล้วได้วันละประมาณ 3-5 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 100 บาท สมศักดิ์ กล่าว
สมศักดิ์ เล่าอีกว่า ในแต่ละวันจะดักกุ้งฝอย 2 ครั้ง คือ ช่วง 15.00 น. จากนั้นจะมาเก็บกุ้งช่วงประมาณ 18.00 น. และจะดักอีกครั้งในเวลา 19.00 น. แล้วมากู้ตอนเช้า กุ้งจะติดดีตอนน้ำหลาก และเข้าสู่ฤดูหนาว ดักกุ้งฝอยขายมาแล้ว 2 ปีกว่า ถือว่ารายได้ดีมาก
ด้าน นงลักษณ์ บอกว่า คอยดูแลเมื่อสมศักดิ์นำเครื่องดักกุ้งฝอยขึ้นจากน้ำ แล้วจะเทลงในถังโฟม กุ้งฝอยที่ดักขึ้นมาได้ขายดีมากราคากิโลกรัมละ 100 บาท ไม่ต้องไปหาตลาด แต่ขายให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณนั้น ซึ่งจะแวะเข้ามาขอซื้อ บางคนก็ซื้อเป็นกิโลกรัม บางคนก็ซื้อเพียงครึ่งกิโล กรัม หรือ 3 ขีด 2 ขีด เพื่อนำไปชุบแป้งทอด หรือนำไปพล่าทำกุ้งเต้น เพราะน้ำในคลองชลประทานสะอาด และกุ้งที่ได้มาสะอาด ตัวใหญ่ทำให้ขายได้ราคา
ในแต่ละวันจะมีรายได้วันละ 300-500 บาท โดยเฉลี่ยพอกินสำหรับสองคนเหลือก็เก็บไว้ ที่ทำก็เพื่อให้มีรายได้เข้าบ้าน ส่วนการลงทุนทำเครื่องดักกุ้งครั้งแรกไม่มากนัก และขวดก็ไปเก็บของเหลือใช้มา เวลาไปดักกุ้งฝอยเห็นเขาดื่มน้ำแล้วทิ้งจะเก็บมาไว้เพื่อซ่อมแซมที่บางอันชำรุด เครื่องมือดักกุ้งดัดแปลงมาจากด้วงดักสัตว์ แต่สามารถดักกุ้งได้วันละหลายกิโลกรัม หรือบางวันหากกุ้งติดดีๆ อาจจะถึง 5-7 กิโลกรัม" นงลักษณ์ กล่าว
สามีภรรยา บอกอีกว่า การออกมาดักกุ้งฝอยขายไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรมาก เพราะขี่รถสามล้อแดงหรือซาเล้ง ออกจากบ้าน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากคลองชลประทาน บางวันก็จะขึ้น ไปทางเหนือของคลองชลประทาน บางวันก็จะล่องตามน้ำของคลองชลประทาน ไปไม่ไกลเพียง 4-5 กิโลเมตรเท่านั้น
นับว่าน่าชื่นชมครอบครัวสาริสิทธิ์ ที่รู้จักประยุกต์สิ่งเหลือใช้สร้างประโยชน์เพิ่มรายได้เลี้ยงชีพในระดับที่น่าพอใจทีเดียว
ที่มา : บายไลน์ - สรศักดิ์ ทับทิมพราย
|